[SF] Silver Wolf (NiorB)
Silver Wolf
JINB
(เรื่องขนานกับ
PET HUMAN ของคู่ MARKSON นะคะ
ถ้าไม่อ่านเรื่องนั้นจะงงนิดๆนะคะ
แนะนำให้อ่านก่อนจ้า)
เขายังจำวันนั้นได้ดี แม้มันจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม
ทันทีที่แสงแรงของชีวิตลอดผ่านเข้ามาในดวงตา เขาก็ได้ยินเสียง...
“สวัสดี
เจบี”
น้ำเสียงทุ้มหวาน มาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
สายตาที่มองจากเบื้องบนทั้งลึกลับและยากจะหยั่งถึง
ตอนที่นิ้วเรียวสะอาดสะอ้านเชยคางผมขึ้น ผมเอาแต่มองหน้าเขานิ่งๆอย่างไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดอะไร
เขาสวมวงโลหะสีเงินให้ผม
แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ...ว่าผมคือใคร?...
“ฉันคือเจ้านายของนาย”
เขาบอกผมแบบนั้น...
เจ้านายของผม...จินยอง
เปลือกตานวลกระพริบปริบ
ปรับรูม่านตาให้ชินกับแสงที่ลอดผ่านม่านเข้ามาในห้อง ฟูกนุ่มอย่างดีรองรับร่างเขาตลอดทั้งคืนอุ่นสบายจนไม่อยากจะขยับไปไหน
ผ้าห่มหนาป้องกันความหนาวจากฤดูหนาว สองแขนยันตัวเองขึ้นนั่ง
ดึงเสื้อคอกว้างที่ตกลงไหล่ขึ้นมาสวมดีๆ สองหูบนหัวไม่กระดิก
ไม่ได้ยินเสียงใดๆในห้อง
เจ้านายของเขาไปทำงานแล้วสินะ
เจบีพยักหน้ากับตัวเอง เจ้านายของเขาไม่มีงานเป็นประจำหรอก
เปลี่ยนงานไปเรื่อยๆแล้วแต่ว่าช่วงนั้นอยากทำอาชีพอะไร
เพราะฉะนั้นเลยไม่รู้ว่าวันไหนจะตื่นมาเจอหรือไม่เจออยู่ในห้อง
Pet Human มนุษย์ลูกครึ่งสัตว์พันธ์สังเคราะห์
ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงให้เหล่าผู้รากมากดี เจบีเป็นลูกครึ่งหมาป่า หมาป่าสีเงินระดับห้าดาวตัวแรกของโลก
ราคาสูงลิบลิ่วแต่เพราะอย่างนั้น ปาร์ค จินยอง จึงซื้อตัวเจบีมา
หมาป่าสีเงินนั่งอยู่อย่างนั้นเกือบชั่วโมงก็พบว่าตัวเองชักจะทำตัวไร้ประโยชน์เกินไปแล้ว
จึงกระโดดลงจากเตียงเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบใหญ่ แต่งตัวด้วยเสื้อแขนยาวลายทางสีขาวดำและกางเกงยีนขาดสีซีด
เดินเอื่อยออกมามองตัวเองหน้ากระจก
ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มรับกับเส้นผมสีเงินและใบหูแหลมบนหัว ผิวขาวละเอียดเหมาะกับร่างกายแข็งแรงเพรียวลม
พวงหางสีเงินยวงแกว่งไปมาด้านหลัง
และเพราะหางนี่แหละทำให้ผมต้องใส่กางเกงเอวต่ำทุกวัน
นิ้วกร้านแตะลงบนปลอกคอหนังสีดำปักหมุดเงินเรียงกันเป็นคำว่า JB บนลำคอ
มองมันนิ่งๆสักพักก็เดินออกไปที่หน้าประตูลิฟต์
วันนี้เขาไม่โดนจินยองทำโทษดังนั้นจึงมีอิสระจะเดินโฉบไปไหนมาไหนได้ตามปกติ
ถ้าวันไหนที่จินยองไม่อยู่ห้องเขาจะต้องลงไปหาอะไรทานที่ชั้นอาหารด้านล่างรวมกับพวกคนใช้
แต่เพราะนี่ก็สายมากแล้ว ชั้นสำหรับคนที่ทำงานให้ตระกูลปาร์คคงปิดแล้ว
ดังนั้นจึงต้องลงไปทานกับพวกพนักงานที่ชั้นเกือบล่างสุดแทน
ลิฟต์สีทองจอดอยู่ที่ชั้น 138
จากนั้นผมก็ต้องย้ายลิฟท์เพื่อลงไปที่ชั้น 130
และต้องย้ายลิฟต์อีกทีเพื่อลงไปยังชั้น 100
ซึ่งเป็นชั้นศูนย์อาหารของอาคารแห่งนี้สำหรับพนักงานทั่วไป
อาคารปาร์คอิมเพอเรอร์ แบ่งเป็นสามระดับใหญ่ๆ ชั้นใต้ดินถึงชั้นที่
129 เป็นชั้นสำหรับพนักงานของที่ทำการบริษัทต่างๆซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลปาร์ค
ตั้งแต่ชั้นที่ 130-137 คือชั้นที่เอาไว้ให้เหล่าคนรับใช้ของตระกูลปาร์คได้อยู่อาศัย
ชั้นที่ 138-140 คือบ้านของปาร์คจินยอง และมีแค่ชั้น 140
เท่านั้นที่ถือเป็นชั้นต้องห้ามที่มีปาร์คจินยอง เจบีและหัวหน้าพ่อบ้านเท่านั้นที่จะขึ้นมาได้
เพราะเจบีอยู่ในฐานะสัตว์เลี้ยงของจินยอง
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกทั้งที่อยู่แค่ชั้น 120
เจบีก็ย้ายตัวเองไปมุมลิฟต์
จับหมวกฮูตขึ้นมาสวมปิดใบหูใหญ่บนหัวและหยิบสายหูฟังมาสวมปล่อยให้เสียงเพลงกลบเสียงอื่นใดรอบตัวเอง
รับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามาในลิฟต์เพิ่ม เผลอหยีจมูกเล็กน้อยกับกลิ่นน้ำหอมฉุนจมูก
เจบีเป็นหมาป่า ทั้งประสาทการรับกลิ่น การได้ยิน
รวมถึงสายตาจึงดีกว่าสัตว์ประเภทอื่นๆ ไม่นับไปถึงสัญชาติญาตินักล่าที่อาจถูกกระตุ้นขึ้นได้ง่ายๆหากมีตัวแปรร่วม
ดังนั้นเจบีจึงชอบอยู่เพียงลำพังเพียงเพราะไม่ต้องการจะทำร้ายใครโดยไม่จำเป็น
เมื่อถึงชั้นที่ต้องการก็แหวกฝูงชนออกมา
พวงหางสีเงินสะบัดโดนใครเข้าเขาก็ไม่รู้ล่ะ เจบีไม่สนอยู่แล้วถ้าไม่ใช่เจ้านายตัวเอง
รู้ดีว่าการปรากฏตัวด้วยการสวมใส่ชุดลำลองง่ายๆและพวงหางสีเงินเบ้อเริ่มเป็นจุดสนใจขนาดไหน
ทั้งสายตาและอากัปกริยาจุ่มหัวนินทากันน่ะ เขารู้ทั้งนั้นแหละ
เพราะไม่อยากไปเผชิญหน้ากับใครจึงเลือกกดอาหารจานด่วนในตู้อัตโนมัติ
เสียบบัตรสีทองที่มีเพียงตัวเจประดับอยู่ตรงกลางเข้าไป กดเลือกชุดอาหารง่ายๆธรรมดาๆอย่างชุดไก่ทอดมาชุดหนึ่ง
แต่พอจะกดตกลงก็ชะงัก กลับไปหน้าเมนูแล้วกดเครื่องหมาย +
เพิ่มจำนวนชิ้นไก่ขึ้นอีกสามชิ้น รอไม่ถึงนาทีฝาตู้ก็เปิดออก กลิ่นไก่ทอดหอมๆลอยกระทบจมูก
สูดเข้าเต็มปอด อมยิ้มมีความสุข ยกถาดสีแดงไปหาที่นั่งว่างๆ
กำลังจะนั่งลงก็มีมืออวบๆฟาดโต๊ะดังปั๊บใหญ่
“เพทมานั่งโต๊ะกับคนไม่ได้ ไสหัวไป!!”น้ำเสียงสั้นห้วนพูดกับเขา เจบีมองผ่านไหล่อีกฝ่ายไปก็เห็นลูกครึ่งกระต่ายถูกล่ามโซ่ยืนอยู่ด้านหลัง
ดูจากลักษณะคงแค่สามดาว ตามเนื้อตัวมีร่องรอยการโดนทารุณอยู่ประปราย
เมื่อหันกลับมามองเจ้านายของเธอก็ไม่แปลกใจสักนิด
เจบีไม่กล่าวอะไรกลับไป เพียงแค่ยกถาดขึ้นเพื่อจะไปหาโต๊ะใหม่
อีกฝ่ายกลับยิ่งได้ใจพูดต่อ
“เพทซื้ออาหารเองเนี่ยนะ ขโมยมาล่ะสิ วางมันไว้แล้วไปไกลๆสายตาฉันเดี๋ยวนี้”
“...”
“สาบกลิ่นสัตว์ว่ะ”
“...”
เจบีไม่เจ็บหรอก ไม่รู้สึกอะไรเลย...เพราะเขาถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้อยู่แล้ว
ดังนั้นจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดต่อการดูถูกดูแคลน ได้แต่คิดในใจว่าไล่เขาไปไม่ใช่เหรอ
แล้วจะมาพูดนั่นนี่เสียเวลาทำไมกัน ถึงจะเสียดายไก่ทอดหอมๆบนโต๊ะ
แต่ถ้าจะให้สู้ก็เกรงว่าคนที่จะโดนเขาทำร้ายจริงๆคงจะเป็นกระต่ายสาวด้านหลังนั่นต่างหาก
ในขณะที่คิดว่ากำลังจะทำยังไงถึงจะออกไปจากตรงนี้ได้ เสียงทุ้มอบอุ่นก็เอ่ยขึ้นด้านหลังเขา
“อยู่ที่นี่เอง”
เจบีหันกลับไปมองเฉยๆ
ในขณะที่บรรยากาศโดยรอบเหมือนหยุดหายใจกับไปชั่วขณะกับการปรากฏตัวของคนตรงหน้า
“ตื่นสายเลยลงมาที่นี่เหรอ”
จินยองอยู่ในชุดสูทสีเทาเข้ม เรือนผมนุ่มปาดขึ้น
รอยยิ้มอบอุ่นยังประดับอยู่บนใบหน้าเฉกเช่นเคย แต่บรรยากาศรอบๆตัวเจ้านายเขากลับดูขมุกขมัวเล็กน้อย
“เราคิดว่านายไปทำงาน”เจบีหันกลับไปตอบคำถามเต็มตัว
จินยองชอบให้เขามองหน้าเต็มๆเวลาตอบคำถาม
“ไม่หรอก เบื่อน่ะ แค่ลงมาเซ็นงานต่อสัญญานิดหน่อย
แล้ว...มีอะไรกันเหรอ?”จินยองถามยิ้มๆ
เจบีไม่ตอบเพราะรู้ว่าจินยองรู้เรื่องทั้งหมดดีอยู่แล้ว
ก็เหมือนอย่างเคยๆ...
“ไม่มีอะไรหรอก เราแค่ลงมากินไก่”
พอเจบีพูดถึงไก่ คุณเจ้าของก็หัวเราะราวกับมันเป็นเรื่องน่าเอ็นดู
มองเขาด้วยสายตาราวกับมองเด็กสามขวบ ซึ่งเจบีไม่เข้าใจ
ว่าทำไมจินยองถึงต้องมองเขาแบบนั้นด้วย
“นายนี่น้า~”
จินยองพูดแค่นั้นแล้วเดินไปนั่งโต๊ะที่เกือบโดนแย่งที่ไปเมื่อกี้
เจบีนั่งลงอีกข้าง ลงมือทานไก่ทอดของโปรดตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย
เหลือบมองเจ้านายตัวเองที่นั่งมองเขาเฉยๆก็แปลกใจ
“นายไม่กินเหรอ?”
“กินมาแล้ว”จินยองตอบส่งๆ สายตาไม่ได้อยู่ที่เขาแต่มองเลยออกไป
ซึ่งเจบีรู้ว่าจินยองคิดกำลังจะทำอะไร
“จินยอง...กระต่ายน่ะ”
“หืม?”
“กระต่ายที่อยู่กับเขาน่ะ”เจบีไม่พูดแต่อยากให้จินยองเข้าใจเอง
ซึ่งจินยองก็เข้าใจแต่ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะทำตามที่เขาขอ
“ใจดีจังนะ หมาป่าน้อย”
ถึงหมาป่าสีเงินจะไม่ชอบโดนเรียกว่าหมาป่าน้อย
แต่ในเวลานี้การเกลี้ยกล่อมจินยองอาจจะสำคัญกว่า
“แบมแบมเป็นกระต่าย”
จินยองร้องอ๋อเบาๆแล้วเงียบไป แต่เจบีรู้ว่าจินยองเข้าใจแล้ว…
พอทานไก่เสร็จ เจบีก็เหลือบไปเห็นกลุ่มชายชุดดำเดินไปที่โต๊ะของชายคนนั้น
เสียงโวยวายเริ่มดังขึ้น จินยองจับข้อมือเขาลากให้เดินเข้าไปในลิฟต์
ทันทีที่ประตูปิด เจบีก็จับเสื้อคลุมออกจากหัว ใบหูใหญ่กระดิกไปมาสองสามทีเมื่อยๆ
มือของจินยองที่เมื่อกี้อยู่ข้อมือก็เข้ามาคล้องบ่าเขาไว้
ฝ่ามือร้อนลูบหน้าอกใต้เสื้อแขนยาว
นิ้วโป้งปัดผ่านจุดกลางหน้าอกอย่างต้องการจะหยอกล้อ
“ขอร้องฉันแบบนี้หวังว่าจะมีรางวัลดีๆเตรียมไว้นะเจบี”
สแตนเลสทรงเหลี่ยมเย็นจัดกระทบก้นแก้วทรงโค้งตามมาด้วยของเหลวสีอำพันปริ่มขอบโลหะ
มือสวยหยิบก้านแก้วขยับไปมา เอนกายพิงหลังกับหัวเตียง มองภาพตรงหน้าด้วยความเพลิดเพลิน
“ไหวไหม หมาป่าน้อย”
เสียงโลหะกระทบกันเป็นคำตอบที่ชัดเจนจนจินยองหัวเราะในลำคอ
แต่ไม่มีท่าทีจะทำอะไรเสียที
โลหะเย็นเฉียบพันธนาการข้อมือแกร่งทั้งสอง สายโซ่สั้นๆพาดระหว่างราวเตียงขึงร่างของหมาป่าสีเงินห้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก
เรือนร่างแข็งแรงและผิวขาวสะอาดดูน่าหลงใหลเมื่อโดนแสงจากภายนอกโลมไล้เห็นลายเนื้อราวกับงานศิลปะชิ้นเลิศ
ต้นขาเพรียวสั่นริกเพราะน้ำหนักของร่างกายที่ต้องรองรับไว้ด้วยแค่การเข่าบนขอบปลายเตียงอย่างหมิ่นเหม่เป็นเวลานานมากกว่าชั่วโมง
พวงหางสีเงินทิ้งดิ่ง ไม่ใช่เพราะความรู้สึกของเจบีแต่เพราะตุ้มน้ำหนักรัดตรงกลางหางนั่นต่างหาก
ใบหน้าหล่อเหลาปิดทับด้วยทั้งผ้าคาดตาและสายบอลปิดปากไม่ให้ปากเรียวได้เอ่ยคำใดได้โต้แย้ง
มีเพียงใบหูใหญ่ที่ลู่ติดเส้นผมสีเงินเปียกชุ่มและส่วนกลางลำตัวที่ตื่นตัวขึ้นมาสักพักหนึ่งแล้วที่เป็นตัวแสดงอารมณ์ได้
สิ่งนี้คือบทลงโทษของจินยอง ในฐานะที่ทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มหงุดหงิดและต้องลงมือจัดการสิ่งขวางหูขวางตาในตึกของตัวเอง
ซึ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตกลงตรรกะของจินยองแปลกหรือเพราะอยากทำตามรสนิยมตัวเองกันแน่
“กระหายไหม? เจบี”ถามด้วยน้ำเสียงปนขบขัน ยันตัวขึ้นนั่งพลางกระดกแอลกอฮอล์ในแก้วหมดอึกเดียว
เหลือเพียงก้อนสแตนเลสเย็นเฉียบเหลือไว้ นิ้วเรียวคีบมันขึ้นมา
จูบเบาๆก่อนจะใช้มันเคลื่อนไปตามผิวกายละเอียด
เจบีสะดุ้งโหยงบิดร่างหนีความเย็นจัดชวนขนลุก ใบหูใหญ่ดีดผึ่ง
เสียงครางในลำคอไม่สามารถดังออกมาถึงภายนอก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะอึดอัดขนาดไหน จินยองจับเอวสอบไว้กันไม่ให้เจ้าหมาป่าในปกครองขยับหนี
เลื่อนก้อนเย็นนั้นลงมาลูบตรงหน้าท้อง วนรอบสะดือสวยสองสามรอบ
เจบีกำนิ้วแน่นจนแทบจะทะลุฝ่ามือ
กระชากข้อมือไปมาแต่ก็ไม่สามารถหลุดจากกุญแจข้อมือที่สร้างมาเพื่อกักขังพวก Pet Humanประเภทช้างได้
ได้แต่บิดกายห่อตัวไม่ให้ความเย็นเยียบนั้นโดนตัวเองให้มากที่สุด
จินยองมองแล้วก็เกิดเบื่อขึ้นมาเสียเฉยๆ จึงลุกขึ้นปลดลูกบอลออก
หมาป่าสีเงินไอค่อกแค่กก่อนจะกัดปากกลั้นเสียงครางจากการโดนโลมเล้ากลางลำตัว ผู้เป็นนายคุกเข่ากับเตียงจู่โจมสันกรามสวยไล่ลงมาที่ไหปลาร้าลึก
ไล้เลียดูดดึงจางๆทิ้งร่องรอยและความร้อนผ่าวไว้ตลอดเส้นทาง
มือบนเอวสอบสัมผัสนวดไปทั่วร่างแข็งแรง รวมไปถึงบั้นท้ายและต้นขาเพรียวสวยด้วย
“จิน...อือ! จินยอง”
“ว่าไง?”คนเป็นเจ้านายตอบรับง่ายๆ
มือก็ยังสนุกกับการกระทำต่างๆบนตัวหมาป่าในปกครอง
“เราเมื่อยแล้ว”
“หืม?”จินยองเงยหน้ามองคนพูดทันที “ตอบน่ารักๆก็เป็นเหรอเราน่ะ”
“เราไม่ได้น่ารัก!”ถึงจะตกเป็นเบี้ยล่างขนาดไหน นิสัยดื้อรั้นเอาชนะนี่ขอให้บอก
แต่เพราะมองไม่เห็นเลยไม่รู้ว่าจินยองกำลังทำอะไร
หลังจากพูดคำนั้นไปชายหนุ่มก็หยุดสัมผัสร่างเขา แต่กลิ่นและเสียงที่ได้ยินก็ยังไม่ได้หายไปไหน
รอสักพักถึงรู้ว่าจินยองกำลังทำอะไร
“ยังกลางวันอยู่เลยนะ”เจบีรีบท้วงหลังได้ยินจินยองรูดซิบ
“แล้วยังไง?”จินยองบอกง่ายๆ จับสะโพกเพรียวให้ย่อลงมา
ริมฝีปากร้อนแนบกับหน้าท้องที่ปรากฏกล้ามสวยทุกครั้งที่เจบีเกร็งตัวแน่น ในครั้งนี้ก็เช่นกัน...
“ไม่มีกลางวันหรือกลางคืนสำหรับเราหรอกนะ”
เจบีกัดปากกลั้นเสียงร้องทันทีที่ส่วนนั้นรุกล้ำเข้ามาจากด้านล่าง น้ำหล่อลื่นเย็นๆช่วยให้ชายหนุ่มเข้ามาได้เพียงเล็กน้อยและก็ค้างไว้แค่ครึ่งลำ
แค่นั้นหมาป่าหนุ่มก็อึดอัดจะบ้า หอบหายใจรวบรวมสติ
เพราะมองไม่เห็นเลยได้แต่ใช้การรับรู้ด้านอื่นช่วยประเมินว่าตอนนี้ตัวเองควรจะทำอย่างไรต่อ
จินยองนิ่ง ไม่ป้อนคำสั่ง เงียบไปเสียเฉยๆ
แต่สำหรับเจบี มันเป็นคำสั่งชนิดเงียบอีกอย่างที่ได้เรียนรู้ตลอดเวลาที่อยู่กับเจ้านายผู้เข้าใจยากคนนี้
สุดท้ายแล้วสะโพกสอบก็ต้องขยับขึ้นลงช้าๆ
โดยมีมือเรียวคอยประคองเอวไว้หลวมๆ
ส่วนแข็งร้อนเกือบหลุดออกจากช่องทางแต่ก็ได้ผลุบเข้าไปใหม่
ช่องทางรัดรึงด้านหลังกระตุกบีบไม่เป็นจังหวะเพราะยังไม่คุ้นชิน
เจบีเม้มปากแน่นไม่ยอมให้เสียงร้องหลุดออกไปแม้ความร้อนรุ่มจะพัดวูบวาบในร่างกาย
จินยองกลืนน้ำลายอึกใหญ่
ขยับสะโพกตัวเองเข้าหาเบาๆไม่ให้เจบีรู้สึกอึดอัดมากนัก
ถึงจะดูใจร้ายแต่จินยองก็ไม่ใช่พวกนิยมให้คู่นอนของตัวเองบาดเจ็บเลือดตกยางออก
ทั้งยังบีบนวดช่วยให้เจ้าหมาป่าสีสวยในปกครองไม่ทรมานมากนัก
เสียงเอี้ยดอ้าดของเตียงนอนดังคลอไปกับเสียงครางต่ำของทั้งสอง
ส่วนร้อนรุ่มผลุบเข้าออกภายในกายของเจ้าหมาป่า ใบหูสีเงินขยับขึ้นลงตามจังหวะ
ในขณะที่พวงหางสวยแกว่งไหวบ่งบอกว่าตอนนี้เจบีกำลังรู้สึกดี สะโพกสอบเคลื่อนวนหาจุดความสุขเชื่องช้า
และมันอาจจะช้าไปในความคิดของจินยอง
“โอ๊ะ”
ดวงตาเรียวกระพริบปริบไม่คุ้นชินกับแสงสว่างที่สาดเข้ามาเสียจนแสบตาเพราะผ้าปิดตาหายไป
เผลอร้องตกใจวูบหนึ่งเพราะจินยองจับสะโพกตนขยับต่อไม่ให้เสียจังหวะจนร่างเสียการควบคุมเอนไปด้านหลัง
เสียงกำไลข้อมือดังกึงดึงแขนเขาไว้ร้าวเจ็บแปลบไปถึงกลางหลัง นิ่วหน้าจนจินยองสังเกตได้
“อ๊ะ”เจบีร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆตัวก็โดนอุ้มยกขึ้น ขาแข็งแรงเกี่ยวรัดสะโพกของผู้เป็นนาย
ส่วนนั้นถลำเข้าลึกอย่างช่วยไม่ได้ เสียงร้องขาดๆหายๆหลุดจากลำคอเพราะจุกในช่องท้อง
เจบีตัวสั่นริกทั้งทรมานและรู้สึกดี
“ขยับสิ ใครบอกให้หยุด”
ดวงตาคมปิดลง สองมือจับราวเตียงเป็นที่ยึด ขย่มบั้นท้ายขึ้นลงต่อกิจกรรมหยุดลงชั่วขณะหนึ่งในจังหวะที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ
เสียงเนื้อกระทบกันและเสียงครางช่างดูหยาบโลนแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ช่างหฤหรรษ์นัก
เนื้อหนังเปลือยเปล่าที่เสียดสี เหงื่อไคลอุ่นที่อาบเนื้อตัว ไอราคะที่ห่อหุ้มรอบกาย
สายตาของทั้งสองสบกันก่อนที่แรงลึกลับบางอย่างได้ดึงดูดริมฝีปากให้ประกบติดกัน
เรียวลิ้นกวาดต้อนดูดรัดพันตูไม่มีใครยอมใคร ฟันกระทบเนื้อ รสจูบคลุ้งกลิ่นเหล็กแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมผละออกจากกัน
“จิน...อ๊ะ จิน”
“ฮืม เจบี เจบีของฉัน”
จินยองกอดเอวสอบ ส่งกายกระแทกกระทั้นส่งแรงอัดฉีดเข้าลึก มันทั้งอุ่นและชุ่มเปียก
เอ่อล้นจนอึดอัด
“จิน...จินยอง เรา...เรายังไม่เสร็จ”
เจบีบอกเสียงสั่นเรียกเจ้านายที่ถอดร่างออกไปทันทีที่เสร็จทั้งที่ส่วนนั้นของเขาเองยังไม่โดนปลดปล่อย
หมาป่าสีเงินบิดเร่าด้วยความต้องการ ต้องการมากกว่านี้ ด้วยร่างกายที่ถูกฝึกมาให้เป็นอย่างนี้
ด้วยตัวจินยองเอง
จินยองนั่งนิ่งสักพักจึงยกมือขึ้น ชี้นิ้วชี้และนิ้วกลางมาด้านหน้า แยกมันออกจากกันเป็นรูปตัววีเป็นสัญลักษณ์ด้วยสีหน้าเจ้าเล่าห์
“แยกขาออกสิ”
ขาเพรียวกางออกตามคำสั่งผู้เป็นนาย ของเหลวสีขุ่นไหลเปรอะลงมาตามต้นขาด้านใน
ดูแล้วอีโรติกอย่างที่คิด ยิ่งเมื่อพุ่มหางพวงใหญ่สีเงินกวัดไกวไปมาตามสะโพกที่บิดเร่าเพราะแรงกำหนัดยังไม่ถูกปลดปล่อย
ยิ่งทำให้เหมือนเจบีกำลังยั่วเขาอยู่กรายๆ
และอีกอย่างที่จินยองเคยบอกเจบีเลยคือ การที่อีกฝ่ายมีเรือนร่างสมชายนั้น
ยิ่งทำให้รู้สึกว่าสามารถน่ารังแกได้เต็มที่ดี...
“จินยอง!”
เจบีผวาเรียกผู้เป็นนายที่ลุกขึ้นจากเตียงไปอย่างสิ้นหวัง
แรงกำหนัดที่พุ่งสูงจนไม่อาจลดลงได้ด้วยการปล่อยไว้เฉยๆ มันไม่ต่างจากเครื่องทรมานนานาชนิดของจินยองเลยสักนิด
แต่ในขณะที่กำลังจะร้องโวยวาย มือเรียวก็โอบเอวเขามาจากด้านหลัง
ริมฝีปากร้อนจูบบนไรผมชื้นเหงื่อ สะโพกผอมแนบกับก้นตอบ จินยองแนบชิดเสียแผ่นหลังติดกับหน้าอกอีกคน
เสียงทุ้มพร่าไปด้วยอารมณ์เอ่ยกับเขาอย่างนุ่มนวล
“เรียกร้องเองนะเจบี อย่าลืมสิ...”
จินยองเข้าเติมเต็มช่องทางนุ่มไม่ให้ตั้งตัว หมาป่าสีเงินผวาตัวเฮือกใหญ่
“ว่าฉันมีเวลาเล่นกับนายได้ทั้งวัน...”
“อ่ะ!!”
“ทั้งคืน...”
“โอ้ย!”
แล้วพวกเขาก็เริ่ม รัก กันอีกคราว
เจบีรู้ตัวอีกทีตอนเที่ยงวันต่อมา
เมื่อวานร่างกายเขาโดนใช้งานอย่างหนักหน่วง วันนี้เลยทำอะไรติดขัดไปซะหมด
ทำอะไรเร็วๆก็จะพาลเจ็บสะโพกเจ็บหลังแปลบๆ ยิ่งเป็นพวกพลังเยอะอย่างเจบีแล้ว
นับว่าเป็นอะไรที่น่ารำคาญที่สุดในสามโลก
ลงไปบ่นให้ลุงหัวหน้ารับใช้ฟังก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ขึ้นมารอบนห้องก่อน
เพราะเจ้านายของเขาได้ฝากอะไรบางอย่างมาให้ในตอนบ่าย
เจบีก็ว่าง่ายขึ้นมานอนเล่นนั่งเล่นรอจนถึงเวลา
.
.
.
สิ่งที่จินยองเตรียมให้เขาก็คือหุ่นยนต์นวดและชุดอาหารรวมเมนูไก่ชุดใหญ่
พร้อมข้อความภาพบอกว่าตอนนี้ตัวจินยองอยู่ที่อีกเมือง
กำลังคุยเรื่องขยายอำนาจทางการเงินมาที่เขตเมืองใหม่และจะไม่ได้กลับมาถึงสามวัน
...นับเป็นเรื่องดี...
เจบียิ้มแก้มปริ ดีเสียอีกไม่มีจินยองมาคอยแกล้ง
ห้องทั้งห้องเป็นของเขา จะทำทุกอย่างที่อยากทำ
ส่วนเรื่องจะโดนลงโทษหรือไม่นั้น ก็ขอให้เป็นเรื่องของสามหลังจากนี้เถอะนะ
เพราะสามวันนี้ คือวันของ เจบี ต่างหากล่ะ!!!
.
.
.
.
.
แล้วจินยองจะได้รู้ว่าไม่ควรปล่อยหมาป่าสีเงินไว้บ้านเพียงลำพัง...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น