[SF] Suffice (MarkSon)
Suffice
Mark X Jackson
“เมื่อยชะมัด”ยองแจบิดตัวซ้ายขวาเบ้หน้าเหนื่อยๆ
การเดินทางกว่าสามชั่วโมงจากเมืองท่ามาสู่เมืองหลวง
หลังทำงานหามรุ่งหามค่ำเกือบสามวันทำให้คณะมัณฆนากรอยากกลับไปนอนนิ่งๆบนเตียงจะแย่
“พวกพี่จะกลับกันเลยไหมอ่ะ?”เด็กหนุ่มอายุน้อยที่สุดในกลุ่มแต่สูงที่สุดในกลุ่มอย่างยูคยอมถามพี่ในทีมทั้งสามคน
แต่ละคนก็ยืนเช็คโทรศัพท์กันงกๆแทบไม่สนใจน้อง ยืนรอคำตอบสักพัก
พี่ใหญ่ในทีมก็เงยหน้าขึ้นมาตอบ
“เดี๋ยวฉันรอเพื่อนมารับ
พวกนายกลับกันไปก่อนเลย”
“เพื่อนหรือสามีครับพี่”ยูคยอมแซวก่อนจะโดนพี่ชายคนแมนหรี่ตาใส่ดุๆพร้อมจะกระโดดถีบน้องได้ทุกเมื่อ
“ฉันก็จะกลับเลย
ง่วงจะแย่”ยองแจหาวไปบ่นไป หน้าตางัวเงีย ตาเล็กอยู่แล้วยิ่งหรี่ใกล้ปิด
“พี่แจ็คสันล่ะ?
กลับคอนโดเลยไหมครับ จะได้ไปทางเดียวกัน ผมไปส่ง”
“อืม...ไม่หรอก
ต้องไปดูใครสักคนก่อน”
“อ่อ”ทั้งทีมพร้อมใจร้องแซว
พลางส่งสายตากรุ่มกริ่มไปให้คนที่ยังก้มหน้าพิมพ์แชทยิกๆอย่างไม่คิดจะสนใจโดยพร้อมเพรียง
“โทษทีนะ
เดี๋ยวเรื่องรายงานจะรีบส่งให้ ไม่เกินอังคาร”
“แหม
ไม่เป็นไรเหรอพี่ ถึงจะส่งช้าก็พอรู้อยู่...”
“หา?
ว่าอะไรนะยองแจ”
“ไม่มี๊”ปฏิเสธเสียงสูงยิ้มๆ
แจ็คสันขมวดคิ้วไม่ไว้วางใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก รีบโบกมือบ๊ายบาย
หิ้วกระเป๋าเดินทาง ถุงของฝากพะรุงพะรังเต็มสองมือ แล้ววิ่งไปเรียกแท็กซี่นั่งออกไปอย่างเร่งรีบ
แจ็คสันบอกแท็กซี่จอดหน้าคอนโดสูง
จ่ายเงินพลางหอบของอะไรต่อมิอะไรออกมาจากหลังรถ
มือเล็กประคองถ้วยกระดาษส่งกลิ่นหอมสองถ้วยใหญ่
พร้อมทั้งกระเป๋าเต็มสองแขนเดินเข้าไปภายในอาคาร
ผงกหัวกลมขอบคุณยามที่เปิดประตูให้เพราะเห็นเขาไม่มีมือว่าง
จิ้มนิ้วเลือกชั้นอย่างยากลำบาก กว่าจะพาตัวเองมาถึงชั้น 20 ได้ก็แทบหอบแฮ่ก
ก๊อกๆ
เคาะประตูห้องสีนวลตารอคนด้านในมาเปิดให้
แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆจากด้านใน
คิ้วเรียวขมวดหากัน
วางขอทุกอย่างลงพื้น เอี้ยวตัวไปหยิบกุญแจพวงใหญ่ในกระเป๋าสะพายออกมาไข
เพียงกริ๊กเดียวก็เข้าไปได้ แต่ก็ต้องก้มๆเงยๆถือของหอบเอาไว้อีกรอบ
ภายในห้องมีแสงเพียงสลัวๆพอให้เห็นว่าห้องมีสภาพไหน
ผ้าม่านทุกผืนปิดสนิท ของในห้องมีไม่มากนักแต่ก็ดูระเกะระกะไม่มีระเบียบ
เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดปิดการทำงาน
ยกเว้นเครื่องปรับอากาศพ่นลมเย็นยะเยือกและหน้าจอโน๊ตบุกยังเรืองแสงในความมืด
ส่องแสงกระทบกลุ่มผมดำสนิทที่โผล่จากผ้านวมสีขาว
แจ็คสันกลอกตาไปมา
วางของทั้งหมดไว้หน้าชั้นวางรองเท้า ตบสวิตช์เปิดไฟขึ้นพรึบเดียว
คนความรู้สึกไวบนโซฟาครางเสียงต่ำยาว ขยับกายเคลื่อนออกมาจากผ้าห่มช้าๆ
ช้ายิ่งกว่าตัวสล็อธ แจ็คสันมายืนกอดอกอยู่ข้างๆ
“ตื่นมากินข้าว”
“ฮืม...กลับมาแล้วเหรอ”
แทนที่จะลุกนั่ง
มือซีดยาวๆกลับพุ่งออกมาจากผ้าห่มรัดต้นขาใต้กางเกงยีนสีเข้มเข้าไปใกล้
คล้ายฉากในหนังสยองขวัญ จะต่างก็แค่สัตว์ประหลาดในผ้าห่มไม่ได้ดึงเขาไปฆ่า
แต่ดึงเขาไปลวนลามด้วยจมูกโด่งๆนั่นต่างหาก
ปลายนิ้วสั้นดันปลายจมูกที่เกลี่ยไปมาบนหน้าท้องเขาจนรู้สึกจักจี้
พลางคว้ามืออีกข้างด้านหลังไม่ให้ล้วงเข้าไปใต้กางเกงตัวรัด
...มือเร็วจริงๆเลย...
“อย่ามาลวนลามน่ามาร์ค
ตื่นมากินข้าวก่อน ซื้ออุ่นๆมาให้จากด้านล่างแหนะ”
“อยากเข้าไปอุ่นๆในตัวเรามากกว่า”
“อยากโดนฆ่าหมกห้องเหรอ...
เร็ว! ลุก
ไม่งั้นกลับแล้วนะ”
สงสัยจะกลัวเขากลับจริงๆ
อีกฝ่ายถึงได้ดึงผ้าห่มออกและลุกขึ้นนั่ง
ดวงตาใต้กรอบแว่นสีใสหรี่ปรือไม่คุ้นเคยกับแสง
ใบหน้าหล่อเหลารกครึ้มด้วยหนวดเคราบางๆ
เส้นผมสีดำยุ่งชี้กันไปคนละทางยาวปรกลำคอใหญ่
เสื้อมีฮูทสีเทาตัวใหญ่ทับเสื้อกล้ามขาวดูคับคล้ายคับคลาจะเป็นตัวเดียวกันกับที่เขาเห็นก่อนจะออกจากห้องไปเมื่อสามวันก่อน
“ก่อนกินข้าว
ไปอาบน้ำไป”พอเห็นสภาพก็ตัดสินใจไล่เข้าห้องน้ำทันที
“เพิ่งอาบเมื่อเช้า”คนบนโซฟาเถียง
เกาหัวแกรกๆ ถ้าไม่บอกว่านี่เป็นฟรีแลนท์กราฟฟิกดีไซคิวทองผู้โดนตามตัวให้เข้าบริษัทใหญ่ระดับประเทศหลายต่อหลายที่
ผลงานมากมายชนิดพูดออกมาไม่หมด มาร์คในสภาพนี้ก็เหมือนกุ๊ยดีๆนี่เอง
“เช้าไหน?”
คนตัวเล็กกอดอกทำหน้าเอาเรื่องเอาคำตอบ
มาร์คถึงกับนิ่ง คงเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้มันวันที่เท่าไหร่ไปแล้ว
“เร็ว
ลุก”บอกย้ำ ดึงมือมาร์คให้ลุกจากโซฟา ดุนหลังอีกคนเข้าห้องน้ำ
เดินเข้าห้องนอนไปเอาเสื้อผ้าชุดใหม่วางไว้หน้าห้องน้ำ
เก็บเสื้อผ้าตามพื้นและพวกเศษอาหารขยะทั้งหลายลงถุงดำมัดเตรียมเอาไปทิ้งช่องทิ้ง
เดินวนไปมา ไม่ทันได้เก็บหมด
มาร์คก็เดินออกมาด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่สวมทับด้วยเสื้อฮูตตัวเดิมและใบหน้ายังไม่โกน
“เร็วจัง
แล้วอาบน้ำอะไรไม่โกนหนวด”ขมวดคิ้วพูดกับคนข้างๆ
มาร์คทำเป็นหูทวนลมนั่งบนโซฟาสีขาวตัวเดิม
ดึงเอาถ้วยกระดาษบรรจุอาหารอุ่นๆมาถือไว้ จับช้อนส้อมแจกให้คนข้างกาย
“หิว”
แจ็คสันรับช้อนซ้อมมาถือไว้เฉยๆ
หันมองมาร์คแทบจะเอาหน้าจุ่มข้าวอยู่มะรอมมะร่อก็ลุกขึ้นไปเอาน้ำเย็นมาเตรียมไว้ พอกลับมานั่งได้ไม่เท่าไหร่
มาร์คก็สำลักข้าวไอดังโขลกๆ แทบหาน้ำมากรอกคอแทบไม่ทัน
...คาดไม่เคยผิดจริงๆ...แจ็คสันคิดพลางยัดข้าวเข้าปากเคี้ยวกรวมๆไม่รีบร้อนเหมือนคนข้างๆ
“แล้วส่งงานแล้วเหรอ”
“ก่อนนอนส่งแล้ว”มาร์คตอบ
กวาดข้าวช้อนสุดท้ายเข้าปาก เคี้ยวไม่กี่ครั้งก็กลืน วางถ้วยกระดาษเปล่าลงบนโต๊ะข้างเครื่องคอม
กวาดขาพาดโซฟา ถือวิสาสะเอนศีรษะนอนบนตักแจ็คสัน
“กินข้าวอยู่
มานอนทำไม เดี๋ยวก็ทำข้าวหกใส่ซะนี่”คนตัวเล็กโวยวาย จับถ้วยชูสูง
แต่มาร์คกลับยิ้มไม่สะทกสะท้าน กอดเกี่ยวเอวบาง จูบผ่านเนื้อผ้าหนาเบาๆ
“คิดถึง”
“...”พอเจอลูกอ้อนแบบนี้ก็ไปไม่ถูก
ใบหน้ากลมแดงเรื่อ หลบตาคนบนตัก รีบจ้วงข้าวเข้าปากคำแล้วคำเล่าจนหมด
มาร์คผุดลุกขึ้นแย่งถ้วยกระดาษเปล่าในมือเล็กมาถือเอง
กวาดขยะทั้งหมดลงถุง ลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำ ออกมาอีกทีพร้อมผ้าขนหนูเปียกหมาดๆผืนเล็ก
กุมมือแจ็คสันวางไว้บนตัก ใช้ผ้าหมาดเช็ดทำความสะอาดให้เบาๆ
“ไปล้างเองได้หรอกน่า”
“อยากทำให้แฟน
เหนื่อยไม่ใช่เหรอเราน่ะ”มาร์คเงยหน้ามายิ้มละมุน จับมืออีกข้างมาเช็ดให้อย่างทะนุถนอม
แจ็คสันเม้มปากเป็นเส้นตรง พยายามระงับความร้อนบนผิวแก้ม
“ทำงานเป็นยังไงบ้าง”
“อืม
ก็ดีอ่ะ ไม่มีปัญหาเท่าไหร่ เจ้าของโรงแรมบอกรายละเอียดที่ต้องการชัดเจนดี
แล้วมาร์คล่ะ”
“แก้งานหลายรอบอยู่...”
“เพิ่งได้นอนล่ะสิ...เดี๋ยวผมกลับเลยดีกว่า
จะได้ไม่กวน”แจ็คสันดึงมือคืน แต่มาร์คไม่ยอมให้คนรักกลับ รีบดึงมืออีกคนไว้แน่น
ตากลมสบกับดวงตาใต้กรอบแว่นบาง
“นอนด้วยกันนะ”เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขอร้อง
ถูปลายนิ้วเล็กนุ่มนวล ดวงตาสวยใต้กรอบแว่น
“พี่คิดถึงเรานะครับ” นิ้วเรียวด้านสัมผัสแก้มนุ่ม ประคองใบหน้าหวานให้เข้ามาใกล้
กดจูบบางๆบนกระหม่อม อบอุ่นอ่อนโยนอย่างช่างไม่รู้เลยว่าหัวใจแจ็คสันนั้นเต้นตุบตับแทบจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว
“นะครับ”
“...อืม”
อ่างอาบน้ำขนาดเพียงหนึ่งคนอาบ
ตอนนี้กลับมีร่างชายหนุ่มสองคนแช่อยู่พร้อมกัน น้ำเย็นกระทบอ่างตามจังหวะการขยับตัว
คนด้านบนคร่อมสะโพกอีกฝ่ายไว้ ในขณะที่มือเล็กค่อยๆไล้ปลายมีดโดนคมกริบไปตามรูปหน้าได้รูป
มาร์คจ้องใบหน้าหวานคมในระยะใกล้ ลมหายใจอุ่นๆรดพ่นซึ่งกันและกัน มือเรียวโอบกอดเอวเล็กไว้ไม่ยอมปล่อย
สูดลมหายใจลึกทุกครั้งที่บั้นท้ายและขาอ่อนของอีกคนบดลงมาบนร่างกายเขา
...อันตราย...
“นิ่งๆสิ
เดี๋ยวบาดนะ”เสียงหวานแหบช่างกระเส่าพร่าราวกับกำลังยั่วยวน ดวงตากลมจ้องคางมาร์คอย่างตั้งใจ
ไม่สนแม้มือเรียวๆจะลวนลามร่างตนไปถึงไหนต่อไหน ...เยอะสุดก็แค่ช้อนตาขู่...
มาร์คยอมอยู่นิ่งๆให้
แต่สายตาของชายหนุ่มไม่ได้นิ่งเลย ตั้งแต่ดวงตาลม ริมฝีปากอิ่มเอิบแดงจัด
ไหปลาร้าลึก หน้าอกนูนแน่นประดับเชอร์รี่สีหวาน ลอนกล้ามเนื้อท้องบางๆ เอวคอดรับกับสะโพกอวบอัด
ต้นขาขาวนิ่มถูไถกับสะโพกเขา ไหนจะกลิ่นหอมติดกายเล็กนี่อีก...
แจ็คสันก็รู้ว่าตัวเองโดนมองแบบไหน
แต่ก็ไม่สนใจ เพราะรู้ว่ามาร์คไม่มีทางทำถ้าเขาไม่ยินยอม ยังนั่งอยู่ในท่าอันตรายแบบนั้นจนโกนหนวดเสร็จ
วางมีดโกนบนเก้าอี้นั่งอาบน้ำข้างอ่าง ขยับตัวคืบนั่งบนตักแกร่งลึกขึ้น พาดแขนโอบลำคอหนา
ลูบปลายนิ้วบริเวณคางสากไปมา หรี่ตามองพร้อมเผยอปากมองด้วยความหลงใหล “เกลี้ยงแล้ว”
มาร์คยิ้ม
ยื่นหน้าสัมผัสปากช่างยั่วนั้นเบาๆเป็นการลองเชิง
เมื่อไม่โดนผลักไสก็บดกลีบสีสวยนั่นอย่างเอาแต่ใจจนกลีบนิ่มบู้บี้ยอมเผยอให้เรียวลิ้นร้อนสอดเข้ามาสัมผัสภายใน
มาร์คประคองใบหน้าเล็ก ดึงอีกคนลงมาหาตัวเอง แจ็คสันถดกายลงไปตามแรงฉุด นอนทับมาร์คไปทั้งร่าง
ผิวเนื้อเสียดสีกันก่อเกิดความรุ่มร้อน มือเล็กจับไหล่ผอมไว้ หลับตารับรสจูบอย่างเต็มใจ
มาร์คก็ยิ่งโถมจูบให้สาสมกับความคิดถึง ทั้งสองต่างดื่มด่ำรสจูบรสชาติเหมือนน้ำผึ้งหอมหวานอย่างไม่รู้จักเบื่อ
รสจูบช่างยาวนาน...นานจนคนด้านบนหายใจเริ่มไม่ทันและเป็นฝ่ายผละออกมาหายใจก่อน
ใบหน้าหวานซุกอกแข็ง ตาเยิ้มปรือปรอย
มาร์คกวักน้ำเย็นๆไหลผ่านผิวลื่นนิ่มมือ
กดสบู่เหลวชโลมร่างคนรัก ลูบถูไปมาจนเกิดฟองเคลือบ ทำความสะอาดทุกส่วนในร่างกายอย่างไม่คิดรังเกียจ แจ็คสันเองพอเริ่มมีแรงก็กดสบู่อาบน้ำให้มาร์คเช่นกัน
“หนาวไหม”
“ไม่เท่าไหร่
แต่เปิดน้ำอุ่นให้ผมหน่อยแล้วกัน”คนตัวเล็กบอกขณะลูบสบู่ไปตามหน้าอกแข็งแรงและลำคอใหญ่
มาร์คพยักหน้า
เปิดน้ำรออุณหภูมิที่ต้องการถึงนำมารดร่างขาวเพื่อล้างสบู่ออก
พอแจ็คสันสะอาดดีแล้ว คนตัวเล็กก็แย่งฝักบัวไปถือไว้ จุ๊บปากเรียวเบาๆเป็นการขอบคุณ
ล้างทำความสะอาดให้มาร์คบ้าง
“มาร์ค
ทำอะไรอยู่”แจ็คสันถามเมื่อนอนรอบนเตียงสักพักก็ไม่เห็นมาร์คจะมานอนสักที
ง่วงก็ง่วง อยากหลับจะแย่แล้ว
“ขอส่งบัญชีให้ลูกค้าแป๊ปนะ”
ปากอิ่มบึนออก
หน้าซุกหมอนข้างถอนหายใจเบื่อๆ
ห้านาทีผ่านไปมาร์คก็ยังไม่มา
รอแล้วรอเล่าจนจะหลับก่อนอยู่มะรอมมะร่อ คนตัวเล็กในชุดนอนยาวเลยผุดลุกกระโดดไปหาคนรักหน้าคอม
กอดคอเอาหน้าถูไถออดอ้อน
“นอนนะๆ
ง่วงแล้ว”
มาร์คโดนกลุ่มผมนิ่มๆซุกคอซ้ายทีขวาทีก็หลุดหัวเราะจักจี้
กดส่งอีเมล์และปิดคอมทันที
แจ็คสันเห็นก็ฉีกยิ้มกว้าง
จุ๊บหลังคอมาร์คเป็นรางวัล ดึงแขนคนตัวสูงกว่าเล็กน้อยไปที่เตียง ไม่ลืมปิดไฟห้องนอน
เหลือแค่โคมไฟบนหัวเตียงให้แสงสว่างสลัวๆ
มาร์คกางแขนให้คนรักได้นอนหนุนอย่างที่ชอบทำ
แจ็คสันซุกหน้าลงบนซอกคอหอมกลิ่นสบู่เดียวกันกับตัวเอง มือกอดเกี่ยวกันและกัน
ปล่อยให้ความเงียบบรรเลงประกอบช่วงเวลาแห่งการซึมซับความรู้สึกคิดถึง
สำหรับมาร์คกับแจ็คสันที่ต่างคนต่างไม่ค่อยมีเวลาให้กัน
แค่ได้มีโอกาสสักคืนได้ทำตัวติดกัน โอบกอดกันบนเตียงนุ่มๆแบบคืนนี้ ก็สามารถชดเชยความคิดถึงได้มากเกินพอแล้ว
ไม่จำเป็นต้องมีคำพูด...แค่การเอาใจใส่จากคนที่รักก็เพียงพอ
“พรุ่งนี้ไม่มีงาน
ไปหาซื้อของกันนะ”
“เอาสิ
ถ้าตื่นนะ”
“งือ
ต้องตื่นสิ”
“อืม...”
“มาร์ค...”
“หืม?”
“คิดถึง...”
“อืม...คิดถึงเหมือนกัน”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น