[SF] FAR FROM QUAYSIDE (MarkSon)
FAR FROM QUAYSIDE
MARK x JACKSON
ท่าเรือเฮอร์ออนิสเป็นท่าเรือขนาดใหญ่และเป็นตลาดสำคัญของการซื้อขายของจากพ่อค้าต่างประเทศ
รวมไปถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของพวกลูกเรือด้วย
เมื่อคุณขึ้นมาบนฝั่งคุณจะพบห้องแถวอาคารสามชั้นสร้างจากไม้และอิฐปูนทาสีขาวเรียงแถวเป็นระเบียบขนานกับท่าเรือ
มีทั้งผับ สปาของพวกแขก ร้านอาหาร และโรงแรมหลากหลายระดับและราคาให้เลือกพักผ่อน
ในหมู่สถานที่เริงรมย์บนท่าแห่งนี้ ‘JJJ Bar’ นับเป็นร้านที่ได้รับความนิยมแซงขึ้นมาในระดับต้นๆ
และในวันนี้ภายในร้านที่มักมีบรรยากาศสลัวเพราะควันบุหรี่
กลิ่นเหล้าเบียร์และเสียงเอะอะมะเทิ่งก็ยังเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าที่โดยส่วนมากเป็นลูกเรือ
โดยเฉพาะบริเวณหน้าบาร์ที่มีคนมุงเยอะเป็นพิเศษ
“แจ็คสัน ฉันขอมาร์ตินี่อีกแก้ว”
“สักครู่นะครับคุณอาร์เธอร์”เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักหลังบาร์หันมาตอบ
“ช้าจัง ขอจับก้นนายแก้เบื่อได้ไหมล่ะ”
“ค่าจับครั้งละล้านนะครับ”แจ็คสันเพียงแค่หัวเราะไม่ถือสาคนเมา
สองมือผสมแอลกอฮอล์ตามออเดอร์ หยอกแซวคนนั้นคนนี้ทีอย่างอารมณ์ดี
เผยรอยยิ้มสดใสมอบให้ทุกคนที่พบเห็น สร้างความรู้สึกสดชื่นแก่คนที่เข้าใกล้
เหมือนกับฉายา ‘Heal bartender’
ของเจ้าตัวที่พวกคนเรือตั้งให้
แจ็คสันเป็นเด็กหนุ่มอายุ 18
ผิวขาวระเรื่อสีชมพูสุขภาพดี เส้นผมสีเงินส่องประกายใต้หลอดไฟมัวๆใต้บาร์ไม้
ดวงตากลมทอประกายวาววับไม่ต่างจากดาวเหนือ จมูกรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงเรื่อ
เรือนร่างไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่พอน่าฟัดน่ากอดสวมเสื้อคอเต่าแขนกุดสีดำโชว์ลำแขนขาวมีกล้ามพอสวยงามและกางเกงเข้ารูปสีเดียวกัน
สร้อยเชือกถักและจี้สีเงินเป็นชื่อย่อ Js.
ของเจ้าตัวล้อกับแสงไฟ ท่าทางทุกอย่างช่างดูมีเอกลักษณ์
นิสัยช่างพูดและขี้เอาใจทำให้ทุกคนเอ็นดู
“ได้ยินรึเปล่า เรื่องท่านลอร์ดมาร์คน่ะ
เพิ่งกลับจากเมืองจีนมาเมื่อครู่นี้เอง”
“กลับมาแล้วหรือ นึกว่าจะไปนานกว่านี้เสียอีก”
“รีบเดินทางกลับน่ะ พวกลูกเรือบ่นใหญ่เลย”
แจ็คสันนิ่งฟังเรื่องที่นักเดินทางสองคนหน้าบาร์พูดจนลืมสิ่งที่ทำอยู่
จนมีคนเรียกชื่อถึงได้สติยิ้มหวาน ชงแก้วที่ทำค้างอยู่ต่อ ยกมือเป็นสัญญาณ
เอี้ยวตัวไปเรียกยูคยอม น้องเล็กของบาร์แต่มีฝีมือร้ายกาจมาดูแลบาร์แทน
ตาแก่ยันวัยรุ่นหน้าบาร์โอดครวญกันใหญ่
“เจบี ผมกลับก่อนนะ”
ยื่นหน้าไปบอกตอนเดินผ่านห้องเจ้าของร้าน
เจบีหันหน้ามาหา เลิกคิ้วมองเด็กหนุ่มและยิ้มอย่างรู้ทัน
“มีเดทรึไงหนุ่มน้อย”
“ฮะๆ ทำไมถึงรู้ล่ะ”แจ็คสันยิ้มสดใส
เดินมาหยั่งสะโพกนั่งบนขอบโต๊ะ เอี้ยวตัวกลับมาท้าวแขน ยื่นหน้าเข้าใกล้ใบหน้าหล่อคมคายของเจ้าของบาร์
ดูยั่วยวนแต่เจบีกลับไม่หลงกล คงเพราะรู้ว่าเด็กนี่ก็แค่อยากยั่วเล่นๆ
ไม่ได้เอาจริงและตั้งใจจะแกล้งเขาเสียมากกว่า
“ดูมีความสุขเป็นพิเศษนะ วันนี้น่ะ”เอ่ยเสียงเรียบ
จิ้มจมูกรั้นดันอีกคนให้ห่างออกไป แจ็คสันหัวเราะร่าเริง
“อย่างนั้นเหรอ?”
พอแกล้งเจบีจนพอใจแล้วก็เปิดประตูหลังร้าน
เดินผ่านคู่รักที่กอดรัดฟัดปากกันออกมาบนถนนสายหลัก
สองหูได้ยินเสียงซุบซิบดังอยู่ตลอด
“ลอร์ดมาร์คกลับมาแล้ว”
“จริงเหรอ? อ่า ฉันอยากจับเขาให้ได้จริงๆเลย”
“นั่นสิ ทั้งหล่อ ทั้งรวย ใครๆก็อยากได้เขาทั้งนั้นแหละ
แต่แปลกที่ไม่เห็นท่านคบกับใครเลย”
“เจ้าหญิงแอนนาเบลก็ดูโปรดท่านนะ
พวกแม่ม่ายรวยๆในเมืองก็เข้าหาท่านกัน แต่นั่นแหละ...แปลกจริงๆ”
“อ่า ฉันอยากรู้จริงๆว่าใครคือคนรักของท่านลอร์ด”
แจ็คสันเดินผ่านเสียงซุบซิบนั่นเข้าไปในโรงแรมห้าดาวชั้นพรีเมียม
เดินไปหยุดหน้าเคาน์เตอร์
ชะเง้อมองพนักงานที่รีบลุกขึ้นมาพร้อมให้บริการเขาพลางประซิบเสียงเบา
แก้มกลมออกสีเรื่อเล็กน้อยอย่างไม่อยากจะพูดอะไรออกไปมากนัก
“ผม แจ็คสัน ผมนัดกับ Mr. เอาไว้...”
“ครับ ท่านแจ็คสันสินะครับ คุณ Mr. ฝากข้อความมาบอกคุณว่าเขามีธุระที่ร้านอัญมณีลองแชงก์
ให้คุณแจ็คสันรอที่ห้องก่อนนะครับ”
“อ่า...อย่างนั้นเหรอ...ครับ ไม่เป็นไร ขอบคุณครับ”
แจ็คสันทำท่าจะเดินหนี
เขาไม่อยากรอในห้องเปล่าๆนี่ไม่มีคนๆนั้นอยู่ด้วยหรอกนะ แต่พนักงานก็ฉุดเขาไว้ก่อน
“คุณ Mr.
บอกว่าไปเอาของขวัญมาให้คุณน่ะครับ”
.
.
.
บอกก่อนว่าแจ็คสันไม่ใช่คนเห็นแก่ของขวัญอะไรนั่นหรอก
ก็แค่อยากรู้ว่าผู้ชายปากหนักคนนั้นจะลงทุนเอาอะไรมาให้เขาก็แค่นั้นเอง
ร่างสันทัดออกจะเล็กกว่าผู้ชายในวัยเดียวกันก้มตัวถอดรองเท้าบูทคู่สวยวางไว้บนชั้นวางรองเท้า
เดินเหยียบพื้นพรมสีแดงเข้าไปในห้องแสนหรูหรา
ใบหน้าหวานคมแบะปากไม่ชอบใจกับรสนิยมหรูหราของคนจอง ทิ้งตัวหย่อนสะโพกกลมลงนั่งบนเตียงโรมันสี่เสาติดหน้าต่างบานใหญ่มองเห็นวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของท่าเรือเฮอร์ออนิสด้านติดกับภูเขาได้อย่างชัดเจนและเป็นส่วนตัวพอสำหรับการแอบมาพบกันของ
‘พวกเขา’
เขานั่งรอนานกว่าครึ่งชั่วโมงก็ไม่เห็นท่าทีจะมาของใครอีกคน
ถอนหายใจลุกขึ้นท้าวคางมองออกไปด้านนอก ผิวแก้มบางถูกสายลมพัดเอาไอทะเลเข้าคลอเคลียแผ่วเบา
ไม่ต่างจากเส้นผมสีเงินที่ปลิวโอนระกับดวงหน้าขาว ริมฝีปากอิ่มแดงเม้มเข้าหากันอย่างคนน้อยใจ
ดวงตากลมโตทอประกายว้าเหว่อย่างที่ไม่เคยเผยให้ใครเห็น
...ผมอยากเจอคุณแล้วนะ คนบ้า...
ก๊อกๆ
“อ๊ะ! ม...”กำลังจะหลุดเรียกชื่อออกไปก็ต้องหยุดปากตัวเอง
เกรงว่าจะไม่ใช่คนที่ต้องการเจอ เดินไปส่องประตูแมวก็พบว่าเป็นแม่บ้านยกอาหารมือค่ำมาให้
เปิดประตูให้เธอเข้ามาวางอาหารบนโต๊ะ และปิดประตูให้ตอนเธอเดินออกไป
เขาล็อกกลอนให้มั่นใจว่าจะไม่มีโจรหรือใครคนอื่นเข้ามาได้อีก กลับมานั่งบนโซฟาบุหนังจากพวกอาหรับ
มองถาดอาหารที่มีเค้กโกโก้และนมร้อนอีกหนึ่งเหยือกใหญ่ แถมมีการ์ดสีเงินปรากฏลายมือหวัดๆแนบพร้อมมาด้วย
/ทานรอไปก่อนนะ จะกลับช้าหน่อย ขอโทษ
ปล.ดื่มแล้วก็นอน ถึงแล้วจะปลุก/
“สั่งนมให้เหมือนเด็กเลย จะล้อว่าไม่สูงรึไง”ปากแดงบึนออกทั้งที่คิดเองเออเอง
หยิบเหยือกนมมารินลงในแก้วใส ยกดื่มให้ลื่นคอ ตักจ้วงเค้กมาอีกหนึ่งคำ เคี้ยวตุ้ยๆจนแก้มตุ่ยทั้งที่คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น
ท่าทางเหมือนเด็กอย่างที่คนสั่งนมกับเค้กคิดไว้ไม่ผิด พอจัดการซะเรียบก็ย้ายตัวเองลงนอนเล่นบนโซฟา
กลิ้งไปมาจนเปลือกตาเริ่มหนักและหลับไปในที่สุด
.
.
.
ประตูบานใหญ่ขยับเลื่อนออกจากกรอบเงียบๆ ระมัดระวังให้เกิดเสียงเพียงเล็กน้อยขณะถอดรองเท้าและเดินเข้ามาในห้อง
ชายรูปร่างผอมสูงในชุดเสื้อคลุมสีน้ำเงินเรียบหรูและหมวกพรางปิดบังใบหน้าเห็นเพียงกรอบหน้าเรียวหล่อเหลา
จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากได้รูปที่กระตุกยิ้มบางยืนมองร่างเล็กกว่าบนโซฟา
เหลือบไปมองจานและแก้วที่ว่างเปล่าแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า
ใช้มือค้ำพนักโซฟาขณะวางเข่าด้านหนึ่งลงบนเบาะนั่งโน้มตัวโค้งลงไปจนสันจมูกโด่งแตะบนกลุ่มผมนุ่มสีเงินสว่าง
เจ้าของร่างยังไม่รู้ตัวว่าโดนเอาเปรียบและนั่นถือเป็นเรื่องดี ดวงตาสวยพินิจใบหน้าหวานคมด้วยความคิดถึง
เขาทนรออีกไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงตัดสินใจทำลายเวลานอนแสนมีความสุขของคนใต้ร่างด้วยการฉกฉวยสัมผัสนุ่มนิ่มอิ่มน้ำราวกับแป้งหมั่นโถวลูกใหญ่ในเมืองจีนแต่แตกต่างกับตรงหมั่นโถวลูกนี้สีแดงจัดราวกับลูกเชอร์รี่แดนหิมะและเวลาที่เขาเชยชิมมากเกินไปก็ออกสีแดงช้ำสวยราวกับลูกเกาลัดสดๆ
ทันทีที่โพรงปากอุ่นโดนรุกรานเจ้าของร่างก็พลันสะดุ้งตื่น
ดวงตาโตกลมเบิกกว้างตื่นตระหนก มือที่มักจะจับขวดเหล้าและแก้วยกขึ้นทุบคนด้านบนปักใหญ่
อาจกำลังจะคิดอาละวาดเพิ่มหากคนฉวยโอกาสไม่รีบส่งเสียงทุ้มต่ำเรียกซะก่อน
“ฉันเอง”
แจ็คสันชะงักเขม่นมองคนมาใหม่ดีๆ คราวนี้ดวงตากลมโตก็เปล่งประกายราวกับดาวเหนือแสนสวยที่นักเดินเรือทุกคนจับจ้องจนละสายตาไปไหนไม่ได้
งดงามสะกดตายิ่งกว่าอัญมณีล้ำค่าชิ้นใดในโลกหล้า
ปากอิ่มกำลังจะเผยอเรียกชื่อเขาแต่ชายหนุ่มก็ก้มลงประกบมันไว้ดูดกลืนเสียงและพละกำลังจนคนใต้ร่างอ่อนยวบ
เปลือกตานวลปิดลงรับรสจูบเขาแต่โดยดี แถมยังวาดแขนโอบรอบคอ ตวัดลิ้นโอบกอดพัวพันจูบตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้
ถ่ายทอดความคิดถึงให้แก่กันและกันจนเนื้ออิ่มกลายเป็นสีเกาลัด
มือเล็กลูบขึ้นไปปลดหมวกที่ปิดบังใบหน้าของคนด้านบนออก สีบลอนด์แดงยาวระต้นคอตกลงมาเกิดเป็นแสงเงาทำให้เห็นดวงตาสวยทอประกายปรารถนาเด่นชัดมากกว่าสิ่งไหน
และนั่นทำให้แจ็คสันแอบกลัว เขาไม่ชอบสายตาของชายหนุ่มแบบนี้
เพราะมันไม่แคล้วว่าเวลาที่พวกเขาจะได้โอบกอดพูดคุยกันระบายความคิดถึง จะมีเพียงเสียงครางและเสียงเนื้อกระทบกันบนเตียงกว้างที่อยู่ไกลจากโซฟาไม่ถึงสามเก้า
บาร์เทนเดอร์ตัวเล็กรีบดันตัวลุกหวังจะหนีออกจากสถานการณ์น่าหวาดเสียวนี้
แต่ชายหนุ่มก็เหมือนจะรู้ว่าเขากำลังจะหนี มือใหญ่ด้านหนึ่งถึงได้ดันหน้าอกเขาไว้
มืออีกข้างจับคางมนเชยขึ้นรับจูบร้อนเป็นการปิดปากปิดการปฏิเสธ
ซิปเสื้อถูกรูดลงจนสุด อากาศเย็นยามกลางคืนของเมืองชายฝั่งระผิวเนื้อขาวให้สั่นสะท้าน
ส่วนอ่อนไหวใต้กางเกงหนังถูกปัดผ่านอย่างจงใจกลั่นแกล้ง
เรียกเสียงครางอ่อนหลุดจากริมฝีปากที่ประกบกันแน่นจนแทบไม่เหลือที่ว่าง
มือเล็กจับปลายเสื้อไว้ไม่ยอมให้ชายหนุ่มผมบลอนด์แดงดึงมันออกจากกายอย่างดื้อรั้น
แต่ไหนเลยจะสู้คนเจ้าเล่ห์
คนตัวเล็กส่งเสียงอู้อี้เมื่อนิ้วเรียวสอดผ่านสาปเสื้อเข้ามาสัมผัสหน้าท้องที่กระตุกเกร็งตามสัญชาติญาณ
แถมยังลูบเลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงหน้าอก กางนิ้วแยกเสื้อออกโดยง่าย
“คน...ขี้โกง...อ๊ะ”
แจ็คสันเสียงพร่า แอ่นหน้าอกกระตุกกอดศีรษะนั้นไว้เพียงเพราะโดนลิ้นร้อนสะกิดยอดอกเพียงแผ่วเบา
น้ำลายชโลมติ่งเนื้อหยุ่นสีสวยสดให้วาววับล้อแสงไฟในห้องพัก
ยิ่งเร่งให้ชายหนุ่มปากดูดรั้งจนเกิดเสียงน่าอับอาย เขี้ยวทรงเสน่ห์ครูดรอยบุ๋มกลางจุดกลม
ขบฐานยอดแผ่วเบาและขบแรงขึ้นตรงเนื้อติ่งที่ชูชันแข็งเป็นไต สลับเอ็นดูทั้งซ้ายขวา
เจ้าของร่างก็ส่งเสียงครางพร่าอย่าห้ามไม่อยู่ เรียวขาของคนใต้ร่างยกขึ้นใช้เข่าบดขยี้ส่วนกลางลำตัวคนรุกล้ำอย่างคิดจะเอาคืน
ชายหนุ่มเชิดหน้าครางเสียงต่ำ กดสายตามองอย่างคาดโทษ
“ซนนัก เดี๋ยวจะลุกไม่ขึ้นเอานะ”
“ของฝากผมล่ะ”เสียงแจ้วๆทวงของฝากหน้าด้านๆพยายามเบี่ยงประเด็นทั้งที่รู้ว่ามาถึงอีกหรอบนี้แล้วคงย้อนกลับไม่ได้
คนผมแดงก็รู้ถึงได้ยิ้มมีเล่ห์นัย
“ไม่มี”
“เฮ้!”คนตัวเล็กตวาดเอาเรื่อง
แต่ชายหนุ่มก็หาได้สนใจไม่ โอบเอวคอดกอดจนท้องชิดกัน ลุกใช้กำลังดึงคนตัวเล็กขึ้นมาจากโซฟา
ก้าวแค่สามเก้าก็ถึงเตียง ร่างขาวทอดร่างนอนหงายลงบนเตียงหรู
ชายหนุ่มเข้ามาคร่อมทับ ใช้กำลังบังคับถอดกางเกงเขาออกโยนไว้สักที่ในห้อง
ผลักเสื้อตัวบางลงไปเกยที่ไหล่เผยเรือนร่างนวลสล้างระเรื่อแดง
ใบหน้าหวานเอียงหน้าหนีไม่อยากสู้สายตาคนเจ้าเล่ห์ หูได้ยินเสียงสวบสาบจากคนด้านบน
ลืมตาขึ้นมามองก็ต้องตกตะลึงกับร่างกายที่ดูจะกำยำขึ้นกว่าที่เห็นครั้งก่อนอยู่โข
“นี่คุณ...”
“ดีไหม?”ถามพลางเหยียดยิ้มได้เปรียบแสนน่าหมั่นไส้
มือเรียวหยาบลูบคลึงสีข้างขาว ส่วนอีกด้านรวบข้อมือบาร์เทนเดอร์ตัวเล็กวางไว้เหนือศีรษะ
ลิ้นร้อนเริ่มทำงานเชยชิมลำคอขาว ขบกัดทิ้งร่องรอยความเป็นเจ้าของไว้จนแจ็คสันร้องท้วงเสียงอ่อนเพราะรู้สึกหวิวจนแทบทนไม่ไหว
ถึงจะไม่อยาก
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาโหยหาสัมผัสจากร่างกายแกร่งนี้มากมายเหลือเกิน กลิ่นน้ำหอมประจำตัว
เสียงทุ้มต่ำและจูบร้อนที่มอบให้ทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน...เขาโหยหามันจากจิตใต้สำนึก
ชนะเหนือทิฐิความคิดทั้งปวง
“มาร์ค...”นามของคนเปล่งจากปากอิ่มเอิบ
เจ้าของชื่อหยุดชะงักมองใบหน้าหวานที่ส่งสายตาเว้าวอนและคะนึกหา ชายหนุ่มใจอ่อนยวบ
คลานขึ้นไปคลอเคลียใบหน้ากลมที่หลับตาพริ้มเอียงใบหน้าแนบเข้าหา
ปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ นวดคลึงสะโพกนิ่มปลุกปั่นอารมณ์
สอดมือกระชับต้นขาเปิดออกเผยส่วนลับที่ไม่มีใครได้เห็นมันชัดเท่าเขา
ขนาดเจ้าตัวเองก็คงไม่รู้ว่าภาพตรงหน้ามันยั่วยวนขนาดไหน
สอดปลายนิ้วเข้าช่องทางรักอย่างไม่รอช้า พลันแจ็คสันก็สะดุ้งตัวเกร็ง
ขาบีบเข้าหากันด้วยความตื่นกลัว
“เจ็บ”
“ไม่เป็นไร”กระซิบเสียงทุ้มจูบหน้าผากชื้นเหงื่อปลอบประโลม
ดันนิ้วเข้าไปลึกขึ้นทีละน้อย ผนังเนื้อนุ่มบีบรัดนิ้วจนแทบขยับไม่ได้
ถ้าฝืนเข้าไปคนรักของเขาต้องเจ็บตัวแน่ๆ
ได้แต่ใจเย็นเบิกทางอย่างค่อยเป็นค่อยไป ค่อยตะล่อมเตรียมตัวร่างเล็กให้พร้อมสำหรับค่ำคืนเร่าร้อนอันยาวนานของพวกเขา
เบิกจนแน่ใจว่าแจ็คสันคงพร้อมแล้วก็ถอนออก
ชักรุดอาวุธสำคัญของตัวเอง จับขาขาวถ่างออกกว้างยกสะโพกอิ่มขึ้น
วางส่วนหัวไว้บนปากทาง ก้มกดจูบเบี่ยงเบนความสนใจของคนรักแล้วค่อยๆพาเรือดำน้ำมุดหัวลงไปในถ้ำ
คนตัวเล็กส่งเสียงครางเจ็บ สองแขนโอบหลังเขาแน่น ผิวขาวระเรื่อแดง หลับตาปี๋
ช่องทางรักก็บีบตรึงไม่ยอมให้ชายหนุ่มได้ขยับตัว เกร็งเสียจนมาร์คต้องลูบหลังปลอบประโลมให้ผ่อนคลายทั้งยังป้อนจูบให้ไม่ขาด
สะโพกผอมบดเข้าลึกถอนออกจนถึงครึ่งแล้วก็สอดกลับเข้าไปใหม่ ทำเป็นจังหวะช้าๆให้โอกาสให้ปรับตัว
น้ำหล่อลื่นเสริมให้เข้าออกได้ง่ายขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ไม่นานนักแจ็คสันก็หายเกร็ง
ปลดปล่อยความปรารถนาของตนออกมา เปิดเผยต่อชายหนุ่มได้อย่างเร่าร้อน
“อ๊า มาร์ค อ๊ะ แรง อืม ดีจัง”
ริมฝีปากอิ่มเจ่อบวมสีแดงช้ำครางเสียงพร่าคละกับลมหายใจหอบ
ดวงตากลมปรือคลอน้ำหวานฉ่ำเปี่ยมไปด้วยอารมณ์หวาม ผิวแก้มแดงระเรื่อแสนน่าเอ็นดู
นิ้วเล็กซุกซนไต่บ่าแกร่งละลงมาเล่นบนแผงหน้าอกแกร่งที่เกร็งแน่นทุกครั้งที่อีกฝ่ายดันตัวเองเข้ามาในกายตนรุนแรงจนสะโพกเขากระเพื่อมส่งเสียงตับๆไม่หยุดหย่อน
“อืม แจ็คสัน”มาร์คครางเสียงต่ำ
จับมือเล็กบนหน้าท้องขึ้นจูบแผ่วๆมองกลับมาด้วยสายตาที่ทำให้แจ็คสันหน้าแดงวาบ ชายหนุ่มสูงศักดิ์คร่อมท้าวศอกไว้ระหว่างศีรษะกลม
บดจูบกับริมฝีปากอิ่มช้ำที่เสพติดจนขาดไม่ได้ ทั้งสองหลับตาพริ้มมอบรสจูบให้แก่กันและกัน
โอบกอดสอดประสานจังหวะลึกซึ้ง จากจังหวะกลางไปสู่จังหวะเร็ว หัวใจเต้นระรัวไม่ต่างจากการวิ่งไปรอบๆเมือง
สะโพกแกร่งรัวเข้าหาช่องทางรัดรึงแสนรัญจวน
ส่วนแข็งขืนของแจ็คสันผงกไปมาเรียกร้องให้มีคนสนใจมัน
มาร์คจึงเลื่อนไปโอบกระชับรูดรั้งให้เป็นจังหวะเดียวกับจังหวะบดกระแทก
“อ๊า! เสียว มาร์ค
จะเสร็จ...อือ!”แจ็คสันร้องครางเสียงหลง
แผ่นหลังยกขึ้นเป็นสะพานโค้งโยกสะโพกบดตอบคืนรุดให้ส่วนร้อนในร่างไถลเข้าไปลึกยิ่งขึ้น
ชายหนุ่มถอนตัวเองออกเกือบสุดแล้วดันเข้ามาลึกจนส่วนหัวโดนจุดอ่อนไหว ปลายยอดเอ็นสีสวยก็พรั่งพรูของเหลวขุ่นทะลักออกมาเปื้อนหน้าท้องแกร่ง
มาร์คสอดนิ้วประสานตรึงมือป้อมลงบนเตียงนุ่ม ชายหนุ่มแทบจะบดร่างขาวกระแทกกระทั้นให้จมเตียง
ความร้อนในกายบวกกับความโหยหาจากความห่างไกลกระตุ้นให้เขากลืนกินแจ็คสันอย่างตะกละตะกรามในช่วงท้ายของเกมรัก
กลิ่นหอมหวาน เสียงคราง แม้แต่ร่างกายที่ตอบสนองเขาได้ทุกอย่างได้ปลดปล่อยสัตว์ร้ายออกมา
“มาร์ค! เจ็บ! อื้อ! เจ็บนะ!”คนตัวเล็กส่งเสียงร้องต่อว่า
นิ้วเล็กจิกหลังชายหนุ่มระบายความเจ็บ มาร์คทำแรงเกินไปแถมเขาก็เสร็จแล้วด้วย
ตอนนี้เลยไม่รู้สึกดีกับการโดนขย่มแรงๆหรอกนะ เตียงหลังใหญ่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ไม่ต่างจากร่างเขาที่โยกไหวไปตามส่งจากด้านล่าง
ชายหนุ่มครางเสียงต่ำดันกายเข้าไปลึกจนคนตัวเล็กจุก
ปลดปล่อยไอชีวิตชโลมพื้นที่ภายในเสียจนชุ่มโชกและมากเสียจนเจ้าของร่างรู้สึกว่ามันเริ่มไหลย้อนกลับออกมา
ทั้งสองหอบระรัวเหนื่อยอ่อน มาร์คซุกข้างลำคอขาวกดจูบคลอเคลียไม่ห่าง
แต่เป็นเจ้าของเรือนผมสีเงินที่ฝืนกายดันชายหนุ่มออก นอนตะแคงข้างไม่ยอมมองหน้า
นิ่วหน้ารู้สึกถึงของเหลวไหลลงมาเปื้อนร่องเนื้อ หลับตาไม่สนใจจูบอุ่นๆอ้อนขอโทษบนไหล่นวล
แจ็คสันกำลังคิดน้อยใจ...นัดมาแล้วก็ปล่อยให้เขารอเก้อ
กลับมายังไม่ทันได้มองหน้ากันดีๆก็บังคับเขาให้เปิดเผยเรือนกายโดยไม่จำยอม (?)
เจ็บก็เจ็บ ของฝากหรือก็ไม่มีมาปลอบใจ นี่ตกลงแจ็คสันเป็นคนสำคัญของมาร์คจริงๆหรือเขาแค่สำคัญตัวผิดกันแน่?
“คิดมากอีกแล้ว”ชายหนุ่มส่ายหน้า
จูบเรือนผมชุ่มเหงื่อดึงร่างขาวเปลือยเปล่าเข้ามากอดไว้แน่น แจ็คสันดิ้นนิดหน่อยแต่คงเพราะยังตึกสะโพกอยู่ถึงได้นิ่งไป
แต่ไม่ยอมพูดคุยกับเขาเหมือนเดิม
มาร์คถอนหายใจ... เขาแค่อยากแกล้งเล่นนิดหน่อย
ไม่ได้อยากให้งอนแล้วคิดมากแบบนี้สักหน่อย
“เรื่องไม่มีของขวัญ...ล้อเล่นน่ะ” ชายหนุ่มเฉลย
เอื้อมมือไปดึงกล่องเล็กๆในเสื้อคลุมตัวนอกออกมา “นี่ ชอบไหม?”
แจ็คสันลืมตาขึ้นมา
มองสิ่งของส่องประกายตรงหน้าแล้วก็เบิกตากว้าง
จิวตุ้มหูเล็กๆที่ฐานเป็นทองคำขาวรองรับอัญมณีสีแดงก่ำขอบมุมรับกันได้สมดุลงดงามจนต้องคารวะคนเจียรนัย
ดูงดงาม ล้ำค่าจนแจ็คสันไม่กล้าแตะต้อง
“ไม่เอา”คนตัวเล็กส่ายหน้า “ของแพงขนาดนี้ผมไม่เอาหรอก”
แม้จะดีใจ แต่ก็ไม่อยากให้มาร์คคิดว่าตัวเองมามีสัมพันธ์ด้วยเพราะเรื่องทรัพย์สิน
เขาไม่ต้องการของขวัญที่ราคาแพง ถึงจะงอแงเรื่องของฝาก แต่สิ่งที่เขาอยากได้ก็แค่เปลือกหอย
ก้อนหินจากต่างแดนหรือรูปถ่ายสักใบก็พอ
“ฉันอยากให้”มาร์คย้ำ ดึงคนตัวเล็กเข้ามาใกล้
พลิกกายเล็กเข้ามาหา ดันศีรษะกลมไว้กับแผ่นอก “นิ่งๆ เดี๋ยวก็เจ็บ”
“ไม่เอา”
ถึงจะอยากดิ้นแรงๆจนหลุดจากอ้อมแขนของคนขี้บังคับขนาดไหน
แต่แจ็คสันก็ต้องเกร็งตัวนิ่งหลับตาปี๋หวาดเสียว ร้องซี๊ดชั่ววินาทีที่โลหะเย็นๆทะลุเนื้อออกไป
แอบแปลกใจที่มือมาร์คเบาจนไม่เจ็บเลย ผิดกับตอนที่เขาเจาะหูครั้งแรก
ถึงกับผวาไปถึงสามวันสามคืน
“จุ๊บ...เสร็จแล้ว”ชายหนุ่มจูบจมูกรั้น เอ่ยเสียงอบอุ่นมองเด็กหลับตาปี๋ในอ้อมกอดตนด้วยความเอ็นดู
“งือ ก็บอกว่าไม่เอา”แจ็คสันบ่นงุ้งงิ้งหน้าแดงก่ำ
ก็คงทั้งเขินทั้งงอนนั่นแหละ แต่จะทำยังไงล่ะ
มาร์คก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ค่อยได้อยู่กับแจ็คสันเหมือนคนรักทั่วไป
ต้องหลบๆซ่อนๆเพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กถูกสังคมชั้นสูงของพวกเขาบีบบังคับ
นกน้อยแสนสวยจะงดงามเต็มที่ก็ต่อเมื่อกางปีกเหนือลมใกล้ชายฝั่ง
ไม่ใช่กางปีกส่งเสียงร้องเพลงในกรงทองในวังของสุลต่าน
แจ็คสันก็ต้องการแบบนั้น
และมาร์คก็แค่อยากขอบคุณ...
“ขอบคุณที่ไม่บินหนีนะ”
“อะไร? บินหนีอะไร ผมไม่ใช่นกสักหน่อย”
“ขอบคุณที่ยังรอกัน...ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วย...”
นิ้วป้อมส่งไปปิดริมฝีปากสวย จ้องใบหน้าหล่อเหลาดุๆ
“ผมบอกไปแล้วไงว่าผมรอได้ ขอแค่คุณมาหาผมบ้างก็พอ
ส่งข่าวมาบอกกันบ้าง...ผมไม่อยากได้ยินข่าวของคุณจากคำซุบซิบของคนในบาร์หรอกนะ
มันทำให้ผม...”
“คิดมาก”
“อืม ก็นั่นมันนิสัยผมนี่นา วันนั้นก็บอกไปกินข้าวกับมาดามฟอร์ส
อีกวันก็ไปยิงธนูกับเจ้าหญิงอลิซาเบท คุณคิดว่าคุณไร้เสน่ห์ขนาดนั้นเลยรึไง
ผมก็หึงเป็นนะ”
“ฉันเป็นของนายคนเดียว นายก็รู้”
“ผมรู้...แต่...ผมแค่คิดถึงคุณ”ในที่สุดคนตัวเล็กก็เผยความรู้สึกออกมา
โอบกอดคนตัวสูงคืน ซุกใบหน้าบนกล้ามอกด้านซ้าย แนบหูฟังเสียงหัวใจเต้นแรงของอีกคน
“ฉันก็คิดถึงนาย”มาร์คยิ้ม โอบคนตัวเล็กขึ้นไปนอนกอดกันบนหัวเตียง
คนตัวเล็กนั่งในอ้อมกอดชายหนุ่มสักพักก็
เอื้อมมือไปปิดไฟหัวเตียงปล่อยให้ความมืดปลกคลุมห้องกว้าง
มาร์คมองเขาด้วยความสงสัย
แสงจันทร์สาดเข้ามาในห้องทำให้มองเห็นภาพทุกอย่างสลัวราวกับเดินในความฝัน
“แจ็คสัน?”
“รอบเดียวพอเหรอ?”เด็กหนุ่มถาม
ขยับร่างเปลือยเปล่าของตนขึ้นคร่อมหน้าตักของอีกคน เรียวขาขาวแยกออก
วาดมือโอบรัดหลังคอโน้มใบหน้าหล่อเหลาที่สาวทั้งเมืองหลงรักเข้ามาใกล้
ใช้จมูกรั้นดุนดันจมูกโด่ง แตะเบียดริมฝีปากกับแก้มตอบทั้งสองด้านและจบลงที่ริมฝีปาก
บดคลึงออดอ้อน
มือเรียวที่ตอนแรกวางอยู่บนเอวขาวเริ่มไม่อยู่สุข
ในเมื่ออีกคนยั่วอ้อนขนาดนี้มาร์คก็ไม่ขอทนเหมือนกันเพราะเขาก็คิดแต่แรกแล้วว่าคืนนี้คงไม่จบที่เลข
2 แน่ ผิดคาดหน่อยก็ตรงแจ็คสันอ้อนเขานี่ล่ะ
“ให้ฉันนับทรายบนหาดยังง่ายกว่านับครั้งความคิดที่ฉันอยากกดนายลงเตียง
ที่รัก...”
.
.
.
“อ๊ะ มาร์ค”ร่างเล็กครางเสียงแหบขย่มกายขึ้นลงบนตักแกร่ง
ผิวกายขาวแดงระเรื่อเต็มไปด้วยรอยแสดงความเป็นเจ้าของเยอะพอๆกับตอนเป็นอีสุกอีใส
แทบไม่มีพื้นที่ใดว่างเว้นจากการโดนชายหนุ่มรังแก
ในขณะที่มาร์คประคองสะโพกนุ่มบีบเค้นจนมันขึ้นรอยมือ
แอบบังคับให้คนตัวเล็กขยับเวลาที่แจ็คสันอ่อนแรงลงและเด้งสะโพกบดคืนในบางโอกาส
“อ๊ะ มาร์ค อ๊า...อยู่ อึก อยู่กับผม”จู่ๆแจ็คสันก็พูดแบบนั้น
มาร์คมองใบหน้าหวานของคนรัก ดวงตากลมเต็มไปด้วยความเหงา ความน้อยใจและความหวัง
“อืม ฉันอยู่กับนาย”
“กี่วัน อือ กี่วัน”เด็กหนุ่มถามซ้ำๆ
ดวงตากลมคลอน้ำตา ไม่อยากหวัง ไม่อยากรอแบบไร้ความหมาย
เพราะรู้ว่ายังไงมาร์คก็อยู่กับตัวเองไม่นานแล้วก็ต้องไป และอีกไม่รู้เท่าไหร่ถึงจะได้กลับมาเจอกันอีก
“บอกผม”
“ขอโทษ”
“อือ ไม่เอาคำขอโทษ อ่ะ...กี่วัน”
“พรุ่งนี้ต้องไปแล้ว”
พลันทำนบน้ำตาก็พรูไหลลงมาอาบแก้มเนียน
เด็กหนุ่มหยุดตัวลง สะอื้นฮักเสียใจที่เวลากับคนที่รักสั้นเสียจนน่าใจหาย
พรุ่งนี้มาร์คก็จะไปแล้ว และไม่รู้อีกกี่เดือน กี่ปีถึงจะได้เจอกันอีก
“อย่าร้อง”ชายหนุ่มปลอบกอดร่างเล็กไว้แน่น
หัวใจราวกับโดนเข็มนับพันเล่มแทง เขาเกลียดน้ำตาของแจ็คสัน
เพราะเขารู้ตัวว่าน้ำตานั้นมันมีสาเหตุมาจากตัวเอง
เขาเป็นคนรักที่ไม่ดีเลยสักนิด...
ผลัก! ร่างสูงแผ่นอนลงกับฟูก
ร่างเล็กขึ้นคร่อมทับ
แม้จะยังไม่หยุดร้องไห้แต่แจ็คสันก็ดึงดันจะให้มาร์คสอดแทรกเข้าไปในช่องทางฉ่ำรักของตน
มือเล็กปาดน้ำตาป้อยๆ เอ่ยขอร้องด้วยดวงใจที่โหยหาการเติมเต็มจากคนที่รักอย่างเต็มเปี่ยม
...ขอแค่เวลานี้ เวลาของเขา เวลาของเรา...
“มาร์ค จูบผม ขอร้อง รักผมอีก”
มาร์ครู้ว่าคนตัวเล็กรู้สึกอย่างไร เขาโอบแจ็คสันเข้ามากอด
ปลอบประโลมลูบหลังเนียนสั่นระริกเพราะร้องไห้หนัก
“ขอร้อง ฮึก กอดผมแน่นๆ...ผมคิดถึงคุณ มาร์ค
คิดถึงมากๆ”
“ฉันคิดถึงนาย... จำไว้นะที่รัก
ว่าฉันรักนาย รักนายคนเดียว”
เปลือกตาช้ำบางลืมขึ้นมาเมื่อแสงอาทิตย์กระทบตา
มือเล็กปะป่ายหาคนที่โอบกอดตนทั้งคืนแต่ก็ไม่พบสิ่งใดนอกจากความว่างเปล่า
...มาร์คไปแล้ว...
ดูนาฬิกาก็พบว่าบ่ายกว่าๆแล้ว
ไม่แปลกใจว่าทำไมในห้องถึงเหลือเขาเพียงคนเดียว ก็มาร์คบอกว่าต้องไปวันนี้
ก็คงไปตั้งแต่เช้าโน่นนั่นแหละ แต่การไปโดยไม่ยอมบอกลากันสักนิดนี่สิ...
...คนใจร้าย...
กำลังจะล้มตัวลงนอนต่อ ก็ทันเห็นแก้วนมเย็นชืดบนโต๊ะข้างเตียงและการ์ดแบบเมื่อวานแนบอยู่
คนตัวเล็กเอื้อมมือไปหยิบมันมาอ่านช้าๆ
/ฉันต้องเดินทางไปเมืองหลวง อีกสามวันจะกลับ
ขอโทษที่ไม่ได้บอก เห็นนอนหลับสบาย
พักที่นี่เลยนะ ฉันจองให้นายแล้ว จะรีบกลับมา
ปล.อย่าร้องไห้ รู้ใช่ไหมว่าฉันเกลียดน้ำตาของนายเท่าๆกับที่ฉันรักนาย/
“ใครจะร้องเล่า”บ่นงึมงำทั้งๆที่ยกมือเช็ดน้ำอุ่นบนขอบตาเรื่อแดงป้อยๆ
วางการ์ดใบนั้นลง ทัดเส้นผมไว้ข้างหู เลื่อนลงมาคลึงโลหะประดับอัญมณีน้ำงาม
ดวงตาเหม่อลอยเหงาหงอย
ลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมตัวนอกของใครคนนั้นกระชับเข้าหากันปกปิดร่างเปลือยเปล่า
เท้าเล็กเดินไปที่ปฏิทินบนผนัง หยิบเอาปากกาขึ้นมาจิ้มนับวัน และวงวันที่ที่มาร์คสัญญาว่าจะกลับมาเอาไว้...เหมือนอย่างที่เขาทุกครั้งเวลาที่มาร์คต้องเดินเรือหรือไปทำงาน
“สามวันเหรอ”พึมพำเสียงเบา เดินช้าๆกลับไปที่เตียง
เอนกายลงนอนใต้ผ้านวมอุ่นๆแต่ยังอุ่นน้อยกว่าอ้อมกอดของคนที่คิดถึง
มือเล็กกระชับเสื้อคลุมปนกลิ่นน้ำหอมของมาร์คโอบตัวเองแน่นขึ้น “ถึงจะไม่นาน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่คิดถึงหรอกนะ
เพราะฉะนั้น รีบกลับมาให้กอดเดี๋ยวนี้เลยนะ...มาร์ค”
แจ็คสันก็ทำได้แค่บ่นและหลับตานอนหลับฝันถึงใครคนนั้น
เพราะอย่างไร เขาก็ทำได้แค่รอ...รอ...และรอ...
รอพบหัวใจตัวเองอีกครึ่งดวงอยู่เมืองนี้เท่านั้นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น