[SF] Pearl (MARKSON)
Pearl
MARK X JACKSON
วันเกิด เป็นวันพิเศษสำหรับทุกคน
เพราะเป็นวันที่แม่ได้กำเนิดเราขึ้นมาบนโลก ได้ออกมามีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้
ไม่แปลกที่ทุกคนจะตั้งความหวังไว้ว่าวันนี้ต้องมีอะไรที่แสนพิเศษ จะปาร์ตี้
ของขวัญหรือแฝนเซอร์ไพร์ส ยิ่งสำหรับคนมีคู่แล้ว พอถึงวันสำคัญนี้ทีไรจะต้องหวังให้คนที่ตัวเองรักให้ความสำคัญกับวันๆนี้ให้มาก
...นั่นเป็นเรื่องปกติใช่ไหมล่ะครับ?...
พอหมดคาบสุดท้ายของวันแจ็คสันก็ลงมารวมตัวกับเดอะแก๊งค์ของตัวเองหน้าคณะที่กำลังเม้ามอยหอยสังข์เกี่ยวกับความประทับใจในวันเกิด
“นี่ๆ ตอนวันเกิดแบมอ่ะ ยูคซื้อตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มาเซอร์ไพร์สหน้าบ้านล่ะ
ตอนนั้นตกใจมากเลย!”เจ้าน้องเล็กของกลุ่มเล่าประสบการณ์วันเกิดของตัวเองเสียงเจื้อยแจ้ว
“แล้วนายล่ะแจ็คสัน? วันพรุ่งนี้แล้วนี่
พี่มาร์คแย้มๆอะไรออกมารึยังล่ะ?”ยองแจแซวพลางหัวเราะสดใส
“ไม่มีเลย...”แจ็คสันตอบเสียงเศร้า
ทำเอาบรรยากาศในวงสนทนาอึดอัดขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“เฮ้ย ไม่น่า พี่มาร์คอาจจะรอเซอร์ไพร์สวันเกิดนายก็ได้นะ”
“พี่มาร์คต้องไปทำงานต่างจังหวัดน่ะ”
“...”คราวนี้ทุกคนเงียบของจริง
จินยองตบไหล่ของเจ้าลูกหมาของกลุ่มที่ทำหน้าหงอยเหงาหางลู่หูตกด้วยความเห็นใจ
“เอาน่า พี่มาร์คก็ทำงานแล้ว
จะมีธุระก็ไม่แปลกล่ะนะ”
“อืมๆ ถึงจะไม่ตรงวันเกิด
แต่เดี๋ยวก็มีของขวัญย้อนหลังเองล่ะน่า”ยองแจปลอบเสียงอ่อย
รู้สึกผิดเพราะเป็นคนเริ่มถามประเด็นนี้เอง
“อืม...”แจ็คสันยิ้มบางๆตอบกลับไป แต่ในใจกลับยิ่งเศร้ากว่าเดิมเสียอีก
...ไม่มีหรอก..
มาร์คไม่เคยจำวันเกิดเขาได้ด้วยซ้ำ
คุยกันอีกสักพักก็แยกย้ายกันกลับที่พัก
จินยองลากเจบีกลับหอ สองคนนั้นเช่าคอนโดอยู่ด้วยกัน ก็สมกับเป็นแฟนกันดี
ส่วนยูคยอม แฟนเด็กของแบมแบมก็เดินมารับแฟนตัวเองไปส่งหอ ส่วนยองแจก็นั่งรอแฟนอยู่ที่เดิม
เห็นว่าจะมาช้าหน่อย แต่ก็มีคนมารับ ส่วนแจ็คสันหวัง ถึงแม้จะมีเหมือนคนอื่นเขา
แต่ก็ต้องเดินกลับหอคนเดียวแบบนี้มันทุกวัน...
...คำว่ามีแฟนก็เหมือนไม่มีนี่เป็นแบบนี้นี่เองแฮะ...
จะโทษมาร์คทั้งหมดก็ไม่ได้หรอก
ในเมื่อหน้าที่การงานของมาร์คค่อนข้างจะสำคัญกับบริษัทและงานก็รัดตัวมากขนาดที่ว่าแทบกระดิกตัวไม่ได้เลย
จะให้มาคอยตามรับตามส่งเขามันก็ไม่ใช่เรื่อง
และเรื่องนี้ก็เป็นแจ็คสันเองที่เป็นคนบอกว่ามาร์คไม่กังวลเพราะไม่อยากจะให้ตัวเองเป็นตัวถ่วงของคนรัก
เพียงแต่เรื่องวันเกิดนี่มันคนละเรื่องกัน
มือเล็กรูดหน้าจอมองหาข้อความเตือนแต่ก็ไม่มีแม้แต่แมสเสจที่บอกถึงว่ามาร์คจะติดต่อมา
...สนใจกันหน่อยสิ...ปากแดงอิ่มยู่เข้าหากัน ถอนหายใจทิ้งเรื่องรกสมองเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง
เดินไปตามทางเดินสีชืดกลับหอพักที่ไม่ไกลจากตึกเรียนเท่าไหร่นัก
ย้อนความสักหน่อยว่าแจ็คสันกำลังเรียนอยู่ปีสาม
ปีหน้าก็จบการศึกษาแล้ว ส่วนมาร์คอายุมากกว่าเขาห้าปี เป็นลูกชายเจ้าของกิจการจิวเวอร์รี่
จบไปก็ได้ไปช่วยที่บ้านทำงาน พวกเขาคบกันมาสามปีแล้ว
เพราะมาร์คเป็นรุ่นพี่คณะข้างๆ แล้วมีเรื่องราวให้ได้เจอและตกหลุมรักกัน...แต่ก็ไม่ใช่เรื่องราวโรแมนติกน่าติดตามขนาดนั้นหรอกนะ
เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปตกลงเป็นแฟนกันได้ยังไง มันเป็นเรื่องที่ธรรมดาอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
เป็นคู่รักธรรมดาที่ไม่มีความหวือหวาอะไรเลยจริงๆ
สามปีที่คบกันนอกจากพาพบครอบครัวของกันและกันแล้วก็ไม่มีอะไรให้แจ็คสันรู้สึกตื่นเต้นได้อีก..อ่า...ยกเว้นเรื่องแบบนั้นไว้เรื่องหนึ่งอ่ะนะ...
แจ็คสันเดินมาถึงหน้าหอพอดีกับมือถือในกระเป๋ากางเกงแผดเสียงเตือนว่ามีสายเรียกเข้า
เป็นมาร์คที่โทรมาได้อย่างพอดิบพอดี
“ฮัลโหล”
“พรุ่งนี้มีเรียนไหม?”เสียงทุ้มต่ำถามเสียงเรียบ
“เห...อืม ไม่มีอ่ะ”
“อืม งั้นอีกสิบนาทีเจอกัน”จบประโยคก็วางสาย
ทำเอาแจ็คสันยืนเหวอ ไม่เข้าใจว่ามาร์คต้องการจะบอกอะไร
กดโทรออกแต่มาร์คก็ไม่ยอมรับสาย เลยได้ยืนแกร่งรอเจ้าของเสียงทุ้มต่ำแสนเอาแต่ใจนั่นอยู่หน้าหอต่อไป
ว่าแต่ มาร์คจะรู้ไหมว่าเขาอยู่ที่หอเนี่ย
ไม่ใช่ว่าไปรับคณะหรอกนะ -*-
ใจชื้นหน่อยตอนหลังจากนั้นไม่นานก็เห็นรถออดี้สีดำของมาร์คเลี้ยวตรงหัวมุมถนนเข้ามาจอดด้านหน้าเขา
กระจกเลื่อนลง ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาและผมสีช็อคโกแล็ตจัดทรงปกปิดรอยไถข้างศีรษะสวมแว่นกันแดดทรงเท่ห์เอียงหน้ามาหา
“รอนานไหม?”
“ไม่อ่ะ แล้วนี่พี่จะพาผมไปไหนเนี่ย”
“...เดี๋ยวค่อยคุย”เขาบอกแบบนั้น เลื่อนกระจกขึ้น
ขับรถไปจอดใต้หอ แล้วถึงเดินเข้ามาหา แต่ทันทีที่มาร์คปรากฏตัวสายตารอบด้านก็พพุ่งตรงมาที่เขาทันที
มาร์คเป็นที่หล่อเหลาและมีเสน่ห์แค่เพียงได้มองผ่านๆ
ถึงจะผอมไปหน่อยแต่พออยู่ในชุดสูททางการแบบนี้ก็ดูดีไม่หยอกเหมือนกัน
“พรุ่งนี้พี่จะไปทำธุระต่างจังหวัด”
“อืม ผมรู้แล้วไง”
“มารับไปด้วย”
“ฮะ!”ร้องด้วยความตกใจ
อวัยวะในอกเต้นรัว
...หรือว่ามาร์คจะจำวันเกิดผมได้...
“ไปนอนสองคืน ไปเตรียมของไป
เดี๋ยวพี่รออยู่ข้างล่าง”
“เฮ้ นี่บังคับกันเหรอ?”ผมแซวยิ้มๆ
“ไม่ว่างเหรอ? คราวหน้าก็ได้ แค่อยากพาไปเที่ยวด้วยน่ะ”
“...”
“มีอะไรรึเปล่า?”
“เปล่าฮะ...ขอเวลาไม่นานนะ เดี๋ยวผมลงมา”แจ็คสันตอบท่าทางผิดหวังอะไรนิดหน่อย
หันหลังรีบเดินขึ้นไปเก็บของก่อนที่น้ำตาจะคลอดวงตา
...จำไม่ได้จริงๆด้วย...
จังหวัดที่มาร์คไปทำงานค่อนข้างไกลจากเมืองหลวงและเป็นเมืองชายทะเล
จุดเป้าหมายคือแหล่งผลิตหอยมุก มาร์คต้องไปตรวจสอบดูการทำงานทุกๆสามเดือนเป็นปกติ
ครั้งนี้เห็นว่าเขาว่างเลยชวนเขาไปด้วยก็เท่านั้นเอง
...เอาเหอะ แค่นี้ก็ดีใจแล้วล่ะ...แจ็คสันถอนหายใจเฮือก
เขาก็ผิดเองที่หวังอะไรมากไป
มือเล็กเกะขนมปังจากร้านสะดวกซื้อกินระหว่างทางเพราะยังไม่ได้กินข้าวเย็น
พอกลืนคำแรกลงท้องสารถีขับรถก็เรียกร้องขึ้นมา
“ป้อนพี่ด้วย”
“เอาซองใหม่ไหม? ผมกัดแล้วอ่ะ”แจ็คสันลังเลที่จะส่งให้
“อันนั้นแหละ”บอกพลางอ้าปากรอ ตาก็จ้องถนนไป
แจ็คสันเลยยื่นจ่อปากชายหนุ่มให้กินง่ายๆ พอมาร์คกินไปคำหนึ่งก็กินอีกคำ
จนหมดซองนั่งแหละ
“นี่พี่หิวเหรอ?”อดถามไม่ได้
“นิดหน่อย...รีบมารับเรา”
“เหรอ .////.”ก้มหน้างุดเขินๆ ยัดขยะลงถุง
หยิบเอาถุงขนมปังอีกถึงมาแกะกินเอง ไม่ลืมแกะขนมอีกถุงป้อนให้มาร์คเรื่อยๆด้วย
อย่างมาร์คน่ะแค่นั้นไม่อิ่มหรอก เห็นผอมๆแบบนั้นกินเยอะจะตายไป
พวกเขาเดินทางในตอนกลางคืน มาร์คต้องมีสมาธิมากเป็นกว่าตอนกลางวัน
แจ็คสันเลยไม่กล้าชวนคุยเท่าไหร่นัก จนเวลาล่วงเลยสี่ทุ่ม เจ้าตัวกลมบนที่นั่งข้างคนขับก็หลับไปเรียบร้อย
มาร์คเหลือบตามอง เผยรอยยิ้มเอ็นดู หาจุดสว่างข้างทางจอดรถ
หยิบเอาผ้าห่มด้านหลังขออกมาคลี่ห่มให้
ไม่ลืมปรับแอร์ให้เย็นน้อยลงเพราะแจ็คสันเป็นคนขี้หนาว มือเรียวลูบเส้นผมนุ่ม
ก้มจุมพิตหน้าผากมนเบาๆ
“ฝันดีครับ ที่รักของพี่”
กว่าแจ็คสันจะรู้ตัวก็ตอนที่มาร์คปลุกเพราะถึงที่พักแล้ว
บ้านตากอากาศของตระกูลต้วนเป็นบ้านชั้นเดียวแต่กว้างขวางและครบครัน
เรียบง่ายและอบอุ่นน่าอยู่ จากตรงนี้มองเห็นวิวทะเลและภูเขา เสียดายว่ามาเป็นตอนกลางคืนเลยไม่ได้เห็นความงดงามของธรรมชาติเท่าไหร่นัก
มาร์คถือกระเป๋าของเขาทั้งคู่เข้าไปในบ้านก่อน
แจ็คสันนั้นถึงจะงงเบลอๆไปหน่อยแต่ก็อดยิ้มกับผ้าห่มบนกายตัวเองไม่ได้
พับมันเก็บไว้หลังรถ ทำตัวเป็นเด็กดีเก็บขยะออกมาทิ้งในถังขยะหน้าบ้านแล้วถึงวิ่งตามขึ้นไป
เพราะรอบข้างมืดสนิทไม่มีแม้แต่แสงไฟส่อง น่าขนลุกพิลึก
“อยากอาบน้ำก่อนไหม นั่นห้องน้ำ ส่วนนั่นห้องนอน
นอนก่อนเลยก็ได้ พี่ว่าจะเข้าไปในศูนย์เลี้ยงหอยก่อน”มาร์คชี้ไปตามตำแหน่งต่างๆของบ้าน
พลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองขึ้นพับไว้เหนือศอก
ท่าทางเหนื่อยล้าจนแจ็คสันอดห่วงไม่ได้
“จะไปเลยเหรอ? ไม่พักก่อนล่ะ
พี่เพิ่งขับรถมาถึงเหนื่อยๆเองนะ”
“อืม ไม่เป็นไรหรอก จะเดินไปน่ะ จากนี่ไปไม่ถึงกิโลหรอก”
“แต่มันมืดมากเลยนะ”ว่าพลางมองไปด้านนอก
มืดขนาดนั้นมาร์คจะเดินไปยังไง
“ต้องไปดูน่ะ คนงานเขาทำงานตอนกลางคืน”คนเป็นพี่เดินไปหยิบตะเกียงไฟขึ้นมาจุด
ท่าทางคล่องแคล่วแบบนั้นมาร์คคงทำมันเป็นเรื่องปกติ
“งั้นผมไปด้วยนะ”
“ไม่ต้องหรอก ไปนอนไป เป็นเด็กดีนะ”
“เฮ้!
ผมไม่ใช่เด็กสักหน่อยนะ! พรุ่งนี้ก็........”
“ก็?...”มาร์คหันมาถามด้วยความสงสัยเมื่อจู่ๆแจ็คสันก็หยุดพูดเสียเฉยๆ
“เอ่อ ไม่มีอะไร งั้นผมอาบน้ำนอนเลยแล้วกัน
พี่จะกลับตอนไหนล่ะ?”
“ตรวจเสร็จจะกลับมา ไม่ถึงชั่วโมงหรอก
เพราะพอเช้าก็ต้องเข้าไปตรวจทั้งวัน”
...แต่นี่มันวันเกิดผมนะ...
ตอนแรกที่เขาหลุดว่าพรุ่งนี้เพราะนึกว่ายังเป็นกลางคืนของวันที่
27 อยู่ แต่พอมองนาฬิกา ก็พบว่าตอนนี้เวลาตีสามของวันที่ 28 แล้ว...หมายความว่าตอนนี้เข้าวันเกิดของแจ็คสันหวังแล้ว
และไม่มีท่าทีว่าแฟนหนุ่มอย่างมาร์คต้วนจะจำได้เลย...
อยากจะตัดพ้อน้อยใจแต่พอเห็นมาร์คเหนื่อยจากการขับรถแล้วต้องไปทำงานต่อก็ไม่อยากพูดอะไรเอาแต่ใจอีก
วันเกิดปีนี้ก็คงแห้วอีกแล้ว
“ปิดบ้านดีๆล่ะ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับมา”มาร์คลูบศีรษะกลมไปมา
แล้วเดินออกไปจากบ้าน แจ็คสันล็อกประตู
เหม่อมองด้านหลังของชายหนุ่มที่เดินฝ่าเข้าไปในความมืดด้วยความเป็นห่วง
มองจนลับสายตาถึงได้ถึงเวลาไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเตรียมเข้านอน
นอนตีสี่ จะตื่นเมื่อไหร่ล่ะนั่น -*-
ห้องนอนมีห้องเดียว
เป็นเตียงคิงไซต์นุ่มน่าเอนตัวนอน
หันด้านปลายเท้าไปทางฝั่งชายหาดเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้อย่างชัดเจน
แจ็คสันเดินไปดึงม่านขาวแค่เอาไว้กรองแสงเข้า ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 12.00 แล้วถึงได้เวลาเข้านอนในวันเกิดตัวเองเสียที...
แจ็คสันสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุก
มือเล็กควานขึ้นมาปิด ตั้งใจจะหลับต่อแต่ก็ต้องนิ่งไปเมื่อเห็นว่าเจ้าของบ้านกลับมานอนแล้ว
พลิกตัวหันหน้าเขาไปหา จดจ้องใบหน้าหล่อเหลาแล้วยิ้มเล็กยิ้มน้อย
อดคิดไม่ได้ว่ามาร์คนี่หล่อจริงๆเลยน้า ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น จะไม่ดีก็ตรงจำวันสำคัญไม่ได้นี่แหละนะ
“พี่จะรู้รึเปล่านะว่าวันนี้วันเกิดผม
แต่ไม่เป็นไรหรอก แค่ผมได้อยู่กับพี่ในวันนี้ก็ดีใจแล้วล่ะนะ”พึมพำพูดกับคนที่ยังนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ
ยื่นมือไปแตะแก้มตอบก็เห็นว่าซูบลงกว่าครั้งก่อนที่เจอกัน มาร์คคงทำงานหนักน่าดู คิดแล้วก็ไม่อยากจะกวนเวลานอนของคนรัก
ลุกขึ้นจากเตียงไป
เสียงเคาะประตูหน้าบ้านเรียกให้แจ็คสันวางมือจากการหาอาหารทานในครัว
รีบวิ่งไปดูว่าใครมา ก็เห็นว่าเป็นผู้ชายพื้นบ้านใส่ชุดไปรเวทยืนรออยู่หน้าบ้าน
“มาหาใครครับ?”
“ผมมาหานายหัวมาร์คครับ ผมเป็นคนงานในศูนย์ครับ
ผมมาดูเพราะคุณมาร์คว่าจะเข้าศูนย์ แต่ไม่เห็นน่ะครับ”
“อ่า...งี้เอง พี่มาร์คหลับอยู่
แต่เดี๋ยวผมจะบอกเขาให้นะครับ”
“ครับๆ ขอบคุณนะครับ”
แจ็คสันปิดประตูเดินกลับเข้าไปในห้องนอน
ปีนเตียงเขย่าแขนชายหนุ่มที่นอนทั้งชุดเมื่อวานเบาๆ
“มาร์ค ตื่นนะ”
เขย่าอยู่นานก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น
คนตัวเล็กเลยตีแขนผอมดังเพี๊ยะใหญ่
“ตกลงจะตื่นไหมเนี่ย! มาร์คคคคคคคคคค”
“อือ...ตื่นแล้วๆ”ชายหนุ่มงัวเงียตอบกลับมา
คิ้วเข้มขมวดแน่น พลิกตัวขึ้นมานอนหงาย แขนยาวโอบรอบเอวอวบพอดิบพอดี
ใบหน้าหล่อซุกเข้าหาหน้าท้องแบนราบ สูดกลิ่นหอมของคนรักเข้าเต็มปอด “มีอะไร”
“คนงานเขามาเรียกแล้ว มาร์คต้องเข้าไปตรวจงานไม่ใช่เหรอ?”
“หืม...”มาร์คชะงักไป แล้วก็กระเด้งตัวขึ้นนั่งตื่นเต็มตา
มองนาฬิกาแล้วก็ยิ้มเห่ย “อ่า...สายแล้วจริงๆด้วย”
“ทันน่า รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเหอะ”
“อืม ขอบคุณนะแจ็คสัน”
“ไม่เป็นไรครับ”แจ็คสันยิ้มแย้มบอก มองมาร์คที่รีบเร่งไปอาบน้ำแต่งตัวราวกับหนูติดจั่นเพื่อรีบออกไปที่ศูนย์
แล้วบ้านพักก็เหลือแต่แจ็คสันอีกครั้ง
จมูกรั้นถอนหายใจเฮือกใหญ่
กำลังนั่งคิดฟุ้งซ่านโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา เห็นคนโทรมาแล้วก็ยิ้มกว้าง
ทักทายด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“หม่ามี้~ คิดถึงจังเลย”
“หม่ามี้ก็คิดถึงกากา สุขสันต์วันเกิดนะลูก
หม่าม๊าภูมิใจนะที่หนูเกิดมาเป็นเด็กดี เฮ้อ เวลานี่ผ่านไปเร็วจริงๆ หม่ามี้ยังจำตอนกากาเป็นก้อนแป้งกลมๆนิ่มๆน่าฟัดได้อยู่เลย”
“งืออ กากาเขินนะหม่ามมี้
แล้วกากาเคยเป็นก้อนแป้งที่ไหนกันเล่า”แบะปากยู่งอน
“จ้าๆ พ่อก้อนแห้งของหม่ามี้
แล้ววันนี้จะไปฉลองที่ไหนกันจ๊ะ”
“ไม่ได้ฉลองหรอกหม่ามี้
ตอนนี้กากาอยู่ต่างจังหวัดกับพี่มาร์คอ่ะ”
“อ้าว ก็ดีแล้วนี่นา ไปฉลองต่างจังหวัด”
“ไม่ได้ฉลองหรอก
พี่มาร์คมาทำงานก็เลยหิ้วกากามาด้วยต่างหาก แถมจำวันเกิดกากาไม่ได้ด้วยเนี่ย”
“เอ๋...มาร์คน่ะเหรอ? แน่ใจเหรอ?
ไม่ลองถามพี่เขาไปล่ะลูก”
“ไม่เอาหรอก พี่มาร์คดูงานยุ่ง กากาไม่อยากกวน
แค่วันเกิดเอง ได้คุยกับหม่ามี้กากาก็พอใจแล้ว”
“แหม เด็กปากหวาน ไม่ต้องมากลบเกลื่อนเลย
งอนพี่เขาอยู่ล่ะสิ”
“...ก็นิดหน่อยอ่ะ”คนโดนจับได้อ้อมแอ้มตอบ
“เฮ้อ พี่เขาอาจจะงานเยอะจนลืมจริงๆ...แต่มาร์คก็รักลูกหม่ามี้มากๆเลยนะ
อุตส่าห์มาฝากตัวเป็นเขยขนาดนั้นแล้ว คิคิค แต่อย่าลืมไปบอกพี่เขาล่ะ ว่า...ถ้าทำกากาเจ็บ
หม่ามี้จะตัดสิทธิลูกเขยจริงๆด้วย”
“ให้จริงเหอะ หม่ามี้น่ะรักพี่มาร์คมากกว่ากากาอีก”
“เด็กโง่
แม่คนไหนจะรักคนอื่นได้เท่าลูกที่ตัวเองคลอดมาล่ะ...หม่ามี้รักกากานะครับ”
“กากาก็รักหม่ามี้จะครับ รักมากๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“หม่ามี้ก็รักกากามากๆๆๆๆๆๆๆๆเหมือนกันครับ
แค่นี้ล่ะนะ โทรข้ามประเทศมันแพง”
“ค๊าบบบ รักมี้นะ จุ๊บ”
พอวางสายไปก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หลังจากนั้นก็มีสายเรียกเข้าเต็มไปหมด
ทั้งพี่น้องที่รู้จักโทรมาสุขสันต์วันเกิดมากมาย บางคนก็ส่งข้อความมาแทนเสียง
ส่วนคนในแก๊งค์ก็วิดีโอคอลมาสุขสันต์วันเกิดรายคู่ (เป็นคู่ๆจริงๆนะ)
ยังไม่วายแซวว่าของขวัญวันเกิดจะเอาให้หลังจากฮันนีมูนเสร็จอีกแหนะ
...ไม่ใช่ฮันนีมูนสักหน่อยนะ! แล้วก็ไม่ใกล้เคียงเลยด้วย...
เจ้าบ่าวที่ลืมเจ้าสาวตอนมาเที่ยวน่ะ
ไม่ได้เรียกฮันนีมูนหรอกนะ (ว่าแต่ผมเป็นเจ้าสาวเหรอ? ไม่เอาดิ! ไม่เป็น!!!)
ไม่รู้ว่าเผลอพล็อยหลับไปนานเท่าไหร่
รู้ตัวอีกทีด้านนอกก็มืดมากแล้ว เวลาตอนนี้ก็สามทุ่ม
และอีกสองชั่วโมงก็จะหมดวันเกิดเขาแล้ว
...แต่มาร์คก็ยังไม่กลับมา...
คนตัวเล็กเดินไปนั่งหน้าระเบียง
รอคอยคนตัวสูงด้วยใจที่ยังมีความหวัง หวังว่ามาร์คจะกลับมาทัน
หวังว่ามาร์คจะไม่ลืมวันเกิดเขาเหมือนหลายปีที่ผ่านมา
.....
...
..
แต่มันก็แค่ความหวัง
ตากลมคลอน้ำตามองเวลาบนหน้าจอด้วยใจที่เจ็บปวด
23.45
...ลืมจริงๆสินะ...
อีก 15 นาที
มาร์คจะทำผิดสัญญากับเขาเป็นครั้งที่สอง
...สัญญาว่าจะให้ความสำคัญในวันเกิดของกันและกัน...
ไม่รู้ว่ามาร์คจะจำได้ไหมว่าเคยสัญญากับเขาเอาไว้ในวันที่ตกลงคบกัน
มาร์คบอกว่าจะอยู่กับเขาและฉลองร่วมกันในวันเกิดของกันและกัน
ไม่ว่าจะมีงานหรือมีเรียน จะแบ่งเวลามาเพื่ออยู่ร่วมกันในวันสำคัญนี้
ซึ่งแจ็คสันไม่เคยผิดสัญญาแม้แต่ปีเดียว แต่มาร์คกลับผิดสัญญาติดต่อกันถึงสองปี...
เขาจะคิดว่านี่คือการที่มาร์คไม่เห็นความสำคัญและหมดรักเขาแล้วได้หรือเปล่า?
เขาจะคิดได้ไหมว่ามาร์คอาจจะลืมและจากเขาไปในไม่ช้า
แค่ความห่างของอายุ หน้าที่การงานและเวลาก็ทำให้แจ็คสันหนักใจมากแล้ว
ยิ่งเจอเหตุการณ์แบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกแย่เข้าไปอีก
บางที...แจ็คสันกับมาร์คอาจจะไม่ได้เกิดมาคู่กันจริงๆ
แซ่ก แซ่ก
เสียงรอยเท้าย่ำทรายและแสงตะเกียงจากไกลๆเรียกความสนใจจากคนที่นั่งซุกเข่าบนระเบียงบ้าน
แจ็คสันลุกขึ้นหรี่ตามองก็เห็นว่าเป็นคนที่ตัวเองกำลังตัดพ้อในใจ
แต่อยู่ในสภาพที่ทำให้แจ็คสันตกใจ
“มาร์ค!”
คนตัวเล็กวิ่งเข้าไปใกล้
มือเล็กปัดฝุ่นบนตัวชายหนุ่มออก
มองใบหน้าหล่อเหลามอมแมมด้วยความเป็นห่วงปนไปด้วยความไม่เข้าใจ
“ทำไมถึงมอมแมมแบบนี้ล่ะ? ไปทำอะไรมา”
เหมือนมาร์คจะเพิ่งรู้ตัว
ก้มมองสภาพตัวเองแล้วยิ้มแห้ง “สงสัยจะรีบไปหน่อย”
“รีบทำอะไร...อ๊ะ”
คนตัวเล็กตกใจเพราะจู่ๆมาร์คก็จับมือด้านซ้ายของเขาขึ้น
และยื่นสิ่งหนึ่งเข้ามาสวมให้
กำไลเชือกถักสีดำห้อยจี้มุกเม็ดเล็กน้ำงาม
มูลค่าคงแพงไม่น้อยหากปล่อยไปสู่ตลาด
“พี่ทำเอง...แต่มันไม่สวยเท่าไหร่ ขอโทษด้วยนะ”
“...นี่มัน...พี่ทำให้ผมเหรอ?”ปลายนิ้วกลมเกลี่ยของบนข้อมือด้วยความไม่อยากเชื่อ
ตากลมเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาที่เริ่มสีระเรื่อขึ้นมาประดับ
“อืม...ก็ของขวัญวันเกิดนายไง”
“...”
มาร์คสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ๆร่างเล็กก็โถมตัวเข้ามากอดเขาแน่น
ความเปียกชื้นบนแผ่นอกเป็นตัวบ่งบอกว่าคนรักของเขากำลังร้องไห้ แขนยาวโอบกอดและจับใบหน้ากลมขึ้นมาสบตาด้วย
ปลายนิ้วเรียวปาดน้ำตาออกจากดวงตากลม และก้มลงจุมพิตหน้าผากขาวเบาๆ
“ร้องไห้ทำไม ไม่ดีใจเหรอ?”
“ฮึก ดีใจสิ แต่...แต่ผมนึกว่าพี่ลืมไปแล้ว”
“ไม่กล้าลืมแล้ว
ปีก่อนที่เห็นแอบไปร้องไห้น้อยใจก็ไม่กล้าลืมแล้ว”
“...เห็นด้วยเหรอ”แจ็คสันถามและกอดชายหนุ่มแน่นเข้าด้วยความดีใจ
งั้นที่เขาคิดมากทั้งวันนี่คือแค่คิดน้อยใจไปเองสินะ
“อืม...ขอโทษนะ ตั้งใจจะพามาฉลองวันเกิดแต่ดันเสียเวลาเพราะพี่ตื่นสาย”
“นี่ไม่ได้มาทำงานหรอกเหรอ”
มาร์คยิ้มอ่อนโยน ก้มลงจุมพิตหน้าปากมน
ปลายจมูกรั้นน่ารักและริมฝีปากอิ่มเอิบสีสวยวางแนบเสียจนแก้มกลมแดงก่ำราวผลแอปเปิล
“มาทำงานสิ แต่คนรักต้องมาก่อน จริงไหม?
สัญญากันไว้แล้ว พี่ไม่ยอมทำผิดอีกเป็นครั้งที่สองหรอก”
“ฮึก...”คราวนี้แจ็คสันยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม
ราวกับความหนักใจทั้งหมดถูกยกออกไป
มาร์คไม่ได้ลืมวันเกิดเขา
มาร์คไม่ได้ลืมสัญญาของเรา
“พี่ดีใจนะที่แจ็คสันได้เกิดมา ได้มาเจอกับพี่
ได้เป็นคนที่พี่รัก ขอบคุณที่เป็นคนที่น่ารักของพี่เสมอ
ขอโทษที่พี่เป็นแฟนที่ออกจะเย็นชาไปหน่อย...แต่พี่รักนาย รู้ใช่ไหม?”
“ไม่รู้หรอก...”มือเล็กเช็ดน้ำตาป้อยๆ
แต่กลับยิ้มกว้างอย่างหยุดไม่ได้ “ถ้าพี่ไม่บอกก็ไม่รู้หรอก ดังนั้น
คำอธิฐานในปีนี้ ผมจะขอให้พี่บอกรักผมทุกวัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
“หืม? ทุกวันเลยเหรอ?”
“ใช่! ทุกวันเลย”
“จะไม่เบื่อเหรอ?
เปลี่ยนจากบอกรักไปเป็นอย่างอื่นได้ไหมล่ะ?”
“แล้วจะเปลี่ยนเป็นอะไรล่ะ ถ้าไม่ดีเท่า
ผมจะ...อื้อ!!!”
น้ำเสียงเจื้อยแจ้วถูกกลืนหายไปเพราะริมฝีปากสวยเข้าทาบทับ
จูบอ่อนหวานที่มาร์คบรรจงมอบให้สื่อความรู้สึกทั้งหมดที่มีให้กับคนในอ้อมแขน
จวบจนอีกฝ่ายหายใจไม่ทันจึงถึงคราวได้ผละออกด้วยความเสียดาย มือเรียวกอบกุมใบหน้าน่ารัก
เกลี่ยผิวแก้มนุ่มด้วยความอ่อนโยน
ดวงตาสวยทอประกายความอบอุ่นและเอ็นดูจนแจ็คสันเขินตัวจะแตก
“พี่จะจูบนายทุกวัน ก่อนที่พี่จะไปทำงาน และพี่จะบอกรักนาย
ทุกคืนก่อนนอน...
แจ็คสัน...มาอยู่ด้วยกันกับพี่นะครับ”
“...เหมือนขอแต่งงานเลยอ่ะ”
“ใช่...พี่กำลังขอนายแต่งงาน รู้ตัวสักทีสิเด็กโง่”
“เอ๊ะ! เดี๋ยวสิ! จริงเหรอ?!”ดวงตากลมเบิกกว้าง อ้าปากพะงาบๆตกใจ
...นี่มันเกินกว่าที่หวังเยอะเกินไปแล้วนะ!!!...
“จริง พี่ไปขอพ่อแม่เราตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้มาขอนาย”มาร์คพูดยิ้มๆ
เอ่ยย้ำกับคนในอ้อมแขนอีกครั้ง “แจ็คสัน ได้โปรด แต่งงานกับพี่นะครับ”
“ผมยังไม่จบเลยนะ”
“ก็อยู่กันไปก่อนไง”
“อยู่ก่อนแต่งเดี๋ยวคนก็ว่าเอา”
“ถ้าแจ็คสันไม่ท้องก็ไม่น่ามีคนว่านะ”
“เฮ้! ผมเป็นผู้ชาย
จะท้องได้ไงเล่า!”แจ็คสันโวยวายหน้าแดงก่ำ
นี่พูดเรื่องอะไรเนี่ย!
มาร์คยิ้มเอ็นดู จุมพิตไปอีกหนึ่งครั้ง
“ไม่ต้องห่วงหรอก...เชื่อใจพี่นะครับ”
“...ถ้าผิดสัญญาอีก ผมจะขอหย่าล่ะนะ”
“อืม ขู่โหดขนาดนี้ พี่ไม่กล้าหรอก”
“...งั้น...ผมตกลงครับ”
วันเกิดของผมปีนี้...
ไม่มีงานเลี้ยงฉลอง
ไม่มีเค้กวันเกิด
ไม่มีอาหารเลิศรส
ไม่มีผู้คนห้อมล้อม
แต่ผมมีคนที่ผมรักอยู่ข้างกาย
ขอบคุณนะครับ พี่มาร์ค
ขอบคุณนะฮะ หม่ามี้ที่ให้ผมได้เกิดมา
ขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนตัวผม
ขอบคุณครับ
#จบเหอะ พล็อตบ้าอะไร 5555555555555555555555555
เผาสุดชีวิต จบแบบป่วงๆ ฮือออออ เราขอโทษ
เนื่องในวันเกิดน้องแจ็ค อยากอธิฐานให้น้อง
ขอให้หนูสุขภาพแข็งแรง
อย่าเจ็บอย่าป่วยอะไรอีกเลยนะลูก แม่ปวดใจเวลาหนูป่วย TT
ขอให้เป็นเด็กน่ารักแบบนี้ไปเรื่อยๆ ขอให้รอยยิ้มของหนูสดใสเหมือนตอนเดบิวอีกครั้งนะลูก
ขอให้วงประสบความสำเร็จนะครับคนเก่ง
จะคอยสนับสนุนอยู่ห่างๆนะครับ สู้ๆนะลูก (แต่อย่าหักโหมจนป่วยนะ
เดี๋ยวแม่ก็ตีก้นซ้ำซะเลย)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น