[SF] Fire.Sugar.Love (MarkSon)

Fire . Sugar . Love
Mark X Jackson









ของเหลวสีทองอำพันในแก้วใสทรงสูงตั้งตรงใช้ยกส่องมองภาพคนมากมายในงานด้วยความเบื่อหน่าย คุณนายที่แต่งตัวหรูหราระยิบระยับด้วยเครื่องเพชรราคาแพงตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับของพวกนั้นจะทำให้ทุกคนลืมรอบเอวขนาดมากกว่าสี่สิบของพวกเธอได้ พวกผู้ชายในชุดสูทก็จับกลุ่มกันตามมุมห้อง พูดคุยโอ้อวดกันเรื่องธุรกิจ บรรยากาศปกติที่พบทุกครั้งตอนพ่อบังคับให้เขามาออกงานบ้าง ทั้งที่เขาอุตส่าห์หนีออกมาเที่ยวถึงฮ่องกงนี่แท้ๆ
น่าสะอิดสะเอียนจนอยากขย้อนของเก่าออก แต่ก็ทำได้แค่สวมใบหน้าเย็นชาเรียบเฉย ทำหน้าไม่รับแขกเพื่อไล่ทางบรรดาผู้คนที่กำลังคิดจะมาเชื่อมสัมพันธ์กับเขาทางอ้อม ยืนพิงกำแพงข้างห้องไม่สบตาไม่สนใจใคร จะมีเหลือบตามองบนเวทีบ้างเพื่อรอเวลาประธานเปิดงาน พอถึงเวลานั้นเขาจะได้เข้าไป แนะนำตัว แสดงความยินดีและขอตัวกลับเพราะมี ธุระด่วนอยู่ร่วมงานต่อไม่ได้
...ถึงจะโดนพ่อบ่นหูชา เขาก็ไม่สนแล้ว...



งานเลี้ยงแสนจืดชืด...หน้ากาก เพชร มายา
ผมเกลียดมัน แต่ผมก็ต้องอยู่กับมัน
ผมกำลังแย่กับความหนาวเหน็บแสนเย็นชา
แต่ในที่สุด...ผมก็พบคุณ...ไฟของผม



เสียงฮือฮาดังขึ้นหน้างาน อดไม่ได้ที่จะเอี้ยวหน้ากลับไปดู เลิกคิ้วข้างหนึ่งมองร่างสองร่างที่เดินเข้ามาในงาน คนในงานดูจะตื่นเต้น กระแสความสนใจพุ่งตรงไปยังบุคคลที่เดินเข้ามา ผมหรี่ตามองก็ถึงบางอ้อ
เจ้าบ้านตระกูลหวัง ตระกูลมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลบนเกาะฮ่องกง ธุรกิจผลิตภัณฑ์การกีฬาครบวงจร ตั้งแต่อุปกรณ์การกีฬา รวมไปถึงโดมแข่งขันระดับประเทศก็เป็นของคนตระกูลนี้ ถึงจะไม่สนใจแต่ก็โดนพ่อบังคับให้จำรายชื่อคนพวกนี้จนขึ้นใจ แต่คนข้างๆเจ้าบ้านนั่นต่างหากที่ทำให้ผมสนใจ
          เด็กหนุ่มอายุคงไม่ต่างจากผมเท่าใดนักในชุดสูทสีดำพอดีตัวเผยรูปร่างทรวดทรงเล็กกระชับ เนกไทผูกหลวมๆกลางอกคล้ายผูกโบช่วยไม่ให้สีดำดูดกลืนความสดใสตามวัยของเขาไป เส้นผมสีน้ำตาลเข้มแลนุ่มลื่นมือปรกคิ้วหน้าผากนวลขับดวงหน้าอ่อนวัยให้ผ่องใสโดดเด่น ดวงตากลมโตเคลือบประกายแวววาวดึงดูดสายตาใครต่อใครไม่แพ้กระทั่งผม จมูกรั้นได้รูป ริมฝีปากอิ่มเอิบสีชมพูแดงจัดราวกับลูกเชอร์รี่ในแก้วคอกเทลในงานทำให้ลำคอผมแห้งผาก อยากดื่มคอกเทลเชอร์รี่ขึ้นมาในทันใด
          เขาก็คงเป็นลูกคนรวยผู้ไร้เดียงสาทั่วไป...ผมคิดแบบนั้น ก่อนแผ่นหลังจะตรงแหน่วอย่างไม่รู้ตัวเมื่อ เรา ได้เผลอสบตากัน
          ใบหน้าอ่อนเยาว์ยิ้มทักทายทุกคนอย่างไร้เดียงสา ท่าทางน่ารักนอบน้อมน่าเอ็นดู ทั้งหมดทำให้ทุกคนคิดว่าเขาคือลูกแกะ...แต่ไม่...ลึกลงไปในดวงตากลมใสนั่นไม่ได้นุ่มนิ่วอ่อนหวานเลยสักนิด แม้จะวูบเดียว ผมก็รู้



ที่รัก ผมเห็นดวงไฟเร่าร้อนในดวงตาของคุณนะ
คุณปิดคนอื่นได้ แต่คุณหลอกผมไม่ได้หรอก
อ่า...ผมอยากลองเล่นกับไฟไร้สีอย่างคุณจังเลย
ผมอยากรู้ว่าจะมีอะไรอยู่ข้างในนั้น



ผมยืดเวลาอยู่ในงานเลี้ยงต่อไปอีกหน่อยแทนที่จะรีบเร่งออกไปอย่างที่เคยตั้งใจ เพียงเพราะอยากจะทำความรู้จักเด็กหนุ่มคนนั้น คนที่ผมรู้ว่าชื่อ หวัง แจ็คสัน และอายุน้อยกว่าผมสามปี ผมยืนจับจ้องเขาจากที่เดิมตรงนี้ สังเกตดูทุกอากัปกิริยาอย่างไม่กลัวว่าจะโดนเขาจับได้
เพราะแจ็คสันรู้ตัวแล้ว
บ่อยครั้งที่เราสบตากัน ผมไม่หลบสายตาเขา เขาก็ไม่หลบสายตาผม ริมฝีปากเชอร์รี่นั้นยิ้มมุมปากเล็กๆให้ผม ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไม่เกินครั้งละสองวินาทีด้วยซ้ำ แต่ผมรู้สึกเหมือนนักตกปลาที่โดนปลาตัวใหญ่ตอดเบ็ดแต่ไม่ยอมกินเหยื่อให้ตกเสียที แจ็คสันจะรู้ไหมว่าคอผมแห้งผากขึ้นทุกที และหากเขาทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมว่าผมต้องเสียสติฉวยคอกเทลแก้วนั้นมาดื่มแน่ๆ
ผมเลิกทำตัวเป็นราชสีห์สันหลังยาว ก้าวยาวๆเข้าไปหาวงสังคมใหญ่โตตรงกลางห้อง แอเรียที่ผมไม่คิดจะย่างกรายเข้ามาใกล้ แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเหยื่อของผมอยู่ในนี้...ข้างคุณพ่อของเขา
“สวัสดีครับ คุณหวัง ยินดีที่ได้เจอคุณอีกครั้งนะครับ”ผมกล่าวกับเจ้าบ้านตระกูลหวังพร้อมยื่นมือไปสัมผัส เจ้าบ้านมองหน้าผมเล็กน้อยก็เบิกตาโตอย่างยินดี จำได้ทันที
“อ้าว คุณมาร์คนี้เอง ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณที่นี่ คุณพ่อสบายดีนะ”
เจ้าบ้านตระกูลหวังยังอัธยาศัยดีเช่นเคย เราเคยเจอกันที่ไต้หวันเพื่อตกลงธุรกิจกัน ดังนั้นจึงไม่ยากเลยที่ผมจะเนียนก้าวมาอยู่ต่อหน้าแจ็คสัน
“ครับ สบายดีครับ...”ผมเว้นที่ว่างไว้ ส่งสายตาแสร้งสงสัยไปที่คนข้างๆ
“อ้อ แจ็คสัน หันมาทักทายพี่เขาสิ นี่มาร์ค ต้วน ลูกชาย กลุ่มธุรกิจต้วน ส่วนนี่แจ็คสันครับ เป็นลูกชายคนเดียวของผม”
“สวัสดีครับ พี่มาร์ค...”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ แจ็คสัน”
แจ็คสันสบสายตากับผม ริมฝีปากยิ้มหวาน แม้จะเป็นเสี้ยววินาที แต่ผมเห็น...เห็นแววตาท้าทายส่งกลับมาให้ใจคันยิบๆ เขาพยักหน้าทักทายผมเล็กน้อย ขออนุญาตเจ้าบ้านเลี่ยงออกไปหยิบแก้วไวน์สองแก้วกลับมา
“ถือว่าเป็นการแสดงความยินดีที่ได้รู้จักกันนะครับ ผมหวังว่าในอนาคตเราจะยังได้ทำงานร่วมกัน”ริมฝีปากอิ่มเอ่ยเชิญชวนเสียงนุ่มนวล ยื่นแก้วหนึ่งให้ผม
ผมแย้มยิ้มกว้าง เปิดทางให้ขนาดนี้ถ้าไม่เล่นด้วยสักหน่อยเดี๋ยวจะได้ใจเกินไปสินะ...คิดแล้วยื่นมือออกไปรับ จงใจไล้ปลายนิ้วกับนิ้วมือนุ่มก่อนดึงแก้วไวน์ออกมาถือ เคาะขอบแก้วเบาๆกับแก้วอีกคนที่ดูอึ้งไปนิดๆ
กริ๊ก
“แน่นอนครับ...ผมก็หวังอย่างนั้น”
แจ็คสันยิ้มแล้วยกแก้วขึ้นดื่ม ผิวแก้มขาวออกสีเรื่อจางเพราะผิวเขาขาวมาก มันเลยสังเกตได้ง่าย แต่ผมจะพออนุโลมคิดไปเองก็ได้ว่าเพราะฤทธิ์ไวน์ที่เจ้าตัวเพิ่งได้ดื่มเข้าไปพร้อมกับผม ไม่ใช่เพราะ...เขิน
เจ้าบ้านหวังเดินออกไปแถวหน้าเวทีเพื่อไปพบกับเจ้าของงาน เป็นจังหวะให้ผมและเขาได้อยู่ด้วยกันสองคน แต่พอกำลังจะเริ่มคุยกัน ความน่ารำคาญก็เข้ามาแทรกทันทีทันใด
พวกผู้หญิงใจกล้าเข้ามาหาพวกเราคนสองคนจนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ แจ็คสันหันไปสนใจและพูดคุยกับหญิงสาวเหล่านั้น ในขณะที่ผมยืนนิ่งๆให้พวกเธอพูดคนเดียวไป ใจไม่อยากจะสนทนาด้วยเพราะรู้จุดประสงค์ของแต่ละคนดี สายตากระหายเงินแบบนั้นไม่เคยปิดมิด ผมไม่ชอบคนที่เปิดเผยเกินไป เลยตอบอืมในลำคอบ้างเป็นเชิงรำคาญ



ถึงผมไม่ไปรายล้อมคุณเหมือนแมลงวันพวกนั้น
คุณก็คงเห็นสินะ...เปลวไฟสีดำอย่างผมน่ะ
ผมพร้อมจะไล่แสงไฟฉายน่าแสบตารอบผมเพื่อคุณเลยนะ



“ว้า คอกเทลหมดแล้ว ขออนุญาตไปเติมก่อนนะครับ สาวๆ”คนข้างๆผมเอ่ยเสียงนุ่ม ปลอบประโลมหญิงสาวรอบกายเขาด้วยรอยยิ้มหวานๆ หมุนลำตัวเตรียมจะเดินออกไป แต่ทันใดดวงตากลมก็ตวัดมามองผม...ด้วยสายตา...เชิญชวน
เขาค้างจังหวะไว้เล็กน้อย พลิกเดินกลับมาใกล้ผมในระยะชิดไหล่ ลำแขนเล็กพาดยื่นมาจับแก้วในมือ นิ้วนุ่มๆที่ผมแอบสัมผัสไปเมื่อครู่กลับมาสร้างความปั่นป่วนบนฝ่ามือ
“ของคุณมาร์คก็หมดนี่ครับ ผมไปเอาใหม่ให้นะ ผมว่า...คุณคงกำลังร้อนมากแน่ๆ”
แจ็คสันเอ่ยเสียงเบา ช้อนสายตาขึ้นสบ ริมฝีปากสีเชอร์รี่ยิ้มบางๆขณะดึงแก้วเปล่าออกจากมือไป
 “ครับ ร้อนจะแย่”ผมพยายามเหลือเกินที่จะไม่พูดเสียงแปลกๆออกไป แต่มันคงไม่เนียนสินะ คนตรงหน้าถึงได้ยิ้มคิกคักซุกซนแบบนั้น
...จะทำให้อยากชิมไปถึงไหนนะ แจ็คสัน...
“คิก งั้น เดี๋ยวผมมานะครับ”
แล้วเขาก็เดินออกไปทางโต๊ะเครื่องดื่ม พอหลุดจากตรงนี้แจ็คสันก็โดนรุมที่ตรงนั้น ทำเอาผมหงุดหงิดแทบอยากเดินไปดึงเขาออกมาให้รู้แล้วรู้รอด แจ็คสันเป็นคนอัธยาศัยดีเหมือนพ่อ ใครเข้ามาคุยก็คุยได้เรื่อยๆ ดูท่าทางแล้วจะเชี่ยวชาญอยู่พอดู
แล้วจู่ๆสายตาคมๆก็มองลงต่ำเพราะคนที่หมายตาอยู่ท้าวแขนตัวเองลงกับบาร์ในงานเลี้ยง เอนตัวทิ้งสะโพกลงอย่างผ่อนคลาย มันช่วยไม่ได้เลยว่ากางเกงผ้าเนื้อดีนั่นรัดองเอวและสะโพกงอนให้เด่นชัด ยกนิ้วสั่งเครื่องดื่มด้วยยิ้มหวานๆ เอียงใบหน้าพูดคุยกับหญิงสาวคนข้างๆด้วยท่าทีเป็นมิตร
เอาจริงๆแล้วมันไม่ได้มีอะไร แต่สายตาของคนที่คิดจะคุย กับคนที่คิดจะ กิน มันต่างกัน
ทั้งที่คนตัวเล็กนั่นไม่ได้ใส่ซีทรู ไม่ได้ใส่เสื้อแหวกอก ไม่โชว์เนื้อหนังมังสานอกจากมือและใบหน้า แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงได้ร้อนนัก
ร้อนรุ่มไปทั้งตัว...ราวกับโดนเปลวไปของแจ็คสันเล่นงานเข้าอย่างจัง
แค่จังหวะการลงสะโพกหรือขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขาเป็นบ้าได้
กึด!
“ขอตัวนะครับ”ผมรีบขอตัวออกจากวงล้อมของผู้คนทันทีที่รู้สึกตัวจากความเจ็บแปลบบนริมฝีปากล่าง เดินออกไปสงบอารมณ์ด้านนอกงาน ถอนหายใจหนักๆให้กับตัวเอง
...ผมเผลอกัดปากตัวเอง...
แจ็คสันกำลังทำผมเป็นบ้าเข้าแล้วจริงๆ คิดในใจอย่างหัวเสีย แลบลิ้นเกลี่ยรอยแตก กลิ่นคาวเลือดบางๆเจือจางกับน้ำลาย รสชาติปะแล่มพิลึก
...อยากได้อะไรกลั้วคอ อะไรหวานๆ อะไรก็ได้ที่สีสวยๆ...
 “คุณอยู่นี่เอง”
เหมือนริมฝีปากคู่นั้น
ต้นเหตุเรื่องทั้งหมดเดินยิ้มเข้ามายืนข้างผมพร้อมเครื่องดื่มสองแก้ว เมื่อรอบตัวไม่มีใคร กลิ่นน้ำหอมหวานสดชื่นของคนตัวเล็กก็กำจายไปทั่ว แค่สูดเข้าไปเฮือกเดียว ใจผมก็สั่นจนไม่แน่ใจว่านี่น้ำหอม ยาพิษหรือยาเสน่ห์กันแน่ แต่ที่รู้ดีที่สุดตอนนี้คือ
...ผมทนไม่ไหวแล้ว...



มาเถอะน่าที่รัก ออกไปจากที่นี่
แล้วสุมห้วงอารมณ์ของเราด้วยไฟอันร้อนแรง
ทิ้งทุกอย่างไว้กับสูทที่โดนเหวี่ยงลงบนพื้นนั่น
แล้วมาเริ่มงานเลี้ยงของเรากันดีกว่า



แจ็คสันนั่งอยู่บนเตียง ในห้องที่ผมเพิ่งใช้การ์ดทองรูดเปิดไปเมื่อสิบนาทีก่อน ดวงตากลมจับจ้องมาที่ผมด้วยแววตาที่คาดเดาอารมณ์ไม่ออก ผมเดินตรงไปหาเขา ถอดเสื้อสูทเหวี่ยงลงพื้นด้วยท่าทีที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไรจากเขา
“คุณจะลากคนที่รู้จักกันได้ไม่ถึงชั่วโมงออกจากงานเลี้ยงไม่ได้นะ คุณมาร์ค”
ผมแค่นหัวเราะในลำคอ โน้มใบหน้าเกือบชิดกับใบหน้าหวานคมของอีกคน จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมที่ระริกสั่น ทั้งกลัว ทั้งกล้า...
...ปากไม่ตรงกับใจจังนะครับ แจ็คสันของผม...
“ต่อว่าผมช้าไปนะครับ ทั้งที่คุณก็ตามผมมาถึงที่นี่เองแท้ๆ”
“ผมไม่คิดว่าคุณจะเปิดห้อง”
“แล้วคิดว่าผมจะพาไปจบที่ไหนเหรอครับ?”
“...”เขาตอบไม่ได้ ถึงเขาจะจงใจยั่วประสาทผมก็เถอะ แต่เขาก็คงไม่คิดเหมือนกันว่าผมจะกล้าและบ้าบิ่นขนาดเปิดห้องโรงแรมให้กับคนที่เพิ่งรู้จักกันแค่ชั่วโมงเดียวแบบนี้
“คุณไม่คิดว่ามันเร็วไปเหรอ...”มือเล็กดันไหล่ผมไว้ สายตาเต็มไปด้วยความลังเลใจ
...ผมรู้ว่ามันเร็วไป แต่...
“ผมจะกลับไต้หวันพรุ่งนี้แล้ว”
ดวงตากลมเบิกกว้าง ริมฝีปากเม้มแน่น “แบบนั้นมันยิ่งไม่ควร...”
“แล้วคุณอ่อยผมทำไม”ผมเริ่มหงุดหงิด ถ้าไม่คิด แล้วจะทำทั้งหมดนั่นเพื่ออะไร ผมก็เป็นมนุษย์ มีหัวจิตหัวใจ มีความรู้สึก
“ผมไม่ได้อ่อยนะ!
...ดื้อ...ผมเพิ่มคำนี้ไว้ในลิ้นชักความทรงจำเกี่ยวกับแจ็คสัน หวัง
“แจ็คสัน ผมจริงจัง ผมถูกใจคุณทั้งที่ผมไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร แล้วพรุ่งนี้ผมก็จะกลับแล้ว อย่างน้อยให้ผมได้รู้จักคุณ อื้อ!...
คำพูดกำลังจะพรั่งพรูถูกหยุดด้วยริมฝีปากสวยที่มาร์คถูกใจตั้งแต่แรกเห็น ริมฝีปากพวกเขาแตะกันและค้างไว้ ดวงตากลมช้อนสบตาเพื่อแสดงว่าตัวเองก็คิดไม่ต่าง เมื่อมั่นใจแล้วใจเจ้ากรรมก็เต้นแรงขึ้นมาเสียอย่างนั้น แถมด้วยระยะแค่นี้ ไม่มีทางเลยที่อีกฝ่ายจะไม่ได้ยิน แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะตอนนี้ใจของแจ็คสันก็เต้นรัวไม่ต่างกัน
ปลายจมูกรั้นแนบลงมาที่แก้มบ่งบอกถึงความลึกซึ้งของจูบ คนตัวเล็กแต่พิษร้ายแรงขยับใบหน้าขบเม้มริมฝีปากคนตัวสูงทีละน้อย คนอายุมากกว่าหลับตาลง โน้มใบหน้าเข้าไปชิดอีกฝ่ายมากขึ้น มือเรียวประคองใบหน้าน่ารักไว้ ค่อยๆสัมผัสกลีบเชอร์รี่นั้นอย่างนุ่มนวล เหมือนสั่งสอนกลายๆว่าจูบที่ดีควรเป็นอย่างไร และไม่ทันจะได้เปิดปากชิมรสหวานหอมแจ็คสันก็ครางฮือในลำคอ ลำแขนเล็กโอบรอบคอแกร่งด้วยความเผลอไผล
จูบหวานๆดำเนินไปได้สักพัก คนตัวเล็กกว่าก็เริ่มเร่งจังหวะให้ร้อนขึ้นด้วยการเปิดริมฝีปากเชิญชวนให้มาร์คเข้ามาลิ้มลองรสชาติแปลกใหม่ภายใน ชายหนุ่มเชื้อไต้หวันก็ไม่ขัดศรัทธารีบรุกเข้าเชยชิม ลิ้นเรียวเข้าดูดรัดลิ้นอีกคนด้วยลีลาที่เชี่ยวชาญกว่า ทำเอาแจ็คสันครางอืออาอย่างลืมตัว นิ้วเล็กจิกลงกับเสื้อตัวในระบายความวาบหวามรู้สึกดี รสไวน์ชั้นดีอบอวลไปทั่วโพรงปากฉ่ำ ยิ่งเกี่ยวรัดดูดกลืนเท่าไหร่ ความหอมหวานก็ยิ่งออกมามากเท่านั้น ไม่จืดชืดแต่กลับรสชาติดีขึ้นเรื่อยๆจนไม่อยากจะหยุดเก็บเกี่ยววัตถุดิบแสนหวานนี้เลยสักวินาที แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้เมื่อแจ็คสันร้องประท้วง กำมือทุบหลังอีกคนปักๆเพราะหายใจไม่ออก



ที่รัก คุณช่างหวานหอม แต่ก็เร่าร้อน
ลูกไฟที่ผมสัมผัสถึง ในนั้นมีน้ำตาลก้อนโตซ่อนอยู่
ยิ่งได้รู้จัก ผมยิ่งหลงใหลคุณมากไปทุกวัน
ผมควรจะทำยังไงกับคุณดี?



มาร์คถอนออกมาพอให้แจ็คสันได้หายใจแล้วทำท่าจะเข้าสานต่อแต่คนตัวเล็กจับใบหน้าอีกคนไว้ ดวงตากลมทอประกายระยิบระยับไม่ยอมแพ้ ยื่นหน้ามาขบเม้มริมฝีปากล่างของคนพี่ มาร์คนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อปลายลิ้นนุ่มตวัดเปิดปากแผลดูดกลืนรสเลือดเขาเข้าไปอย่างไม่รังเกียจ ซ้ำยังจงใจกัดดึงเบาๆอย่างขี้เล่น มือเล็กดันมาร์คออก ช้อนสายตาล้อเลียนคนเป็นพี่
“เอ...นี่คุณกัดปากเหรอครับ ลึกจัง...ตอนกัดนี่แอบมองใครอยู่รึเปล่านะ?”
มาร์คเลิกคิ้ว มองดุๆไปยังเจ้าตัวดีบนเตียง
“นี่ตั้งใจเหรอ หืม?”
“ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย คนแก่ลามกแถวนี้จิ้นจนกัดปากเองต่างหาก”พูดไปก็หัวเราะคิกคัก ถอดเสื้อนอกออกโยนไว้ข้างเตียง เอนกายลงนอนแผ่บนเตียงอารมณ์ดี
...แสบ... มาร์คบัญญัติคำนี้ให้แจ็คสันอีกคำทันที มีที่ไหน ห่างกันไม่ถึงสามปีมาเรียกเขาว่าตาแก่ แต่ยอมรับจริงๆก็ได้ว่าคิดไม่ดีกับเจ้าตัวจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะเปิดห้องทำไม ถึงสุดท้ายจะไม่ได้ทำในจุดที่อยากทำก็เถอะ เพราะแจ็คสันบอกมันมากับจูบเมื่อกี้แล้ว...ว่ามันยังเร็วไป
ไม่อย่างนั้นเจ้าเด็กนี่จะนอนแผ่บนเตียงยั่วสายตาผมเหมือนตอนนี้เหรอ
...ขี้ยั่ว...แถมให้อีกคำเลย
มาร์คส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจนิดๆ
“จะลงไปเลยไหม ป่านนี้คุณหวังเขาตามหาจะแย่แล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก”
แจ็คสันตอบกลับมาทำเอามาร์คงง
“อ่ะ ป๊าเหรอ นี่กากาเอง หืม?...กากาอยู่ในโรงแรมนี่แหละ พอดีเจอเพื่อนอ่ะ...อืม เพื่อนที่มหาลัย มันชวนไปเที่ยวต่ออ่ะ เลยจะขอออกมาเลย...งุ้ย อย่าดุจิ ครั้งหน้าจะไม่เถลไถลเลยครับ สัญญา...โอเคครับ คืนนี้ไม่กลับนะป๊า เที่ยวยาวยันเช้า วางล่ะนะ คิกๆๆๆ”
นั่งฟังแจ็คสันพูดกับคุณหวังแล้วรู้เลยว่าว่าที่แฟนติดเที่ยวกับติดเพื่อนใช่ย่อย
จริงๆผมไม่ชอบเที่ยวกลางคืน แต่ไม่เป็นไร เพราะผมจะทำให้เขาติดผมจนไม่อยากไปไหนเลยล่ะ...หึ
“ขี้โกหกนะคุณน่ะ”ผมดุไปสักที เพราะยังไงก็โตกว่า ถึงจะรู้จักกันไม่ถึงสองชั่วโมงก็เถอะนะ
“แล้วจะให้บอกว่าโดนคุณชายต้วนลากมาเปิดห้องหวังจะปล้ำงี้เหรอ คุณได้โดนป๊าผมยิงทิ้งตอนนี้แน่ๆ”แจ็คสันหลิ่วตามองผมเย้ยๆอย่างเป็นต่อ
ผมยิ้มกลับไปไม่กลัวเกรง แล้วไงครับ มาเฟียก็มาเฟียเถอะ คิดจะชิงลูกเสือก็ต้องบุกถ้ำเสือปกติ แถมลูกเสือยังดูจะเล่นด้วยแบบนี้อีก ใครไม่เดินหน้าต่อก็โง่เต็มทน
“งั้นไปอาบน้ำไป พี่จะได้อาบต่อ”
“เหมือนเป็นแฟนกันแล้วเลยอ่ะ”
“จะเป็นเลยไหมล่ะ”
“ไม่อ่ะ ดูกันไปก่อนเถอะ ถึงผมจะถูกใจคุณ เราถูกใจกัน แต่ก็เร็วไปที่จะคบหากันได้ และถ้าอยากจริงจังขนาดนั้น ผมว่าเรื่องบนเตียงก็ยังไม่ควรจะเกิดขึ้น จนกว่าเราจะมั่นใจ”แจ็คสันกลับมามีสีหน้าจริงจังอีกครั้ง
ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาบอก ถ้าคิดจะจริงจัง อย่าได้เริ่มจากเรื่องบนเตียง เพราะฐานมันจะไม่มั่นคง โอกาสล้มลงมามันง่ายมาก และผมกับแจ็คสันก็คงไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ถ้าพวกเราอยากจะคบหากันจริงๆ...แต่ที่เมื่อกี้ผมลากเขาขึ้นมานั่นก็อารมณ์พามาเหมือนกัน ...นี่ตกลงผมผิดสินะ...



ต้องทำยังไงน่ะเหรอ?
ก็แค่รักคุณไง
มันเป็นคำตอบหนึ่งเดียว ที่คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว
ที่รัก...มาเป็นคนรักของผมเถอะนะ ได้โปรด



“ตลกนะ พวกเราน่ะ ไม่ทันไรแท้ๆ”ผมหัวเราะ แปลก มันแปลกไปหมดเลย
“ก็ถึงได้บอกว่าเร็วไปไง”แจ็คสันทำหน้ามุ่ย แล้วก็สลับไปยิ้มกว้างเหมือนคิดอะไรออก “เออ พรุ่งนี้คุณกลับไต้หวันสินะ ผมยังไม่เคยไปเลย ขอป๊าไปดูงานดีไหมนะ ผมปิดเทอมพอดี”
“เอาสิ ถ้าคุณว่าง ผมจะพาเที่ยวเอง”ผมรีบตอบรับ ในอกสั่นตุบๆ ดีใจ...ดีใจมาก
“สัญญาแล้วนะ ฮะๆ...อ่า...แบบนั้นเขาเรียกว่าเดทไหมนะ?”จู่ๆแก้มกลมก็แดงเรื่อขึ้นมา เสียงหัวเราะเขินๆนั่นอีก...
น่ารักชะมัด น่ารักมากๆ
ผมนั่งลงบนเตียง ช้อนมือเล็กขึ้นมากุม สบสายตากับแจ็คสันที่นั่งตัวเกร็งหน้าแดงก่ำทำอะไรไม่ถูกอยู่ข้างๆ
“แจ็คสัน ได้โปรดไปเดทกับผม...นะครับ”ทอดน้ำเสียงอ่อนโยนและจริงจัง
ผมอยากมั่นใจ ว่าเขาจะไม่ล้อเล่นกับหัวใจผมจริงๆ
“อย่าทำแบบนี้สิ...ผมเขินนะ”แจ็คสันเม้มปากพยายามระงับอาการเขินอายจนสั่นของตัวเอง ผมว่าเขาก็คง
“แจ็คสัน”
“อืม...ตกลงครับ แต่เตรียมตัวกระเป๋าฉีกได้เลย ผมน่ะ ตัวล้างผลาญทรัพย์เลยนะ”คนตัวเล็กชี้นิ้วขู่ แต่ผมหรือจะกลัว...
“พี่น่ะ...เลี้ยงเราได้ทั้งชีวิตนั่นแหละ”
“น่าหมั่นไส้”แล้วแจ็คสันก็แบะปากทำหน้าหมั่นไส้ผมเข้าจริงๆจัง แต่ผมกลับหัวเราะได้อย่างเต็มที่ หัวเราะราวกับพวกเรารู้จักกันมานาน
.
.
.
...อ่า ผมว่าผมต้องไปขอพ่อให้ย้ายมาคุมงานที่ฮ่องกงนี่ซะแล้วล่ะ...
ก็มนุษย์น่ะ อยู่ไกลจากหัวใจตัวเองไม่ได้นานนักหรอก















#น้องหวัง


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

GOT7 INDEX

RED ZONE #ฟิคหน้ามืด

[SF] TUAN Twins (MARKSONYIEN) *3P*