[SF] หมวยมาเฟีย (MarkSon)
หมวยมาเฟีย
MARK X JACKSON
“เจียเอ๋อไม่ไป!!!”เสียงห้าวตวาดลั่นคฤหาสน์ใหญ่ ผู้เป็นใหญ่ที่สุดในบ้านส่ายหน้าให้กับท่าทางดื้อรั้นของบุตรชายเพียงคนเดียวของบ้านที่ตอนนี้วิ่งตุบตับหนีขึ้นไปขังตัวเองในห้อง เดือดร้อนให้เขาต้องลากขาตัวเองขึ้นมาคุยผ่านประตูบานใหญ่ต่อ
“เจียเอ๋อ นี่งานใหญ่นะ ไม่ไปไม่ได้”
“ให้ใครพี่เจียไปแทนก็ได้ เจียเอ๋อไม่อยากไป!”น้ำเสียงดื้อรั้นแบบที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้เจ้าของเสียงคนทำหน้ามุ่ยปากบู้น่าจับหยิกแก้มแน่ๆ
ตระกูลหวังเป็นตระกูลมาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาะฮ่องกง ทั่วเจ็ดย่านน้ำต่างเกรงกลัวตระกูลหวัง ธุรกิจกว่าพันล้านล้านอยู่ในความดูแลของเขา แต่ละวันมีเงินหมุนเข้าออกในบัญชีไม่ต่ำกว่าห้าล้าน กิตติศัพท์ความแข็งแกร่งลือเลื่องไปทั่วแดน...
แต่ตอนนี้หัวหน้าตระกูลผู้ทรงอิทธิพลกำลังกุมขมับปวดหัวจี๊ดกับความดื้อรั้นแสนงอนของบุตรชาย นี่เขาแน่ใจว่าได้ลูกชายนะแต่เหมือนว่าเขาต้องเลี้ยงผิดวิธีแน่ๆ นิสัยที่ออกมาเลยไม่ได้เป็นอาตี๋แต่เป็นอาหมวยแบบนี้ -*-
“เจียเอ๋อ ออกมาคุยดีๆ”
“ไม่!!! จนกว่าป๊าจะบอกรับปากว่าจะไม่บังคับเจียเอ๋อให้ไป”
“ไม่ได้ เราไม่ออกงานนานแล้วนะ...”เสียงทุ้มแหบของหัวหน้าตระกูลเงียบเสียงไปจนร่างเล็กภายในห้องขมวดคิ้วขุ่น เบิกตาโพลงด้วยความดีใจเมื่อเสียงหน้าห้องกลายเป็นเสียงทุ้มต่ำแสนคุ้นเคย
“ทำไมไม่อยากไปล่ะครับ เจียเอ๋อ หืม?”
“อาเฮียอี๋เอิน!”
รีบเปิดประตูออกไปเพื่อให้ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำสนิททั้งตัวได้เดินเข้ามาภายในโดยง่าย แอบได้ยินป๊าบ่นงึมงำอยู่ไม่ไกล
‘เออ ให้มันได้อย่างี้ซี ป๊าพูดจนเหงือกแห้งไม่ยอมเปิด พอผู้ชายมาล่ะเปิดปั๊บ’
“ป๊าหยุดบ่นไปเลย”โผล่หน้ายู่ไปทางป๊าที่โขกมะเหงกผ่านทางอากาศมาให้ลูกชายตัวเองด้วยความหมั่นไส้แบบเหลือทน ในขณะที่ร่างสูงที่อยู่ระหว่างสองพ่อลูกหัวเราะในลำคอแย้มยิ้มจนเห็นเขี้ยวขาวน่ามอง
“ฝากต้วนด้วยนะ ป๊าอนุญาตให้ตีก้นมันเลยถ้ามันดื้อ”
“ครับป๊า”
ฝากฝังร่างสูงเสร็จกันหันหลังกลับไปพร้อมลูกน้องสองสามคนที่มาตามนายไปทำงาน
“เฮียจะตีหมวยจริงเหรอ?”น้ำเสียงแหบห้าวครางหงิงมาพร้อมออฟชั่นช้อนตายู่ปากอ้อนไม่ต่างจากลูกหมาตัวเล็กๆอ้อนตอนรู้ว่าตัวเองทำผิด น่ารักน่าเอ็นดูจนร่างสูงต้องหัวเราะขำ วางมือบนเส้นผมนิ่มขยี้ไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว
...นี่ลงทุนเรียกตัวเองว่าหมวยด้วยนะ แสดงว่ากำลังอ้อนเขาขั้นสุดแล้วล่ะ น่ารักจริงๆเลย...
“ไม่ตีหรอก ถ้าหมวยไม่ทำอะไรผิด”เขาบอก เรียกรอยยิ้มกว้างพอใจบนใบหน้าขาว เจียเอ๋อลากมือมาร์คเข้ามาในห้องตัวเอง จัดแจงให้ร่างสูงนั่งบนโซฟา ในขณะที่ตัวเองวิ่งดุ๊กดิ๊กไปนั่งกลางเตียง ตากลมโตฉายแววตื่นเต้นปิดไม่มิด
“จะถามอะไรเฮียล่ะ?”คนตัวสูงถามอย่างรู้ทัน
“อาเฮียไปทำภารกิจอะไรมา เล่าให้เจียเอ๋อฟังหน่อยสิ เจียเอ๋ออยากรู้อ่ะ”
ต้วน อี๋เอินเป็นมือขวาของป๊าเขา เห็นเอายุยังน้อยแบบนี้แต่ฝีมือฉกาจฉกรรจ์ ทำงานให้ บู้ก็ได้บุ๋นก็ดี แตกต่างจากเขาที่ได้แค่บู้ ส่วนบุ๋นยังถูๆไถๆอยู่เลย เจียเอ๋อโตมาพร้อมกับอี๋เอิน ตั้งแต่จำความได้เขาก็มีพี่ชายต่างสายเลือดคนนี้อยู่เคียงข้างเสมอ
“ก็ปกตินั่นแหละครับ ไปคุ้มกันผู้เจรจา...”อี๋เอินพูดยังไม่ทันจบก็โดนเด็กเอาแต่ใจบนเตียงพูดขัด
“แต่เจรจาไม่สำเร็จ แล้วอาเฮียก็ยิงลูกน้องฝั่งโน้นที่มันจะยิงอาเฉินดัง ปัง! อาเฮียไหวตัวทันก็เลยรีบจับหัวหน้าพวกมันเป็นตัวประกัน พวกมันถึงยอมเราใช่ไหมล่ะ เนี่ยๆ อาเฮียเท่ที่สุดเลย”มือขาวกวาดกว้าง ทำท่าทางตามเรื่องที่ตัวเองพูดอยู่บนเตียงกว้างท่าทางแอคติ้งดีเลิศจนคนมองอดขำไม่ได้
“ฮึๆ รู้ขนาดนั้นจะยุให้เฮียเล่าทำไมล่ะหืม?”
“ง่า...ก็อยากให้เฮียเล่าให้ฟัง”
“แต่ก็เล่าเองขัดเฮียทุกที”
“งืออออออ”เจ้าเด็กลูกมาเฟียบนเตียงทำเสียงสำนึกผิดหน้าหงอย “หมวยขอโทษน้าเฮีย”
“เฮียไม่ยกโทษให้”
“เฮียอ่ะ!”ปากอิ่มแดงบึนออกเป็นปลาสวยงามตัวอ้วนกลมแสนน่าเอ็นดู อี๋เอินกลั้นยิ้มตีหน้าดุ
“หมวยต้องรับปากกับเฮียว่าจะไม่ดื้อ แล้วก็ไปงานเลี้ยงตามที่นายท่านสั่ง”
“หมวยไม่อยากไป”
“ทำไมล่ะ?”
ดวงตากลมช้อนมองอ้อน แต่พอเห็นว่าไม่ได้ผลก็บู้ปากอธิบายเสียงแผ่ว
“งานมันน่าเบื่อออกนี่นา เฮียรู้ใช่ไหมล่ะ พวกคนในนั้นน่ะ ใส่หน้ากากหากันทั้งนั้น ฟังพวกนั้นพูดเยินยอตัวเองแล้วจะอ้วกเอา แถมพวกผู้หญิงที่เข้ามาเพราะเห็นว่าหมวยเป็นคนลูกป๊าอีกล่ะ”
“นึกว่าเรื่องอะไร”อี๋เอินหัวเราะทำเอาคนบ่นค้อนขวับ “ไปเถอะ แป๊ปเดียว”
“เฮียจะไปด้วยใช่ไหม?”จู่ๆเจียเอ๋อก็ถามขึ้น ตาใสๆจ้องชายหนุ่มเขม็ง
“หืม?”
“ถ้าเฮียไป หมวยจะไป”
“...บังคับเฮียเหรอ”
“ใช่ บังคับ”
“...”
งานเลี้ยงครบสามสิบปีกลุ่มอหังสาริมทรัพย์เก่อหวินของเกาะฮ่องกงที่คนภายในรู้ดีว่าเติบโตขึ้นด้วยเม็ดเงินของมาเฟียจัดขึ้นบนชั้นที่ 78 ของโรงแรมติดริมอ่าววิกตอเรีย พวกผู้ดีไฮโซ รวมถึงพวกผู้มีอิทธิพลเดินทางมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง แน่นอนว่ากลุ่มตระกูลหวังก็ได้รับเชิญเช่นเดียวกัน
Maybach Exelero สีดำมันปลาบแล่นเข้ามาจอดหน้าพรมแดงในงานสร้างความตื่นตาตื่นใจและสนอกสนใจของนักข่าวรวมถึงคนร่วมงานที่ยังไม่เข้าไปในงานจนบางคนต้องเอี้ยวตัวหันกลับมามอง
ประตูด้านคนขับถูกเปิดขึ้นมาก่อน บุคคลที่ก้าวออกมาเรียกความสนใจจากสาวๆรอบด้าน ด้วยใบหน้าที่หล่อสวยจับตา ชุดสูทสีดำเสื้อเชิ้ตขาวมาตรฐานและท่าทางสง่างามเช่นนั้นอาจทำให้หลงคิดว่านี่คือคุณชายจากสักตระกูล แต่พอชายหนุ่มผู้นั้นเดินไปเปิดประตูอีกด้าน คนที่ก้าวลงมานั้นกลับเรียกเสียงฮือฮาได้มากกว่า
“นั่น! คุณเจียเอ๋อ!”
“หวังเจียเอ๋อคนนั้นน่ะเหรอ!”
ร่างสันทัดในชุดเสื้อเชิ้ตดำติดกระดุมถึงคอกางเกงแสลกดำเข้ารูปและเสื้อขนเฟอร์สีเข้มคลุมไหล่กว้างยิ่งเสริมให้คนๆนี้ดูสง่างามและน่าเกรงขาม ใบหน้าคมเข้มแต่รายละเอียดช่างน่าเอ็นดูนั้นกลับถูกบดบังด้วยสีหน้าเงียบขรึมเป็นทางการ คางมนเชิดขึ้นเล็กน้อยหันไปกระซิบกับบอดี้การ์ดข้างกายให้ตุ้มหูกางเขนสีเงินปลาบสะบัดวาววับ
ท่าทางทั้งหมดนั่นทำให้หวัง เจียเอ๋อดูน่าเกรงขามจนละสายตาออกไปไม่ได้
“คุณหนูครับ นายท่านฝากมาบอกว่าให้สำรวมนะครับ”
“ฉันรู้แล้ว”
อี๋เอินยิ้มมุมปากเล็กๆขณะมองคุณหนูของตนจากด้านหลัง เดินประกบตามไปเงียบๆไม่ให้ใกล้หรือไกลจนเกินไปนัก เพราะหากใกล้ไปจะทำให้เจียเอ๋ออึดอัดและถ้าไกลไป...
‘เฮีย อยู่ไหนอ่ะ’ เสียงกระซิบเบาๆดังจากหูฟัง
“อยู่หลังคุณหนูครับ”
‘อย่าห่างจากผมนะ’
อี๋เอินแอบยิ้มขำ ส่ายหน้าและขยับเข้าไปใกล้เจียเอ๋อมากขึ้นเพื่อไม่ให้คุณหนูของตนถามหาอีก
เจียเอ๋อเหลือบไปมอง พอเห็นว่าพี่ชายคนสนิทกลับมาอยู่ใกล้ตัวอีกครั้งก็ยิ้มพอใจ
“ท่านเจียเอ๋อ...ยินดีต้อนรับครับ กระผมยินดีอย่างยิ่งที่เห็นท่านในงาน ผมไม่คิดเลยว่างานเลี้ยงธรรมดาของเก่อหวินจะได้รับความสนใจจากท่านเจียเอ๋อแห่งตระกูลหวังด้วย”
เจียเอ๋อหันหน้ากลับมา เพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็กลับมากลายเป็นหวังเจียเอ๋อผู้น่าเกรงขาม มองชายวัยกลางคนผู้เดินเข้ามาทำท่าทางประหลักประหลอกก้มๆท่าทางดูนอบน้อมเสียประดาแต่ดวงตานั้นกลับกำลังมองเขาราวกับเนื้อชิ้นโอชะที่คิดจะเข้าใกล้เพื่อกอบโกย
...น่ารังเกียจจริง...
“งานหรูหราดีนะครับคุณเก่อหวิน”
“นับว่ากรุณานักครับที่ได้รับคำชมเช่นนี้ เชิญท่านเจียเอ๋อตามสบายเลยนะครับ มีอะไรบกพร่องบอกได้ตลอดเวลา เราจะหาให้ท่านทันทีเลยครับ”
“ขอบคุณนะครับ”เจียเอ๋อยิ้มบาง “แต่ผมต้องขอโทษก่อนล่วงหน้าที่คงอยู่ได้ไม่นานนัก ยังมีงานสำคัญที่ผมต้องไปต่ออีก”
เก่อหวินชะงักไปเล็กน้อย แค่นยิ้มออกมาเอ่ยก่อนรีบเดินจากไป
“ไม่เป็นไรครับ ตามสบายนะครับ”
‘ดูเขาจะโมโหนะครับ’
“หึ ตาแก่นั่นคิดว่างานตัวเองสำคัญและยิ่งใหญ่มากยังไงล่ะ”เจียเอ๋อกระซิบ เดินเข้าไปในงานเลี้ยง เลี่ยงตรงจุดโดดเด่น หลบเลี่ยงไปทางโซนอาหารเพื่อหาอะไรจิบพอเป็นพิธี จะได้รีบกลับบ้านเสียที โดยมีอี๋เอินประกบอยู่ไม่ห่าง
“อาเฮีย กินไหม”
อี๋เอินมองชิ้นเห็ดทรัฟเฟิลจิ้มซอสเสียบส้อมใกล้ปากตัวเองก็ส่ายหน้า
“ไม่ล่ะครับ ผมกินมาแล้ว”
“เหรอ”เจียเอ๋อเหล่มองสงสัยเล็กน้อยกับคำโป้ปดของเขา แต่ก็ยัดเข้าปากตัวเองเคี้ยวตุ้ยๆแทน ชายหนุ่มมองแล้วได้แต่คิดในใจว่าจะให้กินยังไงกันล่ะ งานเลี้ยงใหญ่ขนาดนี้ ภาพคุณหนูป้อนอาหารบอดี้การ์ดคงดูไม่งามเท่าไหร่นัก
“นั่นเจียเอ๋อรึเปล่า”น้ำเสียงนุ่มนวลของของใครอีกคนดังขึ้นใกล้ๆ เจ้าของชื่อหันขวับกลับไปมองก่อนที่ใบหน้าตอนอยู่ที่บ้านจะเปิดเผยออกมา
“พี่จิน!”ร่างเล็กรีบกระโดดเข้าไปกอดคนมาใหม่แน่นไม่สนภาพลักษณ์ว่าใครจะมองว่าอย่างไร ดีที่พื้นที่ตรงนี้เป็นมุมอับหลังเสา ทำให้คนไม่สนใจมากเท่าไหร่นัก
คนโดนกอดหัวเราะลูบศีรษะนุ่มของเจียเอ๋อ ดันคนตัวเล็กออกจากตัวเอง นิ้วเรียวจรดที่ปลายจมูกเหมือนเตือนให้เจียเอ๋อนึกถึงเรื่อหน้ากาก เด็กหนุ่มกลับมาสวมหน้ากากเช่นเดิมแต่รอยยิ้มที่แย้มออกมาในตอนนี้กลับจริงใจจนหน้ากากเหล่านั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“ไม่เห็นกันนาน คุณเจียเอ๋อโตขึ้นเยอะเลยนะครับ”
“ไม่เท่าคุณจินยองหรอกครับ ตั้งแต่ที่งานเลี้ยงท่านทูตที่เกาหลีก็ไม่ได้พบท่านอีก ไม่คิดเลยว่าจะได้พบคุณที่นี่อีก แล้วมาฮ่องกงตอนไหนล่ะครับ”
พี่จินที่เจียเอ๋อเรียกหรือปาร์คจินยองคือลูกชายคนเดียวของตระกูลปาร์ค เจ้าของกิจการหลายอย่างจากเกาหลีใต้ รวมถึงเป็นหุ้นส่วนในบริษัทเพชรของตระกูลหวังด้วย จินยองได้เจอกับเจียเอ๋อตั้งแต่ห้าขวบและติดต่อกันเรื่อยมาในฐานะพี่ชายที่ปรึกษาได้ สนิทสนมกันมากจนความห่างไกลก็ไม่สามารถทำลายความผูกพันนี้ได้ แถมวันนี้ยังอยู่ในชุดสูทขาวสุภาพ ปาดผมขึ้นเผยโครงหน้าหล่อเหลาอบอุ่นน่าเข้าใกล้ ด้านหลังมีบอดี้การ์ดสามคนประกบติดราวกับเป็นเงาตามตัวอย่างไรอย่างนั้น
เจียเอ๋อคุยกับจินยองสนุกสนานจนลืมคนที่มาด้วยกันเสียสนิท เวลาล่วงเลยจนใกล้จะถึงช่วงเปิดงานและจินยองขอตัวไปรอหน้าเวทีก่อน เจียเอ๋อถึงสังเกตว่าอี๋เอินไม่ได้อยู่ข้างกายตัวเองแล้ว รีบกรอกเสียงลงเครื่องติดต่อ กลัวว่าตัวเองจนโดนทิ้งไว้ที่งานเพียงคนเดียว
“เฮียอยู่ไหนอ่ะ”
‘ระเบียงครับ’
เจียเอ๋อหันซ้ายขวาแล้วก็พบร่างที่ตามหากำลังยืนพิงพนักกั้นระเบียงอยู่ด้านนอก เดินไปฉวยแก้วไวน์สองแก้วเดินเข้าไปหาพี่ชายคนสนิทที่หันหน้ามาส่งยิ้มให้
“เฮียทำไมมาอยู่นี่อ่ะ”
“เห็นคุณหนูคุยกับคุณจินยองสนุก ผมก็เลยหลบมานี่ดีกว่าครับ”
“...”เจียเอ๋อไม่ได้ตอบอะไรไป แค่ส่งแก้วไวน์อีกแก้วส่งให้ ส่งสายตาบังคับให้อี๋เอินรับมันไป ชายหนุ่มถอนหายใจเล็กๆและรับมันไปถือ คุณหนูตระกูลหวังยิ้มกว้างพอใจ เดินไปยืนอยู่ข้างๆ “พอเปิดงานเราก็กลับกันดีกว่าเนอะ เจียเอ๋อเบื่อแล้ว”
“แล้วคุณจินยอง?”
“พี่จินบอกว่าจะอยู่ที่ฮ่องกงนานอ่ะ เจอวันหลังเอาก็ได้ เจียเอ๋ออยากกลับไปเล่นเกมต่อแล้ว”
“เล่นเกมดึกไม่ดีนะครับ”
“ไม่ได้เล่นดึกขนาดนั้นน่า...แล้วถ้ากลัวหมวยนอนดึก เฮียก็เข้าไปคุมก็ได้นะ”
“...”อี๋เอินถึงกับนิ่ง หันมามองใบหน้าของคนข้างตัวราวกับกำลังหาว่าประโยคที่ได้ยินมีความหมายว่าอย่างไร มองอยู่นานจนเอ่ยออกมา “พวกเราไม่ใช่เด็กแล้วนะครับคุณหนู”
“ก็ไม่ใช่เด็กแล้วน่ะสิ”เจียเอ๋อยู่ปาก ยกไวน์ขึ้นจิบไม่ยอมสบตากับคนข้างตัว “อ่ะ...งานกำลังจะเริ่มแล้ว เราไปกันดีกว่า”
อี๋เอินก้มดูมือเล็กที่จับมือด้านหนึ่งของเขาไว้ก็ส่ายหน้า ดึงเจียเอ๋อให้ยืนนิ่งๆ จัดคอเสื้อตัวในให้เข้าที่เข้าทาง สบตากลมที่มองมา ยิ้มและกระซิบให้ได้ยินเพียงสองคน “อย่าไว้ใจเฮียมากนักเลย เฮียก็ไม่ใช่คนดีอะไรขนาดนั้นหรอกนะ...”
เจียเอ๋อทำสีหน้าไม่เข้าใจและอี๋เอินก็ไม่ได้อยากให้คุณหนูของเขาเข้าใจอะไรในตอนนี้ ดันไหล่เล็กให้เดินเข้าไปในงาน
งานเปิดตัวของงานเลี้ยงหรูๆแบบนี้ก็มีไม่กี่อย่าง หนึ่งในนั้นคือการเดินแบบ พิธีกรประกาศชื่อชุดเดินแบบเปิดตัวชุดเพชรหรูจากห้างร้านดัง เจียเอ๋อได้ที่นั่งแถวที่สองติดกับจินยอง บอดี้การ์ดอย่างอี๋เอินยืนคุมอยู่ด้านข้างและด้านหลังล้อมรอบผู้มีเกียรติในงาน
นางแบบสาวในชุดราตรีสีขาวเดินออกมาพร้อมชุดเครื่องเพชรหรูหราตามทีมงานคนแล้วคนเล่า อี๋เอินมองเจียเอ๋อแล้วก็ต้องแอบยิ้ม คุณหนูของเขาแอบหาวซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังแก้วไวน์ที่ไม่ได้พร่องลงเลย พอหนักๆเข้าหัวกลมๆนั่นก็เริ่มจะผงกใกล้หลับ ชายหนุ่มกำลังจะกรอกเสียงลงในเครื่องติดต่อแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นมือของใครอีกคนลูบหลังคุณหนูของเขาเบาๆจนเจียเอ๋อสะดุ้งตื่น
อี๋เอินลดมือลง หันไปมองตรงเวที เขาไม่อยากยอมรับหรอกนะว่าเขากำลัง...หงุดหงิด
มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับเขาแต่ก็เกิดไปแล้ว และเขาก็ไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามปรามอะไรจึงได้แต่เบือนหน้าหนีไปมองนางแบบบนเวที
“หืม...”
ดวงตาปราดเปรียวมองเห็นบางสิ่งผิดปกติหลังเวที จากมุมที่เขายืนอยู่เขาเห็นความวุ่นวายด้านหลังม่าน และทันทีที่เห็นบุคคลที่ปีนขึ้นมาจากฉากหลังเวทีเขาก็ตะโกนเตือนเสียงดัง
“หมอบ!!!”
ปัง! ปัง! ปัง!!!
ปืนสงครามรัวกระสุนออกมาไม่ยั้ง เพียงเสี้ยววินาทีความวุ่นวายก็เกิดขึ้น บอร์ดี้การ์ดที่อยู่ใกล้คว้าปืนขึ้นมายิงผู้ร้าย แต่ก็โดนซัดกระสุนเข้าใส่จนต้องหลบกันไปตามระเบียบ อี๋เอินที่รีรอหาจังหวะก็หาไม่ได้สักทีเพราะเหมือนมันจะเล็งสะกัดแค่ฝั่งพวกผู้คุ้มกันทั้งหลาย
“เจียเอ๋อ! เจียเอ๋อ!”เรียกยังไงเจียเอ๋อก็ยังไม่หัน เอาแต่มองลอดเก้าอี้เหมือนกำลังคำนวณอะไรบางอย่าง โดยมีจินยองหมอบอยู่ข้างๆ
“หมวย!!!”
ดวงตากลมหันมองขวับ อี๋เอินใช้โอกาสนั้นไถลปืนสั้นส่งให้เข้ามือดังหมับ เจียเอ๋อหยิบปืนขึ้นมางงๆ
“ยิง”
‘แต่ป๊า...’
“เฮียจะบอกป๊าเอง”
พอได้ยินแบบนั้นริมฝีปากอิ่มก็แย้มยิ้ม มองปืนในมือราวกับเห็นขนมหวานแสนโอชะ ตวัดสายตาไปมองคนร้ายที่ยังยิงปืนใส่สนั่นหวั่นไหว เหมือนแค่ขู่ ไม่ได้ต้องการฆ่าคนโดยเฉพาะเจาะจง
“8...7...”
ปัง! ปัง! ปัง!
“3”
ปัง!
“2”
ปัง!
“1”
ปัง!
จู่ๆเจียเอ๋อก็ลุกขึ้นจากพื้นลั่นไกปืนสวนกลับไป คนร้ายก็คงไม่ได้คิดว่าจะมีคนยิงกลับถึงได้เผอเรอไม่สังเกตทางฝั่งผู้ร่วมงาน จนลูกตะกั่วเจาะลงข้างไหล่จนร่างนั้นเซล้มลงโครมใหญ่
ทั้งงานเงียบไปวูบหนึ่ง ทุกคนต่างสั่นกลัวไม่กล้ายืนขึ้น มีเพียงเจียเอ๋อที่หอบหายใจเล็กๆเพราะตื่นเต้นจากการบ้าดีเดือดเมื่อครู่ ใบหน้ากลมหันไปยิ้มให้อี๋เอินที่ยืนยิ้มให้อยู่ แต่จู่ๆรอยยิ้มนั้นก็หายไปกลายเป็นสีหน้าหวั่นวิตก ร่างสูงโปร่งกระโดดเข้ามากอดเขาแน่น
ปัง!
“เฮีย!!!”
เจียเอ๋อเรียกชื่อดังลั่น มือเล็กรีบโอบร่างสูงที่ทรุดโถมใส่ตัวเขาหลังกระตุกไปครั้งใหญ่ ความชื้นแฉะของโลหิตสดๆบนฝ่ามือขาวสั่นระริก ดวงตากลมวูบไร้ประกายในทันที วางร่างอี๋เอินลงกับพื้นฝากฝังไว้กับพี่ชายคนสนิทอีกคน
“พี่จิน ผมฝากเฮียหน่อยนะครับ”
“แล้วเจียเอ๋อ...”
“ผมจะไปทำความสะอาดครับ”
ร่างเล็กลุกขึ้นกระโดดไปบนเวที มองหาร่างคนร้ายที่ตะเกียกตะกายกำลังจะหนีไป รองเท้ามันปลาบขัดอย่างดีกดศีรษะใต้โม่งจนได้ยินเสียงกร๊อบและเสียงโอดครวญ มือขาวกระชับปืนสีเงินในมือมั่น กระซิบเสียงเย็น
“ขอยืมหัวมึงล้างท่อปืนหน่อยนะ”
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
“เฮีย!”
ชายหนุ่มบนเตียงพยาบาลสะดุ้งเพราะจู่ๆก็มีก้อนกลมๆพุ่งเข้ามากอด แต่พอเห็นว่าเป็นคุณหนูของตัวเองก็ระบายยิ้มบาง ลูบเส้นผมนิ่มบนอกก่อนจะร้องซี๊ดเพราะไปกระเทือนแผลที่หลัง ดีที่ลูกกระสุนไม่โดนส่วนสำคัญ ถึงจะเจาะเข้าเนื้อแต่ก็ไม่หนักหนาสำหรับชายหนุ่มมากเกินไปนัก คงเพราะเขาผ่านประสบการณ์แบบนี้มาบ่อยแล้วล่ะมั้ง
“งือ หมวยทำเฮียเจ็บเหรอ ขอโทษ”เจียเอ๋อทำหน้าหยีแบะจะร้องไห้ร้อนถึงคนเป็นพี่ที่ต้องรีบปลอบ
“ไม่หรอก เฮียไม่ได้เจ็บขนาดนั้น...แล้วเป็นไงบ้าง กับป๊า”
“เอ่อ...”คุณหนูของตระกูลหวังทำสีหน้าล่อกแล่ก “ก็ ก็ป๊าก็ชมว่าแก้สถานการณ์ดี...”
“แต่โดนลงโทษไม่ให้จับปืนสามเดือน”
“พี่จินอ่ะ!!”
จินยองที่เพิ่งเข้ามาหัวเราะที่ได้แกล้งเด็ก “ถ้าไม่บอกทั้งหมดอี๋เอินก็คุมเจียเอ๋อไม่ได้สิ ต่อไปนี้ต้องอยู่กับพี่เขานี่นะ”
อี๋เอินชี้ตัวเองงงๆ ส่งสายตาถามคนตัวเล็กที่รีบกระดี๊กระด๊าเข้ามาหาดวงตาพราวระยับราวกับลูกหมาตัวเล็กๆ
“ป๊าบอกให้เฮียเป็นบอร์ดี้การ์ดให้หมวยล่ะ ดีใจไหม? เฮียจะได้นอนกับหมวยแล้วน้า~”
“นอน!”จินยองกับอี๋เอินหลุดอุทานตกใจพร้อมกัน แต่ไอ้เด็กลูกมาเฟียก็ไม่ได้เข้าใจ แถมทำตาใสแป๊วไร้เดียงสา แจ้วๆพูดต่ออย่างรื่นเริง
“อืม! นอนไง นอนห้องเดียวกันอ่ะ เป็นบอดี้การ์ดก็ต้องคอยดูแลตลอดเวลาใช่ไหมล่ะ คราวนี้แหละ หมวยจะต้องลากเฮียมาเล่นเกมจอยจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย เอ๊ะ ไม่สิ ต้องนอนนะ เดี๋ยวจะโดนป๊าดุ”
...อย่าพูดสองแง่สองง่ามให้คิดได้ไหมล่ะหมวยหวัง พี่ใจจะวาย...
“มันไม่จำเป็นต้องนอนในห้องเดียวกันหรอกนะ”อี๋เอินพยายามอธิบายให้คุณหนูของตัวเองเข้าใจเสียงอ่อน ทั้งอ่อนอกอ่อนใจ ไม่รู้ว่าเจียเอ๋อรู้หรือไม่รู้กันแน่ว่าที่ทำอยู่เขาเรียกว่าให้ความหวัง
“ทำไมเล่า ก็หมวยอยากให้เฮียนอนด้วยนี่”เด็กตัวขาวพ่นประโยคเอาแต่ใจพลางทำปากบู้พองแก้มกลมน่าบี้เล่น
“ถ้านอนห้องเดียวกัน ตอนเจียเอ๋ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ต้องโป๊ให้อี๋เอินเห็นนะ”
“เอ๊ะ...”
“แล้วเวลาจะแอบเล่นเกม กินขนมตอนกลางคืน หรือเวลาซ่อนของที่ไม่อยากให้อี๋เอินเห็นก็ทำไม่ได้แล้วนะ”
“ง่า...งั้นไม่ให้อาเฮียนอนห้องเดียวกันก็ได้”
...JINYOUNG WIN!!!...
อี๋เอินส่งสายตาขอบคุณไปให้จินยองที่ขยิบตามาให้อย่างรู้กันดี ก่อนหันไปมองคุณหนูมาเฟียแสนเอาแต่ใจปีนขึ้นมานั่งข้างๆ ส่งสายตาแป๊วๆและฉีกยิ้มสดใสที่ทุกคนต้องยอมแพ้ให้
“แต่เฮียต้องมาเฝ้าจนกว่าหมวยจะหลับทุกคืนนะ ไม่งั้นหมวยไม่ยอมจริงๆด้วย”
“เฮียไม่กล้าขัดหมวยมาเฟียหรอก”
“งั้น...จูบราตรีสวัสดิ์ด้วยนะ”
“...”
อี๋เอินชักไม่แน่ใจแล้วล่ะว่าหน้ากากของคุณหนูของตัวเองมีกี่หน้ากันแน่
.......................................
งงไหม? ก็ประมาณว่าน้องหมวยนี่ตกลงที่ใสๆกับเฮียมาร์คนี่ใสจริงหรือแอบยั่ว 55555555555555
พล็อตนานมากกกกกก งัดมาแต่งใหม่ค่ะ
เพิ่งสอบตัวแรกเสร็จ งงหน่อยก็อย่างว่ากันเน่อ ถถถถถถ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น