[OUR] 36 (END)
OUR BABY!
บทที่ 36
“ต๊ะเอ๋”
“แอ้!”มือจิ๋วแปะตีจมูกคุณพ่อ
มาร์คยิ้มเอ็นดูยิ่งทำให้เมอาได้ใจ
แขนน้อยๆตีเปะปะทั่วใบหน้าหล่อพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนตาปิด มือเรียวแตะบนแก้มยุ้ยเช็ดคราบน้ำลายใสๆของลูกสาวตัวจ้อย
เมอากำนิ้วมือมาร์คใส่ปาก เหงือกนิ่มถูกัดปลายนิ้วเขาจนรู้สึกจักจี๋ ชายหนุ่มส่ายศีรษะห้ามปราม
ดึงนิ้วตัวเองออก เมอาเลยแบะปากทำท่าจะร้องไห้เพราะโดนขัดใจ
“จุ๊บ”คุณพ่อลูกสองจุ๊บปากเล็ก
ยิ้มอ่อนโยนพลางลูบศีรษะเล็กบอบบาง “คันเหงือกเหรอคะ”
“ต๊ะ”เสียงเล็กพูดตามตามแป๋ว มือจิ๋วพยายามดึงนิ้วคุณพ่อมาอมอีก
มาร์คส่ายหน้าอีกรอบ หยิบจุกยางส่ายไปมา “เอาไหม กัดไหมคะ”
“ต๊ะ ต๊ะ”เมอาร้องเสียงดัง
ตากลมมองจุกยางสีชมพูด้วยความสนใจ อ้าปากดูดจ๊วบๆนอนคว่ำบนเบาะนอนกลางห้องนั่งเล่น
มีคุณพ่อหาสารพัดของประดิษฐ์ทำมือให้ลูกสาวได้เล่นรอคุณแม่ที่กำลังพาลูกชายคนโตอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำใหญ่
“เล่นอะไรกันน่ะ?”แจ็คสันที่เดินออกมาพร้อมเมสันถาม
“เมอายอมดูดจุกยางแล้วล่ะ”
“เห~ ดีจัง นี่หนูคันเหงือกแล้วเหรอเด็กดี
จุ๊บ อะจ๊ะ จุ๊บ”แจ็คสันอุ้มลูกสาวตัวน้อยโยนขึ้นเบาๆ หอมแก้มหยอกล้อ
“เมสันหอมน้องด้วย”เจ้าลูกชายกระโดดนั่งบนตักแม่ ยื่นปากจู๋รอให้แจ็คสันเอาแก้มน้องไปแปะให้
พอได้ดั่งใจก็หัวเราะอารมณ์ดี
“เมสันไปแต่งตัวเร็ว
เดี๋ยวเป็นไข้นะ”คนตัวเล็กหันมาบอกลูกชายที่ทั้งตัวมีแต่ผ้าขนหนูคลุมทับ
“เป็นไข้ก็ไม่เป็นไร ป๊ามาร์คมียา”
ขวับ!
“อุ่ย...เอ่อ เดี๋ยวพี่พาเมสันไปแต่งตัวนะ
ไปเร็ว”ชายหนุ่มสะดุ้ง รีบหาทางเอาตัวรอด
อุ้มเจ้าลูกชายตัวแสบวิ่งลิ่วพาไปแต่งตัวบนห้องชั้นสอง
ตากลมหรี่ตามองตามคนเป็นสามีอย่างคาดโทษ
นี่แอบเอายาอะไรให้ลูกกินเนี่ย! กำลังคิดวิธีซักฟอก
เมอาก็กระดึ้บขึ้นมาบนตัก แจ็คสันเลยหันเหความสนใจมาที่ลูกสาวตัวน้อย
อุ้มขึ้นพาดบ่าพาเดินไปนั่งบนโซฟา
หยิบหนังสือภาพขึ้นมาเปิดอ่านให้ฟังรอให้มาร์คกับเมสันแต่งตัวกันเสร็จ
เมอาผิดกับเมสันแบบคนละเรื่อง
เมสันเป็นเด็กสดใสร่าเริง ขี้โม้ ขี้คุย
เสียงแจ้วๆดังแทบทั้งวันยกเว้นเวลานอนกับเวลากินแต่หน้ากลับเหมือนมาร์คเสียจนนึกว่าตัวก๊อปปี้
ยิ่งโตยิ่งมีเค้าจะหล่อ ส่วนเมอาถึงจะยังเด็ก แต่ก็เงียบผิดวิสัยเด็ก ไม่ชอบพูด
จนแจ็คสันกลัวอยู่หน่อยๆว่าจะเป็นเกี่ยวกับความผิดปกติ ดีที่ตรวจแล้วไม่เป็นอะไร
แค่เป็นลักษณะนิสัยค่อนข้างขี้อาย ส่วนหน้าตาก็เค้าของแจ็คสันมากหน่อย หน้ากลมๆ
ตาโตๆ จมูกโด่งรั้นและปากจิ้มลิ้ม ดูท่าทางแล้วมาร์คคงต้องไว้หนวดจริงๆก็คราวนี้ล่ะนะ...
“เมสันเสร็จแย้ววว”เสียงเจ้าตัวเล็กมาก่อนตัว
กระโดดข้ามบันไดมาสามขั้นเสียงดังตึง!
“เมสันอย่ากระโดดข้ามบันไดสิ ตกลงมาจะเจ็บนะ”แจ็คสันเอ่ยปรามเสียงดุ
ขมวดคิ้วสวมบทโหดให้เมสันระวังตัวเองบ้าง
“คับ”เจ้าตัวเล็กตอบเสียงอ่อย เพราะแจ็คสันใจดี
เวลาโดนดุทีเลยหงอยเอาเสียง่ายๆ
มาร์คในชุดเสื้อยืดคอวีสีขาวกางเกงยีนสบายๆเดินลงมายีหัวเจ้าลูกชายเชิงปลอบใจ
จูงมือไปนั่งข้างเมอาที่เริ่มคลานขึ้นมาบนตักพ่อเพื่อจะข้ามไปเล่นกับพี่ชาย
มาร์คเลยขยับอุ้มลูกสาวไปนั่งข้างเมสันให้พี่น้องได้หยอกล้อเล่นกัน หันไปมองแจ็คสันก็เห็นว่าคนตัวเล็กยังอยู่ในชุดนอนอยูเลย
“ป๊าพาม๊าไปแต่งตัวนะ”
“บ้า! อยู่นี่ดูลูกสิ
จะตามผมมาทำไมเล่า”ตีไหล่คนเป็นพี่ไปครั้งหนึ่ง ลุกขึ้นจะเดินไปแต่งตัว
แต่มาร์คก็แกล้งจับมือเขาไว้
“อ้าว ก็อยากแต่งตัวให้เมีย”
“ผมแต่งตัวเองได้หรอก ปล่อยสิ
มัวแต่แกล้งผมงี้จะได้ไปไหมเล่า”ทำหน้าอ๊บงอนขึ้นมานิดๆ
มาร์คเลยยอมปล่อยทั้งรอยยิ้ม ก็จริงอย่างที่คนตัวเล็กว่า
ขืนแกล้งกันอย่างนี้สงสัยจะไม่ได้ออกไปไหนหรอก
เขาคงจับคนตัวกลมฟัดซ้ายฟัดขวาจนตัวช้ำจมเตียงอยู่กับบ้านนี้แน่ๆ
...เมียมาร์คน่ารัก ก็เลยอยากฟัดเป็นธรรมดา...
อะไรนะ? อิจฉาเหรอครับ อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
~^_^~
พวกเขามาถึงสวนสาธารณะเวลาประมาณเก้าโมงเช้าซึ่งยังไม่ค่อยมีคนมามากนัก
มาร์คปูเสื่อวางตะกร้าอาหารและสารพัดของที่แจ็คสันเตรียมมาบนสนามหญ้าใกล้หนองน้ำใต้ร่มไม้ใหญ่แสนร่มรื่น
ในขณะที่แจ็คสันอุ้มเมอาเดินตามเมสันไปสนามเด็กเล่นที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่นัก
วันนี้พวกเขาตั้งใจจะไปปิกนิกที่สวนสาธารณะเพราะเบื่อจะอุดอู้อยู่กับบ้านและอยากให้เด็กๆได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆบ้าง
แต่ด้วยความเป็นพวกคิดมาก
แจ็คสันเลยรีบตื่นตั้งแต่ตีห้ามาเตรียมอาหารนั่นนู่นนี่ทั้งที่มาร์คก็บอกไว้แล้วแท้ๆว่าไม่ต้องเช้าขนาดนี้ก็ได้
พอเตรียมอาหารเสร็จก็วิ่งไปจัดการเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนต่อ จนมาร์คต้องได้แย่งหน้าที่อาบน้ำแต่งตัวเมสันมาทำเอง
สงสัยเพราะคนตัวเล็กจะทำหน้าที่แม่บ้านมานานจนลืมว่าตอนนี้มีมาร์คมาคอยเลี้ยงลูกช่วยแล้วแน่ๆ
...แจ็คสันน่ะเป็นเด็กดื้อ...
“ยังไม่ค่อยมีคนเลย ไปกินข้าวกันก่อนไหม?”มาร์คถามเจ้าลูกชายที่บู้หน้า
แต่พอหันไปรอบๆไม่เห็นใครอย่างที่พ่อว่าก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย
“ก็ได้ครับ”พูดเสร็จก็วิ่งลิ่วกลับไปที่เสื่อ
“แจ็คสันก็เหมือนกัน ไปทานข้าวเถอะครับ”
“อ่า...ผมไม่ค่อยหิวเท่าไหร่เลย พี่พาลูกกินไปเลยก็ได้
เดี๋ยวจะไปซื้อน้ำให้”แจ็คสันส่ายหน้าปฏิเสธ
มาร์คเลยบีบปลายจมูกรั้นบีบไปมาเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“เดี๋ยวนี้ดื้อจังนะ หืม”
“ดื้ออะไรเล่า!
แล้วทำไมต้องบีบจมูกด้วย เจ็บนะโถ่”ปากแดงยู่ยื่นงอนๆ ถ้าไม่ได้อุ้มเมอานะ
ป่านนี้คงได้จัดขนมตุบตับให้มาร์คแล้วแน่ๆ
“ดื้อสิ ดื้อมากเลย”มาร์คส่ายหน้า
แย่งเอาเมอามาอุ้มมือเดียว ส่วนอีกด้านก็จับมืออวบของคนข้างตัวจูงมือเดินไปที่เสื่อ “ห่วงลูกก็ดีนะ แต่อย่าลืมห่วงตัวเองสิครับ พี่เป็นห่วงนะ”
“…”แจ็คสันเม้มปากไม่ได้พูดอะไร
เดินไปนั่งข้างเมสัน ยื่นมืออุ้มเมอาไว้บนตักรอมาร์คเอาอาหารปิ่นโตหลายกล่องลงมาวาง
จัดแจงเรียบร้อยก็ลงมือทานอาหารกัน
มาร์คกัดแซนวิสเคี้ยวพลางมองคนรักที่เอาหันไปป้อนลูกชายที
หันมาป้อนลูกสาวทีแต่ตัวเองกลับไม่ยอมกินอะไรเลย
...เด็กดื้อเอ๋ย...
“เมสันป้อนข้าวมะม๊าเราหน่อยสิ
ไม่ยอมกินจนผอมหมดแล้ว”
“อะไรเล่า”แจ็คสันหันมาทำหน้ามุ่ย
ผงะตกใจกับไส้กรอกปลาหมึกที่เจ้าลูกชายยื่นมาแปะแก้มขาวตามคำสั่งของคนเป็นพ่อ
“มะม๊าอ้าปาก อ้ามมมมม”เมสันเร่ง
ตาแป๊วๆดูมีความสุขที่เห็นมะม๊าตัวเองกินอาหารที่ตัวเองป้อน
“ม๊ะ ม๊ะ อั้ม
อั้ม”เมอาเรียกขณะพยายามถือขนมปังแซนวิชยกขึ้นเหมือนจะป้อนให้เขากินเหมือนพี่ชาย
แจ็คสันก้มหน้าลงกัดขนมปังอีกคำ ลูกสาวตัวน้อยก็ยิ้มกว้างหัวเราะคิกคัก
มาร์คยกกล้องถ่ายรูปมาถ่ายเก็บไว้
แล้วหยิบกระดาษทิชชูยื่นมาเช็ดคราบน้ำมันบนแก้มขาวแผ่วเบา
“ดีไหม”
แจ็คสันสบตามาร์คยิ้มๆแล้วหอมเจ้าตัวเล็กทั้งสองไปคนละฟอดสองฟอดแทนคำขอบคุณ
เมสันทานอาหารไปได้สักพักก็อิ่ม
คลานดุกดิกไปหาพ่อขอเล่น MT-362
หุ่นยนต์ของเล่นบินได้หน้าตาประหลาดที่มาร์คสร้างขึ้น
นั่งขอบเสื่อเล่นควบคุมสนุกสนาน เมอาพอเห็นมันบินได้ก็สนใจ คลานไปนั่งหมอบดูกับพี่ชาย
มีแจ็คสันยืดขานั่งสบายๆหลับตาสูดกลิ่นอากาศบริสุทธิ์พิงไหล่มาร์คอยู่ด้านหลัง
มาร์คนั่งมองลูกๆเล่นของเล่นที่ตัวเองสร้างขึ้นก็ชื่นใจ
รู้สึกว่าสิ่งที่ตั้งใจทำมาได้รับการสนใจก็มีความสุข
นั่งไปสักพักก็รู้สึกน้ำหนักบนไหล่เริ่มหนักขึ้น หันไปมองก็เห็นภรรยาตัวน้อยของเขาหลับไปแล้ว
มาร์คหลุดหัวเราะเบาๆลูบเส้นผมนิ่มไปมา
“เด็กดื้อ”
ขยับตัวนั่งยืดขา ค่อยๆย้ายศีรษะกลมลงมานอนบนตัก
มือหยาบเกลี่ยเส้นผมบนใบหน้านวลออก ไม่อยากให้รบกวนเวลานอนของคนรัก
พินิจใบหน้ากลมขาวที่มีร่องรอยความเหนื่อยอ่อนปรากฏอยู่
...ที่เขาพาออกมาวันนี้ จริงๆก็แค่อยากให้ภรรยาตัวเล็กผ่อนคลายขึ้นบ้างเท่านั้นเอง...
“พักสักหน่อยนะครับ ตัวเล็ก”
.
.
.
แจ็คสันรู้ตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงรถไอศกรีมวิ่งผ่าน
คนตัวเล็กปรือตางัวเงียซุกหน้าลงบนหน้าท้องแกร่ง หลับตาสักพักถึงได้ลุกขึ้นมานั่ง ขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเป็นรังนก
ท่าทางยังไม่ตื่นดี
“ผมหลับไปนานเท่าไหร่”
“ครึ่งชั่วโมงเอง นอนอีกเถอะ
เมอาก็หลับแล้วเหมือนกัน”มาร์คบอก
มือหนึ่งลูบหลังบอบบางของเมอาที่นอนกลางวันบนเบาะนอนที่เตรียมมาให้
“อือ ไม่เอาอ่ะ...เมสันล่ะ?”
“เมสันไปเล่นสนามเด็กเล่นน่ะ”
“อืม...พี่เมื่อยไหม ผมขอโทษนะ หลับซะนานเลย”
“ไม่เป็นไร ตัวเล็กพักเถอะ”
“ผมไม่เป็นไรน่า พี่นั่นแหละ เอาแต่ห่วงผม
ห่วงตัวเองบ้างเหอะ”
“เอวพี่ยังดีนะ
ลองไหม?”
เพี๊ยะ!
“ทุเรศ!
ลูกก็อยู่ใกล้ๆนี่”แจ็คสันทำปากยื่นขมวดคิ้วไม่ชอบใจ สองแก้มร้อนผะผ่าวเหมือมีไฟมาอิง
ผุดลุกขึ้นเดินเร็วๆไปหาเมสันที่กำลังก่อกองทรายในเบาะทราย ทิ้งมาร์คหัวเราะพอใจอยู่ด้านหลัง
แจ็คสันนั่งเล่นเป็นเพื่อนด้วยสักพักลูกชายก็วิ่งลิ่วไปหาเพื่อนเล่นที่อื่น
คนเป็นแม่เลยต้องเดินกลับมาหาคนเป็นสามีที่ยังนั่งคอยอยู่ที่เดิมเพิ่มเติมคือขวดน้ำและของกินเล่นสองสามอย่าง
“ร้อนไหม?”มาร์คถามเพราะเห็นแก้มกลมเป็นสีแดงเรื่อ
“ไม่อ่ะ
ผิวผมมันแดงง่ายเฉยๆ”
“อืม พี่รู้
ยิ่งเวลาโดนดูด...”
เพี๊ยะ!
“หยุดพูดเลยนะ!”
ยังไม่ทันพูดจบก็โดนมือป้อมตีปากแปะ
แก้มกลมแดงก่ำยิ่งกว่าผลแอปเปิลในตะกร้า มาร์คจับมือเล็กออก ยื่นหน้าจุ๊บปากอิ่มแดงเบาๆ
“ล้อเล่นเอง”
“ผมเขินนี่หว่า”
“ไม่ชินอีกเหรอหืม?”ถามพลางคลอเคลียแก้มใส
สูดกลิ่นหอมปะปนกับกลิ่นแป้งเด็ก จนแจ็คสันต้องดันตัวชายหนุ่มออก
“ไม่ชินหรอก หยุดน่า นี่ไม่ใช่ที่บ้านสักหน่อยนะ”
มาร์คหัวเราะเสียงต่ำยอมถอยออกมาโดยดี ลุกขึ้นเรียกเมสันให้กลับมาหา
เจ้าตัวเล็กโบกมือลาเพื่อนในสนามแล้ววิ่งด๊อกแด๊กกลับมาหาป๊า
แจ็คสันเก็บของใส่ตะกร้า โอบเมอาที่ยังไม่ตื่นขึ้นแนบอก
ใช้ผ้าบางๆคลุมศีรษะกันแดดให้เด็กหญิงเดินนำหน้าไปก่อน
มาร์คเก็บเสื่อพับใส่ซองอเนกประสงค์ ยื่นให้เมสันช่วยถือ ส่วนตัวเองก็ถือตะกร้าเดินกลับมาที่รถ
เก็บของเตรียมเดินทางไปบ้านป๊าม๊าหวังซึ่งเป็นเป้าหมายถัดไป
รถออดี้ห้าประตูแล่นเข้ามาในบริเวณบ้านของครอบครัวหวังที่ตอนนี้ทุบกำแพงบ้านด้านที่ติดกับบ้านมาร์คให้กลายเป็นบ้านเดียวกันไปเรียบร้อยตั้งแต่ปีก่อน
เจ้าของบ้านเดินออกมาต้อนรับผู้มาเยือนผู้คุ้นเคยด้วยรอยยิ้ม
ประตูด้านหลังเปิดผางออกมาก่อนจะมีก้อนน้อยๆหนึ่งก้อนกระโดดลงมา
แล้วพุ่งชนป๊าหวังเข้าเต็มๆ
“เมสัน!
ไหว้คุณตาคุณยายรึยังลูก”เสียงแหบหวานตะโกนออกมาจากในรถ
ก้อนกลมที่ว่าหรือก็คือเมสันกระโดดผึงออกมายืนต่อหน้ายิ้มแผล่
ไหว้ทักทายท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู
“หวัดดีฮะคุณตา
หวัดดีฮะคุณยาย”
“ลูกคนนี้นี่”แจ็คสันที่เดินอุ้มเมอาตามมาส่ายศีรษะหน่ายๆ
ไหว้สวัสดีป๊าม๊าของตัวเองโดยมีลูกสาวตัวน้อยมองตาแป๊วๆ
มือเล็กๆค่อยๆยกขึ้นเลียนแบบม๊าของตัวเอง
สร้างเสียงหัวเราะให้กับคุณตาคุณยายที่ปกติก็หลงร้านรักทั้งสองอยู่แล้วหลงเข้าไปใหญ่
คุณตาอุ้มหลานชาย ส่วนคุณยายก็อุ้มหลานสาว
ต่างหอมแก้มซ้ายขวารับขวัญอย่างมีความสุข
“แล้วอี๋เอินล่ะ?”
“แหม
เดี๋ยวนี้ถามหาคนอื่นก่อนลูกอีกนะป๊า”
“คนอื่นที่ไหน
นั่นสามีของลูกชายกับพ่อของหลานตาเชียวนะ”
“ขนของอยู่มั้ง...”
“สวัสดีครับป๊าม๊าหวัง”พูดยังไม่ทันขาดคำ
มาร์คก็เดินลากกระเป๋าใบใหญ่ตามมาทักทายผู้หลักผู้ใหญ่
“นั่นอะไรน่ะอี๋เอิน”
“อ๋อ
ของฝากของป๊าครับ เห็นป๊าชอบปลูกต้นไม้...”
“บอกเอาของมาเซ่นป๊าผมก็พูดเถอะพี่”แจ็คสันกลอกตา
เห็นตั้งแต่ที่บ้านแล้วเลยไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แต่ป๊าหวังนี่แทบจะเดินเข้ามาดูเอง
“อะไรล่ะ?”
“หุ่นยนต์ดูแลสวนครับ
ผมปรับปรุงเซนเซอร์ใหม่ให้แม่นยำขึ้น แล้วก็ตั้งเวลารดน้ำเติมปุ๋ยได้ด้วย สร้างให้ป๊าหวังโดยเฉพาะเลยครับ”พออวดสรรพคุณเสร็จก็ยิ้มจนเห็นรอยยับ
“โอ๊ย
ไม่น่าลำบากเอามาเลย แต่ขอบคุณนะ เออนี่...”
แล้วคุณพ่อตาก็นั่งเมาท์กับลูกเขยคนโปรดด้วยความเมามัน
แจ็คสันส่ายหน้ายิ้มๆ
“มาๆ
เข้ามาในบ้านก่อน แล้วคิดยังไงถึงมาหาป๊าม๊าได้ล่ะ”ม๊าหวังแซวขึ้นยิ้มๆ
“ก็คิดถึงอ่ะ
อยากมาหาบ่อยๆไม่ดีเหรอ”แจ็คสันเข้าไปเกาะแขนมารดาอ้อนเอียงซบบ่าเป็นเด็กๆ
ในขณะที่เมสันเมอาเริ่มชวนกันไปเล่นในสนามหญ้าที่คุณตาลงทุนตัดเรียบเพื่อเตรียมพร้อมเป็นลานให้กับเจ้าตัวป่วนทั้งสองคนได้วิ่งซนกัน
“ดีสิ ตายายจะได้ไม่เหงา
มีสองป่วนไว้กอดเล่น”ม๊าหวังหัวเราะ จูงมือลูกชายเข้าไปในบ้าน
“ไปๆ
เข้าบ้านกันก่อน ไปหาอะไรเติมท้องให้เต็มก่อน เอ้า เมสันเมอา มากินข้าวเที่ยงก่อนเร็ว”
“ค๊าบบ/ต๊ะ”เมสันตัวป่วนตอบกลับมา
พลางวิ่งดุ๊กๆเข้าไปในบ้าน เมอาพอได้ยินชื่อตัวเองก็ตอบรับอัตโนมัติแสนน่ารักน่าชัง
มาร์คเดินตามป๊าเข้าไปในบ้าน
เข้าไปหาแจ็คสันในห้องครัว
“มีอะไรให้พี่ช่วยไหม?”
แจ็คสันส่ายหน้าปฏิเสธ
ยกขวดน้ำออกมาวางไว้เตรียมอยู่ข้างๆ อ้อมไปนั่งข้างเมอา มาร์คเลยเลือกนั่งเก้าอี้ติดกับเมสันเพื่อนจะได้ดูแลลูกได้
พวกเขาเริ่มทานอาหารกันด้วยความครื้นเครงเพราะเมอาร้องอ้อแอ้จะแย่งไก่จากพี่ชาย
สุดท้ายเมสันเลยต้องมองตามไก่ชิ้นนั้นตาละห้อย มาร์คจึงตักไก่ชิ้นใหญ่ของตัวเองส่งให้ลูกชายแทน
“เออ
แล้วการงานเป็นยังไงบ้างล่ะมาร์ค?”จู่ๆป๊าหวังก็ถามขึ้นเพราะได้ยินว่ามาร์คลาออกจากงานประจำมานานพอสมควรแล้ว
“ตอนนี้ก็ทำวิจัยร่วมกับพี่แทคครับ
แล้วก็ขายสิ่งประดิษฐ์ให้พวกบริษัทเอกชน”
“ได้เงินมาเป็นก้อนสิ?”
“ครับ ก็มีพวกเงินค่าลิขสิทธิ์อีกนิดหน่อย...”
“พูดถ่อมตัวไปเถอะเราน่ะ”ป๊าหวังหัวเราะ
...เอาเถอะ
จะได้มากน้อย แค่ดูแลลูกกับหลานเขาได้ก็พอใจแล้วล่ะนะ…
พอทานข้าวเสร็จป๊าม๊าหวังก็ยึดสองแสบไว้เล่นด้วยความคิดถึง
มาร์คเลยขอตัวพาแจ็คสันไปเก็บของที่บ้านเก่า
“จะพาผมไปไหนอ่ะ?”
มาร์คหันมายิ้มแต่ไม่พูดอะไร เอาแต่ดึงแขนแจ็คสันให้เดินตามไปบ้านที่ไม่ได้กลับมานาน
ไขกุญแจผลักประตูบานเก่าเข้าไป
ภายในบ้านยังมีเฟอร์นิเจอร์เก่าอยู่ครบและมีผ้าคลุมสีขาวปูลาดอยู่ทุกชิ้น
แต่พื้นบ้านยังดูสะอาดเอี่ยมบ่งบอกว่าม๊าหวังคงเผื่อแผ่ทำความสะอาดให้บ้านหลังนี้ด้วย
“พี่ลืมของอะไรไว้เหรอ?”แจ็คสันถาม
เดินตามคนเป็นพี่เข้ามาด้วยความสงสัย
“ไม่ได้ลืม”มาร์คตอบ พลางเดินยิ้มๆเข้าไปในครัว
“อ้าว แล้วมาทำไมอ่ะ”
มาร์คไม่ตอบอีกตามเคย
แต่เดินไปนั่งบนเคาน์เตอร์ติดผนัง มองคนตัวเล็กที่เดินมายืนต่อหน้า
มองเขาด้วยความสงสัย ตากลมๆปิดประกายใคร่รู้อย่างปิดไม่มิด
น่ารักเหมือนครั้งแรกที่เขาตกหลุมรักดวงตาใสซื่อคู่นี้ไม่มีผิด
“ที่ตรงนี้...จำได้ไหม?”
“ห้องครัวพี่ไง...เอ๊ะ”ทันใดนั้นความทรงจำบางอย่างก็ไหลบ่าเข้ามาเต็มสมองกระตุ้นแก้มขาวให้แดงปลั่งและทำท่าจะแดงไปทั้งตัวด้วยความเขินอาย
แจ็คสันระงับอาการเขินอาย ตอบย้ำกุกๆกักๆ “กะ...ก็ ห้องครัวไง”
มาร์คหัวเราะ
หน้าแดงแบบนั้นคงจำได้แล้วล่ะแต่ไม่กล้าพูดออกมาเฉยๆ ยื่นมือออกไปเชิญชวน
“มานี่สิ”
“พี่คิดจะทำอะไร?”
“แล้วแจ็คสันจะมาเป็นแม่ของลูกพี่ไหมล่ะครับ?”
“เอ๊ะ”แจ็คสันอุทานเสียงเบา
คุ้นๆหูกับประโยคนี้
ร้องเหวอลั่นเพราะจู่คนบนเคาน์เตอร์ก็ลงมายืนจับเอวอวบหมุนตัวอุ้มวืดขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์แทน
แขนที่ดูผอมแต่กลับมีเรี่ยวแรงมากมายนั้นดันผนังข้างศีรษะกลม สถานการณ์เอย
คำพูดเอยช่างคุ้นแสนคุ้นราวกับเคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว
โอเค...แจ็คสันแค่กำลังหลอกตัวเอง...
ผมจะลืมวันเสียตัวครั้งแรกได้ยังไงเล่า!!!
ร่างขาวเม้มปากแน่นกลั้นความเขินอาย
หน้าร้อนไปหมดเพราะดวงตาสวยของมาร์คจ้องมองเขาด้วยแววตาเอ็นดูแฝงอะไรบางอย่างที่รู้กันดี
มือเล็กเริ่มปะป่ายไปรู้จะไปวางตรงไหน สุดท้ายก็จบลงที่กำเสื้อตัวเองแน่น
แสร้งทำตาดุให้อีกฝ่ายปล่อยตัวเองไป
“เล่นบ้าอะไรเล่า ปะ ปล่อยเลยนะ ผมจะไปดูลูก”
“พี่ขอเวลาสามสิบนาที...”
“เวลา? เวลาอะไร?”
“เวลาของพี่กับแจ็คสัน”นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มนิ่ม
จุมพิตปากอิ่มแดงเบาๆ “เวลาของเรา...แค่เรา”
แจ็คสันนิ่งไป
เงยหน้าสบดวงตาที่ทอประกายอ้อนแฝงไปด้วยความต้องการ แจ็คสันรู้ว่ามาร์คต้องการอะไร
และเขาควรทำอะไร ถึงแม้แจ็คสันหวังในตอนนั้น จะไม่ใช่แจ็คสันต้วนในวันนี้
ตอนนี้ก็ตาม
คนตัวเล็กขยับก้นมานั่งบนขอบเคาน์เตอร์ เรียวขาตวัดน่องเพรียวดึงคนเป็นพี่เข้ามาใกล้จนสะโพกแกร่งเข้ามาแนบชิด
วาดมือวางบนไหล่แข็ง ช้อนตาขึ้นมองอย่างขี้เล่น ปลายนิ้วป้อมแตะปลายจมูกโด่งเบาๆ ท่าทางยั่วยวนอย่างที่ชายหนุ่มถึงกับเผลอกลืนน้ำลายดังอึก
“อยากย้อนเวลาหรือไง?”เสียงแหบหวานถามเสียงพร่า
“แล้วจะไปกับพี่รึเปล่าล่ะ?”ดวงตาสวยหรี่ตาเผยแววตาเสือกำลังจะขย้ำเหยื่อแสนโอชา
“ไปก็ไปสิ แต่ผมไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนคนนั้นแล้ว
เพราะฉะนั้นรอบนี้...”แจ็คสันเว้นช่วงเอาไว้ ดันไหล่คนเป็นพี่ออกเบาๆ
เผยแววตายั่วยวนชวนกระโจนเข้าใส่อย่างเปิดเผย “ผมจะทำเอง”
พูดจบก็ดันชายหนุ่มล้มลงบนพื้นกระเบื้องเย็น
คนตัวเล็กยืนขึ้นปลดกางเกงยีนตัวฟิตออกช้าๆเผยเรียวขาขาวท้าสายตาคนมองแบบไม่กระดากอาย
มือป้อมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกปล่อยผิวเนื้อขาวนวลเต่งตึงโผล่ออกมาวับๆแวมๆชวนใจสั่น
เดินเข้ามานั่งคุกเข่าคร่อมเหนือสะโพกแกร่ง วางมือลงบนหน้าท้องผอมแต่กลับแข็งเป้กอย่างกับหิน
แลบลิ้นเลียริมฝีปากอิ่มแดง
กดสายตามองมาร์คราวกับนางพญากำลังลงทัณฑ์ทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์
...เอาเลยครับเมีย
เชิญน้องโซโล่เลยถ้าจะร้อนแรงขนาดนี้ โอย กำเดาจะไหล...
หัวใจมาร์คเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกจากอก
ยกมือวางบนสะโพกนุ่มใต้เงาเสื้อบีบคลึง แจ็คสันหลับตาส่งเสียงในลำคออย่างพึงพอใจ
“อืม...”
แจ็คสันรู้ว่าทำยังไงมาร์คถึงจะพอใจและในตอนนี้บางสิ่งที่เขากำลังนั่งทับอยู่ก็ดันร่องก้นเขาอย่างหยาบคาย
ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำมองเขาตาปรอย
...โถ พอเสือร้ายโดนยั่วเข้าหน่อยล่ะอ่อนเป็นลูกแมวเชียว...
คิดหัวเราะสะใจในใจ
บางครั้งบางทีเขาก็อยากกลับมาเป็นผู้นำบ้างก็ต้องทำอะไรขัดใจตัวเองแบบนี้เป็นครั้งคราว
แต่พอทำแล้วเห็นมาร์คอ่อนยวบก็ชักติดใจแล้วเหมือนกัน
“นี่ พี่มาร์ค”
“ครับ”
“ห้ามแตะตัวผมจนกว่าผมจะอนุญาตนะ”
พี่ยอมแล้วทูนหัว พี่ยอมทุกอย่างเลย T_T
แจ็คสันแน่ใจว่ามาร์ครับฟังกฎดีแล้วก็ดึงกางเกงรวมถึงชั้นในคนเป็นพี่ลง
ส่วนแข็งขืนเด้งผึงผงาดโชว์ความแข็งแกร่ง ดวงตากลมจ้องมันเป็นมัน
ส่งนิ้วป้อมกรีดนิ้วลงไปตามความยาว โอบกระชับส่วนแข็งขืนรูดรั้งขึ้นลงเบาๆ นิ้วโป้งคลึงหมุนนวดส่วนปลายจนเริ่มปริ่มน้ำ
มาร์คกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่
มองตามนิ้วนางและนิ้วชี้ที่ผลุบเข้าไปในโพรงปากร้อน
ลิ้นเล็กแลบเลียได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบชัดเจน ถ้าแค่นั้นยังไม่สาแก่ใจ
ดวงตากลมปรือยังเผื่อแผ่ความท้าทายมาให้เขาจนหน้าชา
อยากได้เมีย! อยากฟัดเมีย! อ๊ากกก!!!
แจ็คสันหัวเราะคิก เลื่อนนิ้วชุ่มน้ำลายเลื่อนต่ำ
โก่งหลังแยกขาสอดปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางสวาท
เชิดหน้ากัดปากกลั้นเสียงครางขณะปลายนิ้วเลื่อนผ่านหูรูดแน่นหนั่น
เปิดทางเพียงเล็กน้อยเขาก็รู้สึกพร้อมสำหรับศึกรัก
จับส่วนกลางลำตัวของคนใต้ร่างจ่อตรงปากทาง ย่อเข่ารับส่วนร้อนรุ่มเข้าไปในตัวพรวดเดียว
“ฮ๊า!”
ผิวขาวพลันแดงระเรื่อเนื้อเต้นสั่นระริก
ช่องทางอุ่นรัดมาร์คแน่น ฝืนเฝื่อนจนกลัวว่าแจ็คสันจะเจ็บ
“ไหวไหม?”
“อืม ไหวน่า ซี๊ด”กัดปากส่งเสียงซี๊ด
ยกสะโพกขึ้นเริ่มบรรเลงเพลงรักแสนเร่าร้อน
ขอบเนื้อด้านนอกรูดท่อนเอ็นอวบผลุบโผล่ตามจังหวะการขยับตัว
ผิวเนื้ออ่อนด้านในต้นขาเสียดสีกางเกงยีนของมาร์คจนร้อนแดงแต่ก็ไม่ร้อนเท่าช่องทางภายในที่กำลังโดนเติมเต็ม
แจ็คสันบีบกระตุกรู้จังหวะจะโคนจนมาร์คแทบคลั่ง ได้แต่มองเรือนร่างยั่วอารมณ์แล้วจิกนิ้วกับพื้นกระเบื้อง
“อ่า พี่มาร์ค อ๊า อือ ใหญ่”
ริมฝีปากอิ่มแดงขมุบขมิบพึมพำประโยคลามก
ดวงตากลมปรือหรี่วาววับพอพึงพอใจ จมูกรั้นพ่นลมหายใจร้อน
ผิวบอบบางทุกจุดกลายเป็นสีแดงระเรื่อ เส้นผมสีเข้มพลิ้วไปตามการขยับ เหงื่อเม็ดเล็กไหลลงมาตามสันกราม
ลำคอขาว ผ่านกระดูกช่วงอก จากตรงนี้เขาเห็นแม้กระทั่งหน้าอกเล็กกระเพื่อมขึ้นลง
แจ็คสันมองตามาร์คก็รู้แล้วว่าชายหนุ่มกำลังอดทนขนาดไหน
อาศัยการเป็นต่อในตอนนี้ เอนตัวคร่อมยัน
สาปเสื้อเชิ้ตตกลงมาแหวกออกเผยร่างกายด้านหน้าของเขาให้คนด้านล่างได้เห็นอย่างเต็มตา
“อยากฟัดผมล่ะสิ...คิก”
“อ่า...ต้วนกากา อย่าให้ถึงตาพี่เชียว”
ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีแดงเพราะแรงอารมณ์
เม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วร่าง
เสื้อยืดเปียกเหงื่อแนบไปกับตัวยิ่งเห็นแผงอกและหน้าท้องเป็นลอนสวย
ดวงตาสวยจ้องตรงแน่วจนคนมองต้องหลบตาเก้อเขิน มาร์คแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผาก
เตรียมตัวตะครุบเหยื่อเต็มที่
“ก็เอาสิ”
สิ้นคำอนุญาต มาร์คก็เด้งตัวขึ้นนั่ง
ล็อกหลังคอขาวแนบริมฝีปากบดคลึงปากอิ่มรุนแรงตามอารมณ์ที่ถูกเก็บกัก
สอดแทรกลิ้นเข้าโรมรันดูดกลืน เร่งเร้าจนแจ็คสันตั้งรับไม่ทัน มืออีกด้านเลื่อนสะกิดยอดอกแข็งขืน
ปาดมือผ่านหน้าอกนุ่มสวนขึ้นมาบีบเนินเนื้อนิ่ม
ดึงอาภรณ์ชิ้นเดียวบนกายขาวเลื่อนตกไปจากไหล่
สวนสะโพกเข้าใส่คนช่างยั่วจนคนตัวเล็กสะท้านเฮือก
ลิ้นร้อนลากเลียชิมกดจูบข้างลำคอขาวเลื่อนต่ำลงบดจูบก่อนถึงเนินอกนิ่ม
สองมือบีบคลึงเต้าอวบของคนรัก รู้สึกมันมือจนหยุดไม่ได้ แจ็คสันส่งเสียงครางซี๊ด
“อ๊า พี่ หยุดบีบนะ...มัน อ่า มันจะไหล”
พูดไม่ทันจบประโยคน้ำใสขุ่นก็พุ่งพรวดเลอะใบหน้าหล่อเหลา
มาร์คหัวเราะในลำคอ แลบลิ้นเลียชิมรสน้ำนมสดใหม่จากเต้า
อ้าปากดูดดึงน้ำนมจากอกราวกับเด็กทารกยังไม่หย่านม แจ็คสันร้องครวญคราง
เสียวกระสันเกินควบคุม มือเล็กพยายามดันมาร์คออก แต่ชายหนุ่มก็รู้ทัน
รวบตัวกอดแน่นมือกดเอวด้านหลังบังคับให้อยู่ในท่านั่ง
ยิ่งทำให้ส่วนแข็งขืนผลุบเข้าลึก
“อ่ะ!...”ตาโตเบิกกว้างจุกในช่องท้อง
ก่อนความเจ็บจะหายไปกลายเป็นความรู้สึกเสียวซ่านจนต้องร้องครางออกมาซ้ำๆ
ผิวเนื้อเสียดสีร้อนรุ่มไม่แพ้อารมณ์ในกายที่กำลังโดนไฟกามอารมณ์แผดเผา
สิ้นความอายโถมหากันราวกับสัตว์ในป่าลึก
ริมฝีปากบดเบียดแลกลิ้นรัดพันดูดกลืนทุกหยาดหยดของกันและกัน
แขนต่างโอบกอดอีกฝ่ายแนบแน่น
เริ่มรุนแรงร้อนระอุจนกระทั่งทุกอย่างกลายเป็นสีขาวโพลน
.
.
.
.
.
“ทำไมยืนเซๆล่ะลูก”ม๊าหวังเห็นแจ็คสันเกาะไหล่มาร์คเดินออกมาก็ถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ...กากาเจ็บขานิดหน่อยง่ะม๊า
ซุ่มซ่ามไปชนขาโต๊ะอ่ะ”โกหกไปพลางหัวเราะแห้งๆ
มืออีกด้านก็ยกลูบๆข้างลำคอปิดรอยแดงที่มาร์คทิ้งเอาไว้ รีบถามเปลี่ยนประเด็น
“เจ้าตัวเล็กล่ะม๊า”
“วิ่งขึ้นรถไปรอก่อนแล้ว...”
“อ้าว งั้นรีบไปดีกว่า อ่ะ...
ซี๊ด”แจ็คสันกัดปากกลั้นเสียงซี๊ด รู้สึกเจ็บเสียดทุกครั้งที่ย่ำเดินแรงๆ
“มาพี่อุ้ม”
“เห้ย เดี๋ยว!”
ไม่ทันได้ปฏิเสธเต็มคำ
มาร์คก็ได้โอกาสอุ้มภรรยาตัวเล็กขึ้นแนบอก ม๊าหวังหลุดเสียงกรี๊ดออกมาเล็กน้อยด้วยความตกใจ
แล้วก็ต้องส่ายหน้าเอ็นดูเมื่อเห็นว่ามาร์คยืนได้มั่นคงดี
จะหัวเราะก็ตรงที่ใบหน้าหวานคมของเจ้าลูกชายแดงก่ำเหมือนเอาสีมาทาหน้า
“หนักขึ้นรึเปล่าเนี่ยเรา”
“หนักก็ปล่อยดิ งือ พี่มาร์ค ผมอายลูกอายม๊านะ”แจ็คสันยกมือปิดหน้า
อายหนักขึ้นเมื่อได้ยินเสียงแซวจากม๊าตัวเอง
“ไม่ต้องอายหรอกน่า
เรานี่ก็คิดมากไปได้”ม๊าหวังหัวเราะพออกพอใจ “อี๋เอินพาน้องไปนั่งในรถรอก่อนไป”
มาร์ควางแจ็คสันลงเบาะด้านข้างคนขับ
ส่วนเมสันกับเมอานั่งเล่นของเล่นรออยู่เบาะหลัง พวกเขารอป๊าหวังเดินมาสบทบถึงได้ยกมือไหว้ขอลากลับบ้าน
“ป๊าม๊า กากากลับก่อนนะ”
“จ้า กลับดีๆ ดูแลตัวเองดีๆ
แล้วอี๋เอินก็ถนอมๆลูกม๊าด้วยนะ ช้ำไปก่อนคงได้อดเห็นหลานคนที่สาม”
“ม๊าอ่ะ!!”แจ็คสันท้วงหน้าแดงแปร๊ด
...พูดอย่างนี้ก็แสดงว่ารู้น่ะสิว่าเข้าบ้านมาร์คไปเมื่อกี้ไปทำอะไรกัน...
มาร์คหัวเราะรับคำ ไม่ได้พูดอะไรต่อ พาลูกยกมือลาป๊าม๊าหวังแล้วขับรถบ่ายหน้ากลับบ้านแสนสุขของพวกเขา
“พี่มาร์ค
พาเมสันอาบน้ำเสร็จรึยัง”เสียงแหบตะโกนถามคนที่พาลูกชายคนโตของตนหายลิบเข้าไปในห้องน้ำนานกว่าชั่วโมง
ในขณะที่มือขาวโอบร่างน้อยของเมอาไว้บนตัก จัดการปะแป้งจนตัวขาวโพลน หันไปหยิบชุดนอนบนเตียงขึ้นมาสะบัดสวมใส่ให้
“เสร็จแล้วค๊าบ”เสียงแจ้วๆของเจ้าลูกชายดังออกมาก่อน
เมสันวิ่งลิ่วตัวเปียกออกมาทั้งที่ยังไม่ใส่ผ้าขนหนู
หัวเราะเอิ้กอ้ากกับมาร์คที่ส่ายหัวเดินตามออกมา สภาพเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า
แม้กระทั่งผ้าขนหนูก็ยังเปียกแนบไปกับต้นขาและสะโพก สงสัยโดนลูกรักแกล้งสาดฝักบัวใส่แน่ๆ
“กลับมาใส่ผ้าเช็ดตัวเร็ว ไอ้ตัวแสบ”มาร์คเรียกแต่เจ้าลูกชายส่ายหน้าขวับ
“เมสันไม่อยากใส่
เมสันอยากให้ม๊าแจ็คเช็ดตัวให้”ว่าแล้วก็วิ่งดุ๊กๆไปคลอเคลียคนเป็นแม่ที่ส่ายหน้า
ขยับตัวหนีเป็นเชิงแกล้ง
“มันเปียกนะเมสัน ลงไปเช็ดตัวกับป๊ามาร์คก่อนไป
น้องเมอาแต่งตัวเสร็จแล้วเนี่ย เห็นไหม?”
“งื้ออ เมอาเสร็จเร็วเพราะม๊าแต่งตัวให้งายยย
ถ้าม๊าแต่งให้เมสันด้วย
เมสันก็จะเสร็จเร็วว”เจ้าตัวเล็กยังอ้อนเกาะแข้งเกาะขาแม่จนคนเป็นพ่อต้องหิ้วตัวอุ้มไปแต่งตัวหน้าตู้เสื้อป้าด้วยความหมั่นไส้
“มานี่เลยๆ เจ้าตัวแสบ ขี้อ้อนดีนักนะ”
“ม๊ะ ม๊ะ”เจ้าตัวเล็กอีกคนบนตักเรียกเสียงเบา
แจ็คสันก้มหน้าเอียงคอยิ้มๆ
“คะ?เมอา”
“อุ้ง”สองมือเล็กๆชูขึ้นสุดแขน
ปากน้อยๆร้องออกมาแต่คำว่า อุ้งๆๆๆ แจ็คสันยิ้มหวานรวบตัวลูกสาวคนเล็กขึ้นอุ้มแนบอกแกว่งตัวไปมา
หอมแก้มหอมคอยุ้ยๆหมั่นเขี้ยว
“เมสันเสร็จแย้ววว”ลูกชายวิ่งมาเกาะขา
สองมือพยายามแตะตัวน้องคนเล็ก แจ็คสันก็เลยย่อตัวให้เมสันได้หอมแก้มเมอาฟอดใหญ่
พอได้หอมน้องก็ยิ้มร่าเห็นฟันซี่เล็กๆยังไม่ครบดี
“ไปนอนได้แล้วแสบ วันนี้ม๊าเหนื่อย ไป...เดี๋ยวป๊าอ่านหนังสือนิทานให้ฟัง”
“อะโด่ ป๊าจะหวานกับม๊าก็บอกเถอะ แบร่”
“แสนรู้นักนะ”ยีหัวเจ้าลูกชายด้วยความหมั่นเขี้ยว
อุ้มขึ้นบ่าพาเดินออกไปจากห้อง แจ็คสันหัวเราะขำๆ อุ้มเมอาขึ้นจุ๊บหน้าผากเล็กเบาๆ
“ถึงเวลานอนแล้วนะเมอา”
“มะงือ”ปากเล็กบู้บี้ไม่อยากนอน
“ไม่ได้ค่ะ ต้องนอนแล้วนะ
พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาเล่นนะคะ”
“ต๊ะ ต๊ะ”
มือจิ๋วแปะข้างแก้มนิ่มของมะม๊ายื่นปากจู๋ตะกายขึ้นมาจุ๊บเบาๆ
แจ็คสันยิ้มหอมแก้มยุ้ยทั้งสองข้าง อุ้มเด็กน้อยนอนวางพาดบนไหล่ เมอาจะไม่ยอมหลับถ้าแจ็คสันไม่พาเดินร้องเพลงกล่อมไปรอบห้อง
ไม่ถึงสิบนาทีลูกสาวตัวเล็กก็หลับคาอกคนเป็นแม่ แจ็คสันวางลูกลงนอนในอู่ กดเครื่องปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะกับร่างกายของเด็กหญิง
ลูบตามลำตัวนิ่มด้วยสัมผัสอ่อนโยน
“หลับฝันดีนะนางฟ้าน้อยของมะม๊า”
มองจนแน่ใจแล้วว่าเมอาหลับสนิทจึงปิดประตูกระจก กลับมานั่งอ่านเอกสารที่ขอมาจากพี่คุณบนเตียงด้วยความตั้งใจ
อ่านจนจบมาร์คก็ยังไม่กลับมา คนตัวเล็กเกิดความสงสัย เดินออกไปตามชายหนุ่ม
แต่พอลงมาถึงห้องเมสันก็ไม่เห็นมาร์ค ส่องเข้าไปก็เห็นภายในห้องเปิดไฟหัวเตียง
มีร่างของเด็กชายนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
แจ็คสันเดินเข้าไปหอมแก้ม บอกราตรีสวัสดิ์
ลุกขึ้นเดินลงไปชั้นล่างตามหาตัวมาร์คด้วยความเป็นห่วง แต่สุดท้ายก็เห็นร่างโปร่งกำลังนั่งเงียบๆอยู่บนโต๊ะทำงาน
ตาสวยเหม่อมองหลอดแก้วบรรจุของเหลวสีฟ้าในมือ มาร์คกลิ้งมันไปมา
ชูขึ้นแล้วถอนหายใจเฮือกเหมือนคนคิดไม่ตก
“ทำไมพี่มาอยู่นี่?”แจ็คสันถาม “แล้วนั่นยาที่ผมกินเหรอ?”
“ใช่ครับ”มาร์คตอบยิ้มๆ วางมันลงบนโต๊ะ
หมุนเก้าอี้อ้าแขนรอรับร่างภรรยาตัวเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
ดันสะโพกนุ่มให้นั่งบนตัก
“แล้วเอามันออกมาทำไมเหรอ?”
มาร์คเงียบไปชั่วครู่ หันมามองหน้าเขานิ่ง
แจ็คสันก็เอียงหน้าสงสัย
หน้าเขามีอะไรอย่างนั้นเหรอ?
“พี่จะทำลายมันทิ้ง รวมถึงส่วนผสมด้วย”
แจ็คสันเบิกตาโต
ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆมาร์คถึงได้อยากทำลายผลงานที่ตัวเองภาคภูมิใจและลงทุนลงแรงหลายปีกว่าจะได้มันออกมา
“ทำไมล่ะ? นี่มันผลงานชิ้นเอกของพี่ไม่ใช่เหรอ? แล้วบอกพี่แทคหรือยัง?”
“พี่แทคให้พี่ตัดสินใจ...”มาร์คบอก “แล้วพี่ก็จะทำลายมันเพราะแจ็คสัน”
“ห่ะ? ผมเกี่ยวอะไรด้วย”คนตัวเล็กทำคิ้วขมวด
“พอพี่มาคิดๆดู ถ้ามันยาเกิดกระจายออกไป...ถ้ามีคนโดนยาแบบไม่ตั้งใจอย่างแจ็คสันแล้วเขาไม่พร้อม
ไม่ต้องการที่จะเป็นแบบนั้น... มันก็ไม่ใช่เรื่องดีใช่ไหม?”
“อืม...ก็จริงแฮะ แล้วพี่จะไม่เสียดายเหรอ?”แจ็คสันถามด้วยความเป็นห่วง
มือป้อมลูบแก้มเรียวจ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวย
“เสียดายนิดๆล่ะนะ...แต่พอคิดถึงผลเสียแล้ว
ทำลายมันไปซะจะดีกว่า
พี่ไม่อยากจะทำให้ชีวิตใครพัง...แจ็คสันตอนนั้นก็เครียดมากเลยใช่ไหม? พี่ขอโทษนะครับ”พอคิดกลับไปมาร์คก็อยากจะขอโทษแจ็คสันที่ไม่ได้อยู่ในวันที่คนตัวเล็กอ่อนไหวและต้องการเขามากที่สุด...
“ไม่เป็นไรครับ เพราะถึงผมจะโดนยาจนเป็นแบบนี้ ผมก็ยังโชคดี...เพราะผมมีพี่”
“ขอบคุณนะที่คิดว่าพี่คือโชคดี”มาร์คหัวเราะขำๆ
แต่แจ็คสันส่ายศีรษะพลางทำหน้าจริงจัง
“ผมจริงจังนะ”แจ็คสันขยับตัวขึ้นนั่งคร่อมตักหนา
มือนิ่มแปะข้างใบหน้าหล่อเหลาบังคับให้สบตากับตน ริมฝีปากอิ่มพูดช้าๆ สื่อสายตาให้มาร์ครู้ว่าเขาคิดแบบที่พูดจริงๆ
“ผมคิดว่าพี่คือความโชคดีที่สุดในชีวิตของผมเลยนะ
ถ้าผมไม่ได้เจอพี่ ไม่ได้แต่งงานกับพี่หรือผมไม่โดนยานี่... ผมคงไม่มีเมสัน ไม่มีเมอา ไม่มีความสุขขนาดนี้”
“พี่ก็เหมือนกัน”มาร์คจับมือนิ่มด้านหนึ่งลงมาคลึง
ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บริมฝีปากอิ่มสีแดงจัด “ตัวเล็กสร้างความสุขให้พี่มากมาย ทั้งเรื่องเป็นภรรยาที่น่ารัก...
เรื่องของเมอากับเมสัน...
ถึงเวลาที่ตัวเล็กจะต้องสร้างความสุขให้ตัวเองแล้วนะครับ”
“ความสุขของผมตอนนี้คือเมสัน
เมอา...แล้วก็พี่...”แจ็คสันย้ำอีกรอบ เอนตัวพิงอกชายหนุ่ม
หลับตาฟังเสียงหัวใจที่เต้นถี่แรงขึ้น มันเต้นตุบตับแทบจะเป็นจังหวะเดียวกันกับหัวใจของเขาเลย...
“ตอนนี้ผมมีความสุขมากๆ
และผมไม่ต้องการอะไรแล้วล่ะ”
“อ่า...แต่พี่ยังต้องการอยู่นี่สิ”
แจ็คสันชะงัก
ผุดลุกนั่งตัวตรง ขมวดคิ้วสงสัย “หรือว่าพี่...”
“ไม่ใช่อย่างที่ตัวเล็กคิดหรอกครับ”มาร์ครีบเบรกความคิดแม่คุณทูนหัวที่เริ่มจะคิดมากไปไกล
“ตัวเล็กน่ารักขนาดนี้พี่จะไปอยากได้คนอื่นทำไมล่ะ? ที่พี่อยากได้น่ะ เรื่องอื่น...”
“แล้วมันเรื่องไหน?”ปากอิ่มแดงยู่ตุ่ยออกแบบเริ่มจะงอนนิดๆ
มาร์คยิ้มกริ่มสอดแขนโอบรัดสะโพกขาวเข้ามาชิด
“ลูกก็นอนหลับแล้วเนอะ...”
“ก็ใช่ไง”
“ห้องนี้ก็มีโซฟา...”
“พี่จะนอนโซฟารึไง?
งั้นก็ปล่อยผมสิ ผมจะไปนอน ง่วงแล้วเนี่ย”
“อืม...”มาร์คส่ายหน้ายิ้มขำๆ
ใบ้ขนาดนี้ภรรยาตัวเล็กคนซื่อก็ยังไม่รู้เลยเหรอว่าเขาต้องการอะไร
นี่ใช่คนเดียวกันกับที่ออนท็อปให้เขาเมื่อตอนกลางวันจริงเหรอ?... “ตัวเล็กแกล้งพี่อยู่เหรอ?”
คนบนตักกลอกตาไปมาทำท่าไม่รู้ไม่ชี้
มือเล็กเลื่อนขึ้นมาเกาะบนบ่าแข็ง ไม่มีทีท่าปฏิเสธเลยสักนิด
“ไม่รู้สิ
พี่ต้องการอะไรล่ะ?”
“พี่ต้องการ...เจ้าตัวเล็ก...อีกสักคนสองคน
เมียพี่ให้พี่ได้ไหมล่ะครับ”
“อืมมม”คนตัวเล็กลากเสียงเล่นตัว
แต่ดันเอนตัวซบบ่าแข็ง ลากนิ้วเล่นบนอกแกร่งทำเอาคนโดนลูบใจสั่นหวิวๆในช่องท้อง “มันก็ขึ้นอยู่กับพี่ว่าจะมีน้ำยาขนาดไหน...ผมน่ะมีให้ได้อยู่แล้ว
แต่ถ้าไม่ยอมเลี้ยงช่วยผมเหมือนตอนเมสันล่ะก็...”ตากลมหรี่ขู่ มือป้อมด้านหนึ่งตะปบบนส่วนกลางลำตัว
ขยำแน่นไม่เกรงใจว่าสามีคนหล่อจะเริ่มหน้าซีดเขียว
“ตรงนี้ก็ไม่ต้องใช้
ตัดทิ้งไปเลย ดีไหม?”พูดประโยคโหดร้ายแล้วกรีดยิ้มหวานปานน้ำผึ้งผสมยาพิษ
มาร์คถึงกับกลืนน้ำลายดังอึกใหญ่ รีบตอบตะกุกตะกัก สั่นอย่างเห็นได้ชัด
“ดีครับ ดีที่สุด
พี่แล้วแต่ตัวเล็กเลยครับ”
พอได้คำตอบแสนน่าพอใจแจ็คสันก็ถอดบทโหด
กลับมาสู่โหมดปกติ โอบลำคอแกร่งจุ๊บออดอ้อน
“งั้นคืนนี้ก็นอนเถอะครับ
ผมง่วงแล้วอ่ะ เพราะพี่รังแกผมตอนนั้นแน่ๆเลย”
“ครับตัวเล็ก
พี่ขอโทษครับ”รีบตอบรับ ช้อนคนบนตักอุ้มพาเดินขึ้นบันไดไปด้วยความเกรงใจ “พี่อุ้มขึ้นห้องเนอะ
ตัวเล็กจะได้สบายไงครับ”
…มาร์คเซ็นชื่อเข้าสโมสรกลัวเมียเป็นที่เรียบร้อย...
“งืม คืนนี้กอดผมแน่นๆด้วยนะ”
“ครับ
พี่จะกอดไม่ปล่อยตลอดชีวิตเลยครับ”
“เว่อร์!”แจ็คสันว่าพลางหัวเราะคิกคัก
โอบแขนกอดไหล่ซบหน้าลงบนอกอุ่นอยู่นิ่งๆให้มาร์คได้อุ้มตัวเองขึ้นไปบนห้องนอน
รู้ว่าตัวเองตัวหนัก แต่ก็อยากแกล้งสามีคนหื่นให้เหนื่อยให้กลัวบ้าง
จะได้ไม่รังแกเขาเรี่ยราดเหมือนเมื่อก่อนอีก
มาร์ควางภรรยาตัวเล็กลงบนเตียง
เดินไปปิดไฟปล่อยให้แสงจันทร์อ่อนๆสาดเข้ามาในห้อง กลับมาเอนตัวนอนบนที่นอน
โอบร่างนุ่มนิ่มเข้ามาใกล้ พินิจใบหน้ากลมอิ่มเอิบของคนรัก
คนที่เขาถือเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิต คนที่แบ่งปันสุข แบ่งเบาทุกข์ร่วมกันในทุกๆวัน
และไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจแม้เพียงเสี้ยว
“พี่รักแจ็คสันนะครับ...ขอบคุณที่แต่งงานกับพี่
เป็นภรรยาที่น่ารักและเป็นแม่ที่แสนดีของลูกๆเรา ขอบคุณนะครับ”
“ผมก็รักพี่มาร์คครับ...ขอบคุณที่ดูแลผม
ขอบคุณที่เป็นสามีที่น่ารักและเป็นคุณพ่อที่ทุ่มเทเพื่อลูกๆของเรา ขอบคุณนะครับ”
“อ่า
พี่เขินนะเนี่ย”มาร์คหัวเราะขำๆหน้าแดงเรื่อ
ไม่นึกว่าจะโดนคนตัวเล็กตอบกลับมาด้วยความรู้สึกแบบเดียวกัน โอบร่างเล็กเข้ามาแนบชิด
ก้มหน้าใช้ปลายจมูกโด่งยีปลายจมูกรั้น จุมพิตริมฝีปากแดงอิ่มระเรื่อ ถ่ายทอดความรู้สึกดีให้แก่คนในอ้อมกอด
เอียงใบหน้าถอยออกมาด้วยความอ้อยอิ่ง ดวงตากลมสบกับดวงตาสวยทอประกายอบอุ่นและปรารถนาดีให้แก่กันและกัน
ไม่มีท่าทีจะลดน้อยลง
“ราตรีสวัสดิ์ครับ
ที่รักของพี่”
มาร์คกระซิบบอกพลางแนบริมฝีปากจุมพิตบนหน้าผากขาว
แจ็คสันหลับตาพริ้มยิ้มละมุน ซุกศีรษะแนบร่างอุ่น
รัดสะโพกสอบโอบกอดแนบแน่นไม่แพ้กัน
“ฝันดีนะครับพี่มาร์ค
ที่รักของผม”
แล้วทั้งสองก็หลับไปภายในอ้อมกอดของกันและกัน...ท่ามกลางอุ่นไอรักที่มอบให้กันอย่างไม่รู้จักเบื่อ
และมันจะเป็นอย่างนี้เสมอ… เพราะพวกเขามั่นใจ
ว่าถึงจะมีอุปสรรคหรือปัญหารออยู่ข้างหน้ามากมายเท่าใด แต่ตราบใดที่มือของพวกเขายังกระชับกันแน่น
ใจสองใจยังสื่อถึงกันและยังมีลูกของพวกเขาอยู่ข้างกาย มาร์คกับแจ็คสันก็จะช่วยกันแก้ปัญหาและข้ามผ่านปัญหานั้นไปได้โดยง่าย
ทั้งสองจะจูงมือเดินเคียงคู่ มีเจ้าตัวเล็กทั้งสองเดินเคียงข้าง ก้าวเดินร่วมกันไปบนเส้นทางชีวิตอันไม่แน่นอน
ประคองกันในวันที่หกล้ม
ฉุดดึงกันในวันที่หลงผิด
ดูแลกันในวันที่ป่วยไข้
โอบกอดกันในวันที่ทุกข์ใจ
ยิ้มให้กันในวันที่มีความสุข
และจะไม่ลืมที่จะเอ่ยคำสองคำในทุกๆวัน...
รักและขอบคุณ
OUR
BABY
OUR
LOVE
--END--
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น