[SF] 3.30 AM (MarkSon)
3.30 AM
MARK x
JACKSON
02.40 AM
SEOUL,
SOUTH KOREA
เครื่องบินเส้นทางพิเศษจากกรุงลอสแอนเจอลิส
ประเทศสหรัฐอเมริกามุ่งตรงสู่กรุงโซลเกาหลีแลนดิ้งลงจอดเทียบท่าอากาศยานตรงเวลา
02.40 นาฬิกา ใช้เวลาในการตรวจเช็คสภาพ เปิดประตูและเชื่อมต่อทางรูหนอนอีกเกือบ 10
นาที และในเวลา 02.50 นาฬิกาก็ถือเป็นเวลาจริงๆที่ผู้โดยสารไฟล์ทนี้เดินทางมาถึง
และมาร์คก็เป็นหนึ่งในนั้น
ชายหนุ่มอายุราวๆยี่สิบกลางๆเดินปะปนออกมากับกลุ่มผู้โดยสารขาออกดูโดดเด่นด้วยผมย้อมสีส้มแดงเซทขึ้นครึ่งหนึ่งส่วนอีกข้างปรกคิ้วเข้ม
ผิวขาวสว่างตัดกับเสื้อฮูทสีดำและกางเกงยีนสีน้ำเงินซีด
ดวงตาสวยใต้แว่นกันแดดเรย์แบนก้มมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ
...ตีสาม...
พลันรอยยิ้มมุมปากบางเบาเปี่ยมไปด้วยปริศนาก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อ
มือเรียวถือสมาร์ทโฟนเครื่องบางขึ้นมาเปิดเข้าแอพลิเคชั่นนกสีฟ้า
เช็คอินสถานที่และแคปชั่นบ่งบอกว่าตนเพิ่งกลับมาถึง
...ถ้าเห็นก็ดีสิ...
I
know it's late, I know it's late
And baby I can't focus, focus
I just flew in until the day
I'm hoping that you notice, did you notice?
I just posted my landing, oh
Wondering if the same old understanding, stands
And baby I can't focus, focus
I just flew in until the day
I'm hoping that you notice, did you notice?
I just posted my landing, oh
Wondering if the same old understanding, stands
ชายหนุ่มผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสบายๆ
ยืดเล่นโทรศัพท์รอกระเป๋าอย่างใจเย็น นิ้วไล่ไปตามทามไลน์ของใครบางคน
แล้วก็พบว่ารีทวิตสุดท้ายคือตอน 23.34 นาฬิกา เขาเก็บโทรศัพท์
เดินไปยกกระเป๋าลงจากสายสะพาน
เดินลากมันออกไปตามทางไม่สนใจสายตาสนใจหรือหลงใหลของหลายคนที่มองมา เขาชินแล้วล่ะ
ถึงเขาจะเป็นนักธุรกิจแต่ถ้าเป็นงานเสริมอดิเรกเล็กๆน้อยๆก็เคยทำมาบ้างเหมือนกัน
มาร์คเดินผ่านร้านค้าปลอดอากรไป
ก่อนจะนึกได้แล้วเดินกลับมาหาซื้ออะไรบางอย่างก่อนที่จะเดินทางไปหาใครสักคนที่ตอนนี้คงหลับปุ๋ยฝันดีเพราะมีต้องไปทำงานแต่เช้า
จริงๆแล้วเขามีงานที่ยังต้องสะสางต่อนะ แต่เขาไม่มีสมาธิจะทำมันได้หรอก
ถ้ายังไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง...อะไรสักอย่างที่เขาต้องการและกระหายมันอย่างรุนแรง...
ชายหนุ่มหาเลือกซื้อของที่ต้องการ
เดินก้มหน้าเล็กน้อยผ่านผู้โดยสารทั้งขาเข้าขาออกในห้องโถง ก้าวเท้ายาวๆเดินผ่านไปคนแล้วคนเล่า
นึกรำคาญความใหญ่โตของสถานที่ พุ่งออกจากประตูใหญ่ โบกมือเรียกแท็กซี่
ยัดตัวเข้าไปนั่ง บอกจุดมุ่งหมายและต่อด้วยประโยคที่ทำเอาโชว์เฟอร์ตาลุกวาว
“ถ้าพาไปถึงใน 10 นาทีเอาไปสองหมื่น”
03.30 AM
ROOM
2206 MSL APARTMENT, SEOUL
Now
where you at? Just dropped my bags
I'm coming through to meet ya, oh yeah, to meet ya oh
I know you're almost half asleep but you know I might just reach ya (reach ya baby)
Girl I need ya, oh (need ya baby)
Gon' gimme that spare key, oh
But if you keep the door unlocked, be ready, oh
I'm coming through to meet ya, oh yeah, to meet ya oh
I know you're almost half asleep but you know I might just reach ya (reach ya baby)
Girl I need ya, oh (need ya baby)
Gon' gimme that spare key, oh
But if you keep the door unlocked, be ready, oh
หน้าปัดนาฬิกาบอกเวลาตีสามครึ่ง
บรรยากาศเงียบสงบและออกจะวังเวงตอนที่เดินขึ้นมาบนชั้นสองของอพาร์ทเมนต์กลางเก่ากลางใหม่แห่งนี้
มาร์คหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้อง 2206
เขาเลือกจะไม่กดกริ่งและเดินไปยกกระถางต้นไม้ข้างประตูออก หยิบกุญแจสำรอง
เสียบปลดล็อกประตูเข้าไปภายในห้องที่ปิดไฟไว้หมดทุกดวงโดยพลการ
...ไม่ระวังตัวเหมือนเดิมเลยนะ....
ชายหนุ่มปิดประตู
ล็อกกลอนและใช้โซ่คล้องเอาไว้อีกชั้น วางกระเป๋าบนพื้นข้างโซฟา
ถอดเสื้อคลุมและรองเท้าออก ดวงตาเริ่มปรับได้กับความมืด
เดินตรงไปยังห้องที่เปิดแง้มเอาไว้ ผลักบานประตูออก จ้องมองร่างขาวบนเตียงกลางห้องที่ยังหลับสนิทอย่างไม่รู้บ้างเลยว่าภัยกำลังจะเข้าหาตัว...
มาร์คขั้นคร่อมคนหลับ
พินิจมองร่างกายขาวทีละส่วนด้วยความคิดถึง
มือเรียวแตะแก้มนุ่มรอดูปฏิกิริยาแต่แจ็คสันก็ยังนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว
ชายหนุ่มยิ้มจนเห็นเขี้ยวขาว
“...นายผิดเองนะ...”
I
know you got work pretty early, I'll be around 'bout 3: 30
Usually you done by one, so baby when I wake you up
Usually you done by one, so baby when I wake you up
“อือ...”เปลือกตาสีอ่อนจำเป็นต้องลืมขึ้นเมื่อรู้สึกว่าร่างกายตนเองโดนคุกคาม
สิ่งแรกที่เห็นคือเงาร่างคนกำลังคร่อมอยู่บนร่างแต่ก็ช่างเลือนรางราวกับความฝันเพราะความง่วงยังครอบงำสติ
จนกระทั่งได้ยินเสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบถามจึงได้รู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน
“ตื่นแล้วเหรอ”
ร่างเล็กสะดุ้งตื่นเต็มตา
ดิ้นกายพราดๆแต่ก็ขยับไม่ได้ไกลเพราะโดนคนบนร่างกดตรึงอยู่กับพื้นเตียง
ลมจากเครื่องปรับอากาศกระทบเข้าเนื้อผิวสะท้านหนาว
เพิ่งรู้ตัวว่าตนกำลังเปลือยเปล่า รีบหุบต้นหาแน่นตามสัญชาติญาณ
ความกลัวเข้าคลอบคลุมพื้นที่หัวใจ ถามกลับไปเสียงสั่น
“คะ... ใครน่ะ”
“...”
อีกฝ่ายไม่ตอบ แต่กลับโน้มตัวลงมาจูบแผ่วๆบนหน้าอกด้านซ้าย
พลันใจที่เต้นระรัวด้วยความกลัวก็เย็นใจลงราวกับจุมพิตเมื่อครู่คือยารักษาชั้นเลิศ
ความรู้สึกนี้ น้ำเสียงแบบนี้ หรือว่า...
มือขาวปะป่ายจับใบหน้าในเงามืด
อาศัยการสัมผัสเพื่อยืนยันตัวตน จมูกรั้นสูดกลิ่นฟุตฟิต ได้กลิ่นคุ้นเคยของใครบางคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี
“มาร์ค มาร์คเหรอ? อ๊ะ…นี่พี่”
“เงียบ...เป็นเด็กดีนะ”
มือเรียวลูบไล้ลำแขนขาวผ่านลอนกล้ามบางๆที่คนตัวเล็กแสนภาคูมิใจ
จมูกโด่งแตะสูดกลิ่นหอมบนผิวคอเข้าเต็มปอด จุมพิตบางเบาลงไปจนถึงส่วนไหปลาร้าลึก แลบลิ้นเลียชิมผิวหอมหวาน
“อือ พี่...หยุดก่อน”
แจ็คสันรู้แน่แล้วว่าตัวเองกำลังจะโดนทำอะไรก็รีบห้าม
ยกมือยันไหล่คนเป็นพี่ออกไปจากตัว
รีบลุกขึ้นนั่งแม้ว่ามาร์คจะนั่งคร่อมสะโพกเขาเอาไว้กันหนีก็เถอะ
“ผม...ผมต้องไปทำงาน”
“อืม รู้แล้ว”
มาร์คตอบกลับไปเรียบๆ
โถมกายดันร่างขาวกลับไปนอนบนฟูกอีกครั้ง มือแกร่งกดแขนคนใต้ร่างไว้
แนบริมฝีปากกับปากอิ่มเอิบสีแดงจัด นวดคลึงเสียผิวอ่อนร้อนฉ่า
สอดปลายลิ้นแตะขออนุญาตเข้าไปเชยชิมความหอมหวานด้านใน
กวาดต้อนน้ำหวานดูดรั้งจนคนรับแทบหายใจไม่ออก แจ็คสันจิกนิ้วกับที่นอนขยับตัวต่อต้านในคราวแรกและอ่อนยวบยอมจูบตอบหลังจากโดนรุกหนักเข้า
ทั้งสองแลกลิ้นจูบพัวพันด้วยความปรารถนาและความคิดถึง มาร์คปล่อยมือเล็ก
ลูบไล้ร่างกายขาวเนียน ในขณะที่แจ็คสันวาดมือโอบไหล่แกร่ง
หลับตาพริ้มหลงใหลในรสจูบอ่อนหวานของกันและกัน
มาร์คประทับจูบทิ้งร่องรอยความเป็นเจ้าของไว้ทุกบริเวณที่ลากผ่าน
เปรียบริมฝีปากนี้คือพู่กันที่แต่งแต้มกระดาษสีขาวให้งดงามด้วยกลีบกุหลาบสีสวย
แกล้งครูดเขี้ยวกับจุดกลมบนผิวอก ใช้ปลายลิ้นสะกิดซ้ำจนมันชูชันขึ้นท้าสายตา
ชายหนุ่มเลียปากหมั่นเขี้ยว ไล้ลิ้นรอบฐานสีสดลากผ่านไปมาหยอกเย้าก่อนครอบดูดติ่งไตสีชมพูสดน่ารักน่าลิ้มลองจนเจ้าของร่างร้องครางเสียงกระเส่า
“อ๊า! มาร์ค อ๊ะ”
ยิ่งแจ็คสันร้องครางมาร์คก็ยิ่งฟัดแรงขึ้นจนมันแดงก่ำ
ส่วนอีกด้านก็ไม่เว้นว่างใช้นิ้วโป้งบดคลึงยอดอกสีสวยพร้อมทั้งขยำหน้าอกที่นูนแน่นเพราะการเล่นกล้ามของคนตัวเล็กจนผิวขาวแดงเป็นรอยมือ
“ฮือ มาร์ค พอแล้ว”แจ็คสันเรียกร้อง
เสียวจนใจจะขาดแล้วนะ คนบ้า!
แต่มาร์คก็ไม่หยุด
ซ้ำยังสอดนิ้วชี้กับนิ้วกลางเข้าไปในโพรงปากนิ่มเป็นการปิดเสียงประท้วง
ขยับหยอกเย้าลิ้นนุ่มที่ดูดฟัดนิ้วเขา
บ้างก็ใช้ฟันกระต่ายน่ารักนั่นกัดหยอกคืนเป็นการแก้แค้นกลายๆ
“อืม อือ”
ชายหนุ่มช้อนสายตาขึ้นจ้องดวงตากลมปรือที่มองมาก่อน
คนตัวเล็กจับนิ้วเขาออก หรี่ตาพริ้มไล้เลียนิ้วเรียวไปตามความยาว
หยุดจูบบนส่วนปลาย ห่อลิ้นรูดดูดนิ้วเข้าไปใหม่ช้าๆ
เล่นเอาชายหนุ่มกลืนน้ำลายดังอึก
...อ่า ยั่วยวนชะมัด...
มาร์คถอดนิ้วออก
จับตัวแจ็คสันพลิกลงไปนอนคว่ำกับเตียง สอดนิ้วชุ่มน้ำลายเข้าช่องทางร่วมรักสองนิ้วรวด
ผนังนุ่มบีบรัดฝืดเคืองจนแทบแทรกเข้าไปไม่ได้ แต่ชายหนุ่มก็ฝืนดันเข้าไปจนสุดโคนนิ้ว
แน่นอนว่าแจ็คสันดิ้นพราดเพราะความเจ็บจนมาร์คต้องกดเชิงกรานสวยไว้ไม่ให้ขยับตัวมากไป
“มาร์ค เจ็บอ่ะ เจ็บ”คนตัวขาวร้องไห้เป็นเด็กๆ
ร่างสั่นระริก นิ้วจิกไปกับฟูกระบายความเจ็บปวด
ก็นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้ทำแบบนี้กัน
แค่น้ำลายอาจจะไม่พอ...มาร์คเอื้อมมือไปค้นของในถุงที่ซื้อติดมือมา
หยิบขวดน้ำยาหล่อลื่นขวดใหญ่ออกมา
ชายหนุ่มใช้ปากกัดฝาเปิดเทมันลงบนร่องสะโพกนุ่มบางส่วนไหลลงตามง่ามขาและเปียกผ้าปูที่นอน
ดูเซ็กซี่จนแทบอดใจไม่ไหว รีบถ่างช่องทางเบิกให้พร้อมกับการสอดใส่
...เขาทนไม่ไหวแล้ว...
แจ็คสันเชิดหน้ากรีดครางเสียงดังลั่น จิกนิ้วบนไหล่หนา
สะโพกอิ่มสั่นระริก ถ่างขากว้างตามสัญชาติญาณ ราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านร้าวไปตามแกนหลัง
เจ็บเสียจนขอบตากลมเอ่อคลอด้วยน้ำตาใส ริมฝีปากอุ่นจูบซับปลอบประโลม
กระชับต้นขาขาวเข้ามาชิดพลางกระซิบข้างใบหูเล็กเสียงเบา
“Ah…Just let me rock you…”
Just
let me ride, sex you back to sleep girl
Don't say a word no, (no) don't you talk
Just hold on tight to me girl
Sex you back to sleep girl, rock you back
Don't say a word no, (no) don't you talk
Just hold on tight to me girl
Sex you back to sleep girl, rock you back
เสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะกับเสียงเตียงลั่น
ร่างสองร่างพัวพันแนบชิด หมอน ผ้าห่ม อะไรก็ตามบนเตียงถูกปัดกระเด็นตกไปคนละทิศ
แม้กระทั่งผ้าปูที่นอนยังถูกแจ็คสันดึงรั้งจนมันหลุดออกมาจากฟูก
แจ็คสันครางเสียงแหบพร่าแผ่วหวิว
ใบหน้าเอียงซบแขนข้างหนึ่งของตน
มือหนึ่งยึดผ้าปูส่วนอีกมือโอบคล้องลำคอแข็งแรงของคนด้านบนไว้ยึดร่าง สะโพกถูกยกขึ้นรองรับแรงกระแทกกระทั้นจากคนตัวสูงจนร่างเขาไหวตามการโยกของอีกคน
มาร์คหอบหายใจกดสะโพกเข้าช่องทางคับแคบ ครางเสียงต่ำพอใจกับการขมิบตอดแสนซื่อตรงยิ่งกว่าปากสวยๆที่เอาแต่ปฏิเสธขาเสียอีก
“พี่...อ๊ะ มาร์ค จูบ อ๊ะ ขอจูบ”
ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่หน้าอก
วาดมือรั้งลำคอแกร่งลงมาจูบอ้อน มาร์คบดจูบเร่งเร้า เลื่อนมือกอบกุมส่วนอ่อนไหวของคนใต้ร่างชักรูดอย่างต้องการจะช่วยบรรเทาความทรมานนี้ให้คนรัก
ไม่นานแจ็คสันก็ปลดปล่อยไอปรารถนาพวยพุ่งรดเลอะหน้าท้อง ปล่อยกายลงนอนพังพาบหมดแรง
หอบกายใจหนัก ไม่มีแรงจะลุกมาโวยวายอะไรต่อได้อีก
มาร์คกระชับต้นขาชื้นเหงื่อขึ้นพาดบนบ่า
จับร่างที่ยังหอบระรัวนอนตะแคงข้าง แจ็คสันทำตามอย่างว่าง่าย
อาจจะเพราะความเหนื่อยหรือเพราะมีอารมณ์ร่วมก็ตาม เรียวขาขาวแยกออกกว้างเป็นโอกาสให้ส่วนร้อนรุ่มที่ยังไม่ปลดปล่อยแทรกเข้าไปได้ลึกยิ่งขึ้น
แจ็คสันหลุดเสียงร้องออกมา นิ่วหน้าจุกเพราะส่วนนั้นของมาร์คมันเข้ามาลึกจนเขาแทบหายใจไม่ออก
แต่พอมาร์คเริ่มถอยออกไปก็ดีขึ้น แต่ก็แค่ชั่ววินาทีเท่านั้นแหละ เพราะอีก 0.1
วินาทีต่อมามันก็แทรกเข้ามาลึกเหมือนเดิม ออกจะลึกกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
ใจแจ็คสันคงอยากจะสบถบริภาษอะไรมากมาย
แต่ทันทีที่เผยอปากกลับมีแต่เสียงครางกระเส่าอย่างสุขสม
คนเป็นพี่คร่อมตัวค้ำร่างขาวที่ร้องเสียงสั่น ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มหลับตาพริ้มสีหน้าพึงพอใจในรสรักที่เขามอบให้
ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวขาวด้วยความหลงใหล
มองก้อนเนื้อกลมที่กระเพื่อมไหวไปตามแรงกระแทกของเขาแล้วก็เกิดหมั่นเขี้ยว
ขยำบีบจนมันขึ้นรอยเป็นปื้นแดง
“อ่า มาร์ค อย่าบีบ อ๊ะ”เจ้าของก้นกลมพยายามบิดกายหนีมือเรียวที่เอาแต่บีบเนื้อตัวเขาจนช้ำ
ดวงตากลมมองค้อนโกรธๆ ชายหนุ่มยิ้มเอ็นดู
ก้มลงมอบจุมพิตร้อนแฝงด้วยความอ่อนหวานเป็นการง้องอน
จนแน่ใจว่าแจ็คสันหายขุ่นเคืองแล้วจึงผละออก หอมแก้มนุ่มแดงเรื่อ ไม่ลืมจะสวนสะโพกต่อเกมรักที่เขาเพิ่งจะน็อกไปแค่รอบเดียว
แต่อีกคนนี่สิน็อกไปสามรอบแล้ว
“ดีไหม?”
“ไม่...อ๊ะ ไม่ดีเลย”แจ็คสันตอบ ส่ายหน้าขวับ
“ทำไมล่ะ?”
“งาน...ผมมีงาน ผมอยากพัก...”
สิ้นสุดคำตอบแจ็คสันก็ต้องหวีดเสียงสูงเพราะจุดอ่อนไหวในกายโดนบดขยี้อย่างรุนแรง
น้ำสีใสปริ่มส่วนปลายเป็นสัญญาณของความสุขสม วาดแขนรั้งคอมาร์คเป็นที่พยุงกาย หลับตาครางเสียงแหบเสียงแห้ง
เสียวซ่านเสียจนอดไม่ได้ที่จะขยับสะโพกอวบอิ่มสวนคืนไป
มาร์ครั้งต้นขาขาวแหกออกบดเบียดสะโพกเติมเต็มให้ตนและอีกฝ่ายสุขสมอย่างเท่าเทียม
รั้งคางเล็กเชิดขึ้นมอบจูบเร่าร้อนที่อีกคนยากจะปฏิเสธ
มือด้านหนึ่งลูบแผ่นอกนุ่มเขี่ยขยี้หยอกล้อยอดอกแข็งต้านมือ
ส่วนอีกด้านก็รูดรั้งส่วนหน้าของคนตัวเล็ก สะโพกสอบเพิ่มจังหวะรักเร่งอุณหภูมิให้ร้อนฉ่าบดเบียดเติมเต็มให้ร่างกายขาวเต็มไปด้วยไอของเขา
คิดถึงแต่เขา หลอกล่อให้ตกลงในบ่วงสุขของกามรส ลืมภาระทุกสิ่งและมอบเวลานี้ให้กับเขาเพียงผู้เดียว...
เสียงครางอึงอังในลำคอ
เสียงเตียงลั่นหรือจะเสียงเนื้อกระทบกันจากด้านล่างก็ไม่เข้าโสตประสาทของทั้งสองอีกแล้ว
พวกเขาจดจ่อแก่กันและกัน ราวกับกำลังจะหลอมรวมวิญญาณเป็นหนึ่งเดียว
แทบทุกพื้นที่โดนบดเบียดเสียดสีจากร่างกายอีกคน ราวกับกำลังตอกย้ำว่าพวกเขาเป็นของกันและกัน
ร้อนเร่าราวกับเปลวไฟร้อนแรงที่กำลังแผดเผาพวกเขาให้กลายเป็นจุลรวมเป็นเศษซากเดียวกันยากจะแยกออกได้ว่าของใครคือของใคร
“อ๊า!/อืม!”
ร่างเล็กกระตุกเฮือกใหญ่รับไอรสรักอุ่นๆเข้ามาเติมเต็ม
เป็นเวลาเดียวกับที่แจ็คสันเสร็จสมไปอีกรอบ
มาร์คแช่ร่างเอาไว้กระตุกทุกหยาดหยดเข้ามาในตัวเขา ครางเสียงต่ำพึงพอใจแต่ไม่ยอมถอนสมอออกไป
แต่แจ็คสันไม่ไหวแล้ว และไม่กี่นาทีถัดมาร่างขาวก็เข้าสู่ช่วงพักผ่อนทั้งที่อีกฝ่ายยังค้างอยู่ในกาย...
Ain't
sorry that I woke ya, I ain't sorry 'bout ya job
Call sick in the morning so I can get a little bit more of your love
I know you want me, how you feel me cause you never disagree
So when you wake from your sleep, girl
Call sick in the morning so I can get a little bit more of your love
I know you want me, how you feel me cause you never disagree
So when you wake from your sleep, girl
“อือ!”แจ็คสันรู้สึกตัวอีกทีเพราะความรู้สึกวูบโหวงในท้องและแรงกระทั้นเบาๆจากส่วนที่ยังเชื่อมต่อกัน
มาร์คยิ้มอบอุ่นรอต้อนรับ จุมพิตอ่อนโยนบนหน้าผากมน
แจ็คสันคงจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าตอนนี้มาร์คจะเอาตัวเองออกไปจากเขาสักที
“อรุณสวัสดิ์”
“อือ...เอามันออกไป”
“ยังก่อน”
“ยังอะไร ผมต้องไปทำงะ...”
“อืม ฉันรู้ นี่จะถึงเวลาทำงานนายแล้วด้วย”
ตากลมพลันเบิกกว้างตกใจกับตัวเลขบนหน้าจอโทรศัพท์แสดงเวลา
07.50 AM
ที่มาร์คยกขึ้นมาให้เขาดู คนตัวเล็กขยับยุกยิกพยายามจะดันชายหนุ่มออก
มาร์คหัวเราะขำจับข้อมือขาวดันตัวติดกับฟูกนอนอีกครั้งพลางขึ้นคร่อมไม่ยอมให้พวกเขาห่างกันแม้แต่เซนติเมตรเดียว
ส่วนที่เสียบคาอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนเริ่มขยับขยายจนเต็มช่องทาง บ่งบอกว่ามาร์คมีอารมณ์อีกแล้วและกำลังจะเริ่มเรื่องแบบนั้นตั้งแต่เช้าโดยไม่ได้รับความสมยอม
แต่ตอนนี้แจ็คสันตื่นแล้ว เช้าแล้ว สติเขาครบแล้วและจะไม่ยอมให้ชายหนุ่มเอาเปรียบอีกต่อไป
มือขาวทุบมาร์คเข้าให้แรงๆ ขมวดคิ้วทำหน้าไม่พอใจ
“ถอยนะ! ผมจะไปทำงาน”
“ไปตอนนี้ก็สาย”
“สายก็ยังดีกว่าขาด ปล่อย!”
“ไม่ปล่อย”มาร์คปฏิเสธเสียงเรียบ
จับข้อมือขาวตรึงไว้กับเตียง
ขย่มสะโพกเข้าช่องทางนุ่มที่ยังมีลูกรักนับล้านของเขาค้างอยู่ด้านในกลายเป็นตัวหล่อลื่นชั้นดี
แจ็คสันผวาตัวเฮือกใหญ่ เรียวขาโอบรัดสะโพกสอบด้วยความตกใจ
มาร์คหยิบมือถือของแจ็คสันขึ้นมาปลอดล็อก
เข้าหน้าโทรศัพท์ยื่นให้เจ้าของเครื่อง ตาโตมองมาร์คงงๆ ไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มต้องการอะไรจากเขา
“โทรไปลาบริษัท”
เหมือนมีอะไรระเบิดในหัว แจ็คสันสะบัดหน้าฉุนเฉียวปฏิเสธเสียงแข็ง
“ผมไม่ได้ว่างงานเหมือนพี่นะ! ปล่อยสิ!”พนักงานเงินเดือนต๊อกต๋อยแต่ได้แฟนเป็นนักธุรกิจเจ้าของธุรกิจหลายพันล้านวีนลั่น
ดีดดิ้นสะบัดตัวจะหนีออกจากสถานการณ์อันตราย
“ไม่!”
“เดี๋ยวนี้”
“ไม่โทร! ผมจะไปทำงาน”
“หึ...งั้นเหรอ”มาร์คยิ้มร้าย
วางโทรศัพท์บนโต๊ะเล็กข้างเตียง ถอนกายออกจากร่างคนรักที่เขาฝังร่างมาทั้งคืน แจ็คสันโล่งใจคิดว่ามาร์คยอมแล้วก็ก็รีบลุกขึ้น
พลันก็รู้สึกราวโลกกำลังกลับตัลปัตร รู้สึกร้าวขึ้นมาจากสะโพก
ลืมไปเลยว่าเมื่อคืนโดนจัดหนักขนาดไหน
ขาขาวยั้งตัวยืนอยู่สั่นๆ กัดฟันพยายามเดินต่อ
แต่ก็เสียดเสียจนทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแบบหมดสภาพ
“โถ่โว้ย!”
มาร์คส่ายหน้าให้กับคนดื้อรั้น
ลุกขึ้นอุ้มแจ็คสันขึ้นมานอนบนเตียงดีๆ ขยับตัวขึ้นคร่อม
พินิจมองคนรักด้วยสายตาที่ทำให้แจ็คสันนิ่งเงียบและมองตอบกลับสายตาอีกคนด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน
...โหยหา...
“ฉันอยากอยู่กับนายอีกหน่อย...นายก็เหมือนกันใช่ไหม?”
“...”แจ็คสันเม้มปาก ไม่ปฏิเสธที่มาร์คพูดมา
เขาคิดถึงมาร์ค...ใช่ คิดถึงมาก
มาร์คเป็นนักธุรกิจและต้องเดินทางไปไหนมาไหนเป็นเดือนๆ เวลาพบกันก็แทบจะไม่มี
มากสุดก็แค่คุยกับผ่านทางไลน์ เขาก็เป็นพนักงานเงินเดือน ขาดลาได้ไม่มากนัก
ครั้งสุดท้ายที่ได้อยู่ด้วยกันนานๆก็เมื่อเดือนก่อน...ก่อนที่มาร์คจะบินไปเจรจาธุรกิจที่ยุโรปเป็นเดือนๆและทิ้งเขาไว้กับความคิดถึง
“อยู่กับพี่นะ...ที่รัก”
“...”
“นะครับ”
แจ็คสันเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะวาดแขนโอบไหล่มาร์คเอาไว้แน่น นั่นทำให้ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มกว้างสุขใจ
.
.
.
“ถ้าผมโดนไล่ออก...พี่ต้องรับผิดชอบด้วย”
Ain't
sorry that I woke ya, I ain't sorry 'bout ya job
Call sick in the morning so I can get a little bit more of your love
I know you want me, how you feel me cause you never disagree
So when you wake from your sleep, girl
Call sick in the morning so I can get a little bit more of your love
I know you want me, how you feel me cause you never disagree
So when you wake from your sleep, girl
…I
know you want me like I want you…
Inspiration form
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น