[SF] Chief Executive (MarkSon)

Chief Executive
Mark X Jackson







การประชุมหาแนวทางบริหารบริษัทส่งออกระหว่างประเทศรายใหญ่ของเอเชียระหว่างบอร์ดบริหารของฝั่งไต้หวันและฮ่องกงดำเนินมาเกือบสองชั่วโมง บรรยากาศทั้งตึงเครียด จริงจังแต่บางครั้งก็ผ่อนคลายตามเรื่องที่หยิบยกมาคุย

ผู้ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะคือประธานอิม แจบอม ชาวเกาหลีผู้เป็นลูกชายของผู้ก่อตั้งบริษัทและดำรงตำแหน่งประธานผู้บริหารสูงสุดในปัจจุบันกำลังนั่งนิ่งฟังทั้งสองฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“ทางฮ่องกงเสนอให้เพิ่มปริมาณการส่งออกของสินค้าแปรรูปมากขึ้นเพราะจากผลประกอบการที่ผ่านมาเห็นชัดว่ามีแนวโน้มว่าสินค้าประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยม”ชายรูปร่างกะทัดรัดในเสื้อสูทสีเข้มขับให้ดูน่าเชื่อถือ การแต่งการเรียบกริบตั้งแต่หัวจรดเท้า เส้นผมตัดสั้นรองเบอร์ 1 แว่นกรอบใสสวมอยู่บนใบหน้าขาวและสีหน้าจริงจังขณะชี้แจงนั้นก็ชวนให้คล้อยตาม แต่คงไม่ใช่ประธานบริหารฝั่งไต้หวันอย่าง มาร์ค ต้วน ที่โต้เถียงกลับไปแทบจะทันที

“แต่สินค้าประเภทเนื้อสดยังไม่แปรรูปก็ไม่ได้มียอดขายลดลงนะครับ”

“ที่ผมเสนอไปเพราะว่าสินค้าประเภทนี้เราเก็บรักษายาก กว่าจะส่งไปปลายทางก็เสียเงินระหว่างทางไปมากโขแล้ว”แจ็คสัน หวัง ประธานบริหารฝั่งฮ่องกงอธิบายอย่างใจเย็น พยายามหาข้อมูลมากางให้เห็น อธิบายความคิดของตนอย่างละเอียดรอบคอบ จนทุกคนไม่แปลกใจว่าทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงได้โดนจัดอันดับเป็นนักธุรกิจไฟแรงในปีล่าสุดจากนิตยสารธุรกิจต่อจากมาร์ค ต้วนที่เพิ่งได้ปีที่ผ่านมา

การประชุมดำเนินต่อไป แม้จะมีการถกเถียงกันบ้างระหว่างคนมีความคิดเห็นว่าควรทำแบบเดิมอย่างที่ควรเป็นหรือจะกล้าทำสิ่งใหม่ที่แตกต่าง แต่เมื่อคุยด้วยเหตุด้วยผลก็ได้แนวทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น นับว่าทุกคนค่อนข้างพอใจกับมติที่ประชุม อิม แจบอมที่นั่งนิ่งไปนานกระพริบตาสามสี่รอบ กล่าวจบการประชุมและเดินออกไปก่อนคนอื่น ผู้ร่วมประชุมเก็บข้าวของส่งให้เลขาของแต่ละคนเดินออกไปจากห้องกระจกใหญ่จนในห้องเหลือแค่ มาร์ค ที่ยังนั่งอ่านเอกสารหน้าตาเคร่งเครียดอยู่บนโต๊ะประชุม ยองแจ เลขาของเขา เดินเข้ามาถามไถ่เจ้านาย

“คุณมาร์คจะกลับเลยไหมครับ? ผมจะเรียกคนขับรถจากโรงแรมให้”

“ไม่เป็นไร ฉันขอทำธุระที่นี่อีกหน่อย”

คำว่าทำธุระของชายหนุ่มทำให้เลขาตัวเล็กแอบลอบยิ้มมุมปาก มาร์คอ่านเอกสารทุกแผ่นอย่างละเอียดรอบคอบอีกสักพักก็เก็บพวกมันลงแฟ้มอย่างลวกๆ ก็ยังเป็นยองแจที่ต้องจัดการจัดระเบียบเอกสารให้เจ้านายอย่างทุกครั้ง แอบเหลือบมองคนที่เอาแต่มองนาฬิกายิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วก็อดแซวไม่ได้

“ไปหาเลยก็ได้นี่ครับ เอกสารพวกนี้ไปอ่านที่ห้องยังได้”

“ไม่ได้หรอก”มาร์คตอบ วางมือบนบ่าเลขคนสนิทหนักๆจนร่างเล็กหลุดสีหน้าตูมออกมาเล็กน้อย “กะว่าคืนนี้จะทำตัวให้ว่างน่ะ”

คิ้วเรียวสั้นเลิกขึ้นด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่อยากละลาบละล้วงถามไปมากกว่านี้ เดินตามเจ้านายไปช้าๆ มองเส้นทางก็รู้ว่าอีกคนกำลังจะไปไหน

“คุณมาร์ค สวัสดีครับ การประชุมเป็นยังไงบ้างครับ”จินยอง เลขาหน้าห้องของคนที่เขากำลังจะมาพบลุกขึ้นเอ่ยถามอย่างสนิทสนม มาร์คยิ้มบางๆแล้วส่ายหน้า

“ก็เหมือนเดิม”เขาตอบแค่นั้นมองผ่านอีกฝ่ายเข้าไปด้านใน

“จริงๆเขาบอกไม่ให้ทุกคนเข้าพบครับ...”จินยองยิ้มมีความหมายไปให้ชายหนุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ  มาร์คหัวเราะในลำคอ ฝากเอกสารทั้งหมดให้จินยอง ผลักประตูเปิดเข้าห้องที่ติดป้ายห้ามรบกวนเข้าไปข้างใน ซึ่งจินยองไม่ห้าม ซ้ำยังชวนยองแจเดินออกไปจากตรงนี้อย่างรู้งาน

ภายในห้องปรากฏร่างของประธานกรรมการฝ่ายฮ่องกงผู้แสนจะน่าเชื่อถือกำลังก้มหน้านั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟาตัวยาว สูทตัวนอกพาดไว้บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ มาร์คได้ยินเสียงเพลงสนุกสนานก็ยิ้มมุมปากขบขัน ยืนมองแผ่นหลังกว้างใต้เสื้อเชิ้ตชื้นเหงื่อเล็กน้อยและผมตัดสั้นรองเบอร์ 1 ของคนที่แม้เขาจะเดินมายืนซ้อนหลังก็ไม่หันหน้ากลับมามอง

ชายหนุ่มสอดมือเข้าใต้อกกระชับเอวคอด วางคางบนไหล่มนและกดปลายจมูกบนซีกแก้มขาว เหลือบตามองตามสายตาของคนในอ้อมแขน

“คิดถึงจัง”

อีกฝ่ายไม่ตอบ เอาแต่จดจ้องหน้าจอ ใบหน้าไม่คลายจากความเงียบขรึมราวกำลังจะเล่นสงครามประสาทกับเขาต่อจากในห้องประชุม จนเขาต้องเรียกอีกฝ่ายซ้ำ

“แจ็คสัน”

ปลายจมูกรั้นถอนลมหายใจออกยาวๆ

“อืม”อีกฝ่ายตอบกลับมาส่งๆ นิ้วเล็กจิ้มเกมในโทรศัพท์รัวๆจนกลัวว่าหน้าจอจะพัง

“สนใจกันหน่อยสิ”มาร์คกระชับอ้อมแขนมากขึ้น หอมแก้มนิ่มเข้าไปอีกรอบจนกรอบแว่นใสบนใบหน้าขาวเลื่อน แจ็คสันจิปากไม่พอใจ ใช้ศีรษะดันหน้ามาร์คออก ละมือด้านหนึ่งขึ้นมาจัดทรงแว่น

“อยากให้พูดอะไรกับคนผิดสัญญาล่ะ”

“ขอโทษน่า แล้วก็ ซื้อมาให้ด้วยนะ นั่นน่ะ”ชายหนุ่มทอดเสียงอ้อนให้อีกฝ่ายเห็นใจ รู้ว่าทำไมคนในอ้อมกอดถึงทำท่าเย็นชาใส่ ก็เมื่อสัปดาห์ก่อนเขาควรจะได้มาที่นี่ตามนัดที่ให้ไว้ แต่พอถึงวันจริงกลับติดงานจนมาไม่ได้ จากนั้นแจ็คสันก็ไม่ยอมตอบแชทหรือรับโทรศัพท์เขาอีกเลย ก็เพิ่งได้มาเจอกันวันประชุมนี่เอง

“ไหนล่ะ”คนตัวเล็กเอ่ยถาม เหลียวใบหน้าน่ารักหลังกรอบแว่นขึ้นมาสบตา ตากลมๆทอประกายตื่นเต้นวาววับทันทีที่เขาชี้ไปด้านหลังซึ่งหมายถึงโต๊ะทำงานของเจ้าตัว นิ้วเล็กกดหยุดเกม ลุกขึ้นสะบัดตัวมาร์คออก วิ่งเท้าเปล่าไปที่โต๊ะ หยิบกล่องแบนๆขึ้นมาพิจมองด้วยท่าทางเด็กๆ

มาร์คเดินตามมากอดไว้จากด้านหลัง พยายามให้คนตัวเล็กสนใจ แต่ก็เหมือนว่าแจ็คสันจะโดนข้อความบรรยายของเจ้าแผ่นดิสในมือดึงความสนใจไปหมดแล้ว ชายหนุ่มเบ้ปากเล็กน้อย คิดในใจว่าไม่ควรซื้อมาให้เลย

“สนใจแต่เกม ไม่สนใจแฟนคนนี้หน่อยเหรอ”

“คุณควรชินได้แล้วนะ”คนใจร้ายก็ยังเป็นคนใจร้าย มาร์คถอนหายใจเฮือก ผละจากร่างนุ่มนิ่มทรุดนั่งลงบนโซฟา มันก็จริงที่เขาควรชินได้แล้ว แต่นานๆจะได้เจอตัวเป็นๆกันที สนใจกันมากกว่าเกมหน่อยก็ได้มั้ง ไม่อยากคิดน้อยใจแต่ก็นั่นแหละ...

แจ็คสันมองตามเจ้าของสัมผัสอุ่นที่ผละจากร่างเขาไป วางกล่องเกมลงที่เดิม เดินตามมาร์คไปที่โซฟา นั่งคุกเข่าลงข้างๆ มือน้อยเกาะอยู่บนไหล่ก่อนที่เสี้ยวแก้มคมจะถูกสัมผัสด้วยริมฝีปากนุ่มนิ่มสีสวย

“ขอบคุณนะครับ”

แจ็คสันอมยิ้มขำเมื่อเห็นสีหน้าเหวอๆของคนอายุมากกว่า ลุกขึ้นเดินไปหยิบเกมใส่กระเป๋าทำงานบนเก้าอี้เก็บของเตรียมกลับบ้าน

พวกเขาเดินออกมาจากห้องพร้อมกัน แจ็คสันฝากฝังจินยองสักครู่ในขณะที่มาร์คเดินไปบอกยองแจว่าคืนนี้เขาจะไปพักข้างนอก ซึ่งเลขาตัวเล็กก็ไม่พูดอะไรนอกจากรอยยิ้มที่รู้กันดี ไม่มีใครสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเขา ทุกคนมองว่าเขากับแจ็คสันเป็นคนร่วมงาน อยู่ในตำแหน่งเดียวกันถึงแม้จะคนละประเทศก็ตาม นอกจากเลขาทั้งสองแล้วก็มีแต่อิม แจบอม ประธานบริหารสูงสุดที่รู้เรื่องนี้ ดีที่แจบอมไม่ได้พูดอะไร หรือในความเป็นจริงแล้วเจ้าตัวก็ไม่อาจจะไปห้ามปรามใครได้เหมือนกัน...

“แล้วนี่จะไปไหนต่อล่ะจินยอง?”

“ไปเดทครับ”ตอบเสียงใสน่าหมั่นไส้เหลือเกินสำหรับคนมอง

“โฮ่”แจ็คสันส่งเสียงแค่นั้นพร้อมสีหน้าหมั่นไส้เสียเต็มประดา เลขาประธานบริหารฝั่งฮ่องกงหัวเราะไม่ยอมตอบอะไรอีก แต่ดวงตาเรียวพราวระยับมีความสุขแบบนั้นก็เป็นคำตอบได้ดี

แจ็คสันกับมาร์คลงลิฟต์มาถึงก็มีรถลีมูซีนคันโตมารอรับ คนขับรถเปิดประตูไว้รอท่า มาร์คยิ้มให้คนขับเล็กน้อยแล้วสอดตัวเข้าไปตามหลังเจ้าของรถที่ขึ้นไปก่อน ทันทีที่ขึ้นรถแจ็คสันก็เหมือนโดนดูดวิญญาณออก แผ่นหลังตรงแน่วเลื้อยไปกับเบาะนุ่มแทบจะตกจากที่นั่งไปอยู่แล้ว ดวงหน้าหวานดูอิดโรยเล็กน้อยจนมาร์คต้องเอามือจับแก้มกลมด้วยความเป็นห่วง

“เหนื่อยเหรอ?”

“อือ ต้องเตรียมข้อมูลประชุมน่ะ...หาววว”

“งีบก่อนเถอะ”ชายหนุ่มโอบศีรษะกลมขึ้นมาเกยไหล่ แอบจั๊กจี้คอเพราะเส้นผมนุ่มสีดำสนิทเข้ามาคลอเคลียใกล้ๆ แจ็คสันในเวลานี้ทิ้งคราบนักธุรกิจหนุ่มผู้มีความมั่นใจในตัวเอง ทิ้งตัวลงซุกกับอกแกร่งที่แม้จะไม่ได้กว้างแต่ก็อบอุ่นน่าพึ่งพาเสมอ ดวงตากลบกระพริบปรือเหนื่อยจากการพักผ่อนไม่เพียงพอมาหลายวัน พอได้กลิ่นแสนคุ้นเคยอยู่ปลายจมูกก็อดสูดดมไม่ได้ มาร์คหัวเราะใช้นิ้วจิ้มปลายจมูกรั้นๆเบาๆเป็นการเตือน รู้สึกเหมือนโดนลูกหมาตัวเล็กๆอ้อนอย่างบอกไม่ถูก

คนตัวเล็กหลับไปแล้ว มาร์คก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน เขาบินมาถึงตั้งแต่เช้าก็เข้าบริษัทใหญ่มาประชุมเลย ไม่มีเวลาได้พัก กระชับอ้อมแขนให้อีกคนเข้ามาใกล้ ก้มหอมหน้าผากนูนเบาๆ ไม่นานคนตัวสูงก็หลับตาลง  อิงศีรษะกับศีรษะกลมหลับกันไปทั้งอย่างนั้น

คนขับรถมองผ่านกระจกก็แอบยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้รถแล่นไปเงียบๆเพราะรู้ดีว่าสองคนที่อยู่ด้านหลังรถในตอนนี้ต้องการการพักผ่อนและเวลาส่วนตัว กับคนรักที่ห่างไกลหลายไมล์ทะเลและได้พบกันเฉพาะช่วงเวลาประชุมรวมแล้ว เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันเป็นช่วงที่สำคัญมากที่สุดจริงๆ...






คฤหาสน์สามชั้นของตระกูลหวังตั้งตระหง่านอยู่บริเวณใกล้ริมทะเล วิวทิวทัศน์งดงามและเป็นส่วนตัว รถลีมูซีนแล่นปราดจอดเทียบท่าประตูบ้าน เจ้าของบ้านและแขกกิตติมาศักดิ์ก้าวลงมาด้วยท่าทางมึนนิดๆเพราะเพิ่งจะตื่นกันมา แจ็คสันส่งเสื้อสูทให้สาวใช้คนหนึ่ง ดึงเนกไทและปลดกระดุมเม็ดแรกลงคลายความอึดอัด

มาร์คมองภาพนั้นนิ่งๆ หันไปโบกมือให้กับสาวใช้ที่รอรับเสื้อสูทจากเขาอยู่ “ไม่เป็นไร ฉันจัดการเอง”ส่งยิ้มให้เป็นการขอบคุณในความมีไมตรี เธอคนนั้นหน้าแดงเขินอายกับออร่าความหล่อเหลาของแขกผู้นี้

แจ็คสันเหลือบสายตามองมาเล็กน้อย แล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสามโดยไม่พูดอะไร สีหน้าเย็นชาก่อนจะผินหน้ากลับทำทั้งห้องเงียบไปด้วยความตื่นตระหนก ชายหนุ่มผู้เป็นแขกหัวเราะในลำคอจับปฏิกิริยานั้นได้

“เขานอนไม่พอน่ะ”บอกให้ทุกคนคลายความเครียดลง พ่อบ้านแม่บ้านรุ่นเก่าๆจะรู้จักเขา แต่สาวใช้คนที่หน้าแดงเมื่อครู่คงเป็นสาวใช้คนใหม่ หันไปบอกหัวหน้าแม่บ้านที่ยืนยิ้มคอยท่า “จัดอาหารขึ้นไปบนห้องแจ็คสันเลยนะครับ ถ้าเคาะแล้วไม่ตอบ...”

“ให้วางไว้หน้าห้องสินะคะ”เธอตอบรับอย่างรู้กันดี มาร์คพยักหน้าขอบคุณ เดินตามแจ็คสันขึ้นไป หูแว่วเสียงหัวหน้าแม่บ้านออกคำสั่งให้ทุกคนห้ามรบกวนบริเวณชั้นสามและคำสั่งอีกสองสามอย่างซึ่งเขาไม่ใส่ใจจะฟัง เดินเอื่อยไปตามทางเดินราวกับที่นี่คือบ้านตัวเอง หยุดมองภาพครอบครัวหวังบนปลายทางเดินแล้วแอบอมยิ้มกับความน่ารักของเด็กตุ้ยนุ้ยใส่ชุดเอี๊ยมสีกรมท่า

บ้านหลังนี้เหลือแจ็คสันเพียงคนเดียว เพราะพี่ชายไปทำงานต่างประเทศ ส่วนป๊าม๊าเสียไปจากอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน ทรัพย์สินทั้งหมดเลยตกเป็นของแจ็คสันและพี่ชายคนละครึ่ง ด้วยหุ้นที่มีอยู่ในมือทำให้แจ็คสันต้องเข้ามารับช่วงต่อกิจการเร็วกว่าที่เคยคิดไว้ ความรับผิดชอบมหาศาลไหลบ่ามาที่คนตัวเล็กชนิดที่ว่าเกือบตั้งตัวไม่ทัน มันทำให้แจ็คสันต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อทำหน้าที่ต่อจากคุณพ่อให้ดี กดดันตัวเองจนกลายเป็นคนเคร่งเครียดอย่างปัจจุบันนี้

แต่มาร์ครู้ดีว่าภายในของคนตัวเล็กนั้นยังเป็นเด็กอยู่

เปิดประตูเข้าห้องที่อยู่เกือบลึกสุดของบ้าน ทันเห็นแผ่นหลังกว้างแวบๆอยู่ในห้องเชื่อมเล็กๆซึ่งเป็นส่วนห้องทำงาน เขาเดินตามไปยืนกอดอกพิงวงกบประตู มองแจ็คสันที่กำลังนั่งไขว้ขาก้มหน้าอ่านเอกสารบนโต๊ะไม้ฮอกกานีสีเข้ม ชุดทำงานยังอยู่บนร่างนั้นครบถ้วนแม้กระทั่งแว่นสายตากรอบใส เสื้อกั๊กสูทสีเทาอ่อนทับเสื้อเชิ้ตขาวเน้นรูปร่างใต้อาภรณ์ให้เห็นชัดขึ้นเมื่อไม่มีสูทด้านนอกบดบัง

“เมื่อกี้หึงเหรอ?”

ดวงตากลมหลังกรอบแว่นใสเงยขึ้นมาสบตาด้วย มือเล็กวางเอกสารลงบนโต๊ะ ไม่ยอมตอบคำถาม มีเพียงรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าที่เป็นสัญญาณให้มาร์คถอดเสื้อสูทโยนทิ้งไว้บนพื้นแล้วเดินเข้าไปใกล้ด้วยความลุ่มหลง มือเรียวสอดเข้าข้างสะโพกสวยกักร่างเล็กนั้นไว้ในอ้อมแขน โน้มใบหน้าลงมาใกล้มองเข้าไปในดวงตาสีเข้มมีแววยั่วเย้า

“ถ้าบอกว่าไม่ล่ะ?”อีกฝ่ายยักคิ้วทำหน้านิ่งกวนประสาท มือเล็กรูดเนกไทของมาร์คให้คลายออก เลื่อนปลายนิ้วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด พลางส่งสายตาเชิญชวนให้ มาร์คแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผาก ลมหายใจกระชั้นและหัวใจสูบฉีดแรงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“เด็กปากแข็ง”

“รู้เหรอว่าแข็ง”พูดเสียงเบาทั้งที่ตาเหลือบมองไปด้านล่างทำเอาส่วนกลางลำตัวเขาปวดหนึบขึ้นมากะทันหันทั้งที่ก่อนหน้านี้มันยังนิ่งสงบ

...เด็กนี่!!!...

 มาร์คสบถในใจ อดรนทนไม่ไหวก้มบดขยี้กลีบเนื้อนิ่มสีสวยที่ยั่วสายตามาตั้งแต่เมื่อครู่ แจ็คสันก็ไม่ได้ขัดขืนซ้ำยังเผยอปากเชิญให้ลิ้นเรียวได้ชำแรกเข้ามากอบโกยความหอมหวานภายในโพรงปากร้อน ฟันขาวขบกระทบกันเสียงดังกึกเพราะความรีบร้อนของมาร์คที่จู่ๆก็จับต้นขาแน่นแยกออกจับมาวางข้างเอว แจ็คสันเสียหลักไปพักหนึ่ง โอบรอบลำคออีกคนเพื่อพยุงตัว เอียงใบหน้าปรับองศาให้ริมฝีปากแนบแน่นขึ้น แว่นตาที่ใส่อยู่เอียงกะเท่เร่ หูได้ยินเสียงแลกน้ำลายในปากตัวเองชัดเจน ปลุกอารมณ์ในกายให้โหมกระพือ

ขาเพรียวกอดรัดสะโพกผอมขณะที่แผ่นหลังขาวแนบไปกับพื้นโต๊ะ ปากประกบโถมรัดพันตูไม่มีใครยอมใคร กระหายอีกฝ่ายจนลืมทิฐิทุกสิ่งอย่าง แจ็คสันหยัดสะโพกเบียดเสียดกับส่วนร้อนใต้ร่มผ้าสีดำของมาร์ค มือเล็กปลดกระดุมร่างข้างบนสอดมือสัมผัสหน้าอกแข็งและลอนกล้ามชัด ปลายนิ้วแหย่ร่องสะดือวนไปมาทำเอาชายหนุ่มสติแตกโถมจูบแรงขึ้นจนได้กลิ่นเลือด  มาร์คกระชากเสื้ออีกฝ่ายออกแต่ก็ยังติดเสื้อกั๊กตัวนอก เขาหงุดหงิดงุ่นง่านทำอะไรไม่ได้อย่างใจเพราะความยั่วเย้าของร่างด้านใต้ แจ็คสันเหมือนรู้เลยปลดเสื้อชั้นนอกออกด้วยตัวเอง ปล่อยให้มือเรียวแหวกเสื้อตัวเองออกให้พ้นสายตา เชิดหน้าครางพอใจกับสัมผัสบนหน้าอกและหน้าท้องของตน

“อืม คุณ”

“เรียกชื่อฉันสิ”มาร์คกระซิบข้างลำคอขาว ดูดซับทำรอยจางๆไว้ เลื่อนลงมาจัดการร่องไหปลาร้าทรงสวยและเนินหน้าอกนูนหอบกระเพื่อมขึ้นลง

“มาร์ค”

“เด็กดี”เอ่ยชม ใช้ลิ้นสะกิดตุ่มไตเล็กแผ่วเบา หน้าอกนูนเริดขึ้น ยอดเกสรสีสวยชูช่อขึ้นด้วยแรงอารมณ์ ชายหนุ่มแตะวนรอบๆฐานสีชมพูเข้มราวกับสัมผัสของผีเสื้อที่สนรอบกลีบดอกไม้ หยอกล้อไม่ยอมแตะต้องจุดอ่อนไหว ร่างเล็กร้องครางไม่ได้ดั่งใจ นิ้วเล็กบีบเล่นกับหัวนมด้านที่ยังไม่ถูกแตะต้องพร้อมกับกดศีรษะของคนอายุมากกว่าลงมาดูดกลืนยอดอกอีกด้าน มาร์คใช้ลิ้นได้เก่งมาก นั่นเป็นสิ่งที่แจ็คสันรู้ และลิ้นร้อนนั้นก็กำลังปลุกปั่นเขาเสียใกล้เสียผู้เสียคนเพราะความชำนาญของผู้ชายตรงหน้า

มือเรียวสัมผัสลอนกล้ามขาวของคนด้านใต้ ปลดกระดุมที่เหลือออก จับเอวเล็กลูบไล้ด้วยความหลงใหล

“อ้วนขึ้นรึเปล่า”

“ปากเสีย”แจ็คสันเอ่ยค้อนเสียงสั่น “น้ำหนักผมลดไปตั้ง 5 กิโลนะ”

“เหรอ”

ชายหนุ่มเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ปลดหัวเข็มขัด กระดุมกางเกงพอให้มันหลวมและดึงมันลงถึงเพียงเข่า เขาไม่อยากเปลื้องผ้าคนตัวขาวออกหมดด้วยรสนิยมส่วนตัว แจ็คสันก็รู้ ถึงได้ไม่พยายามจะถอดมันออก แม้ปากจิ้มลิ้มมักจะบ่นขมุบขมิบว่าเกะกะตอนที่เขาต้องการจะได้ความรู้สึกแบบเนื้อแนบเนื้อ

“อยากให้ใช้รึเปล่า?”

แจ็คสันเลิกคิ้วขึ้น แต่มาร์ครู้ว่าคนตัวเล็กเข้าใจ

“นี่มันเกะกะนะ”เขาว่าพลางสะบัดกางเกงตัวเองทิ้ง มือเล็กลูบจากเชิงกรานสอดเข้าใต้อันเดอร์แวร์ตัวเล็กรูดมันลงช้าๆในขณะที่ตากลมสวยจ้องมาที่เขาอย่างท้าทาย มาร์คกลืนน้ำลายดังอึกมองส่วนนั้นของคนตัวเล็กที่ชูชันอย่างเต็มที่ ส่วนปลายเยิ้มไปด้วยน้ำสีใส

“ลองทายสิว่าผมอยากได้แบบไหน”

...ให้ตายเถอะ!...

มาร์คโถมกายเข้าหาคนช่างยั่วอีกครั้ง มือด้านหนึ่งกำรอบส่วนเต็มตึงสีสวย สอดมือยกสะโพกกลมกลึงขึ้นกระชับต้นขาวขึ้นพาดบ่า ฟันคมขบน่องขาวจนเป็นรอยฟัน เม้มเลียสร้างรอยหลายรอยบนขาขาว ทั้งน่องและต้นขากลม นิ้วเรียวลูบร่องสะโพก เคลื่อนเข้าหาปากทางทีละน้อย แต่จู่ๆแจ็คสันก็จับมือด้านนั้นไว้ มาร์คเงยหน้าสบตากับตากลมระริกไหว

“เข้ามาเลย”

“แต่คุณจะเจ็บ”มาร์คท้วงไม่ฟังที่คนตัวเล็กบอก จับขาขาเล็กอ้าออก ปลายนิ้วเรียวผลุบเข้าช่องทางด้านหลัง หวังจะเบิกทางให้อย่างทุกครั้ง แต่ทันทีที่นิ้วแรกเข้าไป ชายหนุ่มก็รู้ทันทีว่าทำไมแจ็คสันถึงได้บอกให้เข้ามาได้เลย

“ก็บอกให้เข้ามาเลยไงเล่า!”แจ็คสันตวาดแว๊ดหน้าแดงก่ำ อับอายจนแทบไม่อยากสบตากับคนที่เอาแต่หัวเราะจะเป็นจะตาย

“นี่คิดถึงผมมากขนาดนี้เลยเหรอ? น่าชื่นใจชะมัด”มาร์คกลั้นหัวเราะ หัวใจเต้นรัวด้วยความรู้สึกปลื้มปิติ แจ็คสันคงเล่นกับมันไม่นานมานี้แน่ๆ ปากทางถึงได้นุ่มพร้อมรับศึกรักขนาดนี้

“หุบปาก”แจ็คสันแสร้งทำเสียงฉุนเฉียวปกปิดความอับอาย เลื่อนเข่าเข้าหากัน เริ่มเข้าหน้าอีกคนไม่ติด มาร์คยิ้มกระหยิ่ม ดึงนิ้วออกออกช่องทางอุ่น ในเมื่อไม่มีความเป็นที่จะต้องเบิกทางก็ไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลาอีกต่อไป ปลดเข็มขัดและกางเกงลง สัมผัสส่วนแข็งขืนกลางลำตัวของตนรูดรั้งสองสามครั้ง บดจูบกับหัวเข่าสีแดงเรื่อน่าเอ็นดู กระชับต้นขานิ่ม นำมันจ่อช่องทางด้านหลัง กระซิบเสียงเบา

“ฮะ คุณว่าอะไรนะ อ๊ะ อื้ม!!!”แจ็คสันเชิดหน้าขึ้นกลั้นเสียงครางรู้สึกดี มือเล็กจิกกับท่อนแขนของคนด้านบน ปากทางขมิบตอดสิ่งแปลกปลอมถี่ๆ ยิ่งเลื่อนเข้าไปลึก ขาเรียวก็ยิ่งยกสูง ช่องทางรัดส่วนแข็งร้อนที่แทรกเข้ามาจนสุดโคน

มาร์คครางต่ำในลำคอพึงพอใจกับแรงบีบรัดจากผนังนุ่มอุ่น ยิ่งมองร่างกายที่นอนแผ่ร่างอ้าขาอยู่ใต้ตัวเขาก็ยิ่งรู้สึกร้อนรุ่ม แจ็คสันในเวลานี้เซ็กซี่ยั่วยวนและน่าค้นหา ผิวกายขาวบางระเรื่อแดง โดยเฉพาะจุดบอบบางที่กลายเป็นสีแดงจัด เสื้อผ้าบนกายยับยู่และเปียกชุ่ม เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายทั่วทั้งตัวเปรียบเสมือนน้ำหวานอาบคลุมเรือนร่างยั่วเย้าส่งกลิ่นหอมอ่อนๆไม่ต่างจากดอกไม้งามแรกแย้ม หลอกล่อสติของมาร์คให้หลงงมงาย

สะโพกผอมขยับเบาๆหลังจากแช่ไว้สักพัก เพราะถึงแม้แจ็คสันจะเตรียมพร้อมไว้ก่อน แต่ช่องทางรักของผู้ชายไม่มีน้ำหล่อลื่นอย่างของหญิงสาว แล้วยังกล้าดื้อไม่ใช้ตัวช่วยอย่างน้ำยาหล่อลื่น ฝ่ายรุกอย่างเขาก็ต้องเป็นฝ่ายถนอมอีกฝ่ายเป็นพิเศษ พวกเขาไม่ใช่เด็กแล้ว จะให้บาดเจ็บเพราะการร่วมรักแบบผิดๆจนเสียการงานนั้นมันไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด

“พร้อมไหม?”

“ยัง...อ่ะ มันฝืดๆ”แจ็คสันนิ่วหน้าบอก เดาได้เลยว่าถ้ายังจะขืนทำ ช่องทางเขาได้ฉีกขาดเลือดสาดแน่ๆ ทั้งเขาและมาร์คไม่ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น

“งั้นมันอยู่ไหน”

“ถอยออกไปสิ จะไปเอามา...อ่ะ! ทำอะไรของคุณ!”แจ็คสันร้องลั่นตกใจเพราะจู่ๆร่างเขาก็ถูกรวบขึ้นอุ้มเข้าเอวทั้งที่ส่วนนั้นไม่หลุดออกจากกัน ขาขาวเลื่อนลงมาตวัดรัดสะโพกผอมไว้ มือเรียวช้อนก้นนุ่มนิ่มพาลุกขึ้นยืน

“บอกมา”

“ลิ้นชักแรกในตู้เสื้อผ้า”

มาร์คพยักหน้ารับรู้ช้อนก้นนิ่มพาร่างเจ้าของห้องเดินย้อนไปที่ตู้เสื้อผ้าสองบานพับ แจ็คสันกอดคอแกร่งแน่น พ่นลมหายใจร้อนกระชั้น หลุดครางเสียวเป็นพักๆ ระยะก้าวไม่ถึงสิบก้าวแต่แจ็คสันเหมือนกำลังจะเข้าห้วงสุขสมมากขึ้นทุกที

สะโพกกลมวางพักบนชั้นวางในตู้ กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มโอบกระชับพวกเขาไว้ รู้สึกมึนงงมากขึ้นกว่าเดิม แจ็คสันปะป่ายดึงลิ้นชักออกมา เป็นมาร์คที่หยิบเอาขวดบรรจุเจลหล่อลื่นแบบฝาทับขึ้นมากัดเปิด ถอดถอนตัวเองออกมาจากช่องทางนุ่ม ชโลมส่วนกลางลำตัวด้วยเจลใสและดันกลับเข้าไปใหม่ แต่ไม่ทันจะได้ขยับ มือเล็กก็ดันอกแกร่งพลางพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่า

“มาร์ค ไปที่อื่น...ตรงนี้...อ่ะ เสื้อมันจะสกปรก”

แล้วมาร์คจะขัดได้เหรอ? แน่นอนว่าไม่ วงแขนแข็งแรงโอบร่างเล็กขึ้นมา พาเดินย้อนกลับไปที่เดิม วางร่างขาวไว้บนพื้นโต๊ะ แจ็คสันตัวอ่อนปวกเปียกหอบครางกระเส่าหวาน ดวงตากลมปรอยปรือ

“หืม?”นิ้วเรียวป้ายเอาน้ำสีขุ่นบนหน้าท้องตนขึ้นมา ยื่นไปให้คนใต้ร่างดู “นี่เสร็จไปก่อนแล้วเหรอ”

ใบหน้าหวานแดงก่ำผินหน้ามามอง หลบตาเขินอายไม่พูดอะไร มาร์คกระตุกยิ้มได้ใจ จับท่อนขาเล็กยกขึ้น สวนสะโพกตบก้นสวยดังป๊าบใหญ่ ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก ตากลมเบิกกว้างตกใจ

“ต้องลงโทษสักหน่อยนะ”

สะโพกผอมถอนออกครึ่งลำและผลุบเข้าไปด้านในใหม่เชื่องช้าแต่ล้ำลึก บดควงสัมผัสจุดอ่อนไหวในกายเล็กวูบหนึ่งแล้วถอดออก ทำแบบนี้ซ้ำๆราวกับเป็นบทลงโทษที่แจ็คสันเสร็จล่วงหน้าไปก่อน คนปากดีกัดปากทรมาน จ้องค้อนตาสวยที่เหลือบมองมา

...ได้ มาร์คได้...แจ็คสันคิดเข่นเขี้ยวในใจ ...เดี๋ยวจะทำให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้น...

“ที่รัก”

ชายหนุ่มหยุดชะงัก เงยหน้ามองเจ้าของคำเรียกขานหวานหูอึ้งๆ

นิ้วเล็กเกี่ยวแว่นสายตากรอบใสตกลงจากใบหน้า ดวงตากลมเลื่อนขึ้นจ้องคนบนร่างที่นิ่งชะงักเพราะท่าทางที่เปลี่ยนไป ปลายลิ้นเล็กแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง ยั่วยวนให้อีกฝ่ายหลงใหลมัวเมา เปล่งเสียงอ้อนขอร้องน่ารักน่าเอ็นดู

“แจ็คสันอยากโดนทำแรงๆจัง มาร์คจัดให้หน่อยสิครับ”

คนตัวขาวยันส่วนข้อศอกท้าวกับพื้นโต๊ะยันร่างส่วนบนขึ้น ยกขารวบรัดต้นคอชายหนุ่ม ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้มาร์คแล้วบดสะโพกสวยสวนรับแท่งร้อนรุ่มในร่างให้เข้ามาลึก ครางเสียงกระเส่าพึงพอใจ ดวงกลมหวานเยิ้มเต็มไปด้วยอารมณ์ ท่อนขาเล็กอาศัยแรงจากต้นขาบนบ่าแกร่งร่อนสะโพกควบคุมจังหวะร่วมรักเสียเอง

“อ่า...วันนี้ร้อนแรงจริงนะที่รัก”

มาร์คครางต่ำพึงพอใจ มือโอบสะโพกนุ่มนิ่มจับช่วยให้อีกฝ่ายกระแทกเข้ามาแรงขึ้นขณะที่ตัวเองก็บดส่วนร้อนแทรกเข้าหาช่องทางรัดไม่หยุดหย่อน ในเมื่อขอมาขนาดนี้ถ้าไม่ทำให้ก็ดูจะเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่องมากไปหน่อย

อยากได้แรงๆใช่ไหมครับเมีย สามีจะจัดการให้ถึงใจไปเลย

ตับ! ตับ!

“แรง อ่า มาร์ค แรงกว่านี้”แจ็คสันหวีดสูงสุขสมกับรสรักเร่าร้อน ตัวบิดเร่าไปมาบนโต๊ะแข็ง มาร์คสูดปากรู้สึกไม่ไหวกับแจ็คสันเวอร์ชั่นนี้ ยกต้นขาขาวด้านหนึ่งมารวบใส่เอว ขยับสะโพกรัวถี่จนร่างเล็กสั่นคลอน

“เท่านี้พอไหม?”

“ไม่ อ่ะ ไม่พอ แรงอีก”ประโยคแสนเอาแต่ใจของคนที่เอาแต่ครางเสียงกระเส่าเร้าอารมณ์ นิ้วเล็กจิกไหล่แกร่ง อีกข้างก็รูดรั้งส่วนกลางลำตัวของตัวเอง ดูสนุกกับเกมกาม

ทั้งหมดที่เป็นแจ็คสันทำให้มาร์คเหมือนเป็นคนโรคจิตขึ้นทุกที

เนื้อหน้าท้องแกร่งตบก้นนิ่มจนแดงเรื่อส่งเสียงดับตับๆๆคลอกับเสียงน้ำเฉอะแฉะของช่องทางรักที่โดนรุกล้ำรุนแรง ไหนจะเสียงครางของผู้ชายสองคนที่แทบจะประสานเป็นร่างเดียวกันบนโต๊ะทำงานไม้ฮอกกานี นิ้วเรียวสอดเติมเต็มช่องนิ้วเล็กกอบกุมกันแน่นขณะที่ริมฝีปากก็แนบสนิทไม่แพ้กัน ตวัดลิ้นกวาดต้อนลมหายใจและหยาดน้ำหวานภายในโพรงปากแดงฉ่ำตะกรุมตะกราม ขาเล็กบนบ่าแกร่งอ่อนแรงตกลงมาข้างสะโพกผอมที่ซอยถี่รัวไม่หยุด

เหงื่อไคลของทั้งคู่หลอมรวมตกกระทบพื้นไม้และเอกสารบางส่วนบนโต๊ะ มาร์คเหลือบไปมองเห็นว่าเป็นเอกสารไม่สำคัญก็ไม่คิดจะใส่ใจ สอดมือเข้าใต้ข้อพับจับแยกออกกว้าง ยันกายลุกขึ้นร่อนเอวกระแทกกระทั้นรุนแรงถี่รัวจนแผ่นหลังชื้นลอยขึ้นจากพื้นโต๊ะ

แจ็คสันร้องครางเสียวจะเป็นจะตาย โดนรุกแรงแทบหายใจไม่ทัน สมองมึนเบลอว่างเปล่า แต่ยังขยับร่างกายได้ราวกับสัตว์ในฤดูผสมพันธ์ ใช้มือยันโต๊ะไม่ให้หลังกระแทกโต๊ะ แต่ก็ไม่ปริปากบ่นว่ามาร์คให้หยุด เขาไม่อยากหยุด เพราะเขากำลังมีความสุขอย่างถึงที่สุด สุขกับการร่วมรักรสรุนแรงแต่หอมหวาน สุขเพราะโดนมองและกระทำอย่างคนที่ลุ่มหลงจนขาดสติ สุขเพราะคนที่กำลังบดร่างเข้าหาตนนั้นคือคนที่เขารักและคิดถึงจากก้นบึ้งของหัวใจ

“มาร์ค อือ รัก รักจัง”

คนตัวเล็กเพ้อบอกรักเสียงกระเส่า โอบลำคอแกร่งให้ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนเหงื่อเข้ามาใกล้ อ้อนกดจูบบนสันกรามสวย จับคางให้ปากอีกฝ่ายสัมผัสกลีบปากนิ่มสีช้ำของตัวเอง เผยอปากต้อนรับลิ้นเรียวที่เข้ามากอบโกยครั้งแล้วครั้งเล่า

“อืม มาร์คก็รักแจ็ค รักที่สุด”

ปลายนิ้วเล็กรูดท่อนเต็มตึงของตัวเองถี่รัว กระตุกร่างปลดปล่อยหยาดน้ำรักพุ่งเลอะทั้งตนและคนบนร่างที่ไม่ยอมหยุดชะงักแม้แต่จังหวะเดียว พอมาร์คเห็นว่าแจ็คสันล่วงหน้าไปก่อนก็จับร่างเล็กขึ้นอุ้มเข้าเอวอีกครั้ง กอดรัดสะโพกนุ่มนิ่มสวนกระแทกเข้าหาช่องทางผ่าวร้อนสองสามครั้ง บดกายเข้าลึกแช่กระตุกส่งน้ำรักอุ่นร้อนของตัวเองชโลมภายในของคนรักหมดสิ้นไม่ให้เหลือสักหยดเดียว

มาร์ควางตัวแจ็คสันลงกับพื้นโต๊ะ ทรุดร่างลงไปนอนทับกายขาวที่หอบหายใจหนักไม่แพ้กัน เหนื่อยจนแทบไม่อยากขยับตัวไปไหน

ก๊อกๆ

ทั้งสองสะดุ้งเฮือกหันขวับมองไปทางประตูพร้อมกัน

“อาหารเย็นอยู่ข้างหน้าห้องนะคะคุณท่านแจ็คสัน คุณท่านมาร์ค”

“อ่า ขอบคุณครับ”แจ็คสันเป็นคนตอบกลับไปในขณะที่มาร์คยังคลอเคลียต้นคอเขาไม่หยุด มือเล็กตบแรงๆเพื่อให้หยุดลวนลามสักที

“รีบอาบน้ำแล้วมาทานอาหารนะคะ ใช้แรงไปเยอะ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งเอาได้”

“พี่เหม่ย!

หัวหน้าแม่บ้านสาวหัวเราะเดินจากไปให้เจ้านายได้อยู่กับคนรักอย่างเต็มที่ แจ็คสันหน้าแดงคิดในใจว่าเสียงพวกเขาทำกันคงเล็ดลอดออกไปด้านนอกแน่ๆ พอคิดว่าคนอื่นได้ยินก็หันไปมองค้อน ทุบคนด้านบนแรงๆ

“เพราะคุณเลย!

“เฮ้! เรื่องอะไรเนี่ย”มาร์คโวยวายไม่เข้าใจ ผุดลุกยืน มองคนตัวเล็กลุกขึ้นนั่ง หยิบแว่นใสขึ้นมาสวม ดึงกางเกงบนพื้นขึ้นมาใส่ลวกๆ เดินหนีเขาเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งชายหนุ่มให้เคว้งอยู่กลางห้องเพราะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด

...เดี๋ยวนะ แล้วเขาโดนโกรธเรื่องอะไรกันเนี่ย!...






















แถมนิดๆ



หลังทานอาหารและเก็บซากอารยธรรมในห้องทำงาน มาร์คก็ได้ฤกษ์ไปอาบน้ำต่อจากคนตัวเล็กที่อาบเสร็จแล้วพอดี ร่างขาวหอมฉุยกลิ่นสบู่ฟุ้งในเสื้อคอกลมแขนสั้นลายการ์ตูนกับกางเกงบอลตัวเล็กเหนือเข่าแดงเดินสวนกับเขา ตากลมเหลือบมองเล็กน้อยแต่ไม่พูดอะไร มาร์คก็ไม่ใส่ใจจะถามเพราะเหนียวตัวเกินจะทน ใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็เดินโทงๆมีผ้าขนหนูเหน็บสะโพกหมิ่นเหม่เช็ดผมออกมา

มองคนรักที่นอนทอดร่างบนเตียงนุ่มกลางห้อง หัวกลมหนุนคางบนหมอนใบโต สวมหูฟังครอบหูอันใหญ่ มือเล็กกดแท่งจอยที่ต่อกับเครื่องคอมยิกๆ ควบคุมตัวละครให้เดินไปตามแมพในเกมที่เขาจำได้ว่าเขาซื้อให้เองกับมือ คงไปค้นมาเล่นอย่างที่บอกไว้จริงๆสินะ

...เจ้าเด็กติดเกม...

มาร์คไม่เคยห้ามแจ็คสันไม่ให้เล่มเกม เพราะรู้ว่าพื้นที่นี้แทบจะเป็นพื้นที่สุดท้ายที่ทำให้คนตัวเล็กมีความสุขกับสิ่งที่ชอบนอกจากภาระงานใหญ่หลวงในชีวิตประจำวัน รู้ตัวอีกทีก็เผลอตามใจจนกลายเป็นเด็กติดเกมไปแล้ว จะบอกว่าความผิดมาร์คต้วนคนนี้ก็ไม่ผิดนักหรอก

หยิบเสื้อผ้าของตัวเองออกมาสวม หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมต่อ เดินไปนั่งบนเตียงข้างคนตัวเล็กที่ไม่แม้แต่จะหันมามอง

“แจ็คสัน”

นิ่ง...โอเค ไม่เป็นไร

สายตาคมลอบมองเรืองร่างคนรักอย่างโจ่งแจ้ง แจ็คสันในชุดเสื้อยืดลายการ์ตูนและกางเกงบอลสีสด ดูอ่อนวัยผิดกับตอนอยู่ในชุดสูทลิบลับ รูปร่างของคนตัวเล็กทั้งหน้าอกนูน เอวเล็ก สะโพกแน่นแบบนั้นมันน่าหมั่นเขี้ยวอย่างสุดๆ เห็นทีไรก็อยากกอดอยากฟัด ยังไม่นับพวกองค์ประกอบอย่างอื่นที่ทำให้มาร์คแทบเป็นบ้าได้ทุกครั้งที่เห็นหน้า

“ตัวเล็ก”

ลองเรียกอีกครั้งเพราะเขาเช็ดผมเสร็จแล้ว อยากกอดอยากพูดคุยตามประสาคนรักที่ไม่ค่อยได้เจอกันแต่คนตัวเล็กก็ยังนิ่ง มือกดเกมจอยไม่หยุดมือ คราวนี้มาร์คเริ่มฉุนนิดๆ คุกเข่าลงข้างสะโพกกลม ยันกายคร่อมคนตัวเล็กจากด้านหลัง

“ที่รัก”

เรียกอีกครั้งพลางวางมือข้างหนึ่งไว้บนร่องเอวคอด จ้องมองศีรษะกลมหวังจะให้มองกลับมาบ้าง แต่ก็ไม่...

“...”

โอเคครับ...มาแบบนี้ก็ย่อมได้

มาร์คยิ้มเข่นเขี้ยวในใจ อุตส่าห์ตั้งใจว่าวันนี้จะใจดีไม่รังแกไปมากกว่านี้ แต่ในเมื่อแจ็คสันไม่คิดจะใส่ใจ เขาก็คงไม่ต้องใส่ใจสภาพคนตัวเล็กในวันพรุ่งนี้ด้วยเหมือนกัน ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงต่ำ ดึงหูฟังอันใหญ่ออกจากศีรษะกลม พลางกระซิบข้างใบหูบาง

“เมียครับ มาเล่นกันอีกรอบเถอะ”

แจ็คสันสะดุ้งวาบ ใจหายลงตาตุ่มเพราะกางเกงถูกถอดออกไปทางเท้า เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองและมาร์คอยู่ในท่าทางที่ล่อแหลมมากขนาดไหน

“นี่คุณ! เมื่อกี้ก็ทำแล้วไม่ใช่รึไง อย่ามารุ่มร่ามนะ”

“ก็อยากสนใจเกมมากกว่าทำไมล่ะ”มาร์คพูดหน้าตาย บีบก้นนุ่มนิ่มหนุบหนับ นิ้วโป้งกดแหวกออกให้เห็นช่องทางที่ยังขยายอยู่นิดๆน่าจะเอาเข้าไปได้เลยทันที

“หยุดนะ ผมเหนื่อยแล้ว ผมจะเล่นเกม”แจ็คสันดิ้นพราดๆไม่ยอม หูฟังตกไปอยู่ข้างๆ ตาโตมองมาร์คที่ควักเอาลูกชายออกมาจากชุดนอนแล้วก็กลืนน้ำลายดังอึก

“คุณก็เล่นไปสิ  ผมไม่ได้บอกให้หยุดนี่”ชายหนุ่มบอก กดเอวเล็กตรึงอยู่กับเตียง สบตากลมวาวระริกของคนด้านใต้

“คุณก็เล่นเกม ผมก็เล่นคุณ แฟร์ออกนะ”

“มันไม่แฟร์เลยต่างหาก!!! อ่ะ เดี๋ยว ผมอาบน้ำแล้วนะ ใส่ถุงก่อนสิ อ๊า!!!

“บอกช้าไปนะ แต่ไม่เป็นไร...”ผู้จัดการฝ่ายไต้หวันยิ้มร้ายเว้นระยะคำพูด ร่อนสะโพกหยอกล้อผู้จัดการฝ่ายฮ่องกงที่กำมือสั่นระริก กดใบหน้าลงกับหมอน เกมบนหน้าจอและจอยสติ๊กในมือหมดความน่าสนใจลงในทันทีที่โดนสอดแทรกเข้ามาอีกครั้ง

“เสร็จรอบนี้เดี๋ยวผมจะใส่ให้แล้วกัน”

.

.

.

“มาร์ค คุณมันบ้า...อึก... คราวหน้าผมจะฝากคุณซื้อเกมให้ล้มละลายไปเลย อ่ะ ลึกไป อ๊า”

“เอาสิ หนึ่งรอบต่อหนึ่งเกม มาคราวหน้าผมจะขนมาให้คุณเป็นร้อยเลย”

“ไม่ ไม่ไหวหรอก อึก คุณ อ้า จะทำอีกเหรอ”

“ตอนนี้เพิ่งได้ห้าเกมเอง แต่ไม่ต้องห่วง วันหยุดสามวันนี้ ผมมั่นใจว่าจะได้ซื้อเกมให้คุณครบร้อยแน่นอน”

“ผมเกลียดคุณที่สุดเลยโว้ย! อ๋า!!!









ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

GOT7 INDEX

RED ZONE #ฟิคหน้ามืด

[SF] TUAN Twins (MARKSONYIEN) *3P*