[SF] TUAN TWINS AND THEIR LOVER Tutorial [MarksonYien]
TUAN TWINS AND THEIR LOVER
Tutorial
Mark x Jackson x Yien
การเรียนของชั้นมัธยมปีสุดท้าย เทอมสุดท้ายเป็นอะไรที่จะบอกว่าสบายก็สบาย จะบอกว่ายากก็ยาก เพราะถึงการเรียนที่โรงเรียนจะเริ่มน้อยลงในขณะเดียวก็ต้องเร่งตัวเองเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออันตรายสำหรับนักเรียนทุกคนก็ว่าได้
อย่างวันนี้ที่อาจารย์พละยกคาบเป็นคาบว่างเพราะเร่งสอนจนหมดก่อนหน้านี้แล้ว ภายในห้องเลยจ้อกแจ้กจอแจเป็นพิเศษ บางคนก็เร่งอ่านหนังสือสอบคร่ำเคร่งติวกันอย่างแน่วแน่เพราะคาดหวังเอาไว้สูง บางคนก็เล่นสบายๆพูดคุยกันสนุกสนาน บางคนก็ใช้เวลานี้หลับพักผ่อนจากการโต้ดึกซึ่งไม่รู้ว่าอ่านหนังสือดึกหรือเล่นเกมดึกกันแน่เหมือนกัน
“เฮ้ย พวกมึงจะสอบเข้าที่ไหนบ้างวะ”จู่ๆนิโคลัสก็ถามขึ้นกลางวงเกมเศรษฐีออนไลน์ส่งเสียงแหลมๆดลับเบิ้ล แย่วจัง อย่างต่อเนื่อง พีเนียลละสายจากตาที่มันเล่นเสร็จแล้วสบตากับเพื่อนแล้วกระพริบตาปริบ
“กูว่าจะเข้าวิศวะปิโตรเคมีว่ะ”
“อะโหว~~ หวังสูงนะมึง”นิคร้องโหวทำท่าไม่อยากเชื่อได้กวนบาทาจนพีเนียลลุกจากเก้าอี้มาตบหัวมันเข้าให้แต่ก็วืดเพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นนักกีฬาฟันดาบโรงเรียนอยู่แล้ว แถมยังโดนยักคิ้วจึกๆกวนประสาทกลับมาอีกต่างหาก
“กวนกูไปเถอะ แล้วมึงล่ะ?”
“คงเรียนการบริหารธุรกิจว่ะ แม่อยากให้ไปสืบต่องานที่บ้าน”ตอบแบบแทบไม่ต้องคิดเพราะมันเป็นสิ่งที่เพื่อนเขาพูดให้ฟังเสมอตั้งแต่ไหนแต่ไรว่าต้องกลับไปบริหารงานที่บ้านต่อ
“ไอ้แจ็ค มึงล่ะ?”กลับกลายเป็นพีเนียลที่หันมาถามไอ้คนตัวเตี้ยที่เอาแต่ก้มหน้าจิ้มๆโทรศัพท์ตัวเองตั้งแต่เมื่อกี้
“กูว่าจะยื่นสมัครโควตานักกีฬาที่ไหนสักที่อ่ะ”ตอบทั้งที่ไม่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ เพื่อนรักสองนายจึงโอบไหล่กันนินทากันต่อหน้าต่อตา
“สักที่ที่ว่าต้องเป็นมอเจแน่”
“ใช่ ยังไงครอบครัวก็ต้องได้อยู่ด้วยกันล่ะน้า”
“มีลูกวันไหนก็บอกก็ด้วยละกัน”
“เดี๋ยว พวกมึงนินทาอะไรกู”ในที่สุดใบหน้าหวานคมก็เงยหน้าขึ้นมาเพราะบทสนทนาชวนฉงน
“โธ่ คุณนายต้วนครับ พวกกูนินทาว่ามึงจะตามพี่ต้วนไปแน่ๆไงครับ อย่ามาตีหน้าซื่อครับ กูรู้ว่ามึงตามมุขพวกกูทัน”พีเนียลตอบกวนประสาทแล้วก็ต้องกระโดดหนีลูกถีบจากเพื่อนตัวเตี้ยที่มีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาฟันดาบแชมป์กีฬาเยาวชนสองสมัยให้ทัน แต่สุดท้ายก็แพ้ภัยตัวเองตกเก้าอี้หงายดังตึงดังลั่นจนเพื่อนทั้งห้องหันมามอง
“สมน้ำหน้า”
“โอ๊ยยย ช่วยกูหน่อยเถอะเพื่อน”พีเนียลโอดครวญลุกเอามือกุมท้องยกกลับอี้กลับมานั่งที่เดิม แต่ยังไม่ทันที่แจ็คสันจะได้ง้างปากด่าเพื่อนปากหมาต่อเสียงหัวหน้าชั้นเรียนก็เรียกเขาจากหน้าห้อง
“แจ็คสัน ไปพบอาจารย์แทคยอนที่ห้องแนะแนว...ตอนนี้เลย”
.
.
.
.
.
.
“เอ่อ ขออนุญาตครับ”มือป้อมดันประตูห้องแนะแนวแคบๆ โค้งตัวทักทายอาจารย์หนุ่มหล่อผิวคร้ามด้านในที่ยิ้มจนเห็นเหงือกมาให้
“มาๆ แจ็คสัน หวัง สินะ นั่งก่อน”
เด็กหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะอาจารย์ที่ปรึกษาด้านการเรียนต่ออย่างอาจารย์อ๊คแทคยอนที่กำลังเปิดแฟ้มประวัติซึ่งเขาเห็นว่าเป็นของตัวเองงงๆ
“อาจารย์เรียกผมมาทำไมครับ”
“อืม เข้าเรื่องเลยเลยนะ วันนี้อาจารย์ได้รับหนังสือแจ้งเรื่องทุนคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาของมอเจมา แล้วคราวนี้จากการดูประวัติแล้ว ครูอยากให้เธอได้ทุนนี้...”
ตากลมเบิกกว้างเป็นประกายระริก หัวใจในอกเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา ปากสั่นมือสั่นด้วยความตื่นเต้น
“อะ อาจารย์พูดจริงเหรอครับ!”
“อย่าๆ อย่าเพิ่ง”มือเรียวของอาจารย์อ๊คยกขึ้นมาแทบจะแปะหน้าเขา แจ็คสันกระพริบตาปริบมองใบผลการเรียนที่ถูกชูขึ้นตรงหน้าเขา
“มีคุณสมบัติของหนึ่งของทุนบอกว่าเกรดวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ต้องได้ 3.00 ขึ้นไป แต่ตอนนี้เธอได้...”
“2.85 ครับ”ตอบพร้อมยิ้มเจื่อน มองหน้าอาจารย์ที่กำลังทำหน้ายุ่งยากใจ
“เหลืออีกแค่เทอมเดียวกับการได้ 3.00 ครูคำนวณแล้ว ปลายภาคนี้เธอต้องได้เกรด 4.00 ของทั้งสองวิชาเท่านั้น แต่จากที่ดูผลการเรียนที่ผ่านมาแล้ว...”เว้นไปแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำเอาคนอ่อนคณิตกับวิทย์ถึงกับใจแป้ว “เธอคงต้องพยายามมากๆเลย แต่ว่า ไม่ต้องห่วง ครูจะเก็บทุนนี้ไว้ ยังไงก็ขอให้เธอตั้งใจสอบก็แล้วกัน”
มาพูดตั้งความหวังพร้อมรอยยิ้มและตีนกาแบบนั้นผมก็เครียดสิครับครูแทค!
แจ็คสันโค้งขอบคุณและเดินออกมาจากห้องแนะแนวด้วยหน้าที่ใกล้จะร้องไห้เต็มทน แค่คิดว่าต้องตั้งใจเรียนกับทำคะแนนสอบวิชาที่โคตรของโคตรจะยากอย่างคณิตศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ทั้งสี่แขนงให้ได้คะแนนใกล้เต็มก็แทบอยากคายของเก่าออกซะเดี๋ยวนี้
...กากาอยากตายยยย...
“มะม้า มันยากมากๆเลยอ่ะ เจียร์เอ่อจะทำไงดีอ่ะ”
มะม้าหวังเจียวไข่เจียวเหลือบมองลูกชายตัวน้อยเอาหน้าจิ้มโต๊ะตัดพ้อน้ำเสียงท้อแท้เรื่องทุนคณะที่ตัวเองอยากเรียนแต่ดันติดอุปสรรคชิ้นใหญ่อย่างเกรดวิชาที่อ่อนยิ่งกว่าสิ่งใด ส่งเสียงอืมในลำคอ พยายามเสนอแนวทางช่วยเหลือ
“เจียร์เอ่อลองให้เพื่อนติวให้สิลูก”
“งือ ในห้องไม่มีใครว่างเลยอ่ะม้า ทุกคนมีเรียนพิเศษกันหมดเลย”ง้องแง้งงอแงพักใหญ่ มะม้าหวังก็ทำอาหารเสร็จ กอดอกยืนคิดช่วยลูกชายสักพักก็เดินไปหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมาต่อสายถึงใครบางคนโดยที่แจ็คสันยังไม่รู้ตัว
“อี๋เอินเหรอลูก”
ห่ะ
แจ็คสันดีดขึ้นนั่งตัวตรงหันไปมองมะม้าหวังที่กำลังคุยโทรศัพท์ยิ้มแย้มกับปลายสาย ในอกคันยิบๆเหมือนว่าจะมีเรื่องให้ซวย ใบหน้าเริ่มมีริ้วรอยแต่ยังสวยนักของมะม้ายิ้มกว้างอารมณ์ดี แจ็คสันกำลังจะร้องห้ามแต่ประโยคที่คนตัวเล็กกลัวก็หลุดออกมาจนได้
“อี๋เอินกับมาร์คช่วยติวหนังสือสอบให้น้องแจ็คหน่อยสิลูก”
...ฉิบหาย มะม้า อย่าหาเรื่องเสียตัวให้ลูกสิครับ!!!...
แต่นั่นแหละ ด้วยความเป็นลูกที่ดี (จริงๆคือโดนมะม้าเขกมะเหงกกลางหัวแล้วบอกว่าเรื่องมาก) เช้าวันเสาร์ซึ่งควรเป็นวันหยุดเลยต้องมายืนเคว้งอยู่หน้าบ้านรอให้รถออดี้สีดำของแฝดคนพี่จอดเทียบท่าเปิดประตูออกมาต้อนรับราวกับเขาเป็นซินเดอร์เรลล่าในเรื่องรองเท้าแก้ว มองเข้าไปด้านในก็เห็นมาร์คในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงสแล็คเข้ารูปสวมแว่นตากันแดดเซทผมราวกับกำลังจะออกไปเดินแบบนั่งอยู่เบาะคนขับ ส่วนแฝดคนน้องก็นั่งอยู่เบาะหลัง สวมเสื้อเชิ้ตขาวปล่อยผมธรรมดา ยื่นหน้าหล่อเหลายิ้มอ่อนโยนมาให้
“ขึ้นมาสิครับกากา”
แจ็คสันกระพริบตาปริบๆเรียกสติ มุดตัวเข้าไปในรถ เพิ่งจะขยับก้นให้พอเหมาะ มือเรียวของแฝดคนน้องก็โอบมาจากเบาะหลังจับสายนิรภัยใส่ให้ กลิ่นน้ำหอมละมุนของอี๋เอินไม่ทันหายกลิ่นน้ำหอมเท่ห์ๆของมาร์คก็เข้ามาใกล้พร้อมสัมผัสนุ่มนิ่มบนริมฝีปากและจมูกสันคมที่ชิดจนแทบจะทิ่มตา
“คิดถึง”
มือป้อมกันแฝดคนพี่ออกให้ไปนั่งที่เดิม สีหน้าแดงระเรื่อเขินอายนิดๆกับการโดนจู่โจมแบบไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวนั่น คางเล็กถูกรั้งไปด้านข้างและโดนแฝดคนน้องจุ๊บเบาๆอย่างไม่ยอมแพ้
“คิดถึง”
“ออกรถได้แล้วน่า”เม้มปากเฉไฉไปเรื่องอื่นเสียงเบา สองแฝดหัวเราะในลำคออย่างเอ็นดู มาร์คแตะคันเร่งพารถคันงามออกจากหน้าบ้านของคนรักมุ่งตรงไปคอนโดส่วนตัวของพวกเขาในตัวเมือง
“แล้วพวกพี่ไม่มีการบ้านเหรอ ถึงมีเวลามาสอนผมเนี่ย”
“เสร็จแล้ว รีบเคลียร์มาติวสอบให้แฟน”มาร์คยิ้มมุมปากเหลือบมามองเขานิดๆแล้วหันไปตั้งใจขับรถต่อ
“สำหรับกากาพวกพี่มีเวลาว่างเสมอแหละครับ”อี๋เอินยื่นหน้ามาวางบนไหล่เบาะ จมูกโด่งสูดกลิ่นหอมแชมพูจากเรือนผมนิ่มของคนด้านหน้า “เพิ่งสระผมมาเหรอครับ”
“อืม เมื่อวานเล่นบาสอ่ะ ลืมสระเมื่อคืน เลยมาสระตอนเช้า”คนตัวเล็กพูดตามความจริง หยิบมือถือมาเช็กเวลา
“เน่าเอ๊ย”มาร์คล้อ ละมือด้านหนึ่งมาขยี้ผมนุ่มจนมันชี้ฟูอย่างหมั่นเขี้ยว “ทีหลังกลับบ้านอาบน้ำสระผมเลยนะ”
“มันขี้เกียจนี่นา”ยู่ปากเป็นรูปตัวโอ ยกมือลูบปอยผมให้กลับมาทรงเดิม
“อย่าขี้เกียจนักสิ พอพวกพี่ไม่อยู่ล่ะเอาใหญ่เลยนะ”อี๋เอินลูบผมนิ่มอีกด้านด้วยความหมั่นเขี้ยวแต่น้ำเสียงแสดงความเป็นห่วง
“ครั้งเดียวเองน่า...เออ นี่ ผมมีสอบปลายภาคอีกสองสัปดาห์ แค่สี่วัน พวกพี่จะสอนผมทันเหรอ?”แจ็คสันหมายถึงวันเสาร์-อาทิตย์นี้และของอาทิตย์หน้า แต่แฝดต้วนกลับยกมุมปากกันคนละยี่สิบห้าองศาหันมามองเขาแล้วพูดพร้อมกัน
“เหลือเฟือ”
“ฮะ?”แจ็คสันถึงกับงง “พี่รู้ใช่ไหมว่าผมแรมต่ำ”
“รู้สิ”มาร์คตอบตรงซะจนคนฟังเจ็บอึก
“ก็เพราะรู้พวกพี่ถึงได้เตรียมคอร์สพิเศษให้กากาไงครับ”อี๋เอินเสริมพร้อมยิ้มที่บ่งบอกว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลภายใต้ชื่อหลอกๆของคำว่าคอร์สพิเศษอย่างแน่นอน...
...แจ็คสันเริ่มไม่อยากติวแล้วอ่า ฮือออ มะม้า เจียร์เอ่อจะกลับบ้าน ฮืออออออ...
“จะให้พวกพี่ติวแค่คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ชีวะกับเคมี ม.6 เทอมปลายใช่ไหม?”มาร์คถามคนรักที่นั่งแหมะอยู่บนพื้นข้างโต๊ะญี่ปุ่นตัวใหญ่ มือเล็กหยิบเอาหนังสือหลายต่อหลายเล่มในกระเป๋าขึ้นมาวาง ส่วนแฝดคนน้องกำลังเตรียมน้ำและของว่างอยู่ในครัว
“อืม 4 วิชานี้แหละ ผมเอาหนังสือมาด้วย เผื่อพวกพี่ไม่ได้เก็บไว้”ว่าแล้วก็ก้มหน้าค้นกระเป๋าตัวเอง สะดุ้งวาบเมื่อจู่ๆก็โดนลำแขนจากคนด้านหลังโอบตัวเองไว้แล้วดึงขึ้นไปนั่งบนตักพี่เขา
“อะไร ปล่อยดิ”มือเล็กพยายามเกะมือปลาหมึกบนเอวออกแต่ก็ไม่สะเทือนคนด้านหลังสักนิด
“วันนี้แต่งตัวน่ารักจัง”เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูบางเล่นเอาขนคอลุกซู่
“น่ารักอะไร คิดไปเองเหอะ ปล่อยยย” คนบนตักเริ่มส่งเสียงดัง ส่วนคนฉวยโอกาสก็หัวเราะเอ็นดู คลายมือบนเอวออกให้แฟนตัวน้อยกลิ้งไปนั่งอีกด้านของโต๊ะ ตากลมๆเขม็งมองเขาอย่างไม่พอใจเสียเต็มที่ แก้มกลมพองฟู ปากแดงตุ่ยออก มองไปแล้วอยากกอดมาฟัดแก้มให้ช้ำ
แต่วันนี้แจ็คสันแต่งตัวน่ารักจริงๆ เสื้อฮูตสีน้ำตาลครีมแขนยาวเลยข้อมือปรกกินมือเล็กเห็นแค่นิ้วสั้นๆน้อยๆโผล่ออกมานิดหนึ่งปล่อยชายยาวคลุมสะโพกกับกางเกงขาสั้นสองส่วนที่กลายเป็นสามส่วนทันทีที่มาอยู่บนร่างคนตัวเตี้ย ถุงเท้าลายเซนิกาเมะสีฟ้าอ่อนนั่นยิ่งเสริมให้น่ารักนุ่มนิ่มมากขึ้นไปอีก
“อย่าแกล้งน้องสิมาร์ค”อี๋เอินบอกไม่จริงจังนัก วางถาดคุกกี้กับนมรสโกโก้บนโต๊ะญี่ปุ่น ถือโอกาสนั่งลงข้างๆคนตัวเล็กและหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่ แจ็คสันหันไปมองแรงใส่คนข้างตัวเป็นเชิงประณามว่าที่ทำเมื่อกี้ก็ไม่ได้ต่างจากมาร์คเลยสักนิด สะบัดตัวหลุดจากอ้อมแขนต้วนคนน้อง หนีไปนั่งบนโซฟาที่ห่างออกไปประมาณสามก้าว
“วันนี้ห้ามแกล้ง”นิ้วป้อมชี้หน้าประกาศกร้าว “สอบรอบนี้ผมตั้งใจมาก ยังไงผมก็ต้องได้เกรด 4 ไม่งั้นผมชวดทุนแน่”
“พี่รู้แล้วน่า”
...ปากบอกอย่างนั้นแต่ทำท่าทางไม่น่าไว้วางใจตั้งแต่เจอหน้ากันเนี่ยนะ!...แจ็คสันแย้งในใจ
แฝดต้วนพอเห็นน้องทำหน้าไม่เชื่อก็ยกนิ้วก้อยขึ้นมาเอ่ยปากสัญญามั่นเหมาะ “พวกพี่จะตั้งใจสอน สัญญาเลย”พอเห็นแบบนั้นแจ็คสันก็เบาใจขึ้นมาบ้าง กลับลงมานั่งด้านล่าง และการติวก็เริ่มขึ้น
มาร์คเป็นคนสอนฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ส่วนอี๋เอินสอนเคมีและชีววิทยาตามศาสตร์ที่ตัวเองถนัด หนึ่งวันเรียนวิชาละบท แบ่งเวลาเป็นภาคเช้าเรียนคณิตศาสตร์กับเคมีเพราะยังเป็นช่วงที่สมองยังว่างอยู่ ส่วนภาคบ่ายค่อยเรียนอีกสองวิชาที่เหลือ ตอนแรกแจ็คสันคิดว่าตัวเองต้องแย่แน่ๆเพราะมีแต่วิชาที่เกลียดทั้งนั้น แต่แปลกที่พอได้เรียนกับแฝดต้วนแล้วกลับไม่เบื่อเลย ถึงจะทำไม่ได้บ้าง ไม่เข้าใจบ้างแต่ก็สนุกมากกว่าเรียนในห้องเรียนธรรมดา
“ผมชนะ!”
คนตัวกลมแทบกระโดดลอยจากพื้นหลังเดินตัวหมากมาถึงจุดสิ้นสุดก่อนพวกตัวหมากของาร์คที่ตามมาติดๆอีกสองสามช่อง คนแพ้ยักไหล่ไม่สนว่าตัวเองแพ้ ส่วนอี๋เอินวางชุดคำถามลงบนพื้น ยกมือลูบหัวกลมของคนที่นั่งโยกดีใจอยู่ตรงกลาง
“เก่งมากครับ”
“ฮิฮิ”
แจ็คสันยิ้มภาคภูมิใจเพราะสามารถตอบคำถามวิชาเคมีเรื่องพื้นฐานกรดเบสถูกจนสามารถเดินหมากเกมบันไดงูชนะมาร์คได้
“สนุกอ่ะ พวกพี่ไปเอาเกมนี้มาจากไหนเหรอ”แจ็คสันเงยหน้าถามอี๋เอินที่ยิ้มอบอุ่นมาให้
“ไปยืมมาจากเพื่อนน่ะ”
แฝดรู้ดีว่าแฟนตัวเองเกลียดตัวหนังสือกับสูตรขนาดไหน พอทราบจากมะม้าหวังว่าจะให้แจ็คสันมาติวกับพวกเขา เป้าหมายคือจะต้องทำเกรด 4 ปลายภาคเทอม 1 ให้ได้ เพื่อให้คุณสมบัติเพียงพอจะได้รับทุนคณะวิทยาศาสตร์การกีฬามหาวิทยาลัยเดียวกันก็พากันโร่ไปหาเพื่อนที่อยู่คณะศึกษาศาสตร์ปรึกษาและยืม (ขู่เข็ญ) สื่อการสอนมาจากเพื่อนเพื่อมาใช้ในการนี้โดยเฉพาะ แถมยังอ่านทบทวนบทเรียนเก่าราวกับตัวเองจะต้องสอบเอง เพื่อช่วยคนรักให้ได้มากที่สุด...การสอบครั้งที่ไม่ใช่แค่แจ็คสันที่หวัง มาร์คกับอี๋เอินก็คาดหวังได้มากเช่นกัน เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันตามสัญญาที่เคยให้ไว้เมื่อครั้งพวกเขาเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆ
จริงๆพวกเขาก็เพิ่งรู้ว่าการเล่นเกมแบบนี้ถ้ารู้จักการสร้างดีๆก็สามารถนำเนื้อหาวิชาที่น่าเบื่อมาทำให้สนุกได้ รวมกับเทคนิคการเรียนที่พวกเขาเคยใช้มาตอนเรียนก็ช่วยให้แจ็คสันจดจำและทำความเข้าใจได้มากขึ้น...อย่างน้อยก็ในความคาดหวังของพวกเขาล่ะก็นะ
“หิวไหม? นี่ชูครีม”มาร์คยื่นจานของว่างพักเบรกมาให้คนตัวเล็ก ถือเป็นรางวัลที่ตั้งใจเล่นได้ดี คนตัวเล็กตาโต หยิบมันขึ้นพึมพำขอบคุณอารมณ์ดี
ชูครีมก้อนเล็กพอดีคำผลุบเข้าไปในโพรงปากเล็กจิ้มลิ้มสีแดงสด เหลือคราบครีมบนปลายนิ้วเล็กและริมฝีปากชวนให้คนมองใจจะวายเอาง่ายๆ ลิ้นเล็กแลบเลียเศษเหลือบนนิ้วอย่างเอร็ดอร่อย ผิดกับคนมองที่หยุดหายใจกันไปตามๆกัน
...จะน่ารักอย่างเดียวไม่ได้เหรอครับ ทำไมต้องทำตัวน่าทุ่มลงเตียงด้วย...
แฝดหันหน้ากันไปคนละทางพยายามระงับความอยากรังแกเอาไว้ก่อน ท่องในใจว่าต้องติวน้องต่อ ห้ามรังแก ห้ามแกล้ง ห้ามอุ้มขึ้นเตียง!!!
แจ็คสันกำลังจะกินคำต่อไปก็ทันเห็นพอดีว่าแฟนตัวเองหน้าแดงแล้วหันหน้าไปคนละทาง มุมปากอิ่มยกยิ้มแสนซน รู้ทันทีว่าแฝดกำลังคิดอะไร หยิบชูครีมชิ้นหนึ่งเดินเข่าไปหาคนที่จัดการง่ายกว่าอย่างอี๋เอิน สะกิดไหล่ให้แฝดคนน้องหันกลับมา
“พี่อี๋เอินฮะ กินหน่อยน้า กากาป้อนนะ”
ชายหนุ่มเหลือบต่ำมองชูครีมแนบปาก ดวงตากลมแป๊วกระพริบอ้อน ใบหน้าน่ารักใกล้ซะจนได้กลิ่นแป้งหอมจากกายขาว อ้าปากรับขนมชิ้นเล็กอย่างเต็มใจ สูดลมหายใจลึกเมื่อคนตัวเล็กยิ้มหวานกระแทกหัวใจเขาเต็มๆ
...ถ้าพี่หัวใจวายใครจะรับผิดชอบครับ!...
พอจัดการคนน้องได้ก็หันไปหาคนพี่ แต่เหมือนมาร์คก็รออยู่แล้ว มือเรียวจับเอวเล็กดึงวืดขึ้นไปนั่งทับบนหน้าขา ดวงตาสวยช้อนมองอ้อนทั้งเจ้าเล่ห์
“ป้อนพี่ด้วยสิ”
“ขนมหรืออะไรล่ะครับ”
คำถามที่คนบนตักถามกลับทำเอาอึ้งกันทั้งห้อง
“ถ้าบอกว่าพี่อยากกินแจ็คสันล่ะ”แลบลิ้นเลียริมฝีปากกระหายอยาก เด็กมันยั่วแล้วมาร์คจะทนได้ยังไงจริงไหมครับ... แต่แจ็คสันก็หยุดความคิดนั้นทันทีด้วยการยัดชูครีมสามชิ้นรวดเข้าปากแฝดคนพี่จนหน้าหงาย มือเล็กผลักอกแกร่งนอนไปกับพื้นห้อง
“กินขนมไปก่อนแล้วกันนะครับ”ปากจิ้มลิ้มเหยียดยิ้มสะใจ ลุกขึ้นจากตักแกร่งไปหาน้ำกินในครัว ทิ้งแฝดพี่แฝดน้องให้ดิ้นเร่าจะเป็นจะตายอยู่ตรงนั้นสักพัก จนแน่ใจว่าสงบแล้วถึงเดินออกมา
...เด็กแสบ!!!...
ผ่านเหตุการณ์ทดสอบความอดทนคาบเช้าก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษอีก มาร์คและอี๋เอินตั้งใจสอนแจ็คสันเป็นอย่างดี ถ้าคนตัวเล็กทำท่าเบื่อหรือจะหลับก็จะโดนแฝดไม่คนใดคนหนึ่งกระตุ้นให้ตื่นอยู่เสมอ พยายามให้คนตัวเล็กได้ลงมือเองและคิดหาทางออกด้วยตัวเอง แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จะเข้าไปช่วยชี้แนะจนแจ็คสันทำได้ในที่สุด
แต่กว่าจะจบวิชาสุดท้ายคนตัวเล็กก็เกือบตายเหมือนกัน ก็เล่นติวไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อนทั้งวัน เหนื่อยจนพอทำโจทย์ข้อสุดท้ายของวิชาสุดท้ายเสร็จก็ฟุบลงกับโต๊ะแล้วหลับทันทีอย่างกับโดนยาสลบ
“เฮ้ย!”มาร์คสะดุ้งตกใจพอๆกับอี๋เอินรีบเข้าไปเขย่าตัว แต่พอได้ยินเสียงกรนฟี้เบาๆในลำคอก็หลุดหัวเราะเอ็นดู แจ็คสันครางงึมงำคิ้วขมวด สองต้วนรีบกลืนเสียงหัวเราะกลัวคนรักของพวกเขาตื่น มาร์คช้อนตัวน้องขึ้นอุ้มไปนอนบนเตียงที่อี๋เอินไปเตรียมไว้ให้ก่อนแล้ว
สองแฝดนั่งคนละข้างของเตียงขนาบข้างคนตัวเล็ก เส้นผมนุ่มกลายเป็นของเล่นให้มือเรียวทั้งสองลูบและเกี่ยวเล่น ดวงตาอ่อนโยนสองคู่เฝ้ามองคนบนเตียงอยู่สักพักจึงลุกไปเตรียมอาหารเย็นไว้รอให้คนที่พวกเขารักตื่นขึ้นมาทาน...
“งืม...”เปลือกตาสีชมพูกระพริบหรี่รู้สึกตัว หันไปมองนอกหน้าต่างก็พบว่าด้านนอกมืดแล้ว หันซ้ายขวาก็ไม่เห็นเจ้าของทั้งสองคน ได้แต่กลิ่นหอมกระเทียมจากฝั่งครัวด้านนอกห้องนอน ยันกายลุกขึ้นจากเตียง เดินออกไปก็เห็นแผ่นหลังสองคู่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่กับเคาน์เตอร์ครัว
“พี่มาร์ค พี่อี๋เอิน ไปส่งผมหน่อยสิ”เกาะประตูบอกน้ำเสียงงัวเงีย แฝดหันมามอง วางมือจากสิ่งที่ทำ เดินมาหาคนรักแล้วพากันจูงมือน้องมานั่งที่โต๊ะกินข้าว ฉวยโอกาสหอมแก้มนิ่มไปคนละด้านเสียฟอดใหญ่
“ดึกแล้ว พักนี่นะ”
“ไม่เอา กลัวมะม้าเป็นห่วง”หัวกลมๆส่ายไปมา
“โทรบอกแล้ว ไม่เป็นไรหรอก”มาร์คบอกเสียงเบา จับมือเล็กไม่ให้ขยี้ตา ส่วนอี๋เอินก็ลูบผมน้องให้กลับมาเข้าที่เข้าทาง
“เผด็จการอ่ะ”พอรู้เรื่องแล้วก็ทำปากตุ่ย คนที่หมั่นเขี้ยวอยู่แล้วเลยถือโอกาสเข้าประกบกลีบปากอิ่ม บดคลึงเบาๆพอให้รับรู้ถึงอณูความอบอุ่นของกันและกันแต่ไม่ล่วงล้ำเข้าไป สัมผัสจนพอใจแล้วจึงผละออกปล่อยให้แฝดคนพี่เข้ายึดพื้นที่บ้าง แต่มาร์คไม่ได้อ่อนโยนอย่างอี๋เอิน กลับเข้าสอดแทรกเกี่ยวตวัดรัดปลายลิ้นเล็กที่ตวัดตอบอย่างรู้ความ หลังจากผ่านการจูบมาหลายต่อหลายครั้ง คนตัวเล็กก็เรียนรู้ที่จะปล่อยตามอารมณ์ของตัวเองมากขึ้น ยิ่งตอนเพิ่งตื่นแบบนี้ แจ็คสันยิ่งไม่มีสติ ยิ่งล่อหลอกง่ายเข้าไปใหญ่ เรียวแขนขาวตวัดโอบไหล่กว้างเอียงศีรษะตอบรับจูบร้อนได้ดียิ่งขึ้น สมองมึนเบลอว่างเปล่า ปล่อยการกระทำปล่อยไปตามแล้วแต่อีกคนจะพาให้เป็น ดูดฟัดส่งเสียงจ้วบจ้าบหลุดออกมาเบาๆ
อี๋เอินลุกออกไป ปล่อยให้แฝดพี่ตักตวงความหอมหวานจากคนตัวเล็กอย่างไม่คิดจะห้ามปรามเพื่อไปตักอาหารใส่ชามที่เตรียมไว้ ถึงจะเป็นของง่ายๆอย่างต้มจืดแต่ก็คงดีกว่าสั่งอาหารฟาสฟูสมาทานกันอย่างทุกวัน ยกมาวางบนโต๊ะ จัดจาน หาน้ำหาแก้วมาเตรียมไว้ ราวกับว่ามาร์คไม่ได้กำลังกอดรัดแจ็คสันจนเสื้อผ้าคนตัวเล็กกว่ายับยู่อยู่ข้างๆ
พอเตรียมเสร็จก็เดินไปถอดผ้ากันเปื้อนแขวนไว้ ล้างมือ หูก็ได้ยินเสียงแหบพร่าของแจ็คสันอืออาเบาๆมาตามอากาศ สะบัดมือไล่หยดน้ำ หยิบผ้าเช็ดมือขึ้นซับเดินไปหาสองร่างที่ตอนนี้ย้ายจากเก้าอี้ไปบนพื้นครัว และกางเกงคนตัวเล็กกำลังจะโดนปลดออกไปในไม่ช้า ถ้าเขาไม่ได้สะกิดไหล่แฝดตัวเองด้วยสีหน้าปกติเสียก่อนนะ...
“ทานข้าวกันก่อนนะ”
“อ่ะ...”เหมือนแจ็คสันจะรู้สึกตัวก็ตอนได้ยินเสียงทุ้มของอี๋เอิน มือเล็กรีบผลักอกมาร์คออก ดึงเสื้อที่กองอยู่บนอกลง ใบหน้าน่ารักแดงก่ำ ลุกขึ้นมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมขณะส่งสายตาค้อนไปให้มาร์คที่เดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆ อี๋เอินนั่งอีกข้าง
แจ็คสันมองอาหารบนโต๊ะด้วยความแปลกใจ
“นี่พวกพี่ทำกันเองจริงอ่ะ?”
“จริงสิครับ”อี๋เอินตอบ ใช้ช้อนกลางตักแกงให้คนตัวเล็กเป็นการเชื้อเชิญ “อร่อยนะ ลองชิมดูสิ”
หัวกลมผงกขอบคุณ เริ่มทานอาหารกันเงียบๆ บรรยากาศแปลกๆจนแจ็คสันไม่รู้จะพูดอะไรขึ้นมาดี
“ให้ก่อนเหรอ?”
“ตามนั้นแหละ”
“ฮะ? พวกพี่พูดอะไรกัน?”แจ็คสันเงยหน้ามองสองคนบนโต๊ะงงๆ ไม่เข้าใจว่ากำลังพูดอะไรกัน อี๋เอินหันมายิ้มอบอุ่นและส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่มีอะไร ตาโตกระพริบปริบไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่แต่ก็ไม่รู้ว่าจะคาดคั้นไปทำไม บางทีสองคนนี้ก็สื่อสารกันด้วยสายตาและถามย้ำให้แน่ใจแบบนี้บ่อยจนเห็นเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
กว่าจะทานกันเสร็จ ล้างจาน เก็บของเหลือเข้าตู้เย็นก็สองทุ่มครึ่งไปแล้ว มาร์คไล่คนตัวเล็กไปอาบน้ำก่อน และบอกว่าเสื้อผ้าเตรียมไว้อยู่ในห้องน้ำแล้ว แจ็คสันพยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่าย เดินลอยๆเข้าห้องน้ำไป ไม่ได้มองหรอกว่าเสื้อผ้าที่ว่ามันอยู่ไหน ก็อาบน้ำจนเสร็จนู่นแหละถึงได้มองหา เห็นวางอยู่ในตะกร้าบนชั้นก็หยิบออกมาดู
“...”
อี๋เอินกับมาร์คใช้ห้องน้ำครัวอาบน้ำ พวกเขาเป็นแฝดกัน ดังนั้นเลยไม่ได้อายที่จะอาบด้วยกัน อาบเสร็จก็พากันมายืนนุ่งผ้าเช็ดตัวเหน็บเอวผืนเดียวเช็ดผมหน้าทีวี ดูข่าวประจำวันอย่างที่ทำทุกคืนก่อนนอน ดูจนข่าวสุดท้ายถึงแยกย้ายกันไปปิดไฟแล้วเดินกลับเข้าห้องนอนที่มีใครบางคนรออยู่ในนั้น
จู่ๆมุมปากก็ประตุกยกขึ้นเอง เมื่อเห็นเด็กตัวขาวนอนคว่ำเล่นโทรศัพท์รออยู่บนเตียงด้วยชุดที่พวกเขาเตรียมให้
เสื้อเนื้อบางโอเวอร์ไซต์ใหญ่กว่าตัวคนใส่หลายเท่าจนกลายเป็นกระโปรงเน้นสัดส่วนของร่างขาวโดยไม่ตั้งใจ (?) เพราะท่านอน ทำให้ภาพที่เห็นดูวาบหวิวกว่าที่จินตนาการไว้มากโข ไหล่มนขาวด้านหนึ่งโผล่จากคอเสื้อกว้าง หน้าท้องแอ่นลงแนบกับพื้นเตียงทำให้เห็นรูปทรงของเอวคอดและร่องสะโพกกลมได้รูปชัดเจน ปลายเสื้อตัวโคร่งคลุมถึงครึ่งต้นหาร่นสั้นลงไปอีกเพราะคนตัวเล็กงอขาสลับเล่นไปมา
แจ็คสันสะดุ้งเหลียวใบหน้ากลับไปมองข้อเท้าด้านซ้ายที่โดนมือเรียวของแฝดคนพี่จับเอาไว้ แฝดคนน้องปีนขึ้นมาคร่อมทับหลังเขา กดจูบร้อนบนหัวไหล่นอกร่มผ้าบาง พลันกระแสไฟฟ้าอ่อนๆก็แล่นไปทั่วร่าง รู้สึกมวนท้องขึ้นมาชั่วขณะ
“ทำไมไม่นอนล่ะครับ”ถามเสียงนุ่มทั้งที่มือเรียวกำลังสัมผัสลูบส่วนเว้าเหนือสะโพกเนิบนาบ จงใจปลุกเร้าร่างเล็กให้สั่นสะท้าน มือเล็กกำโทรศัพท์แน่นแต่ก็โดนมาร์คชิงเอามันไปวางไว้หัวเตียงแล้วสอดตัวเองเข้ามาใต้ร่างเขา ตอนนี้คนตัวเล็กเลยโดนประกบทั้งหน้าหลัง อี๋เอินคร่อมด้านบนสะโพกแนบชิดร่องเนินอวบอิ่มด้านล่าง ส่วนใบหน้ากลมก็วางเกยอยู่บนหน้าท้องแข็งของมาร์ค มือเรียวหยาบสอดเข้ามาเล่นกับเส้นผมนุ่ม ยกยิ้มได้ใจ
“รอ?”
แจ็คสันไม่ตอบ ริมฝีปากแดงเม้มเข้าหากัน หลบสายตาไม่อยากตอบคำถามใดๆให้ตัวเองอายไปมากกว่านี้ จริงๆรู้ตัวตั้งแต่เห็นชุดที่แฝดเตรียมไว้ให้แล้วว่าคืนนี้สองคนนั้นหวังจะเคลมเขาแหงๆ และแจ็คสันก็มีเวลาพอจะเดินออกมาหาชุดเปลี่ยนใหม่จนไปถึงการออกไปโวยวายอย่างทุกๆที รู้ด้วยซ้ำว่าที่แฝดอ้อยอิ่งไม่เข้ามาสักทีก็เพื่อให้เขาได้ตัดสินใจหนีหรือจะชิงหลับไปก่อนก็ยังได้…
แต่เขาก็เลือกจะใส่ชุดและนอนรอบนเตียง...
นี่มันเป็นคำตอบที่ชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดใดๆเสียอีก
“วันนี้เป็นเด็กดีจังน้า”อี๋เอินพึมพำชมข้างใบหูแดงเรื่อ ปลายจมูกโด่งไล้ผิวอ่อนหลังใบหูขาว สูดดมกลิ่นสบู่เดียวกับของตนเองเข้าเต็มปอด มือที่วางบนเอวลากลงสัมผัสกับสะโพกกลม กางนิ้วขยำเน้นๆไม่สนว่าเนื้อขาวจะเป็นรอยแดงหรือไม่ มืออีกข้างนวดคลึงหน้าอกและหน้าท้องแบนราบ มาร์คก็ใช่ว่าจะอยู่เฉยมือหนึ่งวนลูบแผ่นหลังบางเป็นวงกลม ส่วนอีกมือก็ฟอนเฟ้นต้นขาแน่น ปลุกอารมณ์หวามให้คนที่ไม่ยอมเปล่งเสียงอะไรเลยตั้งแต่พวกเขาเข้ามาในห้อง
ร่างตรงกลางสั่นเกร็งขึ้นมาทันทีที่ส่วนกลางลำตัวถูกหนึ่งในสองแฝดสัมผัสผ่านเนื้อผ้า หลุดเสียงครางแผ่วหวิว ใจจะขาดกับการปลุกเร้าไปทั่วทั้งร่างในคราวเดียว
แจ็คสันพยายามกลั้นเสียงครางทั้งที่แรงขับเคลื่อนในกายกำลังจุกอยู่ที่คอหอย ดวงตากลมเว้าวอนช้อนขึ้นสบกับมาร์คที่มองมาอยู่แล้ว ฟันกระต่ายขบริมฝีปากล่างชั่งใจชั่วครู่ เปล่งเสียงกระเส่าเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงฟังชัด
“Mark kiss me”
คณิตกับวิทย์แจ็คสันอาจจะอ่อน แต่ถ้าภาษาอังกฤษแจ็คสันหวังคนนี้ชนะขาด โดยเฉพาะการใช้สำเนียงผู้ดีร่วมกับน้ำเสียงแหบเซ็กซี่กระซิบเสียงเบาล่อลวงคนฟังให้หลงใหลจนไม่มีทางขึ้น
“Damm!!!”มาร์คสบถในลำคอ กระชากคางเล็กให้เงยหน้าขึ้น กระแทกริมฝีปากนุ่มนิ่มบนคลึงรุนแรงให้สมกับการยั่วเย้าของคนด้านใต้ แจ็คสันร้องอื้อตกใจแต่ก็เผยอปากต้อนรับมาร์คให้เข้ามากอบโกยภายใน ลิ้นเรียวเชยชิมสะเปะสะปะอยู่สักพักก็แตะกับปลายลิ้นเล็ก แรงดึงดูดมหาศาลนำพาให้ทั้งสองแลกลิ้นกันแนบแน่น เขี้ยวคมครูดเนื้ออ่อนด้านใน ส่งกลิ่นเลือดแฝงมากับรสจูบคลุ้งกระจาย แต่ก็ไม่ทำรสจูบดีกรีลดลง
“มาร์ค”
เจ้าของชื่อเอื้อมมือดึงลิ้นชักข้างเตียงออก ไม่ยอมผละออกจากริมฝีปากคู่สวย แต่ควานหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จนต้องจำยอมละจากปากสวยแสนหวานหอมชั่วคราว หยิบสิ่งที่แฝดคนน้องต้องการ โยนไปให้ส่งๆแล้วกลับมาจัดการกับกลีบปากสวยที่เผยอรอท่าไว้อยู่แล้วราวกับคนลงแดง
ขณะที่แจ็คสันกำลังสนใจรสจูบแสนเร่าร้อน อี๋เอินก็ได้รับสิ่งที่ตนต้องการ ถลกปลายเสื้อขึ้นกองเหนือสะโพกโดยไม่รีรอ กลืนน้ำลายลงคอมองร่องเนินเนื้อสวาทและปากทางสวรรค์ที่หลบซ่อนอยู่ใต้เนื้อกลมงอน ชายหนุ่มกรีดปลายนิ้วเรียวลงบนส่วนท้ายของร่องสันหลัง แล่นเข้าผ่านช่องแคบระหว่างภูเขาเพื่อเดินทางไปหาปากถ้ำที่ขมิบถี่ราวกับกำลังเรียกร้องให้เข้าไป อี๋เอินกัดฝาขวดเทน้ำเหนียวลงอาบทั่วก้อนกลมและผ้าปูที่นอนบางส่วน มองฝ่ามือเรียวของพี่แฝดที่กระดิกนิ้วบอกให้เขาส่งขวดที่เหลือน้ำอีกครึ่งหนึ่งไปให้ จากนั้นมาร์คก็บีบราดไปทั่วทั้งแผ่นหลังบาง เนื้อผ้าเปียกชื้นแนบไปกับผิวขาวแดงเรื่อเซ็กซี่ขึ้นไปอีกเท่าตัว
“เยี่ยม”อี๋เอินกระตุกยิ้มพอใจ ใช้นิ้วชี้และกลางปาดน้ำเหนียวที่คาบนร่องเนื้อลงไปทารอบปากทาง ร่างขาวสั่นริกเพราะรู้ว่าบางสิ่งกำลังจะถูกนำเข้าไปในกาย
“อ่ะ”คนตรงกลางหลุดเสียงแผ่วเบาและอาจจะร้องลั่นหากไม่ติดริมฝีปากอีกคู่ สะโพกเจ็บแล่นแปลบขึ้นมาถึงกลางหลัง ภายในเขาบีบรัดนิ้วที่ไม่ใช่เพียงหนึ่งแต่มีถึงสอง...อี๋เอินดันเข้ามาทีเดียวถึงสองนิ้ว ไม่แปลกเลยที่เขาจะเจ็บขนาดนี้
“อะ โอย พี่อี้...อึก เจ็บ”ร้องบอกเสียงพร่า เหลือบมองไปด้านหลังด้วยความอยากรู้ก่อนจะเบิกตาโพล่งเมื่อเห็นมืออีกข้างของคนใต้ร่างเขากำลังแทรกอีกสองนิ้วสมทบตามเข้าไป
“อ๊า!!! ไอ้!...”เจ็บจนร้องไม่ออก แนบหน้าหายใจสั่นๆบนหน้าท้องแข็งเกร็งเพราะแรงอารมณ์
สี่นิ้วในร่างเขา...นี่พวกพี่แกรีบมากรึยังไงวะ!!!
มาร์คและอี๋เอินต่างคนต่างขยับเลื่อนนิ้วขยายช่องทางรัดแน่นของคนตัวเล็กที่กัดปากตัวสั่นหงึกๆอยู่ตรงกลาง รู้ว่าทำแบบนี้มันทำให้แจ็คสันเจ็บแต่พวกเขาก็ไม่ไหวจะรอแล้วเช่นกัน ไม่นานคนรักของพวกเขาก็พร้อมที่จะรองรับศึกใหญ่แล้ว
มาร์คดึงใบหน้าน่ารักมอบจูบร้อนเบี่ยงเบนความสนใจจากอี๋เอินที่กำลังจับเนินนิ่มแยกออกจากกัน จ่อความต้องการอันร้อนรุ่มบนปากทางเข้า และจับมันสอดแทรกเข้าไปหมดในครั้งเดียว
“อึก!”แจ็คสันช็อกตัวเกร็ง จุกจนร้องไม่ออก หยาดน้ำตาคลออยู่ที่หางตาตก ปลายนิ้วเล็กจิกต้นขามาร์คแน่นเพื่อระบายความอึดอัด
ต้วนคนน้องแช่รอจังหวะให้ช่องทางร้อนได้คลายตัว มือเรียวนวดเฟ้นหน้าอกนิ่มและตะโบมจูบแผ่นหลังเล็ก ส่วนมาร์คก็รูดรั้งส่วนกลางของคนรักเป็นจังหวะเนิบนาบ พยายามช่วยให้แจ็คสันชินให้ได้เร็วที่สุด
“you OK?”อี๋เอินถามด้วยความเป็นห่วง
“Ah...YIEN”
“หืม?”คนด้านหลังก้มหน้าลงไปหาคนตัวเล็กที่กระซิบเสียงอ่อนจนแทบไม่ได้ยิน ดวงตากลมหรี่ปรือดูเย้ายวน
“Fuck me”
สติของอี๋เอินเหมือนถูกคำนั้นเด็ดหายไปจากสมอง สะโพกแกร่งตบเข้าหาร่างขาว ดันส่วนร้อนเข้าลึกมิดด้าม แจ็คสันร้องลั่น ใบหน้าชนกับหน้าท้องแข็งของมาร์คเข้าเต็มๆ วินาทีนี้ความอ่อนโยนอย่างทุกครั้งถูกเก็บหายลงไปก่อนเพื่อลงโทษเด็กขี้ยั่วที่ปั่นหัวพวกเขามาเกือบทั้งวัน ชายหนุ่มสอดร่างเข้าถี่รัว สูดปากเสียวกระสันเพราะส่วนกลางลำตัวถูกแจ็คสันบีบรัดจนแทบขยับไม่ได้ ทั้งยังขมิบรัดให้เสียจังหวะเล่นๆอีกต่างหาก
“อู้ว อือ”
คนตัวเล็กร้องครางเสียงพร่าพึงพอใจกับสัมผัสรุนแรงด้านหลัง มือเล็กวางแปะบนหน้าท้องแกร่งของคนหน้า ปลายเล็บสั้นครูดลงไปเบาๆ ปลายลิ้นแดงตวัดเลียริมฝีปากล่าง กระตุกยิ้มแสนซนที่ทำเอาคนมองแทบขาดสติ
“อย่ายั่วเชียวนะแจ็คสัน...”มาร์คกลั่นเสียงเตือนคนตัวเล็กที่ทำไม่เลิก สะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ลงมือรุนแรง แต่เขาจะทนได้สักเท่าไหร่ ในเมื่อแฝดน้องของเขาที่ว่าใจเย็นยังสติหลุดได้ขนาดนี้ และแจ็คสันก็ทำได้จริงๆ ด้วยการพรมจูบบนหน้าท้องเขา ลากลิ้นเล่นกับลอนคลื่นทีละลูกๆ ดูดรั้งสร้างรอยแดงใต้สะดือไปหนึ่งนิ้วใกล้กับส่วนนั้นจนมาร์คแทบจะขาดใจเอาให้ได้
“แจ็คสัน...”
“งืม...ตรงนี้พี่แข็งขนาดนี้แล้วนา”ไม่สนใจแถมซ้ำยังปลดผ้าเช็ดตัวเขาออก ปลดปล่อยมาร์คน้อยชูชันเฉียดแก้มนิ่มไปนิดเดียว มือเล็กกอบกุมมันไว้ทั้งสองมือ และทำในสิ่งที่มาร์คไม่คิดว่าแจ็คสันจะกล้าทำ
“อึก!!!”
ส่วนหัวผลุบเข้าไปในโพรงปากร้อน ริมฝีปากหยุดอยู่แค่ครึ่งลำ ผนังนิ่มหยุ่นโอบความเป็นชายเข้าแนบแน่นจนแทบไม่มีช่องว่างเหลือ และได้ยินจังหวะเส้นเลือดเต้นตุบ ปลายลิ้นวนรอบส่วนมนโค้งระรัว มาร์คครางเสียงต่ำมือเรียวสอดเข้าใต้เส้นผมนิ่มเผลอกดศีรษะเล็กเข้ามาใกล้ แจ็คสันร้องท้วงในลำคอดึงหน้าออกเล็กน้อยเพราะมันเข้าไปลึกจนแทบอ้วก แต่ก็ผละออกไปได้นิดเดียวเพราะแรงส่งของอี๋เอินด้านหลังดันตัวเขาให้กลืนส่วนกลางของมาร์คเข้าลึกกว่าเดิม ศีรษะกลมโยกขึ้นลงรูดรั้งบรรเทาเอาใจให้แฝดคนพี่ ใช้มือเล็กช่วยรูดส่วนที่เข้าไปไม่หมด
อี๋เอินรักษาจังหวะไม่ให้ตัวเองรุนแรงกับแจ็คสันจนเกินไปเพราะเป็นห่วงว่าคนรักจะบาดเจ็บ หน้าท้องเบียดเสียดก้นนุ่มส่งเสียงตับๆสุดจะรู้สึกดี คนรักของเขาตัวนุ่มนิ่มบีบจับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือ แม้จะมีเสื้อผืนบางเป็นตัวกั้นแต่ก็ไม่ได้ลดเสน่ห์ของร่างเล็กลงแม้แต่น้อย กลับกันแล้วการที่พวกเขากำลังย่ำยีอีกฝ่ายทั้งที่ยังมีเสื้อผ้าหลุดลุ่ยติดร่างมันดูอีโรติกมากกว่าเนื้อแนบเนื้อเป็นไหนๆ
“อือ กากา”
ผนังเนื้อขมิบถี่ขึ้นบ่งบอกว่าแจ็คสันใกล้จะถึงสวรรค์เข้าไปทุกที…
“อือ! พี่ พี่อี้”
แจ็คสันผละออกจากมาร์คหันมาส่งสายตาตัดพ้อเขา มือเล็กจับข้อมือด้านซ้ายที่ปิดส่วนหัวของลำแท่งบวมเป่งพร้อมจะปลดปล่อยเต็มที อี๋เอินยิ้ม ก้มลงจูบเนินไหล่เล็กแดงเรื่อ “อย่าเพิ่งเสร็จสิคนดี” พร้อมกันนั้นก็โยกสะโพกบดเบียดเข้าออกเร่งจังหวะเร็วขึ้นเสียร่างเล็กสั่นคลอน ร้องครางหวีดเสียวกระสัน
“อ่า พี่อี้ ฮ่า เสียว”
“อืม อย่าหยุดสิ”มาร์คเอ่ยพลางจับมือเล็กให้ประสบส่วนที่บวมเป่งไม่แพ้กัน คนตัวเล็กที่โดนราคะเข้าครอบงำมองมันตาเชื่อมวาว แลบลิ้นสัมผัสส่วนปลายและกลืนกินมันเข้าไปเกือบหมดลำ โยกศีรษะถี่รัวแทบจะเป็นจังหวะเดียวกันกับที่อี๋เอินร่อนสะโพกเข้าหาตัวเอง
“อ้า!!”มาร์คครางต่ำจับศีรษะเล็กให้อยู่นิ่งรัวสะโพกเข้าหาโพรงปากร้อนถี่ยิบ กระตุกกายปลดปล่อยเต็มปากเล็ก
“อื้อ!!!”แจ็คสันตีมาร์คเข้าเต็มแรงเพราะตกใจแรงอัดที่พุ่งใส่ใกล้ลิ้นไก่แถมปล่อยออกมาเยอะจนทะลักล้นออกจากปาก บังคับให้คนตัวเล็กต้องกลืนน้ำคาวลงคอ เวลาเดียวกันกับที่อี๋เอินกระแทกกายเข้ามาครั้งสุดท้าย หูตาพร่ามัวรู้สึกถึงน้ำอุ่นร้อนถูกเติมเต็มเข้ามาในร่าง อี๋เอินปล่อยมือออกจากส่วนปลายรูดรั้งเน้นๆสองสามครั้งแจ็คสันก็ปลดปล่อยน้ำคาวพุ่งเลอะคนด้านใต้
“แฮ่ก”คนตัวเล็กฟุบหน้าหมดแรงบนท่อนขามาร์ค รู้สึกเหนื่อยจนแทบไม่อยากขยับไปไหน ผิดกับแฝดที่พอได้ครั้งหนึ่งแล้วยิ่งคึกหนัก
ร่างขาวอ่อนปวกเปียกถูกพลิกนอนหงาย ศีรษะกลมหนุนตักอี๋เอินที่ก้มลงมามอบจูบอ่อนโยนให้อย่างไม่กะให้หายใจหายคอ ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดรู้ความแม้จะเหนื่อยแทบขาดใจ แฝดต้วนคนพี่หยัดตัวคุกเข่า พาดขาเล็กลงบนบ่า ขยับตัวเข้าไปชิด สะโพกกลมลอยขึ้นมาเหนือฟูกนุ่มถูกจับประคองด้วยสองมือเรียวและต้นขาแข็งแรง
“แจ็คสัน นายเป็นปีศาจใช่ไหม?”
คนโดนกล่าวหาเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ พลันหัวใจก็เต้นผิดจังหวะ แก้มแดงลามไปถึงหู มองตามริมฝีปากเรียวที่กัดดูดรั้งฝากฝังรอยรักไว้บนสะโพกและเชิงกรานเล็ก พรมจูบวนเวียนอยู่บนต้นขาเนียนนุ่มด้วยความหลงใหล จุมพิตเบาๆขึ้นมาที่หัวเข่าแดง กัดน่องขาวนิ่มด้วยความหมั่นเขี้ยว จูบเข้าเท้าเล็กและจบสุดท้ายที่ปลายนิ้วเท้า เพื่อแสดงว่าเขารักทุกสัดส่วนของคนตัวเล็กและไม่คิดรังเกียจเลยแม้แต่นิด
“พวกพี่ถึงได้หลงใหลนายจนจะคลั่งตายได้ขนาดนี้”
มาร์คจับข้อเท้าเล็กดึงขึ้นสูงและแยกออกกว้าง เสียงป๊อปดังขึ้นเบาๆจากช่องทางฉ่ำ หลักฐานของอี๋เอินค่อยๆไหลลงมาตามร่องลึก
...อีโรติกเป็นบ้า...
มือเรียวกระชับต้นขาขาวไว้มั่น
สวบ!
มาร์คสอดแทรกตัวตนเข้าไปในช่องทางชุ่มโชกครั้งเดียวจนมิดด้าม ส่วนหัวชนกับผนังด้านในเข้าไปเต็มๆ
“อื้อ!!!”แจ็คสันเสียดท้องหยัดกายกระตุกทรมานในวินาทีนั้นและได้รับการปลอบประโลมจากอี๋เอินในทันทีด้วยจูบอ่อนโยนและยอกอกที่ถูกเอ็นดู และแม้จะผ่านมาแล้วหนึ่งรอบแต่ร่างกายของแจ็คสันก็ยังไม่คุ้นชินขนาดที่ว่าจะให้กระแทกตุบตับเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้า ต้วนคนพี่เลยต้องแช่หน่วงจังหวะอยู่ก่อนสักพักถึงจะเริ่มขยับได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
“ฮ่า พี่มาร์ค อือ”แจ็คสันบิดกายเสียวกระสัน สั่นซาบซ่านไปทั้งร่าง ปล่อยร่างกายให้ไหวเอนไปตามจังหวะที่อีกฝ่ายชักนำ
“กากา”อี๋เอินเรียกคนตัวเล็กให้หันไปมองตนและกดจูบบนหน้าผากชื้นเหงื่อแผ่วเบา “ช่วยพี่ได้ไหม?”
มือเรียวกุมมือเล็กไปวางบนส่วนนั้นของตัวเองอีกครั้ง แจ็คสันหอบหายใจมองหน้าแฝดคนน้องพลางยิ้มหวานล่อลวงชายหนุ่มให้ก้มหน้าลงมามอบจูบอ่อนโยน เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็เอียงใบหน้าเข้าหาท่อนเอ็นที่เติบโตเสียจนใกล้จะเต็มวัย
“มันใหญ่ได้มากกว่านี้”คนตัวเล็กพึมพำ เงยหน้ามองอี๋เอินที่จ้องมองเขาอยู่แล้ว “ผมเมื่อยปาก...แต่จะทำให้ก็ได้ แค่ตื้นๆนะ”
“แค่นั้นก็เกินพอแล้วครับ”แฝดต้วนคนน้องยิ้ม ปัดปอยผมชื้นขึ้นทัดหูแดงก่ำ
มือเล็กรูดรั้งท่อนเอ็นในมือขึ้นลงเป็นจังหวะ แต่ก็ไม่ลืมขมิบช่องทางร้อนให้มาร์คได้คำรามเสียงต่ำเพราะความเสียวกระสัน
แฝดคนพี่เพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้นทันทีหลังจากนั้น ภายในกายของแจ็คสันร้อนผ่าวและแน่นหนั่น แม้จะโดนทำไปแล้วรอบหนึ่งแต่ก็ยังแน่นจนแทบขยับไม่ได้ ถึงแม้จะลิ้มรสชมชิมสักกี่ครั้งแต่คนรักของพวกเขาก็มักจะทำให้ประหลาดใจและหลงใหลได้เสมอ มาร์คแทบจะเป็นบ้ากับช่องทางขยันขมิบถี่และปฏิกิริยาชวนให้ทำรุนแรงของร่างเล็ก แรงขับเคลื่อนในกายพุ่งทะลุปรอท จับท่อนขาเล็กขึ้นสูงรวบเข้าหากันไปพาดไว้ที่ไหล่ด้านเดียว หยัดสะโพกแนบเนินเนื้อนิ่ม ท่านี้ทำให้มันเข้าลึกไปอีกและโดนจุดเร้าอารมณ์มากกว่าท่าเมื่อกี้
แจ็คสันร้องครางเสียงอ่อนแหบพร่าเร้าอารมณ์ เร่งจังหวะรักให้ลึกล้ำและหนักหน่วง หน้าท้องเป็นลอนกระทบต้นขานุ่มนิ่มจนร่างเล็กสั่นคลอนแคลน
“อือ พี่...พี่มาร์ค...อ้า ผมทำให้พี่อี้ไม่ได้”
ร้องบอกตะกุกตะกักกว่าจะจบประโยคได้ มาร์คผ่อนแรงลงเล็กน้อยเป็นโอกาสให้แจ็คสันยันกายส่วนบนพลิกนอนตะแคงข้าง มือเล็กรูดรั้งท่อนเอ็นในมือสามสามครั้งแล้วถึงละเลงลิ้นบนส่วนปลายให้คนที่รออยู่อีกคน อี๋เอินครางเสียงต่ำเสียวกระสัน ท่อนขาที่คนตัวเล็กหนุนอยู่เกร็งขึ้นมาทันใด
“อืม กากา ดีครับ”ต้วนคนน้องเพ้อครางพอใจกับสัมผัสที่ร่างเล็กปรนเปรอให้
ตากลมเหลือบมองปฏิกิริยาของชายหนุ่ม มือเล็กรูดขึ้นลงถี่ๆ ริมฝีปากอิ่มจูบส่วนปลายเบาๆก่อนอ้าปากครอบส่วนหัวเอาไว้ ปากเขายังรู้สึกระบมกับแรงกระแทกของมาร์คอยู่เลยไม่อยากกลืนเข้าไปลึกกว่านี้ แต่ก็ไม่อยากให้อี๋เอินน้อยใจ เลย ใช้มือประคองส่วนแข็งร้อนไว้ ใช้ลิ้นค่อยๆลากไล้ตามความยาวขึ้นลงช้าๆ
วิธีต่าง ถ้าให้ผลเหมือนกันมันก็ใช้ได้...
“อืออ แจ็คสัน”
มาร์คสูดปากรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังจะถึงฝั่งฝัน จับส่วนอ่อนไหวของแจ็คสันรูดช่วยให้ไปถึงพร้อมกัน
“พร้อมกันนะ”
“อือ อ๊า พี่มาร์ค พี่อี้”แจ็คสันหวีดร้อง พลิกนอนหงาย มือด้านหนึ่งปรนเปรอให้อี๋เอิน อีกมือจิกกับฟูกนอนยับยู่ หยัดหน้าอกขึ้น รู้สึกดีจนเกินจะทนไหว ยกขาด้านหนึ่งขึ้นพาดบ่ากว้างของมาร์ค สะโพกนิ่มวางบนหน้าขาของต้วนคนพี่ ส่ายสะโพกร่อนตอบรับทุกจังหวะสอดประสาน อี๋เอินร้องครางต่ำอย่างสุดจะทนกับความยั่วยวนของคนรัก ก้มจุมพิตดูดกลืนกลีบปากอิ่ม เลื่อนมือไปรูดรั้งส่วนกลางบวมเป่ง
“เสร็จ! จะเสร็จ อ่ะ อ๊า!!!”ส่วนอ่อนไหวในมืออี๋เอินปล่อยหยาดสีมุกหยดพราวลงบนผิวกายขาว เวลาเดียวกันกับที่อี๋เอินกระตุกปล่อยน้ำรักพุ่งชโลมหน้าอกนุ่ม ส่วนมาร์คจับขาเล็กดึงเข่าพาดบ่า กระแทกกายเข้าลึกปลอดปล่อยน้ำรักเข้าชโลมเติมเต็ม แช่ร่างกระตุกอีกหลายครั้ง ทิ้งหลักฐานไว้ภายในให้หมดสิ้นแล้วจึงค่อยๆถอนตัวออก
แจ็คสันทิ้งตัวลงนอนหมดแรง ทันที่เปลือกตาปิดสติก็ชัทดาวน์ตัวเอง หลุดเข้าห้วงนิทราในที่สุด...
แจ็คสันรู้ตัวอีกทีก็เที่ยงของอีกวัน พอได้สติปุ๊บความปวดก็แล่นเข้าหาปั๊บ ปวดเนื้อปวดตัว (ปวดปาก) ร้าวไปหมดทั้งร่าง จะลุกก็ยากจะเดินก็ยาก หัวยุ่งหัวฟูลุกขึ้นนั่งบนเตียงนุ่ม ก้มมองตัวเองในชุดเสื้อยืดดำกางเกงบอกเซอร์สีเดียวกัน หันมองซ้ายขวาไม่เห็นเจ้าของห้อง เงี่ยหูฟังก็ได้ยินเสียงฝีเท้าสองคู่เดินเข้ามาใกล้
“ตื่นแล้วเหรอครับ กินข้าวก่อนนะ”อี๋เอินถือชามข้าวเข้ามาหา
มันเป็นสเต็ปสำหรับพวกผมไปแล้ว กับการโถมมีอะไรกันอย่างหนักหน่วง ตื่นขึ้นถ้าไม่สบายก็ปวดเนื้อปวดตัว จะไม่เห็นแฝดในห้อง แต่อีกสักพักก็จะเปิดประตูเข้ามาพร้อมด้วยโจ๊กหมู น้ำขวดใหญ่ ยาแก้ไข้ แก้อักเสพและยาแก้ปวด
คงเห็นว่าผมทำหน้านิ่งมั้ง ถึงได้รีบรี่เข้ามาประกบซ้ายขวา อ้อนขอโทษกันใหญ่ ผมหลุดยิ้มและส่ายหน้า
“ไม่ได้โกรธสักหน่อย”
“อ้าว เห็นทำหน้านิ่ง”มาร์คเลิกคิ้วเหมือนไม่เชื่อ
“ไม่ได้โกรธ เชื่อผมสิ”บอกย้ำ วาดแขนรั้งคอมาร์คกับอี๋เอินเข้ามาใกล้สลับหอมแก้มพวกเขาซ้ายขวา พวกแฝดตาโตกันใหญ่ ทำหน้าตื่นตกใจเหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด
...แค่ผมเริ่มก่อนนี้มันแปลกขนาดนั้นเลยรึไง...
“กากาสบายจริงนะครับ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”อี๋เอินมีน้ำเสียงเป็นกังวล
“แจ็คสัน บอกพี่มา...ไม่ได้มีเรื่องอะไรใช่ไหม”มาร์คก็เป็นกับเขาไปอีกคน ทั้งสองมองเขาด้วยสายตาแห่งความเป็นห่วง ผมส่ายหน้าอีกรอบ คราวนี้หัวเราะขำ แต่พอขำแล้วมันก็เจ็บปากอ่ะ ก็เลยรีบหยุดและอธิบายไม่ให้เข้าใจผิดกันไปซะหมด
“ที่หน้านิ่ง” ชี้หน้าตัวเอง “เพราะเจ็บปาก” เลื่อนมาจิ้มแก้ม “ตั้งแต่เมื่อคืน” แล้วหันไปตีหน้าท้องมาร์คเข้าไปเต็มๆโทษฐานที่เป็นต้นเหตุ
“แล้ว...เรื่องเมื่อคืน?”
อี๋เอินคงอยากถามมั้งว่าทำไมผมถึงยอมง่ายนักทั้งที่ปกติไม่ยอมให้พวกเขารังแกง่ายๆ และคงจะคิดเรื่องร้ายๆไปอีกนานาประการเลยแหละถ้าผมยังเงียบอยู่แบบนี้
...ที่เงียบนี่เพราะเขินหรอกนะ โธ่...
“คิดถึง...”ผมยิ้มกว้างมองหน้าพี่แฝดสลับไปมา “นานๆเจอกันที แถมพี่ยังอุตส่าห์ตั้งใจสอน ผมเห็นความพยายาม...ก็เลยให้รางวัล...ไม่ดีเหรอ”สองประโยคสุดท้ายจู่ๆความร้องก็แผ่ซ่านขึ้นหน้าจนต้องก้มหน้างุดหนีสายตาพราวระยับของพวกแฝด ก่อนที่ผมจะโดนหอมแก้มคนละด้านจนแก้มยุบหมด ยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองป้อยๆ
“แฟนใครนะ น่ารักที่สุดเลย”มาร์คยิ้มกว้างจนหน้ายับ บางทีก็อยากให้พี่เก๊กขรึมต่อไปนั่นแหละ ไม่ต้องยิ้มยับขนาดนี้ก็ได้
“แฟนพี่มาร์ค”
“พี่มาร์คคนเดียวเหรอครับ”อี๋เอินวางคางบนไหล่ซ้ายโอบเอวผมเข้าไปกอดอ้อนพลางทำตาปริบ
“แฟนพี่อี้ด้วย”
“น่ารักขนาดนี้ พวกพี่รักตายเลย”มาร์คประกบอีกด้าน ทำแบบเดียวกันกับพี่อี้ชนิดแทบจะคอปปี้เพลส
“อืม รักเหมือนกัน”ผมอมยิ้มแก้มแดงก่ำ
เง้อ เขินจนเก็บอาการไม่อยู่แล้วอ่ะ แย่ล่ะสิ -///////-
แฝดเห็นอาการผมก็คงจะเอ็นดูของพี่แกแหละ ถึงได้ฟัดปากฟัดคอผมกันอิรุงตุงนังไปหมด กว่าจะยันหน้าออกไปได้ก็เกือบแย่เหมือนกัน
...อันตรายๆ...
“น่ารักขนาดนี้พี่ไม่ยอมให้ไปไกลตาหรอกนะ”
“ถ้าไม่อยากให้ไปก็ติวให้ผมได้ทุนสิ”
“เรื่องนั้นทำแน่...”
“แต่ตอนนี้ขอติวพิเศษก่อนได้ไหมครับ?”
“ติวพิเศษ ติวอะไรอ่ะ”
“ติววิชาแจ็คสันหวัง พวกพี่ยังไม่แตกฉาน”
“เมื่อคืนยังสำรวจไม่ครบเลย ขอติวอีกรอบนะครับ”
“เอ๊ะ...ม่ายยยยยย!!!!”
กว่าจะติวเสร็จ แจ็คสันหวังคนนี้จะรอดไปสอบไหมครับ ให้คำตอบผมที T_T
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น