[SF] Pet Human IV (MarkSon)
Pet
Human IV
Mark
X Jackson
มาร์ครู้สึกว่าช่วงนี้เจ้าลูกหมีน้อยของเขาเปลี่ยนไป...
เขาอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้...แต่ก็เหมือนจะเปลี่ยนไปจริงๆ...
กิจวัตรประจำวันยามเช้าของมาร์คคือการตื่นเช้าขึ้นมาทำอาหาร
อาบน้ำ เตรียมตัวออกไปทำงาน ซึ่งก็จะตื่นขึ้นมาเจอหน้าลูกหมีขี้เซานอนหลับปุ๋ยกรนฟี้อยู่ข้างๆตัวเสมอ
อ้อ มาร์คให้แจ็คสันกลับมานอนห้องใหญ่เหมือนเดิมแล้วเพราะเจ้าลูกหมีนอนไม่หลับ
พาลงอแงทำตัวเป็นเด็กไม่ดีไม่ยอมกินข้าวอยู่พักใหญ่
คนเป็นเจ้าของก็ขี้เกียจพูดตะล่อมเลยให้ย้ายมานอนห้องเดิมเสียให้หมดเรื่อง
(จริงๆมาร์คก็รู้สึกเหงาๆมืออยู่เหมือนกัน
ที่ไม่มีหมอนข้างนุ่มๆอุ่นๆให้กอดข้างกายหลายวัน) ...ก็นั่นแหละ
แต่ที่ว่าแปลกเพราะช่วงสองสามวันมานี้เขาตื่นมาแล้วไม่เจอเจ้าลูกหมีน่ะสิ
วันนี้ก็เหมือนกัน...
แขนยาววาดไปด้านข้างหวังจะดึงมวลความอบอุ่นนุ่มนิ่มข้างกายมากอดแต่ก็กอดได้แต่อากาศ
มาร์คปรือตาหน้าหยีมึนงง หันซ้ายขวามองหาแจ็คสันแต่ก็ไม่เจอ ตัดใจลุกขึ้นจากเตียง
ขยี้ผมจนฟูเรียกสติให้กลับมา
“แจ็คสัน!”
เงียบ...ไม่มีสัญญาณตอบรับ
มาร์คขมวดคิ้วมุ่นก้าวลงจากเตียง
ปล่อยให้มันจัดการเก็บตัวเอง เดินออกไปข้างนอก มองไปทางไหนก็ไม่เห็นวี่แววของ Pet
Human ตัวเล็ก
ยกข้อมือที่ปรากฏนาฬิกาข้อมือฟิลม์บางใสขยับขึ้นครั้งหนึ่งก็ปรากฏจุดสีแดงบนแผนที่
บ่งบอกให้รู้ว่าคนที่เขาตามหาอยู่ไกลจากเขาไม่เกินสามก้าว
“แจ็คสัน”
“...”
เรียกอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ตอบรับกลับมา
มาร์คเลยเดินไปชิดเคาน์เตอร์ครัว ยืดตัวส่วนบนมองร่างที่นั่งคุดคู้เป็นก้อนกลมๆอยู่มุมห้อง
“ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น”
แจ็คสันสะดุ้งเฮือก
หูกลมดีดตั้งรู้ตัว ขดตัวแน่นขึ้นกว่าเดิมยิ่งทำให้มาร์ครู้สึกผิดสังเกต
กำลังจะอ้อมเคาน์เตอร์เดินเข้าไปใกล้ หมีตัวเล็กก็ลุกขึ้นและวิ่งพรวดพราดผ่านหน้าชายหนุ่มไปอย่างเร่งรีบ
มาร์คที่กำลังตกใจก็คว้าไว้ไม่ทัน รู้ตัวอีกทีประตูห้องนอนก็ดังปังใหญ่
...อะไรวะ?...
ชายหนุ่มเดินไปเคาะประตูรอดูสถานการณ์ทั้งที่ความจริงเขาสามารถเปิดประตูเข้าไปตอนนี้เลยก็ได้
“แจ็คสัน
เป็นอะไร?”
“เค้าไม่เป็นไร”เสียงแหบหวานตอบกลับมาสั้นๆ
ยิ่งทำให้มาร์คสงสัยหนักขึ้นไปอีก ไม่มีอะไรแต่วิ่งหนีเขาแบบนี้เหรอ
แถมยังไม่เข้ามาอ้อนมาออเซาะใกล้ๆตั้งแต่สองสามวันก่อนแล้วด้วย
...หรือจะป่วย?...
พยักหน้ากับตัวเองอย่างคิดว่าไม่ผิดแน่
เพราะแจ็คสันไม่เคยเป็นแบบนี้ ถ้าป่วยก็ต้องรักษาสินะ
แต่ประเด็นคือมาร์คไม่รู้วิธีรักษา Pet Human ที่ป่วยน่ะสิ
กลอกตาคิดไปมาราวสามรอบครึ่ง
เดินไปเคาะประตูเรียกคนในห้องให้ออกมา
“แจ็คสัน
ออกมานี่”
“...”
“ฉันสั่งให้ออกมา”
“แต่...”
“ออกมา ก่อนที่ฉันจะเข้าไปลงโทษนายเอง”
เจ้าลูกหมีเงียบไปพักใหญ่ๆ
มีมาร์คยืนรออยู่หน้าประตูอย่างรู้ดีว่ายังไงแจ็คสันก็ต้องมาเปิดให้
คิดไม่ทันจะจบประตูห้องก็เปิดออก แจ็คสันยืนก้มหน้ากอดมาร์ตี้แน่นอยู่ข้างหน้าไม่ยอมสบตากับเขา
“เป็นอะไร
ไม่สบายรึเปล่า?”ถามพลางจับคางเล็กให้เงยขึ้นแต่ก็ต้องตกใจเมื่อแจ็คสันปัดมือเขาออกดังเพี๊ยะ
ตกใจชั่วครู่ก่อนจะรู้สึกโมโหขึ้นมา
เหวี่ยงหมัดชกประตูเสียงดังกึงใหญ่จนร่างเล็กตรงหน้าสะดุ้งโหยงแต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองเหมือนเดิม
“ไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ
มานี่!”
บีบข้อมือเล็กกระชากดึงออกมา
หมีตัวเล็กร้องโอ๊ยลั่นพยายามยื้อตัวไว้แต่ก็สู้แรงคนโมโหร้ายไม่ไหว
ถลาตามแรงเหวี่ยงล้มลงบนพื้นข้างเตียง
มือเรียวกดปุ่มเล็กๆบนปลอกคอเปิดคำสั่งพิเศษสำหรับ Pet Human ของตน
“วันนี้ฉันไม่กลับบ้าน
อยู่ในนี้ตามสบายแล้วกัน”
“มะ มาร์ค”
แต่คนเป็นเจ้าของก็ไม่ฟัง
หันหลังเดินออกไปปิดประตูเปิดคำสั่งล็อกห้องปิดตาย ออกไปทำงานโดยไม่คิดจะสนใจเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของคนในห้องแม้แต่น้อย...
ตึง!
“พี่เป็นบ้าอะไรวะ”ยูคยอมถึงกับต้องเอ่ยปากถามเจ้าพ่อพระคุณรุ่นพี่ที่เดินเข้ามาก็โยนเอกสารลงโต๊ะโครมใหญ่สะเทือนไปทั้งห้อง
มาร์คชักสีหน้าหงุดหงิด ไม่ตอบคำถามรุ่นน้องตัวโย่ง
เดินไปหยิบเสื้อและเอกสารตรวจสภาพสินค้า
เดินเข้าไปในห้องเก็บสินค้าและขังตัวอยู่ในนั้นทั้งวัน ใครไปถามก็ไม่ตอบ
จนยูคยอมและคนอื่นๆเลิกยุ่งไปซะเฉยๆ
ในตอนบ่ายที่ใกล้เลิกงานจินยองก็เข้ามาเยี่ยมเยียน
ไม่ใช่เพราะชายหนุ่มทำงานอยู่ที่นี่อะไรหรอกนะ ก็แค่เบื่อ ก็เลยมาเดินเล่น
(นั่นเป็นเหตุผลที่ได้ยินจากคนๆนี้มานับล้านรอบแล้วก็ต้องแบะปากให้ทุกรอบ)
“อ้าว
แล้วคุณมาร์คล่ะครับ?”จินยองถามหาคนที่มักจะสิงอยู่ในห้องนี้เสมอ
“หน้าหักเป็นปลาทูอยู่ในห้องเก็บสินค้าโน่นน่ะพี่
แต่เดี๋ยวไปเรียกมาให้”ยูคยอมบอก ขับเคลื่อนตัวเองด้วยเก้าอี้ล้อหมุนไปหยุดอยู่หน้าประตูโกดังข้างห้องทำงาน
กดรหัสเปิด ถีบพื้นให้เก้าอี้เคลื่อนตัวเองไปตามทางด้วยความขี้เกียจ
ยกมือทักทายพี่ชายหน้านิ่งที่เดินออกมาจากห้องตรวจมนุษย์ครึ่งฮิปโปพอดี
“พี่จินยองถามหาพี่แหนะ”
“หืม?”มาร์คเลิกคิ้วสงสัย
วางงานที่ทำอยู่เป็นรอบที่ร้อยเพราะไม่อยากคิดเรื่องเจ้าลูกหมีลง
อุตส่าห์พยายามหาอะไรทำเพื่อไม่ให้คิด
แต่เสียงสะอื้นของเด็กนั่นก็ดังก้องอยู่ในหัวอย่างน่ารำคาญ
ส่ายศีรษะไล่ความเมื่อยล้า เดินตามรถเข็นของยูคยอมไป มองแล้วก็เกิดหมั่นไส้ความขี้เกียจสันหลังยาว
ยกเท้าประทับผนักเก้าอี้ออกแรงถีบเต็มแรงจนเจ้ารุ่นน้องถลาไปล้มอยู่นอกโกดังร้องโอดโอย
จินยองที่นั่งรออยู่สะดุ้งตกใจก่อนจะหัวเราะเสียงดังกับสภาพที่เห็น
ส่วนเจ้าคนต้นเหตุก็เดินผ่านรุ่นน้องบนพื้นออกมาชิวๆ
“มีธุระอะไร?”
“ก็ถามไถ่กันประสาคนรู้จักนั่นแหละครับ”ชายหนุ่มมหาเศรษฐีตอบ
ผายมือเชิญให้มาร์คนั่งลงโดยมียูคยอมเดินกุมก้นมานั่งข้างๆทั้งยังส่งสายตาค้อนให้รุ่นพี่ไม่หยุด
แต่มาร์คทำเพียงแค่เปรยตามองไม่สนใจก็เท่านั้น
“แล้วเจบีล่ะ?”อดถามถึงหมาป่าสีเงินที่มักจะอยู่ติดกับจินยองเสมอไม่ได้
“อ้อ
โดนขังอยู่บ้านน่ะครับ”จินยองตอบราวกับเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ
“อ้าว
ทำโทษเหรอ?”
“ก็ใช่ครับ
เด็กไม่ดีที่เผลอมีอารมณ์กับฮอร์โมนติดสัดของหมาตัวเมียก็ต้องโดนทำโทษจริงไหมล่ะครับ”พูดพลางขยับยิ้มบางๆแต่ดูน่าหวาดหวั่นสำหรับคนมองจนมาร์คเลิกจะถามต่อ
“แล้ว...ช่วงนี้กับแจ็คสันเป็นยังไงบ้างครับ”
เจ้าของหมีเลิกคิ้วสงสัยว่าคนตรงหน้าจะถามถึง
PET
HUMAN ของเขาทำไม แต่ก็เออออตอบๆไป
“ก็ไม่ยังไง
ช่วงนี้ก็แปลกๆ”
“แปลกยังไงบ้างครับ”จินยองดูสนใจ
วางถ้วยชาที่จิบตั้งแต่เมื่อครู่ลง ดวงตาเรียวทอประกายวิบวับ
“ไม่ค่อยเข้ามาอ้อน
เมื่อเช้าก็ไม่ยอมให้จับตัว ฉันเลยขังไว้ในห้องน่ะ”
“โหดร้ายจังนะครับคุณมาร์ค”
“เฮ้!”
“จริงๆนะครับ
คุณไม่รู้เหรอว่าช่วงนี้มันเป็นช่วงอะไร”จินยองส่งสายตาตำหนิมาให้
ยิ่งทำให้มาร์คสงสัยเข้าไปใหญ่ว่าตัวเองทำอะไรผิดมากมายรึยังไง
“จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบชั่วครู่
จินยองส่งสายตาให้ยูคยอมที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้นการสนทนา
ส่งสายตากดดันให้คนอายุน้อยที่สุดในห้องช่วยไขความข้องใจให้รุ่นพี่ตนเองเสียที
ยูคยอมส่ายหน้า
“พี่ก็บอกสิ”
“เฮ้อ...โอเค
ฟังนะครับคุณมาร์ค”จินยองบอกเสียงอ่อน
“ช่วงนี้เป็นฤดูผสมพันธ์ของหมีน่ะครับ...”
!!!!!!
มาร์ครีบเร่งกลับมาที่ห้องจากที่ตั้งใจว่าจะไม่กลับในวันนี้
แสกนม่านตาเปิดประตูห้อง สาวเท้าแทบจะเป็นการวิ่งจับบานประตูห้องนอนที่ตนขังลูกหมีตัวน้อยไว้ในนั้น
เปิดประตูออก
“ซิก...ฮึก...”
เสียงสะอึกสะอื้นดังออกมาจากใต้ผ้าห่มผืนหนาของคนที่ขดตัวเป็นก้อนกลมกลางเตียงใหญ่
มาร์คเดินเข้าไปใกล้ หยุดยืนมองดูจากปลายเตียง
พลันก็เห็นตุ๊กตาหมีที่คนตัวเล็กมักจะกอดไว้เสมอตกอยู่ข้างเตียง ชายหนุ่มถอนหายใจ
ก้มหยิบมันขึ้นมา มองตุ๊กตาสีชมพูตัวมอมๆหน้าตาตลกในมือสลับกับก้อนกลมบนเตียง นั่งลงข้างๆและเอ่ยถามเสียงเบา
“เป็นอะไร”
ก้อนกลมบนเตียงสะดุ้งวาบขดตัวแน่นกว่าเดิม
“มาคุยกันหน่อยสิ”
“ไม่..ฮึก
ไม่เอา”เสียงแหบตอบกลับมา มาร์คกลอกตาไปมา บังคับจับร่างนั้นมาเผชิญหน้าด้วยแต่เจ้าลูกหมีตัวน้อยก็ไม่ยอมท่าเดียว
อุตลุดกันอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดแจ็คสันก็ขึ้นมานั่งแหมะอยู่บนตักเจ้านายตัวเอง
มือเล็กยกขึ้นมาซับน้ำตาร้องไห้กระซิกไม่หยุด ใบหน้าน่ารักแดงก่ำไม่แพ้ดวงตาที่ช้ำเพราะร้องไห้
น้ำมูก น้ำตาแทบจะผสมกันอยู่มะรอมมะร่อ มาร์คเห็นแล้วก็สงสารยกปลายผ้าห่มขึ้นมาเช็ดหน้าให้
“ร้องไห้ทำไม
หืม?”
“ไม่รู้ ฮึก
เค้าไม่รู้”หัวกลมส่ายไปมา มาร์คมองลงต่ำอย่างลังเลใจ
จริงๆเขารู้ว่าแจ็คสันเป็นอะไรและเขาต้องทำอะไร มันผิดตั้งแต่ที่เขาไปปลุกเจ้าหมีตัวเล็กนี่ขึ้นมาตอนยังไม่ฝังชิบทำให้แจ็คสันยังไม่ได้เรียนรู้ในเรื่องจำพวกนี้
ตัดสินใจอยู่ไม่นาน มือเรียวที่รัดอยู่บนเอวเล็กเลื่อนลงไปวางตรงส่วนหว่างขา
แจ็คสันสะดุ้งวาบร้องตกใจเสียงสั่น ดวงตากลมเบิกโพล่งมองหน้าเขาสั่นๆ
“ปวดตรงนี้เหรอ”
“ฮึก”เจ้าตัวเล็กหยีหน้า
“ฮืออออออ เค้าขอโทษ” และปล่อยโฮออกมาเฮือกใหญ่ มาร์คส่ายหน้ากอดร่างนั้นเข้ามาชิดร่าง
หัวกลมซุกลงบนไหล่เจ้านายปล่อยน้ำตาซึมลงบนเสื้อทำงานของมาร์ค
ส่วนมือเรียวก็ยกขึ้นมาลูบศีรษะเล็กปลอบประโลม
“ขอโทษทำไม
หืม”
“เค้าเป็นเด็กไม่ดี
เข้าใกล้มาร์คทีไรมันก็รู้สึกทรมานทุกครั้งเลย ฮึก ทำไมล่ะ เค้าป่วยเหรอ”เจ้าตัวเล็กส่ายหน้าไปมาด้วยความไม่เข้าใจ
ความไม่ประสาของแจ็คสันทำให้มาร์คทั้งรู้สึกเอ็นดูและสงสาร จากที่จินยองบอกมา
เขาต้อง ‘สอน’ อย่างใจเย็นสินะ...
“นายไม่ได้ป่วย
มันคือธรรมชาติของสายพันธ์นาย”มาร์คสอน
เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างไม่เข้าใจ “นายจะเป็นอย่างนี้ไปสักพัก
และนายก็ต้องจัดการตัวเองให้ได้”
“เค้า...เค้าทำไม่เป็น”แจ็คสันก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด
มาร์คมองแล้วยิ้ม เชิดใบหน้ากลมเปื้อนน้ำตาขึ้นมา จูบซับบนเปลือกตาอ่อนใสเบาบาง
กระซิบข้างใบหูแดงก่ำ
“ฉันจะสอนเอง”
แจ็คสันกระพริบตาปริบๆ
ยังไม่เข้าใจสิ่งที่มาร์คต้องการจะสื่อ
นั่งตัวเกร็งตอนมือเรียวดึงกางเกงตัวเองลงไปกองบนข้อเข่า ดวงตากลมดูเลิกลักทำอะไรไม่ถูก
มาร์ควางมือบนหน้าขาขาวนุ่ม
“ไม่ต้องกลัวนะ”
แจ็คสันพยักหน้า
ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อชายหนุ่มดึงมือเล็กของตนไปวางบนส่วนที่ตื่นตัวมาทั้งวัน ทันทีที่แตะก็ราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านร่าง
หยีหน้าทำท่าจะร้องไห้อีก
“อย่าร้อง”
“ฮึบ!”แจ็คสันกลั้นน้ำตาด้วยความกลัวว่าจะโดนมาร์คดุอีก
“เด็กดี”
ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่า
ขยับมือแนะให้มือเล็กค่อยๆสัมผัสไปตามความยาวของส่วนอ่อนไหวสีสวย นิ้วเรียวกดช่วยกดคลึงอ่อนโยนหวังว่าให้ร่างเล็กได้คลายความทรมานของตนลง
“ผ่อนคลาย ค่อยๆสัมผัสมันช้าๆ รู้สึกดีขึ้นไหม”
“ไม่...เค้า...ฮือ
เหมือนมีอะไรวิ่งอยู่ในท้องเลย”แจ็คสันตอบแต่มือเล็กก็เริ่มจะขยับไปตามสัญชาติญาณ
มาร์คมองแล้วยิ้มพอใจ ผละมือออก เอนตัวพิงหัวเตียง มองเจ้าลูกหมีบนตักที่กำลังช่วยตัวเองเก้ๆกังๆ
แลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผาก รู้สึกคอแห้งแปลกๆ
ส่วนกลางลำตัวเริ่มมีปฏิกิริยากับภาพเบื้องหน้า
“นายกำลังรู้สึกดี”กระซิบบอกขณะนวดเฟ้นต้นขานวลแน่นนุ่มนิ่มเรื่อยไปถึงสะโพกกลมกลึง
นิ้วเรียวแตะลงบนหางกลมด้านหลัง
“อ๊ะ...”เสียงแหบพร่าหลุดเสียงครางออกมาคำหนึ่ง
ริมฝีปากแดงหุบฉับกลั้นไว้ไม่ยอมร้องออกมาทั้งที่ดวงตากลมกำลังเอ่อฉ่ำวาวไปด้วยกามอารมณ์
หนีบต้นขาเข้าหากันแน่นเพราะอายสายตาแปลกๆของมาร์คที่มองมายังตน
“ร้องออกมาสิเด็กดี
นายกลั้นไว้มันจะทรมานนะ”
แจ็คสันลังเลใจที่จะปล่อยเสียงแปลกๆออกมา
แต่ก็เปิดปากร้องวาบหวามเพราะมาร์คเค้นหางที่เป็นส่วนอ่อนไหวหนึ่งในร่างเสียจนกลั้นไม่ไหว
“อ...อ๊ะ อื้อ”
ส่วนอ่อนไหวในมือนิ่มชุ่มไปด้วยน้ำจากส่วนปลาย
ใบหน้าหวานเชิดขึ้นเล็กน้อย
เปล่งเสียงร้องหวีดรู้สึกดีออกมาเสียงดังทันทีที่หยาดอารมณ์พุ่งพรวดออกมา
ปลดปล่อยความทรมานทั้งหมด ร่างกายโปร่งเบาสบายราวกับกำลังลอยอยู่บนปุยเมฆขาว
เปลือกตาช้ำปรือลงเพราะคิดว่าจบแล้วแต่ก็ไม่
เมื่อจู่ๆเจ้านายที่นั่งนิ่งเป็นฐานนั่งใต้ร่างตัวเองมาตลอดพลิกตัวกลับให้ร่างของตนลงไปนอนแอ้งแม้งบนเตียงนอนนุ่ม
พร้อมจ้องมองลงมาด้วยสายตาที่น่าหวาดกลัว
“มันยังไม่จบนะ”
“เอ๊ะ อ๊ะ!”
แจ็คสันร้องตกใจเพราะจู่ๆชายหนุ่มก็ดึงมือที่ยังชุ่มชื้นลงบนอะไรบางอย่างที่ใหญ่โตกว่าใต้กางเกงทำงานผืนหนา
พลันใบหน้าหวานก็เห่อร้อน ไม่รู้ว่าร้อนเพราะอะไร แต่ตอนนี้แจ็คสันกำลังสั่นกลัว
สัญชาติญาณสัตว์ป่ากู่ร้องเตือนว่ากำลังจะเกิดเรื่องกับตัวเอง
“มะ มาร์ค”
“ถอดให้หน่อย
เร็ว ฉันจะสอนขั้นถัดไป”
พอได้ยินว่าคำว่าสอน
ด้วยความเป็นเด็กที่แสนจะไม่ประสาก็ปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงออกอย่างว่าง่าย
รูดซิบลงและสะดุ้งเพราะบางสิ่งในนั้นดันมือตัวเองจนต้องชักมือออกตื่นๆ มาร์คเห็นท่าทางตื่นกลัวแบบนั้นก็ยิ้มพออกพอใจ
กรอกคำสั่งต่อไป
“ทำแบบที่นายทำกับตัวเองเมื่อกี้สิ”
“เอ่อ...”
“เร็วเข้า”
“อะ อื้ม”แจ็คสันตอบรับสั่นๆ
ดึงกางเกงชั้นในของมาร์คลงมา
ปลดปล่อยลูกมังกรตัวยักษ์ออกมาและอดไม่ได้ที่จะตกใจกับขนาดของมัน
ตากลมเงยขึ้นมองเจ้านายตัวเองด้วยความตื่นเต้น “ทำไมไม่เหมือนของเค้าเลยอ่ะ”
“เหมือนกันแหละน่า
เร็ว...อ่า ซี๊ด อย่างนั้นแหละเด็กดี”เงยหน้าครางต่ำในลำคอด้วยความพอใจ
สัมผัสร้อนนุ่มนิ่มของฝ่ามือเล็กกำลังจับคลำส่วนนั้นของตนด้วยความไม่ประสีประสา
แต่กลับเร้าอารมณ์เขาได้ดียิ่งกว่าพวกเชี่ยวประสบการณ์ที่เคยผ่านมาเสียอีก
“มาร์ค เดี๋ยว”เจ้าตัวเล็กร้องท้วงมองเสื้อยืดตัวเองที่ถูกรูดขึ้นมากองเหนืออกเผยเรือนร่างเกือบทุกส่วนให้เจ้านายได้เห็นอย่างเต็มตา
ชัดยิ่งกว่าภาพ HD
...เกลี้ยงไปทั้งตัว...
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายมองร่างขาวนุ่มนิ่ม
หัวใจในอกเต้นระรัวตื่นตัวหื่นกระหาย อาจจะเพราะกลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนร่างขาว
หรือภาพตรงหน้าที่สวยเสียจนเขาเกิดอารมณ์ขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“ทำต่อไปนะ”
“อ๊ะ อื้อ!”เจ้าลูกหมีร้องครางตั้งตัวไม่ทันกับการกระทำของชายหนุ่ม
ถดหน้าอกลงตื่นตกใจกับสัมผัสอุ่นชื้นจากปลายลิ้นเรียวที่สะกิดตุ่มไตนุ่มนิ่มสีสวย
มาร์คเลียดูดมันราวกับลูกกวาดรสหวานหอม มือก็บีบเฟ้นร่างขาวให้รู้สึกผ่อนคลายลง แต่เจ้าลูกหมีก็ยังตื่นกลัวอยู่อย่างนั้น
จนชายหนุ่มต้องใช้ไม้ตาย จับหูกลมนิ่มบนศีรษะสีซีด
และนั่นทำให้แจ็คสันสะดุ้งสุดตัวร้องครางหวานเสียงดัง
“อ๊า!! มาร์ค!”
“อืมม
อย่ากำแน่นแบบนั้น ฉันจะแตกเอานะ”ชายหนุ่มกลั้นเสียงและอารมณ์
ก้มลงซุกไซร้ข้างใบหน้าหวาน สูดกลิ่นหอมบนซอกคอสีงาช้าง จูบกัดทิ้งร่องรอยความเป็นเจ้าของเอาไว้ทั่วแผ่นอกและลำคอขาวจนแทบไม่เหลือที่ว่าง
ร่างกายของแจ็คสันกำลังทำให้เขาทิ้งความเป็นตัวเอง
มือเรียวลูบลงไปด้านล่างบีบเอวและสะโพกขาวอวบแรงๆจนขึ้นรอยมือ
ใช้เข่าดันต้นขาขาวแยกออกจากกัน ใช้นิ้วลูบตั้งแต่สันหลังผ่านหางกลมเรียกอาการสะดุ้งไหวจากคนใต้ร่าง
เรื่อยลงไปแหวกกลีบเนื้อนุ่ม ลูบปากทางปิดสนิท แจ็คสันหยุดการการทำทั้งหมดมองชายหนุ่มตื่นๆ
มือเล็กดันไหล่มาร์คไว้ รับรู้ว่าตัวเองไม่ปลอดภัย
“อ๊ะ...มาร์คจะทำอะไร”
“ใจเย็น
ผ่อนคลายไว้ มันจะไม่เจ็บ”
“ทำ...อ๊า!!!!
เจ็บ!”ร้องเสียงดังบีบต้นแขนผอมแน่น
ตาโตเบิกกว้างตื่นกลัว ใช้เข่าดันหน้าท้องแกร่งไว้ ส่ายหน้าปฏิเสธทั้งน้ำตา นิ้วเรียวที่แทรกเข้ามาเพียงนิ้วเดียวก็สามารถสร้างความเจ็บปวดได้เพราะความไม่เคย
ผนังช่องทางบีบรัดแน่น
“ใจเย็น ชู่ว
เด็กดี ไม่ร้องๆ”ปลอบราวกับเด็กเล็กๆ จูบขมับขาวพราวเหงื่อเม็ดเล็ก
เลื่อนลงมาบดคลึงริมฝีปากอิ่มแดงอ่อนโยนจนแจ็คสันผ่อนคลายลง เป็นโอกาสให้มาร์คดุนดันนิ้วแทรกเข้าไปเปิดทางอีก
แต่ยิ่งแทรกเข้าไปลึก แจ็คสันก็ยิ่งตื่นกลัว จูบที่ทำเพียงเพื่อปลอบประโลมก็กลายเป็นจูบพิศวาสที่ชายหนุ่มใช้เขี้ยวแยกกลีบปากอิ่มออกสอดลิ้นเข้าไปทักทายลิ้นเล็กและโพรงปากนุ่มนิ่ม
ดูดกลืนรสชาติหอมหวานอย่างตะกละตะกลาม
ตอนนั้นมาร์คถึงได้รู้ว่าลูกหมีของเขาหวานไปทั้งตัว
เขารู้สึกอยากสัมผัสมากกว่านี้
ลิ้มรสร่างขาวหอมใต้ร่างมากกว่านี้…
นิ้วที่สอดแทรกอยู่ถูกถอดออก
รู้ว่าร่างเล็กยังไม่พร้อมแต่ชายหนุ่มก็ทนความเย้ายวนและความต้องการอันแรงกล้าต่อร่างนี้ไม่ไหวแล้วเช่นกัน
“ขอโทษนะแจ็คสัน
ฉันขอนะ”กระซิบบอก จับต้นขาขาวถ่างออกสอดแทรกส่วนแข็งร้อนเข้าช่องทางที่ยังไม่เคยมีใครรุกรานสีสวยที่บีบรัดเขาแน่น
ช่องทางที่ไม่ได้เตรียมพร้อมฝืดเคืองจนแทบขยับไม่ได้ ยิ่งชายหนุ่มฝืนดันเข้าผนังอ่อนบางก็ฉีกขาด
โลหิตสดๆชโลมท่อนเอ็นอุ่นสร้างความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัสให้เจ้าลูกหมีที่ตื่นกลัวร้องลั่นน้ำตาไหลพราก
“อ๊ะ อึก!
ไม่!!!!! เจ็บ!!! เค้าเจ็บ!!!!!!!!!”กรีดร้องลั่นดิ้นพราดๆตั้งตัวไม่ทันกับความเจ็บเสียดจากเบื้องล่าง ดวงตากลมคลอน้ำตา
จมูกรั้นพ่นลมหายใจร้อน สีหน้าบิดเบี้ยวทรมาน เล็บสั้นจิกไล่ชายหนุ่มจนเลือดซิบ
ส่ายหน้าไม่เอาอย่างเดียว
“เอาออกไป ฮึก
ไม่เอา มาร์ค เค้าเจ็บ”
มาร์คหยุดการกระทำทั้งหมดไว้เพื่อปลอบเจ้าลูกหมีที่เตลิดร้องไห้ขวัญเสียจนเขารู้สึกผิด
สองมือโอบกอดร่างด้านใต้แน่น จูบซับน้ำตาบนใบหน้าขาว แจ็คสันหลับหูหลับตาร้องไห้บอกไม่เอาๆอย่างเดียว
แต่จะให้ถอยกลับตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ชายหนุ่มเลยได้แต่ปลอบประโลมและหาทางทำให้แจ็คสันเจ็บน้อยที่สุด
“ขอโทษ แต่มาร์คจะทำเบาๆ
สัญญา”
“ไม่ ฮึก
ไม่เชื่อมาร์คแล้ว มาร์คใจร้าย เจ็บ เจ็บ...อื้อ”
เสียงแหบต่อว่าหยุดลงเพราะริมฝีปากอุ่นที่ประกบจุมพิตอ่อนโยน
บดคลึงปลอบโยนอยู่นานจนร่างเล็กหยุดร้องไห้แต่ก็ยังสะอื้นฮัก
ชายหนุ่มจับแขนเล็กคล้องสะโพกสอบของตน
“จะจิกจะกัดก็ตามสบายเลย
แต่เชื่อใจมาร์คนะครับ สัญญาว่าจะทำให้เจ็บน้อยที่สุด”
แจ็คสันลังเลใจอีกครั้งแต่พอเห็นสายตาอ่อนโยนน่าไว้วางใจที่มองมาก็พยักหน้ากลัวๆ
ทำตาหงอๆให้อีกคนสงสาร
“สัญญาแล้วนะ”
“ครับ... งั้นมาร์คจะเริ่มแล้วนะ”ก้มลงจูบกระหม่อมขาวและเริ่มดันตัวเข้าไปอีก
แช่ตัวดูปฏิกิริยาคนในอ้อมกอดที่สั่นระริกอย่างน่าเป็นห่วงสักครู่
แน่ใจว่าแจ็คสันพร้อมแล้วถึงค่อยขยับสะโพกถอนเข้าออกเบาๆ
ทำทุกอย่างด้วยความอ่อนโยน ทะนุถนอมราวกับคนในอ้อมกอดเป็นแก้วบอบบาง
อ้อมแขนขาวกอดลำคอแกร่งแน่น
ความรู้สึกเจ็บปวดทุเลาเบาบางลง แม้จะเจ็บเสียดอยู่บ้างแต่ก็ไม่ทรมานเท่าตอนแรก
เพราะอารมณ์บางอย่างกำลังทำให้ร่างเล็กเคลิ้มไปกับการกระทำในครั้งนี้ ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร
แต่มันก็ทำให้รู้สึกดีไม่ต่างจากตอนที่ได้บินเมื่อครู่สักเท่าไหร่
และมันก็รู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆจนอดเปล่งเสียงออกมาไม่ได้
“อ๊ะ...อืม”
มาร์คเหลือบตามองใบหน้าหวานของเจ้าลูกหมีตัวเล็กที่เริ่มแสดงสีหน้าเย้ายวนอย่างไม่รู้ตัวออกมาก็เร่งจังหวะขึ้น
มือเรียวที่บีบสะโพกอวบลูบไปสัมผัสหางด้านหลัง
ช่องทางร้อนขมิบรัดหนักหน่วยเพราะร่างขาวเกร็งแน่น ร่างขาวบิดเร่าเพราะรู้สึกเสียวกระสันเกินควบคุม
“อ๊า! มาร์ค อย่าจับ อื้ม แจ็ค แจ็ค จะปล่อย...อ๊า!!!”
ไม่ทันนับหนึ่งถึงสิบท่อนเอ็นสีชมพูน่ารักก็ปลดปล่อยออกมาเลอะหน้าท้องขาว
แจ็คสันหอบหายใจเหนื่อย
ร้องครางผะแผ่วกับส่วนแข็งขืนที่ยังสวนเข้าออกในร่างตนไม่หยุด มาร์คจับขาขาวขึ้นเกยบนไหล่โอบกอดร่างเล็กแน่น
ขบกัดใบหูกลมเร่งอารมณ์ร้อนให้พุ่งพล่าน
ขยับสะโพกเข้าลึกตำส่วนอ่อนไหวให้ร่างขาวระเรื่อแดงรู้สึกดี
แจ็คสันเปล่งเสียงร้องครางหวานประสานกับเสียงครางรู้สึกดีของผู้เป็นเจ้านาย
เนื้อสะโพกตบเข้ากับก้อนเนื้อกลมนุ่มนิ่มส่งเสียงน่าอายดังก้องห้องและดังถี่ขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์และเกมรักที่พุ่งสูงใกล้ถึงจุดยอดเขา
“มาร์ค ร้อน
ฮึก ร้อน”หมีตัวเล็กร้องบิดเร่าร่างรู้สึกร้อนไปทั้งร่าง
ขาบนไหล่แกร่งเกร็งแน่นรู้สึกใกล้ถึงจุดได้โบยบินอีกครั้ง
“อืม
มาร์คก็ร้อน อ่า รัดกว่านี้ อืม”ครางพอใจดันตัวเข้าลึกกระแทกหนักๆจนร่างเล็กโอนคลอน
แจ็คสันขมิบถี่สร้างความสุขสมให้ชายหนุ่มที่ฝังตัวอยู่ในร่าง สะโพกขาวเด้งขึ้นสู้ตามสัญชาติญาณสัตว์ป่าเมื่อใกล้ถึงจุดสุขสม
สะบัดใบหน้าไปมาเสียงกระสันจนเกินควบคุม
จิกเกร็งปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สามพร้อมกับๆมาร์คที่ปลดปล่อยหยาดน้ำขาวขุ่นเข้าเติมเต็มช่องทางแคบเสียจนทะลักออกมาเปรอะต้นซอกขา
“แฮ่ก...สุดยอดเลย”
มาร์คไม่เคยสุขกับการร่วมรักกับใครมากอย่างนี้
เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรับรู้ถึงความสุขจนแทบจะสำลักและกลายเป็นว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกเสพติดร่างกายของแจ็คสันจนถอนตัวไม่ขึ้น
สูดดมกลิ่นหอมหวนจากร่างขาวก็เกิดอยากทำอีกสักรอบ...
“ฮึก...เจ็บ”
...อ่า
คงไม่ได้สินะ...
ชายหนุ่มยิ้มกับตนเอง
ถอนตัวออกจากร่างนุ่มนิ่มด้วยความเสียดาย
มองใบหน้าขาวที่กำลังบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด
หลังสิ้นอารมณ์วาบหวามสิ่งที่ตามมาหลอกหลอนต่อคือความเจ็บรวดร้าวอย่างแสนสาหัส
ยิ่งกับเจ้าลูกหมีที่ไม่ต่างจากเด็กไร้เดียงสา ก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก เอาแต่ร้องไห้ออกมาเหมือนตอนนี้
“ฮึก มาร์ค
เค้าเจ็บ ฮึก เจ็บ”แจ็คสันร้องงอแงเป็นเด็กๆ รู้สึกเจ็บแถมยังเหนื่อยมาก
ขยับตัวทีก็เหมือนร่างกายจะแหลกเป็นเสี่ยงๆ โดยเฉพาะด้านล่างนั่น
“ครับ
หลับนะเด็กดี หลับก็ไม่เจ็บแล้ว”ชายหนุ่มลูบเส้นผมนิ่มปลอบ
“ฮึก
จริงเหรอ... กอดเค้าหน่อย กอดเค้านะ”ออดอ้อนทั้งน้ำตา ทั้งน่าเอ็นดูและน่าสงสาร
แล้วเจ้าของอย่างมาร์คจะทนได้หรือ...
คำตอบคือ ไม่
“ครับๆ”วงแขนยาวโอบกระชับร่างเจ้าหมีตัวเล็กเข้าแนบชิด
ลูบเส้นผมนิ่มที่แนบอยู่บนอก หูกลมลู่ลงเพราะเจ็บแปลบไปทั้งร่าง สะอื้นฮัก
ปรือเปลือกตาช้ำปิดลงเพราะความเหนื่อยอ่อน หลับใหลอย่างรวดเร็วภายในอ้อมกอดของผู้เป็นนาย
มาร์คมองใบหน้าหวานแล้วยิ้มมีความสุข ก้มลงจูบเบาๆกลัวว่าจะรบกวนการนอนของเจ้าลูกหมี
มาร์คเอาเจ้ามาร์ตี้ที่ถูกลืมไปตั้งแต่ต้นขึ้นมาให้เจ้าตัวเล็กกอดไว้ก่อน
ขณะที่เขาออกไปอาบน้ำชำระร่างกาย
กลับมาเช็ดตัวทำความสะอาดให้เจ้าลูกหมีที่ยังนอนหลับกรนฟี้ๆน่าเอ็นดู
หาเสื้อไหมพรมตัวโคร่งมาสวมให้ เตรียมหยูกยาและน้ำวางไว้ข้างๆเพื่อตอนเช้าจะได้บังคับให้แจ็คสันกิน
เพราะว่ามาร์คเชื่อว่ายังไงพรุ่งนี้เจ้าลูกหมีของเขาต้องเป็นไข้หนักแน่นอน
จัดการทุกอย่างเสร็จก็ถึงเวลาเข้านอน
มองนาฬิกาลอกเวลาตีสองก็ถอนหายใจเฮือก ดีว่าพรุ่งนี้เขาได้หยุด
ไม่อย่างนั้นคงต้องลางานไปเต็มๆวันหนึ่งเพื่อดูแลแจ็คสันแน่ๆ
สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มแกะเอามาร์ตี้ออกจากอ้อมแขนเล็ก
โยนมันลงส่งๆข้างเตียงและโอบกระชับร่างแจ็คสันเข้ามากอดแทน
“งือ...มาร์ค”เจ้าลูกหมีละเมอเรียกชื่อเขาพร้อมซุกหัวกลมๆเข้าหา
เจ้าของชื่อยิ้ม รวมลูกหมีน่ารักเข้ามาใกล้ จูบหน้าผากมนพร้อมเอ่ยราตรีสวัสดิ์
“ฝันดีนะครับ
ลูกหมีของมาร์ค”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น