[SF] Silver Moon (MarkSon)
Silver Moon
MARK X JACKSON
โรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่คนทั่วไปไม่อยากไปถ้าไม่จำเป็น
แต่ถึงอย่างนั้นโรงพยาบาลก็เป็นสถานที่ที่มีคนเดินเข้าออกเยอะที่สุดในแต่ละวันเช่นเดียวกัน
กลิ่นยาบวกกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ บุรุษพยาบาลชุดขาวชุดเขียวเดินวิ่งกันไห้ว่อนทุกชั้น
ไม่ว่าจะมองไปที่ไหนก็เห็นแต่ผนังสีขาวจืดชืด
เป็นสถานที่ที่ไร้ความน่าสนใจโดยสิ้นเชิง
...แต่ก็ยังพอมีของน่าสนใจอยู่...
เสียงกรี๊ดกร๊าดเบาๆพอไม่ให้ดูประเจิดประเจ้อมากเกินไปนักดังขึ้นเมื่อประตูห้องตรวจแผนก
SUR
(Surgical) เปิดแง้มออกมา
พยาบาลสาวหน้าห้องรีบกระวีกระวาดไปรับใบตรวจจากคนที่โผล่หน้าออกมาเพียงเล็กน้อยจากห้องตรวจ
พร้อมเสียงทุ้มต่ำน่าหลงใหล
“วันนี้มีเคสผ่าตัดเพิ่มเติมไหมครับ คุณพยาบาลคิม”
“ไม่มีแล้วค่ะ
คุณหมอมาร์ค”เสียงอ่อนเสียงหวานตอบหลับคุณหมอหนุ่มที่พยักหน้าเบาๆ โครงหน้าหล่อเหลาบางมุมก็สวยจนหญิงสาวต้องอาย
ดวงตาเรียวกลมสวย จมูกได้รูป ริมฝีปากสีสด ผิวขาวซีดราวกับไม่เคยพบเจอแสง
ร่างสูงโปร่งราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายแต่ใบหน้าหล่อเหลานั้นกลับเรียบเฉยราวกับไม่มีความรู้สึก
มาร์คพยักหน้าเข้าใจแล้วกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ทั้งคนไข้ทั้งพยาบาลกรี๊ดกร๊าดกันอยู่ด้านหน้าห้องแบบไม่มีเสียง
พอคุณหมอคนหล่อเดินออกมาก็นั่งเงียบสงบเสงี่ยมช้อนสายตามองปรอยๆกันไป
เมื่อพ้นร่างสูงเสียงซุบซิบก็ดังจ๊อกแจ๊กจอแจ
“แกกกก หมอคนเมื่อกี้ใครอ่ะ ทำไมหล่อจัง!”เด็กสาวที่มาโรงพยาบาลนี้ครั้งแรกรีบหันไปเขย่าตัวเพื่อนคนข้างๆ
“โอ๊ยยยยย พอ!
หัวฉันจะหลุดอยู่แล้ว... หมอคนเมื่อกี้ชื่อมาร์ค ต้วน จบทุนแพทย์มาจาก LA ทำงานที่นี่สามสัปดาห์แล้วล่ะ หล่อสุด หล่อเวอร์!!!”
“ฉันตาไม่บอดย่ะ! โหยย
หล่อขนาดนี้แฟนรึยังนะ”ดวงตาหญิงสาวพะพราวด้วยความหวัง
เพื่อนสาวมองแล้ว่ายหน้ารีบพูดดักความหวังก่อนที่คนข้างตัวจะฝันไปไกล
“เห็นรีบกลับขนาดนั้นคิดว่ามีไหมล่ะ?”
“โหยยยยยย”
คุณหมอหน้าหล่อผู้เป็นประเด็นเดินก้าวเร็วไปตามทางเดินโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยผู้ป่วยและญาติ
ดวงหน้าหล่อไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ ไม่สนใจสายตานับร้อยที่จ้องมองมา
อาจจะเรียกว่าเป็นความเคยชินก็ได้ ยกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว
ล้วงเอามือถือขึ้นมากดโทรออกหาใครบางคนขณะก้าวเท้าให้เร็วขึ้นจนเกือบจะเป็นการวิ่ง
เสียงรอสายดังสม่ำเสมอไม่มีท่าทีว่าอีกฝ่ายจะรับสายทำเอามาร์คเริ่มร้อนใจ
รีบบึ่งออดี้สีดำออกจากโรงพยาบาล
เพียงครึ่งชั่วโมง ชายหนุ่มก็ถึงที่หมาย...
บ้านโมเดิร์นขนาดสองชั้นท่ามกลางพืชพรรณสูงแทบจะโอบรอบบ้านได้ทั้งหลัง
บรรยากาศของบ้านทั้งดูร่มรื่น เงียบสงบแฝงไปด้วยความลึกลับเหมือนเจ้าของบ้านไม่ผิดเพี้ยน
ผ้าม่านสีขาวถูกเลื่อนปิดหน้าต่างทุกบานในบ้านยิ่งทำให้ดูอึดอัด
ร่างสูงยืนนิ่งมองไปที่ชั้นสองของบ้าน
เห็นผ้าม่านไหวเล็กน้อยก็ทำให้เขายิ้มออกมาได้ รอยยิ้มที่คนอื่นไม่มีวันได้เห็น...
ยกเว้นคนคนนั้น
มาร์คไขเปิดประตูเข้าไป
ภายในบ้านตกแต่งด้วยโมโนโทนขาวดำเท่ๆอย่างที่อีกคนชอบ
เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นทำเอาบ้านหลังใหญ่ดูโล่งกว้าง
ชั้นล่างของบ้านเงียบสงบจนได้ยินแม้กระทั่งเข็มตก ร่างสูงถอดเสื้อนอกและกระเป๋าเอกสารลงกับโซฟา
เดินไปค้นๆของกินในตู้เย็นให้ตัวเองและไม่ลืมอาหารสำหรับอีกคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน
ชั้นสองของบ้านมีเพียงหนึ่งห้องนอนหนึ่ง ห้องน้ำ
ในที่นี้หมายถึงชั้นทั้งชั้นเป็นห้องนอนหนึ่งห้องซึ่งมีเพียงเตียงขนาดคิงไซต์ตรงกลาง
ผ้าแพรสีดำเบาบางพลิ้วปิดรอบเตียงป้องกันแสงจากด้านนอกที่สาดเข้ามาแม้เพียงเล็กน้อย
โครงร่างคนบนเตียงเหมือนจะลงมาหาเขาแต่ทันใดที่ลมจากเครื่องปรับอากาศปัดผ้าม่านออกให้แสงโผล่เข้ามาเพียงนิด
ร่างนั้นก็ถดกลับเข้าไปอีก ได้แต่ส่งเสียงแหบหวานออกมาถามเหมือนเคย
“มาร์ค กลับมาแล้วเหรอ”
“ครับ มาร์คมาแล้ว”
ชายหนุ่มตอบพลางเดินไปปิดม่านให้มิดชิด
เดินย้อนกลับมาที่เตียงซึ่งผ้าแพรสีดำแหวกออกให้ชายหนุ่มเข้าไปนั่ง
ใครบนนั้นคลานเข่าเข้ามากอดออเซาะ มือขาวซีดโอบกระชับท่อนแขนผอม
ในขณะที่ชายหนุ่มลูบเส้นผมนิ่มลื่นสีเงินอ่อนโยน
“วันนี้กลับเร็วจัง”
“อืม รีบกลับมาหาแจ็คไง”
มือเรียวช้อนใบหน้ากลมขึ้นมาพินิจพลางแย้มยิ้มสุขใจที่คนตรงหน้าเขาเท่านั้นที่จะได้เห็นมัน
ดวงหน้าขาวซีดแทบกลืนไปกับเส้นผมสีเงินนุ่มลื่นยาวประบ่ายุ่งเหยิงน่าเอ็นดู
นิ้วเรียวปัดหน้าม้ายาวออก
มองดวงตากลมหางตกสีม่วงอเมทิสต์ราวกับอัญมณีเลิศล้ำค่าใต้คิ้วเรียวเข้มสีเดียวกันกับผม
จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากสีแดงชาดโดดเด่นจากเครื่องหน้าอื่น
มาร์คยิ้ม
ลูบนิ้วโป้งบนกลีบกุหลาบอ่อนนุ่มล้วงเข้าไปอีกนิดก็สัมผัสเขี้ยวยาวสวยภายในโพรงปากเล็ก
ลิ้นเล็กสีชมพูแลบเลียดูดดุนปลายนิ้วชายหนุ่มแผ่วเบาพลางช้อนอัญมณีเนตรงามขึ้นมาสบตา
ไหนจะเสื้อซีทรูคอกว้างบางเบาบนกายที่แทบจะไม่ปิดอะไรนั่นอีก
ทุกการกระทำของร่างตรงหน้าช่างเย้ายวนอย่างที่ยากจะปฏิเสธถึงเสน่ห์อันรุนแรงของสายพันธุ์ในตำนาน
แจ็คสันยังเป็นแวมไพร์ชั้นสูงที่สวยเสมอ
“มาร์ค~”แวมไพร์ตัวเล็กส่งเสียงอ้อนซุกหน้าลงบนต้นคอแกร่ง
อ้อมแขนขาวเข้าตวัดแม้จะเป็นอ้อมกอดที่หนาวเย็นจากอุณหภูมิร่างกายแต่ก็น่ารักจนมาร์คอดยิ้มไม่ได้
แจ็คสันเข้ามาชิดจนแทบจะนั่งเกยตักแกร่ง ลมหายใจเย็นและเขี้ยวครูดเบาๆบนผิวคอ
นัยน์ตาสีม่วงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงแต่ก็โดนมาร์คคันคางเล็กเงยหน้าไม่ให้ทำตามที่ใจปรารถนา
“ไม่ได้ครับ วันนี้กินเลือดกระต่ายไปก่อนนะ”
“หงึ”แจ็คสันส่งเสียงขัดใจในลำคอ
แต่ก็ยอมถอยออดมาโดยดี ถึงด้วยใบหน้ามุ่นยุ่งก็ตามที
มือเล็กรับถุงเลือดข้นของสัตว์ขนาดเล็กขึ้นมามอง ใช้เขี้ยวแหลมกัดฉีก
จมูกรั้นดมฟุตฟิตแล้วทำหน้าเอียน ดูน่าเอ็นดูสำหรับคนมอง มาร์คลูบเส้นผมเงินนิ่มด้วยความชินมือ
“ขอโทษที่หาเลือดสัตว์ใหญ่ให้ไม่ได้นะ...”
“ไม่เป็นไร”แจ็คสันบอก
สูดลมหายใจเข้าลึกกลั้นใจสูดเลือดในถุงทีละนิด แต่รสบาดคอของมันก็ทำให้ทรมานต่อมรับรสสิ้นดี
ลิ้นเล็กแลบออกทำหน้าหยีสุดจะทน ส่งถุงเลือดที่พร่องไปไม่ถึงครึ่งให้ชายหนุ่ม
“ไม่กินแล้ว”
“กินน้อยจัง”
บ่นเพราะความเป็นห่วงแต่ร่างขาวก็ส่ายหน้าพับๆ ย้ายร่างตัวเองขึ้นมานั่งบนตักแกร่ง
เอนตัวซุกซบสูดกลิ่นน้ำหอมล้ำลึกของมาร์ค ในขณะที่ชายหนุ่มก็โอบกระชับเอวเล็กไว้
สัมผัสได้ถึงความคอดกิ่วของเอวและเนื้อส่วนอื่นที่เหมือนจะหดลง
โดยเฉพาะแขนที่เคยอุดมไปด้วยมัดกล้ามและแก้มกลมนิ่มแบนฟีบลงจนน่าใจหาย
“ผอมหมดแล้ว”
“ไม่ชอบเหรอ?”
แจ็คสันเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างไร้เดียงสา นั่งตัวตรงสำรวจร่างกายตัวเอง ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มถึงไม่ชอบ
ผู้ชายชอบคนตัวบางๆไม่ใช่เหรอ?
“ไม่ ชอบแจ็คสันตอนตัวกลมๆมากกว่า”
“ตอนนั้นผมนิสัยไม่ดี ไม่ชอบ”ปากแดงเม้มเป็นเส้นตรง
มือเล็กดึงเปลือกตาและแยกเขี้ยวให้ดูน่ากลัว
แต่ในสายตาคนมองกลับน่ารักจนต้องกลั้นยิ้ม “ตอนนั้นตาก็เป็นสีแดง เขี้ยวก็งอก
น่ากลัว”
“แต่ตอนนั้นก็แข็งแรงกว่า...ตอนนี้เจอแดดไม่ได้เลยไม่ใช่เหรอ?”
“แจ็คไม่เป็นไรหรอก ก็แจ็คมีมาร์คนี่นา”แจ็คสันยิ้ม
ยืดตัวจุ๊บแก้มตอบจนเกิดเสียงพลางหัวเราะคิกคักพอใจ
ชายหนุ่มกอดรัดร่างขาวก้มลงหอมแก้มเนียนนุ่มทั้งสองข้างไปมาเป็นการเอาคืนจนแจ็คสันโวยวายเอามือกุมแก้ม
ช้อนตามองค้อน “พอแล้ว แก้มช้ำแล้ว”
มาร์คหยุดหอมก็จริงแต่กลับรั้งร่างเล็กเข้ามาใกล้และป้อนจูบอ่อนหวานให้
ริมฝีปากร้อนแนบชิดริมฝีปากอิ่มเย็น บดคลึงเบาๆถ่ายทอดความอบอุ่นให้ทีละนิด
มอบความอ่อนโยนให้แทนคำบอกรักที่พูดกันทุกวัน
จูบกันนานเสียจนร่างเล็กต้องสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่
“ย้ายเมืองกันไหม? ไปอยู่รัสเซียหรือแคนาดา
ที่ๆไม่ค่อยๆมีแสง...”มาร์คหยุดพูดเพราะนิ้วป้อมที่เข้ามาวางทาบเป็นเชิงให้หยุดพูด
พร้อมดวงตากลมสีสวยที่แสดงความรู้สึกอึดอัดใจมาให้เห็น
“ไม่เอาแล้ว
แค่มาร์คยอมทิ้งชีวิตที่โน่นเพราะแจ็คก็มากเกินไปแล้ว
อย่าทำให้แจ็ครู้สึกผิดไปมากกว่านี้เลยนะ”
“รู้สึกผิดทำไม? หืม
มาร์คจะเป็นทุกข์มากกว่าที่เห็นแจ็คทรมานนะ”
“ไม่ได้ทรมานสักหน่อย...แค่อยู่ยากนิดเดียวเอง”
“หึ โดนแดดเผาจนคืนร่างไม่ได้นั่นคงไม่นิดมั้ง”มาร์คหัวเราะ
หมั่นไส้ความไม่เจียมของคนบนตัก
ย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อน
มาร์คยังเป็นนักเรียนแพทย์ปี 3 ที่ LA เขากำลังเดินกำลังจะเอาขยะไปทิ้งในตอนเช้าตรู่
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแมวดำตัวหนึ่งนอนแห้งอยู่หน้าบ้าน
ชายหนุ่มที่ตอนนั้นไม่รู้คิดยังไงถึงได้อุ้มแมวตัวนั้นเข้ามาในบ้านเช่า
เลี้ยงดูไว้นานก็เห็นว่าจับหนูจับนกกินตามประสาแมว
ก็ไม่ได้ใส่ใจนักว่าซากสัตว์พวกนั้นมันโดนสูบเลือด ไม่ได้โดนกิน
จนสามเดือนต่อมาลูกแมวก็กลายร่างเป็นแวมไพร์ตัวน้อย
แต่ตอนนั้นแจ็คสันไม่ได้เชื่องแบบนี้ เป็นแวมไพร์ที่ล่าเลือดมนุษย์เป็นอาหาร
มาร์คที่ไม่รู้จะห้ามยังไงเลยเอาตัวขวาง
กลับกลายเป็นว่าคนตัวเล็กเผลอทำสัญญากับเขา รับเขาเป็นคู่สัญญาเลือด
มาร์คต้องเป็นอาหารให้แจ็คสัน แต่แจ็คสันจะฆ่ามาร์คไม่ได้และจะจงรักภักดีต่อมาร์คไปตลอดชีวิต
เรียกง่ายๆก็คือ มาร์คเป็นเจ้านายของแจ็คสัน...
แจ็คล่าอาหารไม่ได้เพราะมาร์คสั่งไม่ให้ทำ
ได้กินแค่เลือดที่มาร์คหามาให้จากคลังเลือดของคณะ แต่เพราะอย่างนั้น
แจ็คสันเลยอ่อนแอลงโดนแสงแม้แต่นิดก็ไม่ได้ มาร์คเลยเลือกย้ายมาอยู่ที่โซล
ห่างไกลผู้คนและหลบอยู่บนภูเขา
ก็ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกันที่พวกเขารักกันขนาดนี้...
แจ็คสันไม่เถียงอะไรอีก
ปีนลงจากตักคลานไปยังหัวเตียงยื่นเอาโทรศัพท์เครื่องบางมาให้ชายหนุ่มดูคลิปที่ตนเองดูซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาทั้งวัน
มันเป็นคลิปที่คู่รักไปเที่ยวทะเลท่ามกลางพระอาทิตย์สีทอง
มาร์คเงยหน้าสบสายตากับคนตัวขาวที่ยิ้มแป้นมาให้ก่อน
“แจ็คอยากออกไปข้างนอกนั่นได้จัง”
“รออีกแป๊ปนึงนะ เดี๋ยวก็ค่ำแล้ว”
แจ็คสันส่ายหน้า
“ไม่ หมายถึงกลางแดดนั่น...มันดูมันสวยมากเลย
แจ็คอยากออกไปอยู่แบบนั้นบ้าง”
“มาร์คทำให้ไม่ได้...”มาร์คทำหน้าลำบากใจ
“อืม...ไม่เป็นไร แจ็ครู้ตัวเองดีน่า”แจ็คสันยิ้ม
รู้ดี ก็แค่ชอบดูอะไรแบบนี้ เพ้อฝันในสิ่งที่เป็นจริงไม่ได้ “แค่ดูก็พอแล้วล่ะ
ขอโทษที่พูดเอาแต่ใจนะ”
ชายหนุ่มมองคนรักก็รู้ว่าแจ็คสันไม่ได้รู้สึกเหมือนคำที่พูดมา
แจ็คสันชอบแสงแดด ทั้งที่เป็นแวมไพร์ต้องแสงไม่ได้
ชอบการวิ่งเล่นไปทั่วทั้งที่ร่างกายอ่อนแอ
เป็นแวมไพร์ชั้นสูงที่เหลือน้อยเต็มทีบนโลกใบนี้ ไร้ญาติพี่น้อง
ไร้เพื่อนฝูงทั้งที่ชอบเพื่อนเยอะๆ
แวมไพร์น้อยมองชายหนุ่มก็รู้ว่ามาร์คกำลังคิดมากเรื่องเขาก็นั่งลงคร่อมบนตักที่นั่งประจำ
ผลักชายหนุ่มลงนอนราบลงกับผ้าปูเตียงสีดำสนิท มือเล็กลูบถอดเสื้อตัวนอกของมาร์คออกไปพ้นจากไหล่
ก้มลงจูบแผ่วๆบนต้นคอชายหนุ่มตามด้วยคางได้รูปเป็นเชิงหยอกเย้ายั่วยวน
เหลือบตาสบกับดวงตาสวยพราวระยับ จับมือเรียวมาวางบนสะโพกอวบของตนและปล่อยให้สองมืออุ่นนั้นลูบตามร่างกายตนอย่างไม่ถือสา
“วันนี้แจ็คคิดถึงมาร์คจัง มาร์คจะไม่กอดแจ็คสักครั้งหน่อยเหรอ?”กระซิบถามเสียงอ่อนหวาน
กระพริบตาปริบๆน่ารักน่าชังเหมือนร่างแมวของตน
“จะพลาดเหรอครับ”มาร์คตอบขณะเริ่มลุกไล่ร่างด้านบนหนักขึ้น
จากมุมนี้เขาเห็นจุดสีหวานและทรงเว้าโค้งใต้เสื้อซีทรูสีดำได้อย่างชัดเจน
“แล้วคิดยังไงถึงใส่เสื้อตัวนี้หืม?”
“ก็อยากให้มาร์คชม...มันไม่ดีเหรอ?”ใบหน้ากลมหงอยลงถ้ามีหูตอนนี้หูคงลู่ลง
“ไม่ดี”
“...”แจ็คสันพลันนิ่งไป ฟันกระต่างขบริมฝีปากล่าง
มองมาร์คด้วยความน้อยใจ ขยับสะโพกบนตักแกร่งเร่งเร้าเป็นเชิงว่า ‘ชมเค้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!’
“ก็มันไม่ดี เดี๋ยวก็ไม่สบาย
ใส่เสื้อบางขนาดนี้”มาร์คบอกทั้งที่ตัวกำลังสอดมือเข้าใต้เสื้อที่แทบไม่ปิดอะไรบนร่างเล็กนี้เลยเพื่อสัมผัสผิวเนียนนุ่มของคนรัก
ส่วนอีกด้านก็ลูบบนแผ่นอกบางสัมผัสยอดอกนุ่มผ่านเนื้อผ้า ยกยิ้มร้ายให้คนบนตัก
“แต่นานๆทีใส่ก็ดี...เซ็กซี่เป็นบ้า”
คนโดนชมกัดปากอีกครั้งเพราะเขินอาย
แต่รู้ว่าถ้าอายจะต้องแพ้แน่เลยรีบปรับอารมณ์ แลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้ง
แนบตัวลงมาจงใจให้จุดอ่อนไหวบนแผ่นอกตนถูไถกับยอดอกอีกฝ่ายจุดไฟกามรมณ์ให้พุ่งสูงโดยไม่ต้องมีสัมผัสหนักหน่วงใดเพิ่ม
มาร์คครางเสียงต่ำในลำคออดกลั้นกับความอยากของตัว แจ็คสันจะยั่วเก่งเกินไปแล้ว
นี่ขนาดเสื้อผ้ายังไม่หลุดกันสักชิ้นยังทำให้เขาอารมณ์ขึ้นขนาดนี้ มันน่า...จริงๆ
“ผมเซ็กซี่ แล้วมาร์คจะเอาแค่มองเหรอครับ?”
มาร์คยิ้มกับคำท้าทายนั้น
มือเรียวรูดบอกเซอร์สีเข้มของแจ็คสันลงไปค้างบนเข่าด้านหนึ่ง
ลูบโคนขาขาวนิ่มเข้าใกล้ก้อนเนื้อนุ่มแน่น จับขยำฟอนเฟ้นไม่ออมแรงจนแวมไพร์ตัวเล็กร้องครวญ
ซุกหน้าลงบนอกเขา ตอนนั้นแหละมาร์คถึงได้ตอบคำถามเมื่อครู่
“อยากกระแทกเข้าไปจะแย่แล้วครับ”
แจ็คสันหัวเราะในลำคอแล้วก็ร้องครางสะดุ้งเพราะนิ้วเรียวที่แทรกเข้ามาในร่าง
ผนังนุ่มขมิบตอดสิ่งแปลกปลอมยิ่งทำให้มาร์คอยากเข้าไปมากยิ่งขึ้น
ริมฝีปากเรียวจรดข้างขมับซีดอ่อนโยน
กระซิบเสียงกระเส่าพร้อมกับกำลังดันนิ้วที่สองอยู่บนปากหูรูดสีสวยทำท่าจะสอดเข้าไปอีกนิ้ว
ใบ้ให้รู้ว่าชายหนุ่มจะไม่ไหวอยู่แล้ว
“เข้าไปเลยได้ไหม”
“หยุดเลย”แจ็คสันส่ายหน้าทำหน้าดุ
จับมือชายหนุ่มออกจากช่องเร้าของตน มือเล็กรูดเนกไนสีเข้มออกจากคอเสื้อของมาร์ค
คลี่มันออกเป็นสายยาว จับท่อนแขนแข็งแรงมัดเอาไว้หลวมๆ
แล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อของชายหนุ่มออกหมดทั้งแถบ มาร์คก็ไม่ได้ขัดขืน
ปล่อยให้แจ็คสันทำตามต้องการเพราะรู้ว่ายังไงคนตัวเล็กนี่ก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังแน่ๆ
แจ็คสันเลียเขี้ยวเล็กในปากมองร่างของชายหนุ่มที่นอนแผ่อยู่บนเตียงสีดำ
เสื้อปลดกระดุมแหวกออกให้เห็นร่างกายผอมแต่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อสวย
“มาร์คน่ากัดอ่ะ ขอกัดได้ไหม”
“ไม่ได้ครับ” ตอบในทันที มาร์ครู้ดีว่าควรจะให้ ‘อาหาร’ แจ็คสันตอนไหนและมันก็ไม่ใช่ตอนนี้
คำตอบที่ได้ทำให้แจ็คสันขุ่นเคืองเล็กน้อย
แต่พอจ้องมองเข้าไปในดวงตาสวยนั้นก็แย้มยิ้มออกมา
เขารู้ว่ามาร์คจะไม่ทำให้เขาทรมาน มือเล็กเริ่มไล้ลูบลงมาจากลำคอแกร่ง ผ่านไหปลาร้าชัดและแผ่นอกแข็ง
นิ้วก้อยเล็กรูดสาบเสื้อที่ยังค้างบนร่างชายหนุ่มพร้อมๆกับที่นิ้วที่เหลือแตะสัมผัสผิวเนื้ออุ่นของคนรักแผ่วเบา
ปลายนิ้วป้อมสะกิดยอดอกของร่างสูงเรียกเสียงครางต่ำในลำคอ
มาร์คกำลังอดทน
แจ็คสันคิดในใจ กระเถิบสะโพกขึ้นมานั่งบนหน้าท้องแกร่งบังคับไม่ให้มาร์คลุกขึ้นมาระหว่างที่ตนกำลังเตรียมการ
ริมฝีปากอิ่มสีเลือดแตะลงบนซอกคอที่มีเส้นเลือดหวานๆไหลอยู่ในนั้น
ค้างจูบไว้นานพยายามตัดใจไม่ฝังเขี้ยวลงไปและกลับมากัดแรงๆบนหน้าอกแกร่งแทน
“โอ๊ย! แสบนักนะเราน่ะ”
มาร์คอุทานเหลือบมองแจ็คสันที่กำลังแลบลิ้นสีชมพูเล็กๆเลียรอบปากแผลลิ้มรสเลือดจางๆ
ดวงตากลมสีม่วงปรือเหมือนแมวโดนผงรม นัยน์ตาสีสวยกำลังจะแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง
แต่ชายหนุ่มรู้ทันใช้ขาดันคนตัวเล็กขึ้นจนคืนสติ
“ถ้ากลายร่างอีกมาร์คจะปล่อยให้อยู่คนเดียวนะ”
“มาร์คไม่กล้าทำหรอก”เจ้าตัวเล็กตอบกลับอย่างถือดี
แต่ก็แอบกลัวอยู่เหมือนกัน
ชีวิตแจ็คสันที่ไม่มีมาร์คอยู่ข้างๆก็เหมือนแวมไพร์ที่ตายไปแล้วนั่นแหละ
ส่ายศีรษะไล่ความคิดน่าจิตตกนั่น กระชากเสื้อชายหนุ่มออกกว้าง
ลงลิ้นเล่นกับตุ่มไตแข็งพร้อมกับที่ขยับสะโพกปั่นป่วนเบื้องล่างไม่หยุด
รับรู้ถึงสิ่งที่ดันก้นเขาอยู่อย่างจาบจ้วง
ลากมือนุ่มผ่านกล้ามเนื้อท้องปลดกระดุมกางเกงทำงานของมาร์คออก
ขยำมันผ่านเนื้อผ้าฟังเสียงครางต่ำ
“แจ็คสัน ไม่เล่น”มาร์คเรียกด้วยเขาด้วยชื่อเต็ม
คนตัวเล็กชะงักไปชั่ววินาที มือเล็กที่ปั่นป่วนแต่ไม่ยอมทำจริงจังสักทีก็หยุดไปด้วย
ตากลมช้อนสบตาเขาเล็กน้อย
“โกรธแจ็คเหรอ”
“ไม่หรอก แต่จะโกรธแล้วถ้ายังแกล้งมาร์คแบบนี้”
แจ็คสันแลบลิ้นขี้เล่น
เลื่อนตัวลงไปนั่งบนพื้นข้างเตียง ดึงกางเกงทำงานสีเข้มออก
จูบลงบนบางสิ่งที่กำลังตื่นตัวพองคับชั้นใน กลีบปากนิ่มขบตามความยาวเช่นเดียวกับปลายนิ้วสั้นที่หยอกล้อตรงส่วนฐาน
มาร์คกัดฟันร้องซี๊ดเสียวซ่านเพราะมือและปากซนๆของคนตัวขาว
ยิ่งเขี้ยวเล็กๆนั่นขบลงยิ่งทำให้ชายหนุ่มอยากกระแทกเข้าโพรงปากอุ่นนั่นให้รู้แล้วรู้รอด
เอื้อมมือที่ยังถูกพันธนาการไปปลดกางเกงตัวเองออก
ท่อนเอ็นโผล่ออกมาจากแหล่งที่อยู่เด้งโดนใบหน้าขาวซีด
ตาโตเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนหัวเราะแผ่ว
ส่งสายตายั่วยวนขณะใช้มือแนบส่วนนั้นไล้เลียราวกับมันเป็นไส้กรอกเนื้อแสนอร่อย
ตั้งแต่ส่วนโคนจนถึงส่วนยอดสูงจากนั้นนิ้วมือเล็กก็ถูกนำมาใช้กอบกุมส่วนร้อนนั้นแทน
รูดชักชำนาญเน้นหนักสร้างความสุขสมให้กับชายหนุ่ม
แต่มาร์คไม่พอแค่นี้...
“แจ็ค พอแล้วครับ” เอ่ยบอกขยับตัวดึงเนกไทบนข้อมือออกง่ายๆ
โอบคนตัวเล็กขึ้นมาบนตัก สอดนิ้วเข้าเบิกทางถึงสามนิ้วในครั้งเดียว
แจ็คสันร้องเสียงดังผวาตัวกอดคอชายหนุ่มแน่น
“มาร์ค! แจ็คเจ็บนะ!”
“อืมม มาร์คไม่ไหวแล้วคนดี
แล้วจะขอโทษทีหลังนะ”ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่าขบใบหูบางนิ่ม
ถ่างหุบสอดถอดจนมั่นใจว่าเส้นทางเล็กแคบพร้อมพอจะรับความต้องการของเขาเข้าไปได้แล้วก็ดึงนิ้วออก
จับสะโพกอวบอิ่มไถกับส่วนแข็งขืนของตนเอง
รูดระหว่างกลีบเนื้อนุ่มแน่นหนั่นด้านหลังสร้างความเสียงกระสันแก่คนด้านบน
แจ็คสันเริดอกขึ้นรู้สึกความร้อนในร่างกำลังเล่นงาน
เบียดแผ่นอกนุ่มเสนอให้มาร์คได้ลิ้มลองตุ่มไตเล็กใต้เสื้อซีทรูเบาบาง
“มาร์ค อ๊า มาร์ค”
ชายหนุ่มตอบรับคำเรียกร้องลากลิ้นร้อนสัมผัสยอดอกแข็งตึงเป็นไตดีดสะกิดเพลิดเพลิน
ในขณะที่มือก็ยังจับสะโพกอวบถูไปมาแต่ไม่ยอมดันเข้าไปเสียที
มือเล็กบนลำคอเริ่มจักไหล่แข็ง ร้องครางบอกไม่ไหวๆ บิดร่างไปมาด้วยความทรมาน
“มาร์ค เข้ามาเถอะ เอามันเข้ามา เติมเต็มผมที
รักผมที”
ชายหนุ่มยิ้มกระหยิ่มหยุดกลั่นแกล้ง
ดันส่วนปลายตรงปากทางเข้าสองสามครั้งแล้วกระดกตัวส่งลูกรักเข้าช่องทางสวาทพรวดเดียว
แจ็คสันสะดุ้งเฮือกใหญ่ตัวแทบลอยแต่ก็ติดวงแขนแข็งแรงที่รัดเอวไว้แน่น
ร้องครางวาบหวามพอใจ ดวงตากลมคลอน้ำตาเบาบาง จิกนิ้วเข้าเนื้อ
ตื่นเต้นกับแรงเต้นตุบในร่าง ขมิบตอดรัดอย่างที่รู้ความ
ดันตัวเองขึ้นขยับขึ้นลงช้าๆให้รู้สึกถึงของในร่างอย่างเต็มที่
มาร์คประคองสะโพกกลมนั่งนิ่งมองดูแจ็คสันด้วยความหลงใหล
ในเวลาปกติร่างเล็กก็ดูน่ารักมากอยู่แล้ว
ยิ่งตอนนี้กำลังทำหน้ามีอารมณ์โยกขึ้นลงทั้งที่มีตัวเข้าผสานอยู่ในร่างก็ยิ่งดึงดูดมากขึ้นไปอีก
เสน่ห์ของแวมไพร์ช่างน่ากลัวจริงๆ...
“มาร์ค อือ มีอะไร” แจ็คสันถามเสียงกระเส่า
ดวงตากลมคลอน้ำช้อนมองเขาทำเอาใจชายหนุ่มกระตุก ไม่ตอบเป็นคำพูดแต่ตอบเป็นการกระทำ
ดันสะโพกขึ้นกระทบเวลาเดียวกับที่ก้นนุ่มรูดลงมา ส่วนปลายเริดรุกเข้าลึก
แจ็คสันสะดุ้งเฮือกจุกไปพักหนึ่งแล้วก็เริ่มบรรเลงเพลงรักเร่าร้อนต่อ
กดครอบครองในขณะที่สะโพกผอมก็เด้งเข้าจังหวะดันล้ำเข้าลึก แจ็คสันกรีดครางเสียงพร่ารู้สึกดี
“อ๊ะ ลึก อืม ดีจัง”
“อ่า รัดพี่อีก อืมมม”
ห้องทั้งห้องตกอยู่ใต้ความมืดมิด เสียงเตียงลั่น
เสียงครางวาบหวามและเสียงเนื้อกระทบกัน
แจ็คสันหอบหายใจลึกยันไหล่ชายหนุ่มไว้
ส่ายสะโพกอวบอิ่มไปซ้ายทีขวาทีปั่นป่วนเจ้าท่อนแข็งในร่าง
ก้มตัวกัดครูดแผ่นอกแข็งแรง ดวงตาสีอเมทิสต์พร่ามัวไปด้วยอารมณ์จ้องกดลงมา
ลิ้นเล็กสีชมพูเลียกลีบปากล่างชุ่มชื้น เอ่ยถามเสียงพร่าหวาม
“ดีไหม?”
ชายหนุ่มสติขาดดังผึ่ง
ดันตัวแวมไพร์ขี้ยั่วลงบนที่นอน ดึงกระชากเสื้อที่แทบไม่ปิดอะไรบนตัวร่างขาวออกเผยผิวกระจ่างขาวโพลนระริบระยับในความมืด
ริมฝีปากร้อนกดจูบทิ้งร่องรอยทั้งดูดและกัดลามมาตั้งแต่ข้างลำคอขาวถึงจุดอ่อนไหวบนแผ่นอก
งับลูกเชอร์รี่สีสวย ดูดเม้มรัดพันเรียกเสียงครางเสียวจะเป็นจะตาย มาร์คเลื่อนนิ้วเข้าไปในโพรงปากนุ่ม
แจ็คสันครางต่อต้านอยู่ชั่วขณะแต่ทันทีที่โดนชายหนุ่มกระแทกเข้ามาแรงจนร่างไหวก็ดูดเม้มนิ้วในปากเสียชุ่มโชก
มาร์คจับเรียวขาขาวด้านหนึ่งยึดไว้กับไหล่และอีกด้านให้เกี่ยวกับเอวสอบ จัดการบดสะโพกหนักหน่วงเติมเต็มให้สมกับความยั่วยวนที่ปั่นป่วนเขามาตั้งแต่เริ่มกิจกรรม
ซอยถี่รัวเข้าช่องทางชุ่มโชกขยันรัดขมิบถี่
แจ็คสันบิดสะโพกโก่งโค้งรับแรงส่งจากเบื้องล่าง
ในตัวเขาร้อนราวกับกำลังโดนไฟในยุคกลางแผดเผาร่าง โคนขาด้านในเสียดสีกับเชิงกรานของชายหนุ่มเสียจนร้อนผ่าวแสบแดง
จับนิ้วเรียวออกร้องเรียกสิ่งที่ตนต้องการเสียงพร่า
“รักผมแรงๆ อ๊า ลึกอีก อ๊ะ แรงอีก”
“อืมม เอาแต่ใจจัง”
มาร์คทำตามคำขอ
ส่งสะโพกเข้ารัวแรงจนร่างเล็กสั่นคลอกระทบจุดกระสันร้องไม่เป็นภาษา
ดวงตากลมปิดปรือลงและฉับพลันที่ลืมตาก็กลายเป็นสีแดงก่ำ
พลัก!
ชายหนุ่มถูกดันลงด้านล่างอีกครั้งพร้อมร่างแวมไพร์ตัวน้อยที่สั่นสะโพกโยกไหวด้วยแรงและความเร็วที่ไม่ต่างกัน
ดึงตัวจนเกือบสุดและนั่งลงครอบครองจนสุดเวลาเดียวกันกับที่ชายหนุ่มพ่นหยาดไออุ่นร้อนฉีดเติมเต็มช่องทางรุ่มร้อน
มาร์คหอบหายใจลูบศีรษะกลมของคนที่คลานเข้ามาอ้อนตรงข้างลำคอ
หลับตาเจ็บจี๊ดเพราะคมเขี้ยวแหลม โลหิตในกายถูกถ่ายโอนไปเป็นอาหารเพิ่มเติมพลังชีวิตให้ใครอีกคน
ชายหนุ่มนอนนิ่งให้แจ็คสันดูดเลือดแล้วตามความพอใจ
มึนเบลอบ้างเพราะก็โดดดูดไปหลายอึกใหญ่ จนเริ่มจะอิ่มคนตัวเล็กถึงได้คืนสติถอนเขี้ยวออก
แลบลิ้นสีชมพูเลียรอบบาดแผลให้มันรีบสมานอย่างรู้สึกผิด
“พอแล้ว” มาร์คบอก
กระชับคนตัวขาวที่ยังไม่ยอมออกจากซอกคอเขาให้จมลงในอ้อมกอด
ถ้าเป็นแต่ก่อนคงไม่สามารถกอดแจ็คสันจมอกได้ขนาดนี้ แต่คนตัวเล็กผอมลงไปมาก
ผอมจนเขากลัว…
แจ็คสันแนบหัวกลมลงบนแผ่นอกแข็งฟังเสียงหัวใจของมาร์ค
หลับตาพริ้มกับสัมผัสอบอุ่นอ่อนโยนที่กำลังลูบบนเรือนผมสีแปลกของตน ทั้งสองโอบกอดกันภายใต้ความมืดมิดของราตรี
ไม่มีใครลุกขึ้นไปเปิดไฟเพราะพวกเขาเคยชินที่อยู่ในที่มืดมากพอจะเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
มาร์คนอนกดกอดแวมไพร์ของตนไว้ชิดกาย ทะนุถนอมไว้ราวกับไข่ทองคำ
“มาร์ค...”จู่ๆคนในอ้อมกอดก็เรียกเขาเสียงอ่อน
แจ็คสันพลิกร่างกลับมาหาและซุกเข้ากับแผงอกเปลือยเปล่า “แจ็คขอโทษนะ”
“ขอโทษอะไรอีกหืม?”
“มาร์คไม่น่าเจอแจ็คเลย...ตอนนั้นมาร์คน่าจะฆ่าแจ็ค...อื้อ!”ร่างเล็กสะดุ้งหน้าเหยเก ต้นแขนโดนกำแน่นเจ็บแปลบใหญ่
ดวงตาสวยทอประกายโกรธขึ้นมาพักหนึ่ง
“อย่าพูดแบบนั้นอีก...”
“อึก...ขอโทษ”แจ็คสันบอกเสียงอ่อย
ดวงตากลมคลอน้ำบางใส เรียกสติให้ชายหนุ่มคลายมือออกจากต้นแขนบอบบาง
นิ้วเรียวเกลี่ยไปตามรอยช้ำเป็นรอยมือด้วยความรู้สึกผิด ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เฮ้อ...มาร์คต่างหากต้องขอโทษ เจ็บไหม? ฟู่ว
หายนะๆ”
คนตัวเล็กยิ้มให้กับการกระทำแสนอ่อนโยนของชายหนุ่ม
มองมาร์คที่ตั้งใจเป่าลมใส่รอยช้ำบนต้นแขนอย่างกับเด็กๆให้ เขาก็ไม่เจ็บแล้ว
ถึงร่างกายนี้จะทรุดโทรมไปทุกวัน แต่ก็ไม่เป็นไร แค่เขาได้มีมาร์คอยู่เคียงข้างแบบนี้ตลอดไปก็พอ
แต่จู่ๆมาร์คก็ลุกขึ้น ใช้ผ้าห่มโอบร่างขาวไว้อุ้มไปวางบนพื้นพรมข้างหน้าต่าง
ชายหนุ่มเดินไปเลื่อนผ้าม่านออกปล่อยให้แสงจันทร์นวลของคืนเพ็ญสาดเข้ามาในห้อง
ร่างของแจ็คสันราวกับมีรัศมีอ่อนๆคลอบคลุมร่าง เส้นผมสีเงินกระทบแสงจันทร์เปล่งประกายระยิบระยับ
ดวงตาสีม่วงอ่อนละมุนมองภาพเบื้องหน้าด้วยความตกตะลึงและตื่นเต้น
มือเล็กป้อมยื่นออกมาทำท่าจะสัมผัสแสงที่กระทบร่าง
แม้จะคว้าไม่ได้อะไรแต่ริมฝีปากแดงก็แย้มยิ้มกว้างมีความสุขแสนไร้เดียงสา
มาร์คมองแล้วก็ยิ้มตาม แจ็คสันของเขายังเป็นเด็กไร้เดียงสาน่าทะนุถนอมอยู่เสมอ
นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่มาร์คหลงรัก ทรุดตัวลงด้านหลังโอบกอดร่างขาวไว้ในอ้อมแขน
“แสงอาทิตย์ตรงๆไม่ได้
แต่แค่แสงจันทร์ก็ได้ใช่ไหม?”
“คิกๆ ก็รู้ดีนี่นา” ดวงหน้าหวานคมเอียงมองพลางส่งยิ้มน่ารักมาให้
นิ้วเล็กกางออกให้นิ้วเรียวเข้าแทรกกอบกุมถ่ายทอดความอบอุ่นละมุนกลิ่นความห่วงใย
ทั้งสองนั่งดูพระจันทร์อยู่นาน พูดคุยหับเพเสระ
ส่วนใหญ่จะเป็นแจ็คสันที่พูด ตัวเล็กสรรหาเรื่องมาพูดให้เขาฟังทุกวัน แต่มาร์คก็มีความสุขที่จะฟังการอธิบายถึงการตื่นนอน
อาบน้ำ หาเสื้อผ้า เล่นโทรศัพท์ ร้องเพลง วิ่งเล่นในห้อง
ชอบที่สุดก็ตอนสุดท้ายที่คนตัวเล็กจะพูดถึงความรู้สึกที่ได้เห็นเขากลับมาหา
จริงๆแล้ว...เขารักทุกอย่างที่เป็นแจ็คสันและไม่เคยเบื่อเลย
พูดเจื้อยแจ้วอยู่นานหัวกลมๆก็เริ่มเซซบไหลลงไปเรื่อยๆ
มาร์คกอดร่างนั้นพลิกกลับมามองดวงตาปรือง่วง ยิ้มเอ็นดูและอุ้มร่างขาวขึ้นไปนอนบนเตียง
เดินกลับไปปิดผ้าม่าน ดึงผ้าม่านบางรอบเตียงปิดไว้อีกชั้น สอดกายเข้าใต้ผ้าห่มหนา แขนกลมที่รออยู่แล้วก็เข้ารัดเอวเข้ามาซุกหาไออุ่นทั้งที่ตายังไม่ลืม
“มาร์ค...มาร์คจำสัญญาที่ให้ไว้กับแจ็คได้ใช่ไหม?”
“ครับ จำได้” ชายหนุ่มยิ้ม ยิ้มพร่ำเพรื่อให้กับคนๆเดียว
“แค่รอยยิ้มของมาร์ค อย่ามอบให้ใครเลยนะ”
“ได้ครับ รอยยิ้มของมาร์คเป็นของแจ็คคนเดียว นอนนะเด็กดี”
จูบหน้าผากนวล กอดกระชับแจ็คสันเข้ามาใกล้และโอบกอดกันตลอดทั้งคืน
.
.
.
.
.
เช้าแล้ว...
แจ็คสันกระพริบตาปรือรับรู้ได้โดยสัญชาติญาณว่าข้างนอกนั่นสว่างแล้ว
มือเล็กปะป่ายหาคนรักแต่ก็ไม่พบ ลืมตามองและถอนหายใจหนักหน่วง กอดตัวเองมุดลงในผ้าห่มสีทึม
เขาชอบแสงอาทิตย์แต่ไม่ชอบตอนกลางวัน
เพราะตอนกลางวันเขาจะไม่มีมาร์ค...เป็นเวลาที่แจ็คสันไม่มีมาร์คอยู่เคียงข้าง
มือเล็กควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียง
กดเบอร์เดียวในโทรศัพท์เครื่องหรู
“มาร์ค...”
“รีบกลับมาหาแจ็คนะ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น