[SF] SUMMER RAIN (MarkSon)
SUMMER RAIN
MARK x JACKSON
ชายหนุ่มสองคนกระโดดลงจากรถเปิดประทุนสีแดงแต่งสีเปลวเพลิงปรูดปราดแสบสันเหมือนหญิงสาวหุ่มสะบึ้มเจ้าของรถที่ยกสองนิ้วแตะหลังคิ้วทักทายให้คนที่ขอติดรถมาตั้งแต่ยี่สิบกิโลเมตรก่อน
“เที่ยวให้สนุกล่ะหนุ่มๆ”
“thank!”
เด็กหนุ่มตัวเล็กกว่าแตะคิ้วทำท่าทางเหมือนเธอตอบด้วยท่าทางร่าเริง
ส่วนหนุ่มผมดำตัวผอมกว่าที่เธอถูกใจเพียงแค่ยิ้มและเอ่ยขอบคุณเบาๆ หญิงสาวเลื่อนตัวขึ้นมาเกยส่วนใหญ่โตดึงสายตาใต้สายเดี่ยวสีแสบ
ยื่นริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงฉ่ำวาวแตะสันกรามคนหน้าหล่อที่ตนถูกใจเบาๆเป็นเชิงยั่วยวน
กระดาษแผ่นเล็กถูกหย่อนลงใต้คอเสื้อยืดสีดำ ไม่ลืมลูบเบาๆพอให้หวาดเสียวเล่น
ก่อนที่หญิงสาวจะขับรถออกไปหลังจะทำการล่อเหยื่อเสร็จแล้ว
คนโดนลวนลามเหลือบตามองคนข้างตัวดุๆขณะยกแขนเสื้อแขนยาวของตนเช็ดรอยจูบข้างแก้ม
แจ็คสันยังหัวเราะชักดิ้นชักงอไม่สนสายตาเตือนของมาร์ค
“นายนี่เสน่ห์แรงกับสาวๆตลอดเลยนะ”
“หึ อิจฉารึไง”
“ไม่อ่ะ สะใจมากกว่า”ไหล่ขาวนวลโผล่พ้นเสื้อกล้ามสีดำอวดลำแขนมีกล้ามเนื้อเรียงสวยยักขึ้นเล็กน้อย
“สาวๆพวกนั้นจะรู้ไหมว่านายไม่ชอบผู้หญิง”
“ฉันยังชอบผู้หญิงนะ” คราวนี้กลายเป็นคนตัวเล็กหันขวับ
มาร์คยิ้มมุมปากสะใจที่ได้แกล้งคืน ยกมือขยี้เส้นผมนุ่มสีฟางตัดสั้นจนมันยุ่งเหยิง
แจ็คสันดิ้นพราดๆผลักตัวเขาออก นิ้วป้อมเล็กสางเส้นผมตัวเองบ่นเป็นหมีกินรังผึ้ง
“ฉันเซ็ตมันตั้งสามชั่วโมงนะ!”
“หึ มากับฉันจำเป็นต้องดูดีด้วยรึไง”
“ไม่ได้ดิ ฉันจะแพ้นายไม่ได้หรอกนะ สาวๆทั้งหาดต้องหลงเสน่ห์กล้ามฉัน
นายเตรียมตกกระป๋องได้เลย”ใบหน้าคมหวานเชิดขึ้น
เบ่งกล้ามแขนที่ตัวเองอุตส่าห์เพียรพยายามกว่าจะได้มันมาอย่างภาคภูมิใจ
และมาร์คก็รู้ดีว่าใต้เสื้อกล้ามสีดำเรียบๆนั่นคือแผงกล้ามเนื้อแน่นสวย
แต่ก็อดแซวด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้
“หุ่นเตี้ยตัน?”
“มาร์ค!!!!”
คนอายุมากกว่าสองปีหัวเราะเสียงสูงสะใจ
โอบไหล่ลาดของคนเตี้ยกว่าดึงพาเดินลงชายหาดซึ่งเป็นจุดหมายของพวกเขา
ในช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงไฮด์ซีซั่นของการท่องเที่ยวทะเล
มาร์คกับแจ็คสันที่นอนแห้งอยู่ที่หอพักในช่วงปิดเทอมเลยตัดสินใจแบกเป้ใบเดียวโบกรถตั้งแต่หน้าหอพักมาลงที่นี่
และอาจเพราะใบหน้าของพวกเขาที่ค่อนข้างดึงดูดใจ
การขอขึ้นรถใครสักคนมาลงหาดที่นี่ก็ไม่ยากเท่าไหร่นัก
และเพราะเป็นช่วงพีค
หาดสีขาวจึงเต็มไปด้วยสาวๆนุ่งบิกินี่นอนอาบแดด
หนุ่มๆในกางเกงว่ายน้ำตัวเดียวเดินอวดกล้าม บ้างก็แบกบอร์ดเป็นไอเทมเสริมให้ว่อน
แต่สำหรับมาร์คและแจ็คสันนั้นก็แค่อยากมาเที่ยว แจ็คสันหยุดยืนชายหนุ่มนักกล้ามที่เพิ่งเดินผ่านพวกเขาไป
“มองทำไมเตี้ย”
“ไม่มีอะไรโว้ย! ไปเปลี่ยนชุดเถอะป่ะ
อยากเล่นน้ำจะแย่แล้วอ่ะ”แจ็คสันเปลี่ยนเรื่อง
ดึงมือผอมไปหาตู้เปลี่ยนเสื้อผ้าบนหาด
ใช้เวลาไม่นานมาร์คก็เดินออกมาในชุดกางเกงเลสีดำลายฟ้ายาวถึงเข่าและเสื้อยืดสีขาว
ชายหนุ่มผู้ไม่ชอบโดนแดดก็ยังจะไม่ชอบต่อไป ผิดกับคนที่มาด้วยอย่างแจ็คสันที่เปิดประตูตู้ผัวะพร้อมสารร่างที่มีแค่กางเกงว่ายน้ำตัวเล็กรัดติ้วสีดำโชว์กล้ามเนื้อสวยส่วนบนและเรียวขาแข็งแรง
“ไปเปลี่ยน”
“ไม่”
“เปลี่ยน”
“ไม่”
“งั้นกลับ”
“ไม่โว้ย! เป็นบ้าป่ะ
เพิ่งมาถึงไหม จะกลับทำไม”แจ็คสันโวยวายเท้าแขนเถียงคนเป็นพี่ คิ้วเรียวขมวดแน่นไม่พอใจ
“หวง”
“...”
“เข้าใจรึยัง ไปเปลี่ยน”
“ก็ไม่ได้เอาตัวอื่นมา...”แจ็คสันอ้อมแอ้มตอบ
นิ้วป้อมเกาข้างแก้มนิ่ม ดวงตาโตกลอกไปมาคิด เงยหน้าสบสายตากับคนสูงกว่า “ไปฝั่งนู้นก็ได้
คนไม่เยอะ...แต่อย่าเพิ่งกลับเลยนะ”
“...เฮ้อ เอางั้นก็ได้”มาร์คถอนหายใจยอมแพ้
มือซุกถุงกางเกงเดินตามแจ็คสันไปที่อีกฝั่งของหาดที่ไม่ค่อยมีคนมากนัก
พวกเขาแวะเช่าบอร์ดและเดินไปตามชายหาดฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งและเสียงหวีดหวิวของสายลมที่พัดผ่านร่าง
พาร่มไม้แถมนั้นพักปูเสื้อคลุมนั่งแบบง่ายๆ
“มาร์คๆ ทาครีมให้หน่อย”
แจ็คสันนั่งลงตรงหน้าเขา
หลังจากโยนขวดครีมกันแดดมาให้
มาร์คเปิดบีบครีมสีขาวข้นยีกับฝ่ามือวางแปะหลังบนแผ่นหลังขาวนวล บีบนวดตั้งแต่ลำคอ
แขนและสีข้างให้ครีมซึมเข้าผิว
“อืม...”
มือเรียวที่นวดเฟ้นอยู่หยุดชะงัก
“อย่าคราง”
“โถ่ ก็นายนวดเก่งนี่นา”แจ็คสันยู่หน้า
หันมาคว้าขวดครีมไปทาเอง พอทาเสร็จก็ดึงบอร์ดวิ่งลิ่วไปโลดแล่นบนเปลวยอดคลื่น
บางทีก็พลาดตกน้ำเป็นลูกหมาตัวเปียกโชกเรียกเสียงหัวเราะลั่นจากคนที่นั่งมองดูอยู่ในร่ม
แจ็คสันโผล่ขึ้นมาจากน้ำ วิ่งลิ่วมาหาเขา
ดึงแขนชายหนุ่มลุกขึ้น ส่งรอยยิ้มกว้างมาให้
“ไปเล่นน้ำกัน”
“ขี้เกียจ”มาร์คยื้อแขนไว้
และแจ็คสันก็ยู่หน้าอีกแล้ว
“มาทะเลทั้งที ไปเถอะน่า”
“บอกว่า...”
---ซ่า---
“...”
“...”
ไม่รู้ว่าเพราะโชคดีหรือโชคร้ายที่พอแจ็คสันเริ่มจะดึงเขาลงทะเล
ฝนที่ไม่รู้มาจากไหนก็ตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตาจนทั้งคู่เปียกโชก
ต้องรีบเก็บของเข้ากระเป๋าวิ่งหาร่มซึ่งต้องขึ้นถนนไปหลบอยู่ฟากของชายหาด
กว่าจะหาที่หลบได้ก็เปียกซึมไปถึงชั้นใน แจ็คสันสวมเสื้อคลุมฮูตสีดำทับป้องกันความหนาวเย็นจากอากาศที่แปรปรวน
“แม่ง ซวยชะมัด”แจ็คสันบ่นด้วยใบหน้าเบื่อหน่ายเข้าขั้นหงุดหงิด
แน่ล่ะ มาทะเลทั้งที เพิ่งได้ลงเล่นน้ำไม่ถึงชั่วโมง ฝนก็ตกลงมาขัดจังหวะแบบนี้
มาร์คเหลือบตามองคนข้างๆ
สลับกับเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มจะขมุกขมัวแน่นเข้าทุกที
ให้เดาก็คงจะไม่หยุดตกง่ายๆ เผลออาจจะตกไปตลอดทั้งวัน
“ไปหาโรงแรมกัน”
“...อืม”
ทั้งสองเดินเลียบไปตามทางเดินเลียบร้านขายของจนไปเจอโรงแรมเล็กๆสามดาวที่บังเอิญเหลือเกินว่าเหลือห้องสุดท้ายพอดิบพอดี
มาร์คตกลงทันทีเพราะสังเกตว่าแจ็คสันเริ่มสั่น ไม่ต่างจากเขาที่หนาวจะบ้า
เสื้อสีขาวบนร่างก็ไม่ได้ช่วยให้ความอบอุ่น ซ้ำยังเปียกแนบไปกับตัว พอได้กุญแจพวกเขาก็วิ่งลิ่วขึ้นไปบนห้องพักชั้นสาม
เปิดประตูเข้าไปโดยไม่รีรอ
ห้องพักเป็นห้องเล็กที่มีเพียงเตียงสำหรับสองคนนอน
โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เย็นเล็ก มีห้องน้ำเล็กๆอยู่ในตัว
ถือว่าโอเคเลยสำหรับห้องพักเกรดต่ำแบบนอนคืนเดียว
มาร์คถอดเสื้อออกเหวี่ยงไว้บนพื้น
เดินไปปิดหน้าต่างกัดลมพัดเข้า หันกลับมามองแจ็คสันที่รูดซิปโยนเสื้อชุ่มน้ำออกจากร่างไม่ต่างกัน
พวกเขาหนาวจนไม่อาจจะรอให้ใครอาบเสร็จก่อน เลยตัดสินใจอาบน้ำร่วมฝัก ห้องน้ำแคบๆ ฝักบัวฝักเดียวกับชายหนุ่มสองคนเปลือยด้านบนหันหลังใส่กัน
ต่างคนต่างอาบ ไม่นานก็เสร็จ
เดินออกมาค้นกระเป๋าพวกเขาถึงได้รู้ว่าเจอปัญหาใหญ่อีกแล้ว
“เสื้อผ้าเปียกหมดเลยอ่ะมาร์ค ทำไงดี”
“...”
คนอายุมากกว่านั่งลงข้างกระเป๋าเป้ของตัวเอง
รื้อค้นสักพักอย่างไม่ยอมแพ้
แล้วก็เจอเสื้อไหมพรมสีเทาเข้มและกางเกงยีนที่นอนกองอยู่ก้นกระเป๋า
ดีที่ตอนเช้าก่อนจะออกมาคิดจะเอาไปส่งซักแต่ลืมก็เลยยัดไว้ใต้สุด
ไม่คิดว่ามันจะมีประโยชน์ตอนนี้
มาร์คโยนเสื้อไหมพรมให้แจ็คสัน
ส่วนตัวเองก็สะบัดกางเกงยีนใส่ แต่เพราะไม่มีชั้นใน เลยไม่ได้รูดซิปขึ้นจนสุดและไม่ได้กลัดกระดุม...จะว่ายังไงดีล่ะ...คือซิปมันก็เย็นน่ะ...
“ไม่มีกางเกงเหรอ”แจ็คสันถามขณะมองเสื้อไหมพรมในมือ
“ไม่มีหรอก ใส่ไปก่อนรอเสื้อแห้ง”
แจ็คสันก็อือออไม่คิดมาก
สวมเสื้อไหมพรมเข้ากับตัวและก็ได้พบว่ามันโคร่งจนไม่ต่างจากใส่เดรส
ปลายเสื้อปิดต้นขาขาว ส่วนแขนเสื้อก็ยาวปิดหลังมือมีแค่นิ้วป้อมเล็กที่โผล่ออกมา
รู้สึกหวิวๆด้านใต้ยังไงก็บอกไม่ถูก แต่เพราะไม่มีทางเลือกเลยต้องทำใจให้ชิน
มาร์คล้มตัวลงนอนบนเตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น
ปล่อยให้แจ็คสันเดินเก็บขอเข้ากระเป๋า
ส่วนเสื้อปผ้าที่เปียกพวกเขาแผ่ผึ่งลมไว้ตั้งแต่แรกแล้ว คิดว่าตื่นเช้าพรุ่งนี้คงพอจะใส่ได้บ้าแล้ว
แจ็คสันเดินไปเดินมาอย่างคนไม่มีอะไรทำ
โทรศัพท์เขาก็แบตหมดไม่มีอะไรเล่น ค้นกระเป๋าตัวเองก็เจอกับเบียร์สองกระป๋องนอนแอ้งแม้งอยู่ในนั้น
หยิบมันออกมา โยนขึ้นไปบนเตียงให้มาร์ค ส่วนอีกกระป๋องก็เปิดขึ้นซด
เดินลงไปนั่งข้างกายชายหนุ่มที่วางโทรศัพท์ ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมามองด้วยความสงสัย
“ไปซื้อมาตอนไหน”
“ก็ตอนนายเผลอ”ยักไหล่ไม่ยี่หระ ยกมันขึ้นกระดกอึกใหญ่
มาร์คไม่ชอบให้เขาดื่มเบียร์
แต่แจ็คสันก็ไม่ใช่เด็กดีขนาดนั้น กับเด็กที่เคยใจแตกจนคิดจะขายตัว เรื่องอบายมุขแค่นี้มันเป็นปกติ
คนอายุมากกว่าชักสีหน้าไม่พอใจ
แย่งกระป๋องโลหะจากมือเล็กขึ้นมากระดกครั้งเดียวจนหมด ส่งสายตาตำหนิไปยังคนตรงหน้าตัวเอง
“เคยบอกแล้วไงว่าไม่ชอบ”
“คิดว่าเคยเตือนได้ไหมล่ะ”ย้อนกลับท้าทาย
ดึงกระเป๋าเบียร์กลับมาถือไว้ โคลงกระป๋องเปล่าไปมา พอรู้ว่าหมดแล้วก็โยนทิ้งส่งๆ
กำลังจะคว้ากระป๋องใหม่ ก็โดนมาร์คยึดไปดื่มเอง แจ็คสันแค่มองแล้วก็ทำหน้ายุ่ง
ปีนขึ้นไปนั่งกอดเข่าข้างๆตัวชายหนุ่มที่นั่งดื่มเบียร์เงียบๆ ฟังเสียงลมหวีดและหยดฝนกระทบผนังด้านนอกดังเปาะแปะๆ...เหมือนวันนั้น
เปลือกตาบางหลับตาลงนึกไปถึงวันที่มาสภาพอากาศคล้ายๆกับวันนี้เมื่อปีที่แล้ว
ครอบครัวของเขาถึงจุดหย่าร้าง แจ็คสันเสียใจจนคิดอะไรบ้าๆอย่างการขายตัวเพราะแค่ความรู้สึกว่าอยากมีคนโอบกอดตัวเองในวันที่อ่อนแอที่สุด
มันเป็นเรื่องตลกร้ายว่าคนที่ซื้อเขาคนแรกคือมาร์คต้วน
รูมเมทรุ่นพี่ที่พูดคุยกันนับครั้งได้ และมันเป็นครั้งแรก...ครั้งแรกที่แจ็คสันร้องไห้จนหมดก๊อกในอ้อมกอดของชายหนุ่ม...
“คิดถึงวันนั้นรึไง”มืออุ่นขยี้เส้นผมนิ่มสีฟางโยกศีรษะกลมไปมาเบาๆ
“ก็เออ...นิดหน่อย”
“เด็กใจแตก”
“ก็เด็กนี่หว่า...”แจ็คสันยู่ปาก
ถอนหายใจซุกหน้าบนเข่าตัวเอง “ตอนนั้นเหมือนคนบ้าเลย”
“รู้ตัวก็ดี”มาร์คเอ่ยเห็นด้วย จิบแอลกอฮอล์รสบาดคอ
ในขณะที่มืออีกข้างก็ยังลูบหัวกลมปลอบ
“เด็กบ้าที่เอาแต่พูดถึงเรื่องที่บ้านทั้งที่กำลังมีอะไรกัน
หึ ตลกชะมัด”
แจ็คสันชกแขนผอมปักใหญ่เป็นเชิงให้หยุดพูด
เอนตัวนอนตะแคงข้าง
ว่าจะหลับสักงีบแต่ก็ต้องสะดุ้งวาบเพราะฝ่ามือเรียวที่วางแปะอยู่บนต้นขาตน นิ้วโป้งเกลี่ยผิวนิ่มกดนวดคลึงหนักเบาเรื่อยไปจนถึงสะโพกกลมกลึง
ล้วงเข้าไปด้านใต้จับก้อนนิ่มขยำอย่างมันมือ แจ็คสันครางแผ่วในลำคอขยับขาหนี
สัมผัสแผ่วเบาวาบหวามปลุกอะไรบางอย่างในตัวเขาขึ้น
หูได้ยินเสียงแกร๊กของกระป๋องเปล่าตกข้างเตียง
และฝ่ามือร้อนที่ล้วงเข้ามาใต้เสื้อไหมพรมลูบไล้เขาไปทั่งร่าง
แจ็คสันร้องต่อต้านในลำคอ พยายามจับมือหยุบหยับให้หยุดซน
แต่พอหันไปสบตากับดวงตาสวยวาวเคลือบด้วยหยาดบางอย่างก็รู้ได้ทันทีโดยสัญชาติญาณว่าคงจะไม่รอด
โทษบรรยากาศและฝนที่ทำให้เขาเคลิ้มตามการกระทำของมาร์คโดยไม่อิดออดอะไรเลยสักนิด...
.
.
.
“อืม...”
เบือนหน้าส่งเสียงครางแผ่วรู้สึกดี
บิดกายเร่าเพราะสัมผัสวาบหวามจากฝ่ามืออุ่นและริมฝีปากร้อนที่สัมผัสเขาไปทั่วทั้งร่าง
เรียวขาขาวสีกับกางเกงยีนบนกายผอม
สะดุ้งส่งครางหวานทุกครั้งที่มาร์คฝากรอยจูบแสดงความเป็นเจ้าของบนลำคอขาวผ่องในจุดที่เห็นได้ค่อนข้างยาก
มาร์คหัวเราะถูกใจกับปฏิกิริยา เลื่อนตัวขึ้นมาป้อนจูบร้อนแรงให้กับคนแสนน่ารักด้านใต้จนแจ็คสันตัวอ่อนเปลี้ยแทบละลายตาเตียง
ผิวขาวตอนนี้ซับสีระเรื่อทั้งร่างเพราะอารมณ์ที่ชายหนุ่มจุดขึ้นมาให้ ร้อนจนเหงื่อเม็ดเล็กซึมตามหน้าผากและรูขุมขนแต่มาร์คกลับไม่ยอมปลดเสื้อไหมพรมตัวหนาออกจากตัว
“ร้อน”แจ็คสันบ่น มือเล็กกำลังจะถอดเสื้อออกแต่ก็โดนมาร์คดึงไว้
ป้อนจูบหวานเบี่ยงเบนความสนใจและกดมือเล็กลงบนฟูกไม่ยอมให้ถอดออกง่ายๆ
...เสื้อไหมพรมตัวโคร่งๆแบบนี้มันน่ารักเร้าใจจะตายไป...
ชายหนุ่มผละจูบออก
เลื่อนตัวลงกดจูบหนักผ่านเนื้อผ้าหนา แม้จะไม่ได้สัมผัสโดยตรงแต่ร่างกายที่โดนฝึกมาจนคุ้นเคยก็เกิดปฏิกิริยาขึ้นได้ไม่ยาก
มือเรียวยืดเสื้อไหมพรมออกกว้างมุดตัวเข้าไปใต้เสื้อตัวหนากดจูบร้อนโดยตรง
“อ่า มาร์ค ถอด ฮ้า ถอดเถอะ”
แต่ชายหนุ่มก็หาได้สนใจไม่
แถมยังสนุกกับการฟัดจูบภายใต้เสื้อตัวหนา แจ็คสันบิดตัวเร่า จิกนิ้วกับแผ่นหลังเปลือยเปล่าทันทีที่ยอดอกถูกเอ็นดูด้วยปลายลิ้นแฉะและฟันที่ขบเบาๆจนเสียต้องร้องครางเสียงหลง
มาร์คฟัดตุ่มไตเล็กทั้งสองข้างแรงขึ้นจนรู้สึกเจ็บ
มือเล็กย้ายมือมาผลักชายหนุ่มให้ออกไปจากเสื้อตัวเองสักที
“อ๊ะ ร้อน อื้อ โอ๊ย! อย่ากัดสิ”
มาร์คกัดยอดอกสีชมพูเข้มด้วยความหมั่นเขี้ยวแถมใช้นิ้วบดขยี้บีบมันมือ
ส่วนมืออีกด้านก็นวดคลึงเลื้อยลงไปด้านหลัง จับสะโพกนุ่มบีบแรงๆจนแจ็คสันสะดุ้งตัวลอย
“ทำไมชอบยั่วโมโหพี่จังนะ หืม?”
“แจ็ค อ่า แจ็คไปทำอะไร อึก ให้”มันไม่บ่อยนักที่มาร์คจะเรียกตัวเองว่า
‘พี่’ และแจ็คสันจะเรียกตัวเองด้วยชื่อ ‘แจ็ค’ แต่ส่วนใหญ่ที่เรียกก็แค่สามช่วง
หนึ่งคืออยากหวาน สองคือตอนทะเลาะและง้อกัน ส่วนสามคือเรื่องบนเตียงแบบตอนนี้
“กางเกงว่ายน้ำตัวนั้นกลับไปพี่จะเผาไม่ให้เหลือซาก”
“อ่า...โหดจังเลยนะ ฮะๆ โอ๊ย! เป็นหมารึไงกัดอยู่ได้!”คนตัวขาวกระฟัดกระเฟียดเพราะโดนมาร์คกัดอีกแล้ว
“นี่จริงจังนะ มันรัดไป หวง”
“กางเกงว่ายน้ำบ้านไหมมันไม่รัดบ้าง อ๊ะ! บอกว่าอย่ากัดไง!”โวยวายเสียงดังและก็ต้องหุบปากฉับเมื่อชายหนุ่มมุดออกมาจากเสื้อ
มองเขาด้วยสายตาอย่างราชสีห์
“จะกัดให้ตัวลายถ้าไม่รับปากว่าจะไม่ใส่อีก”
แจ็คสันยู่ปากให้คนขี้หวง แต่ก็พยักหน้าโดยดี
เขายังไม่อยากตัวลายกลับหอพักให้คนพูดกันหรอกนะ มาร์คยิ้มพอใจ
จูบบนต้นขาเบาๆเป็นรางวัลให้เด็กดี
“ยกขาหน่อย”
แจ็คสันกลอกตายกขาด้านหนึ่งขึ้นพาดบนไหล่แข็ง
นิ่วหน้าเจ็บแปลบจากเบื้องล่าง กัดปากเจ็บจี๊ดๆเพราะนิ้วเรียวดันเข้ามาลึกเรื่อยๆ “ซี๊ด
แสบอ่ะ ไม่มีน้ำยาหล่อลื่นรึไง” อดกระทุ้งขาประท้วงไม่ได้ มาร์คหยุดเงยหน้ามอง
“อยู่ในกระเป๋าพี่ ค้นออกมาสิ”
“งั้นก็หยุดก่อนดิวะ”บอกเซ็งๆ
ดันตัวเลงลงไปนอนพาดกับเตียงส่วนอีกครึ่งก็ไต่ดึงกระเป๋ามาร์คมาเทลงพื้นโครมเดียว
กวาดตามองหาของที่ต้องการแล้วโยนมันกลับคืนให้ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของดุๆ
“เตรียมมาขนาดนี้นี่ตั้งใจแต่แรกป่ะวะ”
“ก็นะ”มาร์คยอมรับหน้าด้านๆ เทน้ำยาหล่อลื่นชโลมนิ้วดันมันเข้าไปเบิกช่องทางคับแคบอีกรอบ
พวกเขาทำกันบ่อยก็จริง แต่ช่วงเมื่อกี้ก็ช่วงสอบ
ยุ่งกันทั้งคู่เลยห่างจากเรื่องจำพวกนี้มามากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว
แจ็คสันให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจนเตรียมการเสร็จในไม่ช้า
กำลังจะจ่อเข้าช่องทางก็โดนเสียงแหลมหวีดแว๊ดขึ้นมาอีก
“ใส่ถุงยางดิวะ!”
“ปกติก็ไม่ใส่ ทำไมต้องใส่? มาใส่ตอนนี้ถ้านายเป็นผู้หญิงก็ท้องห้าแล้ว”
“ก็...”แจ็คสันอึกอัก จู่ๆก็หน้าแดงก่ำ “ก็นี่มันข้างนอก...ก็...ตอนเขาทำความสะอาดห้อง...ผ้าปูมัน...”
พอเห็นปฏิกิริยาน่าเอ็นดูแบบนั้นมาร์คก็อดหัวเราะไม่ได้
เด็กนี่ก็มีด้านน่ารักแบบนี้เยอะเหมือนกันนี่นา
“อ่าๆ ได้ๆ เห็นแก่คนขี้อายหรอกนะ”
“ไม่ได้ขี้อายนะ!”แจ็คสันท้วงและต้องฮึบกลั้นหายใจหนักเพราะส่วนที่แทรกเข้ามาเติมเต็ม
...ใส่ถุงยางเร็วชิงแชมป์โลกรึไงวะเนี่ย!...
คิดอะไรเรื่อยเปื่อยแต่พอมาร์คเริ่มขยับหัวสมองก็ขาวโพลนปล่อยอารมณ์และร่างกายให้เป็นไปตามที่ตนและมาร์คต้องการ
วงแขนขาวโอบรัดกอดคอแกร่งขยับเสียดสีตอบรับตามจังหวะที่โดนชักนำ
ส่งเสียงครางหวานเร้าอารมณ์
“อ๊ะ อ๊า”
มาร์คกัดปากฝากฝังตัวตนเข้าช่องทางแน่น
โดนโอบรัดแนบเสียจนรู้สึกจะแตกเอาง่ายๆ
รูดขยับเสียสีเข้าลึกเข้าทุกครั้งที่ขยับตัว แจ็คสันก็ช่างตอดช่างขมิบเอาใจ
บดเบียดสะโพกอ้อนอย่างที่เจ้าตัวไม่มีทางรู้หรอกว่ากำลังยั่วยวนเขาอยู่
และมาร์คก็จะไม่พูดเพราะถ้าแจ็คสันรู้ตัว คนตัวเล็กก็จะเลิกทำน่ะสิ...
“อ่า มาร์ค เร็วอีก ซี๊ด”ร่างเล็กเชิดหน้าครางตอบขมิบรัวขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งสูง
มาร์คก็โอบสะโพกนวลเข้าชิดร่างขยับถี่รัว ซอยสะโพกเข้าลึกแรงจนร่างขาวสั่นคลอน
“อ๊า!”แจ็คสันปลดปล่อยออกมาก่อน
ตามด้วยมาร์คที่รูดรั้งในช่องทางแผ่วร้อนอีกสามครั้งก็เสร็จสมดังหมาย
“อื้ม!!!”
มาร์คสูดลมหายใจเข้าลึก ทรุดตัวแทบหน้าอกนุ่มที่หอบหายใจรัวไม่ต่างกัน
ถอดตัวออกมัดถุงทิ้งลงพื้นเตียงส่งๆ ดวงตาสวยปรือพัก ลืมตามองไปยังฝนข้างนอก
กลิ่นหอมๆของคนใต้ร่างกับสัมผัสร้อนผ่าวที่ยังหลงเหลืออยู่ทำให้ชายหนุ่มเกิดปัญหาขึ้นมาอีกครั้ง....
“ฝน...ยังไม่หยุดตกเลย”
“แฮ่ก...แล้วยังไง...ถอยดิ อึก!!!”ตาโตเบิกโพล่งรู้สึกถึงความแข็งร้อนที่กำลังดุนดันปากทางอีกครั้ง
สะบัดหน้ามองอีกคนอึ้งๆ
“ทำ จนกว่าฝนจะหยุดตกแล้วกัน...”
“เดี๋ยวดิ ไม่! อ๊ะ อ๊า!!”
.
.
.
.
“อ๊ะ บ้า อ่ะ...ไอ้บ้า...พอได้แล้ว อื้ม ฝน อึก
หยุดตกแล้วนะ”
“อ่า...ยังรินอยู่เลย ซี๊ด รัดแน่นชะมัด อ่า”มาร์คซอยสะโพกเข้าช่องทางร้อนผ่าวที่ผ่านมากี่รอบๆก็ยังขมิบตอดรัดสร้างความเสียวกระสันได้ไม่หยุดหย่อนผิดกับเจ้าของร่างที่อ่อนเปลี้ยหลังติดเตียงปรือตาปรอยเหนื่อยอ่อน
เสื้อไหมพรมสีเทาชื้นไปด้วยเหงื่อและคราบคาวสีขาวขุ่น เสียงขาเตียงลั่นครูดกับพื้นเป็นจังหวะเดียวกันกับการแทรกสอดประสานร่างจนกลัวเหลือเกินว่าห้องด้านล่างพวกเขาจะได้ยิน
ต้นขาขาวชื้นอ้ากว้างอย่างน่าอายเกร็งยึดเมื่อยไปหมดเพราะมาร์คไม่ยอมให้เขาได้พัก
เอาแต่กระหน่ำใส่ไม่หยุดไม่หย่อนตั้งแต่ฝนตกหนักๆ หยุดและกำลังจะตกอีกรอบอยู่มะรอมมะร่อ
“รอบ...อ่า รอบสุดท้ายนะ”
“ขออีกรอบ อ่า”
“ไม่ไหวแล้วโว้ยย อื้อ! อ๊ะ อ๊า!!!!”ต้นขาเกร็งแน่นบิดสะโพกโยกขึ้นเล็กน้อยเพราะแรกกระทบในช่องผนังเนื้อหยุ่น
มาร์คครางต่ำเสร็จสมทำหน้ามีความสุขจะแย่ แต่ไอ้คนจะตายคือคนรับอย่างเขานี่!
แจ็คสันสูดลมหายใจลึกหลับตาปรือจะหลับ แต่พอเห็นมาร์คทำท่าจะไม่จบก็ต้องยกมือห้ามทัพ
ทำหน้าหยีซีดจะร้องไห้ เพราะเขาไม่ไหวจริงๆ ช้ำหมดตัวแล้ว T^T
“พอแล้วน่า ถุงยางหมดแล้วนนะ”
“ไม่ใช้ก็ได้”
“มาร์ค แจ็คเหนื่อย พรุ่งนี้เราต้องเดินทางกลับนะ
ให้แจ็คพักเถอะ”ออดอ้อนพร้อมกระพริบตาปริบๆวอนให้สงสาร แต่พอเห็นชายหนุ่มลังเลใจ
อ้อมแขนขาวก็จัดการกอดรัด ดึงมาร์คลงมานานด้านล่าง เป็นคนตัวเล็กที่ขึ้นไปนั่งคร่อมตัดชายหนุ่มเสียเอง
แถมยังคลอเคลียขอร้องอย่างน่ารัก ดวงตากลมช้อนมองตาปริบๆ
“พอก่อนนะครับ แจ็คไม่ไหวแล้ว...นะ...นะ”
“ครับๆ พอก็ได้”
มือเรียวลูบเส้นผมนิ่มสีฟางเบาๆ
กอดเอวเล็กประคองลงไปนอนข้างๆ ตวัดผ้าห่มคลุมร่างกอดกันนอนในค่ำคืนที่ท้องฟ้าเปิดโล่งเพราะเมฆฝนได้จางพัดหายไป
เผยเห็นท้องราตรีสีนิลที่พราวระยับไปด้วยดวงดารานับล้านดวงแสนงดงาม
“นี่ พี่มาร์ค...”
“ว่าไง?”
“ขอบคุณนะฮะ...ขอบคุณที่ช่วยดึงผมในวันนั้น”แจ็คสันซุกตัวลงในอ้อมกอดอุ่น
อ้อมกอดที่ช่วยเตือนสติเขาในวันที่เขาคิดพลาดพลั้งและไม่เหลือใคร
กระชับแขนบนเอวสอบแน่นขึ้นราวกับกำลังยืนยันกับตนเองว่ายังมีชายหนุ่มอยู่เคียงข้าง
“ขอบคุณที่ยังต้องการผมนะครับ”
มาร์คถอนหายใจและอมยิ้มทั้งเอ็นดูและเศร้าระคนกันไป
จะมีใครรู้ว่าข้างในใจของคนที่ร่าเริงและเป็นแสงสว่างให้กับใครต่อใครอย่างแจ็คสันมีจุดดำที่กำลังทำลายร่างเล็กนี่มากมายเท่าใด
ยอมรับว่าตอนแรกก็แค่สงสารแต่ตอนนี้เขาอยากจะดูแล...ดูแลคนที่เขารัก
“นายมีค่ามากกว่าที่นายคิดแจ็คสัน”จุมพิตอ่อนโยนบนเปลือกตาบาง
พินิจใบหน้าน่ารัก เกลี่ยนิ้วไปแต่ละส่วนด้วยความเอ็นดูและความรัก
“อย่างน้อยก็สำหรับคนที่รักนายอย่างพี่...ฝันดีครับ
แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
“อืม...เจอกันพรุ่งนี้ครับ”
เจอกันพรุ่งนี้ เจอกันมะรืนนี้ และเจอกันแบบนี้ จนกว่ารอยเท้าบนพื้นทรายของใครคนใดคนหนึ่งจะถูกคลื่นทะเลพัดหายไปตลอดกาล...
ฝันดี ทุกคนที่มีความรักในหัวใจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น