[SF] Portrait (MarkSon) + Fanart
Portrait
MARK X JACKSON
“เฮ้ยมาร์ค
คืนนี้ไปไหนดีวะ”ไอ้เพื่อนตัวดีเรียกเขาตั้งแต่ขายังไม่ก้าวออกจากแผนก
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาน้องใหม่ไฟแรงดีกรีเกียรตินิยมและหลานเจ้าของบริษัทหันไปตามเสียงเรียกและส่ายหน้า
พร้อมยกกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมข้างสะโพกตัวเองให้เพื่อนดูโดยไม่ต้องมีคำพูดใด
“เอ้า
วันนี้มีนัดถ่ายใครวะ ในตารางไม่เห็นมี”
“นายแบบอิสระน่ะ”
“เห น่าสนใจจัง
ขอไปดูด้วยสิ ช่วงนี้นายแบบในสังกัดเราไม่เตะตาสักคน”หญิงสาวในแผนกส่งเสียงถามมาจากโต๊ะไกลๆ
“ไม่ได้เอาลงหรอก”มาร์คตอบกลับมาอย่างฉับไว
ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนรอยยิ้มปริศนา “นายแบบขี้อายน่ะ”
.
.
.
มาร์คกลับมาถึงคอนโดตัวเองที่ซื้อไว้สองห้อง
ทุบกำแพงตรงกลางและสร้างอีกห้องเป็นสตูดิโอส่วนตัวในเวลาเกือบสามทุ่มเพราะรถติดและฝนตกด้านนอกนั่น
ชายหนุ่มค่อนข้างหงุดหงิดเพราะเลยเวลานัดไปโข เขาไม่ชอบการเลท
โดยเฉพาะกับนายแบบคนพิเศษคนนี้
มือเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเปียกฝนแนบเนื้อของตัวเองออกจากกายเหลือเพียงกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้ม
ตั้งใจว่าจะไปล้างตัวหลังจัดการเช็ดอุปกรณ์เสร็จ ตัดสินใจผิดจริงๆที่ไม่เอารถไปทำงานด้วย
กลอนประตูห้องแต่งตัวลั่นปลดล็อกเรียกความสนใจของคนที่ง่วนอยู่กับการเปลี่ยนเลนส์ให้กล้องตัวโปรด
ดวงตาสวยมองภาพคนที่เดินออกมานิ่งงัน เหมือนช่วงเวลาหายไปสามถึงสี่วินาทีเพราะพวกเราสบตากัน
อีกฝ่ายยิ้มบางๆเป็นการทักทาย ส่งสีหน้ามาถามว่าทำไมเขาจึงได้เปลือยท่อนบนเช่นนี้
“ฝนตกน่ะ”
“อ้อ”เสียงแหบตอบรับสั้นๆ
ไม่ต้องมีคำใดมากกว่านั้น ร่างกะทัดรัดพอเหมาะมือเดินไปยืนบนแผ่นสกรีน
ขยับเสื้อผ้าบนกาย ท่าทางไม่ประหม่าและช่างเป็นมืออาชีพ มันขัดใจมาร์คนิดหน่อย
แต่ก็โอเค เขาจะได้ทำงานง่ายขึ้น
ชายหนุ่มเร่งมือเตรียมของทั้งจัดแสง
“ฮะๆ พี่ดูรีบๆนะ”
“นิดหน่อยน่ะ”เขาตอบกลับขณะทดสอบแสง
การถ่ายรูปสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆนอกจากองค์ประกอบภาพแล้วก็คือแสงและเงา
ตากล้องที่ดีต้องรู้จักการเล่นแสงเงาเพื่อให้ได้อารมณ์อย่างที่ต้องการ
และมาร์คก็สามารถทำมันได้ดี ถึงจะใช้เวลานานไปหน่อยกับการเตรียมการ
จนนายแบบที่เมื่อกี้ยืนรอกำลังนั่งยองๆมือเท้าคางอย่างเบื่อหน่าย
“เตรียมนานจัง
รอจนเหนื่อยแล้วนะ”
“ขอโทษที พี่มาสายน่ะ”
จนเมื่อมาร์คจัดการทุกอย่างเสร็จอีกคนก็แทบจะหลับอยู่แล้ว
ร่างกะทัดรัดมองมาร์คที่กลับมาประจำที่กล้องตัวใหญ่ก็ลุกขึ้นขยี้ตาเบาๆท่าทางงัวเงีย
แชะ
และพวกเขาก็ได้ภาพใบแรก
คนเป็นนายแบบหันมามองทำหน้ายุ่ง
“คุณนี่ชอบถ่ายตอนเผลอสินะ ถ้ามันน่าเกลียดก็ลบออกเดี๋ยวนี้เลย”
...พูดเหมือนพวกผู้หญิงชะมัด...มาร์คคิดขำๆในใจ
เหมือนมีประโยคแบบนี้บอกกับเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นร้อยล้านครั้งตั้งแต่เขาจับกล้องครั้งแรกในชีวิตจนถึงตอนนี้
เวลาได้ยินจากคนอื่นบางทีมันก็หงุดหงิดบ้าง เพราะบางทีเราก็ต้องการองค์ประกอบฉาก
ไม่ได้จะเน้นตัวคน คนส่วนใหญ่ถ้าตัวเองไม่สวยหรือไม่เด่นก็จะตัดสินทันทีว่าภาพนั้นไม่งาม
ทั้งที่มันงามโดยองค์ประกอบของแสงและเงา แต่กับคนๆนี้ แม้จะได้ฟังคำบ่นนี้มาสักกี่ล้านครั้ง
มาร์คก็มั่นใจว่าตัวเองจะไม่หงุดหงิด...
เพราะเขาไม่เคยลบตามที่อีกคนบอกเลยสักภาพ
‘สวยทุกภาพ’
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาบอกอีกคน แล้วก็จะได้เห็นแก้มใสพองออกและปากบู้บี้น่าบีบให้แตกนัก...
“พี่เหม่ออะไรน่ะ
ผมพร้อมแล้วนะ”เสียงแหบห้าวเตือนสติเขาอีกครั้ง
มาร์คหันไปมองอีกฝ่ายก่อนจะตกอยู่ในภวังค์อีกครั้งด้วยความไม่ตั้งใจ
สูทแฟชั่นสีเข้มประดับอักษรสีขาวด้านหลังปกปิดร่างกายด้านบน
อีกฝ่ายยืนกอดอกเลยทำให้สาปเสื้อชิดกัน
แต่ถึงอย่างนั้นก็เห็นชัดว่าภายใต้สูทหนาไม่มีอะไรอยู่นอกจากผิวกายขาวสว่าง เบื้องล่างสวมกางเกงยีนส์ฟอกสีขาดริ้วๆเอวต่ำโชว์ขอบกางเกงชั้นในยี่ห้อดังสีเข้ม
“เฮ้พี่มาร์ค
ได้ยินผมไหม?”
“อ่า ได้ยิน
เริ่มแล้วนะ”
นายแบบพยักหน้า
ดวงตากลมมองปฏิกิริยาของคนตัวผอมกว่าก็พอจะรู้ ริมฝีปากอิ่มจึงเผยยิ้มซุกซนออกมาชั่วขณะ
มาร์คไม่ทันได้เห็น จึงไม่รู้ว่าตนกำลังจะโดนกลั่นแกล้งให้แล้ว...
การถ่ายแบบเริ่มขึ้น
คนที่อยู่ใต้แสงไฟช่างหามุมให้ตัวเองได้เหมาะเหม็งเป็นมืออาชีพ
รู้หันมุมไหนจึงจะได้ภาพที่ดี มาร์คแทบไม่ต้องบอกอะไรก็ได้ภาพอย่างที่ต้องการ
จะมีบางที่บอกให้อีกฝ่ายปรับเปลี่ยนการวางมือวางเท้าเล็กน้อยเพื่อให้ภาพสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ภาพแล้วภาพเล่าผ่านไป
เสียงกดลั่นชัตเตอร์ดังต่อเนื่องพร้อมด้วยเหงื่อและอะไรบางอย่างในตัวชายหนุ่มกำลังถูกปลุกปั่นผ่านเลนส์กล้องตัวโปรด
มาร์คเผลอกลืนน้ำลายอึกมองร่างขาวกำลังยืนหันข้างให้เขา
แบคกราวด์สีฟ้าทำให้เห็นอีกฝ่ายอย่างชัดเจน มันชัดเจนเกินไปจนเขากลัวใจตัวเอง
...ให้ตายเถอะ...
ใบหน้าหวานคมเอียงคอโชว์สันจมูกและริมฝีปากเอิบอิ่ม
ดวงตากลมหรี่มองมายังเขาอย่างจงใจ แววตานั้นเรียบเฉยแต่ช่างมีเสน่ห์
แวบหนึ่งที่เขาเห็นประกายออดอ้อนแสดงออกมา มือเล็กด้านหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงด้านหลังรั้งปลายเสื้อสูทเลิกขึ้นเห็นกล้ามหน้าท้องบางและไรขนอ่อน
มืออีกด้านวางบนหน้าขา เอวเล็กบิดเล็กน้อยให้เห็นส่วนตัวสมส่วนและต้นขาอวบแน่น และเพราะมือมันไปล้วงอยู่ตรงนั้น
สายตาของตากล้องเลยไปโฟกัสบั้นท้ายกลมอย่างช่วยไม่ได้
นายแบบหนุ่มน้อยเปลี่ยนท่า
คราวนี้มันหนักมากกว่าเดิม มือเล็กบนหน้าขาค่อยๆลากเลื่อยลำตัวขึ้นมาทีละนิด
ปลายนิ้วกรีดลงบนผ้าหนา เอียงศีรษะตามจังหวะการเลื่อนมือแต่ดวงตากลมยังจับจ้องเขาเพียงจุดเดียว
มุมปากอิ่มยิ้มหยัดยั่ว จนกระทั่งปลายนิ้วเล็กเลื่อนหยุดที่ลูกกระเดือกขาว
มาร์คถึงได้รู้ว่าตัวเองยิงภาพรัวไปขนาดไหน
“เมมเต็มรึยังครับ
รัวขนาดนี้น่ะ”อีกฝ่ายเอ่ยปากแซวหัวเราะคิกคัก
มาร์คหน้าร้อนนิดๆเมื่อมองไปยังมุมกล้องบอกว่าเมมเมอรี่ใกล้เต็มอย่างที่อีกฝ่ายบอก
ทั้งที่จริงๆแล้วมันควรได้เป็นร้อยภาพเสียด้วยซ้ำ สงสัยเขาจะรัวมากไปจริงๆ
“ขอเวลา”ยกมือขอเวลานอก
เดินกลับไปหยิบเมมเมอร์รี่อีกตัวบนโต๊ะทำงาน
“นี่มาร์ค”
“หืม?”
“ผมว่าสูทนี้มันร้อนนะ”อีกฝ่ายกล่าวเสียงแหบพร่าเล่นเอาใจคนฟังกระตุกเงยหน้าขึ้นไปมอง
ก่อนจะเผลออ้าปากค้างมองนิ้วมือเล็กปลดประดุมหนึ่งเดียวทิ้ง สาปเสื้อแหวกออก
สูทร่นลงจากบ่าเผยไหล่กลมและหน้าอกนูนวับแวม
ดวงหน้าน่ารักแสดงสีหน้าแววตาราวกับแมวยั่วสวาท เขย่าอารมณ์ชายหนุ่มเสียจนแทบคลั่ง
“แจ็คสัน”
เป็นครั้งแรกที่มาร์คเรียกชื่ออีกฝ่ายตั้งแต่ได้เจอหน้ากัน
แจ็คสันหัวเราะร่าไม่รู้ร้อนรู้หนาว สนุกกับการแกล้งปั่นหัวชายหนุ่มเล่น
มาร์ครวบรวมสติเดินกลับไปที่กล้อง
เขารู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นสนุก เขาต้องไม่เล่นไปตามเกม
...ถึงจะคิดอย่างนั้น
แต่เขาจะได้หรือ ในเมื่อแจ็คสันช่างมีเสน่ห์ร้ายกาจขนาดนี้...
ภายใต้แสงไฟสีขาวหม่นใบหน้านั้นเปี่ยมเสน่ห์จนไม่อาจละสายตาได้
ดวงตากลมโตราวกับลูกกวางแสนไร้เดียงสา จมูกปลายรั้นน่าหมั่นเขี้ยว
แก้มกลมสีชมพูเรื่อ ริมฝีปากอิ่มเอิบสีสดแดงจัดแม้จะไม่ได้ลงเครื่องประทินโฉม
คางได้รูปน่าเชยและลำคอเรียวขาว
แจ็คสันวางมือบนหลังศีรษะบนผมสีดำสั้น
อีกมือวางอยู่บนขอบกางเกงยีน
มาร์คสบถคำหยาบในลำคอ
มองจุดสีสวยสดบนแผ่นอกนูนแน่นสีขาวจั๊วะที่โผล่ออกมาหนึ่งจุดใกล้ขอบเสื้อสีดำ
ผิวขาวสว่างของแจ็คสันตัดกันเสื้อสีดำอย่างชัดเจน เพราะอย่างนั้นสีสันอื่นๆบนร่างกายอย่างเช่นสีแดงหรือชมพูเลยกลายเป็นจุดเด่นไปด้วย
“Change”
แจ็คสันยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่กล้อง
ดวงตากลมมองตรงมาที่เขาอีกครั้งและคราวนี้มาร์คเอามือกุมขอบกางเกงและจิกแน่นเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์
ภาพที่เห็นหน้ากล้องมันวาบหวิวเกินจะทน
คนตัวกะทัดรัดเริดหน้าเอียงขึ้นทั้งที่ตายังมองที่กล้อง ฟันกระต่ายขบริมฝีปากล่างอย่างยั่วยวน
มือด้านหนึ่งรั้งเสื้อสูทให้แหวกออก
หน้าอกนูนแน่นประดับเชอร์รี่เม็ดเล็กสองลูกช่างดึงดูดสายตา
ลอนกล้ามบางมีไรขนอ่อนๆลามไปจนถึงขอบชั้นในที่นิ้วเล็กกำลังสอดเข้าระหว่างผิวเนื้อผ้ารูดมือเข้ามากัน
ปลดกระดุมกางเกงยีนออก รูปซิปลงมาเล็กน้อยทำให้ขอบกางเกงร่นลงเห็นกระดูกเชิงกรานชัด
มาร์คฝืนกดชัตเตอร์ต่อทั้งที่ตัวเองก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว
คราวนี้แจ็คสันเล่นแรง เล่นแรงเกินไปจริงๆ
“Change”ชายหนุ่มเริ่มรู้ตัวว่าเสียงเริ่มแหบพร่า
คนยั่วยุอารมณ์หน้ากล้องหัวเราะเบาๆชอบใจ จู่ๆก็ทรุดนั่งลงไปบนพื้น
ยืนเข่าอ้ากว้างรั้งกางเกงยืนลงต่ำจนน่าหวาดเสียว มือเล็กยันพื้นพยุงกาย
ดึงเสื้อสูทด้านหนึ่งออกลงไปจนครึ่งแขน บิดต้นแขนเข้าหาตัวดันหน้าอกนูนจนเห็นชัด
เชิดหน้าช้อนตามองทั้งอ้อนและยั่วยวน
“ดีรึยังครับ”
.
.
.
แพ้...
ครั้งนี้มาร์คแพ้โดยสิ้นเชิง
ชายหนุ่มละมือจากกล้องตัวโปรด
เดินเข้าไปใกล้คนตัวเล็กที่ลงไปกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้น สองเข่าชันติดกัน
เท้าเล็กวางแบะไปด้านข้าง วางศอกมองคนตากล้องอย่างท้าทาย
“ถ้าเจ็บหลังจะไม่รับผิดชอบ”
“ใจร้อนจริงเชียว”ยังใจเย็นจะตอบโต้แม้ท่อนขาด้านหนึ่งจะถูกอีกฝ่ายจับยกขึ้นวางบนบ่าเปลือย
มาร์คหัวเราะในลำคอ สอดมือวางไว้ข้างศีรษะกลมกังขังอีกคนไว้ภายใต้กายตน ดวงตาสวยมองเข้าไปในดวงตากลมที่วาวระริก
“คนทำก็ต้องย่อมต้องรับผล...จริงไหม”
มาร์คมอบจูบร้อนให้อีกคนทันทีที่สิ้นประโยค
ริมฝีปากสวยบดขยี้กลีบสีแดงจำจนมันก่ำช้ำ
ขบเม้มกลีบสวยนั่นให้ช้ำแตกจนได้กลิ่นเลือดบางเบาคละมากับรสสัมผัส
แจ็คสันร้องครางเตือนในลำคอ สองแขนขาวโอบลำคอแกร่ง แทรกลิ้นแตะกับปลายลิ้นอีกคนขอความอ่อนโยน
จากนั้นทั้งคู่ก็ตะโบมจูบกันจนแทบไม่ได้หายใจหายคอ ลมหายใจร้อนโลมเลียผิวแก้มใสสีเรื่อ
กลิ่นน้ำหอมผู้ชายยี่ห้อเดียวกันปะปนกับกลิ่นเหงื่อกลายเป็นกลิ่นเฉพาะที่พวกเขาคุ้นชิน
มันกระตุ้นอารณ์ทั้งคู่ได้ดี
โดยเฉพาะมาร์คที่ร่างกายอยู่ในจุดที่เกินจะทานทนไหวแล้ว
กางเกงยีนฟองขาวบนกายเล็กกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นและถูกดึงโยนหายไปจากขอบสายตา
อันเดอร์แวร์สีเข้มปกปิดเรือนร่างด้านล่างที่นูนคับและเปียกชื้น
มือที่มักจะจับกล้องล้วงเข้าโอบรอบมันมิด เจ้าของร่างสั่นริก
นิ้วเล็กจิกหลังคอแกร่งเบาๆ พลางส่งเสียงครางหวามรู้สึกดี
ลิ้นร้อนเลียเม็ดเหงื่อเล็กข้างขมับขาว
เขารู้ว่าตรงนี้มันร้อนเพราะแสงไฟแต่มันก็เหมาะดีสำหรับคนดีกรีแรงสูงอย่างแจ็คสัน
ปากเรียวขบเม้มจูบซับใบหน้าหวานคมไปทั่ว หลงใหลได้ปลื้ม เชยชิมลำคอขาวหอมกลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดียวกันกับที่เขาใช้
มันให้ความรู้สึกถึงการเป็นเจ้าของ หัวใจเต้นตึกตักตื่นเต้นเกินระงับ กระชากอันเดอร์แวร์ลง
จับต้นขาขาวขึ้นลอยจากพื้นวางค้างไว้บนบ่า ชักอาวุธของตนเองรูดรั้งสองสามครั้งจ่อประชิดประตูเมืองที่ขมิบถี่ราวกับกำลังเรียกร้องให้เขาเข้าไป
“ยั่ว...”
“อ๊ะ”
“เด็กขี้ยั่ว...”
“อือ...”
“พี่จะขย้ำให้ช้ำ”
“อ๊า!!!”
สะโพกแกร่งดันเข้าสุดจนร่างเล็กลอยวูบ
ขอบตากลมรื้นน้ำตา ทั้งเสียวทั้งเจ็บ ไม่ทันจะได้พูดอะไรก็ต้องร้องเสียงหวานแยกต้นขารองรับท่อนเอ็นร้อนรุ่มที่ไถครูดในกายตน
ผนังนุ่มโอบรอบขมิบรัดแน่นจนแทบจะขยับไม่ได้ในคราวแรกแต่พอมาร์คเริ่มรังแกอีกฝ่ายด้วยการทิ้งร่องรอยไว้บนร่างขาว
แจ็คสันก็ร้องเสียงหวานอ้าขากว้างเปิดทางให้ชายหนุ่มได้เชยชิมร่างตนเองอย่างเต็มที่
ริมฝีปากร้อนเม้มติ่งไตสีสวยสดอ่อนนุ่มดูดดึงไม่ต่างจากเด็กดูนมจากเต้ามารดาอย่างกระหายอยาก
คนตัวเล็กร้องเสียงดัง จิกเล็บครูดกับหลังแกร่งอย่างรู้สึกดี
มือเล็กเลื่อนสั่นๆลงมาเล่นกับยอดอกอีกด้าน พลางขยับสะโพกตอบรับแรงรุกด้านล่างสวนจังหวะเข้าออก
มาร์คเล่นกับติ่งไตเล็กอย่างมันปาก ทิ้งร่องรอยสีระเรื่อไว้รอบยอดอก
ทิ้งหลักฐานไว้รอบแลนด์มาร์กบนกายเย้ายวน
เหลือบมองยอดอกอีกด้านที่แจ็คสันบีบเล่นกับมันก็อยากแกล้ง รวมข้อมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไปประสานด้านใต้ศีรษะตัดผมสั้นกุดไม่ต่างจากหมอนเอาไว้รองคอ
จากนั้นจึงเชยชิมยอดอกด้านนั้นไม่ให้แพ้กับอีกด้าน
“มาร์ค อ๋า
มาร์ค”
คนใต้ร่างร้องครวญครางเสียงกระเส่า
พ่นลมหายใจร้อนเข้าออก
มองเชิงกรานแกร่งที่เกร็งขยับมอบความสุขให้ตนอยู่ด้านล่างอย่างหลงใหล
มาร์คสะดุ้งเล็กน้อยมองใบหน้าหวานที่ซุกเข้ากับอกเขา
ริมฝีปากนุ่มนิ่มเม้มเหนืออกเขาอย่างเอาแต่ใจ
ในเมื่อมาร์คทิ้งร่องรอยไว้บนแจ็คสันได้ แจ็คสันก็ทิ้งมันไว้กับมาร์คได้เช่นกัน
ฟันกระต่ายและปากนุ่มซนไปตามหน้าอกเขาสะเปะสะปะเร้าอารมณ์ชายหนุ่มให้พุ่งสูงอย่างไม่ตั้งใจ
(?)
มาร์คครางเสียงต่ำช้อนบั้นท้ายงอนขึ้นจากพื้นงอต้นแน่นไปติดตัวขาวๆนุ่มๆ
บดสะโพกเข้าหาช่องทางผ่าวร้อนและช่างเร่งเร้าอย่างหนักหน่วงและล้ำลึกในทุกจังหวะ
ไฟในกายรวมอัดแน่นเร่งให้ร่างกายส่วนหน้าของทั้งคู่บดเบียดเข้าหากันและกัน
ผิวเนื้อเปียกเหงื่อเสียดสีจนบางส่วนยังก่ำแดงเกิดเสียงทุกครั้งที่ขยับ ชายหนุ่มเสยสะโพกเพิ่มจังหวะขึ้นจนร่างเล็กตัวสั่นคลอน
เรือนกายขาวระเรื่อแดงอาบเหงื่อจากกิจกรรมร้อนๆและแสงไฟในสตูดิโอเคลื่อนขึ้นลงเสียดสีกับเสื้อสูทสีเข้มที่ยังไม่ถูกถอดออกและกลายเป็นผ้ารองหลังให้แจ็คสันใช้
คนตัวเล็กอึดอัดอยากถอดออกจะแย่
แต่ทำไม่ได้ในเมื่อมาร์คยังจับมือตนไว้แล้วอีกฝ่ายก็ดูจะชอบที่ได้ย่ำยีเขาตอนยังมีเสื้อผ้าอยู่บนร่างเสียเหลือเกิน
แจ็คสันมองหน้ามาร์คกัดปากทำหน้าเคลิบเคลิ้มอยู่ด้านบนก็คิดว่าตอนนี้ตัวเองก็คงมีสีหน้าไม่ต่างกัน
เซ็กส์ของพวกเขาไม่เคยบังคับขู่เข็ญและต้องเกิดจากความสมัครใจทั้งสองฝ่าย
เพราะเซ็กส์คือการมอบความสุข ไม่ใช่การกอบโกยความสุขแต่เพียงฝ่ายเดียว
“มาร์ค
จูบหน่อย”เอ่ยเสียงอ้อนสบตากับดวงตาสวยที่ทอประกายอ่อนโยนและเอ็นดู แจ็คสันชอบสายตาของมาร์คที่สุด
สายตาที่เอาไว้มองเขาแต่เพียงผู้เดียว
ริมฝีปากของทั้งคู่แตะกัน
ครั้งนี้มันไม่ได้รุนแรงหรือเร่งเร้าแต่อบอวนไปด้วยความอ่อนหวานและความรู้สึกที่ทำให้ใจเต้นรัว
ริมฝีปากที่บดคลึงอ่อนโยน เรียวลิ้นที่แตะกันและกันเนิบนาบ
มาร์คลดจังหวะด้านล่างลง
มือเรียวกระชับข้อเข่าเล็กกระเถิบสะโพกเข้าไปชิดรับรู้ถึงอีกฝ่ายให้ชัดเจน
มือเรียวโอบส่วนแข็งขืนของคนด้านล่างรูดชักให้พวกเขามีความสุขไปพร้อมกัน
“รู้สึกดีไหม?”
“อ่า...ดี...ดีมาก”ครางตอบเคลิบเคลิ้ม
เริดหน้าอกหลับตารับรู้ถึงริมฝีปากร้อนประทับจุมพิตบนอกซ้ายที่กำลังเต้นรัวเป็นจังหวะเดียวกันกับคนในร่าง
มาร์คก้มหน้าครอบครองริมฝีปากเอิบอิ่มอีกครั้ง
จับท่อนขาเล็กแยกออกกว้าง ถอดกายออกจนเกือบสุดและกระแทกเข้าไปในครั้งเดียว
แจ็คสันตัวกระตุกร้องครางเสียงดังเข้าลำคอของอีกคน น้ำตารื้นรู้สึกดี
ส่วนหน้าปลดปล่อยคามือมือเรียว เปรอะไปทั่วหน้าท้อง ในขณะที่ภายในกายก็บีบขมิบรองรับสารสีขาวขุ่น
อุ่นวาบไปทั่วท้องน้อย
ทั้งสอบจูบกันฟัดรัดพันนัวเนียไม่ยอมถอยห่างแม้จะเสร็จสิ้นไปแล้ว
ท่อนเอ็นในกายขาวยังค้างไว้ ทุกครั้งที่ชายหนุ่มขยับก็จะกดย้ำร่างเล็กจนสั่นระริก
ของเหลวขุ่นซึมออกมาเปรอะปากทางเปื้อนเสื้อสูทด้านใต้ร่าง
แจ็คสันเริ่มรู้สึกว่าภายในกำลังจะคับเต็มก็รีบเบรกอีกคน
มือเล็กดันชายหนุ่มออกทั้งยังหอบระรัว
“ออกไปก่อน
เดี๋ยวก็ตื่นอีกหรอก”
“อยากได้อีกรอบ”มาร์คไม่ยอมถอย
แถมยังมาคลอเคลียข้างลำคอขาว
“ไม่เอา
เหนื่อยแล้ว วิกรอกถ่ายแบบทั้งวัน”บอกเหตุผลอีกคนดีๆ เขาไม่อยากทะเลาะกับมาร์ค
ถึงจะได้ยินเสียงถอนหายใจของชายหนุ่มแต่อีกฝ่ายก็ยอมถอนตัวออกไปแต่โดยดี
คนตัวขาวนอนอ้าขาอยู่สักพักปล่อยให้สิ่งที่คั่งค้างไหลออกมา
อีกเหตุผลหนึ่งคือเหนื่อยจนไม่อยากลุก
ดวงตากลมมองตามมาร์คที่เดินไปที่กล้องอีกครั้ง
นึกว่าจะเดินไปปิดแต่ที่ไหนได้กลับลั่นชัตเตอร์ได้อย่างหน้าตาเฉย
“เฮ้!!! จะถ่ายแบล็กเมล์กันรึไง”
“ไม่ทำหรอกน่า”มาร์คบอกยิ้มๆ
มือเรียวปิดกล้องและเดินมานั่งข้างคนที่ยังไม่ลุกขึ้นจากพื้น “รูปดีแบบนี้ไม่ยอมให้ใครได้เห็นหรอก
ไม่มีวัน”
แจ็คสันกลอกตาไปมา
ค่อยๆยันกายขึ้นนั่ง ถอดเสื้อสูทออกจากตัว
มองดูสภาพเสื้อผ้าแล้วก็บ่นตามประสาคนขี้บ่น
“นี่ต้องส่งซักแน่ๆ
ให้ตายเหอะ เพิ่งจะซักเองนะ”
มาร์คหัวเราะ
ยีผมสั้นชื้นเหงื่อของอีกคนด้วยความเอ็นดู
“เอาน่า
พี่ออกเงินให้ ถือเป็นค่าตัว”
ดวงตากลมหรี่มองอีกคนเอือมๆ
“ผมเสียตัวนะ พี่กะจะแค่ออกค่าซักรีดให้จริงดิ”
แทนที่จะสลด ชายหนุ่มกลับหัวเราะดังยิ่งกว่าเดิม
“เราเสียตัว
พี่เสียน้ำ เจ๊ากันน่า”
“พูดกับพี่แล้วปวดหัวชะมัด
ไปอาบน้ำแล้วนะ”แจ็คสันส่ายหน้าเอือมแล้วลุกขึ้นยืน ถึงตอนลุกจะเซไปหน่อยแต่ก็กลับมาเดินอย่างมั่นคงได้
เดินตัวเปล่าเข้าไปอาบน้ำ ทิ้งกางเกงและเสื้อให้ชายหนุ่มเจ้าของห้องได้จัดการ
มาร์คหยิบเสื้อสูทขึ้นมาสูดดมกลิ่นที่ยังเหลืออยู่ของคนตัวเล็ก
ในหัวคิดไปถึงการถ่ายแบบในครั้งหน้าว่าควรเอาชุดอะไรให้แจ็คสันใส่ดี
จริงๆเสื้อสูทก็ดี แต่ถ้าเป็นเสื้อกล้ามสีดำแหวกข้างก็คงจะเซ็กซี่ดีใช่น้อย...
อ่า
ที่แน่ๆภาพพวกนี้ไม่เคยเอาไปลงที่ไหนหรอกนะ เพราะมันเป็นภาพรักของพวกเรายังไงล่ะ
ภาพแจ็คสันที่เขาถ่ายทุกภาพเป็นภาพถ่ายสุดพิเศษ
ภาพที่มีเพียงเราเท่านั้นที่จะได้เห็นและเข้าใจว่ามันคืออะไร
ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันพวกเขาก็เริ่มทำแบบนี้จนเป็นกิจวัตร จะมากจะน้อยก็จะถ่ายไว้เก็บสะสมคล้ายเป็นไดอารี่...ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว...มันมักจะเผยแพร่ออกไปไม่ได้นักหรอกนะ
แจ็คสันเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมอาบน้ำสีขาว
กลิ่นสบู่หอมฟุ้ง มาร์คเดินเข้าไปรวบเอวเล็ก กดจูบข้างลำคอขาว คนตัวเล็กกระฟัดกระเฟียดเล็กน้อย
หันมาต่อว่าชายหนุ่มตาขวาง
“ให้ตายเหอะมาร์ค
ผมเข้าไปส่องกระจกเมื่อกี้รอยเต็มตัวเลย
ผมต้องงดงานถ่ายถอดเสื้อไปอีกสัปดาห์เลยนะคนบ้า”
“โทษที
มันอดไม่ไหวนี่”
“พูดงี้ทั้งปี”ตากลมกลอกไปมา
ส่องกระจกทาเครื่องบำรุงผิวพรรณไม่สนใจคนที่ยังเกาะหลังเกาะเอวตัวเองเป็นหมีโคอะล่าหวงไม้ไผ่
มือเล็กตีมือเรียวที่ล้วงเสื้อเขาดังเพี๊ยะเป็นเชิงปราม “คืนนี้ผมจะนอนพัก
ดังนั้นห้าม พรุ่งนี้ผมมีงานถึงบ่ายสาม”
“กลับห้องเมื่อไหร่”
แจ็คสันมองหน้าคนถามผ่านกระจกบานใหญ่
มาร์คแนบหน้าอยู่หลังคอเขาจึงทำให้เห็นเพียงดวงตาสวยที่ทอประกายแปลกๆ
“คิดจะให้ผมใส่ชุดอะไรอีกล่ะ?”ถามอย่างรู้นิสัยอีกคนดี
แต่พอได้ยินก็หันมาทั้งหยิกทั้งตีอีกคนเป็นพัลวัน
“ไอ้ตากล้องโรคจิต!!!”
...ใครมันจะไปใส่ลงฟะ!!...
‘ชุดเมทหูแมว’ เนี่ยนะ!!!
ไม่ใส่โว้ยยย
ไม่ยอมใส่เด็ดขาดเลย!!!!!!
-------------------------------------
แถม...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น