[SF] Reunion party [BSON]
คำเตือน : หยาบ
Reunion party
JB x JACKSON
ชายหนุ่มในชุดลำลองโทนสีดำดูดีก้าวลงมาจากรถสปอร์ททรงหรูเหมาะกับใบหน้าคมคายดุคร้าม
ดวงตาเรียวมีเสน่ห์ลึกลับมองภัตตาคารขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาเบื่อหน่าย
นิ้วเรียวยาวสอดเข้าใต้เส้นผมสีดำขลับของตนเองสางมันพอให้เป็นทรงก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
หยุดเสียงเวลาถามพนักงานหน้าเคาน์เตอร์อยู่นาน
เพราะเจ้าหล่อนเอาแต่ชมดชม้อยชายตาโปรยเสน่ห์ที่ชายหนุ่มมองไม่เห็น
กว่าจะเปิดหน้ากระดาษได้แต่ละหน้านี่ยิ่งกว่าหอยทากคลาน
จนโดนสายตาคมดุจ้องนั่นแหละ ถึงได้ติดสปีทเปิดยิ่งกว่าเทอร์โบ
เหงื่อแตกพลั่กๆไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มอีกเลย
ภัตตาคารแห่งนี้มีสามชั้น
ห้องที่เป็นจุดมุ่งหมายอยู่ที่ชั้นสองซึ่งเป็นห้องให้เช่าสำหรับจัดเลี้ยงในกลุ่มเล็กๆอย่างงานเลี้ยงรุ่นมัธยมปลายที่เขากำลังจะไปเข้าร่วม
ริมฝีปากเรียวเปิดปากถอนหายใจเบื่อๆ เขาไม่ชอบงานเลี้ยงสังสรรค์เท่าไหร่นัก
เพราะมันหนวกหูน่ารำคาญ ไหนจะต้องปั้นหน้ายิ้มให้คนนั้นคนนี้ทั้งที่ยิ้มไม่เก่งอีก
เสียงเอะอะหยอกล้อกันในห้องสงบไปชั่วครู่เมื่อประตูห้องเปิดออก
เมื่อมองชัดว่าใครมา คนในห้องก็โห่ร้องเรียกชื่อกันด้วยความยินดีปนแปลกใจ
“เฮ้ยทุกคน! ท่านผู้กำกับหนังสุดชิคของเรา อิมแจบอมมาแล้วว่ะ!!”
“เฮ้ยๆอย่าไปแซวมัน
แจบอมให้ฉันเล่นหนังนายนะ”
“ตัวประกอบฉากเดินไปมาใช่ไหมมึง?”
“แค่ตัวประกอบฉากก็ได้เงินนะเว้ย!”
ร่างสูงเดินผ่านเสียงแซวของเพื่อนๆที่เริ่มกึ่มๆตามระดับดีกรีในเลือด
มองหาที่นั่งที่ตนเองพอจะนั่งได้ พลันสายตาก็สะดุดตากับใครบางคนที่โต๊ะสุดท้าย จินยองที่นั่งอยู่รีบเดินเข้ามากอดคอเขาไปนั่งบนเสื่อทาทามิข้างโต๊ะเตี้ยๆที่มีชายหนุ่มในชุดเสื้อฮู้ดแขนยาวสีดำอย่างนักกีฬานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
...แค่ได้เห็นรอยยิ้มนั่น หัวใจเขาก็กระตุกรุนแรง...
ตวัดสายตาหลบรอยยิ้มกว้างนั่นไปหาเพื่อนตัวดีที่ยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ ก่อนไปมีการตบะสองนิ้วกวนบาทามาให้อีกต่างหาก
‘ไอ้!’
ค่อนข้างมั่นใจว่าถ้านี่ไม่มีคนอื่น อิมแจบอมคนนี้ได้ลากคอจินยองมาต่อยฐานตั้งใจกลั่นแกล้งเขาแล้วแน่ๆ
“นายชื่ออิมแจบอมใช่ไหม? ฉันจำนายได้ นายเป็นนักกีฬาบาสโรงเรียน”เสียงแหบหวานของคนฝั่งตรงข้ามดังขึ้นเรียกร้องความสนใจให้เขาหันกลับไปสบตากับดวงตากลมโตคู่นั้นอย่างช่วยไม่ได้
“อืม...นายคือหวังแจ็คสันสินะ”
เขาไม่เข้าใจเลยว่าแจ็คสันจะเบิกตาโต ทำปากเป็นรูปตัวโอ โอเวอร์แอ็คติ้งไปทำไม ในเมื่อเจ้าตัวก็มั่นใจเหลือเกินในชื่อเสียงที่ตนเองมีทั้งตอนนั้นหรือตอนนี้ก็ตาม
“นายจำฉันได้ด้วย!”
“นักกีฬาฟันดาบทีมชาติฮ่องกง ถามสิว่ามีความจำเป็นอะไรที่ฉันจะบอกว่าไม่รู้จักนาย”
“อดีตต่างหาก ฉันอายุเกินลงแข่งแล้ว ตอนนี้เป็นโค้ชอยู่”
“มีใครถามนาย”
“เอ้า!”อีกคนขมวดคิ้วเมื่อโดนเขารวนใส่ แจบอมหัวเราะกับหน้าตาเหวอๆตลกๆนั้น ถ้าเป็นคนอื่นคงเงิบไม่กล้าคุยกับเขาต่อแล้ว แต่เพราะว่าเป็นหวังแจ็คสันคนไฮเปอร์คนนั้น เขาเลยได้แก้วเหล้าแก้วหนึ่งเป็นของขวัญจากการกวนอีกคนให้ มาแบบดีๆ ไม่ใช่สาดใส่หัวเขาแบบนางร้ายในละครทีวีหรอก...
“นายกินได้ไหม?”อีกคนถามขณะจรดขอบแก้วใสบรรจุน้ำเมาหลายมิลลิลิตรบนขอบปากแดงฉ่ำของตนเอง มืออีกด้านแกว่งแก้วแบบเดียวกันไปมาตรงหน้า แจบอมแอบเห็นว่ามุมปากอิ่มนั่นกระตุกยิ้มตอนเขาจับข้างแก้วแล้วปลายนิ้วเผลอสัมผัสผิวเนื้ออีกฝ่ายผ่านๆ
“ถามว่าฉันกินได้มากกว่านายกี่แก้วแล้วยังดูน่าฟังกว่า”กระตุกยิ้มมุมปากส่งสายตาท้ารบให้เจ้าลูกหมาที่กระเด้งตัวขึ้นมาโวยวายตามนิสัยแพ้ใครไม่เป็น
“อย่าท้านะเว้ย! เห็นอย่างนี้ฉันคอแข็งนะ มาดวลกันไอ้ผู้กำกับหน้าอ่อน”
“ไม่เอาล่ะ ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย ไม่อยากเมาก่อนกินซาชิมิ”
“โถ่ ป๊อด”
แจ็คสันทำหน้าอ๊บทั้งที่ปากยังกระหยิ่มยิ้ม อดีตนักกีฬาทีมชาตินั่งลงที่เดิม จิบของเหลวในแก้วช้าๆขณะรออาหารมาเสิร์ฟเพิ่ม อาหารละลานตาค่อยๆถูกลำเลียงลงท้องชายหนุ่มทั้งหมดในห้องจนเกลี้ยงจาน โดยเฉพาะแจ็คสันที่เอาแต่โซ้ยแบบไม่ยอมมองหน้าใคร เป็นโอกาสให้ชายหนุ่มลอบมองอีกคนได้ถนัดมากยิ่งขึ้น
แจบอมนั่งท้าวคางมองตามตะเกียบที่คีบเอาอาหารเข้าปากแดงๆครั้งแล้วครั้งเล่า แก้มกลมนูนเป่งเคี้ยวคำใหญ่เหมือนกะรอกเก็บอาหารใต้กระพุ้งแก้ม
“นายกินเหมือนกับวันนี้เป็นวันสุดท้าย”
“ปกติน่า ฉันเป็นนักกีฬานะ”
เหตุผลที่อีกคนให้ดูจะไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมการกินสักเท่าไหร่ แต่แจบอมก็ไม่พูดอะไรอีก นั่งท้าวคางมองแจ็คสันไปเพลินๆ
“มาดวลเหล้ากัน...”
“หืม?”ตากลมเงยขึ้นมาจากจานรอง มองชายหนุ่มที่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนบอกจะไม่เล่น แต่ตอนนี้กลับมาชวนเขาเล่นเองเนี่ยนะ?
“ไหนเมื่อกี้...”
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว มาแข่งกัน ใครแพ้เลี้ยงซาซิมิที่แพงที่สุดของร้านนี้หนึ่งชุด”
“โห ใจป้ำว่ะ เอาดิ คอฉันแข็งไม่แพ้ใครอยู่แล้ว”ยืดตัวยักคิ้วแบบมั่นใจเต็มร้อย แจบอมยิ้มกริ่มเรียกพนักงานขอเหล้าเพิ่มสามขวด แจ็คสันมองดูปริมาณแล้วขมวดคิ้วมุ่น
“ทำไม? สามขวดไม่ไหวเหรอ?”
“เฮ้ย ถึงดิ แค่มองดูเฉยๆเอง”
แจบอมหัวเราะให้คนปากแข็งที่ตอนนี้ดวงตาเริ่มปรากฏความกังวล แจ็คสันแยกเขี้ยวใส่คว้าเหล้าขวดหนึ่งมากรอกใส่ปาก บ้าดีเดือดจนแจบอมมองตาค้าง ก่อนหัวเราะดังลั่นจนเพื่อนในห้องหันมาสนใจ จากศึกสองคน เลยกลายเป็นศึกสองฝั่งเพราะแต่ละคนตะโกนโหวกเหวกลงเสียงเล่นพนันขันต่อกันยกใหญ่ว่าใครจะชนะ
แก้วแล้วแก้วเล่าถูกกลืนลงลำคอร้อนผ่าว
เช่นเดียวกับสติที่เริ่มขาดหายไปทีละนิดๆ
.
.
.
...แล้วก็เมาหัวทิ่มกันทั้งคู่...
“เฮ้ย
มึงชนะกูไม่ได้หรอเว้ย เอิ้ก!”
“เหอะ! แก้วในมือมึงเอาให้รอดก่อนเถอะ”
“สัด!
อึกๆๆ เชี่ย เหล้ากระโดดออกจากแก้วไมวะ”
“มึงทำหกเองอย่าโทษเหล้า”
เพื่อนๆในห้องมองผู้กำกับหนังไฟแรงกับโค้ชทีมชาติแล้วหัวเราะปนถอนหายใจ
ไม่ยอมแพ้กันจริงๆ ขนาดเมาเป็นหมาแล้วก็ยังเถียงกันไม่เลิก จินยองลุกขึ้นยึดแก้วเหล้าจากทั้งสองคน
“พอๆ
พอเลยพวกมึง เดี๋ยวกูพากลับเอง”
“ม่ายอาววว
กูยังไม่ชนะเลยยย”ตัวโวยวายอย่างแจ็คสันหวังประท้วงอ้อแอ้ทั้งที่หน้าก็ไถลไปกับพื้นโต๊ะเตี้ย
แจบอมสะบัดหัวไปมาเหมือนพยายามดึงสติตาปรือใกล้หลับมะรอมมะร่อ สภาพแย่พอกัน
“ไปดวลต่อวันหลังละกัน
แจบอม มึงไปนอนก่อนก็ได้ ถ้ามึงไหวมึงกลับเองแล้วกัน เดี๋ยวก็จะไปส่งไอ้นี่”
“ทำไมต้องไปส่ง”
จินยองเลิกคิ้วมองคนเมาที่ถามประโยคครบถ้วนอย่างนึกสงสัย
“แจ็คสันมันไม่ได้เอารถมา
กูไปรับมามา กูก็ต้องไปส่งดิวะ”
“กูไปส่งเอง”
“มึงเมาขนาดนี้เดี๋ยวรถชน
ไม่ต้องเลยมึง”
“กูขอนอนสักงีบ
กูจะไปส่งแจ็คสันเอง พวกมึงจะกลับตอนไหนค่อยปลุกกูแล้วกัน”เจบีบอกเพราะรู้ว่าพวกเพื่อนจะต้องเลี้ยงกันนาน
เดินสะโหลสะเหลดึงเบาะรองนั่งไปนอนแฮงก์อยู่มุมห้อง
ทิ้งแจ็คสันเลื้อยไปหาแก้วเหล้าคนอื่นกรอกเข้าปากต่อไป
“เฮ้ย! เจบี”
ชายหนุ่มปรือตาหยีตามองหนึ่งในเพื่อนสนิทกำลังสะกิดเขาด้วยเท้าให้ตื่น
ร้องอืมในลำคอ ลุกขึ้น รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อชั่วโมงก่อนเยอะ
อย่างน้อยก็มั่นใจว่าขับรถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
เขาไม่ได้เมามากตั้งแต่แรกอย่างที่แสดงไปหรอก
แสดงนิดหน่อยเพราะจุดประสงค์แอบแฝง...
มองหาร่างใครอีกคนที่ไม่อยู่ในห้องแล้วงงๆ
จินยองก็ยืนอยู่นี่ แล้วแจ็คสันไปไหน?
“มันก็นอนอยูข้างมึงนั่นไง”จินยองพูดขึ้นรู้ดี
เดินกลับไปจัดการค่าใช้จ่ายในห้องต่อ
เจบีหันไปมองข้างตัวก็เห็นคนชายหนุ่มแต่ดันตัวกลมตันอย่างกับแก้วใสนอนขดอยู่ข้างตัว
หมวกฮู้ดสวมปิดกันแสงไฟจากในห้องเห็นแค่ใบหน้าขาว หน้าม้านุ่มปรกคิ้วเข้ม
เปลือกตาหลับพริ้มเห็นขนตายาว จมูกโด่งรั้นถอนหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
แก้มกลมแดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ริมฝีปากอวบอิ่มแดงสดเป็นปกติ
อยากจะมองต่อแต่เพื่อนก็จะกลับแล้ว
เขย่าตัวปลุกอย่างช่วยไม่ได้
“อืม...”แจ็คสันร้องงึมงำพลิกตัวหนี
ดูท่าทางจะตื่นไม่ง่าย เจบีถอนหายใจตัดสินใจจับอีกคนนั่งพิงกำแพง
พ่อโค้ชมือทองก็ยังไม่รู้สึกตัว
คุณผู้กำกับหนังเลยตัดสินใจแบกขึ้นหลังทั้งๆอย่างนั้นเสียเลย
เล่นเอาเพื่อนในห้องตาโตกันใหญ่
“มึงแบกไอ้แจ็คได้ไงวะ!?”
“เออ
กูแบกของกูได้ละกัน กูไปก่อนนะ”ตอบส่งๆแบบไม่ใส่ใจ เดินอย่างมั่นคงออกไปจากห้อง
ไม่เหมือนคนเมาสักนิด...
อิมแจบอมเดินลงบันไดพาแจ็คสันออกจากร้านได้อย่างปลอดภัยไม่มีสะดุดล้มหัวฟาดกลางทาง
พอถึงรถก็รีบเปิดประตูยัดคนบนหลังลงเบาะข้างคนขับ ปิดประตูพารถสปอร์ทคันเดิมแล่นไปตามเส้นทางหลวงยามค่ำคืน
นิ้วยาวเปิดเพลงคลอในรถไม่ให้รถเงียบเกินไป
เหลือบตามองคนตัวขาวด้านข้างที่ขยับหาท่าสบายไปมาจนไปซุกขดอยู่ใกล้ประตู
เขาส่ายหน้าเร่งความเร็วประคองรถไปเรื่อยๆ
รถผ่อนความเร็วลงก่อนหยุดนิ่งใต้คอนโดหรู
เพลงยังไม่ปิด เครื่องยนต์ยังไม่ดับ แอร์ในรถก็ยังพ่นไอเย็นจนกระจกเป็นฝ้า
เจ้าของรถกอดอกถอดเสื้อนอกโยนไปไว้ด้านหลังส่งๆ หยิบซอง Marlboro
ice blast ซองดำเคาะคีบมวนหนึ่งคาบไว้ ควานหาไลท์เตอร์สีเงินมาจุด
กลิ่นเมนทอลผสมมิ้นต์ฟุ้งกระจาย รสเข้มๆของใบบุหรี่อบอวลไปทั่วทั้งปากและโพรงจมูก
สูดไปครั้งเดียวก็เย็นตั้งแต่ลำคอยันลำไส้ เย็นแสบอย่างที่ชายหนุ่มเคยชื่นชอบ
ดวงตาเรียวมองควันขาวจากปลายแท่งมะเร็งสักพักก็หันเหไปมองคนเบาะข้างๆ
คีบบุหรี่ออกจากปาก
“มึงจะแกล้งหลับอีกนานไหม?
กูแบกมาได้ใช่ว่ากูจะไม่หนักนะ”
“กูขอสบายอีกสักนิดก็ไม่ได้”
เสียงแหบอู้อี้ดังขึ้นมาจากคนที่แกล้งว่าตัวเองเมาหลับสลบไศล
ดวงตากลมปรือเปิดขึ้น มือขาวจับนวดขมับตัวเองแรงๆ ถอนหายใจแบมือมาทางชายหนุ่ม
“อะไร?”
“ขอด้วย”
“มึงสูบรึไง”ถามแต่ก็ยื่นไปให้มือขาวป้อมโดยดี
แจ็คสันพยุงตัวขึ้นท้าวแขนกับคอนโซลหน้ารถ
“ก็นานๆที...แค่ก!
ไอ้เหี้ย เย็นสัด”
เจบีไม่ได้สนใจเสียงบ่นหลังจากนั้น
แย่งบุหรี่ในมือขาวกลับคืนมาสูบต่อ
“สมองโล่งแล้วก็ลงรถ”มือหนาบิดกุญแจดับเครื่อง
เปิดประตูลงมารอให้คนอีกฟากยันตัวเองขึ้นมาจากเบาะ ท่าทางโคลงเคลงไม่มั่นคง
ทั้งสองออกเดินเข้าไปในคอนโด เจบีหยิบการ์ดรูดผ่านเข้าประตูใหญ่
ดึงต้นแขนแจ็คสันที่มัวแต่ยืดยาดให้เดินตามมา
“คอนโดมึงเหรอ?”
“คอนโดหมามั้ง”กวนประสาทขณะยืนกอดอกรอลิฟต์
เหลือบตามองหัวทุยที่พิงข้างไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
ในที่สุดลิฟต์ก็ลงมารับ
และทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง ทั้งสองก็โผเข้าหากัน เจบียันแขนด้านมีบุหรี่บนผนังกระจกขณะที่มืออีกด้านก็เกี่ยวเอวอวบของคนเตี้ยกว่าเข้ามาแนบชิด
ริมฝีปากบดเบียดเข้าหากันราวกับแม่เหล็ก แลกเปลี่ยนรสมินต์และรสเหล้าระหว่างกันและกัน
จนกระทั่งมีเสียงเตือนทั้งสองก็ผละออกจากกัน เป็นเจบีที่คาบบุหรี่เข้าปาก
ดึงแจ็คสันออกจากลิฟต์ รูดบัตรเข้าห้องอย่างรีบเร่ง
เจ้าของห้องยังไม่ถอดรองเท้าด้วยซ้ำตอนโดนแขกผลักลงกับพื้นต่างระดับหน้าห้องแล้วขึ้นคร่อมนั่งบนสะโพกตรงส่วนอ่อนไหวราวกับกำลังยั่วยวนให้คลั่งไปกว่าเดิม
“ใจร้อน”
“ลากกูมานี่เพื่อทำเรื่องอย่างนี้ไม่ใช่รึไง?
รึมึงจะปฏิเสธ?”คิ้วเข้มเลิกขึ้นกวนประสาท มือขาวด้านหนึ่งยันลงข้างลำคอหนา
โค้งตัวลงมาใกล้จนแทบจะเห็นรอยผื่นตรงข้างแก้ม
เจบีมองตามบุหรี่มวนเดิมที่ถูกแย่งออกไปอีกครั้ง และครั้งนี้มันโดนขยี้ลงบนพื้นปูน
ชายหนุ่มเลื่อนสายตากลับมามองแจ็คสันที่นิ่งไปพักหนึ่ง
ขมวดคิ้วและลุกขึ้นนั่งดังเดิม
“รู้ดี
ทำเองเลยไหมล่ะ?”
“ให้กูกดมึงเหรอ?
ไม่ไหวล่ะสัด ดูสภาพกูด้วย”บ่นงึมงำ ท่าทางจะแฮงก์หนักกว่าเขาหลายเท่า นั่นแหละ
ใครกันที่บอกว่าไหว? หึ...
“กูไม่ให้มึงกดกูหรอก
หน้าอย่างมึงรับได้อย่างเดียวเท่านั้นแหละ”
“เอ้า! ดูถูกกันนี่”
“ก็ถูกแล้วไง”แจบอมกรอกตาดึงคอเสื้อสีดำมาใกล้ขบกัดริมฝีปากอิ่มแดงลอยยั่วเย้าไปมาอยู่นานจนแจ็คสันร้องโอ๊ยในลำคอ
มือขาวทุบเข้าที่ไหล่แรงๆให้เจบีเลิกกัด
“เบาหน่อยดิวะ
ปากคนนะไม่ใช่ขนมสาลี่”
“ไม่บอกก็ก็ใกล้คิดว่าใช่แล้วล่ะ”ยักคิ้วกวนประสาท
ดันอีกคนออกจากตัว ลุกขึ้นดึงแจ็คสันไปโยนลงโซฟากลางห้อง
สะบัดรองเท้าตัวเองออกลวกๆ
แถมยังใจดีถอดรองเท้าของคนบนโซฟาโยนกองๆไปที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วขึ้นคร่อม
“ห้องมึงไม่มีเตียงรึไงวะ!”
“มี
แต่กูใจร้อน”
ตอบเสียงเรียบก้มลงดูดกลืนเสียงโวยวายด้วยริมฝีปาก
แจ็คสันร้องประท้วงครู่เดียวแล้วเงียบไป มือขาวคล้องอยู่บนไหล่
ขณะที่เจบีเริ่มลูบไล้ลงไปด้านล่าง นึกขอบคุณโค้ชที่ใส่แค่เสื้อกล้ามสีดำใต้เสื้อฮู้ดเลยทำให้เขาลุกล้ำอีกคนได้ง่ายขึ้น
รูดซิปเสื้อตัวนอกถอดออกง่ายๆเพราะแจ็คสันไม่ได้ขัดขืนแถมยกแขนให้ด้วย
แต่กางเกงนี่ยากหน่อย พอจะแตะมือขาวก็ตีดังเพี๊ยะ ตากลมจ้องเขาเขม็ง
“กูไม่ได้ง่าย”
“แล้วให้ทำไง”
“ถุงยาง
น้ำหล่อลื่น”
“กูมี”
“กูยอม”
เจบีกระตุกยิ้มมุมปากปลดกระดุมกางเกงอีกฝ่ายออก
ลุกขึ้นไปหยิบของที่แจ็คสันต้องการบนชั้นในห้องนอน
แต่พอหมุนตัวกลับมาก็เห็นคนตัวขาวเดินเข้ามาในสภาพบอกเซอร์ตัวเดียว
“มึงเมามากใช่ไหมแจ็คสัน”
“เออ กูเมา
มึงจะทำอะไรก็ได้ตอนกูเมา แต่พอกูตื่นกูจะซัดหน้ามึง”พูดจบก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม
ถึงเจบีจะเข้ามาคร่อมก็ไม่โวยวาย
มือแกร่งลูบหน้าท้องเป็นลอนสวยลงมาหยุดตรงขอบบอกเซอร์รูดมันลงไปกองไว้บนข้อเท้า
“สมยอมขนาดนี้มึงคงซัดหน้ากูลงหรอก”
“สมยอมพ่อง! กูเมา”
“เออ กูเชื่อ”
ใช้โอกาสนั้นดุนดันนิ้วเข้าไปในช่องทางด้านหลัง
สะโพกอวบกระตุกลอยขึ้นจากพื้น เจ็บจนต้องร้องโวยวาย
“โอ๊ย! เจ็บ!”
“เออ โทษที ลืมน้ำยาหล่อลื่นว่ะ”
สารพภาพหน้าเฉย
แจ็คสันทำตาโตแทบจะพ่นคำสรรเสริญบรรพบุรุษคนตรงหน้าด้วยความโมโห ชายหนุ่มไม่สนใจดึงนิ้วออก
พลิกคนตัวขาวให้คว่ำหน้าลงดึงสะโพกบังคับให้อยู่ในท่าน่าอาย เทขวดน้ำยาบนบนฝ่ามือ
ดันนิ้วเข้าไปพรวดเดียวสองนิ้ว แล้วก็โดนแจ็คสันถีบตามคาด
“เจ็บโว้ย!!!”
“มึงจะเจ็บมากกว่านี้แน่ถ้ามึงยังดื้อขยับไปมาแบบนี้”
แจ็คสันพ่นลมหายใจฟึดฟัด
คว้าหมอนมากอดนอนนิ่งๆให้ชายหนุ่มเบิกทางให้โดยดี กลับมาโวยวายอีกทีก็ตอนเจบีดันตัวเองกลับมานอนหงายและพยายามดันความใหญ่โตเข้ามาในร่าง
ร้องลั่นห้องน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง เตรียมแล้วแม่งก็ยังจะเจ็บ
ร้องจนชายหนุ่มจับคางมาจูบนั่นแหละถึงได้เงียบได้
ผู้กำกับไฟแรงสูงจับต้นขาแข็งแรกแหวกออกกว้าง
ดันหนีบไว้ข้างเอวตัวเองให้ตัวตนได้แนบแน่นกันยิ่งขึ้น แจ็คสันหลุดเสียงร้องนิ่วหน้า
จิกไหล่อีกคนเต็มแรง ไหวตัวไปกับแรงกระทั้นเข้ามาในร่าง เกิดรู้สึกแปลกๆ
คว้าคอหนาลงมาบดเบียดจูบ
เสียงครางกับเสียงเนื้อกระทบกันดังจนคนเมาเริ่มหน้าแดงก่ำเพราะความอาย
แต่พอรู้ตัวว่ากลับไม่ทันแล้วก็ได้แต่คล้อยไปตามอารมณ์ที่โดนชายหนุ่มนำพาไป
“ทำไม
เริ่มอายแล้วรึไง พ่อโค้ชทีมชาติ”
“ทำไปเงียบๆไม่ได้รึไงวะ! อึก!”
“กูเงียบก็ได้~ แต่มึงต้องครางนะ”
“อ๊า! ไอ้ อย่าทำแรง โอ๊ย! อื้ม!”แจ็คสันครางรู้สึกดีปะปนไปกับเสียงโวยวายไม่หยุด
สะบัดหน้าครางหวีดสูง เสียวกระสันเพราะโดนลิ้นร้อนแตะดูดยอดอกแข็งตึง
ช่องทางด้านหลังกระชับบีบรัดแน่นขึ้นจนชายหนุ่มครางต่ำรู้สึกดี
“อย่ารัดแน่นสิที่รัก
กูจะแตกแล้วเนี่ย”
“บอกกู ฮ้า! หาพระแสงอะไรวะ!”คนตัวขาวตอนนี้แดงเรื่อบิดกายจิกผ้าปูที่นอนหลุดออกมาจากฟูกเพราะความร้อนวูบในร่างกำลังเล่นงาน
ใบหน้าแดงก่ำ ตาโตพราวน้ำตาด้วยรู้สึกดี ลิ้นเล็กไล้เลียริมฝีปากชุ่มฉ่ำของตนยั่วเย้าคนมองให้หลงใหลคลั่งไคล้
จับสะโพกกระแทกลงไปแรงๆรัวๆให้คนขี้ยั่วได้สำนึกว่าจะโดนอะไรหากมายุแหย่เสื้อหลับอย่างเขา
“อ๊ะ อย่า แรง
อื้อ! อ๊า!”
ร่างเล็กกว่าคลอนแคลนไถแผ่นหลังจนศีรษะไปติดหัวเตียง
รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนแถมยังได้ยินเสียงลั่นของเตียงเสียจนหวั่นว่าทำๆกันอยู่เตียงจะหักรึเปล่าวะ
คิดวอกแวกได้ไม่นานก็โดนเจบีกระชากสติกลับมาจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่อีกครั้ง
หันกลับมาอีกทีก็เห็นขาแข็งแรงที่ตนเองภาคภูมิใจขึ้นไปเกยบนไหล่แข็งทั้งสองข้าง พอคิดว่าชายหนุ่มจะเห็นตนแหกแข้งแหกขาแบบไหนก็อายแทบบ้า
“อะ
เอาขากูลงเหอะ”
“ทำไม?”
“มันน่าเกลียดออก
อ่ะ!”
“ขนาดนี้ยังต้องอายอะไรอีกวะ?
กูทำมึงลงแสดงว่ามึงไม่น่าเกลียด แต่มึงมันน่าเอา จบไหม?”
...ถามว่ากูต้องอายไหม
แสรดด...
ร้องครางลั่นไหวร่างประสานเสียงครางต่ำจนกระทั่งแจ็คสันเป็นคนถึงจุดก่อน
น้ำสีขุ่นเปื้อนหน้าขาขาวและกล้ามเนื้อท้องเป็นลอน เจบีกลั้นเสียงคราง โดนช่องทางแน่นบีบรัดอย่างถึงใจ
หวามหวิวจนเสร็จตามไปไม่ช้า
“เสร็จก็ถอด กูจะไปอาบน้ำ”แจ็คสันบอกพลางหอบแฮ่กๆ
เสียเหงื่อเสียน้ำยิ่งกว่าเล่นกีฬาอีก บ้าเอ๊ย
“ขออีกรอบไม่ได้ไงวะ?”ถามทั้งที่รู้
สุดท้ายก็โดนถีบอกหลุดออกไป กำลังจะหันมาโวยวายก็รีบกลืนน้ำลายอึก มองภาพตรงหน้าด้วยความหลงใหล
โอ๊ย เซ็กซี่
ครึ่งบนยันขึ้นมาจากเตียงมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ
ตาโตหรี่มองเขาดุๆ ปากสีแดงช้ำเผยอหอบหายใจช้าๆ แต่ในมุมของเจบีกลับเห็นสะโพกอิ่มแดง
ก้นงอนงามและช่องทางที่เพิ่งสร้างความหฤหรรษ์ให้กับตนเมื่อครู่ชัดยิ่งกว่าดูจีโอกราฟิกเสียอีก
แจ็คสันที่รู้ว่าโดนจ้องอะไรก็พลิกตัวหนี
ถลึงตาใส่ชายหนุ่ม เดินโขยกเขยกเข้าไปห้องน้ำไป ไม่วายตะโกนออกมา
“ขอยืมเสื้อผ้านอนมึงหน่อยแล้วกัน”
“ห่มลมห่มฟ้านั่นแหละ
ยังไงออกมาก็โดนกูเอาอีกเหมือนเดิม”
“ฝันเรอะ!!!”
เจบีหัวเราะลั่น
เดินไปหาชุดเตรียมให้อีกคนโดยดี ไม่ลืมเปลี่ยนผ้าปูที่นอน เก็บเสื้อผ้าในห้องนั่งเล่นมากองอยู่ในกองผ้าใช้แล้ว
ยี่สิบนาทีให้หลังแจ็คสันก็เดินออกมาแต่งตัว
ถีบเขาให้ไปนอนอีกฝั่งของเตียงในขณะตัวเองก็ล้มตัวลงนอนด้านนั้นแทน
เจบีปิดไฟโคมเตียง ตวัดผ้าห่มคลุมให้ทั้งตัวเองทั้งแจ็คสันที่เหมือนจะหลับไปแล้ว
แต่เขาสิ กลับตาแข็งนอนไม่หลับซะอย่างนั้น
“แจ็คสัน”
“...อือ”
ถึงจะแปลกใจว่าทำไมอีกคนยังไม่หลับแต่ก็ถามต่อไป
“มึงไม่ได้รู้สึกแย่ใช่ไหมวะ?
ที่กูทำกับมึง”
เสียงผ้าสวบสาบบอกว่าแจ็คสันพลิกตัวกลับมามองหน้าเขา
ก้มหน้าลงไปสบกับแก้วตากลมใสพอดิบพอดี
“กูไม่ได้ไร้เดียงสา
กูไม่ได้สิ้นคิด กูไม่ได้เมาเป็นหมาแล้วไม่รู้ถูกผิด
มึงเห็นกูเมาขาดสติขนาดนั้นเลยรึไง”
“ก็ถามดู...เผื่อมึงเคลิ้มกูเพราะเมา”
“ถุย! หน้าตาอย่างมึงกูไม่เคลิ้มด้วยหรอก ฟันก็เหยิน ตัวก็ใหญ่”
“ตัวมึงไม่ใหญ่เลยครับคุณนักกีฬา”
“กูใหญ่มีคุณภาพไง”
“กูก็ใหญ่พอให้มึงครางได้...”
“หมกมุ่นเกินไปแล้วนะมึงอ่ะ”แจ็คสันกลอกตาหน่ายๆ
จะเอาหมอนฟาดเจบีอยู่แล้ว ถ้าชายหนุ่มไม่ถามคำหนึ่งขึ้นมาก่อน
“สรุป...ตอบคำถามกูตอนนั้นได้ยังวะ?”
“ไหนก็จะจบ ม.6 แล้ว...แจ็คสัน
ฉันชอบนาย...คบกันไหม?”
“คำถามบ้าอะไร
จำไม่ได้”พลิกตัวกลับไปนอนท่าเดิมหนีหน้าชายหนุ่ม
“...เจอกันอีกที...ค่อยขอคำตอบนะ”
“แจ็คสัน...กูรู้ว่ามึงจำได้”
“เอออออออ...เฮ้อ..ให้มึงทำขนาดนี้ยังไม่รู้อีกรึไงวะ”
“กูขอคำยืนยันไง”
“เออๆ คบก็ได้
กูก็ชอบมึงเหมือนกัน พอใจยัง?”
“โคตรพอใจเลยครับ...”
ถ้าแจ็คสันหันมาจะเห็นเจบีกำลังยิ้มกว้างเห็นฟันเด่นชัดในความมืด
มีความสุขเปล่งกระกายวิบวับเชียวล่ะ...
“งั้น...ขออีกรอบได้ป่ะ?”
“หลับตา...”
“...?...”
“ไปฝันเปียกเอา
ไอ้เงิง!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น