บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2015

[ตำหนักอี๋เจีย] 13 END

รูปภาพ
ตำหนักร้อนบำเรอรัก 13 ฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้ว... ทุกอย่างหมุนวนเดินไปอีกครั้ง อี๋เอินเงยหน้าขึ้นจากกระดาษเอกสารทางราชการ มองกลีบบอบบางของต้นท้อร่อนลอยปลิวตกเข้ามาในห้องทำงาน บ้างก็ตกอยู่บนพื้น บ้างก็ปลิวตกบนเอกสารที่กำลังจะจรดปากกาขนนกลงไป น่ารำคาญไปบ้างแต่ชายหนุ่มก็เลือกจะเปิดบานหน้าต่างไว้ อากาศวันนี้เย็นพอสบายตัวไม่หนาวมากหรือร้อนจนเหงื่อออก ดวงตาสวยไล่มองข้อความบนกระดาษคำสั่งเร่งด่วนจากเมืองหลวงแล้วถอนหายใจ คิ้วหนาขมวดติดกัน เครียดกับเนื้อสารที่เพิ่งอ่านจบ ทางใต้กำลังก่อเค้าวุ่นวายเพราะการกบฏจากเผ่าคนเถื่อน มีสารมาว่าให้เมืองทุกเมืองรักษาความปลอดภัยให้รัดกุม... แค่นี้เมืองเขาก็วุ่นวายไม่พอหรือยังไง? อี๋เอินถอนหายใจเฮือกใหญ่ ช่วงนี้บ้านเมืองชักจะไม่สบสุขเหมือนเก่า มีโจรชุมเยอะขึ้น แต่ไม่ได้มาจากพวกชาวบ้านหรอก เป็นพวกคนต่างถิ่นที่เข้ามาแล้วไม่รู้กฎเกณฑ์บ้านเมือง ยังไม่มีอิทธิพลแค่เช้ามาทำความวุ่นวาย จัดการไม่ยากเท่าไหร่ แต่ไอ้พวกที่เขาห่วงคืออำนาจเก่าต่างหาก เบื้องหลังพวกตระกูลผู้ดีทั้งหลายก็มีแต่ความโสมม ต่อหน้าก็ขึ้นตรงต่อเขาแต่พอลับหลังก็ปลิ้น

[ตำหนักอี๋เจีย] 12

รูปภาพ
ตำหนักร้อนบำเรอรัก 12 เมฆาเคลื่อนคล้อยสีเทาทะมึนทึบ แสงอาทิตย์สลัวหมองหม่นทั่วมุมเมือง อากาศเย็นแห้งแล้ง ทั้งที่เวลานี้เป็นเวลากลางวันย่ำบ่าย มันควรจะอบอุ่นขึ้นมาสักนิด แต่วันนี้แปลกที่หนาวเย็นตลอดทั้งวัน อากาศจะเป็นอย่างไรแต่ทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไป เสียงจอกแจกจอแจข้างนอกกำแพงก็ยังคงลอดมาให้ได้ยินสม่ำเสมออย่างทุกวัน ดวงตากลมจดจ้องอยู่ที่ปลายกระบี่ในมือที่เริ่มสั่นไหว ปลายนิ้วสั่นระริกแต่ยังจับมันไว้มั่น จมูกรั้นสูดลมหายใจเข้าลึก พลิกกระบี่แหวกสายลมส่งเสียงสั่นสะเทือนน่าครั่นคร้าม เจียเอ๋อค่อยๆพาร่างกลับมาท่ายืนสงบ “แฮ่ก...แฮ่ก...”หน้าอกยกขึ้นลงหอบสั่นไหว หรี่ตามองมือด้านที่จับกระบี่สั่นระริกไม่ยอมหยุดด้วยความเหนื่อยล้า ปล่อยหยดเหงื่อข้างขมับไหลลงไปอย่างไม่ใส่ใจ หลับตาถอนหายใจเข้าออกตั้งสมาธิ พลันก็ได้ยินเสียงใบไม้ขยับไหวอยู่ไกลออกไป ตากลมลืมขึ้นหันไปมองทางต้นเสียง ชักสีหน้าหงุดหงิดแวบหนึ่งและกลับมาทำหน้าเรียบเฉย เก็บกระบี่ลงปลอกไม่สนใจมนุษย์ชั้นสูงบนทางเดินนั้น “มาเอ้อระเหยลอยชายอยู่แถวนี้ เผื่อข้าเผลอฟาดกระบี่ใส่ท่านเกรงเดี๋ยวจะตายก่อนประลองจริง