[SF] CINEMA [MARKSON]
6/16
CINEMA
MARK X
JACKSON
แจ็คสันนั่งหาวพยายามฝืนเปลือกตามองดูสไลด์บนจอโปรเจคเตอร์
เสียงเอื่อยเฉื่อยบรรยายของอาจารย์หน้าห้องไม่สามารถเจาะผ่านหนังหัวเข้าไปถึงสมองแสนเหนื่อยล้าได้
ลายมือหวัดๆพอให้อ่านออกถูกจดลงในกระดาษ พอไม่ทันก็เหลือบไปมองเพื่อนข้างๆ
เหล่ลอกเนียนๆและถอนหายใจเบื่อหน่าย แทบรอเวลาเลิกเรียนไม่ไหวแล้ว
“วันนี้อาจารย์ขออนุญาตเลิกคลาสก่อนเวลานะ
ถ้าพวกเธอคงไม่ว่าอะไร”น้ำเสียงหยอกล้อของอาจารย์หน้าห้องฟื้นวิญญาณของนักศึกษาให้คืนร่าง
ไม่ทันสิ้นประโยคก็รีบผุดนั่งหลังตรงตาใสทันที
“ไม่ว่าเลยครับอาจ๊านน
ผมเข้าใจค๊าบบบ”
“แหม
รีบตอบเชียวนะ ทีอาจารย์ถามคำถามเนื้อหาไม่ตอบเร็วแบบนี้บ้างล่ะจ๊ะ”
“สมองมันตอบสนองช้าครับอาจารย์”
อาจารย์ส่ายหน้าโบกมือเลิกคาบหน่ายๆ
เดินออกไปจากห้องตามด้วยนักศึกษาคนอื่นๆ แจ็คสันค่อยๆเก็บของใส่กระเป๋า
ยกมือถือขึ้นมาเล่นเพราะขี้เกียจไปรอออกันอยู่หน้าประตู แต่พอเข้าทวิตเตอร์ส่วนตัวกลับไถเจอคนกรี๊ดกร๊าดหนังเรื่องดังกันทั้งทามไลน์
แถมเป็นหนังที่แจ็คสันเล็งไว้ตั้งแต่ต้นปี แทบจะพุ่งออกห้องแทบไม่ทัน
แต่พอคิดว่าจะไปดูคนเดียวมันก็เหงาแปลกๆ
หันซ้ายหันขวาก็เจอเพื่อนชมรมฟันดาบยืนหัวเดียวกระเทียมลีบอยู่เสาคณะ
“เฮ้ย นิคไปดู
ANTMAN
กันป่ะ”
“เฮ้ย
ดูแล้วว่ะ เนี่ยกำลังยืนรอแฟน”
แจ็คสันแบะปากใส่ไอ้คนที่มีแฟนเป็นดาวสาวสวยนิเทศอย่างเปิดเผย
“หมั่นไส้ว่ะ”
“อย่างกับมึงไม่มี
ดูหนังอ่ะ เขาต้องไปดูกับแฟน ไม่ชวนพี่เขาไปล่ะวะ”นิคโคลัสยักคิ้วกลับมาให้
แจ็คสันถอนหายใจเฮือก กอดอกส่ายหน้า
“พี่แกไม่ชอบดูหนังอ่ะ
กลัวโทรไปกวนตอนเรียนด้วย”
“ส่งข้อความไปก็ได้นี่หว่า
ลองดูก็ไม่เสียหาย มีแฟนก็หัดทำตัวสมเป็นแฟนหน่อยดิ...โอ๊ะ มีอามาแล้ว กูไปล่ะ
คิคิคิ”
...เกลียดเสียงหัวเราะมันจริงๆครับ...แจ็คสันกลอกตามองเพื่อนที่วิ่งลิ่วไปหาแฟนสาวที่เพิ่งเดินเฉิดฉายมาถึง
ส่ายหน้ายิ้มๆ แต่พอคิดถึงคำพูดนิคมันก็...
‘มีแฟนก็หัดทำตัวสมเป็นแฟนหน่อยดิ’
ลิ้นเล็กดันกระพุ้งแก้ม
ก้มหน้ามองมือถืออย่างใช้ความคิด ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
นั่งยองๆพิงกับต้นเสาพิมพ์ข้อความสั้นๆส่งไปให้คนในความคิด
JACKSONWANG : พี่มาร์คคค ไปดูหนังกัน
จ้องรอคอยข้อความตอบกลับด้วยใจลุ้นระทึก
ปากแดงเม้มแน่นและคลายออกเมื่อมั่นใจว่ามาร์คคงไม่ตอบกลับมาแล้ว
...มีแฟนก็เหมือนไม่มี...
ผมยิ้มขำๆกับประโยคในหัว
ส่ายหน้าไล่มันออกไป ใจก็แอบเสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ดูหนัง
แต่จะให้ไปดูคนเดียวก็ไม่เอาเหมือนกัน ตัดใจกลับไปนอนเล่นเกมที่หอเอาก็ได้
คิดอะไรเรื่อยเปื่อยขณะเดินลงมาจากตึกคณะ แวะร้านลูกชิ้นข้างทาง
หยิบเอาลูกชิ้นเนื้อสองไม้ให้คนขาย
พอดีกับมือถือในกระเป๋าสั่นเตือนว่ามีข้อความเข้า
MT
:
เอาสิ
ข้อความสั้นๆที่ทำเอาอวัยวะในอกเต้นระรัว
มือเผลอจิกหน้าจอแรงเพราะความตื่นเต้น ความร้อนในร่างพุ่งขึ้นหน้าจนคุณลุงขายลูกชิ้นได้ร้องท้วง
“อ้าว
เจ้าหนุ่ม ร้อนก็เข้ามาหลบในร่มลุงก่อนก็ได้ หน้าแดงหมดแล้ว เออ
เด็กสมัยนี่ขาวจริงๆ”
“อ่า
ไม่เป็นไรครับลุง เท่าไหร่อ่ะครับ”เงยหน้าถาม
ส่งแบงก์ยี่สิบส่งให้ลุงแลกกับถุงลูกชิ้น มืออีกด้านก็พิมพ์ตอบกลับไปผิดๆถูกๆกลัวว่าพี่มาร์คจะรอนาน
JACKSONWANG : ANTMAN นะ ให้ปมไนรอที่คณะไฟม
JACKSONWANG : *ผมไปรอที่คณะไหม
JACKSONWANG : โทษๆ ตื่นเต้น
MT
:
ไม่ต้อง เดี๋ยวไปรับ
MT : อย่าไปไหน
แจ็คสันชะงักหยุดเป็นรูปปั้นทันทีที่อีกคนส่งข้อความมาหา
แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะเสียงแตรรถจากด้านหลัง
ลุกลี้ลุกลนจะเดินหนีไปก็ต้องชะงักเพราะเสียงตะโกนเรียก
“แจ็คสัน”
หันกลับไปมองก็ต้องร้องอ๋อ
รีบวิ่งดุ๊กดิ๊กมาหาชายหนุ่มในรถออดี้สีดำ มาร์คลดกระจกลงส่ายหน้าหน่ายๆให้เขา
“ก็บอกว่าอย่าไปไหน”
“ก็ไม่ได้ไปไหนสักหน่อย
แค่ไม่คิดว่าเป็นพี่อ่ะ ทำไมมาเร็วจัง”เปิดประตูเข้าไปนั่ง ใส่เบลท์ให้เรียบร้อย
มองคนหลังพวงมาลัยที่สวมแว่นกันแดดสีชากันรังสียูวีจากภายนอกตัวรถอย่างนึกสงสัย
“ว่าจะมารับพอดี”
“เอาจริงดิ! ตกใจเลย พี่มาร์คจะมารับผมด้วย”หัวเราะคิกคัก
สะดุ้งไหวเมื่ออีกฝ่ายวางมือลงบนไหล่ ยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้จนรู้สึกประหม่า
ดวงตาสวยหลังกรอบแว่นทอประกายเอ็นดู ยีเส้นผมนุ่มอ่อนโยน
“อยากมารับแฟน
ผิดเหรอ”
ปากแดงอิ่มเม้มแน่นทำแก้มป่องหน้าอ๊บ
รู้สึกเขินจนไปไม่ถูก ผลักอีกคนออกเบาๆ บ่นงุบงิบเบี่ยงเบนประเด็น
“หิวอ่ะ
กินลูกชิ้นดีกว่า พี่กินด้วยป่ะ?”
มาร์คส่ายหน้ายิ้มๆ
ถอยกลับไปที่นั่งตัวเอง ปลดเกียร์ขับรถออกจากหน้าคณะของคนข้างตัวที่ตอนนี้กำลังยัดลูกชิ้นเข้าปากรัวๆเคี้ยวหนุบหนับจนแก้มพองกลบเกลื่อนความเขินอย่างปิดไม่มิด
พวกเขามาถึงโรงหนังช่วงเที่ยงเกือบบ่าย
คนในห้างก็น้อยเพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาแต่คนจองตั๋วกลับเยอะจนเหลือแค่แถวสุดท้าย
แจ็คสันมองหน้าคนข้างตัวที่ยืนทำหน้านิ่ง ไม่หือ ไม่อือ ไม่ออกความคิดเห็นอะไร
“พี่มาร์ค
เหลือแต่แถวหลังอ่ะ”
“ตามใจนาย”
“เปลี่ยนเรื่องไหม?”
“ตามใจนาย”
แจ็คสันยู่หน้าหมั่นไส้
ตกลงเอาที่นั่งแถวที่เหลืออยู่ ยื่นใบหนึ่งให้มาร์คที่กำลังยืนดูตัวอย่างหนังอยู่ข้างๆ
มือเรียวยื่นมารับไว้แต่ไม่ได้หันหน้ามามองเขาสักนิด
แจ็คสันมองอีกคนอย่างนึกหงุดหงิด พองแก้มกอดอกงอนๆ
“ไม่อยากดูก็ไม่ต้องฝืนใจดูก็ได้นะ”
“ก็นายอยากดู...
ไม่ชอบดูหนังคนเดียวไม่ใช่เหรอ?”คนเป็นพี่หันมาถามหน้าตาย
แจ็คสันพยักหน้าแต่ยังไม่หายงอนง่ายๆ มาร์คก็รู้ว่าคนตัวเล็กงอนเลยดึงไปซุ้มขายของกิน
เลี้ยงป๊อปคอร์นและโค้กแก้วใหญ่ปิดปาก
แจ็คสันเอากล่องของกินมากอดไว้แต่ไม่วายทำหน้ามุ่ยใส่
ถึงจะเดินไปนั่งรอหน้าโรงก็ยังไม่หายง่ายๆ จนคนเป็นพี่อดจะถามไม่ได้
“ไม่ปวดคิ้วเหรอ?”
“พี่แม่ง! ง้อดิวะ งอนให้ง้อนะเว้ย”
แจ็คสันโวยวายปากยื่น
คิ้วขมวดยุ่งแน่ขึ้นกว่าเดิม แสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจแต่มาร์คกลับไม่สะเทือน
แถมยังหัวเราะพลางโยกหัวคนตัวเล็กเล่นอีก คราวนี้แจ็คสันถึงกับปรี๊ดแตก
ปัดมือเรียวออก โยนกล่องป็อปคอร์นคืนให้ ลุกขึ้นทำตาขุ่นขวางใส่คนเป็นพี่
“ผม ไม่ ดู
แล้ว!!”
มาร์คกุมข้อมือเล็กดึงกลับมานั่งที่เดิม
ยื่นป๊อปคอร์นกลับให้คนตัวเล็กถือ แม้แจ็คสันจะยังส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจอยู่ตลอด
“ถึงเวลาแล้ว
จะไปไหนล่ะ?”
“ไม่มีอารมณ์จะดูแล้ว”
“ชวนพี่มาเองนี่...ไปเถอะ”
มาร์คดึงแขนแจ็คสันให้ลุกขึ้น
เดินนำเข้าไปในโรงหนัง ยื่นตั๋วตัวเองให้พนักงาน
หันไปมองแจ็คสันที่ทำหน้าเหมือนกำลังจะไปฆ่าใครตายเชิงบังคับให้คนอายุน้อยกว่ายื่นตั๋วส่งให้
คนตัวเล็กถอนหายใจพรืดใหญ่หงุดหงิดก็หงุดหงิดแต่ก็ไม่อยากทำเรื่องให้วุ่นวาย
จำใจส่งตั๋วให้พนักงานที่เริ่มส่งสายตาเร่งแล้ว
พวกเขาเข้ามาในโรงคนท้ายๆ
ที่นั่งด้านหน้าเต็มหมดแล้ว เหลือสองแถวด้านหลังที่ยังว่างโล่ง มาร์คดึงแจ็คสันเข้าไปนั่งประจำที่
แจ็คสันขยับที่นั่ง รู้สึกอึดอัดเพราะมาร์คเอาแต่เงียบ
สายตาตั้งตรงที่หน้าจอมากกว่าเขาที่อยากดูหนังเรื่องนี้เสียอีก
จะมองข้างก็เสียวแปลกๆ เพิ่งรู้ว่าทั้งแถวนี้และแถวหลังไม่มีใครมานั่งเลย
นอกจากเขาและมาร์ค
หน้าจอยังคงฉายตัวอย่างหนังอยู่
และมันก็น่าเบื่อจนเผลอหาวออกมา ส่งป๊อปคอร์นเข้าปากเคี้ยวกรวมๆ รสหวานคาราเมลเคลือบทั้งปากจนรู้สึกเลี่ยน
หันไปจิ้มแขนชายหนุ่มขอแก้วน้ำบนที่วางแขนอีกด้าน
มาร์คจับหลอดให้คนตัวเล็กดื่มได้สะดวกๆ ดื่มเสร็จก็กลับไปวางที่เดิม
ไม่เอามาวางไว้ตรงกลางอย่างที่ควร แจ็คสันจะแย่งกลับมาก็โดนมือเรียวดึงออกไปวางไว้
จะยื้อตัวตามไปก็ดูจะหวงกินมากไปหน่อย ก็แค่สงสัยว่าทำไมไม่วางไว้ตรงกลางก็แค่นั้นเอง
ยังไม่ทันได้ถามแจ็คสันก็เปลี่ยนความสนใจไปยังหนังที่เริ่มฉายเสียที
มาร์คเอนตัวนอนดูหนังตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย
เขาไม่ชอบดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ ถ้าจะดูก็ต้องเป็นหนังแอคชั่นไซไฟใช้ความคิดแฝงปรัชญาอย่างที่ชอบ
แต่แฟนตัวน้อยกลับชอบหนังเด็กๆพวกนี้มากเหลือเกิน
ตอนเห็นข้อความก็ว่าจะปฏิเสธอยู่หรอก แต่พอคิดดูอีกทีก็นานแล้วที่ไม่ได้พาแจ็คสันมาเที่ยวเลย
คราวนี้เลยถือโอกาสเติมความหวานกันบ้าง
มาร์คละความสนใจจากหนังมามองคนข้างๆแทน
ตาโตๆนั่นเบิกกว้างตื่นเต้นและหัวเราะตอนหนังมันปล่อยมุขออกมา
ปากแดงก่ำมักจะเผยอน้อยๆตอนถึงจุดชวนคิด
ฟันกระต่ายน่ารักขบริมฝีปากล่างจนกลัวว่ามันจะช้ำเอาใจช่วยเจ้ายอดมนุษย์คราวต้องต่อสู้ดุเดือด
ส่งเสียงเชียร์ตลอดทั้งเรื่อง
เห็นแล้วก็นึกถึงเด็กตัวเล็กๆจ้องหน้าทีวีดูฮีโร่ตัวโปรดไม่ได้ มาร์คขยับยิ้มเอ็นดู
พิงศีรษะกับเบาะ เอียงมองจ้องอีกฝ่ายเพลิน
แจ็คสันก็รู้ว่าโดนจ้องมองอยู่แต่ไม่กล้าหันไปมอง
เกรงจะเห็นสายตามาร์คแล้วจะใจเตลิด แค่โดนจ้องแบบนี้ก็ตื่นเต้นจะบ้า
“ไม่ดูหนังล่ะ”
“หน้านายน่ามองกว่าเยอะ”
แจ็คสันกัดปากแก้เขิน
ตัวสั้นๆสะดุ้งเกือบหลุดโวย ยกมือปัดป้องมือเรียวที่จู่ๆก็ลูบหลังใบหู
สัมผัสเบาๆทำเอาสยิวไปทั้งร่าง จะขยับตัวหนีแต่ก็หนีได้แค่ที่นั่งตัวเองเท่านั้นแหละเพราะวงแขนแข็งแรงเข้าโอบรอบเอวจนหนีไปไหนไม่ได้
ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้ามาใกล้ ท้าวคางมองด้วยดวงตาสวยเปล่งประกายไม่น่าไว้วางใจท่ามกลางความมืดสลัวของโรงหนัง
ฟู่ว เฮือก!
มือเรียวปิดปากอิ่มทันก่อนคนขี้โวยวายจะร้องเสียงดังให้คนอื่นหันมาสนใจ
ตากลมมองค้อนชายหนุ่มโกรธๆ ใบหูบางแดงก่ำ ดิ้นฮึดฮัดแรงขึ้นเรื่อยๆ
“อย่าเสียงดังสิ”
มาร์คปล่อยมือออก
แจ็คสันกำลังจะเผยอปากโวยวาย ตากลมๆก็มีอันต้องเบิกกว้างตกตะลึงมองขนตายาวในระยะประชิด
จมูกโด่งทิ่มแก้มนิ่มในขณะที่ปากเรียวสวยเข้าประกบปากสีสวยแนบแน่น
อาศัยจังหวะเผลอนี้สอดเรียวลิ้นเข้าไปควบคุมลิ้นเล็กดูดรั้งบังคับไม่ให้อีกคนส่งเสียงออกไปได้
แจ็คสันยกมือทุบหลังผลักเขาออก แต่ก็ช้ากว่ามาร์คที่จับแขนขวาดันลงกับเบาะ
กลายเป็นว่าตอนนี้แจ็คสันโดนมาร์คกักกันอย่างสมบูรณ์
มือเรียวเริ่มไม่อยู่นิ่งขยำเนื้อสะโพกอวบอั๋นใต้กางเกงปลุกเร้าอารมณ์คนตัวเล็กที่ยังไม่เลิกพยศ
บดเบียดบังคับคนรักให้เคลิ้มไปกับจูบเร่งเร้าชวนใจสั่นจนมือไม้อ่อนระทวย แจ็คสันไม่ได้ยินเสียงหนังอีกต่อไปแล้ว
เช่นเดียวกับมาร์คที่ไม่ได้สนใจมันตั้งแต่แรก ทั้งสองดูดรั้งกันและกัน
สะโพกอวบถูกนวดเฟ้นหนักขึ้น ก้อนเนื้อกลมด้านหลังถูกล้วงขยำจนเกรงว่าจะเป็นรอยมือ
ชายเสื้อหลุดลุ่ยจากนอกกางเกงที่ถูกปลดกระดุมไปแล้ว
มือเล็กเกาะอยู่บนไหล่แข็งแรงจิกเข้าเสื้อระบายความเสียวกระสันจากการปลุกอารมณ์เบื้องล่าง
ส่วนอ่อนไหวใต้เนื้อผ้าดันขึ้นโดนสีข้างของร่างผอมสูง
“กลั้นเสียงไว้นะ”มาร์คกระซิบข้างใบหูเล็ก
ขบกัดและเริ่มซุกไซร้ซอกคอหอม
มืออีกด้านรูดซิปกางเกงของแจ็คสันลงเพื่อสัมผัสกับส่วนแข็งขืนใต้กางเกงในสีเข้ม
แจ็คสันสะดุ้งเริ่มได้สติ ยึดมือมาร์คไว้แน่น ส่ายหน้าปฏิเสธ ตากลมลอกแล่กมองไปรอบๆกลัวว่าจะใครหันมามอง
แต่ไม่มี ทุกคนกำลังจดจ้องอยู่กับฉากต่อสู้ของพระเอกและตัวร้ายบนหน้าจอ
“ไม่เอาที่นี่”เสียงแหบพร่ากระซิบบอก
ถึงจะมีอารมณ์แต่เขาก็รู้ว่าที่นี่ไม่ควรเป็นสถานที่พลอดรัก
แต่เหมือนมาร์คจะไม่คิดอย่างนั้น
ดูจากมือเรียวที่ยังวางแหมะลงส่วนกลางลำตัวเขาและจมูกโด่งที่พ่นลมร้อนๆคลอเคลียหลอกล่อไม่เลิก
“อีกนิดนะ”
“มะ...อื้อ”ปากอิ่มถูกครอบครองอีกครั้งพร้อมกับมือเรียวที่เริ่มขยับรูดรั้งส่วนแข็งขืน
ต้นขาแน่นบีบเข้าหากัน ตากลมฉายแววดื้อรั้นไม่ยอมความ มาร์คมองนิ่งๆ
ผละจากส่วนอ่อนไหวของคนตัวเล็กไปคว้าแก้วโค้กมาถือไว้ ยิ้มเจ้าเล่ห์ยัดมันลงระหว่างส่วนเหนือเข่าของคนรัก
“ฝากหน่อยนะ”
แจ็คสันตกใจดันเข่าเข้าจับมันตามสัญชาติญาณ
หลุดร้องอื้อใหญ่เพราะมือที่เพิ่งจับแก้วเย็นๆสัมผัสกับส่วนอ่อนไหว ต้นขาสั่นระริก
เสียววูบวาบไล่มาตั้งแต่หน้าท้องกระจายขนลุกไปทั่วทั้งร่าง
ยิ่งมาร์คเร่งมือก็ยิ่งต้องกัดปากตัวเองกลั้นเสียงคราง เสียงหอบหายใจดังเสียจนกลัวว่าใครจะยินเข้า
เอียงใบหน้าลงกับเบาะๆปรือตาคลอน้ำตามองดูรอบๆ ทั้งหวั่นกลัวทั้งตื่นเต้นว่าจะมีคนจับได้
เป็นอารมณ์ที่บอกไม่ถูกว่าควรจะรู้สึกอะไรเลยจริงๆ
ตึง!
จังหวะเอฟเฟคหนึ่งในหนังทำทั้งสองคนตกใจ
แก้วน้ำร่วงลงพื้นโรงหนังพร้อมกันแจ็คสันที่ตัวสั่นเกร็งปลดปล่อยเลอะเปียกชั้นใน
เชิดหน้าหอบเอาลมหายใจเข้าปอด ยังไม่ทันฟื้นสติดีก็โดนมาร์คบังคับให้ลุกขึ้นยืน
พร้อมถ้อยคำกระซิบกระซาบข้างหูแผ่วเบา
“ไปต่อห้องน้ำนะ”
“อื้อ อา..พี่
เบา เบาหน่อย”ส่งเสียงขอร้องแหบพร่าเชิดหน้าหอบคราง ร่างสั่นไหวไปตามแรงกระแทกของคนที่โอบซ้อนด้านหลัง
มือเล็กจิกกระเบื้องตกแต่งในห้องน้ำพยุงกายโงนเงน
ชันเข่าด้านหนึ่งบนฝาชักโครกยั้งกายตัวเองไม่ให้กระแทกสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจนเจ็บตัวแม้จะเสียวกระสันจวนเจียนจะขาดสติแล้วก็ตาม
มาร์คกอดเอวคอดรั้งบดเบียดแกนกายเข้าไปลึกในช่องทางรัก
กัดปากร้องซี๊ดเพราะแจ็คสันบีบรัดแรงจนแทบขยับไม่ได้
“อ่า
ตื่นเต้นเหรอ รัดแรงชะมัด”
“เงียบไปเลย
อะ อ๊า!!! อื้อ!”
ก้มหน้ากลั้นเสียงครางของตัวเองที่ชักจะดังเกินไปแล้วอย่างอดกลั้น
แต่มาร์คก็ขยันกระแทกกระทั้นมอบสัมผัสเร่าร้อนให้ไม่หยุด
ซ้ำยังสวนสะโพกเข้าโดนจุดเสียวในร่างหลายต่อหลายครั้ง เล่นเอาหัวสมองเขามึนเบลอว่างเปล่า
ขยับสะโพกรับแท่งเนื้อร้อนตามจังหวะอย่างไม่รู้ตัว
ปึง!
“ปวดๆๆๆ”
เฮือก! ช่องทางแน่นรัดท่อนเอ็นในร่างอย่างแรงเพราะความตื่นตกใจ ใบหน้าขาวซีดเผือกสลับแดง
มองประตูลอกแลก เสียงฝีเท้าของคนด้านนอกสะท้อนเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที
“อะ!”
รีบยกมืออุดปากตัวเอง
สะบัดหน้าค้อนคนขี้แกล้งที่ยิ้มบางๆกลับคืนมา มือเรียวไต่แผ่นหลังเขาเล่นอย่างยั่วเย้า
ไล่มาตั้งแต่บ่าลงมาถึงเอวคอดจับมันมั่นและไถลตัวตนเข้าลึก
“อื้อ!”หลุดร้องเพราะความตกใจพอดีกับบานประตูห้องพวกเขาสั่นเหมือนคนด้านนอกพยายามจะเข้ามา
แจ็คสันตะกายติดฝาผนังตื่นกลัวจนมาร์คต้องรั้งร่างอีกคนไว้
จับคางมนหันกลับมาป้อนจูบอ่อนหวานให้อารมณ์เย็นลง
“อ้าว
มีคนเข้าเหรอ ขอโทษทีครับ”
เสียงฝีเท้าด้านนอกตรงไปห้องตรงข้าม
เสียงล็อกประตูของอีกห้องเหมือนฝันร้ายของแจ็คสัน เพราะแสดงว่าในห้องน้ำนี้ไม่ได้มีแค่เขาและมาร์คอีกต่อไป
แต่รวมไปถึงพยานการร่วมรักที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกคนด้วย
“ใจเย็น”มาร์คปลอบประโลม
กดจูบบนขมับชื้นเหงื่อ
เลื่อนปลายนิ้วดันเข้าโพรงปากนิ่มหยอกล้อลิ้นเล็กให้คนตัวเล็กหายตื่นกลัว
ค่อยๆขยับสะโพกช้าๆแต่ลึกล้ำประคองบทรักที่ออกจะติดขัดของพวกเขาไปจุดปลายทางให้ได้
แจ็คสันหายตื่นกลัวแล้ว
กลายเป็นความรู้สึกแปลกๆเข้าแทรก
เขาควรจะอาย
แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นจะบ้า
อาจจะเพราะโดนมาร์คแกล้งมากไป
หรือโดนบีบบังคับจากสถานการณ์ชวนจับได้ ตอนนี้สมองแจ็คสันเลยเออเร่อ
ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับอารมณ์แบบไม่สนว่าจะมีใครได้ยิน
ลิ้นเล็กโลมเลียนิ้วเรียวในปากเหมือนไอศกรีมแสนอร่อย โน้มร่างลงแอ่นบั้นท้ายไซต์น่าบีบเปิดช่องให้คนรักรูดเข้าออกตามสบาย
สวนสะโพกคืนเร่งบทรักให้วูบวาบร้อนรุ่ม ส่งเสียงครางแผ่วรู้สึกในลำคอทุกครั้งที่มาร์คลากผ่านจุดอ่อนไหวในร่าง
สมองขาวโพลนจนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงฝีเท้าแขกไม่ได้รับเชิญที่เดินออกไป
จนมาร์คต้องโน้มลงมากระซิบเสียงหอบพร่าข้างหู
“เขาไปแล้ว”
“อ๊ะ อ๊า พี่
อ๊า! เร็ว ฮือ แรงกว่านี้”แจ็คสันร้องครางออกมาเต็มเสียง
ก้องสะท้อนไม่สนใครจะได้ยิน มาร์คเองก็ครางต่ำสวนสะโพกรัวแรง ดึงจังหวะสุดท้าย
กระตุกเกร็งร่างฉีดน้ำอุ่นเข้าโพรงศวาส ร่างเล็กสั่นระริกรู้สึกร้อนวูบไปทั้งช่องท้อง
ฉีดพ่นน้ำรักออกมาอีกครา
มาร์คประคองอีกคนขึ้นนั่งบนตัก
จับร่างเล็กเอนพักบนไหล่ ลูบเข้าไปใต้เนินเนื้อนุ่มนิ่มกดนิ้วเข้าช่องทางแน่น
คว้านเอาลูกรักของตัวเองออกมาจากร่างคนรัก ฉีกกระดาษทิชชู่เช็ดคราบบนกายขาวออกให้อย่างทะนุถนอม
เชิดคางมนขึ้นมองดวงหน้าน่ารักกำลังทำตาปรือปรอย จูบแก้มระเรื่อฟอดใหญ่และขบเม้มริมฝีปากสีช้ำ
มอบจูบอ่อนหวานให้เป็นรางวัลของการเป็นเด็กดีในวันนี้
รถออดี้สีดำแล่นไปตามทางหลวงสายหลักในเมืองกรุง
เวลาสามทุ่มแล้วแต่รถก็ยังติดกันเป็นขบวน มาร์คละสายตาจากไฟแดงลิบๆด้านหน้ามามองก้อนกลมข้างตัวที่เอาแต่นั่งกอดเข่าหันหลังให้เขาตั้งแต่ออกจากห้าง
“นั่งท่านั้นไม่เจ็บรึไง”
“เงียบไปเลย”เสียงแหบพร่าตอบเสียงเบา
ไหล่กว้างสั่นเล็กๆ มาร์คมองแล้วถอนหายใจ ลุกไปหยิบเอาผ้าห่มผืนบางติดรถจากเบาะหลังมาสะบัดคลุมให้
“หนาวก็บอกสิ แล้วก็เลิกนั่งท่านั้นได้แล้ว”
มือเล็กกระชับผ้าห่มเข้าไม่เปลี่ยนท่า
ไม่อะไรทั้งนั้น มาร์คก็ไม่อยากสักไซร้อะไรต่อ
ขับเคลื่อนรถต่อไปจนถึงคอนโดใหญ่กลางเมืองซึ่งเป็นที่พักของเขา แจ็คสันเงยหน้ามองสถานที่แล้วส่ายศีรษะไม่ยอมลง
จนมาร์คต้องดับรถเดินไปเปิดประตูอีกข้างจ้องมองอีกคนดุๆ
“ลง”
“ไม่นอนคอนโดพี่
จะกลับหอ”อีกฝ่ายเอ่ยเอาแต่ใจ
“กลับหอให้เพื่อนล้อรึไง”
แจ็คสันนิ่งไปสักพัก
ยอมคลายตัวก้าวขาลงมา ยังไม่ทันจะลุกเต็มตัวก็นิ่วหน้าล้มลงไปนั่งแบะในรถต่อ
หยดน้ำตาใสๆเอ่อคลอดวงตา สะอึกสะอื้นน่าสงสาร มาร์คลูบเส้นผมนิ่มปลอบโยน
เช็ดคราบน้ำตาออกให้แผ่วเบา โอบร่างเล็กขึ้นทั้งผ้าห่มในท่าเจ้าสาว
ยันปิดประตูรถเดินดุ่มๆเข้าไปในคอนโด หัวกลมซุกลงบนอกกลายเป็นลูกหมาหงอยๆตัวหนึ่ง พอเข้าลิฟท์ได้ก็ปล่อยให้แจ็คสันยืนเอง
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูไม่มั่นคงจนต้องเกาะแขนเขาไว้ตลอด
“เดินไหวไหม?”
“ไหว”ตอบเสียงเบา
เริ่มเดินช้าๆไปทางห้องที่จำได้ดีว่าเป็นห้องไหน มาร์คเปิดห้องค้างไว้
ตวัดคนตัวกลมขึ้นไปวางบนโซฟา เปิดฮีตเตอร์ปรับอุณหภูมิ อิงหน้าผากคนรัก เดินไปหยิบยาแก้อักเสบกับยาแก้ไข้ยื่นให้แจ็คสันที่ส่ายหน้าไม่เอา
“กิน
ถ้าไม่อยากให้ป้อน”
ปากแดงยู่ยื่นไม่พอใจ
หยิบยามากินทีละเม็ดอย่างกล้ำกลืนฝืนใจ กินเสร็จก็นั่งนิ่งซึมกระทื่อแปลกจากปกติอย่างเห็นได้ชัด
มาร์คนั่งบนพื้นต่อหน้าคนรักโอบรัดเอวเล็กไว้เงยหน้าถามห่วงใย
“เป็นอะไร”
“โกรธ”
“ขอโทษแล้วไง”
แจ็คสันส่ายหน้าไม่ยอมความ
น้ำใสๆเริ่มเอ่อล้นขอบตาพรากไหลลงข้างแก้ม
“ผมอยากดูหนังเรื่องนี้มากเลยนะ
แล้วมันก็จะออกโรงแล้วด้วย ออกไปเที่ยวกันสองคนทั้งที แทนที่จะได้ไปกินข้าว
หรือเดินเล่นบ้าง แต่ผมดันโดนพี่ข่มขื่นอ่ะ... อาย โคตรอายเลย เจ็บก็เจ็บ
หนังก็ดูไม่จบ ฮึก... ไม่เอาแล้วนะ ไม่เอาแล้ว”
“ครับๆ
พี่ขอโทษ ไม่เอาไม่ร้อง”มาร์คลุกขึ้นมากอดอีกคนไว้แนบอก ลูบเส้นผมนุ่มเบาๆ
เขาคงคิดถึงใจแจ็คสันน้อยไป “ไว้ซื้อแผ่นมาดูกันนะ แล้วก็พรุ่งนี้ไปเที่ยวกัน
โอเคไหม”
“อืม”แจ็คสันตอบแค่นั้นแล้วแน่นิ่งไป
ดูอีกทีคนตัวเล็กก็หลับไปแล้ว ดูจะเพลียมากจริงๆ
“หลับง่ายเหมือนเด็กเลยเราน่ะ”หัวเราะเสียงเบา
ฝังจมูกบนกลุ่มผมนุ่มและข้างขมับ
“ฝันดีครับ
เด็กน้อยของพี่”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น