[OUR] 28
บทที่ 28
มาร์คหาวหวอดหน้ายุ่งพลิกตัวนอนหงายด้วยความเคยชิน
แต่มือที่คล้องบนตัวนั่นทำให้ขยับตัวไม่ได้ ชายหนุ่มฝืนปรือตาขึ้นมามองด้วยความสงสัยก่อนจะยิ้มเอ็นดู
กลับไปนอนท่าเดิมเพื่อให้คนที่ยังหลับอยู่ได้นอนต่อ
แต่คงขยับตัวแรงไปเลยทำให้คนที่ใช้เขาแทนหมอนข้างรู้สึกตัว
“งือ...พี่มาร์ค”
คนตัวเล็กพึมพำเรียกชื่อเขา
ซุกตัวกลมๆเข้าหาอย่างไม่ตื่นดี หัวกลมนอนแหมะอยู่บนอก
กอดก่ายแขนขาขึ้นมาเกี่ยวพื้นที่บนตัวเขาไปซะครึ่ง
ตอนนี้เลยกลายเป็นขยับตัวไม่ได้เพราะแจ็คสันกอดเขาไปทั้งตัว ลมหายใจอุ่นๆรินรดคางเขาสม่ำเสมอ
ทั้งใจสั่นทั้งเอ็นดู น่ารักจนอยากปลุกมาฟัด
แต่ก็สงสารคนท้องที่กลับมาแพ้ท้องหนักอีกแล้ว เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึกมาก
ให้นอนเต็มอิ่มจะดีกว่า
ไม่บ่อยนักที่เขาจะได้เห็นใบหน้ายามหลับของคนรักในยามเช้าแบบนี้
เพราะแจ็คสันจะตื่นเช้าไปทำอาหารหรือไม่ก็ตื่นไปดูเมสันทุกวัน แต่วันนี้ถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่มาร์คได้สังเกตอีกคนใกล้ๆแบบไม่โดนมือป้อมยันหน้าเขาออกหรือโดนทำหน้างอแงใส่
ใบหน้าหวานอิ่มเอิบกลมเป็นก้อนแป้งหมั่นโถวนุ่มนิ่ม
จมูกรั้นที่ช่วงนี้จะขึ้นเป็นปื้นสีแดงถ้าโดนไอฝนหรือไอหมอก
ปากอิ่มเอิบน่าจูบยังไงวันนี้มันก็ยังน่าบดขยี้ไม่เปลี่ยนแปลง
คิดแล้วก็ก้มจุ๊บลงไปเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว แจ็คสันพ่นลมหายใจออกมาหนักๆเป็นเชิงรำคาญแต่ก็ไม่ได้ขยับไปไหน
ซุกหาความอบอุ่นไปต่างจากลูกหมาติดแม่
หางตาชายหนุ่มเหลือบไปเห็นก้อนกลมเล็กอีกก้อนที่กำลังเคลื่อนไหวไปมาในอู่
เงยหน้ามองนาฬิกาก็รู้ว่าถึงเวลาตื่นนอนของลูกชายแล้ว
ก้มจูบหน้าผากมนจับตัวอีกคนออกอย่างแผ่วเบา แจ็คสันครางฮือในลำคอ
ปรือตามองทั้งคิ้วขมวดแน่น
“เดี๋ยวพี่จัดการเมสันให้
ถ้าเพลียก็นอนนะครับ อย่าฝืนตัวเอง”
“กับข้าว...”
“พี่ทำเอง...นอนครับ
อย่าดื้อนะ”
แม่หมาของมาร์คพยักหน้าหลับตาลงซุกตัวนอนต่ออย่างว่าง่าย
มาร์คลูบเส้นผมนิ่มกล่อมก่อนจะลุกขึ้นไปจัดการกับลูกหมาต่อ
ยื่นหน้าฉีกยิ้มให้เมสันที่จ้องกลับมา มือเล็กๆที่กำลังกอดหมอนใบนิ่มโยกเล่นหยุดพลิกตัวขึ้นนั่ง
ชูมือขึ้นเหนือหัวร้องอ้อนให้ปะป๊าอุ้ม
มาร์คอุ้มเจ้าตัวเล็กไว้ด้วยมือด้านเดียว
ไม่ลืมหยิบตุ๊กตาช้างตัวเล็กพอดีอ้อมแขนให้เมสันเล่นระหว่างทางเดินลงมาจากชั้นสาม
ถือโอกาสเรียกใช้งานประดิษฐ์ล่าสุดของตัวเองออกมา
เจ้าหุ่นยนต์ที่หน้าตาไม่ต่างจากกล่องสี่เหลี่ยมทรงสูงยาวๆวิ่งปรู๊ดเข้ามาหาเขา
มาร์คกดฟังก์ชั่นบนหัวมันก่อนที่เจ้าสี่เหลี่ยมนั่นกลายสภาพเป็นอู่ขนาด 30 x 30 ซม. รั้วกั้นสูงแค่เหนืออกเมสันเล็กน้อย
เจ้าตัวเล็กหัวเราะเอิ๊กอ๊ากพอใจตอนที่อู่พาตัวเองเดินตามติดคุณพ่อไปในทุกที่
“ปะป๊า! มะม๊าล่ะ มะม๊า”
“มาม๊านอนอยู่ครับ
มาม๊าไม่สบาย อย่าเพิ่งกวนมาม๊าเลยเนอะ”หันไปตอบลูกขณะที่กำลังทอดไข่ในกระทะ
มาร์คทำกับข้าวเป็นไม่กี่อย่างหรอก ตอนนี้ก็มีทางเลือกแค่นี้เอง
“ตอนไหนม๊าจะหาย”เจ้าตัวน้อยแบะหน้า
ตากลมๆรื้นน้ำตาเพราะสงสารมะม๊าของตน
“อีกเจ็ดเดือนมาม๊าจะหายครับ
หายพร้อมเมสันจะได้น้องมาเป็นเพื่อนล่ะ”
“จริงหยอ?
เมฉันจะมีน้องเหยอ”ตากลมๆทอประกายความสุข ยิ้มกว้างพลางหัวเราะอารมณ์ดี
แก้มยุ้ยถูกกับตุ๊กตาช้างในอ้อมกอดตนไปมา มาร์คตักไข่เจียวลงจาน
ตัดแบ่งครึ่งหนึ่งใส่ถาดของเจ้าตัวเล็ก
ผิวปากเดินเข้ามานั่งบนพื้นข้างๆเจ้าหุ่นยนต์ มือกร้านกดปุ่มลดระดับมันลงให้เมสันลงมาพอดีคุณพ่อยังหนุ่ม
“ครับ
ถ้ามีน้องแล้ว เมสันต้องเป็นพี่ชายที่ดีนะครับ อย่าแกล้งน้อง”
“เมฉันไม่แกล้ง
เมฉันรักน้อง”
“ให้จริงเถอะเจ้าตัวเล็ก”มาร์คยีหัวลูกชายด้วยความเอ็นดู
ลงมือป้อนข้าวเช้าทีละคำ วันนี้เมสันกินได้เยอะกว่าวันไหน ปากเล็กๆเคี้ยวตุ้ยๆคำโต
เล่นเอาคนทำอาหารยิ้มอารมณ์ดี
หลังอาหารเช้า ชายหนุ่มก็อุ้มเมสันไปเล่นอยู่หน้าโทรทัศน์จอยักษ์ที่กำลังฉายการ์ตูนชุดเรียนรู้
เจ้าตัวน้อยดูสนใจ ส่ายหัวส่ายมือด๊อกแด๊กตามตัวมาสคอตยักษ์ในหน้าจอ
หัวเราะและร้องเพลงอ้อแอ้ไม่เป็นภาษา พอไม่เข้าใจก็หันมาถามมาร์คที่นั่งอยู่ข้างๆตลอดเวลา
ดูไม่สองตอนเมสันก็กลิ้งตัวลงนอนบนตักปาป๊า แก้มนุ่มไถกับหน้าแข้ง
ดูดนิ้วหลับไปทั้งอย่างนั้น
มาร์คปิดโทรทัศน์อุ้มเมสันขึ้นไว้ในอ้อมกอด
พาขึ้นไปนอนบนฟูกนอน
ลูบหัวเล็กกล่อมแต่กล่อมไปกล่อมมากลายเป็นชายหนุ่มเองที่หาวออกมาหวอดใหญ่ เพราะต้องเคลียงานตอนวันศุกร์ให้เรียบร้อย
แถมกลับมาก็ยังต้องดูแลแจ็คสันอีก ในที่สุดก็สู้เปลือกตาหนักอึ้งไม่ไหว
หลับตามลูกชายไปอีกคน
เขาตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนได้กลิ่นหอมแสนคุ้นเคยใกล้ๆ
แต่กว่าจะตั้งสติลืมตาขึ้นมากลิ่นนั้นก็ลอยไปไกลแล้ว
มาร์คครางลืมตามองลูกชายตัวน้อยที่ยังหลับอยู่ข้างกาย จูบข้างแก้มนุ่มไปครั้งหนึ่ง
พลิกตัวนั่งมองไปทางครัวที่มีร่างเจ้าของกลิ่นน่ากินเมื่อครู่กำลังเดินวุ่นไปมา
มาร์คลุกขึ้นมาดูก็เห็นว่าคนตัวเล็กกำลังเตรียมทำขนมอะไรบางอย่าง
เพราะเห็นกระปุกน้ำตาลไอซิ่งวางข้างแพ็คไข่ แอบเห็นว่าแจ็คสันกำลังก้มๆจ้องๆหนังสือทำอาหาร
พอเดินเข้าไปใกล้แจ็คสันก็เงยหน้าขึ้นมามอง
ตากลมช้อนมองยิ้มให้เขาและก้มลงอ่านหนังสือนั่นต่อ
“ฝากหน่อย”
หนังสือทำอาหารลอยเร็วจนแทบรับไม่ทัน
มาร์คขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์ที่ประจำ มองแจ็คสันที่กำลังเตรียมตัวทำคัพเค้ก (ดูจากหน้าหนังสือ)
ใบหน้ากลมดูมีความสุขในการทำของหวานเสียเหลือเกิน
“ท้องนี้ตัวเล็กดูชอบของหวานๆนะ”
“เหรอ?
ผมก็ไม่รู้แฮะ”แจ็คสันทำท่าคิด มือก็กวนแป้งให้เข้ากัน
มาร์คแอบหยีหน้าตอนเห็นมวลเกล็ดสีขาวมวลใหญ่ร่วงลงไปรวมกับน้ำเชื่อมเตรียมทำครีมต่อไป
...ไม่แน่ใจว่าจะเป็นครีมหรือเกล็ดน้ำตาลกันแน่...
“แล้วพี่จะไปทำงานอีกวันไหนอ่ะ”หันมาถามหลังจากเอาเค้กเข้าอบแล้ว
มาร์คไม่ตอบทันทีแต่กวักมือเรียกเข้าไปใกล้
แจ็คสันเดินไปยืนแทรกกลางท่อนขาแข็งแรงโถมตัวกอดร่างสูงผอมออดอ้อน มาร์คก็ลูบเส้นผมภรรยาตัวเล็กเล่น
“โปรเจคเริ่มวันจันทร์...เฮ้อ”
“ถอนหายใจทำไม?
เหนื่อยเหรอ?”แจ็คสันเงยหน้าขึ้นมองอย่างนึกเป็นห่วง
มาร์คยิ้มบางๆและส่ายหน้าให้อีกคนสบายใจ มือเรียวเชิดคางเล็กขึ้น มองตากลมด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ทำเอาแก้มกลมแดงระเรื่อ
ปากอิ่มแดงคว่ำเกี่ยงงอนนิดๆ แต่ก็ไม่ปฏิเสธยามริมฝีปากสวยเข้าทาบทับ
แจ็คสันกำชายเสื้อด้านหลังของชายหนุ่มขณะที่โพรงปากเล็กโดนต้อนด้วยความชำนาญ
นิ้วเรียวเกลี่ยข้างแก้มดันรูปหน้าปรับให้เขารับรสจูบได้แนบแน่นยิ่งขึ้น และคนตัวเล็กก็ไม่ยอมโดนรุกอยู่ฝ่ายเดียว
พยายามพันเกี่ยวตอบรับดูดรั้งได้ดีไม่แพ้กัน ดีกรีรสจูบร้อนแรงขึ้นจนปากอิ่มเริ่มรู้สึกระบม
มือเล็กกระทุ้งหลังอีกคนเบาๆให้หยุด เอนกายซบไหล่แกร่งโอบกอดกันด้วยความรัก
ตาโตปรือมองไปด้านหลังชายหนุ่มก่อนจะเบิกตาโพล่งแก้มแดงแปร๊ดผลักร่างมาร์คออกไปแรงๆ
ชายหนุ่มก็ตกใจที่จู่ๆก็โดนผลักออกมา หันกลับไปดูก็ต้องหัวเราะ
ก็เจ้าลูกชายตัวน้อยของพวกเขากำลังนั่งมองตาแป๋วอยู่น่ะสิ
“โถ่
แค่ลูกเห็นเอง อายทำไมขนาดนั้น”
“ไม่ได้ด้านแบบพี่นะ”ส่งสายตาค้อนขวับ
พอดีกับที่เค้กอบเสร็จพอดี มาร์คเดินไปอุ้มเมสันพามาหามะม๊าของเจ้าตัว
รอให้แจ็คสันจัดการวางก้อนเค้กเสร็จถึงส่งลูกให้คนตัวเล็กได้กอดได้หอมตามสบาย
จู่ๆมาร์คก็มีความคิดดีๆ
ปูกระดาษบนพื้นกันเปื้อน ถือคัพเค้กที่ยังไม่ได้แต่งหน้ากับพวกครีมและท็อปปิ้งแต่งหน้าเค้กมาวางไว้
ดึงแจ็คสันกับเมสันมานั่ง แล้วทั้งสามก็ช่วยกันแต่งหน้าเค้กกัน
เมสันหัวเราะชอบใจตอนที่ปะป๊าโดนมะม๊าปาดหน้าครีมเข้าเต็มแก้ม
ข้อหารุ่มร่ามเกินเหตุ เจ้าตัวเล็กพยายามแปะโน่นนี่ลงบนหน้าเค้กจนมันไหลเยิ้ม
มีแอบยัดเข้าปากตามประสาเด็ก ถึงจะเปื้อนไปบ้างแต่ก็ถือว่าให้เมสันได้เรียนรู้
โดยมีป๊าม๊าคอยประกบข้างช่วยแนะนำอย่างใกล้ชิด
สุดท้ายถึงจะได้คัพเค้กหน้าตาประหลาดออกมา
แต่ก็สร้างเสียงหัวเราะและความสุขให้กับทั้งสามจนสุขล้นทั้งหัวใจ...
ช่วงเวลาแห่งความสุขไม่เคยยาวนาน
หรือแท้ที่จริงคือเราไม่อยากให้มันหายไปเร็วนัก ช่วงเวลาแห่งความจริงมาถึง
วันจันทร์มาถึงแล้วและมาร์คต้องกลับไปทำงาน...
“ทำหน้าอะไรของพี่อ่ะ”แจ็คสันหัวเราะขณะกำลังผูกเนกไทให้ชายหนุ่มที่กำลังทำหน้าแบะงอแง
มาร์คโน้มตัวลงมาให้คนตัวเล็กผูกได้ง่ายขึ้น
มือก็กอดเอวนุ่มนิ่มไว้อย่างไม่อยากจะจากอีกคนไปไหนไกลๆ
ไหนจะเมสันที่กำลังนอนดูการ์ตูนเรื่องโปรดอยู่หน้าโทรทัศน์อีก
“คิดถึง”
“คิดถึงบ้าอะไร
พี่ยังไม่ได้ไปทำงานเลยเถอะ”มือเล็กตบหน้าอกสามีไปหนักๆเป็นเชิงว่าเสร็จแล้ว
...เมียไม่เข้าใจสามีเลย
T_T…
“ก็คิดถึง
กลัวตัวเล็กกับลูกเหงา”
“ผมไม่ใช่เด็กแล้วน่า
อีกอย่าง ถ้าผมเบื่อก็พาลูกขับรถเล่นก็ได้”
แต่ก่อนมีรถมาร์คแค่คันเดียว
เวลาจะไปไหนมาไหนก็เลยไม่สะดวก แต่ตอนนี้มีแจ็คสันมีรถใช้แล้ว เป็นรถที่ทางบ้านมาร์คส่งมาให้เป็นของขวัญต้อนรับเมสันย้อนหลัง
ใบขับขี่ก็ทำแล้ว ขับก็คล่องแล้ว
ถ้าเบื่อก็ไม่ต้องจับเจ่าอยู่บ้านเหมือนเดิมอีกแล้ว
แต่นั่นก็ไม่ทำให้มาร์คหายกังวลเลย
“ไปทำงานเถอะน่า”
มาร์คพยักหน้า
ถือกระเป๋าเอกสารไปกอดและหอมแก้มเมสันที่จุ๊บแก้มคุณพ่อคืน เดินกลับมาหาแจ็คสันที่ยื่นมือไปรับลูกชายตัวเล็กมาไว้ในอ้อมกอด
“ไปทำงานดีๆนะครับ”
“เรียกที่รักหน่อย
พี่อยากได้ยิน”
...นั่นไง
คำขอร้องแสนจะเอาแต่ใจ...
แจ็คสันกลอกตาไปมา
ส่งเสียงยานคางเรียกอีกคนอย่างเสียไม่ได้
“ที่รักครับ
ทำงานดีๆนะคร๊าบบบ”
“ขอบคุณครับที่รัก
ปาป๊าไปทำงานล่ะนะเมสัน”
“บั๊ยบั๊ย
ปะป๊ะกลับบ้านเย็วๆน้า”เจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนคนเป็นแม่พูดแจ้วๆ
คนเป็นพ่อเลยอดไม่ไหวหอมแก้มยุ้ยน้อยๆอีกที ตามด้วยจูบอ่อนหวานกับสุดที่รักให้ชื่นใจก่อนออกไปทำงาน...
...ทำงาน...คิดแล้วก็ห่อเหี่ยวใจเป็นบ้าเลย...
เฮ้อ!!!
“มาร์คคะ”
...นั่นไงล่ะ
ต้นเหตุความหดหู่...
“ครับ
ว่าไงครับคุณอลิซสา”
หญิงสาวสวยเฉี่ยวในชุดทดลองยู่ปากสีสดของเธอด้วยความไม่ชอบใจ
ดวงตาเฉี่ยววาดเส้นคมกริบมองชายหนุ่มอดีตคนรักตัวเองที่ทำท่าทางเบื่อหน่ายใส่เธออย่างเห็นได้ชัด
“คุณนี่เย็นชาจังเลยนะ
ฉันแค่เอาผลวิเคราะห์มาให้ค่ะ”
“อ้อ ขอบคุณครับ”มาร์คยิ้มให้เธอพอเป็นมรรยาท
ยื่นมือไปรับแฟ้มเอกสาร ดึงมือออกจากมือสวยที่ใช้โอกาสจับมือเขาออก
รู้ว่าเธอคงเสียหน้าใช่น้อยเลย
ก็แฟนเก่าที่เคยรักเธอจะเป็นจะตายตอนนั้นกลับทำเย็นชาใส่เธอได้ขนาดนี้
แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อความรู้สึกของมาร์คต่อเธอไม่เหลืออีกแล้ว
แม้แต่เสี้ยวเดียวยังไม่มี...
หญิงสาวแสนสวยยังยืนอยู่ตรงนั้นมองชายหนุ่มที่เธอเคยทิ้งมาด้วยแววตาชื่นชม
แต่ก่อนมาร์คเป็นแค่ผู้ชายแห้งๆที่มีดีแค่หน้าตา สมองกับฐานะทางบ้าน
ถึงจะรักเธอมากขนาดไหนก็ไม่พอเพียงสำหรับความต้องการในวัยรุ่นแสนพลุ่งพล่าน
ประกอบกับมาร์คไม่ค่อยมีเวลาให้ ทำให้เธอเดินจากเขามาอย่างไม่ใยดี
แต่หลังจากนั้นเธอก็รู้ว่าตัวเองคิดผิด เธอเลยพยายามจะเข้าหาเขาอีกครั้ง
แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะทางบ้านของมาร์คไม่ชอบเธอและปิดกั้นไม่ให้เธอเจอมาร์คอีก
กว่าจะรู้ก็ตอนมาร์คบินไปอยู่ประเทศอื่นแล้ว จากนั้นมาเธอก็ไม่ได้ข่าวเขาอีกเลย
โชคดีที่อลิสสาไม่ใช่ผู้หญิงที่แต่งตัวสวยไปวันๆ
สิ่งที่เธอมีคือมันสมองอันดีเลิศติดอันดับเด็กเรียนดีของสหรัฐอเมริกา
เธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์
และนั่นทำให้เธอไปเจอโครงการการร่วมมือระหว่างประเทศที่มีชื่อมาร์คต้วนอยู่ในนั้น
แน่นอนว่าเธอสมัครเข้ามาแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย
...มาร์คเป็นผู้ชายที่ไม่มีวันหาได้จากที่ไหนอีก...
ยิ่งตอนนี้
ตอนที่ชายหนุ่มเติบโตขึ้นเป็นผู้ชายเต็มตัว
รูปร่างผมเก้งก้างถูกเติมเต็มด้วยกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายแม้จะไม่ล้ำบึกแต่ก็ดูดีเสียจนน่าหลงใหล
รูปหน้าหล่อเหลางดงดงามคมเข้มขึ้นตามช่วงวัย อาชีพการงานก็สูง หน้าตาทางสังคมก็ดี
ฐานะก็ร่ำรวยแบบใช้ไปก็ไม่มีวันหมด
...เธอจะไม่ยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง...
“คุณเปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะมาร์ค”
“ผมเปลี่ยนไปหลังจากคุณทิ้งผมไป”ชายหนุ่มเงยหน้าจากกล้องไมโครสโคป
หมุนเก้าอี้มามองหญิงสาวด้วยแววตาที่ทำให้เธอต้องหน้าชา “ต้องขอบคุณคุณมากๆเลยครับ
คุณอลิซสา”
“มาร์คคะ...”
“ขอโทษนะครับ
ผมจะทำงาน”ชายหนุ่มตัดบทอย่างไม่ใยดี
ลุกขึ้นหยิบเอาแฟ้มเอกสารที่หญิงสาวเอามาให้เดินไปหาผู้ร่วมงานคนอื่น
แสดงให้เห็นว่าเขาหนีเธออย่างชัดเจน หญิงสาวมองตามไป
รู้สึกได้ว่าตัวสั่นระริกทั้งที่หน้าชา มือสวยจิกเข้าเนื้อตัวเอง
“ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะ
มาร์คต้วน!”
วันนี้นิชคุณเข้าเวรตามปกติ
และวันนี้เขาก็เอาแบมแบมมาเลี้ยงที่ที่ทำงานด้วย จากวันนั้นเด็กน้อยก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆอย่างสมวัย
ได้รับความรักจากนิชคุณและแทคยอนอย่างเต็มที่
แม้ว่าช่วงนี้แทคยอนจะไม่ได้เข้ามาหาบ่อยนักเพราะติดงานก็ตาม
คุณหมอหนุ่มคนสวยเดินลงมาจากรถ
วกกลับไปอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมาจากเบาะอีกด้านพร้อมตะกร้าบรรจุของเล่น
นมและอาหารสำหรับเจ้าตัวเล็กใบใหญ่จนดูพะรุงพะรัง ไหนจะกระเป๋าเอกสารอีก
ยามที่เดินผ่านมาต้องรีบมาช่วยเขาถือกระเป๋าและตะกร้ายกใหญ่
“ขอบคุณนะครับ”ก้มศีรษะขอบคุณลุงยามที่ยิ้มให้เขา
“โถ่ว
มีอะไรก็ช่วยกันนะครับคุณหมอ ที่คุณหมอช่วยไปดูแม่ผมตอนนั้นผมยังไม่ได้ตอบแทนเลย”
“ไม่เป็นไรครับ
ผมอยากช่วยเอง อ้อ ในกระเป๋านั่นมีน้ำสมุนไพร เอาไปให้คุณแม่นะครับ”
“โอ๊ยไม่เป็นไรหรอกครับ
ผมเกรงใจ”ลุงยามผงกหัวปลกขณะเดินตามคุณหมอมาเรื่อยๆ “เด็กคนนั้นเหรอครับคุณหมอ?”
ทุกคนในโรงพยาบาลต่างรู้ว่านิชคุณผ่าตัดช่วยชีวิตทารกน้อยคนหนึ่งออกมา
เกิดถูกชะตาและได้รับอุปการะเป็นลูก ร่วมเลี้ยงกับคุณแทคยอนผู้เป็นคู่หมั้น แต่วันนี้เป็นวันแรกที่ชายหนุ่มพาลูกบุญธรรมมาเปิดตัว
“ครับ
ผมให้ชื่อว่าแบมแบมล่ะ”นิชคุณยิ้มกว้างดูมีความสุขยามได้เรียกและมองเด็กน้อยที่ยังหลับปุ๋ยในอ้อมแขน
ไม่ว่าใครที่เห็นก็ต้องอมยิ้มกับภาพน่ารักตรงหน้า
พวกเขาเดินมาจนถึงห้องทำงาน
ลุงยามวางของไว้และกลับไปทำหน้าที่ของตนเอง
ส่วนแบมแบมก็โดนพยาบาลในแผนกอุ้มไปเล่นและเลี้ยงแทนแล้วเรียบร้อย
เหมือนว่าแบมแบมจะกลายเป็นที่รักของเหล่าพยาบาลไปเสียแล้ว นิชคุณหัวเราะ ได้แต่บอกว่าอย่ามัวแต่เล่นกับลูกเขาจนลืมส่งเอกสารคนไข้ให้เขาก็แล้วกัน
วันนี้ช่วงเช้าไม่มีอะไรมาก
มีแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ที่เข้ามาตรวจสภาพครรภ์สองสามราย
นึกว่าจะไม่มีอะไรพิเศษให้แปลกใจแล้ว แต่พอเห็นชื่อคนไข้คนสุดท้ายที่ถูกส่งเข้ามาคิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันแน่น
ครืด
ประตูเปิดออกพร้อมด้วยหนุ่มน้อยหน้าแมวที่เขาจำได้แม่นว่าเป็นเพื่อนของแจ็คสันเดินเข้ามา
สวมเสื้อแขนยาวสีสดใสและกางเกงยีนพอดีตัว
คนมาใหม่โค้งหัวทักทายนิชคุณที่ยังเอ๋อๆอยู่
...จินยอง?...
“พี่คุณครับ
พี่คุณ”จินยองเรียกคุณหมอคนสวยที่เหมือนยังงงๆอยู่
“โอ๊ะ สวัสดีจินยอง
วันนี้นายมาทำอะไรหืม? อ่า...อย่าบอกนะว่า...”
แก้มกลมนั่นแดงก่ำเป็นลูกมะเขือเทศ
คุณหมอหนุ่มเดาออกทันที
“โถ่ พี่คุณ
อย่าให้ผมพูดเลย ผมก็เขินอยู่นะ นี่ระหว่างทางก็อายจะบ้าแล้ว”
“แล้วเจบีล่ะ?”ถามถึงว่าที่คุณพ่อที่ยังไม่เห็นตัว
“อยู่ข้างนอกครับ”
นิชคุณพยักหน้าเข้าใจ
เริ่มทำการตรวจอย่างรอบคอบ เนื่องจากว่าต้องรอผลตรวจก็เลยได้นั่งคุยกันทั้งจินยองทั้งแจบอม
ก็เลยทราบว่าเรื่องราวว่าหลังจากที่กินน้ำยาลงไป ทั้งสองก็มีสัมพันธ์กันบ้างตามปกติเป็นเวลาเกือบสามเดือน
แต่ตั้งแต่เมื่อคืนจินยองรู้สึกวิงเวียนเหมือนจะอ้วกทั้งที่ก็พักผ่อนเพียงพอ ก็เลยสงสัยว่าจะท้องหรือไม่
และพอผลออกมาก็ไม่พลิกโผ
จินยองท้อง
พอทราบข่าวจินยองก็ร้องไห้โฮเพราะความดีใจ
โดยมีแจบอมโยกศีรษะภรรยาตัวเองปลอบอยู่ข้างๆ ดูหน้าก็รู้แล้วว่าดีใจ แต่ก็เก็บไว้ไม่ยอมแสดงออกมาง่ายๆ
ทั้งสองกลับไปแล้ว
คุณหมอหนุ่มก็โยกเก้าอี้เขียนจดลงตารางการทำงาน พอนั่งพินิจดูก็น่าตลกดีเหมือนกัน
นี่เขามีคุณแม่ในการดูแลที่เป็นผู้ชายสองคนแล้วเหรอเนี่ย? แถมต้นเหตุที่ทำให้ทั้งสองตั้งครรภ์ได้ก็เพราะน้ำยาที่คู่หมั้นของเขาทำขึ้นมาอีก
ดูเป็นสายสัมพันธ์ที่ดูชุลมุนใช่ย่อยเลย
นิชคุณหัวเราะกับตัวเอง
วางปฏิทินไว้บนโต๊ะทำงาน ลุกขึ้นเพื่อเดินไปดูว่าลูกของเขาจะเป็นยังไปบ้างแล้ว
จะโดนพยาบาลหอมจนช้ำแล้วรึยัง ก็เด็กน้อยของเขาออกจะน่ารักขนาดนั้นนี่
...ถึงไม่ได้คลอดออกมาเอง
แต่เขาก็รักแบมแบมไม่แพ้ใครหรอกนะ...(ยิ้ม)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น