[SF] HIDE ver.Jackson (MRKSON)
HIDE ver.Jackson
MARK X JACKSON
เกล็ดสีพิสุทธิ์ร่วงหล่นร่วงลงมาจากฟ้าครึ้มดำอ้อยอิ่งและงดงาม ลมหนาวพี่พัดเป็นเกลียวบังคับให้ร่างเล็กกว่าขยับตัวติดร่างข้างๆมากขึ้น เจ้าของเสื้อโค้ทสีดำภูมิฐานวาดวงแขนเกี่ยวคนขี้หนาวเข้ามาใกล้ เดินโอบไหล่กันไปตามทางข้างแม่น้ำสายยาว
“หนาว”
เสียงแหบหวานบ่นงึมงำจมูกรั้นแดงก่ำใต้ผ้าพันคอผืนหนาส่งเสียงฟืดฟาด มือเล็กใต้ถุงมือสีเข้มอ้อมเกี่ยวแขน ซุกไหล่แทบจะรวมร่างกับชายหนุ่มที่ส่ายหน้ายิ้มเอ็นดู
“ชวนออกมาเอง”
“ก็ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้นี่!”คนเตี้ยกว่าเถียงไม่ยอมแพ้ “ของในตู้ก็หมดด้วย ไม่ออกมาพรุ่งนี้ผมได้หิวตายพอดี”
“บัตรเครดิตที่ให้ไว้ล่ะ”ชายหนุ่มถาม พลางหยุดเดิน ปัดเส้นผมสีบลอนนอกหมวกบินนี่สีดำเกี่ยวใบหูแดงก่ำ ก้มหน้าลงจูบหน้าผากนวลเบาๆ
“ไม่อยากใช้...” อยากให้มาร์คมาหา ประโยคหลังได้แต่พูดในใจ ไม่อยากให้คนเป็นพี่คิดว่าตัวเองงอแงเอาแต่ใจไปมากกว่านี้
“ขี้เกียจออกมาด้วย หิมะตกแบบนี้ใครจะอยากออกมาเดินคนเดียว”
“ครับๆ”มาร์คยิ้มมุมปาก กระชับฝ่ามือเล็กเดินเคียงข้างกันไปเรื่อยๆตามถนนเส้นเล็กข้างแม่น้ำสายยาวที่ตอนนี้ดำมืดตัดกับแสงไฟระยิบระยับจากอีกฟากฝั่งของเมือง เดินไปไม่เท่าไหร่แจ็คสันก็บ่นขึ้นอีกครั้ง
“หนาว”
“งั้นรีบกลับไปให้หายหนาวกัน ดีไหม?”
“ทะลึ่ง!”แก้มกลมแดงแปร๊ด ผลักอกชายหนุ่มออกไปเบาๆ ทำหน้างอนอยู่ชั่วขณะหนึ่งแล้วก็โดนมาร์คง้อจนหลุดหัวเราะออกมาดังลั่น
“อื้อ...”เสียงแหบครางเสียงเบารับริมฝีปากอุ่นที่เข้ามาทาบทับทันทีที่ประตูคอนโดหรูปิดลง ถุงซูเปอร์มาเก็ตกองอยู่บนพื้นอย่างไร้ความสนใจ ตามด้วยเสื้อโค้ทและผ้าพันคอที่หลุดออกไปติดๆกัน
แจ็คสันวาดเรียวแขนกอดไหล่ชายหนุ่มที่ตระกองกัดรัดร่างตนเองแน่น ตากลมหลุบปิดตอบรับรสจูบเร่าร้อนผิดอากาศด้านนอกอย่างเต็มใจ แก้มกลมและลำคอขาวเป็นจุดต่อไปที่มาร์คเลื่อนลงมาจู่โจมและเล้าโลมจนคนตัวเล็กอ่อนยวบ มือเล็กกระตุกเสื้อเชิ้ตสีขาวเป็นเชิงว่าให้หยุด ดึงมืออีกคนเข้าไปในห้องนอน แต่ไม่ทันได้ถึง มาร์คก็สบโอกาสอุ้มสะโพกแน่นขึ้นจนตัวลอยเหวี่ยงโยนลงไปบนเตียง กระโดดทาบทับเร่งเร้าจะถอดอาภรณ์ออกจากกายขาวสะอาดที่เขาชื่นชอบ
ทั้งสองถูกดึงดูดเข้าหากันด้วยความต้องการอันเร่งเร้า ผิวเนื้อเสียดสีกันสร้างความอบอุ่นจนไม่ต้องพึ่งพาฮีตเตอร์ปรับอากาศ ความอบอุ่นละมุนละไมถูกลืมทิ้งไว้ชั่วคราวเมื่อชายหนุ่มรุกล้ำร่างกายขาวแน่นเข้าไปในจนสุด เสียงครางต่ำประสานกับเสียงแหบห้าวครางกระเส่าเป็นท่วงทำนองเพลงรักภายในคืนนี้ ต้นขาขาวสั่นระริกพาดบนไหล่แข็ง เปิดโอกาสให้มาร์คได้เริงอารมณ์กับร่างกายตัวเองได้อย่างเต็มที่
ทั้งสองเรียกร้องกันและกัน มือแกร่งกดประสานฝ่ามือเล็กหยาบแนบแน่น ต่างฝ่ายต่างเรียกชื่อคลอไปราวกับกำลังย้ำเตือนว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ด้วยกัน
ความเฉอะแฉะในช่องทางรักไม่ได้ทำให้ทั้งคู่หยุดการกระทำ กลับสวนเข้าเติมเต็มกันและกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเสียงครางหวานแหบพร่า ตาโตปรือปรอยอย่างหมดแรง มาร์คกดจูบทำร่องรอยไว้บนผิวกายขาว ไม่ต่างจากกำลังละเลงสีสันสวยสดบนกระดาษขาวบริสุทธิ์ที่รู้กันดีว่าไม่ได้บริสุทธิ์อย่างตาเห็น
ไฟราคะเผาไหม้ทั้งคู่จนลืมหมดสิ้นทั้งชั่วดี...
ตราบจนไฟนั้นแผ่วดับลงเหลือเพียงเถ้าถ่านโสมม...
.
.
.
.
.
เวลาตีสามคือเวลาที่ทุกอย่างเริ่มเดินไปอีกครั้ง...
เปลือกตาสีชมพูขาวถูกกดจูบ ตามด้วยริมฝีปากอิ่มเอิบขึ้นสีช้ำ สัมผัสแผ่วเบาเต็มไปด้วยความเอ็นดูและความรักทำให้คนที่ยังครึ่งหลับครึ่งตื่นอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ ผ้าห่มถูกคลุมให้ ก่อนชายหนุ่มจะทิ้งให้ห้องคอนโดใหญ่กว้างเหลือเพียงร่างเล็กบนเตียงเพียงคนเดียว
.
.
.
ตาโตปรือเปิด มือขาวควานหาความอบอุ่นจากคนที่โอบกอดตนเมื่อคืน แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า แจ็คสันลืมตามามองเล็กน้อย ยึดมือกลับมากอดตัวเอง ซุกตัวลงใต้ผ้าห่มผืนหนาและหลับลงไปอีกครั้งราวกับไม่อยากตื่นขึ้นมาเผชิญกับความจริงในทุกๆเช้า...ว่าตนถูกปล่อยทิ้งไว้เพียงคนเดียว...อีกครั้ง...
.
.
.
กว่าจะทำใจตื่นได้นาฬิกาบนหัวเตียงนอนก็บอกเวลาเกือบเที่ยง ร่างขาวลุกขึ้นจากเตียงยับยู่ ขยี้เส้นผมสีบลอนทองที่มาร์คเคยบอกว่าชอบจนฟูฟ่อง ก้มตัวหยิบเสื้อผ้าข้างเตียงขึ้นมาใส่ลุกเดินเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็พาร่างชุ่มน้ำออกมายืนจ้องตัวเองในกระจกเต็มตัวในห้องนอน
ร่องรอยที่มาร์คทำไว้ยังปรากฏบนร่างกายเขาแทบทุกที เป็นสิ่งที่ยืนยันเพียงสิ่งเดียวว่าเรื่องเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน แม้ว่ามันจะพาความสุขมาชั่วครู่แล้วก็หายไปในยามเช้าเหมือนกันก็ตาม...
เสื้อยืดสีดำและกางเกงสามส่วนสบายๆถูกสวมเข้าบนร่างกาย เดินผ่านเตียงยับยู่อย่างไม่คิดจะทำความสะอาด ไม่ลืมคว้าแว่นตากรอบดำกลมขึ้นมาสวม เขาสายตาสั้นและก็ขี้เกียจจะใส่คอนแท็กเลนส์ในยามเช้าๆแบบนี้ด้วย
ปล่อยให้เครื่องทำกาแฟบนเคาน์เตอร์ครัวส่งเสียงครืดๆ ตัวก็หันไปหยิบเอาขนมปังหนาขึ้นมาทาแยมเยิ้มเลอะขอบวางบนจานลวกๆ ไม่ถึงสิบนาทีก็ได้อาหารเช้าในตอนเที่ยงเป็นกาแฟดำถ้วยหนึ่งและขนมปังทาแยม เดินมานั่งบนโซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่น เปิดโทรทัศน์เครื่องใหญ่ดู เสียงรายงานข่าวของนักข่าวสาวดังออกมาจากสเตอริโอเครื่องหรู พื้นหลังแบบนั้นจำได้ดีว่าเป็นข่าวบันเทิงสายไฮโซ
และภาพมุมขวานั่นทำให้กาแฟขมในมือจืดชืด...
‘ต้องแสดงความยินดีกับดาราสาวอึนจี หลังจากแต่งงานกับนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อมาร์ค ต้วนเมื่อปีก่อน วันนี้เธอมาแถลงข่าวว่าตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้วนะคะ พ่อก็หล่อแม่ก็สวยขนาดนี้ ต้องเป็นเด็กที่น่ารักแน่นอนเลยค่ะ สาวๆหนุ่มๆก็อกหักกันตามระเบียบนะคะ ข่าวต่อไป.............’
เสียงต่อจากนั้นไม่มีความหมายอีกต่อไป ข่าวเมื่อครู่กระตุ้นลิ้นชักอารมณ์และความถูกผิดในจิตใจให้ขึ้นมาเต็มตื้นสะอึกจนตัวชา
...มาร์คไม่ใช่ของของเขา...
หยดน้ำใสๆไหลออกมาจากหางตา มือเล็กปล่อยให้แก้วกาแฟหล่นลงพื้นพรม ยึดมือเข้ามากอดตัวเองไว้แน่น ปล่อยน้ำตาสายใหญ่ออกมาทั้งร้องไห้เหมือนคนบ้า
รู้ดี...แต่ก็ยังฝืนรั้ง
และรู้...ว่าวันนี้มันต้องมาถึงในสักวัน...
เป็นสักวันที่มาร์คต้องกลับไปอยู่กับครอบครัวที่แท้จริง
และทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง...ในห้วงความดำมืดอันแสนทรมาน...
ก๊อกๆๆ
“แจ็คสัน เปิดประตูให้พี่หน่อย”
ก๊อกๆๆ
“หลับเหรอ? งั้นพี่เปิดเข้าไปนะ”
เสียงทุ้มนุ่มหน้าประตูเรียกให้คนที่นั่งกอดเข่าตัวเองตรงมุมห้องสะดุ้งโหยง สองขากระโดดลงไปดันประตูบานใหญ่ต้านไม่ให้คนด้านนอกไขเข้ามาได้ เสียงโซ่คล้องประตูดังกึกลั่น ชายหนุ่มดูแปลกใจใช่น้อยเพราะแจ็คสันไม่เคยล็อกโซ่ประตู
“กลับไป!”
นั่นคือเสียงของคนในห้อง ร่างเล็กหลบอยู่หลังบานประตูใหญ่ ในขณะที่ชายหนุ่มส่องเข้ามาตามช่องประตู
“แจ็คสัน คุยกันก่อน...”
“กลับไป!!!”แผดเสียงลั่นกว่าเดิม กระแทกประตูปิดสนิท มือเล็กปิดใบหน้าชุ่มน้ำตาของตัวเอง ปากกัดกลั้นเสียงร้องไห้
“แจ็คสัน...รู้ข่าวแล้วใช่ไหม...”
“กลับไป”เสียงสั่นพร่าพูดเสียงแผ่วลง ไม่อยากได้ยินแล้ว เขารู้แล้ว “กลับไปหาครอบครัวพี่”
“...พี่ขอโทษ...”
“อย่าทำให้ผมรู้สึกผิดมากกว่านี้...กลับไป...ได้โปรด”
.
.
.
“พี่จะมาหาพรุ่งนี้...เราต้องคุยกัน”
เสียงรองเท้าหนักเดินจากไปพร้อมกับแจ็คสันที่ไหลลงกอกกอดตัวเองร้องไห้บนพื้น มาร์คจะรู้ไหมว่าแต่ละครั้งที่บอกให้อีกคนหันหลังกลับไป มันเหมือนมีดที่เฉือนหัวใจเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนปวดไปหมดแล้ว
...ทำถูกแล้ว แจ็คสัน นายทำถูกแล้ว..
กระเป๋าเป้ใบใหญ่เต็มเอี๊ยดไปด้วยเสื้อและกางเกง รวมถึงของใช้อย่างอื่น แจ็คสันเดินไปทั่วคอนโดที่มีความทรงจำของเขาและมาร์คเต็มไปหมด เก็บซึมซับทุกอย่างให้เด่นชัดในความทรงจำ นั่งลงเขียนจดหมายเพื่อลาอีกคน ตอนแรกจะให้ดูตลกๆหน่อยแท้ๆ เกือบสำเร็จแล้วถ้าน้ำตามันไม่ไหลออกมาเปรอะกระดาษจนยุ่ยไปเสียก่อน...
วางกุญแจคอนโด กุญแจรถ และจดหมายซ้อนๆกันบนโต๊ะเล็กข้างโซฟา สะพายกระเป๋าจะเดินออกไปจากห้อง มือเล็กจับสแนปแบคบนศีรษะ ความทรงจำตอนพวกเขาเดินตลาดไปซื้อหมวกใบนี้ด้วยกันพุ่งวาบเข้ามา แค่คิดก็ทรมานจะบ้า ตัดใจถอดมันออกไปวางทับกระดาษจดหมายอีกชั้น
“ลาก่อนครับ รักของผม ลาก่อนครับ พี่มาร์ค...”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น