[SF] Pet Human III (MarkSon)
Pet Human III
Mark
X Jackson
“พี่บ้าหรือบ้าวะไปจับหูกับหาง
Pet
Human แบบนั้น
ไม่รู้รึไงว่าในระดับสี่ดาวขึ้นไปพวกนั้นมันเป็นที่อ่อนไหวในร่างกายน่ะ”
...ก็เพราะไม่รู้ไงวะ...
มาร์คตอบไอ้รุ่นน้องตัวโย่งในใจ
ตาก็อ่านเอกสารการใช้สินค้าของบริษัทอีกรอบ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้หรอกนะ
แต่เพราะไม่ใส่ใจจะจำ ไม่เคยมีความคิดว่าจะมี Pet Human ในครอบครอง ก็เลยลืมเรื่องพื้นฐานแบบนั้นไปอย่างง่ายดาย
จนเมื่อวานนั่นแหละ
‘อ๊ะ
อื้อ มาร์ค’
ตึง!
ยูคยอมสะดุ้งหันมาดูพี่ชายเพื่อนร่วมงานที่เอาหัวกระแทกโต๊ะดังปึกไปเมื่อกี้ด้วยสายตาหวาดๆ
“พี่ไปแผนกจิตเวชดีไหม?”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้”มาร์คพึมพำ
เงยหน้าขึ้นมาลูบหน้าผากแดงๆของตัวเอง เงยหน้าถามเจ้ารุ่นน้องที่มองมาก่อน
“งั้นแบมแบมก็เป็น?”
“ใช่สิ”ยูคยอมตอบหน้าตาย
“แล้วไม่แย่เหรอ?”
“แย่อะไรล่ะพี่
ถ้าไม่จับก็ไม่เป็นอะไรหรอก”ยูคยอมพูดเรียบๆ หันไปทำงานของตัวเองต่อบนโต๊ะ
“อีกอย่าง Pet Human ก็ถูกสร้างมาคลอบคลุมมากพอรองรับเรื่องแบบนั้นได้อยู่แล้ว
พี่จะตกใจไปทำไม”
“ก็แจ็คสันเป็นเด็กผู้ชาย”มาร์คยังคงเถียง
ทำเอายูคยอมถอนหายใจเฮือกใหญ่
หันเก้าอี้กลับยกปากกาชี้หน้าเขาและแสดงสีหน้าหงุดหงิดเต็มที่
“สัตว์เลี้ยงก็คือสัตว์เลี้ยง
พี่จะเลี้ยงยังไงก็เรื่องของพี่
แต่พี่ก็อย่าลืมว่าพวกที่ซื้อไปส่วนใหญ่ก็เอาไปบำบัดกามตัวเองเกือบทั้งนั้นแหละ”
มาร์คนิ่งไป
มันเป็นเรื่องที่ดูโหดร้าย แต่ก็จริงอย่างที่ยูคยอมพูด
“แล้วก็นะพี่มาร์ค”ยูคยอมเอ่ยขึ้นมาอีก
แต่คราวนี้บนใบหน้านั้นปรากฏรอยยิ้มไม่น่าไว้วางใจ
“ใกล้หมดฤดูใบไม้ผลิแล้ว...ระวังเอาไว้ล่ะ”
มาร์คกลับมาบ้านก็มืดอีกแล้ว
ชายหนุ่มเปิดประตูโยนรองเท้าและกระเป๋าเข้าตู้เก็บของ
ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปในส่วนห้องนั่งเล่น ร่างกลมๆก็พุ่งเข้ามาหาก่อน
“มาร์ค~
กลับมาแล้วเหรอ”
แจ็คสันรัดเอวเขาแน่น
หูกลมๆบนเส้นผมสีซีดขยับดุกดิกน่ารักน่าชัง ตากลมแป๊วช้อนขึ้นมามองเขา
ยิ้มกว้างผละตัวออกดึงชายหนุ่มเข้ามานั่งบนโซฟาที่มีตุ๊กตาหมีสีชมพูนั่งแหมะอยู่ก่อน
เจ้าหมีตัวเล็กดึงมันมากอดก่อนเอนศีรษะนอนบนตักเขา มาร์คลูบหน้าม้าสีซีดเบาๆ
แต่อยู่ๆก็หยุดชะงัก
“แจ็คสัน
วันนี้นายนอนห้องเล็กนะ”
ตากลมลืมตาพรึบฉายแววความไม่เข้าใจ
ผงกหัวขึ้นมามองเจ้านายตัวเอง หางคิ้วตกลงดูน่าสงสาร
“ทำไมล่ะ?
เค้าทำอะไรที่มาร์คไม่ชอบเหรอ”
“ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากนอนคนเดียว”
“งืม...”เจ้าตัวเล็กหน้าหงอยแต่ก็ยอมรับโดยไม่เถียงสักคำ
จริงๆมาร์คก็สงสารล่ะนะ แต่ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อตัวแจ็คสันเองด้วย
พวกเขาทานอาหารกัน
อาบน้ำเสร็จมาร์คก็ส่งให้เจ้าตัวเล็กเข้าไปนอนในห้องเล็ก
นั่งทำงานต่ออีกนิดหน่อยก็เข้าไปนอนในห้องนอนใหญ่ พอล้มตัวนอนแขนด้านซ้ายก็วาดไปด้วยความเคยชิน
ก่อนจะนึกได้ว่าคนที่นอนหนุนแขนด้านนี้ตลอดเกือบสัปดาห์นี้นอนอยู่ห้องข้างๆ
ชายหนุ่มถอนหายใจ พลิกตัวนอนตะแคงข้าง
สูดลมหายใจเอากลิ่นหอมอ่อนๆที่ยังติดบนที่นอนเข้าปอด พยายามข่มตาหลับ
แต่พอกำลังจะเคลิ้มอยู่แล้วก็ได้ยินเสียงประตูห้องนอนเปิด
ชายหนุ่มยังนอนนิ่งแสร้งทำเป็นหลับ
เพราะคงไม่มีใครอื่นในบ้านได้อีกนอกจากเจ้าหมีสีน้ำตาลของเขา
“มาร์ค...หลับแล้วเหรอ”เสียงแหบหวานแทบจะเป็นการกระซิบอยู่ใกล้ๆ
อยากจะลืมตาขึ้นมองแต่ก็อยากจะฟังว่าแจ็คสันจะทำอะไรต่อ
“เค้านอนไม่หลับอ่ะ
กอดมาร์ตี้แล้วก็ไม่เห็นเหมือนกอดมาร์คเลย”
“เค้านอนไม่หลับจริงๆนะ”
“ถ้ามาร์คตื่นมาเห็นเค้านอนข้างๆมาร์คจะดุเค้าไหม”
“งือ...แต่เค้าไม่อยากโดนมาร์คดุเลย
มาร์คนอนฟังเด็กหมีบ่นงุ้งงิ้งไปเรื่อยๆ
กว่ายี่สิบนาทีที่พูดคนเดียวสลับกับตุ๊กตาอยู่แบบนั้น ถ้าเป็นคนอื่นมาร์คได้ตวาดให้ไปนอนแล้ว
แต่เพราะเป็นแจ็คสัน
เจ้าเด็กหมีที่เขารู้สึกแพ้ทางตลอดเวลาเลยทำให้ชายหนุ่มเลือกจะนอนฟังไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งเสียงนั้นเงียบลงไปพักใหญ่ มาร์คถึงได้ลืมตาขึ้นมามอง
“เด็กเอ๊ย”
เผลอขยับยิ้มเอ็นดู
ลุกขึ้นมามองหัวกลมที่จิ้มลงกับฟูก แจ็คสันเผลอหลับทั้งที่ยังอยู่ในท่านั่งกับพื้น
สองแขนกอดตุ๊กตาแน่น ชายหนุ่มอุ้มเจ้าเด็กหมีขึ้นมานอนดีๆบนเตียง
กระชับเอวคอดเข้ามากอดหลวมๆ แจ็คสันที่ยังไม่ได้สติแต่พอได้กลิ่นคุ้นเคยก็ซุกตัวเข้ามาใกล้จนแทบจะเกยอกแกร่ง
มาร์คลูบผมสีซีดเบาๆยิ้มๆ
“เอาเถอะ ยอมให้คืนนึงหรอกนะ”
เปลือกตาบางกระพริบปรือ
มือเล็กยกขึ้นขยี้ตางัวเงีย
สะดุ้งตกใจเมื่อเห็นว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นนาย
ใจเต้นสั่นระรัวกลัวว่ามาร์คจะดุถ้าเห็นตัวเองขัดคำสั่งมานอนด้วย
ทั้งที่เมื่อคืนจำได้ว่านั่งหลับอยู่ข้างเตียงแท้ๆ แจ็คสันนอนตัวเกร็งเพราะแรงกระชับบนเอว
มองดวงตาสวยของคนเป็นเจ้านายลืมตาขึ้นมามองตัวเองกลัวๆ
มาร์คตื่นขึ้นมาไม่ทันไรก็ต้องหลุดหัวเราะเพราะสีหน้าตื่นๆของเจ้าลูกหมีในอ้อมกอด
คงคิดว่าเขาจะดุล่ะสินะ...คิดเสร็จก็แสร้งทำหน้าดุ
“ทำไมมานอนนี่”
“คะ เค้า...คือเค้า...”เจ้าลูกหมีตอบตะกุกตะกัก
“บอกให้ไปนอนห้องเล็กไง”ดุอีกทั้งที่มือก็กระชับร่างขาวเข้ามาใกล้
ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ได้กลิ่นสบู่อ่อนๆจากคนในอ้อมแขน แต่จู่ๆก็ต้องนิ่งเพราะดวงตากลมของคนในอ้อมแขนเริ่มคลอน้ำตา
แบะหน้า ก่อนร้องไห้โฮใหญ่จนชายหนุ่มสะดุ้ง
“ฮึก...เค้าขอโทษ
ฮือออออออ”
“เดี๋ยวๆ
ยังไม่ดุเลย อย่าร้องสิ”มาร์คกระวนกระวายทำอะไรไม่ถูก จับแจ็คสันขึ้นมานั่งบนเตียง
เจ้าลูกหมีนั่งกอดตุ๊กตาก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น ใบหน้ากลมแดงก่ำ
สูดจมูกกลั้นร้องไห้ฮักๆทำเอาคนขี้แกล้งรู้สึกผิดไปเลย
“บอกว่าอย่าร้องไง”
“ฮึบ!...ฮึก”แจ็คสันสูดลมหายใจกลั้นแต่ก็ปล่อยโฮลงมาเหมือนเด็กตัวเล็กๆ มาร์คเลยตัดสินใจรวบคนในปกครองมากอด
ลูบศีรษะกลมเพื่อปลอบโยนท่าทางเก้ๆกังๆ ก็คนมันไม่เคยปลอบใคร จะให้ทำยังไงได้ล่ะ?
ลูบไปลูบมาคนตัวเล็กก็หยุดร้องไห้แต่ยังไม่หยุดสะอื้น มาร์คเลยลูบต่อแต่ใจก็เริ่มจะลอยคิดไปถึงเรื่องอื่นๆในสมอง
มือเรียวที่เอาแต่ลูบผมอยู่เมื่อกี้เลยเผลอไปโดนหูกลมๆของแจ็คสันเข้า
“อึก...”
แจ็คสันหยุดร้องไห้ทันควัน
มาร์คได้สติหันมามองงง มองตามมือตัวเองก็พบว่าจับอยู่บนหูกลมนุ่มนิ่มด้านหนึ่ง
มันนิ่มจนอดบีบลูบเบาๆไม่ได้
“อ๊ะ อ๊า
มาร์ค”
อึก...
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอดังอึกใหญ่
ปล่อยมือจากจุดอันตราย ก้มหน้ามองใสแดงระเรื่อของเจ้าเด็กหมี ดวงตากลมยังจ้องมาทางเขาอย่างไร้เดียงสา
จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากแดงก่ำ มันน่าประทับจูบลงไปแรงๆจริงๆเลย
พี่ก็อย่าลืมว่าพวกที่ซื้อไปส่วนใหญ่ก็เอาไปบำบัดกามตัวเองเกือบทั้งนั้นแหละ
เสียงของยูคยอมลอยเข้ามาในหัว
มาร์คส่ายหน้า ดันตัวแจ็คสันออกเล็กน้อย ลุกลงมายืนข้างเตียง
“ไปอาบน้ำแต่งตัว
เดี๋ยววันนี้จะพาไปข้างนอก”
พอได้ยินคำว่าข้างนอก
แจ็คสันก็ตาโตตื่นเต้นดีใจ กระโดดผลุงเดียววิ่งลิ่วไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำในห้องห้องนอนไป
“เฮ้! ไปอาบห้องน้ำนอกสิ”
“เอ๊ะ? อ่า”แจ็คสันตอบรับจากด้านใน
ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมร่างขาวๆของเจ้าเด็กหมีโผล่พรวดออกมาในสภาพเปลือยเปล่า มาร์คร้องเฮ้ย
ดันแจ็คสันกลับไปหลังประตูแทบไม่ทัน ในขณะที่ใบหน้าขาวเงยหน้ามองเขาตาแป๊วไม่เข้าใจ
“ก่อนออกมาก็ใส่เสื้อก่อนสิ!
เฮ้อ นายอาบห้องนี้แหละ ฉันจะไปอาบข้างนอกเอง”
ว่าจบก็ดันหัวกลมเข้าไปด้านในปิดประตูเรียบร้อย
ได้ยินเสียงหงุงหงิงๆจากเจ้าลูกหมีในนั้นอยู่พักใหญ่แต่เขาไม่สนใจเดินออกมาอาบน้ำจัดการตัวเองในห้องน้ำข้างห้องครัว
จัดการเปลี่ยนชุดเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำผ่านระบบเชื่อมโยงในห้องเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาหาอาหารเช้าไว้สำหรับสองที่
เผื่อเจ้าลูกหมีที่ยังแต่งตัวไม่เสร็จ น่าจะกำลังยุ่งกับระบบการที่ไม่เข้าใจอยู่นั่นแหละ
ประตูห้องนอนเปิดออก
แจ็คสันในชุดเสื้อยืดสีขาวกับเอี๊ยมน้ำตาลก็เดินออกมา ศีรษะกลมสวมหมวกทรงฟักทองสีเดียวกับสีเอี๊ยมปิดใบหูดูกลมกลืนไปกับสมนุษย์ปกติ
วงแขนขาวกอดมาร์ตี้แนบอก ยิ้มกว้างตายิบหยีเห็นรังสีความสดชื่นมาแต่ไกล
“มาร์คคคค~~~~ เค้าเสร็จแล้ววว จะพาเค้าไปไหนเหรอ?”
แจ็คสันกระโดดมาเกาะเคาน์เตอร์ครัว
มองตามจานอาหารที่มาร์คถือลงมาพักไว้ ชายหนุ่มเดินไปหยิบน้ำส่งให้แจ็คสันที่ยื่นมือมารับไว้อย่างรู้งานไปที่โต๊ะกินข้าว
โดยมีมาร์คถือจานอาหารตามไป
“จะพาไปไหนเหรอมาร์ค”
“กินเสร็จก่อนค่อยพูด”มาร์คเอ็ดเจ้าลูกหมีเบาๆ
แจ็คสันยู่หน้าเล็กน้อย ก้มหน้าตั้งหน้าตั้งตากิน
เคี้ยวหมุบหมับๆไม่เล่นไปกินไปอย่างทุกครั้งจนเกลี้ยงจาน ดื่มน้ำ ท้าวคางตีขาไปมารอมาร์คกินข้าวเสร็จทั้งรอยยิ้ม
ไม่รู้ว่าจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นกัน
พอเขาตักคำสุดท้ายเข้าปากเจ้าลูกหมีก็ร้องเย้กับมาร์ตี้ในอ้อมกอด มาร์คส่ายหน้า
ดื่มน้ำลุกขึ้นจากโต๊ะ แจ็คสันลุกตาม
เดินต้อยๆตามเจ้านายไปเอากระเป๋าและเอกสารเตรียมออกไปทำงาน
ขณะที่พวกเขากำลังจะเดินออกไปจากห้อง
มาร์คก็ชะงัก กลับมามองเจ้าลูกหมีตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า
หยิบตุ๊กตาสีชมพูโยนไปทางโซฟาโดยมีตาแป๊วๆมองตามไปอึ้งๆ
“ไม่ต้องเอามาร์ตี้ไป”
“แต่...”
“มีฉันแล้วจะเอาตุ๊กตาไปทำไม”
ตึกตัก
“มีอะไร?”มาร์คถามเจ้าตัวเล็กที่จู่ๆก็ก้มหน้าเอามือประกบหน้าอกด้านซ้าย
“ไม่รู้อ่ะ...จู่ๆตรงนี้มันก็เขย่าแรงเลยอ่ะ
เค้าเป็นโรคอะไรรึเปล่า?”
“หา?”มาร์คคิ้วขมวด
วางกระเป๋าลงกับพื้น
จับมือเล็กออกวางมือตัวเองทาบทับตรงนั้นแทนเพื่อตรวจอาการก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะแอบขึ้นสีเข้ม
มือเขารับรู้ถึงแรงสูบฉีดแรงของหัวใจของอีกคนชัดเจนจนส่งผลต่อหัวใจตัวเองอย่างช่วยไม่ได้
มาร์คยกแขนลง เดินไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาเหมือนเดิม กระแอมไอในลำคอแก้เขิน
“ไม่เป็นไรหรอกน่า
ไปเถอะ”
มาร์คเดินออกมาจากห้องตามด้วยแจ็คสัน
“มาร์คคคค”เสียงอ้อนเจ้าลูกหมีดังขึ้นพร้อมสัมผัสอุ่นนุ่มช้อนประกบมือหยาบ
นิ้วเรียวกางออกให้แจ็คสันได้แทรกมือเข้ามากุมจนไม่เหลือพื้นที่ว่างอย่างที่ชอบ แปลกที่แค่ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของอีกคนก็ทำให้เขายิ้มออกมาได้แบบนี้…
มาร์คพาแจ็คสันมาที่ทำงานด้วย
เพราะวันนี้เป็นวันตรวจสุขภาพของพวก Pet Human ระดับ 4 - 5 ดาว
แน่นอนว่านอกจากพามาตรวจสุขภาพแล้วยังพาแจ็คสันมาพบปะคนอื่นด้วย
ถึงเจ้านายจะไร้มนุษย์สัมพันธ์แต่สัตว์เลี้ยงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นตามจริงไหม (ไม่หรอก
ยูคยอมบังคับให้พามาหาแบมแบมต่างหาก)
พอเข้าไปเขตสุขภาพ
แจ็คสันก็กำมือเขาแน่นขึ้น เจ้าตัวเล็กเบียดเข้ามาชิดไหล่เขา เดินตัวหนีบๆสอดส่ายสายตาไปรอบๆอย่างระแวดระวัง
พอเห็นแพทย์ผู้ตรวจเดินออกมารับ แจ็คสันก็ยิ่งหลบไปหลังเจ้านาย
มองผ่านร่องแขนชะเง้อมองคนในชุดกราวขาวอยากรู้อยากเห็น
“เป็นเด็กที่ขี้อายจังนะครับ”
“แจ็คสันไม่ได้ฝังชิปน่ะ
แล้วนายกลับมาทำงานแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ? จินยอง”
“ผมจะเป็นอะไรล่ะครับ?
ก็อยู่บ้านเบื่อๆก็เลยมาทำงานก็แค่นั้นเอง”จินยองหัวเราะ มาร์คถึงกับกลอกตาให้กับพวกมหาเศรษฐีไม่มีอะไรทำอย่างคนตรงหน้า
แล้วถามถึงเจ้าหมาป่าสีเงินที่จำได้ว่าคุณหมอชั่วคราวด้านหน้าตัวเองรับไปเลี้ยง
“อ๋อ
ถ้าเป็นเจบีก็อยู่ห้องทำงานคุณมาร์คนั่นแหละครับ เห็นกระต่ายน้อยแบมแบมลากไปน่ะ”
มาร์คพยักหน้ารับรู้
หันไปตามแรงสะกิดจากลูกหมีตัวเล็ก นึกได้ว่าเขามาทำอะไรที่นี่
“อ่อ...ฉันฝากแจ็คสันหน่อยแล้วกันนะ”
“ได้สิค...//มาร์ค!!”
แจ็คสันร้อง กอดเอวสอบของเจ้านายแน่นอย่างดื้อรั้น
ใบหน้ากลมช้อนมอง ตากลมรื้นน้ำตา แบะปาก น่าสงสารจนไม่กล้าดุซ้ำ แถมยังมาส่งเสียงตัดพ้ออีก...
“ไม่เอา
มาร์คจะทิ้งเค้าไว้ที่นี่เหรอ ไม่เอา เค้ากลัว มาร์คอย่าทิ้งเค้า”
“แจ็คสัน”
“มาร์ค~~~~~ T0T”
ชายหนุ่มถอนหายใจดังเฮือกใหญ่
...ให้มันได้อย่างนี้สิ...
.
.
.
.
.
“ตามใจดีนะครับ”จินยองหัวเราะให้กับคุณเจ้านายที่ต้องมานั่งหน้าบอกบุญไม่รับข้างเจ้าลูกหมีสีหน้าชื่นมื่นนั่งบนเตียงตรวจ
“รีบตรวจสักทีเถอะ”มาร์คบอกเซ็งๆ
มองแจ็คสันที่ยิ้มกว้างให้แบบไม่รู้อารมณ์เขาสักนิด ชายหนุ่มกรอกตานั่งเซ็งๆ
ขณะที่จินยองเริ่มตรวจร่างกาย Pet Human ของเขา
“หายใจปกตินะครับ
ไม่เกร็ง”จินยองบอกกับแจ็คสัน ใช้เครื่องตรวจแสกนตั้งแต่หัวจรดเท้าไปช้าๆ
สร้างเป็นรูปโฮโลแกรมบนฐานสีขาวด้านหลัง ข้อมูลสุขภาพถูกโยนและคำนวณขึ้นบนจอพรึบพรับภายในพริบตาเดียว
จินยองยิ้มให้แจ็คสัน วางเครื่องตรวจลง
“เสร็จแล้วครับ
เอาล่ะ มาดูพร้อมกันนะ”
มาร์คกับแจ็คสันเดินเข้ามาดูภาพเสมือนสมจริง
ใบหน้าของมาร์คร้อนผะผ่าว หันไปมองทางอื่น แต่สัมผัสบนแผ่นหลังและบนไหล่นั่นก็ทำให้เขาต้องหันกลับมาสนใจเจ้าลูกหมีที่เข้ามาคลอเคลียอย่างทุกครั้ง
ดวงตากลมมองไปบนภาพที่เหมือนตัวเองอย่างกับแกะ ชี้ชวนให้เจ้านายตัวเองดู
“มาร์คๆ
เหมือนเค้าเป๊ะเลยอ่ะ แต่อืมม เสื้อผ้าเค้าหายไปไหนอ่ะ”
...เออ
ก็เพราะภาพเสมือนมันเปลือยไง โถ่เอ๊ยยยย...
“เพื่อการวินิจฉัยน่ะ”จินยองหัวเราะ
ดวงตาเจ้าเล่ห์มองมาร์คแล้วพอจะรู้ว่าชายหนุ่มรู้สึกอย่างไร
แต่ก็อยากแกล้งนิดๆเหมือนกัน เลยกวักมือเรียกแจ็คสันเข้าไปหา
“ไหนถอดเสื้อให้หมอดูหน่อยสิครับ”
“ได้ๆ”
“ไม่ต้อง!”มาร์คว๊ากขึ้นมาทันที
ร่างสูงเดินก้าวฉับๆมากั้นระหว่างสัตว์เลี้ยงตัวเล็กกับจินยองที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากสะใจ
มาร์คหงุดหงิดขึ้นมาอีกระดับ หันกลับไปจับมือเล็กไว้พาเดินออกไปจากห้องตรวจ
“ตรวจเสร็จแล้วก็กลับได้แล้ว”
“อ่า...”แจ็คสันเซแถดๆเดินตามแรงฉุดของเจ้านายออกไปงงๆ
...อะไรของมาร์คนะ?...
มาร์คหนีจินยอง
เพื่อมาพบว่าในห้องทำงานตัวเองกำลังวุ่นวายเพราะกระต่ายของยูคยอมและเจ้าหมาป่าสีเงินของจินยอง
“แบมแบม! หยุดดึงเสื้อเราสักที!”
“ก็อยากดูอีกอ่ะ
เร่าร้อนดีจัง คิคิคิ”
“หยุดเลยนะ!”
เจบีพยายามกุมเสื้อฮูตสีม่วงของตัวเองแน่นไม่ยอมให้เจ้ากระต่ายแสนซนแบมๆเปิดดูได้ดังหวัง
“ทำอะไรกันน่ะพวกนาย”มาร์คทักออกไปเมื่อไม่เห็นยูคยอมอยู่ในนี้ด้วย
“ยูคไปไหน?”
“ยูคเอางานไปส่งฮะ
แล้วนั่นแจ็คสันรึเปล่า? น่ารักจัง ยูคเล่าเรื่องนายให้ฟังบ่อยมากเลยล่ะ
นายเป็นหมีสีน้ำตาลสินะ แล้วดุรึเปล่า ชอบทำอะไรเป็นพิเศษอ่ะ”แบมแบมตอบคำถาม
ก่อนจะกระโดดผลุงเดียวมายืนต่อหน้าแจ็คสันที่ทำหน้าตาตื่นๆ
แล้วรัวกระสุนจนคนฟังรับสารไม่ทัน
“เอ่อ...”
“นายพูดเร็วจนเจ้านั่นฟังไม่รู้เรื่องแล้ว”เจบีเดินมาเคาะหัวเจ้ากระต่ายตัวป่วน
เจบีเป็นหมาป่าสีเงิน
ตัวสูงหุ่นดี หน้าตาออกดุเวลาไม่ยิ้ม ใบหูสุนัขสีเงินเช่นเดียวกับเส้นผมและพวงหางใหญ่นุ่มฟูสีเดียวกันทำให้คนตรงหน้าดูดีอย่างถึงที่สุด
ส่วนแบมแบมเป็นกระต่ายตัวเล็ก
ตัวเล็กกว่าแจ็คสันด้วยซ้ำ แต่นิสัยป่วนซะไม่มี เวลากระโดดไปไหนมาไหน
ใบหูกระต่ายยาวๆสีครีมก็จะไหวตามด้วย ก็ดูน่ารักสมเป็นกระต่ายดี
“เหรอ...งั้นฉันฝากแจ็คสันไว้กับพวกนายด้วยแล้วกัน
อ้อ...เขาไม่ได้ฝังชิป ถ้าสอนอะไรเขาได้ก็สอนแล้วกันนะ เหมือนนายนั่นแหละแบมแบม”
“เฮ้! แต่ตอนนี้ผมทำเองได้หมดแล้วนะ”
“ฉันถึงให้นายสอนไง”มาร์คบอก
ลูบเส้นผมนุ่มของลูกหมีข้างตัว ก้มหน้าให้อยู่ระดับเดียวกันกับแจ็คสัน “อยู่กับพวกเขานะ
ฉันจะไปทำงานในห้องนี้แหละ มีอะไรก็บอกแล้วกัน”
“งือ...”
“อยู่ได้นะ...”
“...อืม”
แจ็คสันพยักหน้าหงอยๆ
ถึงจะอยากไปกับมาร์คแต่ก็พอจะรู้ว่าตัวเองไม่ควรทำให้มาร์คลำบาก
อีกอย่างเพื่อนใหม่ก็ดูใจดี ก็คงไม่เป็นอะไรหรอก...
ใช่ไหมนะ?
.
.
.
.
.
เวลาผ่านไปจนถึงเวลาเลิกงาน
มาร์คกับยูคยอมเดินมาตามตัว Pet Human ของตัวเองกลับบ้าน
แบมแบมกระโดดผลุงเดียวขึ้นขี่หลังยูคยอมเดินออกไป
ในขณะที่มาร์คต้องเข้าไปปลุกเจ้าลูกหมีที่นอนยังไม่ตื่นบนโซฟาตัวนุ่ม
“แจ็คสัน
ตื่นได้แล้ว”
“อืม...มาร์คมารับเค้าแล้วเหรอ
หาววว”ตากลมปรือมองเล็กน้อย หาวปากกว้างเหมือนเด็กๆ ลุกโงนเงนขึ้นมานั่ง
ขยี้ตาไปมาเพื่อให้หายง่วง ยื่นมือไปรับมือจากมาร์คลุกขึ้น เดินจูงมือกันกลับบ้าน
ระหว่างทางก็แวะซื้อของกินเข้าห้อง
ซึ่งหลายอย่างนั้นเต็มไปด้วยของกินเล่นของแจ็คสันระหว่างรอมาร์คกลับจากที่ทำงาน
ทั้งคู่ขึ้นรถส่วนตัวกลับห้อง แจ็คสันก็หยิบเอาขนมชิ้นหนึ่งออกมาเกะห่อ
มองและลองชิมดู ก่อนจะร้องว้าว
“มาร์คๆ
นี่เรียกอะไรเหรอ? อร่อยจัง”
“ช็อกโกแล็ตน่ะ”
“อร่อยจัง
ไปซื้ออีกได้ไหม?”
“ไม่ได้
กินเยอะฟันจะผุ ให้กินแค่นั่นพอ”ชายหนุ่มดุเจ้าตัวเล็กที่หน้าบูดไปนิดแต่ยังไม่เถียงอะไรเขาเหมือนเดิม
คงเพราะไม่รู้จะเถียงอะไรเขานั่นแหละ ลองเรียนรู้ไปเรื่อยๆ อาจจะแสบสันเหมือนกระต่ายของยูคยอมก็เป็นได้
“แล้วนี่แบมแบมกับเจบีสอนอะไรบ้าง”
“หลายเรื่องเลยอ่ะ
ก็เรื่องมรรยาท เรื่องการใช้ของในบ้าน เรื่องธรรมชาติของเค้า แล้วก็มีเรื่องที่ต้องปฏิบัติด้วย”
“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ?”
มาร์คซักไซ้ถาม
จริงๆเขาก็ไม่ได้หวังว่าแบมแบมกับเจบีจะสอนอะไรให้แจ็คสันเยอะขนาดนี้หรอกนะ
แต่ก็ดีที่ได้รู้เยอะขนาดนี้
“แบมแบมบอกว่าต้องอีกประมาณสัปดาห์หนึ่งถึงจะทำได้อ่ะ”
“ทำอะไร”มาร์คชักสงสัยจริงจัง
“เค้าจำทั้งหมดไม่ได้อ่ะ
มันเยอะมากเลย จำได้แค่ว่ามาร์คต้องช่วยเค้า เค้าต้องถอดเสื้อ
เจบีบอกว่าครั้งแรกมันเจ็บมากๆด้วย เค้ากลัวจัง
แต่แบมแบมกับเจบีบอกว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำล่ะ ไม่ต้องห่วงนะ
เค้าจะพยายามให้มากๆเพื่อให้มาร์คพอใจล่ะ”
กึด
มาร์คถึงกับได้ยินเส้นประสาทใกล้แตกอยู่ในหัว
...นี่คิดถูกคิดผิดที่ให้สองแสบนั่นสอนแจ็คสันเนี่ยยยย!!!!!!!!!!!...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น