[SF] Psycho (MarkSon)

คำเตือน : วิปริต โรคจิต กักขัง

Psycho
Mark x Jackson








“หืม?”

คิ้วเรียวเลิกคิ้วมองกองชั้นในในตู้อย่างรู้สึกตงิดในใจ หลังจากไปเก็บผ้าออกมาวางๆกองๆมาหลายวัน ก็ได้ฤกษ์งามยามดีพับเก็บเข้าตู้ซะที แต่มันดันมีอะไรบางอย่างผิดปกตินี่สิ

“บอกเซอร์หายไปไหนวะ”

แจ็คสันสบถขณะคุ้ยกองเสื้อผ้ามองหาบอกเซอร์สีดำตัวโปรดของตัวเอง แต่ก็ไม่เห็น เดินไปดูที่ตากผ้าก็ไม่เห็น ได้แต่สรุปในใจว่ามันคงหายไปแล้ว พยายามคิดว่าเขาลืมไว้ในเครื่องซักผ้าหรือเปล่า แต่ก็ต้องส่ายหน้า เขาจำได้ดีว่าหยิบมาตากเองกับมือ หรือมันจะปลิวไปตอนฝนตกหนักวันก่อนกันนะ

...แจ็คสันขอขอโทษเจ้าของห้องที่บอกเซอร์เขาปลิวไปแปะเลยแล้วกัน....

โยนเรื่องบอกเซอร์หายออกจากสมอง พับเสื้อผ้าที่เหลือเข้าตู้ เก็บกวาดของอีกนิดหน่อย ก็ถึงเวลานอนกลางวัน พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน วันนี้ก็ขอขี้เกียจอย่างเต็มที่หน่อยแล้วกัน







เปลือกตาบางกระพริบปรือต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยความเมื่อยล้า พ่นลมหายใจเหนื่อยหน่ายนึกอยากหลับตานอนต่อก็เกรงใจเวลางานและเงินเดือนที่จะถูกตัดถ้าเขาไม่ขาดโดยไม่มีกิจจำเป็น เมื่อคืนไปสังสรรค์กับเพื่อนจนดึกดื่นเมามาย กว่าจะกลับห้องได้ก็ตีสองเข้าไปแล้ว เวลาพักผ่อนที่มีเลยพลอยถูกตัดทอนไปด้วย

ขยับตัวลุกขึ้นก็พบกับสิ่งผิดปกติ

กางเกงนอนของเขาถอดคาไว้บนข้อเข่า ผิวกายนอกเสื้อผ้าเปราะเปื้อนไปด้วยน้ำขุ่นขาวละเลงไปแทบทุกส่วน ไม่เว้นแม้กระทั่งโคนขาก็ยังไหลซึมเปื้อนลงไปถึง ดูความชื้นของมันน่าจะผ่านมาแล้วไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง นิ้วขาวสั่นระริกป้ายมันขึ้นมามองชัดๆให้แน่ใจว่าส่งที่เห็นเป็นอย่างที่คิดจริงๆหรือไม่

“นี่มันบ้าอะไรกันวะ!”สบถหงุดหงิดถอดเสื้อชุดนอนเช็ด น้ำรักพวกนั้นออกอย่างนึกรังเกียจ คิ้วขมวดแน่นหัวตื้อคิดไม่ออกไปชั่วขณะว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง สะบัดเสื้อผ้าลงตะกร้า เปิดฝักบัวเบอร์แรงสุดล้างคราบไคลพวกนั้นออกจากตัว รังเกียจจนขนในกายลุกชันไปทั้งร่าง ตากลมหลับลงเพื่อเรียกสติคิดเรียบเรียงว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น

...นี่เขากำลังโดนโรคจิตเล่นงาน?...ผู้ชายมีกล้ามตัวตันๆหน้าตาไม่ได้ดีเด่อยากเขาเนี่ยนะ!!!

“โว้ยยยยยยยย!!!”ขยี้หัวตัวเองจนแสบ ลูบสบู่ถูตรงช่วงสะโพกๆแรงๆ แค่นึกว่ามีน้ำชักไอ้บ้านโรคจิตที่ไหนก็ไม่รู้อาบอยู่บนตัวก็ขยะแขยงจนอยากจะเฉือนเนื้อทิ้งอยู่แล้ว ไม่ต้องนึกถึงท่าทางตอนมันชักเลย...

เอาหัวโขกกำแพงดังปึกเมื่อเผลอคิดถึงความเป็นไปได้ของท่าทาง ถอยตัวจับหัวตัวเองมึนๆ

“เอาให้หมามันกิน สัด!!!

...คิดซะว่าให้หมามันฉี่ใส่นะไอ้หวัง!...ปลอบใจตัวเองเสร็จก็ถอนหายใจ ตบหน้าตัวเองแรงๆเรียกสติ พยายามไม่คิดถึงเรื่องน่าอับอาย เกี่ยวผ้าเช็ดตัวมามัดเอวเดินไปส่องกระจกอย่างที่ทำทุกวัน พลันตาก็เหลือบไปเห็นแผ่นโพสอิทสีดำเขียนด้วยตัวอักษรสีขาวดูน่ากลัวแปะอยู่บนหน้ากระจก ข้อความบนนั้นทำให้หัวใจชายหนุ่มเกือบหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัว ข้อความที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปได้...ตลอดกาล


...สวัสดี ที่รัก...
จาก     EE





“แจ็คสัน!!!

“ห...ฮะ”

“เหม่ออะไรของนาย ฉันถามว่านายส่งเอกสารของฉันรึยัง?”

“อ้อๆ ส่งแล้วๆ โถ่ อย่างแจ็คสันหวังรึจะทำงานพลาด”

เพื่อนร่วมงานหรี่ตามองหน้าชายหนุ่มที่ยิ้มแห้งกลับมา

“บ่อยไปเถอะ เฮ้อ ส่งไปแล้วก็โอเค”

แจ็คสันถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังเพื่อนร่วมงานหันหลังจากไป มือหยิบเอกสารบนโต๊ะวางบนชั้นเลื่อน เตรียมเอาไปส่งให้บอสในห้องทำงาน

เรื่องโพสอิทแผ่นนั้นเล่นงานเขาจนปวดหัวไม่มีสมาธิทำงานทั้งวัน เหม่อลอยจนเพื่อนร่วมงานยังสังเกตได้ เหลือบมองหน้าจอสี่เหลี่ยมมีตัวอักษรน่าเวียนหัวเรียงเป็นตับ แล้วได้แต่เตือนตัวเองว่าควรจะตั้งสมาธิทำงานเสียที ไม่อย่างนั้นงานที่มันเยอะอยู่แล้วคงทับหัวเขาในไม่ช้า

...ชีวิตพนักงานบริษัทต๊อกต๋อยก็เป็นแบบนี้แหละครับ...

นิ้วป้อมกดพิมพ์ตัวอักษรบนแป้นได้คล่องแคล่ว เอกสารแผ่นแล้วแผ่นเล่าพิมพ์ออกมาจากเครื่องปริ๊นท์เตอร์ มือขาวจัดมันลงแฟ้มอย่างเรียบร้อย เมื่อก่อนเกลียดงานแบบนี้เข้าไส้ทำไปทำมาก็กลายเป็นความเคยชินเข้าไปทุกวัน น่าเบื่อแต่ก็ทนทำได้ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร

...แจ็คสันหวังเหลือเกินว่ากลับบ้านไปเขาจะไม่เจออะไรที่ทำให้เครียดไปมากกว่านี้...






แจ็คสันในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวผูกไทแดงนั่งยองๆกินมาม่าอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อชื่อดัง เงินในบัญชีไม่มากพอให้เขาซื้อของกินดีๆได้ ต้องรอเงินเดือนต่อไปอีกสัปดาห์ถึงจะได้กินข้าวราดแกงได้ตามปกติ

โยนกล่องมาม่าเปล่าลงถังขยะ ใช้หลังมือปาดน้ำขอบมุมปาก หนีบกระเป๋าใต้รักแร้เดินเอื่อยไปในเส้นทางเดิมๆเพื่อกลับห้องเช่า

โดยไม่ได้สังเกตว่ามีสายตาคู่หนึ่งใต้เสื้อคลุมตัวใหญ่มองตามตนไปตาแทบไม่กะพริบ

สายตาใต้เสื้อคลุมจดจ้องใบหน้าขาวไล่ลงมาหยุดตรงสะโพกงอนงามใต้กางเกงแสลกตัวแน่น ลิ้นแดงแลบเลียริมฝีปากแห้งผาก รอยยิ้มจุดขึ้นหลังเห็นเป้าหมายเดินเลี้ยวเข้าไปในตึกห้องเช่า...

แจ็คสันล็อกประตู โยนกระเป๋าลงบนพื้น วิ่งไปปิดหน้าต่างทั้งหมดล็อคกลอนให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครปีนเข้ามาได้ แม้แต่มดตัวเดียวก็ห้ามเข้า พอมั่นใจแล้วก็ถอดเสื้อผ้าอาบน้ำผิวปากอย่างสบายใจ

...เข้ามาได้ก็ไม่ใช่คนแล้ว...

เพราะคิดแบบนั้น คืนนั้นแจ็คสันเลยนอนหลับไปตั้งแต่หัวค่ำ

.
.
.

“อืม...”

ภาพตรงหน้าเลือนรางคล้ายเป็นความฝัน เขาเห็นเพียงโครงร่างของใครคนหนึ่งกำลังคร่อมอยู่บนตัว แจ็คสันพยายามจะหรี่ตามองทำยังไงก็ไม่เห็นเพราะมีแมสปิดหน้าครึ่งล่าง ส่วนครึ่งบนก็เลือนรางเพราะเงาของเสื้อฮูทตัวใหญ่

“อื่อ...”ส่งเสียงขยับตัวหนีเพราะอะไรบางอย่างที่ยุ่งย่ามแถวเบื้องล่างเปลือยเปล่า สติของเขามันล่องลอยไม่คืนสติเหมือนกำลังตกอยู่ในความฝัน แม้ขาจะถูกแยกออกอย่างน่าอายเขาก็ไม่มีแรงต่อต้าน

“ไม่นะ...”

เอ่ยห้ามแผ่วเบา ตาปรือปิดเพราะความง่วงที่มากผิดปกติ แต่กระนั้นร่างกายก็ยังรู้สึกได้ ช่องทางคับแคบด้านหลังถูกรุกล้ำเข้ามาช้าๆ ขาอวบสั่นกระตุก ร้องเจ็บปวดขมวดคิ้วขยับตัวจะหนีจากนิ้วเรียว

“ฮ๊า...หยุด ฮือ”

ส่วนกลางลำตัวถูกสัมผัสด้วยอะไรบางสิ่งที่นิ่มและเปียก เล้าโลมดูดไล้จนร่างกายเขาสั่นสะท้าน ความร้อนวูบวาบเริ่มก่อตัวขึ้นในร่าง ร่างที่กำลังโดนคุกคามบิดเร่าไปมาบนเตียง

น้ำอุ่นพุ่งเปรอะเลอะหน้าท้องขาวเป็นเวลาเดียวกับที่แจ็คสันปลดปล่อยเปื้อนมือคนกระทำที่ยกนิ้วขึ้นแตะเลีย ยิ้มกระหยิ่มจนเห็นเขี้ยวเล็กๆตรงมุมปาก

“แจ็คสัน...”

เสียงเรียกสุดท้ายก่อนที่สติจะวูบและดับไป...

เสียงทุ้มต่ำ

ผิวขาวซีด

ใคร?
.
.
.
.
.

เฮือก!!!

แจ็คสันสะดุ้งเฮือกขึ้นมาในตอนเช้ามืด ก้มหน้าลงมองสภาพร่างกายตัวเองแล้วถอนหายใจโล่งอก เสื้อผ้าทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ดี เขาแค่ฝันไปใช่ไหม? ใครจะเข้ามาได้ในเมื่อเมื่อคืนเขาล็อคห้องแน่นหนาเสียขนาดนั้น แต่พอหันไปดูกระจกเต็มตัวข้างตู้เสื้อผ้า ร่างกายก็พลันแข็งทื่อ หัวใจเกือบหยุดเต้นและกลับมาเต้นแรงรัวด้วยความหวาดกลัว

โพสอิทสีดำและข้อความสีขาว

หวานมากเลย....ที่รัก
EE


...เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว...








เย็นวันนั้นแจ็คสันตัวสินใจเก็บข้าวของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าเป้ สวมผ้าใบคู่โปรด เดินลงมาจากห้อง เพื่อขึ้นรถประจำทางไปหาเพื่อนสนิทที่อยู่ห่างจากห้องเขาไม่ถึงสามช่วงถนน เคาะประตูเพียงสองครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มผู้มีอาชีพฟรีแลนด์อย่างมาร์คต้วนก็โผล่หน้าออกมา มาร์คทำหน้าแปลกใจ แม้ไม่ได้เอ่ยทักทายเลยอย่างเป็นปกติตามนิสัยคนพูดน้อย

“ขอนอนด้วยหน่อยดิ สักสองสามวัน พอดีมีเรื่องอยู่ห้องเดิมไม่ได้นิดหน่อยอ่ะ”

“...ทำไม?”

“เออ เอาน่า”แจ็คสันถือวิสาสะดันประตูเข้าไปในห้องที่ยังดูเรียบร้อยอย่างทุกครั้งที่เคยมา “นายนี่เก็บห้องดีจัง”

“ฉันไม่ได้สกปรกแบบนาย”มาร์คตอกกลับพลางเดินเข้ามาขยี้เส้นผมนุ่มจนฟูฟ่อง “ฉันทำข้าวค้างไว้ เอาด้วยไหม”

“เอาสิๆ หิวพอดีเลย”

“อืมๆ”มาร์คตอบในลำคอ เดินเข้าไปในส่วนครัว แจ็คสันถอดกระเป๋าจากบ่า หันไปมองประตูห้องนอนที่เขาจำได้ว่ามันเป็นห้องนอนแขก ถือวิสาสะมาร์คอีกครั้งในการผลักมันเข้าไป

ตุ๊บ!

ตกใจจนต้องปล่อยกระเป๋าลงบนพื้น มองภาพตรงหน้าอึ้งๆ ความรู้สึกหวาดกลัวตีตื้นขึ้นมาจุกที่คอ ร่างทั้งร่างแข็งเป็นหิน แม้กระทั่งเส้นเสียงก็หยุดทำงานไปชั่วขณะ

ผนังด้านตรงข้ามกับหัวเตียงที่เต็มไปด้วยรูปถ่ายนับพันใบแปะเรียกกันอย่างเป็นระเบียบเต็มพื้นที่จนไม่สามารถเห็นพื้นผนังปูนขาวด้านหลังได้ หากเป็นรูปถ่ายธรรมดาจำพวกดารานักร้องหรือสถานที่ท่องเที่ยวอย่างที่ควรเขาคงไม่หวาดกลัวจนน้ำตาคลอแบบนี้ แต่ภาพทั้งหมดนั่นเป็นภาพของเขา ภาพของแจ็คสัน!!!

ทั้งอิริยาบถทั่วไป เดินตลาด เที่ยวห้าง พูดคุยกับคนที่ทำงาน ภาพเขานอนบนเตียงหรือแม้กระทั่ง...ตอนอาบน้ำ

...นี่เขาโง่ขนาดไหนถึงเดินเข้ามาในถ้ำเสือแบบนี้...

ขาอ่อนก้าวถอยหลัง สมองสั่งให้หนี ทิ้งข้าวของทั้งหมด หันร่างกำลังจะวิ่งพุ่งไปทางประตู แต่ก็ใจก็ต้องถึงคราวเกือบหยุดเต้นตกไปตาตุ่มเมื่อเห็นชายหนุ่มเจ้าของห้องยืนดังอยู่ด้านหน้า มาร์คมองหน้าเขาอย่างนึกสงสัย ดวงตาสวยมองผ่านร่างเขาเข้าไปในห้องก่อนจะเผยรอยยิ้มน่ากลัวออกมา

...รอยยิ้มแสนวิปริต...

“อ้าว...เจอเข้าจนได้”

“นะ นี่ นี่มันอะไรกัน”

“หืม? ก็รูปนายไง...ฉันเป็นคนถ่ายเอง สวยไหมล่ะ แต่เสียดายนะ ไม่มีรูปนายมองกล้องเลย”

แจ็คสันสะดุ้งถอยหนีร่างสูงโปร่งแสนคุ้นเคยที่กำลังเป็นคนไม่คุ้นเคย ดวงหน้าเรียบเฉยนั้นกำลังยิ้ม ยิ้มกว้างขวางผิดปกติ ราวกับนี่คือใบหน้าที่แท้จริงของชายคนนี้ มือเรียวผอมผลักคนที่ยังตั้งสติไม่ได้จนล้มลงไปกับพื้น ปิดประตูกดล็อกราวกับเป็นเสียงคำสั่งตัดสินชะตากรรมของร่างขาวบนพื้น...

กริ๊ก!














หลายวันผ่านไป


มาร์คเปิดประตูเข้ามาพร้อมอาหารสองกล่อง ร่างโปร่งเดินไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็น เดินผิวปากผลักประตูห้องที่เปิดแง้มไว้ออก ดวงตาสวยจ้องมองเตียงยับว่างเปล่า เลื่อนสายตาตามสายโซ่บนหัวเตียงไปหยุดอยู่ที่ข้อเท้าของคนที่นั่งคุดคู้อยู่มุมห้อง

ร่างขาวสั่นระริกกอดตัวเองกระเถิบชิดชนิดแทบจะกลืนไปกับผนัง เสื้อเชิ้ตขาวตัวมอๆปิดบังลำขาขาวเต็มไปด้วยรอยมือและรอยจูบกัดสีแดงช้ำ ไม่ต่างจากส่วนอื่นของร่างกายที่มีรอยจำพวกนี้กระจายไปทั่วโดยเฉพาะลำคอแทบจะช้ำไปทั้งคอ ชายหนุ่มเต็มวัยแรงแรงตอนนี้กลับดูซูบเซียว แก้มกลมเริ่มยุบลงไม่เป็นที่ชอบใจของคนมอง

มาร์ควางกล่องข้างลงปลายเตียง เดินไปนั่งลงตรงหน้าแจ็คสันที่ผวาถดหนีลึกลงไปอีก ดวงตากลมเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สองมือกอดตัวเองแน่นราวกับว่าการทำท่าเช่นนั้นจะปกป้องตัวเองได้ เจ้าของห้องยิ้มกว้างใจดี แจ็คสันตัวแข็งทื่อไม่กล้าโหวกเหวกโวยวายแต่กลับร้องไห้ตัวสั่นสะท้านอย่างน่าสงสาร กลั่นประโยคขอร้องด้วยน้ำเสียงโรยแรง

“ปล่อยผมออกไป ได้โปรด”

“วันนี้ฉันไปซื้อข้าวร้านประจำมาให้นายด้วย”

“มาร์ค...ฮึก ไม่ทำแบบนี้”

“เมื่อวานนายไม่ยอมกินข้าวเลย ฉันเลยคิดว่านายอาจจะเบื่ออาหารใต้หอนี่ก็ได้”

แจ็คสันปล่อยน้ำตาออกมาอย่างหวาดกลัว แม้เขาจะพูดขอร้องไปเท่าไหร่ อดีตเพื่อนรักคนนี้ก็พูดไปอีกเรื่องได้อย่างหน้าตาเฉย

...ท่าทางอ่อนโยน รอยยิ้มอ่อนหวาน คำพูดน่าฟัง แต่ดวงตาสวยนั้นกลับดำมืดน่าหวาดกลัว...

ช้อนข้าวจ่อเข้าริมฝีปากอิ่มแตกเป็นขุยเม้มแน่น เปลือกตาช้ำปิดส่ายหน้าปฏิเสธ กระเถิบตัวเองชิดกำแพง โซ่ที่ข้อเท้าส่งเสียงกริกๆไปตามการขยับตัว สองแขนกอดตัวเองสะอื้นกลัวจนตัวโยน มาร์คนิ่งไป ดวงตาสวยวาบวูบ โยนช้อนลงบนพื้น กระชากแขนขาวซีดขึ้น แจ็คสันผู้อ่อนแอจากการโดนทรมานกักขังมานานหลายวันลุกขึ้นตามแรงฉุด สองขาไม่สามารถพยุงกายได้ทรุดฮวบลงแต่มาร์คที่รู้อยู่แล้วก็ตวัดตัวขึ้นอุ้มได้ทัน

“ฮื้อ!!!

“นายคงยังไม่หิวข้าวสินะ งั้นก็กินน้ำไปก่อนแล้วกัน”

แจ็คสันร้องในลำคอ ดวงตาโตช้ำน้ำตาไหลพราก ส่ายศีรษะหวาดกลัว ร่างไร้เรี่ยวแรงพยายามดิ้นสู้แต่ก็ไร้ผล ร่างไร้เรี่ยวแรงถูกโยนลงบนเตียงโครมใหญ่ เรียวขาทั้งสองถูกแยกออกอย่างง่ายดาย มือขาวปิดหน้าร้องไห้ไม่อยากรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำๆกับตัวเองในช่วงวันที่ผ่านมา ปากแดงช้ำกรีดร้องเจ็บปวดร้าว ต่อต้านอย่างสุดกำลังแต่ก็พ่ายแพ้ร่างผอมโปร่งบนตัว ความแข็งร้อนถูกสอดแทรกเข้าช่องทางชอกช้ำจนสุด ผนังเนื้อนุ่มโอบรัดขมิบตอดสิ่งแปลกปลอมในร่างอย่างซื่อสัตย์ ร่างทั้งร่างไหววูบโยกไปตามจังหวะกระแทกกระทั้นในกาย ผิวขาวซีดเรื่อแดงขึ้นตามอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า กลิ่นหอมหวน เสียงแหบพร่า และน้ำตาอาบแก้มใสปลุกสัญชาติญาณอันน่ากลัวของชายหนุ่มขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า ย่ำยีร่างนั้นจนช้ำชอกทั้งร่างกายและจิตใจเสียจนไม่สมประดี

“ฮะ...ฮะ ฮะ”เสียงแหบพร่าหัวเราะขึ้นเบาๆในลำคอขาวที่มาร์คได้ยินเรียกความสนใจให้ขึ้นไปมอง มือเรียวละจากหน้าอกนุ่ม จับใบหน้ากลมมนให้ขึ้นมาสบตาด้วย นิ่งอึ้งชั่วครู่ก่อนจะเผยรอยยิ้มพึงพอใจอย่างถึงที่สุดออกมา

ดวงตาโตพร่าน้ำตาไร้ประกายนั่นสวยงามเหมือนท้องฟ้าสีดำในคืนไร้ดาว

งดงามเหลือเกิน...

แจ็คสันของเขาช่างงดงามเหลือเกิน...

ครางในลำคอส่งกายถามโถมแรงและหยาดน้ำแห่งรักเข้าชโลมเนื้อในของร่างนุ่มนิ่ม แจ็คสันนอนนิ่ง เอียงใบหน้าเหม่อมองออกไปทางนอกหน้าต่างบานเล็กไม่วางตา ริมฝีปากอิ่มค่อยๆเคลื่อนขยับยิ้มกับบางสิ่งที่มาร์คไม่สามารถเข้าไปสัมผัสถึงได้

มาร์คเอื้อมไปหยิบกล่องทิชชูหัวเตียงออกมาวางไว้ข้างตัว ลูบเยื่อกระดาษนิ่มปาดเช็ดคราบสกปรกบนผิวขาว อันที่จริงเขาก็ชอบผิวขาวราวกับหิมะของแจ็คสันนะ แต่เขาจะรักมันมากกว่าเวลาที่ผิวขาวๆนี่เปรอะเปื้อนไปด้วยรอยแดงและรอยช้ำเลือด

จัดการทำความสะอาดร่างเล็กจนมั่นใจว่าเพียงพอ ขึ้นคร่อมร่างขาวมอบจูบอ่อนโยนตามแบบฉบับไปให้ ถอนริมฝีปากเลียน้ำสีใส จ้องดวงตากลมที่ไม่มีภาพของเขาปรากฏอยู่บนนั้น แจ็คสันยังคงยิ้ม...

ยิ้มที่ไม่ได้เกิดจากมาร์คยิ้มเพราะจิตใจที่บอบช้ำหนีไปในโลกที่ตัวเขาไม่สามารถวิ่งเข้าไปตามได้

...ถึงจะรู้ดี แต่จะสนใจอะไร ในเมื่อเขาได้สิ่งที่ต้องการมาครอบครองแล้ว...

“เราได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ...ที่รัก”




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

GOT7 INDEX

RED ZONE #ฟิคหน้ามืด

[SF] TUAN Twins (MARKSONYIEN) *3P*