[EREBUS] 12
แจ็คสันยังคงหลับอยู่บนเตียง
เปลือกตาบางเกร็งขมวดคิ้วแน่นเหมือนกำลังฝันร้าย
ผิวขาวแดงระเรื่อเพราะพิษไข้และพิษบาดแผลที่เจบีไม่สามารถรักษาได้หมด
ริมฝีปากแดงช้ำส่งเสียงครางละเมอเพ้อออกมาในบางเวลา
จูเนียร์คอยเฝ้าไข้และเช็ดตัวให้ส่ายหน้าเบาๆเมื่อเห็นอาการที่ไม่ดีขึ้นของร่างเล็ก
ลูซิเฟอร์ที่นั่งเฝ้าอยู่ไกลๆมองแจ็คสันตาไม่กระพริบ แม้ไม่ได้เข้าใกล้
แต่ดวงตาสีม่วงนั้นก็ไม่ถอนห่างจากร่างเล็กแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
...ดูไปก็สงสารอยู่หรอก
แต่ก็ทำตัวเองทั้งนั้น…
มือบางวางผ้าเช็ดตัวลงบนอ่างน้ำอุ่น
บีบมือคลายความเมื่อยล้า ถอนลมหายใจออกมายาเหยียด
ไม่รู้จะแก้ปัญหาให้คู่นี้ยังไงดีเหมือนกัน
คงต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมออย่างที่เจบีบอกจริงๆ
‘บาดแผลทางกายถ้าได้ยาดีไม่นานมันจะหายเอง
แต่บาดแผลทางจิตใจ สิ่งที่ช่วยได้คือเวลาและความสม่ำเสมอ ในกรณีแจ็คสัน
ฉันว่ามาร์คต้องใช้เวลาพอสมควรเลยล่ะ...’
พอคิดถึงประโยคนี้ของเจบีแล้วอดแบะปากไม่ได้
ทำเป็นพูดดี ตัวเองก็ยังดูแลเขาได้ไม่ดีจนต้องได้งอนบ่อยๆเลยแท้ๆ
“อืม...”
ร่างบนเตียงขยับยุกยิก
เปลือกตาบางที่กระพริบปรือลืมตาขึ้นช้าๆ ร้องครางเจ็บปวดในลำคอ
พลิกตัวลงด้านขวานอนขดทรมานด้วยพิษไข้และบาดแผลใหญ่ทางร่างกายซีกซ้าย
แต่ทันทีที่เห็นร่างสูงที่นั่งนิ่งอยู่อีกฟากของห้อง
ดวงตาโตก็เบิกโพลงส่งเสียงร้องลั่นเพราะความกลัว สะดุ้งฝืนความเจ็บลุกขึ้น
เดือดร้อนจูเนียร์ต้องแปลงกายเป็นผู้หญิงเข้าไปกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น
“เจอาร์”ร่างเล็กเรียกชื่อเธออย่างขอความช่วยเหลือ
ดวงตากลมรื้นน้ำช้อนขึ้นมาอ้อนเธอ มือขาวสั่นระริกกอดเอวบางไว้แน่น
เธอลูบศีรษะนุ่มและใบหูใหญ่ลอบประโลม
ดวงตาก็จิกให้มาร์คนั่งลงที่เดิมหลังจากร่างสูงพยายามจะเดินเข้ามาหาเมื่อครู่
“ไม่เป็นไรๆ”
ปลอบอยู่นานกว่าร่างเล็กจะยอมกลับไปนอนที่เตียงเหมือนเดิม
แต่ก็ดื้อรั้นนอนพลิกซ้ายทั้งที่แผลก็อยู่ด้านซ้ายเพราะไม่อยากมองมาร์คที่นั่งอยู่อีกด้าน
แม้เธอจะพยายามหลอกล่อยังไงแจ็คสันก็ยังไม่ยอมแถมนานเข้าใบหูใหญ่ก็ลู่ปิดไม่ยอมฟังเสียอย่างนั้น
ดื้ออย่างกับเด็กๆแหน่ะ -*-
“แจ็คสัน! ถ้ายังดื้ออีกฉันจะกลับให้อยู่กับมาร์คสองคนแล้วนะ”
“ไม่เอา! ไม่ไปนะ เจอาร์ไม่ไปนะ”รีบพลิกร่างกลับไปอีกด้าน
กลัวหญิงสาวจะกลับไปแล้วปล่อยให้ตนอยู่กับคนใจร้ายสองต่อสองจริงๆ
เผลอสบกับดวงตาสีม่วงสวยไปแวบหนึ่ง รีบหลบตาลงต่ำ กลัวอีกคนจะทำร้ายอีก
ความรวดร้าวที่ยังคงหน่วงตึงแถวสะโพกยังคงตอกย้ำความโหดร้ายที่ชายหนุ่มได้ทำไว้กับตนเองอยู่เสมอ
ลูซิเฟอร์หลุบตาต่ำลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตนนั่งอยู่เดินออกไปโดยไม่มีคำพูดใดๆ
และทันทีที่ร่างสูงสง่าเดินออกไปจากห้อง แจ็คสันก็ยึดมือบอบบางของหญิงสาวไว้แน่น
ดวงตากลมทอประกายแห่งความหวัง
“เจอาร์
ได้โปรด ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากอยู่กับมาร์ค พาฉันหนีที ได้โปรด”
หญิงสาวถอนหายใจยาวเหยียด
ส่ายหน้าพลางลูบหลังปลอบประโลม
“ฉันทำไม่ได้”
หูใหญ่ที่ชูตรงด้วยความหวังเมื่อครู่ลู่ลงเพราะความผิดหวัง
ก้มซุกหน้าลงกับหมอนอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่อดี
ถ้าเจอาร์ไม่ช่วยเขาก็รู้จะให้ใครช่วยแล้ว ในนรกเอริบัสแบบนี้จะมีใครที่เขารู้จักนอกจากเจอาร์แบมแบม
ยูคยอมและยองแจ แถมในจำนวนนี้คนที่พอจะช่วยเขาได้คงมีแต่หญิงสาวตรงหน้านี้เท่านั้นแหล่ะ
“กลัวมาร์คมากเลยเหรอ?”
แจ็คสันพยักหน้าให้เป็นคำตอบแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับหญิงสาวด้วย
“ไม่ให้โอกาสเขาแก้ตัวบ้างล่ะ?
บางทีหมอนั่นอาจจะชอบนายมากๆก็ได้นะ”
“ไม่มีทางที่มาร์คจะชอบฉันหรอก
เขาเห็นฉันเป็นแค่อาหารกับที่ระบายอารมณ์เท่านั้นแหล่ะ”พูดออกมาด้วยความน้อยใจ
มือขาวที่จับมือเจอาร์อยู่สั่นน้อยๆ
“อย่าไปคิดแทนเขาแบบนั้นสิ
ถึงหมอนั่นจะนิสัยเสียแต่หมอนั่นก็มีจุดอ่อนไหวที่นายคาดไม่ถึงนะ”
“...เขาทำร้ายฉัน...”
มือที่จับกันอยู่ถูกบีบแน่น
ไหล่สั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด เหตุการณ์พวกนั้นคงติดฝังใจแจ็คสันมากจริงๆแจ็คสันเงียบไปแล้วแต่ไม่ได้หลับ
คงกำลังทบทวนครุ่นคิดอะไรคนเดียว ส่วนจูเนียร์ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน
ปล่อยให้ความเงียบหมุนไปตามเวลาอยู่ชั่วระยะหนึ่ง
แจ็คสันก็ได้เริ่มตั้งคำถามกับหญิงสาว
“ตอนฉันสลบมันเกิดอะไรขั้น?
ใครรักษา? แล้วเจอาร์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“ถามอะไรเยอะแยะจริง
เอาล่ะ สำหรับคำถามแรก
ลูซิเฟอร์เป็นคนไปช่วยนายไม่ให้เป็นอาหารของพวกสัตว์นรกพวกนั้น
แล้วก็บินพานายที่สภาพร่อแร่ใกล้ตามกลับปราสาท คำถามที่สอง อิมแจบอมเบลเซบับ
หรือเรียกอีกชื่อคือ เจบี เป็นคนรักษาให้นาย แต่ตอนนี้หมอนั่นกลับไปแล้ว
ส่วนคำถามสุดท้าย ฉันอยากอยู่”
“เดี๋ยวสิ
อยากอยู่คืออะไร ไม่กลัวมาร์คเหรอ?”
“ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอกน่าเจ้าเตี้ย
ลูซิเฟอร์ไม่ทำอะไรฉันหรอก อย่างที่บอก หมอนั่นมันไม่ใช่เทพที่เลวร้ายนักหรอก
ยกเว้นก็แต่เรื่องที่ใจร้อน โง่ ไม่ฟังฟ้าฟังฝนนั่นแหล่ะ”
แจ็คสันหลุดหัวเราะออกมานิดหน่อยแล้วเงียบลง
หลบตาของคนร่างสูงที่เดินเข้ามาอีกครั้ง
การเคลื่อนไหวจากคนข้างกายทำให้ต้องรีบยุดยื้อเจอาร์เอาไว้
ส่งสายตาอ้อนวอนอยากให้อยู่ต่อ แต่หญิงสาวส่ายหน้ายิ้มๆ
“ต้องไปแล้วล่ะ
ขอโทษนะ”
เมื่อที่พึ่งหนึ่งเดียวอย่างเจอาร์กลับไปแล้ว
แจ็คสันก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาอีกครั้ง ร่างเล็กยึดผ้าห่มไว้แน่นตามองร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ยอมขยับเข้ามาใกล้อย่างไม่เป็นมิตร
ระแวงว่าจะโดนทำร้ายอีก
มาร์คเดินเข้ามาใกล้
มือสวยกวาดไปบนอากาศคว้ากระปุกยาสมุนไหรออกมาจากอากาศว่างเปล่า
“นอนคว่ำลง”
“ไม่!”
“อย่าให้ข้าบังคับ
นอนลงไป”ดวงตาสีม่วงเรืองแสงขึ้นมาวูบหนึ่ง
จุดความกลัวขึ้นมาในจิตใจที่ยังบอบช้ำจากเหตุการณ์ครั้งก่อนไม่หาย
แจ็คสันยอมรับว่ากำลังกลัวมาร์คมาก ยอมพลิกร่างลงไปนอนคว่ำช้าๆ
เอาหน้าซุกหมอนไม่กล้าสบกับดวงตาดุดันคู่นั้นอีก
ลมหายใจสะดุดสั่นกลัวกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาบนเตียงนอน
ใจหล่นวูบเมื่อกางเกงถูกดึงลง สะดุ้งเฮือกรีบพลิกกายหนี
แต่มือแกร่งก็รวบเอวเขาไว้ทัน จับร่างตรึงไว้กับพื้นเตียง
“คุณจะทำอะไรผม!
ปล่อยนะ!”
มาร์คพยายามกดร่างที่พยายามทุบตีทำร้ายเขาให้เบาที่สุด
แต่แจ็คสันก็เอาแต่ดิ้นไปมาเสี่ยงต่อการที่จะบาดเจ็บขึ้นมาอีก
กำไลเงินถูกเสกขึ้นมามัดมือขาวตรึงกับเสาเตียงเอาไว้อีกครั้ง
กางเกงผ้าถูกดึงลงให้พ้นสะโพกงอน พุ่มหางใหญ่เคลื่อนมาปิดส่วนเปลือยเปล่านั้นไว้
น้ำตาถูกกลั่นออกมาอีกครั้งเพราะความกลัว
“อย่า”กัดฟันกลั้นเสียงสะอื้นส่งเสียงขอร้อง
“ข้าจะไม่ทำอะไร”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาในที่สุด
ขาขาวถูกจับให้แยกออกพาดไว้บนบ่าแข็ง ตากลมข่มหลับตาลงไม่กล้ามองภาพตรงหน้า
สะดุ้งเฮือกเผลอดิ้นพราดทันทีที่นิ้วเรียวสวยถูกสอดเข้ามาในร่างเพื่อป้ายยารักษาภายใน
ตีขาระดมทุบหลังร่างสูงหวังจะให้อีกคนหยุดการกระทำ
แต่มาร์คกลับนิ่งได้จนน่าเหลือเชื่อ
จนเป็นแจ็คสันเองที่เหนื่อยและหยุดอาละวาดไปเองเสียงสะอื้นของคูสิทตัวน้อยสะท้อนไปทั่วห้องที่เงียบเชียบ
“ผมทำอะไรผิด”
“...”
“ทำร้ายผมทำไม”
“...”
มาร์คนิ่งเงียบขณะทายาให้คนของตัวเอง
ดวงตาสีม่วงมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่เอียงซบหมอนหนุนไม่ยอมสบตากับเขาด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ออก
สัมผัสแผ่วเบาราวปีกผีเสื้อขยับแตะบนริมฝีปากอิ่มแดงหยุดเสียงสะอื้นไห้ของร่างเล็กจุมพิตสั้นๆที่ทำเอาใจดวงน้อยเต้นโครมคราม
ความหวาดกลัวและความเสียใจถูกลืมเลือนไปชั่วขณะหนึ่งเพราะความอ่อนโยนที่ได้รับ แม้มาร์คจะจูบเอาพลังจากแจ็คสันหลายครั้ง
แต่ไม่มีครั้งไหนที่เหมือนครั้งนี้ เงยหน้าสบตาร่างสูงที่มองมาก่อนแล้ว
เป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึง...
“ขอโทษ”
“...”
“ต้องให้ข้าทำยังไง
เจ้าถึงจะยกโทษให้”
“...”
“แจ็คสัน”
เจ้าของชื่อก้มหน้าต่ำ
กลั่นเสียงสั่นราวกับกำลังจะร้องไห้ออกมาช้าๆ
“อย่ามาใกล้ผม...ผมเกลียดคุณ”
อเมทิสต์คู่งามไหวสั่นระริกวูบใหญ่
มาร์คฝืนยิ้มอ่อนๆให้แจ็คสันที่หลับตาลงไปอีกครั้งอย่างไม่คิดจะมองหน้าเขาอีก ปลดข้อมือขาวออกจากหัวเตียง
สวมกางเกงผ้ากลับคืนให้สะบัดผ้าห่มคลุมร่างผู้ที่ตนเองยกให้เป็นดวงใจ
ก้มจุมพิตบนหน้าผากแผ่วเบาก่อนเดินออกมา
ประตูถูกปิดลง
ดวงตากลมปรือเปิดขึ้นมองฝ้าเพดานไร้สีสัน
หยาดน้ำใสเอ่อล้นขอบตาหยดเปื้อนหมอนแต่เจ้าตัวไม่คิดจะเช็ดมันออก
ใจคิดคะนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เงียบๆคนเดียว
...ทำไมถึงทำหน้าเศร้าอย่างนั้นล่ะ
ลูซิเฟอร์ในเมื่อคนที่เจ็บคือผมต่างหาก ไม่ใช่คุณ...
แอ๊ด
บานประตูห้องนอนเปิดแง้มออกเล็กน้อยพอให้เจ้าไอสีดำสมุนลูซิเฟอร์ประคองตะกร้าสานบรรจุผลไม้หลากชนิดเข้ามาส่งให้ถึงมือคนที่ยังต้องนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง
พอภารกิจสำเร็จพวกมันก็หายไปทันที ไม่ทันที่แจ็คสันจะได้พูดขอบคุณสักที
...สามวันแล้วที่มาร์คทำตามที่เขาขอ...
สามวันที่ร่างสูงหายหน้าไปจะมีไอสีดำลูกสมุนลูซิเฟอร์คอยลำเลียงตะกร้าผลไม้
น้ำ ยา เสื้อผ้า หรือสิ่งที่เขาร้องขออยากได้มาให้ตลอดไม่มีขาด
ก้มหน้ามองผลไม้ในตะกร้าที่มันก็เหมือนๆเดิมทุกวัน
หยิบผลสีแดงลูกหนึ่งขึ้นมากัดเคี้ยวเนือยๆ
รสชาติอร่อยแต่ไม่ทำให้อยากกินมากขึ้นเลยสักนิด พวกมันก็เหมือนเดิม
มีแต่เขาที่ไม่ปกติเอง กัดได้ครึ่งลูกก็วางไปรวมกับพวกที่เหลือในตะกร้า
วางมันไว้ข้างเตียงรอให้ไอสีดำมาเก็บพวกมันออกไป
ยันตัวขึ้นมานั่งกอดเข่าเหม่อมองบานประตูที่ปิดสนิท
ถอนหายใจยาวซุกหน้าลงกับเข่า
...เหงาชะมัดเลย...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น