[EREBUS] 16
~
16 ~
“จะทำไรเคยบอกล่วงหน้าป่ะวะ! ถึงกับต้องเปิดวาล์ปมานี่คิดว่าฉันรีบแค่ไหนกัน
แล้วก็นะ...”แอสทารอสจูเนียร์ในร่างหญิงสาวบ่นอดีตเทพชั้นเซราฟิมลูซิเฟอร์ที่ยืนนิ่งอยู่ไม่ไกลจาก
‘สถานที่ทำพิธีตรึงวิญญาณ’ เสียยาวยืด
พิธีตรึงวิญาณที่ถูกจัดขึ้นกะทันหันให้แจ็คสันอาศัยบึงน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์ภายในพื้นที่สวนในกำทำพิธีแบบรีบๆ
โดยมีแอสทารอสจูเนียร์เป็นคนตรึงให้
เนื่องจากว่าร่างกายมนุษย์ของแจ็คสันอาจได้รับความเสียหายในการรับความทรงจำของนางฟ้าอนาตตาเซียถึงขั้นร้ายแรงจนเกือบจะเสียไปซึ่งแก่นวิญญาณ
จูเนียร์จึงต้องใช้ความสามารถทางด้านโชคชะตาร่วมด้วยความสามารถทางการรักษาของเจบีในการทำพิธีตรึง
ส่วนลูซิเฟอร์คนทำเรื่องก็ได้แต่ยืนไร้ประโยชน์อยู่ไกลๆ
แถมยังโดนจูเนียร์บ่นไม่หยุดมาชั่วโมงหนึ่งแล้ว...
“เอาน่าจูเนียร์
ให้อภัยมันเถอะ นี่ข้าฟังเจ้าบ่นจนปวดหัวแทนลูซิเฟอร์มันแล้วเนี่ย”เจบีเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้
สะดุ้งก้มหน้าคงวงเวทย์รักษาต่อเมื่อเทพีแห่งโชคชะตาส่งสายตาเหวี่ยงๆมากำราบ
ลูเฟอร์ยืนมองพิธีกรรมนิ่งราวกับรูปสลัก
นัยน์ตาสีม่วงอเมทิสสะท้อนภาพร่างขาวเปลือยเปล่าที่นอนราบจมไปกับผืนน้ำแบบไม่ละสายตา
แจ็คสันกลับคืนร่างมนุษย์เพราะเวทย์ของแบมแบมสลายไปตอนได้รับความทรงจำ
เปลือกตาสีน้ำนมปิดสนิท ท่าทางของร่างเล็กสงบนิ่ง เส้นใยใสคล้ายใยแมงมุมโอบคลุมตรึงร่างนั้นไว้คล้ายๆดักแด้ที่สามารถมองเห็นภายในได้
เหนือและใต้ร่างของแจ็คสันมีวงเวทย์สีทองของเจบีประกบไว้เพื่อทำการเยียวยาตลอดพิธีกรรม
แว๊บ
ดวงตาสามคู่มองคลื่นน้ำที่จู่ๆก็กระเพื่อมโดยมีจุดศูนย์กลางเป็นแจ็คสันที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ในน้ำ
ไม่ทันที่เจบีหรือจูเนียร์จะพูดอะไร ร่างสูงของลูซิเฟอร์ก็เดินก้าวลงไปในน้ำ
คลื่นน้ำแหวกออกในขณะที่ร่างเขาจมลงเรื่อยๆแต่ดวงตาสีม่วงก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างไร้สติไม่เคลื่อนไปไหน
ทันทีที่มาร์คเข้าใกล้
เส้นใยก็คลายตัวกระจายออกปล่อยร่างขาวให้จมลงไปในพื้นน้ำ มาร์คช้อนร่างนั้นขึ้นจากน้ำ
กระชับร่างเปลือยเปล่าแนบอก ตวัดสายตาดุมองเจบีที่เหมือนจะแอบเหลือบมองผิวขาวๆของคนในอ้อมกอด
ปลดผ้าคลุมหลังมาคลุมร่างขาวอ่อนปวกเปียกไว้ ก้าวขาเดินขึ้นจากน้ำขณะโอบแจ็คสันไว้อย่างแนบชิด
เดินออกจากห้องลิ่วๆไปไม่สนใจแอสทารอสจูเนียร์และเบลเซบับเจบีที่มาช่วยเลยสักนิด
“คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี
สมเป็นหมอนั่นชะมัด”เจบีบ่นงึมงำมองตามร่างทั้งสองไป กำลังจะเอนกายลงกับพื้นหญ้านุ่มๆก็มีอันต้องตัดใจ
เพราะแรงมหาศาลที่จิกลงมาที่ใบหูกำลังเล่นงานเขาจนต้องร้องอ๊ากออกมาเสียงดัง
“เจ๊บบบบบ
เจ็บนะจูจู!!!”
“สมควรแล้วไอ้เฒ่าหัวงู!!!! เมื่อกี้แอบมองแจ็คสันใช่ไหมหา!!!!!!!!!!!”
“ไม่นะเค้าไม่ได้ม๊องงง”
“ลองเอาลูกแก้วมาปาหัวแกไหมจะได้รู้ว่ามองไม่มองหา!!! กลับปราสาท…เดี๋ยวนี้!!!!”
“คร๊าบบบเมีย”
มาร์ควางร่างแจ็คสันลงบนเตียงนุ่ม
รวบผ้าคลุมชุ่มน้ำออก นั่งลงข้างเตียงใช้ผ้าสะอาดเช็ดร่างกายให้อย่างทะนุถนอม
แล้วใช้ผ้าห่มหนาคลุมร่างเพิ่มความอบอุ่นให้คนตัวเล็ก นิ้วแกร่งเขี่ยเส้นผมสีน้ำตาลนุ่มทัดข้างใบหูเล็ก
ก้มลงประทับจุมพิตแผ่วเบาบนหน้าผากมน ยันตัวขึ้นนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง มือเรียวสอดประสานมือเล็กแนบแน่นราวกับกำลังถ่ายทอดความอบอุ่นและความรู้สึกไปในคนที่ยังไม่ได้สติ
เป็นเวลากว่าครึ่งค่อนวัน
แสงด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีหม่นๆบ่งบอกว่าใกล้จะค่ำ
แสงเงารูปทรงหน้าต่างทอดเข้ามาภายในห้องนอน มือที่มาร์คกุมอยู่เริ่มขยับนิ้วเบาๆ
เปลือกตาสีน้ำนมขยับยุกยิกเป็นสัญญาณว่าแจ็คสันได้สติแล้ว
มาร์คปล่อยมือออกขยับลุกขึ้นกำลังจะเดินออกไปจากห้อง แต่เสียงแหบแห้งแผ่วเบาเรียกเขาขึ้นมาก่อน
“มาร์ค...”
ร่างสูงหยุดยืนนิ่งไม่ได้หันไปสบตากับคนบนเตียง
ได้ยินเสียงสวบสาบเสียดสีกันของเนื้อผ้าของคนที่พยายามจะยันตัวลุกขึ้นทั้งที่ไม่มีแรง
“มาร์ค
คุณจะไปไหน...”
อาจเป็นเพราะจิตใจเย็นชาที่กำลังเรียกร้องเจ้าของดวงใจหรืออาจเป็นเพราะน้ำเสียงหงอยเหงาสั่นราวกับเจ้าของกำลังจะร้องไห้นั่นที่ทำให้ร่างสูงหมุนตัวกลับมารวบตัวคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอดแน่น
ใบหน้างดงามซุกซบไหล่ขาวอุ่น กัดปากกลั้นเสียงสะอื้นเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสของมือเล็กที่แผ่นหลัง
...แจ็คสันกำลังกอดตอบเขา...
“อะไรกัน...นี่คุณจะร้องไห้เหรอ”แจ็คสันเอ่ยแซวทั้งน้ำเสียงอ่อนแรง
การฟื้นความทรงจำกินพลังเขามากกว่าที่คิด แต่ถึงจะจำได้ แจ็คสันก็ยังคงเป็นแจ็คสัน
ยังคงเป็นมนุษย์กากาๆคนเดิม...
“ข้าไม่ได้ร้อง...เจ้าต่างหาก”มาร์คเอ่ยดันตัวคนตัวเล็กออกเล็กน้อย
จ้องมองดวงตาโตที่ตอนนี้พรั่งพรูไปด้วยหยาดน้ำตา เปลือกตาบางหลับลงให้นิ้วเรียวปาดน้ำตาออกให้
ริมฝีปากอิ่มแดงแย้มยิ้มมีความสุขกับความอ่อนโยนที่ได้รับ มือเล็กยกขึ้นกุมมือแกร่งขึ้นแนบแก้ม
หลับตาลงอย่างอยากซึมซับความอบอุ่นที่ได้รับให้มากที่สุด
“คุณรอมานานมากเลยใช่ไหม?
ทรมานรึเปล่า...เหนื่อยที่จะรอผมรึเปล่า”
“ข้าไม่เคยเหนื่อย...”เสียงทุ้มเอ่ยบอก
ใช้มืออีกด้านเกลี่ยเส้นผมลากไล้ลงมาแตะเปลือกตาบาง จมูกรั้น แก้มกลมนิ่ม
คางมนและลำคอขาว
“เป็นล้านๆปีที่ข้ารอเจ้าอยู่ตรงนี้...”
“...”
“...ไม่มีวันไหนที่ข้าไม่รักเจ้า”
ถ้อยคำบอกรักที่พาเอาใจดวงน้อยเต้นสั่นระรัว
เปิดเปลือกตาขึ้นสบกับอดีตเทพ ดวงตาสีม่วงทอประกายอบอุ่นอ่อนหวาน ริมฝีปากบางยิ้มยิ้มกว้างมีความสุขอย่างที่แจ็คสันไม่เคยเห็น
อดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างตาม จมูกรั้นแตะลงบนปลายจมูกโด่ง
หัวเราะเบาๆเมื่อปลายจมูกโด่งเบี่ยงมากดสูดดมความหอมหวานข้างแก้มเบาๆ
ตามมาด้วยริมฝีปากบางสวยที่กดจูบลงไป สลับข้างซ้ายขวาคลอเคลียเขาไม่ห่าง
มาร์คผละออกเล็กน้อย
ใช้ปลายจมูกดุนดันจูกรั้นของคนในอ้อมกอดย่างต้องการจะหยอกล้อ
สบดวงตากลมที่ทอประกายความสุขไม่ต่างกัน
ความต้องการที่ฉายแววชัดในแววตาสีม่วงทำให้แก้มกลมแดงระเรื่อ แจ็คสันยิ้มเม้มปาก
แล้วคลายออกเมื่อริมฝีปากอีกคู่ตรงเข้ามาแนบแตะสองครั้งเป็นเชิงขออนุญาต เผยออ้าออกเล็กน้อยให้ปลายลิ้นเรียวสอดแทรกเข้ามากอบโกยความหวานภายใน
มือแกร่งเข้ากุมใบหน้าเขาปรับองศาให้พอดีกับรสจูบแสนอ่อนหวาน มือขาวคล้องเข้ากับคอแกร่งปรือตาปิดลงรับความรู้สึกของมาร์คที่สื่อให้เขาได้รับรู้ผ่านการกระทำ
หลงในรสจูบอันยาวนาน
กว่าจะรู้ตัวแผ่นหลังเปลือยเปล่าก็แนบลงไปบนฟูกอีกครา ดวงตากลมลืมตาขึ้นสบตากับอัญมณีเนตรงดงามที่จดจ้องมาก่อน
“ครั้งนี้อ่อนโยนกับผมด้วยนะ”
เอ่ยขอเมื่อรู้ว่าคงปฏิเสธสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ไม่ได้
เพราะเอาจริงๆแล้วแจ็คสันก็กำลังรู้สึกต้องการไม่ต่างกัน
ถึงจะยังรู้สึกกลัวๆจากการมีความสัมพันธ์ครั้งก่อนอยู่นิดๆก็ตาม
มาร์คแย้มยิ้มพยักหน้าตอบรับ
มือแกร่งลูบไล้ไปตามลำคอขาวเลื่อนลงมาลากผ้าห่มออกไปจากร่างขาว
เป็นเวลาเดียวกันกับที่ห้าด้านนอกมืดสนิท เทียนในห้องถูกจุดขึ้นมาส่องแสงสีส้มเหลืองกระทบร่างแจ็คสันให้ดูน่าเสน่ห์หามากยิ่งขึ้น
แลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผาก พยายามสะกดกลั้นความรู้สึกอยากจู่โจมคนใต้ร่างด้วยความร้อนแรงที่ก่อตัวขึ้นในร่างกายไปก่อน
สีหน้าและแววตาหวาดกลัวของแจ็คสันในครั้งก่อนยังตามหลอกหลอนเขาไม่แพ้คนใต้ร่างไม่ต่างกันนัก
“สัญญา...ด้วยหัวใจ”
จมูกโด่งคลอเคลียข้างใบหูบางแดงเรื่อ
ฟันขาวขับกัดเบาๆ ลากลิ้นชื้นลงมาตามลำคอขาวหยุดขบกัดดูดดึงผิวคอและไหล่สองสามจุดให้แดงเรื่อ
เพื่อตีตราความเป็นเจ้าของสร้างความวาบหวามให้ร่างอวบ มือเล็กบีบไหล่เขาแน่นเกร็งสั่นเล็กน้อย
เขินอายกับการกระทำอันแสนทนุถนอม มันไม่คุ้นชินจนแจ็คสันรู้สึกเขินตัวจะแตก
มือแกร่งสองข้างลากไล้ลงมาตามสีข้างหยุดเล่นหน้าอกนุ่มบีบขย้ำเบาๆ
ใช้นิ้วโป้งกดยอดอกสีสวยที่เริ่มแข็งตึงมือตามอารมณ์ที่ถูกจุดขึ้น มาร์คเลื่อนริมฝีปากลงมาจัดการจูบไปตามพื้นที่ต่างๆบนร่างเขาอย่างไม่นึกรังเกียจ
ทั้งเอ็นดูจนแจ็คสันส่งเสียงครางออกมาอย่างอดไม่ได้
“อื้อ~”
เจ้าตัวสะดุ้งรีบปิดปากตัวเองแน่น
ผิวแก้มแดงก่ำเขินอายที่ส่งเสียงประหลาดออกไป แต่มาร์คกลับจับมืด้านนั้นออกประสานมือกดลงบนพื้นที่นอน
ยันตัวขึ้นกดจูบริมฝีปากแดง
“ร้องออกมาเถอะ
ข้าอยากได้ยินเสียงเจ้านะ”
“น่าอายออก
อ๊ะ อ๊า!”เถียงยังไม่ทันขาดคำก็ต้องเปล่งเสียงร้องเครือออกมาเพราะมือซนๆไปยุ่มย่ามแถมส่วนกลางลำตัวเขาพอดีน่ะสิ
ตาโตถลึงตามองคนตัวสูงที่กำลังหัวเราะในลำคอ
...เมื่อกี้แกล้งกันนี่!...
นึกอยากโวยวายใส่ก็ได้แต่จิกไหล่แกร่งสะกดกลั้นความเสียวกระสันที่พุ่งขึ้นมาจากการปรนเปรอของคนบนร่าง
เปิดปากส่งเสียงครางออกไปตามที่ตนเองรู้สึก ไม่กลั้นความรู้สึกตัวเองอีกต่อไป
จิกนิ้วลงกับที่นอนเมื่อถึงจุดสุดอารมณ์ของตัวเอง เหลือบตามองหยาดน้ำขุ่นของตัวเองที่เปราะเปื้อนทั้งหน้าท้องตัวเองทั้งมือแกร่ง
มาร์คจับต้นขาอวบฟิตให้แหวกออกเผยให้เห็นช่องทางด้านหลังที่ปิดสนิท
ถึงแจ็คสันจะขัดขืนยังไงก็สู้พลังของอดีตเทพไม่ได้ ได้แต่หน้าแดงซบหน้าลงกับหมอน
สะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงความเย็นชื้นตรงปากทางเข้า
ต้นขาขาวที่เกร็งสั่นบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังหวาดกลัวอยู่ลึกๆ
เหตุการณ์ครั้งนั้นคงกำลังย้อนกลับมาทำร้ายแจ็คสันอีกครั้ง เสียงสะอื้นเบาๆดังขึ้น
มาร์คหยุดชะงักไปชั่วครู่ โน้มตัวจับปลายคางมนให้หันมาสบตาด้วย
“อยากให้ข้าทำต่อไหม?”
แจ็คสันเม้มปากแน่น
แม้จะหวาดกลัวอยู่นิดๆแต่เพราะครั้งนี้มาร์คทนุถนอมเขามาก เขาจึงเลือกที่จะเชื่อใจ
พยักหน้าตอบกลับไป
“ผมเชื่อใจมาร์ค...”
“ขอบคุณนะ
แจ็คสัน”มาร์คกดจูบลงไป หัวใจที่เย็นชาเต้นแรงเพราะมีความสุข
ความสุขจากการได้รับความรักและความเชื่อใจที่ไม่ได้พบมามากกว่าล้านๆปีทำให้เขากำลังรู้สึกลิงโลดเกินกว่าจะควบคุมได้
ปลายนิ้วแกร่งชื้นกดลงไปในช่องทางที่ตนเคยบุกรุกเข้าไป ผนังนุ่มตอดรัดนิ้วเขาแน่น
เสียงครางเครือดังขึ้นมาข้างหูเร่งให้มาร์คเพิ่มนิ้วเข้าไปเพื่อขยับขยายเส้นทางให้เร็วที่สุด
มือขาวโอบรัดคอเขาแน่น บิดร่างเสียวกระสันอยู่ด้านใต้
ตากลมขุ่นมัวไปด้วยความต้องการเป็นตัวเร่งปฏิกิริยามาร์คให้รีบถอดนิ้วออกแล้วส่งท่อนเอ็นที่ตื่นตัวมานานไปจ่อปากทางแน่น
แจ็คสันผวาตัวเข้ากอดมาร์คเต็มรัก
ส่งเสียงเฮือกเผลอกลั้นหายใจในขณะที่ช่องทางด้านหลังกำลังถูกเติมเต็มด้วยคนตัวสูงช้าๆ
เกร็งตัวอย่างช่วยไม่ได้ ความฝืดแน่นอึดอัดด้านหลังกำลังทำร้ายเขา
“มาร์ค...ฮึก...”แม้ไม่ต้องพูดมาร์คก็รู้ว่าแจ็คสันกำลังจะพูดอะไร
เล็บสั้นครูดจิกบนหลัง ใบหน้ากลมซบไหล่เขาสะอื้นส่งเสียงครางปนคำตัดพ้อ ‘เจ็บๆ’ ออกมาไม่หยุด มือแกร่งโอบหลังร่างเล็ก ในขณะที่มืออีกด้านบีบเฟ้นสะโพกแน่นเพื่อให้แจ็คสันผ่อนคลายลง
ก่อนจะขยับสะโพกกำกับจังหวะรักเนิบนาบ ตาก็จดจ้องปฏิกิริยาคนในอ้อมกอดเงียบๆ
...เขาไม่อยากให้แจ็คสันรู้สึกทรมานกับเซ็กซ์ไปมามากกว่านี้...
“ฮะ มาร์ค
อื้อ”ไม่นานเสียงบ่นเจ็บก็กลายเป็นเสียงครางเครือหวาน เส้นผมชุ่มเหงื่อ ตาโตปรือปรอยฉ่ำน้ำ
แก้มกลมแดงจัดเพราะแรงอารมณ์ แจ็คสันตอนนี้เย้ายวนอารมณ์เขาเหลือเกิน
มือแกร่งกระชับสะโพกอวบกระแทกร่างลงไปตามอารมณ์ที่โดนภาพตรงหน้ายั่วเย้าเรียกเสียงครางลั่นจากคนใต้ร่าง
คางมนเชิดส่งเสียงครางรู้สึกดีไม่หยุดประสานไปกับเสียงครางต่ำของคนกระทำ เพลิงพิศวาสจากความรักกำลังโหมกระพือมอดไหม้ทั้งสองให้กลายเป็นจุล
มาร์คเร่งจังหวะเร็วและหนักขึ้น เสียงเนื้อกระทบเสียดสีกัน ความเฉอะแฉะจากการร่วมรัก
เสียงเตียงขาเตียงครูดไปกับพื้นหิน เสียงครางประสานกัน
ทั้งหมดกำลังทำให้ห้องทั้งห้องลุกเป็นไฟ
แจ็คสันหวีดร้องครางลั่น
สะโพกขาวกระตุกรับความรุ่มร้อนของมาร์คที่ระบายเข้ามาในร่างเขา ร่างสูงกอดเขาแน่นกระตุกส่งเข้ามาอีกสองสามครั้งเติมเต็มภายในให้อุ่นร้อนไปทั้งช่องท้อง
ทั้งสองโอบกอดกันทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียง
แจ็คสันหอบหายใจแรงอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นที่รัก ปรือตามองมาร์คอย่างเจ็บใจนิดๆที่มาร์คไม่ใช่คนธรรมดาเลยไม่แสดงอาการเหนื่อยหอบออกมาให้เห็น
แถมยังกดจูบคลอเคลียเขาไม่หยุดอีกด้วย
“มาร์ค
ผมเหนื่อยแล้ว”ส่งเสียงเตือนเมื่อสิ่งที่ยังค้างอยู่ในช่องทางเขาเหมือนกำลังขยับขยายตัวขึ้นมาอีกครั้ง
มาร์คกดจูบบนหน้าผากมนเบาๆ ตัดใจถอดถอนร่างออกมา
น้ำขาวขุ่นไหลเลอะเปื้อนต้นขาฟิตแน่น
“ข้ารักเจ้าแจ็คสัน”
“ผมก็รักคุณ...ขอบคุณที่รอมาตลอดนะ”
แจ็คสันยิ้มบางๆปรือปิดเปลือกตาลงเพราะความเหนื่อยอ่อนจากทั้งการรับความทรงจำและทั้งกิจกรรมการเข้าจังหวะ
อ่อนล้าเกินจะฝืนต่อได้ ขยับตัวเข้าหาความอบอุ่นจากวงแขนแกร่ง
ซุกหน้าลงไปสูดกลิ่นหอมเย็นของคนตัวสูงแล้วหลับไปในที่สุด
มาร์คมองคนตัวเล็กที่หลับไปแล้วอย่างนึกเอ็นดู
ก้มลงจูบกระหม่อมบาง ขยับตัวโอบรัดร่างขาว สั่งไอสีดำยกผ้าห่มผืนหนาขึ้นคลุมร่างพวกเขาไว้
แล้วหลับตาซึมซับความอุ่นและกลิ่นหอมหวานของเจ้าของดวงใจ ค่ำคืนนี้เป็นการนอนที่มีความสุขที่สุดของลูซิเฟอร์ในรอบหลายล้านปี
...ลูซิเฟอร์ได้ดวงใจของตนเองกลับมาแล้ว...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น