[EREBUS] 10
~ 10 ~
...ลูซิเฟอร์กำลังร้อนใจ...
ขายาววิ่งไปตามโถงทางเดิน ไม่สนใจเสียงร้องตะโกนเรียกชื่อเขาจากด้านหลัง อกร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อน ความรู้สึกหลากหลายปนเปกันอยู่ในหัว ทั้งรู้สึกกังวล ดีใจ ตื่นเต้น โกรธและรู้สึกผิด ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะรู้สึกอย่างไร หรือทำอะไรต่อไป แต่ตอนนี้เขารู้ว่าควรไปหาคนที่โดนเขาทำร้ายให้เร็วที่สุด
...นี่เขาทำอะไรลงไป?...
ถามตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ที่รู้ความจริงจากปากเจบีและจูเนียร์ ถ้ารู้ก่อนคงไม่ทำ ไม่มีทางทำร้ายคนสำคัญของตัวเองแบบนั้นแน่ๆ
...เทพลูซิเฟอร์ผู้หยิ่งผยองกำลังรู้สึกว่าตนเองช่างโง่เขลา...
“แจ็คสัน!”
เรียกคนที่น่าจะอยู่ในห้องลั่น เปิดประตูออกหวังเพียงพบร่างขาวที่ตนเองย่ำยีไปเมื่อคืน ใจหายวาบเมื่อบนเตียงไร้เงาคนที่ตามหา มองไปทางไหนก็ว่างเปล่าไร้สิ่งมีชีวิตใด เดินไปสัมผัสพื้นเตียงดูก็พบว่ายังอุ่นๆเหมือนคนบนนี้เพิ่งลุกไปได้ไม่นานเท่าไหร่นัก
“แจ็คสัน! เจ้าอยู่ไหน”ตะโกนถามหา ในใจก็ยังหวังว่ายังจะไม่หายไปไหน เดินไปเปิดห้องน้ำดูก็ว่างเปล่า ห้องนั่งเล่น ห้องสมุดก็ไม่เห็นมีวี่แวว ตามหาทุกซอกทุกมุม ใช้พลังตามหาไปทุกที...แต่ก็ไม่เจอ
...แจ็คสันหนีไปแล้ว...
...ทำดวงใจหายไปอีกแล้ว...
พลันตาก็เหลือบไปเห็นสิ่งผิดปกติ โซ่สีดำคล้องจากมุมหน้าต่างโรยลงไปตามความสูงของกำแพงปราสาท หรี่ตามองปลายโซ่ที่หยุดอยู่เหนือเหล็กแหลมไม่ถึงเมตรกำลังสะบัดไหวไปกับสายลม กระทบตัวปราสาทส่งเสียงกึงกังน่ารำคาญ
ลูซิเฟอร์บินโฉบลงมาดูพื้นด้านใต้ด้วยใจที่เริ่มหวาดระแวง หัวคิ้วขมวดแน่นเมื่อเห็นโลหิตสีแดงสดไหลเลอะเหล็กแหลมแท่งหนึ่งที่ล้อมรอบตัวปราสาทไว้ มองหยดเลือดที่ไหลรดหยดเป็นทางเข้าไปในป่ามืดทึบ
...แจ็คสันกำลังตกอยู่ในอันตราย..
“แจ็คสัน!”
“แฮ่กๆ...แฮ่ก”
ลมหายใจร้อนกระชั้นหอบเอาอากาศเข้าไปในปอดที่ร้าวราวกับมันกำลังจะฉีกขาด มือจับหน้าอกสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของอวัยวะด้านใต้ที่กำลังทำงานอย่างหนักหน่วง เหนื่อยจนหมดแรงที่จะเดินต่อ เซอิงต้นไม้หนึ่งไว้ขณะพยายามพยุงตัวไว้ไม่ให้ล้มลงไปเสียก่อน
“ฮึก...”กลั้นเสียงสะอื้นเจ็บปวด ก้มมองดูต้นขาซ้ายที่ปรากฏรอยแผลจากการถูกแทงขนาดใหญ่อยู่บนนั้น หยาดเลือดสดๆไหลรดท่อนขาขาวให้กลายเป็นสีแดงอย่างน่าสยดสยอง รอยเลือดไหลมาตลอดทางทำให้เขาหวาดกลัวว่าจะโดนตามจับได้หากไม่รีบหนีให้เร็วกว่านี้
ตื่นมาในห้องนอนที่ว่างเปล่า ขาและมือไม่ได้ถูกพันธนาการ สิ่งแรกที่เขาคิดคือการหนี...
...ไม่อยากอยู่แล้ว ไม่อยากอยู่กับคนที่ทำร้ายเขา ไม่ยากจะโดนทำร้ายซ้ำซาก...
เขาติดอยู่กับความคิดที่จะหลบหนีจากลูซิเฟอร์วนเวียนเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา ตอกย้ำความปวดร้าวภายในจิตใจจนเลือกจะเอาชนะความปวดร้าวทางร่างกาย กระชากโซ่ที่มาร์คเหลือทิ้งไว้ในห้องมัดมันไว้กับเสาเตียงด้านหนึ่งแล้วปีนหนีออกมา อุตส่าห์อดทนปีนลงมาจนเกือบจะถึงแล้วแท้ๆ ดันพลาดกะจังหวะผิดตอนยันตัวจะลงพื้น ขาด้านซ้ายเลยโดนเหล็กแทงเข้าให้ แม้จะเป็นเพียงถากๆก็มากพอให้เกิดรอยแผลใหญ่และทำให้เขาต้องหอบร่างกายบอบช้ำใกล้จะหมดสติออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด
ตอนออกมาไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะหนีไปไหน คิดเพียงอยากจะหนีออกมาให้เร็วที่สุด พอมาถึงตอนนี้เขาเริ่มรู้ว่าตัวเองกำลังแย่...
...ไม่รู้ว่าแบมแบมกับยูคยอมอยู่ที่ไหน จะไปหายองแจก็ไม่รู้จะอดทนหอบร่างนี้ไปถึงรึเปล่า...
ถอนลมหายใจเฮือกใหญ่ ทรุดตัวลงนั่งบนโคนไม้ ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ เหยียดขาซ้ายออกอย่างพยายามทำให้เบาที่สุด ฉีกปลายเสื้อกล้ามที่ใส่อยู่ออกมาจัดการมัดบาดแผล อย่างน้อยก็คงช่วยให้เลือดไม่ไหลอยู่ชั่วขณะหนึ่งได้
กร๊าซซซซซซซ
เสียงคำรามหวีดสูงบนฟากฟ้าทำเอาร่างเล็กสะดุ้งเฮือก ความกังวลพุ่งตรงเข้ามาในความคิด เขาลืมไปได้อย่างไรว่าในเอริบัสสัตว์ส่วนใหญ่ชอบกินไอวิญญาณและเลือดของมนุษย์ หากไม่รีบหาที่ซ่อนล่ะก็ เขาไม่ได้ตายดีในป่านี้แน่ๆ
พยุงกายลุกขึ้นออกเดินต่อ ความรู้สึกเย็นเยียบขนหัวลุกก็แทรกเข้ามาให้ขาหยุดชะงัก รับรู้ถึงสายตานับสิบคู่ที่ตรงมาทางเขา พวกมันต่างไม่ประสงค์ดี เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ที่แน่ๆคือแจ็คสันอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว
กรรรรรรรรรรร!!!
สกัดกลั้นความเจ็บพุ่งตัวออกวิ่งออกเร็วเท่าที่ความสามารถตอนนี้จะทำได้ ความกลัวกำลังคลอบคลุมทั้งจิตใจ กรีดร้องลั่นเมื่อโดนอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาชนร่างให้กลิ้งสามตลบลงไปกับพื้น เสียงคำรามลั่นคล้ายเสือของร่างที่เข้ามาคร่อมเขาและเงาใหญ่โตของมันทำเขาสติเสียคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
แกว๊กกกกก!!!
แจ็คสันสะบัดขึ้นไปมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ร่างยักษ์ใหญ่ที่คร่อมเขาเมื่อครู่ถูกไวเวิร์นตัวยักษ์โฉบออกโยนทิ้งไม่ใยดี และมันกำลังจะพุ่งมาหาเขาอีกครั้ง
โฮรกกกกก!!!
พลันสัตว์ประหลาดอีกตัวก็พุ่งเข้ามาใช้ปากแหลมของมันกัดไวเวิร์นตัวดังกล่าวขาด เลือดสีเขียวไหลทะลักสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่ อึ้งได้ไม่นานสัตว์ประหลาดนับสิบตัวประสานเสียงขู่คำรามลั่นพุ่งเข้ามาหาเขา ทุกอย่างวุ่นวายสับสน แผ่นดินสะเทือนเหมือนมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในภาคพื้นนรก
แจ็คสันรีบเรียกสติกลับมา สมองสั่งทั้งขาทั้งแขนให้ตะกายหนีออกไปให้เร็วที่สุด แต่เพียงลุกขึ้นยืนๆด้ เขาก็ต้องร้องลั่นสะบัดแขนด้านหนึ่งที่โดนปากใหญ่งับจมเขี้ยวด้วยความตกใจ เลือดสดๆไหลเปื้อนท่อนแขนขาวกระตุ้นให้สัตว์ประหลาดพวกนั้นมันยิ่งบ้าคลั่งฆ่ากันเพื่อได้เขาไปเป็นอาหาร
กลิ้งตัวหนีหลังกระแทกต้นไม้ต้นหนึ่งดังอั๊กใหญ่ ยันตัวลุกขึ้นมองดวงตาใหญ่กระหายหิวของพวกมันด้วยความหวาดกลัว บาดแผลทั้งใหม่และเก่ากำลังเล่นงานเขาให้ไม่สามารถจะลุกขึ้นหนีได้ ตาเริ่มลายและวิงเวียนศีรษะ สงสัยว่าเขาจะเสียเลือดมากเกินไปเสียแล้วสิ
แค่นหัวเราะพ่นของเหลวสีแดงออกมา สูดลมหายใจเข้าปอดที่ปวดร้าว เจ็บปวดและสิ้นหวังที่จะมีชีวิตต่อ เขาหนีต่อไม่ได้แล้ว หลับตายอมรับความตายที่เจ้าตัวประหลาดตรงหน้าจะมอบให้ด้วยความจำยอม
...นี่หรือจุดจบสุดท้ายของแจ็คสัน หวัง...
...น่าสมเพชอะไรเช่นนี้...
.
.
.
.
.
.
“แจ็คสัน!”
ในช่วงสุดท้ายของความหวัง พลันเสียงทุ้มทรงพลังก็ตวาดลั่นท้องฟ้า ลมพายุใหญ่หมุนกระแทกพวกสัตว์ประหลาดล้มระเนระนาดลงกับพื้น เสียงดังโครมครามสะเทือนแผ่นดิน แจ็คสันลืมตาพรึบมามองเหตุการณ์ด้วยความมึนงง
มังกรทมิฬรูปร่างเพรียวสวยสง่าสะบัดปีกใหญ่ยักษ์ของมันก่อพายุ พุ่งโฉบลงมาใช้กรงเล็บแหลมจิกร่างสัตว์ประหลาดสองตัวขึ้นไปกระแทก เสียงกระดูกหักดังก้องฟ้า ปล่อยร่างไร้ชีวิตของพวกมันลงพื้นอย่างไม่ใยดี พุ่งฉกเสือยักษ์ที่โจมตีเขาตัวแรกสุดขึ้นไปบนฟ้าฉีกกระชากมันขาดออกเป็นสองท่อน เลือดสีดำไหลสาดกระเซ็นไปทั่ว เศษซากร่างกายและเครื่องในไหลร่วงกระทบพื้นน่าสยดสยอง
โก่งคอร้องคำรามไปทั่วผืนป่า ผืนดินและผืนฟ้าประกาศศักดาให้เลื่องลั่นไปทั่วนรกเอริบัส พุ่งลงมากดเจ้าพวกตัวที่เหลือไว้กับพื้น จัดการฉีกกระชากร่างให้ดับดิ้นทุกถ้วนตัวไป โลหิตหลากสีไหลทะลักชโลมแผ่นดินสีดำให้ดูดซับไปอย่างยินดี
“อย่ามายุ่งกับดวงใจข้า เจ้าพวกสวะ!!!”เสียงร้องคำรามช่างคุ้นหูของมังกรยักษ์ดังแล่นเข้ามาในห้วงการรับรู้ของแจ็คสันก่อนที่สติจะดับวูบไปเพราะทนอาการบาดเจ็บทางร่างกายไม่ไหว ห้วงความคิดสุดท้ายยังดังก้องวนเวียนอยู่ในหัวแม้ยามหมดสติก็ตาม...
...มาช่วยผมทำไมล่ะลูซิเฟอร์?...
...ท่านจะมาช่วย...หรือมาตามย่ำยีทำลายให้เหลือแต่ซากธุลีกันกันแน่?...
“อนาตตาเซีย! เจ้าอยู่ไหน!”
เสียงร้องเรียกของท่านราชครูดังก้องไปทั่วทั้งปราสาท แต่เด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งหย่อนขาบนต้นไม้ในมุมอับหนึ่งของสวนใหญ่กลับหาได้สนใจไม่ ซ้ำยังแลบลิ้นกวนประสาทให้กับเจ้าของเสียงที่คงไม่ได้เห็นท่าทางนี้แน่ๆ
“แอบหนีเรียนพิณมาอีกแล้วหรืออะนาตตาเซีย?”
“ท่านลูซิเฟอร์!!!”
เด็กหญิงตกใจสะดุ้งเกือบตกลงจากกิ่งไม้ ดีที่ได้มือแกร่งฉุดร่างเล็กนั่นให้กลับขึ้นมานั่งดีๆอีกครั้ง ดวงตาสีม่วงใสดุคนซุ่มซ่ามผ่านทางสายตา เด็กหญิงหัวเราะแหะๆ นั่งนิ่งๆเกร็งๆข้างกายท่านเทพชั้นเซราฟิมผู้ยิ่งใหญ่ในแดนสีขาวแห่งนี้ ชายหนุ่มรู้ดีจึงอดไม่ได้ที่จะขยี้เส้นผมสีน้ำตาลเข้มนุ่มนั่นด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ถ้าหนีเรียนอีก ข้าจะไม่ยอมสอนดาบให้ สัญญาแล้วทำตาม”
“สัญญาแล้วทำตาม”เด็กหญิงรีบตอบรับเสียงตื่น กลัวว่าชายหนุ่มจะไม่ยอมสอนดาบให้เธอจริงๆ เพราะเธอเป็นเพียงนางฟ้าชั้นผู้น้อยที่มีหน้าที่บรรเลงเพลงให้กับชาวสวรรค์ เธอจึงไม่มีสิทธิ์จะเรียนเพลงดาบที่เธอแสนจะปลาบปลื้มได้
“ดีมาก เด็กดี...”
“อะนาตตาเซีย! เหตุใดเจ้าจึงรู้เพลงดาบ เจ้าเรียนรู้มาจากผู้ใด”
นางฟ้าน้อยอนาตตาเซียผู้เติบโตย่างเข้าสู่วัยรุ่นนั่งคุกเข่าสำนึกผิดต่อหน้าอาจารย์สอนเครื่องเป่าที่ไปเจอเธอกำลังฝึกซ้อมดาบในสวนดอกไม้ ดวงตากลมโตสีฟ้าใสเบือนต่ำไม่กล้าบอกความจริงออกไป
“อะนาตตาเซีย บอกข้ามาก่อนที่เจ้าจะโดนทำโทษ”
“ข้าเอง...”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาในห้องฝึกซ้อม ประตูใหญ่ถูกเปิดออก ร่างสูงที่ก้าวเข้ามาสร้างความฮือฮาให้คนทั้งห้อง “ข้าเป็นคนสอนเพลงดาบให้นางเอง ถ้าจะลงโทษนาง โปรดลงโทษข้าแทนเถิด”
อะนาตตาเซียเงยหน้ามองคนที่มาช่วยแก้ตัวแทนเธออย่างไม่อยากเชื่อ
“ท่านลูซิเฟอร์...คือ ข้ามิอาจหรอกค่ะ”
“ท่านครูแอนนา ข้ามาวันนี้เพื่อจะขอรับตัวอะนาตตาเซียมาเป็นลูกศิษย์ของข้า”
คราวนี้อะนาตตาเซียเบิกตากว้าง เผลอยื่นมือไปจับมือแกร่งไว้แน่น นิ้วแข็งแรงกอบกุมมือเล็กเอาไว้เป็นเชิงปลอบประโลม อาจารย์สอนเครื่องเป่ามองภาพนั้นอย่างล่วงรู้ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
“ตามประสงค์เลยค่ะ ท่านลูซิเฟอร์ แอนนาไม่มีสิทธิ์ใดๆ”
“อะนาตตาเซีย เจ้าอยู่ที่ไหน?”
“ข้าอยู่นี่”น้ำเสียงสดใสมาพร้อมวงแขนเล็กที่โอบกระชับรอบเอวสอบของชายหนุ่ม โผล่หน้ามาส่งยิ้มกว้างให้คนที่ยิ้มตอบและเอื้อมมือมาลูบผมเธอเบาๆ
“ท่านกำลังไม่สบายใจอะไรหรือ?”
“ไม่มีอะไร...”
“เสียงท่านบอกว่ามีนี่นา”อะนาตตาเซียในวัยสาวแรกรุ่นงดงามไม่แพ้ใครในชั้นสวรรค์ก้าวขึ้นมายืนตรงหน้าเทพที่รัก ดวงตาโตสีฟ้าใสจ้องเค้นความลับชายหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้
“อะนาตตาเซีย...”หญิงสาวตกใจเล็กน้อยเมื่อจู่ๆก็โดนอ้อมแขนแกร่งรวบเข้าไปกอดแน่น มือบางสอดไปกอดร่างสูงสง่าที่ตอนนี้ดูอ่อนแอจนน่าใจหายอย่างไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก
“จะอยู่เคียงข้างข้าจนวันสุดท้ายหรือไม่”
“ข้าจะอยู่เคียงข้างท่าน...จนกว่าแก่นวิญญาณของข้าจะสูญสลายค่ะ”
“อะนาตตาเซีย!!!!!!!!!!!!!!!”
ชายหนุ่มกอดร่างบางในชุดกระโปรงสีขาวขาดวิ่นไว้แนบอก โลหิตสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผลใหญ่ตรงกลางอกที่โดนดาบใหญ่ทิ่มแทง ดวงตาสีฟ้าใสปรืออ่อนลง ผิวขาวนวลเปล่งปลั่งซีดเซียวจนน่าใจหาย มือบางเอื้อมขึ้นมาลูบใบหน้างดงามของชายหนุ่มที่รักแผ่วเบา
“ข้าขอโทษที่ข้ารักษาสัญญาไม่ได้...”
“ไม่นะอะนาตตาเซีย ไม่ อย่าเพิ่งหลับ อยู่กับข้าก่อนสิ ข้าไม่ให้เจ้าตายหรอกนะ”น้ำเสียงทุ้มร้อนรนอย่างที่ไม่เคยเกิด มือแกร่งเขย่าร่างบางเบาๆเรียกสติ
“ข้าไม่ได้ตายสักหน่อย...ข้าก็แค่ไปเกิดบนโลกรอท่านเท่านั้นเอง คิคิ อึก”สำลักลิ่มเลือดออกมาให้ร่างสูงได้ร้อนใจมากขึ้นกว่าเดิม
“ข้ารักท่านนะลูซิเฟอร์ โปรดอย่าลืมข้า”
“ข้ารักเจ้า อะนาตตาเซีย แต่ได้โปรด อย่าจากข้าไป”
รอยยิ้มหวานสุดท้ายก่อนที่ดวงตานั้นจะปิดลงพร้อมไอเทพที่ดับวูบลงไป ชายหนุ่มนั่งแข็งทื่อกับความสูญเสียตรงหน้า กรีดร้องร่ำไห้คร่ำครวญกอดร่างผู้เป็นที่รักแน่นแนบอก
“เจ้าจะเป็นดวงใจของข้าตลอดไป...อะนาตตาเซีย”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น