[EREBUS] 11
~ 11 ~
ร่างสูงสง่ากลับคืนร่างมนุษย์ ดวงตาสีม่วงกวาดตามองดูความวินาสสันตะโรด้วยความเรียบเฉย ทั้งกลิ่นคาวเลือด เศษซากร่างกายที่ถูกเขาฉีกกระชาก ยกมือขึ้นกวาดไปรอบตัว บังเกิดเปลวไฟนรกสีม่วงขึ้นแผดเผาทุกสิ่งทั่วบริเวณ เพียงพริบตาเดียวเศษซากสัตว์นรกก็สลายกลายเป็นฝุ่นปลิวไปกับสายลมและไม่มีวันจะได้กลับคืนร่างกันได้อีกต่อไป
...พวกมันผิดเองที่มายุ่งกับคนของเขา...
มาร์คกระโดดไปหาร่างอาบเลือดที่พิงอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยความเป็นห่วง แจ็คสันสลบไปแล้ว ลมหายใจที่รู้สึกได้รวยรินเบาบางจนน่าหวาดเสียว เลือดจากบาดแผลใหญ่ที่ขาและที่ต้นแขนยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ดีแค่ไหนที่เขาใส่สร้อยข้อเท้าให้ ไม่อย่างนั้นคงตามหาตัวแจ็คสันไม่เจอเร็วขนาดนี้ และอาจจมาช่วยจากพวกสัตว์นรกพวกนั้นไม่ทันด้วย
มาร์คฉีกผ้าคลุมตัวเองมัดปากบาดแผลทั้งสองที่ แม้มันจะไม่สามารถหยุดเลือดได้แต่ก็สามารถยื้อเวลาต่อได้อีกนิด อุ้มร่างเล็กขึ้นแนบอก ไม่สนใจว่าเสื้อผ้าจะเปื้อนเลือดขนาดไหน สะบัดปีกมุ่งสู่ปราสาทด้วยความเร็วดุลลูกธนูยามถูกปล่อยจากคันศร
“แจ็คสัน!”จูเนียร์วิ่งมาหามาร์คทันทีที่ร่างสูงก้าวเข้าพื้นปราสาท ดวงตาเรียวมองร่างในอ้อมแขนของมาร์คด้วยความตระหนกตกใจ “ทำไมเลือดถึงออกเยอะขนาดนี้!”
มาร์คไม่ตอบแต่เดินลิ่วเข้าไปในห้องนอนวางร่างเล็กลงบนเตียงหลังเดิม หันไปหาร่างสูงอีกร่างที่เดินเอื่อยตามหลังจูเนียร์เข้ามา
“เจบี ช่วยหน่อย”
“แก้ปมที่เจ้าผูกไว้เองเถอะ”อาจจะเป็นคำพูดที่ดูใจร้าย แต่มันก็จริงที่ว่ามาร์คควรจำได้รับบทเรียนหนักๆไปเสียที ดวงตาสีอำพันมองดวงตาสีม่วงที่จ้องเขม็งมองมาอย่างเป็นต่อ ในหมู่เทพสวรรค์ที่ถูกขับลงมา มีเพียงเบลเซบับเท่านั้นที่มีพลังในการรักษาคงเหลืออยู่ ส่วนคนอื่นโดนริบไปหมดแล้วโดยเฉพาะลูซิเฟอร์ที่ไม่เหลือพลังเยียวยาใดๆ แม้กระทั่งการเยียวยาตนเองก็มิอาจทำได้ เรียกง่ายๆว่าเบลเซบับเจบอม คือแพทย์ของเอรบัสดีๆนี่เอง...
…และแน่นอนว่าถ้าแจบอมไม่ช่วย ก็ไม่อาจหาใครทำรักษาแจ็คสันได้อีก...
จูเนียร์ที่ยืนอยู่ระหว่างทั้งสองละล้าละลังไม่รู้จะช่วยฝ่ายไหนดี ใจหนึ่งก็ห่วงแจ็คสันที่นอนหายใจโรยรินอยู่บนที่นอน อีกใจก็นึกแค้นลูซิเฟอร์ที่ทำให้อีกคนเป็นอย่างนี้ ลำพังแค่ตนเองก็ไม่อาจไปยุ่งย่ามการตัดสินใจของใครได้เหมือนกัน
“เจ้าควรเรียนรู้การรักษาสิ่งที่ควรรักษาเสียทีนะลูซิเฟอร์”แจบอมถอนหายใจเฮือกใหญ่ จับแขนจูเนียร์ที่อยู่ข้างๆ หมุนตัวจะกลับออกไป
“จะพูดอะไรอีกไหม...”
“หืม?”
“หยุดสอนข้า...แล้วช่วยรักษาเขาที...”
จูเนียร์และเขบียืนนิ่งอึ้งไม่อยากเชื่อกับภาพตรงหน้า ร่างสูงที่มากด้วยศักดิ์ศรีเช่นลูซิเฟอร์คุกเข่าด้านหนึ่งลงกับพื้นห้อง ปลายผ้าคลุมระไปกับพื้นห้องอย่างที่ไม่เคยปรากฏให้เห็น ลำตัวตรงไม่อ่อนโค้งแม้นยามที่จะต้องขอร้องใคร ตาสวยหลับลงข่มอะไรบางอย่างภายในจิตใจด้วยท่าทีนิ่งเฉย ดวงตาสีม่วงลืมขึ้นมาจ้องดวงตาสีอำพันของเจบีด้วยความแน่วแน่ไม่มีท่าทีหวั่นไหว
...ลูซิเฟอร์ผู้ไม่เคยก้มศีรษะให้ใครกำลังคุกเข่าขอร้อง...
“เจ้า...”
“รักษาเขาที...”
เบลเซบับหันไปมองคนรักที่กอดแขนตัวเองแน่น ดวงตาเรียวใสกำลังขอร้องเขาเช่นเดียวกัน พอเห็นแบบนั้นก็ใจอ่อนยวบยาบ กอดอกถอนหายใจเฮือก เดินไปหยุดอยู่ตรงปลายเตียง มองร่างโชกเลือดของคูสิทน้อยที่อาการหนักขึ้นทุกทีอย่างใจเย็น
“ข้าเห็นแก่ที่จูเนียร์ขอร้องหรอกนะ”
จูเนียร์แย้มยิ้มกว้าง ในขณะที่มาร์คลุกขึ้นจากพื้น ยิ้มบางให้เจบีแทนคำขอบคุณ
เจบีเหลือบตามองนิดหน่อยแล้วเบนสายตามายังร่างที่ต้องการการรักษา มองคร่าวๆก็รู้แล้วว่าแผลใหญ่คือที่ต้นแขนกับต้นขาซ้าย กางนิ้วออกปล่อยละอองสีทองเล็กๆโรยร่วงลงไปเหนือบาดแผลใหญ่ทั้งสอง ทันทีที่แสงนั้นตกกระทบ แผลก็ประสานเข้าหากันทันทีราวปาฏิหาริย์
“แผลใหญ่ขนาดนี้ข้ารักษาได้เพียงชั้นนอกเท่านั้น ที่เหลือต้องให้แผลหายเอง...ระวังอย่าให้ขยับตัวมากนัก เอริบัสไม่มียาสำหรับรักษาโรคของมนุษย์หรอก ข้าช่วยได้แค่นี้...”
“แค่นี้ก็พอ...”เสียงทุ้มต่ำของลูฟิเฟอร์แสดงถึงความโล่งใจ นิ้วเรียวสวยเอื้อมลูบใบหน้าซีดเซียวของผู้ที่ยังไม่ได้สติเบาๆ “เพียงพอแล้ว...”
“ยังไม่พอหรอกนะ”จูเนียร์พูดขัดขึ้น ดวงตาเรียวชี้มีร่องรอยความไม่พอใจแสดงชัด “เจ้าทำร้ายแจ็คสันขนาดที่เขาทนไม่ได้และหนีไป...เจ้าจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ ลูซิเฟอร์?”
เจบีกลับไปแล้ว แต่จูเนียร์ยืนยันที่จะอยู่ต่อ แถมยังแปลงร่างเป็นหญิงโดยให้เหตุผลว่าแจ็คสันจะได้ไม่ตกใจเวลาเห็นนาง
“ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทำร้ายแจ็คสันอีก”
จูเนียร์ประกาศเช่นนั้น ก่อนจะลากโซฟาจากห้องใดห้องหนึ่งในปราสาทมาวางในห้องนอน และนั่งนิ่งเงียบจับตามองเขามาเป็นชั่วโมงแล้ว ทุกครั้งที่มาร์คขยับเข้าไปใกล้แจ็คสัน จูเนียร์ก็จะถามหรือส่งเสียงเตือนออกมาทุกครั้ง…เหมือนตอนนี้
“เจ้าจะทำอะไรน่ะ”
“เช็ดเลือด เปลี่ยนเสื้อ”ตอบสั้นๆตัดความรำคาญ แต่ร่างบางของหญิงสาวกลับผุดลุกขึ้นมาจับมือเขาไว้ไม่ให้แตะต้องแจ็คสันได้ ดวงตาเรียวมองเขาขู่เขม็ง
“ข้าจะทำเอง”
“ข้าจะทายาให้เขา...”
ก่อนเจบีจะกลับไปได้ให้ยาสารพัดอย่างทิ้งไว้ และมียาสมุนไพรกระปุกหนึ่งที่เบลเซบับยื่นให้ลูซิเฟอร์โดยตรง พร้อมคำกำชับ “ทายาในส่วนที่เจ้าทารุณเขา ทุกๆแปดชั่วโมง จนกว่ามันจะหายดี” แน่นอนว่าส่วนนั้นก็มีเพียงมาร์คเท่านั้นที่จะทำให้ได้ แม้จูเนียร์จะอยากกีดกันมาร์คออกจากแจ็คสันยังไง แต่เธอคงช่วยในเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ
“ชิ! อย่าให้ข้ารู้ว่าเจ้าทำอะไรเขาอีกเชียว”สะบัดหน้าเดินเชิดออกไปด้วยความไม่พอใจ ทิ้งให้เขาและแจ็คสันที่ยังไม่ได้สติอยู่กับสองคน
...ยุ่งยากจริงเชียว...ถอนหายใจเบื่อในอารมณ์ หันกลับมามองร่างคูสิทน้อยที่ยังนิ่งเงียบไร้วี่แววจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ นั่งลงข้างเตียงลงมือบรรจงเช็ดคราบเลือดออกจากร่างกายขาวที่มีรอยฟกช้ำจากการทำร้ายจากพวกสัตว์นรกและรอยแดงที่เป็นร่องรอยจากการกระทำของมาร์คเองกระจายอยู่ทั่ว ทำทุกอย่างให้เบาที่สุด กลัวอีกคนจะตื่นขึ้นมากลางคัน
...เขายังไม่พร้อมจะเห็นปฏิกิริยาของแจ็คสันในตอนนี้...
เมื่อเช็ดตัวเสร็จก็ถึงเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉีกเสื้อกล้ามขาดวิ่นออกอย่างง่ายดาย ขยับตัวไปถอดกางเกงออกจากสะโพกขาวแผ่วเบา หยุดทุกครั้งที่ร่างเล็กละเมอร้องออกมาจนถอดออกได้ในที่สุด สั่งไอสีดำไปเอาเสื้อผ้าชุดใหม่มา เสื้อผูกข้างถูกสวมใส่เรียบร้อย เหลือเพียงกางเกงขาสั้นสีดำที่ถูกใส่เอาไว้ครึ่งๆกลางๆ
มาร์คพลิกร่างเล็กให้นอนคว่ำลงไปกับเตียง ประคองสะโพกขาวที่ช้ำแดงไปด้วยรอยมือหยั่งขึ้นเล็กน้อย หยิบประปุกขึ้นมาปาดเนื้อยาสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางด้านหลังที่ยังบอบช้ำ ควงทาไปรอบๆอย่างพยายามทำให้เบาที่สุด แต่คงเบาไม่พอ...
“อือ...”ตาโตกระพริบปรือขึ้นเมื่อรู้สึกถึงการรบกวน
“เจ้าตื่นแล้ว...”
ดวงตาโตช้ำกระพริบปรือกระชากตัวขึ้นหนีจากนิ้วเรียวที่สอดเข้ามาในช่องทางด้านหลัง น้ำตาเอ่อขึ้นมาอีกรอบเพราะความกลัว
“อ๊ะ! ไม่! เอาออกไป เอามันออกไป!!!!!”
กรีดร้องราวคนเสียสติ ผวาถีบกายดิ้นหนีราวกับเป็นสัญชาติญาณการระวังตัว กระเสือกกระสนดิ้นไปกับพื้นฟูกไม่สนว่าตนเองกำลังบาดเจ็บอยู่หรือไม่ ดวงตาโตก่ำวาวสั่นระริกกลัวคนที่อยู่บนร่างตนเอง ยกขายกแขนผลักไสมาร์คให้ออกไปจากตัวเอง
เดือดร้อนคนที่เฝ้ารออยู่ด้านนอกรีบวิ่งเข้ามาช่วยจับร่างที่กำลังตื่นกลัวเข้ามากอดแน่น
“แจ็คสันใจเย็น หยุดก่อน ไม่ๆ ฉันไง เจอาร์ไง จำได้ไหม ใจเย็น”มือเรียวลูบกลุ่มผมนุ่มไปมา ส่งเสียงกระซิบปลอบราวกับอีกคนเป็นเด็กเล็ก
“เจอาร์”เสียงแหบทวนชื่อทวนความจำ พอเห็นว่ามีคนคุ้นตาก็รีบสวมกอดเอวหญิงสาวแน่น เกาะซุกหน้ากับบ่าเล็กหนีหน้ามาร์คที่ลุกขึ้นไปยืนข้างเตียง
“ไม่เอา พาผมหนีที ไม่เอาแล้ว ไม่อยากอยู่กับมาร์ค ผมกลัว ฮึก ไม่เอา”พร่ำเพ้อวกไปวนมาร้องไห้กอดหญิงสาวแน่น จูเนียร์กอดปลอบมองร่างสูงสง่าที่เดินออกไปจากห้องด้วยความกังวลไม่แพ้กัน แจ็ตสันร้องไห้อยู่นอนจนร่างกายที่เหนื่อยอ่อนหลับลงไปอีกรอบ จูเนียร์ประคองศีรษะกลมให้นอนลงกับหมอน จัดการห่มผ้าห่มและเดินตามร่างสูงสง่าออกมาด้านนอก
มาร์คกำลังยืนนิ่ง ดวงตาสีม่วงมองออกไปนอกหน้าต่าง ท่าทางหยิ่งผยองและสง่างามตอนนี้กลับมีบางอย่างที่ทำให้คนที่มองเห็นได้ชัดว่าร่างสูงไม่อยู่ในสภาวะปกติ มันเศร้าหมองและมืดมนมากกว่าครั้งใดจูเนียร์เคยเห็นมา...อย่างน้อยก็หลังมาร์คเสียอะนาตตาเซียไป...
“ลูซิเฟอร์”ส่งเสียงเรียกเบาๆอย่างนึกเป็นห่วง ถึงเธอจะยังโกรธมาร์คอยู่ แต่ยังไงเธอก็ถือว่ามาร์คเป็นเพื่อน เป็นคนใกล้ชิดที่ต้องการความรักมาเติมเต็มมากกว่าใคร...
“เขาเป็นยังไงบ้าง”
“หลับไปแล้ว... นายไม่เป็นไรนะ”
“...ข้าเจ็บ...เจ็บตรงนี้”มือสวยถูกยกขึ้นมาวางบนหน้าอดด้านซ้ายที่กำลังบีบตัวจนร่างอ่อนแรงไปหมด หลับตาคราวใดก็นึกถึงดวงตาโตช้ำคู่นั้นที่มองมาที่เขา
...แววตาของความหวาดกลัว...
“แจ็คสันกลัวและเกลียดข้า”
“สิ่งที่เจ้าทำกับเขามันทำร้ายมากเกินไปสำหรับมนุษย์คนหนึ่ง... แต่ข้าว่าคงมีสักวันที่เขาจะยอมอภัยให้เจ้า”จูเนียร์ในร่างหญิงสาวเดินมายืนเคียงข้างร่างสูงสง่าที่นิ่งเงียบไปชั่วครู่หนึ่ง คล้ายกำลังย้ำทวนความคิดตนเอง
“แล้ววันนั้นมันคือวันไหนกันล่ะ จูเนียร์...”
“มันเป็นเรื่องของเจ้าที่เจ้าต้องทำให้ได้ ไม่ใช่หน้าที่ข้าที่ต้องยกลูกแก้วมาส่องดูอนาคตให้หรอกนะ”หญิงสาวทำหน้ายู่ใส่เจ้าของคำถาม ยกมือขึ้นชกแขนเทพกบฏเชิงหยอกล้อ แล้วเดินออกมาให้มาร์คได้มีความเป็นส่วนตัว
“จูเนียร์”
“หืม?”
“ขอบคุณ”
“หึ...ด้วยความยินดี”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น