[SERIES] University : ENED [BSON]

TITLE: University The Series:  ENED
COUPLE: JB x JACKSON [BSON]
RATE: PG-18
WORD: 2,990
BY: Silverfeather29 /@silverfeather29/
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------







University The Series: 
ENED










การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย สิ่งแรกที่คุณควรฝึกไว้คือการชินกับการที่ตารางชีวิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา...

นักศึกษากว่าห้าสิบชีวิตนั่งเงียบอยู่ในห้องเรียนขนาดใหญ่โดยมีอาจารย์ผู้เปี่ยมไปด้วยวิชาการกำลังบรรยายหัวข้อที่ปรากฏบนโปรเจคเตอร์ตัวใหญ่เป้งอย่าง เทคนิคการคุมชั้นในระดับประถมศึกษา ซึ่งแจ็คสันคิดว่าอาจารย์อาจจะคุมชั้นระดับประถมศึกษาเป็น แต่คุมระดับอุดมศึกษาไม่ได้ พวกเขาถึงได้เรียนไปสัปหงกไปแบบนี้...

“มีใครถามอะไรไหม?”

“...”ความเงียบคือคำตอบสำหรับทั้งคาบนี้ อาจารย์พยักหน้าแบบเข้าใจคนเดียว

“ไปศึกษาเทคนิคการคุมชั้นที่ตัวเองเคยเจอมา แล้วเราจะมาอภิปรายกันในสัปดาห์หน้า”

แจ็คสันจดตัวยึกยือลงบนสมุดอย่างเบื่อหน่าย พับเก็บโยนใส่กระเป๋า ในหัวกำลังคิดถึงตารางชีวิตที่จะทำในวันนี้ เรียนเสร็จก็ไปกินข้าว คาบบ่ายไม่มีเรียนก็ไปดูหนังสักเรื่อง กินข้าวเย็นแล้วกลับหอนอน แต่ตอนนี้คงต้องเพิ่มการหาข้อมูลวิชานี้ก่อนนอน...

“แจ็คสัน”

เสียงเรียกของหญิงสาวเพื่อนสาขาหยุดกระบวนการสรุปตารางชีวิตในสมองของแจ็คสัน ดวงตาโตหันมามองลี่ผิงหญิงสาวชาวไทยเชื้อสายจีนหน้าตาน่ารักข้างๆเขา หล่อนกำลังพนมมือทำหน้าขอร้องทั้งที่ยังไม่พูดอะไร

“เย็นนี้ว่างไหม?”

...แจ็คสันคิดว่าตารางชีวิตเขากำลังจะต้องเปลี่ยนอีกรอบ...

“ทำไมอ่ะ”

“ไปสนามฮ็อกกี้ตอนเย็นกับเราหน่อยนะ”

“...วันนี้ใครแข่ง”เขาเกือบตอบตกลงไปแล้ว ถ้าไม่ฉุดคิดว่าช่วงนี้มันเป็นช่วงกีฬาน้องใหม่และกีฬาฮ็อกกี้ก็กำลังแข่งกันอยู่ ใครๆก็รู้ทั้งนั้นว่ากีฬาประเภทนี้มันค่อนข้างอันตราย...ในหลายๆด้านอ่ะนะ -*-

“เอ่อ...ก็ศึกษากับสถาปัตย์...ส่วนคู่สองก็วิศวะกับเกษตร”

“ไม่ไปโว้ย!”ตอบปฏิเสธทันที หญิงสาวร้องแงเข้ามาเกาะแขนเขาไว้แน่น

“ไปหน่อยนะๆๆๆๆๆ ฉันกลัวอ่า”

“ไม่ชวนคนอื่นล่ะเฮ้ย! ฉันไม่อยากไปเสี่ยงตายหรอกนะ”

“โหยยย ถ้าตีกันจริงๆเขาก็คงไม่ตีเราด้วยหรอกน่า~

“มั่นใจ?”ถามย้ำไปทั้งๆที่รู้ว่ายังไงมันก็ต้องมีลูกหลงกันบ้างแหละ... หญิงสาวก็รู้ดีเลยทำหน้าลำบากใจเหมือนกัน เธอเงียบไปจนแจ็คสันถอนหายใจเฮือก

“เออๆ เดี๋ยวไปด้วย แต่คู่เราจบแล้วหนีเลยนะ”

“โอเคๆ ขอบคุณมากกก”

...อย่าแสดงท่าทางดีใจขนาดนั้นได้ไหม มันยิ่งทำให้รู้สึกว่าตอนเย็นนี้มันไม่ปลอดภัยนะ...











แจ็คสันจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ใต้ต้นสักต้นหนึ่ง หันไปมองสนามฮ็อกกี้ดินท่ามกลางป่าไม้รก ข้างๆคือแสตนด์นั่งที่มีกลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวในชุดเสื้อสีเขียวบ่งบอกคณะแล้วแอบหวั่นๆในใจ ถึงตอนนี้จะไม่เห็นพวกเสื้อช็อปน้ำเงินแถวนี้ก็เถอะ

“แจ็คสัน! ทางนี้ๆ”ลี่ผิงกระโดดโบกไม้โบกมือให้มานั่งข้างๆเธอ ซึ่งมันติดเกษตรเลยไม่ใช่เหรอวะนั่น...

“ใครเลือกที่นั่งฟะ!”แจ็คสันกระซิบเบากับเพื่อนตัวเองตอนนั่งลงเรียบร้อยแล้ว

“ก็ไอ้ปองมันมานั่งนี่ก่อน แล้วพวกเกษตรก็มานั่งข้างๆอ่ะ เอาน่า ถ้าตีกันจริงอย่างน้อยเราก็วิ่งไปหลังเกษตรเลยเป็นไง”

“หนีให้ทันละกันยัยลิง!”แจ็คสันเขกหัวหญิงสาวด้วยความหมั่นไส้ไปหนึ่งครั้งถ้วน พลันตาก็สะดุดกับสายตาบางคู่ที่มองมาจากทางสันดินฝั่งตรงข้าม แจ็คสันนั่งนิ่งหันไปสบตาแบบไม่ตั้งใจ

ชายหนุ่มตัวสูงผิวขาวในชุดเสื้อช็อปน้ำเงินประจำคณะ เส้นผมสีดำตัดหน้าม้าสั้นจัดทรงเท่ห์ ที่หูเจาะใส่จิวดำเข้ากับบุคลิกน่ากลัวของเจ้าตัวพอดิบพอดี ดวงตาเรียวคมและออร่าบางอย่างทำให้แจ็คสันรู้ทันทีว่าชายหนุ่มที่ยืนจ้องหน้าเขาตอนนี้ไม่ใช่ธรรมดา

“เห้ย! แจ็คสัน เป็นอะไร”

“ไม่ๆ”รีบหลับตามาทางเพื่อนตัวเอง รู้สึกว่าข้างขมับมีเหงื่อไหลซึม

ดวงตาคู่นั้นทำให้เขากลัว...

“โอ๊ะ! นั่นพี่แจบอม”

“หืม? ใคร”

“ก็นั่นน่ะประธานเชียร์วิศวะปีนี้ไง โหดมากกก เพื่อนฉันเล่าให้ฟัง แค่พูดกดๆก็เหมือนจะตายได้เลย แต่ให้ตาย ขนาดมองไกลๆยังใจสั่นเลยแก~~~~”แจ็คสันมองเพื่อนตัวเองที่เข้าโหมดเพ้อเต็มตัวแบบปลงๆ เหลือบไปมองชายหนุ่มที่ยังไม่ละสายตาจากเขา แถมยังกระตุกมุมปากยิ้มแปลกๆให้ ก่อนจะหันหลังกระโดดจากสันดินเข้าป่าไปเงียบๆ

“อ้าว ไปซะและ”

“สงสัยมาดูลาดเลาเฉยๆมั้ง...”

พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงโห่ร้องโทนต่ำดูฮึกเหิมก็ดังขึ้นจากทางถนน ทุกสายตาหันไปมองกลุ่มชายหนุ่มในชุดเสื้อช็อบมากกว่าร้อยคนที่วิ่งเป็นแถวพร้อมส่งเสียงตะโกนมาตามทาง ธงประจำคณะสีน้ำเงินโบกสะบัดไปตามแรงลม

แจ็คสันรู้สึกทันทีว่าบรรยากาศในสนามกำลังตรึงเครียด...

“ลี่ผิง ฉันกลับนะ”

“เดี๋ยว! อยู่ก่อนดิ ฉันก็กลัวนะเฮ้ย!

“กลัวก็กลับดิวะ จะอยู่ทำไม”

“ฉันต้องคุมน้องไง กลับไม่ได้ อยู่เป็นเพื่อนหน่อย นะๆๆๆ”

แจ็คสันถอนหายใจเฮือกใหญ่ นั่งลงที่เดิมมองการแข่งขันในสนามที่ยังเป็นคู่คณะตัวเองอย่างไม่พยายามสนใจคู่ที่กำลังทำสงครามประสาทกันอยู่คนละข้างของสนาม

...มึงอย่าตีกันนะ ไม่งั้นกูกระโดดแสตนด์ชั้นหกนี่ลงพื้นหนีจริงๆนะเว้ย...







 
นั่งนิ่งดูลูกฮ็อกกี้ดินกระเด็นไปมาช้าๆแล้วหมั่นไส้อยากลงไปเล่นแทนน้อง จะตีช้าไปไหน

“อย่าเข้าซ้าย! อย่าเข้าซ้ายได้ลูกแล้วส่งเลย!

ลี่ผิงก็เหมือนจะลืมทุกอย่างยืนตะโกนสั่งน้องในสนามจะเป็นจะตาย อย่างกับน้องมันจะได้ยินเธออย่างนั้นแหละ -*-  

ปรี๊ดดดดด!!!

“กรี๊ดดดดดดด ฮืออออออออ เสมออ่า! เอาไงดี”

...เอิ่ม แม่คุณ เสียใจแต่ตัวเองพอครับ กูมึนหัว!...

อยากจะโวยวายแต่การเคลื่อนไหวของพวกเสื้อน้ำเงินฝั่งตรงข้ามทำเอาพวกเขาชะงัก แล้วมึงจะเดินมาทางนี้ทำไมวะ!

“เดี๋ยวนะ พวกนั้นจะทำอะไร?”

แล้วคำถามของลี่ผิงก็ได้คำตอบเมื่อไอ้คนถือธงมันมายืนอยู่ข้างบนพวกเขา ไม่กี่นาทีพื้นที่แสตนด์ว่างข้างๆพวกเขาก็เต็มไปด้วยกลุ่มชายหนุ่มเสื้อน้ำเงิน...โดยมีพวกพี่เสื้อเขียวนั่งขนาบอีกข้าง...

“ลี่ผิง...”

“หืม...”

“ทำไมเราโดนล้อมวะ...”

“นั่นดิ...”

แจ็คสันนั่งเกร็งขึ้นมาทันทีที่คู่แข่งคู่ต่อมาลงสนาม สะดุ้งเฮือกใหญ่ตอนเสียงตะโกนทั้งเชียร์ทั้งโห่ดังมาจากทั้งสองข้างซ้ายขวาแบบไม่ยอมกัน


เฮ้!!!!!! โหยยยยย!!!!


 
...กูกลั๊วววว ปล่อยกูป๊ายยย...



          T________________T



“อ๊ะ! พี่แจบอม สวัสดีครับ”

“อืม...”

เสียงทุ้มเรียบๆตอบรับเสียงเรียกชื่อประธานเชียร์วิศวะเรียกให้แจ็คสันหันไปมองแบบช่วยไม่ได้ รู้สึกผิดที่หันไป เพราะพอหันไปก็เจอสายตาคมที่จับจ้องมาเต็มๆตา

...เจอไกลๆว่ากลัวแล้ว พอมาเจอใกล้ๆนี่เกร็งจนสั่นละครับ...

เจบีเป็นคนหล่อมาก กล้าบอกเลยว่ามากๆ แต่หล่อแบบโหดสัดๆ น่ากลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ รู้สึกแปลกๆที่ชายหนุ่มมองเขาบ่อย หรือว่าบังเอิญกันนะ?...

ยิ่งอึดอัดเมื่อเจบีนั่งลงห่างจากเขาไม่ถึงวาทั้งที่แถววิศวะเว้นที่ห่างพวกเขาประมาณวากว่าๆ พอเข้าใจได้ว่าเพราะจะได้คุมน้องได้ แต่จำเป็นต้องห่างคณะตัวเองจนแทบจะมานั่งกับคณะกูแบบนี้เลยเหรอวะ?

แจ็คสันนั่งเงียบ ลี่ผิงก็หนีไปดูน้องตัวเอง ปล่อยตัวเขาให้นั่งเคว้งกับเพื่อนสาขาอื่นร่วมคณะเดียวกันอยู่ตรงนี้คนเดียว เป็นเพื่อนที่ดีมากครับ...

“กลับมาเจอกีแน่ ยัยลิง!

“ผู้หญิงคนนั้นแฟนนายรึไง”จู่ๆเจบีก็ถามขึ้นมา แต่เพราะไม่มั่นใจว่าถามใคร แจ็คสันเลยหันซ้ายหันขวางงๆ “นายนั่นแหละ ศึกษาคนนั้นน่ะ”

“เอ่อ...ไม่ครับ แค่เพื่อนน่ะ”

“อืม”

ถามแล้วหันกลับไปมองน้องตัวเองในสนามต่อ ปล่อยคนโดนถามสตั๊นกึก กระพริบตาปริบๆเบลอๆ

...งง ถามกูทำไมครับ งง ครับ งองูเต็มหัวเลยครับ...






“เห้ย! มันโกง มันตีเท้าน้องกู!

“น้องมึงเอาเท้าใส่ไม้เอง!

“เห้ย! โกงเหรอวะ!

เสียงเอะอะจากทางฝั่งกรรมการเรียกความสนใจของคนทั้งสนามให้หันไปมอง ไม่ทันที่แจ็คสันจะเห็นว่าอะไรเป็นอะไร คนทั้งแสตนด์ก็ลุกพรึบ

ฝึบตุบ! อ่อก!

“เอ่ะ...”ได้แต่อ้าปากค้างมองภาพความวุ่นวายตรงหน้าเกร็งๆ กลัวจนไม่กล้าจะขยับตัว เห็นเท้ากับหมัดลอยไปมา เสื้อสองสีมั่วกันให้วุ่น เสียงร้องเอะอะวุ่นวาย ก้มหัวหลบรองเท้ากีฬาที่ถูกปามาจากทางวิศวะบ้าง หลบข้าวโพด (?) ที่มาจากทางเกษตรบ้าง

“ตำรวจ! ใครก็ได้เรียกตำรวจที!

“ตำรวจรู้แล้ว! เรียกรถพยาบาลมาเลย!

“ก่อนเรียกมึงหนีกันก่อนไหมสาดดดด!!!

...เวลาแบบนี้คณะพวกผมยังเล่นตลกได้ ยอมจริงๆครับ -*- คือแล้วเสือกมานั่งตรงกลางดงเขา ตอนนี้เลยขยับตัวไม่ได้ แต่บางคนนี่ใช้พลังตัวเบาปีนด้านหลังแสตนด์หนีไปแล้ว

“นั่งบื้ออยู่ได้ ตามมานี่!

ไม่ทันประมวลผลว่าใครเป็นเจ้าของเสียง มือแจ็คสันก็โดนจับดึงร่างเขาลงจากสแตนด์ แรงนั่นมากพอจะทำให้ตัวเขากระโดดตัวลอยจากชั้นสามมาชั้นหนึ่งได้เลย

“เฮ้ย!

“ตามมา ก้มหัวไว้ด้วย!”เสียงทรงพลังนั่นบอกเขา แจ็คสันก้มหัวต่ำวิ่งตามร่างสูงที่วิ่งพาเขาออกจากดงตีนและหมัด ดวงตามองแผ่นหลังกว้างภายใต้เสื้อช็อปนั่นอย่างปะติดปะต่อเรื่องไม่ได้ มือแกร่งหยาบกำมือเขาไว้จนเจ็บไปหมด

“เฮ้ย! อย่าหนีนะโว้ย!”ใครบางคนมาขวางหน้าพวกเขาไว้ แต่ไม่ทันจะจบประโยครองเท้าขัดมันของเจบีก็ยันล้มโครมไปกับพื้นโคลนเปียกๆ คราวนี้ชายหนุ่มหันกลับมารวบเอวอวบฉุดอุ้มเหวี่ยงตัวแจ็คสันข้ามแอ่งโคลนแล้วกระโจนตามมาจับมือเขาวิ่งต่อ

“เดี๋ยวๆ จะพาผมไปไหนน่ะ!

“เงียบเถอะน่า! อยากโดนตีรึไง!

...ไม่ใช่น้องป่ะ? ว๊ากเขาทำไมเล่า!...นึกค้อนในใจ หน้านี่งอง้ำขึ้นมาทันตา แต่ก็วิ่งตามต่อไม่กล้าต่อร้องต่อเถียงใดๆ เจบีพาเขาวิ่งหนีเข้ามาในป่าข้างสนามฮ็อกกี้ แต่เพราะไม่ชินทางเลยสะดุดนั่งนี่จนร่างสูงทนรำคาญไม่ไหว หยุดหันหลับมาอุ้มเขาอีกรอบแต่คราวนี้อุ้มท่าเจ้าสาว เล่นเอาใบหน้าขาวแดงวาบอับอาย

“ปะ ปล่อยเหอะ ผมตัวหนัก”

“วิ่งช้าน่ารำคาญ!

โดนว่าแบบนี้ก็ทำเอาสะอึกไม่น้อยเลย ถ้าเป็นภาระขนาดนี้แล้วจะพาวิ่งหนีมาด้วยทำไมวะ

...เขาล่ะไม่เข้าใจเจบีสักนิด ไม่เข้าใจสักเรื่องเลย...

เจบีหันกลับไปมองด้านหลังที่ยังมีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังลอดมาต่อเนื่อง แสงสว่างที่ลอดเข้ามาถึงแม้ไม่สว่างมากแต่ก็รำไรพอให้เห็นภาพต่างๆได้ เวลาพลบค่ำแบบนี้ทำเอาบรรยากาศโดยรอบน่ากลัวไม่น้อยเลย แต่ก็เป็นส่วนตัวมากพอเหมือนกัน...

“เฮ้ย!”แจ็คสันร้องตกใจจับไหล่คนตัวสูงไว้แน่นตอนโดนเหวี่ยงผลักจนหลังติดต้นไม้ แขนแกร่งยันต้นไม้ข้างตัวเขาไว้แบบปิดทางหนี

“นายจะทะ อุ๊บ!

ริมฝีปากร้อนแนบหยุดคำพูดใดๆที่จะหลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่มแดงน่าจูบนั่นแรงๆจนร่างเล็กกว่ารู้สึกเจ็บ มือขาวผลักไหล่แกร่งแต่เจบีแรงเยอะกว่า อาศัยส่วนสูงที่มากกว่าขยับโอบร่างเล็กเบียดไม่ให้อีกฝ่ายขัดขืนได้ บดเบียดริมฝีปากบังคับให้แจ็คสันรับรสจูบของตนเองอย่างเอาแต่ใจ

“อือ! หยุด”อาศัยจังหวะที่เจบีผละริมฝีปากออกเพียงเล็กน้อยตะโกนห้าม แต่ก็ไร้ผลเมื่อมือแกร่งคว้าคางมนบีบกรามเบาๆบังคับให้อ้าปากรับลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้าไปชิมความหวานภายในโพรงปากนุ่มต่อ ลิ้นเรียวพันเกี่ยวลิ้นเล็กดูดดึงรั้งผ่อนเบาเสริมแรงอารมณ์ให้คนตัวเล็กกว่า เจบีเชี่ยวชาญการจูบจนน่าตกใจและน่าเจ็บใจ แจ็คสันรู้สึกเจ็บใจตัวเองที่ต้านทางแรงจูบนั่นไม่ได้ แถมยังเริ่มรู้สึกเคลิ้มตามอย่างน่าอาย

“อือ”เผลอส่งเสียงครางแผ่วๆในลำคอ ปรือตาลงรับรสจูบอย่างพอใจ รู้สึกแข้งขาอ่อนแรงผิดปกติ แขนขาววาดกอดคอแกร่งไว้แน่นกันร่างตัวเองไม่ให้ไหลลงไปกองกับพื้นหญ้าชื้น

เจบีผละจูบออกมามองคนใต้ร่างที่หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด ดวงตาโตปรือปรอย ริมฝีปากอิ่มใต้จมูกรั้นช้ำแดง ผิวแก้มกลมแดงเรื่อน่ามอง นี่คนตัวเล็กจะรู้ไหมว่าตัวเองกำลังทำหน้าตาน่าขย้ำขนาดไหน...

แจ็คสันร้องฮือ ยกมือกันแผ่นอกแข็งที่แนบเข้ามาอีกครั้ง เอียงหน้าหนีริมฝีปากที่เหมือนจะแนบจูบเขาอีกครั้ง

“หันหน้ามาหน่อย อยากจูบ”

“ไม่เอา”

“นะครับ”ขอไม่พอยังยึดคางมนในหันกลับมาสบตากันอีกต่างหาก

...แจ็คสันเคยบอกว่ากลัวสายตาคู่นี้...

...แจ็คสันกลัวสายตาที่จ้องมองมาเหมือนจะดูดกลืนตัวเองเข้าไปทั้งตัวแบบนี้...

ครางในคอแผ่วเบา รับจูบล้ำลึกอีกครั้ง มือขาวจับแขนเสื้อคนตัวสูงไว้แน่น รู้สึกดีจนอดไม่ได้ที่จะจูบตอบกลับไปบ้าง เผลอเคลิ้มไปกับสัมผัสที่ปากจนลืมสังเกตมือแกร่งทีเริ่มเล่นซนไปตามร่างกายของตัวเองช้าๆ เจบีลูบไปตามลำคอขาวน่าทำรอยไล่เลื้อยลงไปกระตุกชายเสื้อนักศึกษาของคนตัวเล็กออก จัดการสอดเข้าไปสัมผัสผิวเนื้อด้านในอย่างย่ามใจ

“ฮือ~”เสียงแหบหวานครางในลำคอแผ่วเบาเรียกให้เจบีจัดการบดขย้ำปากแดงนั่นแรงขึ้น ดูดกลืนอย่างตะหละตะกราม มืออีกด้านเลื่อนลงไปบีบคลำสะโพกแน่นเต็มไม้เต็มมือเล่น

“เจบี! อิมแจบอม! เฮ้ย มึงหายไหมไหนวะเนี่ย!”เสียงเรียกชื่อคนตัวสูงและแสงจากไฟฉายแวบๆมาจากระยะไม่ไกลจากที่ที่พวกเขายืนอยู่ เรียกให้แจ็คสันรู้ตัวสะดุ้งใช้แรงทั้งหมดผลักคนตัวสูงออกจากตัวเอง ตาโตกระพริบตาปริบๆมองเจบีเขม็ง

“จูบผมทำไม...”

“อยากได้...”เจบีตอบเบาๆ แต่นั่นช่างเป็นคำตอบที่โคตรไม่เข้าใจ “นายชื่ออะไร”

“แจ็คสัน หวัง แจ็คสัน ปี 3”

“อิมแจบอม เรียกฉันว่าเจบี ปี 4 วิศวะ...”ชายหนุ่มแนะนำตัวด้วยท่าทีไม่จริงจังมากนัก แถมยังเดินเข้ามาค้ำตัวเขาไว้อีกรอบ ดวงตาเรียวคมมองลึกเข้ามาในดวงตากลมพยายามจะสื่อถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้แก้มกลมขึ้นสีแดงเรื่ออีกครั้ง

“มาเป็นแฟนกันเถอะ”

“ห่ะ!

“ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ”

“ได้ไงอ่ะ! ผมกับคุณเพิ่งรู้จักกันนะ”ร้องโวยวายอย่างไม่พอใจ ในหัวมึนเบลอตามคนตัวสูงไม่ทัน รู้สึกแพ้ผู้ชายคนนี้โคตรๆ

“ฉันถูกใจนาย เจอกันนานไม่นานมันไม่สำคัญหรอก ลองมาคบกันดูสักตั้งสิ”

ไม่ทันที่แจ็คสันจะได้ปฏิเสธอะไร เพื่อนของคนตัวสูงก็ตามตัวพวกเขาเจอ เจบีดังร่างเขาให้มายืนข้างๆ

“อยู่นี่เอง ก็ไม่ตอบกู กูนี่เดินหาทั่วทั่งป่าและ แล้วนั่นใคร? ศึกษา?”

เมียกู...”ตอบหน้าด้านๆ ทำเอาทั้งเพื่อนทั้งคนที่โดนบอกว่าเป็นเมียอ้าปากค้าง

...แค่กูปฏิเสธเป็นแฟน นี่มึงเลื่อนสถานะกูเป็นเมียมึงเลยเรอะ!!!...

“เชี่ยบี! นี่มึงเอาเวลาเขาตีกันมาทำเมียเหรอวะ!

“เรื่องของกู”พูดแค่นั้นแล้วดึงมือคนตัวเล็กออกมา

“เดี๋ยวๆ อย่าเข้าใจผิดนะ ผะ อุ๊บ!”แจ็คสันดิ้นพราดๆพยายามจะแงะมือแกร่งออกจากปากตัวเอง เจบีก็เอาแต่ฉุดอีกคนออกมายืนในที่โล่งอีกครั้ง ดวงตากลมมองเจบีค้อนๆ แต่มันน่ารักจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มนุ่มหนึ่งฟอดใหญ่ๆ แจ็คสันหน้าแดงก่ำเม้มปากแน่น

“เป็นแฟนกัน...นะ”

“มีสิทธิ์ปฏิเสธไหมล่ะ?”

“แน่นอน....................ไม่มี
=_=;”
.
.
.
.
.
.
.
.
.




...โหดสัดๆ มีแฟนเป็นประธานเชียร์วิศวะ...


























ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

GOT7 INDEX

RED ZONE #ฟิคหน้ามืด

[SF] TUAN Twins (MARKSONYIEN) *3P*