[SERIES] University : MEDED [JINSON]
TITLE: University The Series: MEDED
COUPLE: JINYOUNG x JACKSON [JINSON]
RATE: PG-15
WORD: 1,730
BY: Silverfeather29 /@silverfeather29/
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
University The Series:
MEDED
…แจ็คสันคิดว่าตัวเองกำลังดวงตก...
ร่างที่มีความสูงไม่เกิน 180 โดนหามเข้ามาในคลินิกฉุกเฉินในสภาพเสื้อผ้ามอมแมมไปด้วยเศษหญ้าและคราบดินโคลนตอนหน้าฝน เสียงร้องโอดโอยโอเวอร์นั้นเงียบกริบทันทีที่โดนพยาบาลหน้าเหี้ยมเดินมาเตือน แต่ก็ยังอดครางงึมงำด้วยความเจ็บปวดไม่ได้
...อุตส่าห์ขอป๋าเอารถมาใช้ที่มอได้แล้ว ขับวันแรกดันโง่ขับลงข้างทาง...
…ผมนี่อยากสรรเสริญตัวเองจริงๆครับ โถ่วววว...
เสียงประตูห้องผ่าตัดเล็กเปิดออก ไม่ได้ทำให้คนบนเตียงตรวจละความสนใจจากอาการปวดตรงขาตัวเองสักนิด จนกระทั่งเสียงทุ้มนุ่มนวลเอ่ยขึ้นข้างๆนั่นแหละ
“พี่หมอขอตรวจหน่อยนะครับ”
“ค...ครับ”
...เขาว่าเด็กคณะแพทย์หล่อ อยู่มาสามปีไม่เคยเชื่อจริงจังจนมาเจอพี่นี่แหละครับ...
ผิวขาวใสสุขภาพดี ใบหน้าเรียวได้รูปเข้ากับดวงตาเรียวนัยน์ตากลมใสเหมือนลูกแมว รอยยิ้มบางๆอบอุ่นจนอดคิดไม่ได้ว่าที่บ้านพี่ให้กินเตาอบรึเปล่า ถึงได้อบอุ่นขนาดนี้...
แอบเหลือบไปเห็นป้ายสีทองบนอกเสื้อกราวเขียนชื่อชัดเจน ‘ปาร์ค จินยอง’
“ถ้าเจ็บบอกนะครับ”
มือเรียวถือวิสาสะจับขาด้านที่แจ็คสันบ่นว่าปวดๆนั่นเบาๆ คนบาดเจ็บร้องโอ๊ยออกมาดังลั่นทะลุไปนอกห้องผ่าตัด จินยองรีบยกมือออก วินิจฉัยได้แทบจะทันที
“ข้อกระดูกขาด้านนี้เคลื่อนนะครับ เดี๋ยวพี่หมอจะดึงขาให้แล้วก็จะใส่เฝือกอ่อนให้”บอกคนที่กัดปากกลั้นเสียงร้องน้ำตาเล็กจนหน้าแดงเร็วๆ ยิ้มบางๆไปให้อีกรอบ
“ถ้าไม่ได้ถ้าพี่จะขอตัดกางเกงเลยจะเป็นอะไรรึเปล่าครับ? ถ้าให้ถอดเดี๋ยวมันจะเคลื่อนหนักกว่าเดิม”
แจ็คสันรีบพยักหน้ารัวๆ ทำอะไรก็ทำไปเถอะหมอ ผมเจ็บบบบบบ T[+++]T
จินยองหัวเราะกับท่าทางแบบนั้น กระแอมเมื่อรู้ว่าเผลอเสียมรรยาทไป มือขาวจับกรรไกรขึ้นมาตัดกางเกงนักศึกษาที่ยุ่ยจนไม่คิดว่าจำนำมาใส่ใหม่ได้ช้าๆ กลัวว่าจะกระเทือนไปถึงกระดูกที่เคลื่อนได้ แจ็คสันแอบสะดุ้งเล็กๆตอนเนื้อโลหะเย็นเยียบแตะผิวขาอ่อนด้านนอก พอกางเกงหลุดออกจากร่างทำให้เห็นสภาพขาตัวเองยิ่งรู้สึกสังเวชใจ
“มันจะเจ็บไหมอ่ะหมอ?”ถามอีกคนกลัวๆ จินยองยกยิ้มให้แต่ไม่ตอบอะไร นิ้วหนีบเอาผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่เหน็บไว้ตรงกระเป๋าเสื้อกาวมาให้คนเจ็บที่มองมางงๆ
“กัดเอาไว้นะครับ พี่จะพยายามทำให้เบาที่สุด”
“เหอ...”
.
.
.
.
.
กริ๊ก!
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!
แจ็คสันยังนั่งอยู่บนเตียงที่เดิม แต่ดวงตากลับพราวด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นตั้งแต่ตอนจินยองจัดการรักษาเขาแบบฮาร์ดคอร์ เห็นอบอุ่นแบบนี้แต่มือหนักแรงเยอะชะมัด เล่นเอาน้ำตาไหลพราก กัดผ้าเช็ดหน้ากันกัดลิ้นตัวเองแทบไม่ทัน
“ขอโทษนะครับ พี่หมอทำเจ็บไปใช่ไหม?”
“ก็ ก็เจ็บ...”อ้อมแอ้มตอบ ไม่กล้าบอกว่าโคตรเจ็บ กลัวจะเป็นการเสียมรรยาทจนเกินไป มองมือเรียวที่จัดการใส่เผือกอ่อนให้เขาด้วยความตั้งใจ
“หมอใจดีจัง”
“พี่ยังไม่ใช่หมอหรอก เรียกพี่ว่าพี่หมอจูเนียร์ได้ไหมล่ะ?”
“หืม?”มองคนพูดที่ยืนตัวขึ้นมาเก็บผ้าก็อตแล้วหันมาสบตาเขางงๆ
“พี่หมอจูเนียร์น่ะ เรียกสิ”
“พี่หมอจูเนียร์? ยาวจัง”ส่งเสียงเรียกอย่างว่าง่ายเรียกรอยยิ้มกว้าจากชายหนุ่มที่เอื้อมมือมาลูบเส้นผมนิ่มของคนบนเตียงผ่าตัดเบาๆ แจ็คสันกระพริบตาปริบๆตกใจกับสัมผัสนั้น เข้าใจเมื่ออีกคนบอกว่าแค่ปัดเศษหญ้าบนผมออกให้
แจ็คสันยิ้มและพูดคุยกับพี่หมอจูเนียร์ของตัวเอง โดยไม่ได้สังเกตสายตาและการกระทำของพี่หมอคนเก่งเลยสักนิด
...ว่าง่ายจังน้า~...
จินยองทำแผลใส่เฝือกให้จนเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่แจ็คสันจะต้องกลับห้อง แต่เพราะรถที่เอามาใช้ก็เดี้ยงไปแล้ว เพื่อนก็ไม่ว่างสักคน โทรศัพท์ก็ดันตกโคลนเจ๋งดับเปิดไม่ติด ขนาดกางเกงยังต้องขอยืมกางเกงบอลพี่หมอจูเนียร์มาใส่ก่อนเลยด้วยซ้ำ
“กูนี่ซวยจริงๆ”
“พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละนะ”
“พี่หมอ?”หันไปมองชายหนุ่มที่ถอดเสื้อกราวออกเหลือเพียงชุดนักศึกษาแพทย์ที่มาหยุดยินอยู่ข้างๆเขาที่พะรุงพะรังทั้งไม้ค้ำทั้งถุงยากระเป๋านมเนยเต็มไปหมดเหมือนพวกบ้าหอบฟาง
“ให้พี่ไปส่งไหมล่ะ? เดี๋ยวพี่จะกลับแล้วพอดี”
“เอ่อ...ผมเกรงใจอ่ะครับ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมขึ้นรถโดยสารไปเองก็ได้”
“สภาพแบบนี้พี่คนขับเขาจะหยุดจอดให้ไหมล่ะเนี่ย หืม? ไปเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง รออยู่นี่นะ เดี๋ยวพี่มา”พูดเองเออเองเสร็จสรรพก็เดินลิ่วจากไป ปล่อยแจ็คสันให้กระพริบตาปริบๆงงกับท่าทางแบบนั้นอยู่พักใหญ่
“อะไรของพี่แกวะ?”
ไม่นานรถสปอร์ตสีเงินคันสวยก็แล่นมาจอดอยู่ตรงหน้าเขา สัญลักษณ์รถหรูราคาแพงที่ทำเอาแจ็คสันตาลุกวาว
...เชร๊ดดดดด เฟอร์รารี่ตัวเป็นๆ...
อยากกรี๊ดอยากติ่งแตกไปโอบจูบลูบคลำ ณ บัดนั้น เสียแต่ว่าขาเดี้ยงไม่เสถียร ขืนทำแบบนั้นได้โดนคนหัวเราะขำตาย โดยเฉพาะรถที่มีเจ้าของนั่งอยู่บนนั้นอย่างพี่หมอจูเนียร์...
...พี่จะรวยไปไหนครับ แบ่งมาให้ผมด้วยก็ดีนะพี่ แจ็คสันก็อยากขับรถเฟอร์รารี่เล่นเหมือนกันนะ...
“อ่ะมา...เดี๋ยวพี่ช่วย”จินยองลงจากรถมาประคองหลังแจ็คสันที่ทำหน้าไม่ถูก ทั้งเขินทั้งไม่ชินที่โดนกระทำแบบนี้ มันก็รู้สึกดีอ่ะนะ แต่ก็แปลกอยู่ดีสำหรับคนที่เจอกันแค่ครั้งแรกๆอย่างนี้
กะเผลกๆขึ้นรถไปอย่างทุกลักทุเล ชักรำคาญเฝือกบนขาคันยิบๆจนอยากเกาเลยแหละ แต่เกรงใจคนทำแผลที่นั่งอยู่ข้างๆเลยต้องอดทนเอาไว้ก่อน ตากลมสอดส่ายมองรอบๆรถหรูอย่างตื่นเต้น เป็นไปได้ก็อยากเอแก้มแนบไถลให้รู้ถึงสัมผัสอันน่าฝันหาไปมา แต่ถ้าจะทำแบบนั้นจริงก็ดูโรคจิตบ้ารถไปหน่อย
บนรถเงียบเชียบไม่มีสนทนาใดๆออกมาจากทั้งคู่จนจินยองต้องเปิดประเด็นก่อน
“พี่ลืมถามเลยว่านายชื่ออะไร”
“โหพี่ เพิ่งถามหลังจากให้ขึ้นรถเนี่ยนะ ถ้าผมเป็นโจรนี่พี่แย่แล้วรู้รึเปล่า”
“แต่พี่เป็นคนขับนะ นายต่างหากที่ต้องกลัวพี่น่ะ”
...มันก็จริงว่ะ แล้วนี่ทำไมกูใจง่ายมาขึ้นรถเขาแบบนี้ล่ะเห้ย!...
คิ้วเรียวขมวดแน่นสีหน้าลำบอกใจเห็นได้ชัดแบบนั้นทำเอาจินยองอดหัวเราะไม่ได้
“พี่ไม่ทำหรอกน่า ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นก็ได้ พี่ชื่อปาร์คจินยอง คณะแพทย์ ปี 5 ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“แจ็คสันหวังครับ เป็นคนฮ่องกง ศึกษาจีน ปี 3”
“หืม? ศึกษาเหรอ พี่นึกว่าวิทยาการซะอีก”
“พี่ล้อเล่นป่ะ? หน้าตาแบบผมสู้คณะนั้นไม่ได้หรอก”
“นายน่ารักออก”
“...”เจอคำชมเข้าไปแจ็คสันถึงกับทำอะไรไม่ถูก แล้วมาชมผู้ชายว่าน่ารักนี่ควรจะรู้สึกแปลกๆหน่อยไหมพี่ ทำหน้านิ่งยิ้มจนเห็นตีนกาอยู่ได้ -/////////////-
“หน้าแดงแล้ว ร้อนเหรอ? เดี๋ยวพี่เร่งแอร์ให้”
“ไม่เป็นไรครับๆ”รีบตอบปฏิเสธไป หันหน้าออกไปมองบรรยากาศนอกรถเป็นการตัดสนทนาเพราะไม่อยากรู้สึกแปลกๆอีก โดยเฉพาะไอ้อกข้างซ้ายที่มันกำลังเต้นระรัวอยู่ตอนนี้ล่ะนะ...
รถหรูจอดเทียบฟุตบาธหน้าหอชาย แจ็คสันเริ่มหยิบขอเตรียมตัวจะลง
“ขอบคุณมากนะครับพี่หมอจูเนียร์ รถพี่สวยมากเลย เป็นไปได้ผมนี่อยากได้แบบนี้สักคัน”
“ถ้าชอบ พี่จะให้นั่งแบบนี้ทุกวันเลย เอารึเปล่า”จู่ๆก็ได้รับคำถามที่คาดฝัน ทำเอาแจ็คสันสตั๊นไปเลย
“หมายความว่าไง? พี่จะให้ผมเช่ารถเหรอ?”
“หึๆๆ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อยเด็กโง่”หัวเราะหึๆที่รอบนี้แจ็คสันรู้สึกไม่น่าไว้วางใจ มือเรียวหยิบเอามาร์คเกอร์บนรถขึ้นมา โน้มตัวลงไปเขียนอะไรยุกยิกๆบนเผือกอ่อนสักพักแล้วเงยหน้าขึ้นมา
“พี่ขอมือสิ”
“หา?”สงสัยแต่ก็ยื่นมือไปให้ด้วยความว่าง่าย มองตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนมือด้วยความเขินอาย หัวใจเต้นแรงไม่หยุด หน้าก็ร้อนขึ้นมาเฉยๆ
“พรุ่งนี้ตอนเย็นโทรมานะครับ เดี๋ยวพี่จะมารับไปตรวจที่คลินิก...”รอยยิ้มกว้างพาใจหวั่นไหวเข้ามาอยู่ใกล้เขาเมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าแจ็คสันกำลังเขินจนตัวจะแตก ยิ่งริมฝีปากเรียวแตะลงข้างแก้มเขาแผ่วเขายิ่งทำให้หน้าร้อนใกล้ระเบิด
“แต่ถ้าแจ็คสันไม่อยากไป...พี่ยินดีขึ้นไปตรวจแจ็คสันถึงห้องเลยล่ะ”
“คะ คือ คือ...ผม ผม ไปก่อนนะ!”ละล่ำละลักเปิดประตูออกไป เกือบคะมำหน้าหงายลืมว่าใส่เฝือกอยู่ ดีที่ใช้ไม้ท้าวค้ำไว้ทัน กระเผลกๆเดินเข้าหาไปให้เร็วที่สุด พยายามไม่สนใจเสียงตะโกนจากคนบนรถ
“พี่จะรอนะครับ!”
ทั้งเขินทั้งเหนื่อย หลบมุมกำแพงฟังเสียงรถหรูที่เคลื่อนออกไป ส่องหน้ามามองก็เห็นว่าจินยองกลับไปแล้ว ถอนหายใจเฮือก เหตุการณ์เมื่อกี้มันไม่คาดฝันจนเขาตั้งตัวไม่ทัน ยกมือขึ้นมาดูเลข 10 ตัวบนมือ เพื่อย้ำกับตัวเองว่าเมื่อกี้เป็นเหตุการณ์จริงไม่ใช่ฝัน
แต่เหมือนจินยองจะเขียนอะไรบนเฝือกเขาด้วยไม่ใช่เหรอ? ก้มลงไปมอง กระพริบตาปริบๆมองประโยคนั้น พลันใบหน้าก็แดงก่ำ
คนนี้...หมอปาร์คจินยองจอง
คนอื่นห้ามยุ่ง!!!
...แล้วพรุ่งนี้เขาจะออกไปข้างนอกได้ยังไงกัน...
ฮือออออออออ -///////////////////-
…แจ็คสันคิดว่าตัวเองกำลังดวงตก...
...แต่ยังไงก็ดวงขึ้นด้านความรักล่ะนะ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น