[SERIES] University : HUSOED [JEASON]
TITLE: University The Series: HUSOED
COUPLE: YOUNGJEA x JACKSON [JEASON]
RATE: PG-15
WORD: 1,619
BY: Silverfeather29 /@silverfeather29/
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
University The Series:
HUSOED
...โอเค แจ็คสันยอมรับว่าตัวเองงี่เง่า...
“แสรดดดดดดดดดดดดดดดด จะสายแล้วววววว”
ขาสั้นๆวิ่งด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง......เอาจริงๆก็แค่วิ่งให้แรงสุดไขข้อจะนำพาไปยังลิฟต์ตัวเล็กของคณะมนุษย์ เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของคณะเขาอย่างเร่งรีบ แทบร้องไห้เมื่อเห็นบานพับปิดเข้าหากันสนิท เลขแสดงชั้นเปลี่ยนจาก 1 เป็น 2
แจ็คสันแทบจะกรีดร้องกลางโถงทางเดินใหญ่
...รอกูบ๊างงง อย่าให้เห็นว่าจอดแค่ชั้นสองหรือสี่นะเมิ๊งงงง!!!...โวยวายในใจ กัดเขี้ยวเคี้ยวฟันแอบสาปแช่งคนในลิฟท์เล็กๆ เหลือบตาไปมองบันไดข้างลิฟท์ด้วยแววตาระทดระท้อ แต่พอก้มมองนาฬิกาข้อมือก็รีบตาลีตาเหลือกตะกายขึ้นบันไดไปอย่างเร็ว
...อีก 3 นาที!!!...
เนื่องจากบันไดมันวนรอบลิฟท์ ดีกรีนักกรีฑาอย่างแจ็คสันหวังที่วิ่งได้เร็วเลยเห็นว่าลิฟท์มันเลื่อนขึ้นเรื่อยๆไม่จอดแค่ชั้นสองอย่างที่คิด ดูไปดูมาก็เหมือนใช้ขาคนวิ่งแข่งกับตู้เหลี่ยมจักรขนส่งอะไรอย่างนั้น
“ชิด!”สบถในลำคอแห้งผากเบาๆเมื่อมองเห็นตัวเลขชั้นแสดงชั้น 4 แล้วลิฟท์ดันเปิดออก นักศึกษาในชุดเรียบร้อยบ้างไม่เรียบร้อยบ้างเดินกรูกันออกมา ผ่านไอ้เตี้ยเหงื่อโทรมร่างที่หอบแฮกๆอยู่ตรงนี้ไปอย่างไม่ใยดี สูดลมหายใจเฮือกใหญ่กำลังจะวิ่งขึ้นไปอีก ประตูลิฟท์ที่กำลังจะปิดก็หยุดแล้วเปิดออกอีกครั้ง
“คุณครับ!”
เสียงร้องเรียกเขาดังมาจากในลิฟท์ แว๊บแรกที่เห็นคือรอยยิ้มกว้างสวยและดวงตาโค้งยยิ้มมีเสน่ห์ แต่ที่สะดุดตาที่สุดคงไม่พ้นผมทรงกะลาครอบกัดสีทองบลอนด์อ่อนจนเกือบขาวนั่น เขาไม่มีเวลาให้คิดอะไรมาก รีบแทรกตัวเข้าไปในลิฟท์ ก่อนจะโดนสายตาคนในลิฟท์คนอื่นประจานเอา
เข้ามายืนข้างคนที่กดรอเขาแล้วถอนหายใจโล่ง อย่างน้อยก็ทุ่นแรงได้อีกสองชั้นล่ะน่า
“รีบเหรอครับ? เหงื่อออกเยอะเชียว ผ้าเช็ดหน้าไหม?”
ผ้าเช็ดหน้าลายหมายรุกสีชมพูติดระบาย ทำเอาแจ็คสันหลุดทำหน้าปุเลี่ยนใส่ หัวเราะแหะๆส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรครับ คือ...โอ๊ะ ถึงชั้นแล้ว”รีบเบี่ยงเบนความสนใจ ทันทีที่ประตูเปิดจนสุดก็พรวดพราดก้าวออกมา ใจลอยไปถึงชั้นเรียนเรียบร้อยแล้ว
หมับ!
ข้อมือเขาถูกจับยึดไว้พร้อมผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมที่ถูกยัดเข้ามาในอุ้งมือ
“เอาไปเถอะครับ แล้วค่อยเอาคืนก็ได้”ชายหนุ่มบอกยิ้มๆแล้ววิ่งจากไปน่าจะรีบพอๆกับเขานั่นแหละ เต๊ะทำหน้าหล่ออยู่ได้
...เอ๊ะ...รีบ...
...กูก็รีบไม่ใช่เหรอว๊า!!!...
กว่าจะรู้ตัวก็เข้าสายไปแล้ว แบบเฉียดฉิวอีกเสี้ยววินาทีก็จะเข้าทันแบบน่าเจ็บใจเป็นที่สุด นั่งเรียนไปก็กำผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยไป อยากจะโทษให้ผู้ชายผมทองนั่นอยู่หรอกนะ แต่ถ้าเขาไม่มัวแต่เอื่อยเฉื่อยก็คงมาทันตั้งแต่แรก
ถึงเวลาหมดคาบไปแบบไม่รู้ตัว เพื่อนบางส่วนลุกออกไปแล้ว มีบางส่วนที่ยังนั่งเล่นในห้องต่อ เขาก็เอื่อยเช็คทวิตเล่นไปเรื่อย จนเพื่อนคนสุดท้ายมันลุกปิดไฟนั่นแหละ เขาถึงได้กระเด้งตัวลุกตามมันไป
ตกใจนิดหน่อยตอนเห็นผู้ชายผมบลอนด์คนนั้นยืนใส่หูฟังพิงกำแพงอยู่ เพราะปกติอาคารหลังนี้จะไม่ค่อยมีพลุกพล่านนัก มองๆไปก็หน้าตาดีใช่ย่อย ผิวขาวใส รูปร่างโปร่งบางแต่ไม่อ้อนแอ้น สะพายกระเป๋าหนังสีดำแปะสติ๊กเกอร์และเข็มกลัดอะไรไม่รู้เต็มไปหมด เขาหลับตาเหมือนกำลังดื่มด่ำลงไปในเสียงเพลงผมเลยไม่ได้คิดอะไร กดเรียกลิฟท์ สะดุ้งเฮือกเมื่อมีมือข้างหนึ่งวางบนไหล่ หันไปก็เจอตายิ้มมีเสน่ห์นั่นอยู่ใกล้จนรู้สึกแปลกๆ นี่ผมกำลังโดนโอบหลังโดยคนที่ไม่รู้จักอยู่ใช่ไหม?
“ว่าไง เข้าคลาสทันรึเปล่าครับ”
“เอ่อ...ไม่อ่ะ...”ตอบแล้วหยุดชั่งคิดอะไรบางอย่าง ขยับไหล่เบี่ยงตัวหนีพอให้รู้ว่าเขาไม่สบายใจที่จะให้เข้าใกล้ “คือ เรายังไม่รู้จักกันเลยนะ”
“ฉันชื่อชเวยองแจ เด็กแลกเปลี่ยนจากเกาหลี ปี 2 คณะมนุษย์ศาสตร์ภาษาอังกฤษ สูง 177 หนัก 59 กินเผ็ดได้ เกลียดแตงกวา ชอบแต่งตัวสบายๆ พักอยู่หอสวัสดิการ หอ 7 ห้อง 7215”ประวัติส่วนตัวที่น่ารู้และไม่น่ารู้พรั่งพรูออกจากปากคนหน้าเป็นตรงหน้า แจ็คสันมองชายหนุ่มอึ้งๆ ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร เหวออึ้งจนลิฟท์มานั่นแหละ
ก้าวพาร่างสั้นๆของตัวเองหนีเข้ามาข้างในลิฟท์ รู้สึกตัวเองโง่เมื่อชายหนุ่มเดินตามเข้ามาชิวๆ ทั้งลิฟท์เหลือมีเพียงเขากับยองแจ ยิ่งทำให้บรรยากาศในกล่องสี่เหลี่ยมอึดอัดสำหรับแจ็คสันขึ้นมาทันที เขายึดมุมด้านหนึ่งในขณะที่ยองแจยืนอิงกำแพงตรงกลาง
“นี่ แล้วคุณล่ะ”จู่ๆยองแจก็ถามขึ้นยิ้มๆ
“หะ...หา?”
“ชื่อคุณ”
“เอ่อ...แจ็คสันหวัง ศึกษาศาสตร์ ภาษาจีน ปี 3....”
“อ่าฮะ! เห็นไหมเรารู้จักกันแล้ว!”
แจ็คสันกลืนน้ำลายอึก เหมือนจะตามนิสัยของคนตรงหน้านี้ไม่ทัน ชักกลัวจนไม่อยากคุยด้วย เดชะบุญประตูลิฟท์เปิด รีบวิ่งลิ่วหนีไปหน้าตึก หันไปมองก็ไม่เห็นว่ายองแจจะตามมา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่ก็ลืมว่าต้องขึ้นรถโดยสารกลับ ยืนรอโดนแดดเลียจนใกล้ละลายไปกับพื้นฟุตบาท รถก็ยังไม่มา อารมณ์เสียจนแทบจะโยนกระเป๋าลงพื้นแล้วเยียบย่ำๆๆๆ เหงื่อไหลไคลย้อยเป็นน้ำป่า ค้นในกระเป๋าจนเจอผ้าก็รีบหยิบขึ้นมาเช็ดไม่สนว่ามันเป็นของใคร
“จะไปกับผมไหมครับ?”สำเนียงพูดไทยแปร่งๆที่ตามหลอกหลอนเขาตั้งแต่เช้าตะโกนมาแต่งไกล เอี้ยวมองกลับไปก็เห็นรถยนต์เก่าๆคันหนึ่ง ยองแจนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ ส่งรอยยิ้มมาให้เหมือนเคย
“เอ่อ...”อยากจะปฏิเสธอยู่หรอก แต่แดดมันเลียใกล้ละลายแล้ว โยนทิฐิทิ้งพยักหน้าตอบรับคำชวนนั้น
“แจ็คสันจะกลับหอเลยไหม?”ยองแจถามขณะคุมรถปุโรทั่งไปตามพื้นถนน
“นายจะไปไหนรึไง?”
“อยากพาแจ็คสันไปกินเค้ก เลี้ยงด้วยเอาไหม”
“เฮ้ย ใจดีอ่ะ ถ้าเลี้ยงจริงก็ไปนะ 55555”เล่นมุขตามประสาคนอารมณ์ดี แต่ไม่นึกว่ายองแจจะหันกลับมายิ้มพูดจริงจัง
“เลี้ยงสิ ผมเป็นคนชวนเดทนี่นา”
...กูนี่สตั๊นเลย...
“เอ่อ...นายเป็นเกย์เหรอ?”
...เดี๋ยวนะ ผมปากไวไปรึเปล่า?...
“ผมเป็นไบ แต่อยากเป็นเกย์จริงๆก็กับแจ็คสันนี่แหละ”
ตอบคล่องอย่างกับคำว่าสวัสดี -_-
...มึงก็ตรงไปนะครับ มึงพูดงี้ กูควรเขินไหมตอบบบบ...
.
.
เออ เขินก็ได้วะ!
เพราะยองแจบอกว่าจะเลี้ยง ทันทีที่ถึงร้านแจ็คสันก็สั่งเอาๆไม่กลัวเลขในบิล เค้กหลากหลายหน้าวางเรียงอยู่บนโต๊ะกลม ยองแจมองพวกมันปุเลี่ยนๆ มือเผลอเลื่อนจับกระเป๋าสตังค์ไว้มั่น แต่คนสั่งหาได้สนใจไม่ รีบคว้าซ่ออจ้วงเข้าปากอย่างมีความสุข
...ใครจะรู้ว่าแจ็คสันน่ะเป็นเค้กมาร์เนียขั้นรักษาได้ยาก...
ยองแจที่ห่วงเงินในกระเป๋าเมื่อกี้พอเห็นใบหน้าอิ่มเอิบมีความสุขแบบนั้นก็ชักรู้สึกว่าคุ้มทุนแล้ว ก็หน้าแจ็คสันตอนได้กินเค้กน่ะ น่ารักจนอยากจะถ่ายภาพเอาไว้เลยนี่นา...
แชะ!
...โอ๊ะ เหมือนจะมือไวกว่าสมองแฮะ...
ตาโตๆกระพริบปริบๆมองโทรศัพท์ในมือยองแจงงๆ ปากแดงยังคาบซ่อมเอาไว้อย่างนั้น แก้มกลมนูนขึ้นเพราะชิ้นเค้กในปาก น่ารักจนอดไม่ได้ที่จะถ่ายเก็บเอาไว้อีกรูป คราวนี้แจ็คสันที่รู้ตัวแล้วโวยวายใหญ่
“เฮ้ย! นายถ่ายอะไรน่ะ! ลบออกเลยนะ มันต้องดูน่าเกลียดมากแน่ๆเลย!”
“น่ารักต่างหาก”
แก้มกลมขึ้นสีระเรื่อแอบเขินเหมือนกัน... แต่ยังไงก็เชื่อไม่ได้!
“ไม่เชื่อ เอามาเด็ยวนี้นะ!”วางซ่อมพยายามยามจะแย่งโทรศัพท์มาจากคนหนุ่มมนุษย์ที่กดอะไรจึกบนหน้าจอสองสามครั้งแล้วหันหน้าจอมาโชว์เขา
“เห็นไหม? หน้าจอผมน่ารักไหมล่ะ”
“///”กัดปากเขินจนทำตัวไม่ถูก ก็หมอนี่เล่นเอาภาพเขาขึ้นเป็นวอลเปเปอร์เลยนี่หว่า...
“ไม่เห็นน่ารักเลย”พูดไปก็ตักเค้กเข้าปากก้มหน้างุดหน้าแดงบ่นงึมงำ
เจ้าตัวจะรู้ไหมว่าท่าทางตอนนี้มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูดโดยสิ้นเชิง ยองแจนี่อยากกวาดเค้กทิ้ง แล้วยกเอาคนตัวป้อมขึ้นมากินบนโต๊ะแทนเลยครับ -.,-
แหม่...อยากกลับห้องไปโทรหาแม่ตอนนี้จัง
‘เดี๋ยวปีนี้จะเอาสะใภ้หมวยฮ่องกงไปฝากนะครัช ขุ่นแม่~~~~~~~’
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น