[OUR] 25


OUR BABY!
บทที่ 25








          ชายหนุ่มผิวขาวราวกับหิมะและรูปลักษณ์ดึงดูดสายตาในชุดกราวด์ขาวรีบลงจากรถทันทีที่ล้อหน้าบดพื้นหยุดตัวรถ โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงทำงานดังเตือนให้นิชคุณรีบรับทั้งยังไม่หยุดจ้ำเท้าไปในสถานที่ทำงานของตน

“คุณหมอคะ มีเคสผ่าตัดพิเศษที่ห้องผ่า 2 ค่ะ”

“ครับ ผมมาถึงแล้ว บอกให้พยาบาลเตรียมเครื่องมือเลยนะครับ แล้วก็ ช่วยดูด้วยว่ามีญาติของผู้บาดเจ็บมาด้วยรึเปล่า”

“ไม่มีญาติค่ะ กำลังให้ฝ่ายทะเบียนตรวจสอบประวัติคนไข้ให้อยู่นะคะ”

“ขอบคุณมากครับ”ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปพอดีกับที่มาถึงห้องเตรียมผ่าตัด เอกสารที่ได้รับคร่าวๆทำให้นิชคุณค่อนข้างเครียด ผู้ป่วยเป็นหญิงวัยกลางคนไม่พบประวัติว่าเป็นชื่ออะไรหรือเป็นคนที่ไหนประสบอุบัติเหตุรถชน อาการสาหัสเข้าขั้นโคม่า ที่น่าวิตกสุดคือเธอกำลังตั้งครรภ์แก่ 8 เดือน ถือว่าใกล้คลอดเต็มทน

นิชคุณเตรียมการเสร็จก็รีบเข้าไปตรวจอาการด้วยตนเอง พยาบาลในห้องกำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมผ่าตัดครั้งใหญ่ ไฟดวงใหญ่สาดให้เห็นบาดแผลฉกรรจ์หลายที่ แต่ที่เขาห่วงที่สุดคือเจ้าท้องนูนใหญ่นั่นต่างหาก

เธอยังไม่สลบแต่ก็เหมือนกำลังฝืนอย่างเต็มความสามารถ ทันทีที่เธอมองเขาเธอก็รีบขยับริมฝีปากซีดเผือกของตนเอง นิชคุณรีบเข้าไปใกล้เพื่อฟังว่าเธอจะพูดอะไร

“คุณหมอ...ชะ ช่วยลูกฉันด้วย...”

“ครับ ผมจะทำให้เต็มความสามารถ แต่ตอนนี้คุณต้องอยู่เฉยๆนะครับ”กุมมือเธอแน่นอย่างต้องการให้กำลังใจและปลอบประโลม มืออีกด้านก็ฟังเสียงตรวจเจ้าตัวน้อยในครรภ์มารดา

“ไม่ค่ะ ฉะ ฉันคงไม่ไหวแล้ว ฝะ ฝากบอกเขาที ว่าฉันรักเขา รักมาก”

“อย่าเพิ่งยอมแพ้สิครับ ผมจะช่วยทั้งคุณทั้งลูกให้ได้”คิ้วเข้มขมวดหวั่นวิตก เด็กในท้องไม่ขยับเลย ส่งสายตาเร่งให้พวกพยาบาลเตรียมเครื่องมือทำคลอดมาให้ไว เขาคิดว่าควรเอาเด็กในท้องออกมาก่อน...

“ช่วยลูกฉัน ช่วยลูก ช่วยเขา”เธอเริ่มเพ้อละเมอซ้ำไปมา คุณหมอหนุ่มรีบลุกขึ้น ฉีดยาชาเตรียมตัวผ่าคลอดเด็กออกมา เขาอยากจะช่วยทั้งแม่ทั้งลูกเอาไว้ แต่หากไม่ได้จริงๆเขาจะทำตามสิ่งที่เธอต้องการ...เอาเด็กไว้...มันน่าหดหู่ แต่เมื่อถึงจุดที่เลือกอะไรได้เพียงอย่างเดียว เขาก็ต้องเลือกทางเลือกที่มีโอกาสมากที่สุดอย่างช่วยไม่ได้

...

แทคยอนผิวปากเดินลงจากรถ วันนี้เขาเลิกทำงานเร็วเพราะมาร์ครีบเร่งทำงานจนทุกอย่างเสร็จในเวลาอันสั้นทั้งที่วันนี้เจ้าตัวอุตส่าห์สละเวลามาทำงานครึ่งวันเพื่อที่จะได้รีบกลับไปดูแลลูกเมียที่บ้าน มาร์คเป็นคนเก่ง แต่ต้องมีตัวกระตุ้นให้ทำงาน ซึ่งแทคยอนคิดว่าแจ็คสันนี่แหละคือเชื้อเพลิงชั้นดี... ตั้งแต่ที่รุ่นน้องของเขาคบกับเด็กคนนั้นจนถึงวันนี้ที่ทั้งสองมีโซ่ทองคล้องใจด้วยกันแล้ว เขาก็เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะทำงานของมาร์ค...

ไม่ใช่ว่าทำเยอะขึ้นหรอกนะ...หมายถึงมันรีบทำให้เสร็จเพื่อที่จะมีเวลาไปจู๋จี๋จ๊ะจ๋ากับเจ้าลูกหมาน้อยนั่นต่างหาก -*-

คิดแล้วได้แต่ถอนหายใจ เดินดุ่มๆเข้าไปในแผนกสูตินารีเวชที่สุดที่รักของเขาทำงานอยู่ อีกไม่กี่เดือนเขากับคุณก็จะเข้าพิธีวิวา แน่นอนว่าเป็นแทคยอนที่ดีใจจนเนื้อเต้น ถึงจะตามหลังน้องๆไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้แต่ง จริงไหมครับ? ส่วนความฝันอีกอย่างว่าอยากจะมีลูกกับคุณนี่คงต้องคอยตะล่อมไปเรื่อยๆ แฟนเขาใจแข็ง...แข็งยิ่งกว่าเพชรอีก จะอ้อนจะเอาอะไรสักอย่างนี่ต้องกล่อมกันเป็นปี

...แต่ก็นะ รักไปแล้วจะให้ทำไงได้...

“อ้าว เคสด่วนหรอกเหรอ?”พึมพำกับตัวเองทันทีที่ไม่เห็นร่างขาวโปร่งอยู่ในห้องตรวจตามปกติ กำลังจะหันหลังเดินออกไปก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นนิชคุณยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง

เพียงแวบเดียว... มือแกร่งก็รีบดึงร่างขาวเข้ามาในห้องตรวจ ปิดประตูและโอบกอดอีกคนไว้แน่น นิชคุณไม่ต่อต้านเหมือนทุกที กลับพิงกายเข้ามากอดตอบเขาเบาๆ ศีรษะเล็กก้มหน้าแนบไหล่กว้างของคนรัก ตัวสั่นเบาๆ ความชื้นบนไหล่ทำให้แทคยอนกระชับอ้อมแขนให้แน่นมากขึ้น ไม่พูด ไม่ถาม เพราะรู้ว่าตอนนี้นิชคุณกำลังต้องการกำลังใจและที่พักพิงชั่วคราว ก่อนจะกลับมาเป็นคุณคนเข้มแข็งคนเดิม...

เกือบชั่วโมงที่ทั้งสองยืนกอดกันนิ่งโดยไม่มีคำพูดใดๆ ร่างขาวหยุดร้องนานแล้วแต่ก็ยังยืนอยู่อย่างนั้นทำใจ

นิชคุณช่วยเธอคนนั้นเอาไว้ไม่ได้ บาดแผลของเธอสาหัสเกินไปและกำลังใจจะต่อสู้เพื่อตัวเองของเธอก็แทบจะไม่มี เรียกว่าที่อดทนมาถึงโรงพยาบาลได้ ก็เพราะเรื่องลูกล้วนๆ โชคดีที่เขาผ่าเอาเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย และตอนนี้ก็เอาห้องอบไปแล้ว

“โอเครึยัง? แทคเมื่อยขาจัง”น้ำเสียงระรื่นสดใสถามเขาเบาๆ มือขาวตบสะโพกหนานั่นอย่างนึกหมั่นไส้ ผละตัวออกถอนหายใจและส่ายหน้า

“เมื่อยก็ไปนั่งสิ...เดี๋ยวจะกลับแล้วล่ะ วันนี้ไม่ใช่เวร”

“กลับรถแทคไหม? เดี๋ยวพรุ่งนี้มาส่ง”

“เอาอย่างนั้นก็ได้”พยักหน้า เดินตามแทคยอนออกไปข้างนอก เขาไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาด้วย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรให้เก็บ แต่ขณะกำลังเดินผ่านห้องอบไปนิชคุณก็หยุด ยืนมองทารกคนหนึ่งด้วยสายตาอบอุ่น แปลกที่เขารู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ รวมถึงคำที่หญิงสาวได้พูดไว้ก่อนตายนั่นด้วย...

“สงสารเด็กคนนั้นจังนะเธอ”

“เอ๊ะ...เด็กที่แม่โดนรถชนน่ะเหรอ?”

เสียงพูดคุยของนางพยาบาลแถมเคาน์เตอร์ห้องตรวจเด็กทำให้ทั้งสองหยุดชะงัก

“ใช่ ได้ยินว่าไม่มีญาติเหลือเลย สืบประวัติดูก็เห็นว่าเป็นท้องไม่มีพ่อ เรียกได้ว่าตอนนี้เด็กคนนี้เกิดมาแบบไม่เหลือใครเลยล่ะ”

“แล้วอย่างนี้ก็ต้องไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กเหรอ? แย่จัง ออกจะเป็นเด็กที่น่ารักร่าชังขนาดนั้น”

แทคยอนก็ได้ยินที่พวกเธอพูด เหลือบมองคนรักข้างตัวที่นิ่งไป เลยคิดว่าน่าจะเป็นเคสเดียวกับที่คุณร้องไห้วันนี้ มองเด็กทารกตัวเล็กกระจิ๋วในห้องแล้วอดสะท้อนใจไม่ได้ เด็กตัวแค่นี้แต่กลับไม่เหลือใครเลย...

“แทค...”

“ครับ”

“คุณ...อยากรับเลี้ยงเด็กคนนั้น แทคจะว่าอะไรคุณไหม...”

“แน่ใจเหรอคุณ?”หันไปถามคนตัวขาวสูงที่พยักหน้า ดวงตากลมนั้นดูมุ่งมั่นเหลือเกิน

“คุณถูกชะตากับเด็กคนนั้น...เด็กคนนั้นคือคนที่คุณผ่าออกมาเอง...แม่ของเด็กคนนั้นฝากเขาไว้กับคุณก่อนตาย คุณปล่อยเด็กคนนี้ไปไม่ได้ คุณรู้สึกว่าต้องดูแลเขา...”

แทคยอนยิ้ม เอื้อมมือไปจับมือขาวขึ้นมากุมไว้แน่น สบกับดวงตากลมที่หันมองกลับมา

...ความอ่อนโยนและความใจดีของนิชคุณคือสิ่งที่ทำให้เขาตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“เอาสิ...แทคก็อยากมีลูกอยู่พอดีเลย”

ริมฝีปากสวยยิ้มกว้าง รอยยิ้มสว่างไสวเล่นเอาคนมองใจเต้นตึกตัก ยิ่งคนตัวขาวหอมพุ่งเข้ามากอดยิ่งทำให้แทคยอนรู้สึกเหมือนจะลอย

“ขอบคุณนะ แทค”








“กากา! ลูกหิวนมแล้วนะ”

“ครับม๊า~”แจ็คสันร้องออกมาจากในครัว เหงื่อผุดพรายตามใบหน้านวล มือป้อมกดปิดเตาแก๊ซก่อนลูบใบหน้าและเส้นผมชื้นเหงื่อของตนให้อยู่เป็นที่เป็นทาง เดินฉับๆเข้าไปในห้องโซนห้องนั่งเล่น ม๊าหวังกำลังอุ้มเมสันที่กำลังร้องอุแว๊ๆโวยวายเสียงดัง

แจ็คสันเป็นคุณแม่มือใหม่ที่เลี้ยงลูกเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง ดังนั้นจึงขอให้ม๊าหวังมาเลี้ยงช่วย แต่เพราะม๊าก็มีธุระที่บ้านทุกวัน เลยต้องมาแบบเช้าไปเย็นกลับ ป๊าก็ได้โอกาสมาเยี่ยมหลานบ่อยๆเลยไม่ขัดอะไร มาร์คก็ต้องกลับไปทำงาน ก็ดีเหมือนกันที่แจ็คสันจะได้มีคนดูแล

“ไม่ร้องๆคนเก่ง ม๊ามาแล้วครับ”

อุ้มเด็กเล็กจากอกคุณยาย ลูบศีรษะเล็กจูบหน้าผากอย่างต้องการปลอบประโลม เมสันเงียบเสียงลงทันทีที่อยู่ในอ้อมกอดมารดา มือเล็กกำๆหุบๆจ้องหน้าคุณแม่ตาแป๊ว แจ็คสันก็จ้องเจ้าตัวเล็กตาแป๊วคืน กลายเป็นม๊าหวังที่ต้องตีบ่าคนเป็นแม่มือใหม่เบาๆเป็นเชิงเตือน

“หยอกลูกอยู่นั่นแหละ เอานมให้ลูกกินสิ”

“อ๋า...ลืมไปเลย”ลุกลี้ลุกลนจับปลายเสื้อเชิ้ตตัวเอง จนโดนตีอีกรอบ คราวนี้ทำหน้าหงอยใส่ม๊าที่ส่ายหน้าพลางถอนหายใจ

“ปลดกระดุมเอาก็ได้ อีกอย่าง บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ใส่ชุดชั้นใน”

“มันเหมือนกระเทยนี่ม๊า ไม่เอาหรอก”ส่ายหน้าไม่เอาลูกเดียว อุ้มเมสันขึ้นระดับพอดีเขี่ยมุมปากเจ้าตัวเล็กให้หันมาดูดนมจากแม่

“แล้วก็ต้องเปลี่ยนเสื้อบ่อยๆเพราะน้ำนมหกนี่น่ะเหรอ?”

แก้มกลมแดงแปร๊ด ไม่อยากพูดอะไรต่อ เขาไม่ชอบนี่จะทำนั่นนี่อย่างผู้หญิง แต่ทุกวันนี้ก็เหมือนเข้าไปทุกที ทั้งผ้าอนามัย ทั้งเรื่องยกทรง...ไม่ใช่หน้าอกมันใหญ่จนต้องหาใส่หรอกนะ แต่เพราะน้ำนมมันชอบหกเปื้อนเสื้อ เลยต้องหาอะไรมาซับอยู่ตลอด

“แต่น้ำนมกากามาเยอะจัง เยอะกว่าตอนม๊าคลอดกากาอีก”

...ก็ลูกเขยคนโปรดของม๊านั่นแหละ!...แจ็คสันคิดในใจ หน้านี่แดงเถือกพอคิดไปว่าทำไมน้ำนมมันถึงได้ไหลแรงขนาดนี้ได้ จะไม่ให้ดีขนาดนี้ได้ยังไง ในเมื่อพ่อคุณท่านขยันบีบๆจับๆดูดๆสองเต้านี่จริงจัง เอะอะจับ เอะอะนวด ก่อนมีลูกหื่นยังไง หลังมีลูกก็ไม่ลดแถมยังเพิ่มดีกรีขึ้นอีกต่างหาก เกือบโดนจับกดตั้งหลายครั้ง ดีที่แจ็คสันยกเอาเรื่องลูกกับเรื่องเพิ่งคลอดมาขัดตาทัพ ไม่อย่างนั้นคงโดนจัดไม่เว้นวัน

...คิดแล้วก็เพลีย ชอบทำวิจัยนัก ก็เอาเลือกตัวเองไปสกัดทำยาระงับหื่นหน่อยเถอะ แจ็คสันจะเหมาให้กินยกโหลเลย...

มองปากเล็กแดงดูดนมแจ๊บๆแล้วขยับยิ้มเอ็นดู เจ้าตัวเล็กโตขึ้นทุกวัน เขาคิดว่าจะให้นมให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่มีน้ำนมไหนดีเท่านมแม่ นอกจากจะสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กแล้วยังสร้างเสริมความสัมพันธ์แม่ลูกด้วย

“แล้วมาร์คจะกลับกี่โมงล่ะกากา วันนี้ม๊าต้องกลับก่อนนะ ตอนเย็นมีเลี้ยงรุ่น ม๊าต้องรีบกลับไปทำสวยน่ะสิ”

“ไม่รู้อ่ะม๊า กลับตอนไหนก็ตอนนั้นแหละ แต่แหม...ม๊าไม่ต้องแต่งก็สวยอยู่แล้วล่ะครับ”

“ปากหวานจริงนะลูกคนนี้ แล้วหนูสวยเหมือนแม่รึเปล่าล่ะหืม?”ม๊าหวังเอ่ยแซวลูกชายตัวดีที่เม้มปากสะบัดศีรษะไปมา

“ผมต้องหล่อสิ!

“มีสามี มีลูกแล้วนะกากา”

“ไม่เห็นเกี่ยวเลย”บู้ปากเกี่ยงงอน เขาหล่อนะ หล่อมากด้วย หล่อกว่าพ่อเมสันอีก ฮึ!

รอให้เมสันกินนมจนอิ่มก็ถึงเวลาทำความสะอาดบ้าน ป๊ามารับม๊าหวังกลับไปแล้ว ตอนนี้เลยเหลือแค่เขากับลูกแค่สองคน แจ็คสันในชุดเสื้อยืดแขนสั้นตัวโคร่ง (เปลี่ยนมาใหม่) กับกางเกงขาสามส่วนทับด้วยผ้ากันเปื้อนเต็มตัวสีดำเดินดึงเครื่องดูดฝุ่นไล่ไปตามพื้นพรม บางทีก็รำคาญเส้นผมยาวที่มักจะตกมาปรกหน้าปรกตาติดเหงื่อดูดกับใบหน้า ต้องยกมือมาลูบอยู่บ่อยๆ คิดอยากไปตัดอยู่เหมือนกันแต่คุณสามีดันชอบให้ไว้ผมยาวๆ งอแงไม่ให้เขาตัดผมเหมือนเมสันสองไม่ผิด...

เมสันนอนหมอบอยู่บนฟูกนอนสำหรับเด็กกลางห้องนั่งเล่น ตากลมแป๊วนั่นจะจ้องเขานิ่งพลางร้องเอ๊ะๆ ทารกสามเดือนยังทำอะไรได้ไม่มากนักหรอก...

“มะ...มา”

แจ็คสันชะงักเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง รีบกดปิดเครื่องดูดฝุ่นเงี่ยหูฟังเสียงในความเงียบแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นมาอีก เกาหัวแกรกๆ คิดว่าคงหูฝาดไปเอง กดสวิตช์เครื่องทำความสะอาดบ้านต่อ หลังจากนั้นก็ต้องรีบไปเอาผ้าในเครื่องไปตาก วันๆหนึ่งของแจ็คสันก็มีแค่นี้ แต่ก็วุ่นวายใช่ย่อย เพราะทิ้งเจ้าตัวเล็กไว้คนเดียวนานๆไม่ได้ ต้องแวบกลับมาดูตลอดๆ

ทำงานบ้านเพลินรู้ตัวอีกทีก็สี่โมงเย็นแล้ว แจ็คสันที่กำลังอุ้มเมสันเดินเล่นไปรอบๆบ้านกลับมาวางเจ้าตัวเล็กลงบนฟูก หอมแก้มจั๊กจี้หอมคอหยอกเอินเจ้าตัวเล็กเล่นสักพักก่อนตั้งใจจะไปทำอาหารเย็น

แจ็คสันนั่งเล่นกับลูก ไม่ได้รู้สึกตัวว่ามีใครบางคนเข้ามาในบ้าน ทันทีที่ร่างขาวลุกขึ้นก็โดนแขนยาวโอบกอดจากด้านหลัง แจ็คสันสะดุ้งตกใจแทบหันไปชกเข้าให้

“คิดถึงตัวเล็กจังเลย”

“พี่มาร์ค! มาเงียบๆ ตกใจหมด”

มาร์คหัวเราะกระชับเอวอวบให้เข้ามาใกล้ขึ้น จรดปลายจมูกบนกลุ่มผมนิ่มเลื่อนมาที่แก้มนุ่มหอมกรุ่น กำลังจะลามไปที่ปากแดงสวยสดก็โดยหยิกหลังมือเข้าให้ก่อน

“หยุดเลย ต่อหน้าลูกเลยนะ”

“ไม่เป็นไรน่า”

มาร์คไม่สนใจ พลิกกายภรรยาตัวเล็กกลับมากอดแน่นไม่ยอมให้หนีไปไหน ก้มหน้าลงยิ้มกระหยิ่มเมื่อเห็นว่าแจ็คสันไม่ได้ตั้งใจดิ้น ทั้งแก้มกลมยังแดงก่ำน่าเอ็นดู เขาจูบปลายจมูกรั้นเบาๆ ค่อยๆเลื่อนริมฝีปากลงมาทิ้งน้ำหนักแผ่วเบาราวกับผีเสื้อบนปากแดงสวยอิ่มเอิบโดดเด่นจากผิวขาวราวกับหิมะของร่างตรงหน้า

แจ็คสันเอียงตัวจั๊กจี้เพราะมือเรียวที่ลูบตั้งแต่หลังใบหูลงไปข้างลำคอ เบิกตากว้างตกใจเมื่อโดนมาร์คดึงเข้าไปใกล้กะทันหัน เผยอปากรับเรียวลิ้นแข็งแรงที่แทรกเข้ามากอบโกยน้ำหวานภายในโพรงปากนุ่ม ริมฝีปากนุ่มนิ่มโดนชายหนุ่มบดคลึงจนสีชมพูเรื่อกลายเป็นสีแดงช่ำวาววับไม่ต่างจากลูกเชอรี่ในน้ำเชื่อม

แจ็คสันส่งเสียงครางในลำคอเบาๆ เอื้อมมือไปจับข้อมือแข็งที่กำลังยุ่งย่ามบั้นท้ายตัวเอง นิ้วเรียวบีบเนินเนื้อใต้กางเกงผ้าบีบคั้นหยอกล้อพร้อมกับเก็บเกี่ยวน้ำหวานจากโพรงปากอิ่มที่แสนชื่นชอบ ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกบีบลำแขนคนเป็นสามีไว้แน่น ส่ายหน้ารัวเบี่ยงตัวพยายามหลบหนีมือปลาหมึกที่พยายามจะจับเนินอกเขา

...เพิ่งเปลี่ยนเสื้อนะ!...

มาร์ครู้ว่าคนตัวเล็กต้องปฏิเสธ เลยเกี่ยวเอวอวบเข้ามาใกล้ ทิ้งตัวเองลงบนโซฟาบังคับให้แจ็คสันนั่งเทินอยู่บนหน้าขา อาศัยจังหวะอีกคนตกใจตะปมบนเนินอกนุ่มนั่นอย่างย่ามใจ บีบคลึงหน้าอกนุ่มพร้อมกัน แจ็คสันส่งเสียงครางออกมาอย่างกลั้นไม่ได้ จิกนิ้วเรียวบนไหล่คนชั่งแกล้ง ตีลงไปเน้นๆ หน้าแดงจนไม่รู้จะแดงยังไงได้อีก

“อื้อ!

หลุดร้องเสียงหลง ถลึงตาใส่เจ้าของนิ้วเรียวที่บดขยี้จุดอ่อนไหวแบบไม่ออมแรงเมื่อครู่ จนน้ำนมทะลักเปื้อนเสื้อขาวชุ่มน้ำเห็นยอดอกใต้ผืนผ้าวับแวม

มาร์ครีบป้อนจูบร้อนออดอ้อนทันทีที่เห็นว่าระเบิดใกล้จะลง ลิ้นเรียวชักนำให้แจ็คสันอ่อนยวบลงอีกครั้ง คราวนี้คนตัวเล็กเคลิ้มตามจนกระทั่งจูบตอบอย่างไม่ยอมแพ้ วาดวงแขนโอบรอบลำคอหนา เบี่ยงใบหน้าเพื่อรับรสจูบให้แนบแน่นขึ้นด้วยความคิดถึง

“มะ...”
แจ็คสันชะงักนิ่ง ทำเอามาร์คนนิ่งตามไปด้วย ทั้งสองผละจูบออกจากกัน หันไปหาเมสันที่กำลังนอนเงยหน้ามองพวกเขาตาแป๊ว ปากเล็กๆนั่นขยับ

“มะ...ม๊า...”

“ม เมสัน”

แจ็คสันผลักสามีออกอย่างไม่ใยดี กระโดดลงนั่งต่อหน้าเจ้าตัวเล็กที่ยังพยายามพูดอะไรบางอย่างออกมา มาร์คพอตั้งสติได้ก็ลงมานั่งข้างๆ มองเจ้าตัวเล็กของพวกเขานิ่ง ลุ้นจนลืมหายใจ

“มะม๊า...”

พรากกกกกกกกก

“เมสันลูกม๊า~~~~~~~~~ เก่งจังเลยลูก ฮือออออ”กอดเจ้าตัวเล็กตัวลอย เมสันร้องเอิ๊ก ยิ้มชอบใจที่โดนจับยกสูงๆ

“เมสัน เรียกป๊าด้วยสิ ป๊า~~~~”มาร์คไม่ยอมแพ้ รีบสอนเจ้าตัวเล็กด้วยใจที่มีความหวัง ก็ม๊ากับป๊ามันก็โทนเดียวกัน เรียกม๊าได้ก็ต้องเรียกป๊าได้สิ!

“ม๊า...”

“ไม่ใช่ๆ ป๊า ปะ...ป๊า ปะป๊า อย่างงี้นะ”

“มะ ม๊า มะม๊า”

แจ็คสันหัวเราะลั่นสะใจ แลบลิ้นใส่คุณพ่อที่ทำหน้าหงอย

“แบร่ ลูกไม่เรียกแหละ เมสันรักใครมากกว่าครับ ม๊าหรือป๊า” ระริกระรี้ถามลูกชายตัวเล็กทียังพูดได้แค่คำเดียวคือ...

“มะ ม๊า”

“เห็นไหมๆ เมสันรักผมมากกว่าแหละ”

“ฮืออออ เมสันอ่า ป๊ารักเมสันม๊ากมาก เมสันไม่รักป๊าจริงเหรอลูก”มาร์คแทบน้ำตาไหลพราก กอดเข่านอนเกยโซหาเป็นซากด้วยความน้อยใจ (โถ่ พี่...) แจ็คสันที่เกิดสงสารขึ้นมานิดหน่อย อุ้มเจ้าตัวน้อยไปมือแปะบนหัวคุณพ่อเพื่อคืนชีพ เลียนเสียงเล็กๆ

“เมสันรักป๊าเหมือนที่ม๊ารักป๊าเลยฮับ”

มาร์คที่กำลังน้อยใจชะงักกับคำพูดเมื่อครู่ สมองไอคิวมากกว่าสองร้อยแล่นฉิว หันกลับมาโฉบคุณภรรยาตัวเล็กที่กำลังหน้าแดงก่ำอย่างน่าเอ็นดูเข้ามาใกล้ ดึงมานั่งแทรกกลางหว่างขาในขณะที่แจ็คสันกำลังอุ้มลูกพาดบ่า กอดเอวแน่นกันไม่ให้หนีไปไหน ลูบหลังคอเนียน เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบข้างใบหูแดง

“จะบอกรักพี่...ไม่ต้องบอกผ่านเมสันก็ได้”

“ไม่ได้พูดสักหน่อย...เนอะ เมสันเนอะ”งุบงิบหาตัวช่วยที่ไม่พ้นเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดตัวเอง

“ไม่พูดก็ไม่เป็นไร...แต่พี่รักแจ็คสันนะครับ รักมากและรักเมสันไม่แพ้กันเลย”เอ่ยกระซิบถ้อยคำหวานหู แล้วหันไปยีจมูกเจ้าตัวเล็ก ขยับยิ้มอบอุ่นให้กับความน่าเอ็นดูของทั้งแม่และลูก

ทั้งสามโอบกอดกันจนเกือบลืมอาหารเย็น แจ็คสันฝากเมสันไว้กับมาร์ค รีบลุกไปหาอะไรง่ายๆทำเป็นอาหารเย็น พอทานอิ่มก็ถึงเวลานอน แจ็คสันอุ้มเมสันวางไว้ตรงกลางที่นอน ตั้งใจว่าวันนี้จะนอนกันสามคน มาร์คที่อาบน้ำเพิ่งเสร็จตามมานอนประกบอีกข้างของเจ้าตัวเล็ก หอมแก้มยุ้ยของเจ้าลูกชายก่อนผละขึ้นมาจูบหนักๆแต่อ่อนโยนให้คุณแม่ หันไปปิดไฟโอบกอดกันและกันใต้แสงอ่อนๆของดวงจันทร์อย่างมีความสุข...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

GOT7 INDEX

RED ZONE #ฟิคหน้ามืด

[SF] TUAN Twins (MARKSONYIEN) *3P*