[OUR] 10
OUR BABY!
บทที่ 10
“แจ็คสัน...แต่งงานกับพี่นะครับ”
มาร์คพูดช้าและชัดเจน
ไม่มีทางที่เขาจะได้ยินผิด ดวงตาสวยที่กำลังสบตาเขาอยู่ตอนนี้ก็ไม่มีร่องรอยความล้อเล่นหรือเจือความเจ้าเล่ห์แบบทุกครั้ง
นิ้วเรียวสวยยังค้างอยู่บนหลังมือลูบปลอบประโลมอย่างที่รู้ว่าตนนี้เขากำลังตกใจขนาดไหน
...แจ็คสันรู้สึกว่าตนเองกำลังสั่นกลัว...
“ทำไมถึงอยากแต่งกับผม”
“เพราะพี่รักนาย”
“มันผิด...มัน...”น้ำตาไหลลงมาตามแก้มนุ่มช้าๆ
ในช่วงเวลานี้ทุกเรื่องกลับถาโถมเข้ามาในสมองจนทำให้เขาสับสนไปหมด กล่องเสียงเหมือนถูกแช่แข็งไว้ชั่วคราว
ไม่ใช่ว่าไม่รักมาร์ค แต่แจ็คสันกำลัง...
“ผมกลัว”ในที่สุดก็พูดมันออกมา
ตากลมหลุบปิดปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา “ทุกคนจะยอมรับได้เหรอ พ่อแม่ผมล่ะ ครอบครัวพี่
เพื่อนผม เพื่อนพี่ ทุกคนจะยอมรับได้จริงน่ะเหรอ? ผมจะโดนเรียกว่าตัวประหลาดรึเปล่า
ถ้าเกิดมีลูกจริงๆแล้วลูกจะรู้สึกยังไงที่พ่อแม่เป็นผู้ชายทั้งคู่ แล้วผม...
ฮึก...ผมจะโดนพี่ทิ้งไหม”
มือหยาบกร้านเพราะการทดลองแนบลงข้างแก้มชุ่มน้ำตา
เรียกให้ตากลมปรือลืมขึ้นมามอง
แจ็คสันยังคงสะอื้นร้องไห้แม้มาร์คจะจุมพิตปลอบไปทั่วใบหน้า ริมฝีปากเรียวจูบซับน้ำตาบนหางตาตกปลอบประโลมร่างเล็กที่กำลังสับสนบนตัก
“อย่าไปคิดอะไรที่ยังมาไม่ถึง”
“แต่...”มาร์คกดจูบปิดปากปากแดงช้ำที่กำลังจะอ้าเอ่ยท้วงเบาๆเป็นการปิดปาก
“แค่เรามีกัน...ตอนนี้...แค่นั้นเอง”
นิ้วเรียวแทรกง่ามนิ้วอวบกระชับมือทั้งสองข้างแน่นเพื่อยืนยันว่าเขาจะไม่ไปไหนและจะอยู่เคียงข้างแจ็คสันเสมอ
“เป็นแม่ของลูกให้พี่นะครับ
เราจะสร้างครอบครัวด้วยกันนะ”
“นี่จะให้ผมท้องจริงๆให้ได้ใช่ไหมเนี่ย”ทำตาค้อนแก้เขิน
ทั้งที่สองแก้มแดงปลั่งและหัวใจที่กำลังเต้นระรัว
“มีหรือไม่มีพี่ก็จะอยู่เคียงข้างนาย
พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทิ้งนายไปไหน เชื่อใจพี่นะครับ...แจ็คสัน”
“เชื่อยากจังแฮะ”ปากแดงเม้มแน่นเสสายตาหลบทำท่าทีเล่นตัวให้มาร์คได้ลุ้นเล่นๆ
แต่ในที่สุดก็กลั้นรอยยิ้มกว้างเอาไว้ไม่ไหว หัวเราะขำกับตัวเอง ทั้งที่มาร์คก็นำแต่เรื่องน่าปวดหัวมาให้แท้ๆ
แต่เขากลับแพ้คนๆนี้ได้อย่างน่าเจ็บใจ ยกตัวขึ้นกอดร่างสูงแน่น
เอนศีรษะลงบนไหล่ผอมแข็ง
“ยอมเพราะเห็นแก่ค่าแหวนหรอกนะ...”
สุดท้ายคืนนั้นพวกเขาก็ได้ไปพักค้างคืนในม่านรูดแถวนอกเมืองเพราะดึกมากแล้ว
โทรศัพท์ก็ดันอยู่ในกระเป๋าบนรถพี่มินจุน โทรศัพท์มาร์คก็ดันแบตหมดเสียอีก
กลายเป็นติดต่อใครไม่ได้ รอให้รุ่งเช้าถึงตกลงกันว่าควรทำอย่างไรต่อ
ถึงจะเลี้ยวเข้าม่านรูดแต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้นอีกหรอกนะ
เพราะแจ็คสันไล่มาร์คไปนอนในรถส่วนตัวเองก็ไปนอนเตียงคนเดียวน่ะซี
รุ่งเช้าหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ขับออกมาหาอะไรกินแถวข้างทาง
เช้าๆแบบนี้ก็มีแต่ร้านสะดวกซื้อเปิด 24 ชั่วโมงเท่านั้นแหละที่พอจะหาของกินได้
“ตกลงจะพาผมไปไหน?”
แจ็คสันถามหลังจากยัดขนมปังสองก้อนลงในท้อง
มองมาร์คขับรถด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมงตามถนนรอบเมืองด้วยความสงสัย
“กลับบ้านแจ็คสันไง
ป่านนี้ป๊าม๊าเป็นห่วงแล้ว”
“เอาจริงเหรอ?
ครั้งก่อนพี่ก็หายไปเลย
ไม่ใช่โดนพ่อผมตะเพิดเอาหรอกนะ”แจ็คสันขมวดคิ้วมุ่นขยับตัวไปนอนหมอบหน้าคอนโซลรถมองทางข้างหน้าเหม่อๆ
เขาไม่อยากให้มาร์คเห็นว่าตัวเองกำลังประหม่าและกังวล
“ทำไม?
ห่วงพี่เหรอ?”
“ก็ห่วงไง”
มาร์คเลิกคิ้วเหลือบมองคนตัวเล็กที่ไม่ปากแข็งอย่างที่คิด
มุมปากเรียวยกขึ้นยิ้มเอ็นดูโดยที่แจ็คสันไม่มีทางเห็น
“พี่มีทาง
แจ็คสันได้เป็นเมียพี่แน่ ไม่ต้องห่วง”
“ไอ้พี่มาร์ค!!!”คนตัวเล็กตะวาดแว๊ดหน้าแดงก่ำทั้งเขินทั้งโกรธ มาร์คหัวเราะร่าชอบใจ เอนตัวบังคับรถ
เอ่ยหยอกกระเซ้าคนรักสบายอารมณ์
“อ้อ
ตอนนี้ก็เป็นทางพฤตินัยแล้วนี่นะ”
“เงียบแล้วขับรถไปเลย!!!”
ถึงจะใจเย็นมาตลอดทาง
แต่พอเห็นรั้วบ้านตัวเองความกังวลก็เข้าคลอบคลุมอีกครั้ง ยิ่งเห็นว่าป๊าม๊ายืนรออยู่หน้าบ้าน
ยิ่งทำให้แจ็คสันกลัวมากขึ้นไปอีก
มาร์คก้มมองมือขาวที่กำปลายแขนเสื้อเขาแน่น
แจ็คสันดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด
เอื้อมมือไปจับริมฝีปากล่างอิ่มไม่ให้แจ็คสันกัดปากตัวเองจนแตก
คนตัวเล็กสะดุ้งเหลือบมองเขาแล้วก้มหน้าลง
มาร์คดับเครื่องก้าวลงจากรถ
เปิดประตูฝั่งข้างคนขับส่งมือมาให้คนตัวเล็กจับ
แจ็คสันเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่มั่นใจ
“พี่มาร์ค...ผมกลัว”
“เชื่อใจพี่นะครับ”
ปากแดงถูกขบกัดคิดใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ก่อนที่มือเล็กจะตัดสิบใจวางบนมือหยาบ
มาร์คยิ้มดึงตัวแจ็คสันออกมาจากรถ ปิดประตูเพื่อล็อกรถ
ดึงเจ้าของบ้านที่ดูจะอิดออดไม่อยากเข้าบ้านตัวเองเหลือเกินเดินผ่านรั้วบ้านเข้ามาจนได้
ทั้งที่จากรั้วบ้านถึงประตูบ้านไกลกันไม่ถึงเมตร
แต่แจ็คสันรู้สึกเหมือนเดินไกลกว่าเดินทางไกลตอนประถมเสียอีก
มือขาวบีบมือคนเดินนำหน้าแน่น รู้สึกอุ่นใจแปลกๆเมื่อมาร์คกระชับมือเขา
หันมาส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้
แจ็คสันไม่กล้าเงยหน้าสบตาป๊าม๊าที่ยืนรออยู่หน้าบ้านเพราะรู้สึกผิด
รู้ตัวดีว่าทำให้ป๊าม๊าเป็นห่วงหลายเรื่อง กลัวป๊าม๊าจะโกรธ
ยืนซ้อนหลังคนเป็นพี่ไม่กล้าออกมายืนเผชิญหน้าตรงๆ
“สวัสดีครับป๊าม๊าหวัง”
“เอาลูกป๊าไปทั้งคืนเลยนะอี๋เอิน”เสียงผู้เป็นบิดายังดูโอบอ้อมอารีเหมือนทุกครั้ง
มาร์คโค้งตัวขอโทษ
“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงครับ
โทรศัพท์ผมแบตหมดเลยไม่ได้โทรบอก”
“เฮ้อ...อย่าพาน้องเหลวไหลอย่างนี้อีกนะ
มันอันตราย เข้าบ้านเถอะ ให้ผู้ใหญ่รอนานมันไม่ดี”
แจ็คสันเงยหน้าขึ้นมองป๊าตัวเองงงๆ
ทำไมป๊าถึงพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติแบบนี้ล่ะ แล้วก็ผู้ใหญ่คนไหน?
บ้านเขามีผู้ใหญ่นอกจากป๊าม๊าอีกเหรอ?
“เจียเอ่อ ทำไมไปหลบอยู่หลังพี่เขาอย่างนั้นล่ะ
เข้ามาเร็ว”ม๊าเรียกลูกชาย (?)
ตัวเองยิ้มแย้มผิดปกติจนแจ็คสันสงสัยว่ามีอะไรดีๆเกิดขึ้นงั้นเหรอ
จะหันไปถามก็โดนมาร์คลากเข้าไปในบ้านเสียก่อน
โซฟาห้องนั่งเล่นมีชายหญิงคู่หนึ่งนั่งรออยู่
ทั้งคู่แต่งตัวดูดี ใบหน้ายิ้มแย้มเป็นกันเอง
พอเห็นมาร์คพาเขาเดินเข้ามาก็ลุกขึ้นมากอดมาร์คแน่น
ตบหลังคนตัวสูงเสียงดังจนแจ็คสันคิดเล่นๆว่ามาร์คอาจจำเจ็บก็ได้
“หนูชื่อแจ็คสันใช่ไหมจ๊ะ?”แจ็คสันสะดุ้ง
ยิ้มให้หญิงในชุดสูทเหมือนนักธุรกิจตรงหน้าเกร็งๆ
แอบสะดุดตอนได้ยินสรรพนามที่ใช้เรียกเขา
“ครับ คุณแม่ของพี่มาร์คใช่ไหมครับ”
แจ็คสันเดาได้จากรอยยิ้มที่เหมือนมาร์คไม่มีผิด
เธอหัวเราะพลางพยักหน้ารับ แจ็คสันรู้สึกเกร็งตอนตาสวยพิจารณาเขาทีละส่วนๆ
“น่ารักใช้ได้เลยนี่นา
ตอนตามาร์คบอกว่าจะได้ลูกสะใภ้เป็นผู้ชายก็นึกว่าจะดูน่ากลัวกว่านี้ซะอีก”
“หา!?”รีบเปลี่ยนท่าทีเมื่อรู้สึกว่าเสียมรรยาท “คุณน้าพูดอะไรน่ะครับ”
ม๊าต้วนหันไปมองลูกชายคนโตดุๆ
“นี่มาร์คไม่ได้บอกน้องเลยใช่ไหม?”
“โถ่
คุณอย่าว่ามาร์คเลย
มาร์คคงเซอร์ไพร์สแจ็คสันเท่านั้นเอง”ป๊าต๊วนรีบออกรับแทนลูกชายที่เอาแต่ยิ้มกว้างมีความสุขเหลือเกิน
“ไปนั่งกันเถอะครับ
มีเรื่องรายละเอียดจะได้คุยกันเยอะเลย”ป๊าหวังเดินมาสมทบเชิญทุกคนไปนั่งบนโซฟา
มาร์คกับแจ็คสันแยกไปนั่งตามครอบครัวใครมัน คนตัวเล็กเดินไปนั่งข้างม๊างงๆ
ถึงจะเข้าใจสถานการณ์แต่ก็ยังเรียงลำดับสถานการณ์ไม่ถูกอยู่ดี
‘มันอะไรกันวะเนี่ย!!!’ร้องได้แต่ในใจ ข้างนอกก็ต้องตีสีหน้าเรียบๆเอาไว้
“มันเป็นความต้องการของลูกผมก็ไม่ขัดหรอกครับ
ถ้าพวกเขามั่นใจผมก็ไม่ได้ว่าอะไร งานก็ไม่จำเป็นต้องใหญ่ก็ได้ มีแค่คนรู้จักก็พอ”
“นั่นสินะคะ
แต่งงานที่นี่แล้วค่อยไปจดทะเบียนสมรสที่อเมริกาก็ได้ ยังไงมาร์คก็ต้องพาหนูแจ็คสันกลับไปโน่นอยู่ดี”
“ตามที่คุยๆกันไว้ก็หมั้นเช้าแต่งเย็นนะ
ต้องรีบหน่อยเพราะแจ็คสันยังมีสอบจบเดือนหน้า
ฮันนีมูนก็หลังน้องสอบเสร็จแล้วกันนะมาร์ค”
“เรื่องสถานที่ทางเราจัดเรียบร้อยแล้วค่ะ
โชคดีจริงๆที่มีเพื่อนๆมาร์คมาช่วยกันเยอะ งานเลยเป็นไปด้วยดี ชุดก็เห็นว่ามินจุนจะเอามาให้ที่โรงแรมตอนเช้าเลย”
“เดี๋ยวนะครับ”แจ็คสันอดรนทนไม่ได้
สงสัยถึงขนาดต้องหยุดการสนทนาของป๊าม๊าทั้งสองครอบครัว
“นี่กำลังพูดอะไรกันอยู่เหรอ ผมงงไปหมดแล้ว”
“อ้าว
ก็เรื่องานแต่งกากากับอี้เอินไง นี่อี้เอินไม่ได้บอกลูกเหรอ?”เป็นม๊าหวังที่หันมาบอกลูกชายตัวเอง
แจ็คสันอ้าปากเหวอตกใจไปชั่วครู่
หันไปแยกเขี้ยวใส่คนเป็นพี่ที่แอบหัวเราะอยู่ฝั่งตรงข้าม
ชี้หน้าแปะโป้งเอาไว้ว่าหลังเรื่องนี้จะได้ซักประวัติกันยาว
มาหลอกกันได้นะพี่มาร์ค!!!
“ต่อนะคะ
สินสอดที่เรียกร้องมาไม่มีปัญหาค่ะ ยังไงดูเหมือนว่าทางเราจะทำให้ทางโน้นเสียหายอยู่ไม่น้อยเลย
ต้องโทษลูกชายตัวดีเลย
ไปทำยาแปลกๆให้น้องกินแบบนั้นได้ยังไงกัน”ว่าแล้วม๊าต้วนก็หันไปบิดหูลูกชายตัวเอง
ร้องโอดโอยใหญ่ แจ็คสันหัวเราะเบา ในใจเชียร์ให้ม๊าต้วนบิดจนหูหลุดนู่นแหละ
ร้องโอ๊ยเบาๆ หันไปยู่ปากใส่ม๊าที่ทำท่าจะตีขาอีกรอบ
“ไปหัวเราะสามีแบบนั้นได้ยังไงกันกากา”
“โอ้โห!
ม๊ายังไม่แต่งเลย
รีบเปลี่ยนสถานะให้ผมเร็วจัง”ประท้วงขอความเป็นธรรมด้วยหน้าอ๊บแบบที่ชอบทำ
จนโดนม๊าบีบจมูกเข้าให้ด้วยความหมั่นเขี้ยว
“เด็กเอ๊ย~ ตอนไหนจะโตนะกากา พรุ่งนี้ก็แต่งแล้วนะ”
.
.
.
“เดี๋ยวนะม๊า................................พรุ่งนี้เหรอ!!!!!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น