[SF] [S]adistic
[S]adistic
Mark x Jackson
ชายหนุ่มร่างไม่สูงนักวิ่งผ่านเข้ามาในบริษัทชื่อดังด้วยท่าทางรีบร้อน
เสื้อสีขาวชุ่มเหงื่อปลายโผล่ออกนอกกางเกง เส้นผมสีเข้มฟูเกือบไม่เป็นทรง
มือขาวผูกเนกไทขณะซอยเท้าวิ่งให้ทันลิฟต์ที่กำลังจะปิด ตาโตเบิกกว้างเรียกให้คนในลิฟต์รอเขาด้วย
สบถลั่นเมื่อประตูลิฟท์ปิดฉับ ส่ายหน้าอย่างหัวเสีย ตัดสินใจเลี้ยวเข้าประตูหนีไฟ
ใช้รักแร้หนีบกระเป๋าเอกสารใบเขื่อง
สาวเท้าวิ่งขึ้นบันไดเร็วที่สุดเท่าที่ความสามารถจะนำพา
ลมหายใจร้อนแสบคอด้วยความเหนื่อยอ่อน
นึกโทษแผนกตัวเองที่ตั้งอยู่ตั้งชั้นสิบกว่า
ทำไมไม่รู้จักอยู่ชั้นหนึ่งชั้นสองเหมือนแผนกอื่นเขาบ้างก็ไม่รู้
วิ่งจนปอดจะฉีก
ตาเหลือบมองเห็นชั้นที่ต้องการก็แทบจะโห่ร้องเสียงดัง
ผวาตัวพุ่งไปเปิดประตูดันเข้าไปด้วยความหวังอันริบหรี่...
“สายไปสามนาที”
...ความหวังทั้งหลายทลายลงในพริบตาเดียว...
น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เขาเกลียดดังขึ้นจากประตูทางเข้าแผนก รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เขาจงเกลียดจงชัง
รอยยิ้มที่ใครต่อใครบอกว่างดงามน่าหลงใหลกว้างขึ้นจนเห็นเขี้ยวขาวอย่างที่ตัวเขานึกอยากให้มันหายไปจากโลกนี้เสียที
จะไม่ต้องมารกหูรกตาให้เขารู้สึกอยากพุ่งไปต่อยเหมือนตอนนี้
“พนักงานอย่างคุณมันน่าผิดหวังจริงๆ
แจ็คสันหวัง”
ประตูแผนกบุคลากรพิเศษถูกเปิดออกโดยหัวหน้าแผนกคนเก่งที่วันนี้มีสภาพดูไม่ได้มากกว่าทุกวัน
ใบหน้าคมเข้มติดดุอย่างที่คนในแผนกลงความเห็นว่าน่ากลัวดูเครียดเขม็งส่งรังสีอำมหิตอย่างกับสามารถฆ่าใครสักคนได้
ทำให้ลูกน้องในแผนกเงียบกริบไม่กล้าถามหรือพูดอะไรที่จะเป็นภัยต่อตัวเองในภายภาคหน้า
ก้มหน้าก้มตาหลบสายตากราดเกรี้ยวของหัวหน้าแผนกที่เดินย่ำลิ่วเข้าห้องกั้นส่วนตัวชั้นในสุดของห้องไปโดยไม่ทักทายคนในแผนกเหมือนเช่นทุกวัน
ปึง!
ทันทีที่ประตูถูกปิด
เสียงนินทาเซ็งแซ่ก็ดังขึ้นทั้งแผนกราวกับนกกระจอกแตกรัง
ประเด็นหัวข้อสนทนาคงไม่พ้นว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าแผนกผู้ร่าเริงของพวกเขากันแน่
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ
ทำไมหัวหน้าแจ็คสันถึงได้ทำหน้าเหมือนขี้ไม่ออกหลายวันแบบนั้นตั้งแต่เช้า”
“ก็โดนคุณมาร์คจับเวลามาสายอีกแล้วน่ะสิ”
“อู้ยย”
เสียงอุทานดังขึ้นทันทีที่รู้
ใครก็รู้ว่าคุณมาร์ค หรือมาร์คต้วน CEO
ของบริษัทแห่งนี้เข้มงวดเรื่องเวลามากขนาดไหน
และทุกคนก็รู้กันดีว่าช่วงนี้มาร์คเพ่งเล็งหัวหน้าฝ่ายบุคลากรพิเศษอย่างแจ็คสันหวังขนาดไหน
มาร์คถึงขนาดลงมาจับเวลาเข้าทำงานสายหน้าแผนกนี้ทุกเช้า
กลายเป็นเรื่องราวซุบซิบกันในบริษัทว่ามาร์คกับแจ็คสันไม่ถูกกันกระจายไปทั่วบริษัท
บางข่าวลือถึงกับบอกว่าแจ็คสันไปแย่งคนที่มาร์คเล็งไว้เลยไม่ถูกกันมาจนถึงทุกวันนี้
แต่ก็ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าทำไมแจ็คสันถึงยังไม่โดนไล่ออก
ทั้งๆที่มาร์คก็มีสิทธิ์ทำได้ทุกเมื่อ
คนที่ถูกตั้งประเด็นขมวดคิ้วมุ่นนั่งทำงานในห้องด้วยความหงุดหงิดใจ
เวลาล่วงเลยมาจนเกือบเที่ยง ขยับข้อมือคลายความเมื่อยล้า นิ่วหน้ามองข้อมือนิ่ง
หันซ้ายขวาไม่เจอใครก็ปลดกระดุมแขนเสื้อด้านนั้นพับขึ้น
มองดูรอยแดงบนข้อมือขาวแล้วถอนหายใจ ก้มหน้าหยิบกระปุกยาขึ้นมาทา
...ที่เขามาสายก็เพราะไอ้รอยบ้านี่นั่นแหละ...
“หัวหน้า!
ไปทานข้าวกันเถอะครับ”
แจ็คสันสะดุ้งรีบดึงปลายเสื้อลงปิดรอยแผล
ลุกขึ้นมาจากโต๊ะเดินออกไปตามคำเรียก
ไม่ได้สนใจโทรศัพท์ที่ดังครืดๆอยู่ในกระเป๋าเสื้อสูท
แจ็คสันกลับมาอีกทีก็ถึงเวลาทำงานตอนช่วงบ่าย
นั่งทำงานต่อสบายใจถึงสี่โมงเย็นรวดเดียวจบ เขาไม่ได้อยากขยันทำงานหรอกนะ
แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากเดินว่อนไปมานอกห้องเพิ่มความเป็นไปได้ในการเจอใครบางคนด้านนอกนั่นต่างหาก...
แจ็คสันถอนหายใจมองนาฬิกา
ปิดแฟ้มพับเก็บไว้มุมโต๊ะ โยนของจำเป็นของกระเป๋าหยิบเสื้อสูทขึ้นมาใส่
กระเป๋าด้านหนึ่งถ่วงหนักกว่าอีกข้างทำให้แจ็คสันเพิ่งนึกได้ว่าลืมเช็คมือถือ
พอเปิดขึ้นมาใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วก็ซีดเผือกมากกว่าเคย
...แย่แล้ว...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ตอนเที่ยงฉันอุตส่าห์ส่งคำเชิญให้นายมาทานอาหารที่ห้องรับรอง...”เสียงทุ้มต่ำที่ได้ยินเมื่อเช้าดังเป็นคำทักทายทันทีที่แจ็คสันเดินเข้ามาในห้องคอนโด
ร่างผอมสูงหันหน้ากลับมาหาเจ้าของดวงตากลมโตที่ไหววูบ
“เด็กไม่ดีต้องโดนลงโทษ
รู้ใช่ไหม คุณหัวหน้าฝ่ายบุคลากรพิเศษ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
กึก
กึ่ง!
เสียงกระทบกันของเหล็กในห้องนอนใหญ่ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มร่างสูงผอมยอมละความสนใจจากเอกสารบนโต๊ะทำงาน
ห้องทำงานที่ต่อกับห้องนอนสามารถมองทะลุให้เห็นถึงกันได้
ตึ่ง!
เสียงรบกวนดังขึ้นมาอีกครั้ง
คราวนี้มาร์คเหลือบหางตาไปหาเจ้าตัวสร้างเสียงรบกวนบนเตียงนอน
“อย่าเสียงดัง
ฉันจะทำงาน”
กึ่ง!
ตึง!
คราวนี้เสียงรบกวนดังติดต่อถี่กันจนชายหนุ่มไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป
ผู้จัดการบริษัทอายุน้อยไฟแรงขมวดคิ้ว
วางปากกาอย่างยอมแพ้กับความพยายามรบกวนจากคนบนเตียง
หลับตาลงข่มความหงุดหงิดลุกขึ้นจากเก้าอี้ คว้าเอากุญแจรูปร่างประหลาดติดมือมาด้วย
“แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วรึไงนายน่ะ”
ส่งเสียงดุขณะมองตอบคนบนเตียง
ร่างเกือบเปลือยเปล่าถูกเปลื้องกางเกงเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางคลุมกายนอนราบกับพื้นเตียง
แขนทั้งสองข้างชูขึ้นเหนือศีรษะ ข้อมือขาวถูกพันธนาการด้วยกุญแจข้อมือเงินคล้องติดไว้กับหัวเตียงซึ่งเป็นต้นเหตุเสียงน่ารำคาญทั้งหมด
เนกไทเส้นเล็กของเจ้าตัวถูกมัดคาดปากทับก้อรผ้าเช็ดหน้าที่ถูกยัดเข้าไปในโพรงปากนุ่มไม่ให้อีกฝ่ายส่งเสียงได้
ข้อขาถูกแยกออกดึงรั้งมัดกับเสาปลายเตียงคนละข้างบังคับให้ตนหาแน่นฟิตอ้าออกเผยส่วนลับด้านล่างให้ชายหนุ่มได้เห็นอย่างเต็มตา
ถ้าแค่โดนมัดไว้แจ็คสันคงไม่บิดเร่าขนาดนี้
แต่เป็นเพราะอุปกรณ์เสริมความสนุกเล็กน้อยตรงปากช่องทางร่วมรักที่ยังคงสั่นกระตุ้นร่างเล็กไม่หยุดหย่อน
แกนกายขนาดพอเหมาะมือชูชันเติบโตอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถปลดปล่อยได้เพราะวงแหวนสีเงินที่โอบรัดฐานเอาไว้แน่น
ชายหนุ่มร่างสูงกว่านั่งลงบนปลายเตียง
จับต้นขาด้านในยกมองส่วนนั้นให้ถนัดยิ่งขึ้น ยิ้มกริ่มเมื่อเห็นหูรูดสีสวยบีบรัดของเล่นพลาสติกอย่างต้องการเต็มที่
ในขณะที่ปลายส่วนอ่อนไหวปล่อยน้ำสีใสออกมาจนเปียกชุ่ม
“อ่า
เปียกขนาดนี้แล้วแฮะ นายนี่มันลามกจริงๆเลยแจ็คสัน”
เอ่ยล้อเลียนดวงตาสวยพราวระยับถูกใจ
มองสะโพกอวบอิ่มตรงหน้าที่ร่อนไปมาไม่หยุด ร่างที่ถูกพันธนาการบิดเร่าไปมาเท่าที่จะทำได้
ผิวกายขาวแดงเรื่อเพราะความต้องการ ดวงตากลมเลื่อนลอยเต็มไปด้วยม่านราคะจับจ้องเขายั่วยวนจนทำให้ริมฝีปากและลำคอคนมองแห้งผาก
“อยากให้ฉันทำให้ไหมล่ะ?”ถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
ศีรษะกลมหยักหน้าให้ทันที หยัดสะโพกขึ้นโชว์คนตัวสูงอย่างลืมอาย
ความต้องการดูดกลืนความถูกต้องชั่วดีไปเสียหมด
“ขอร้องฉันสิ”รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา
ยื่นมือไปปลดเนกไทปลดปล่อยให้เส้นทางสื่อสารทางเสียงได้มีโอกาสใช้งาน
“อ่า
มาร์ค ฮื้อ ไม่ไหวแล้ว ขอร้อง”เสียงแหบพร่าเบาหวิวเต็มไปด้วยความต้องการอย่างเหลือล้น
มือขาวกระตุกข้อมือส่งเสียงดังอีกรอบ
“ให้ฉันทำอะไรล่ะเด็กดี
หืม?”
ตากลมวาวน้ำตามองใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนต่ำลงมาจนไปหยุดอยู่ที่ขอบกางเกงทำงานของอีกฝ่าย
“ใส่มันเข้ามา
ฮื้อ ไม่ไหวแล้ว”
“ก็อยากทำให้หรอกนะ
แต่ฉันยังไม่มีอารมณ์เลยนี่สิ”
มาร์คโกหก...แค่เห็นร่างที่กำลังบิดเร่าอยู่บนเตียงตอนนี้ก็แทบทำให้เขาจะบ้าตายอยู่แล้ว
แต่เพราะอยากแกล้งให้แจ็คสันคลั่งมากกว่านี้เลยต้องทนทรมานตัวเองสักนิด
หัวกลมส่ายไปมาอย่างขัดใจ
ความรุ่นร้อนและความต้องการมันเอ่อล้นมากเกินกว่าจะควบคุม
รู้สึกเหมือนจะตายถ้าไม่ได้ปลดปล่อยออกไป น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มขาวดูน่าสงสาร
ริมฝีปากแดงอิ่มเม้มแน่น
“ทำให้
จะทำให้ ขอร้อง...อย่าทรมานผม ฮือ”เอ่ยขอร้องลืมอาย ทิฐิถูกถีบทิ้งไปตั้งนานแล้ว
ในหัวมีแต่คำว่าอยากปล่อย อยากเสร็จเต็มไปหมด
“พูดแล้วนะ”มาร์คยิ้ม
ใบหน้าเดียวกันกับตอนเห็นหุ้นบริษัทพุ่งสูงเกินยอด
มือแกร่งปลดกุญแจมือออกจากหัวเตียง จับข้อมือขาวไพล่หลังใส่กุญแจมือเข้าไปใหม่
เขาไม่ได้ใจดีขนาดนั้น...
แจ็คสันพยุงร่างขึ้นมามองชายหนุ่มที่นั่งเอนตัวพิงหัวเตียง
เพ่งสายตาออกไปด้านนอก มือแกร่งจุดบุหรี่ขึ้นแนบริมฝีปากสวย
พ่นควันสีเทาให้ลอยเคว้งไปทั่วห้องทั้งที่ก็รู้ว่าแจ็คสันไม่ถูกกับบุหรี่ขนาดไหน ท่าทางไม่แยแสต่อความต้องการอันรุนแรงของเขาทำให้ร่างขาวต้องเรียกความสนใจของมาร์คกลับมา
พลิกลงนอนคว่ำอย่างยากลำบากเพราะทั้งแขนทั้งขาโดนพันธนาการ กระเถิบตัวไปเกยตักของร่างสูงผอมแต่มาร์คก็ไม่หันมามองเขาเหมือนเคย
ฟันกระต่ายงับเข้าที่หัวซิปกัดมันรูดลงจนเกือบสุด
ปลายจมูกรั้นพ่นลมหายใจร้อนขณะพยายามกัดขอบชั้นในยี่ห้อหรูแต่เพราะความมึนเบลอจากความต้องการ
ความใจร้อนทำให้จะกัดยังไงก็ไม่โดนสักที หงุดหงิดเลิกพยายาม ลงน้ำหนักลิ้นบนส่วนสำคัญผ่านเนื้อผ้าหนาจนมันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย
ใช้ริมฝีปากอิ่มเม้มดูดเร่งเร้าจนส่วนนั้นพองคับขยับขยายจนล้นออกมาจากขอบชั้นในเอง
และแม้จะเคยเห็นมาแล้วแต่ก็อดตื่นตกใจกับขนาดของมันไม่ได้ ความอึดอัดด้านหลังยังตามมารังควานไม่จบไม่สิ้นเป็นตัวเร่งให้เขารีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะขาดใจเพราะความต้องการ
มาร์คยังคงไม่มองมา...
ลิ้นเล็กแตะลงบนส่วนหัวแผ่วเบา พยุงกายอ้าปากรับแท่งร้อนเข้ามาในปาก ปรนเปรอด้วยโพรงปากร้อนของตนด้วยความเร่งร้อนออดอ้อนอย่างพยายามเรียกร้องความสนใจเต็มที่
ลิ้นเล็กเกี่ยวตวัดราวกับของในปากคือขนมชั้นเลิศ
ปรือตาช้อนมองคนที่ยังไม่ก้มหน้าลงมามองด้วยความน้อยใจ ฟันขาวขบกัดลงไปเบาๆประท้วง
“อื้อ!!!”ร้องเสียงดังเมื่อโดนมือแกร่งกดศีรษะบังคับให้กลืนกินส่วนนั้นเข้าไปลึกขึ้น
ส่วนปลายเข้าไปลึกในลำคอ กระวีกระวาดดิ้นแต่ก็โดนคนใจร้ายจับรูดเข้าออกตามใจ น้ำขมปร่าพุ่งเข้ามาในลำคอและโพรงปาก
สะบัดศีรษะสำลักไอโขลกจนน้ำตาเล็ด
“เด็กดี”เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าชมอยู่ข้างใบหูเขา
ได้ยินเสียงกริ๊กเบาๆ เท้าเขาได้รับอิสระ ริมฝีปากเรียวจรดจูบลงบนข้างแก้มนิ่ม
มาร์คไถลตัวลงมานอนบนฟูกยกร่างเกือบเปลือยให้ขึ้นไปนอนเกยอยู่ด้านบน
มือแกร่งลูบไปตามสีข้างของร่างที่สั่นระริกครางเครือรับอย่างน่ารัก
อ้อมวกไปด้านหลังใช้นิ้วจิกเอาแท่งเลียนแบบหลุดจากช่องทางสีหวาน
กดสะโพกอิ่มลงมาให้ดูดกลืนความแข็งร้อนที่ใส่อุปกรณ์ป้องกันแล้วของตนเอง
มาร์คดันเข้าไปจนสุดความยาวได้อย่างง่ายดาย เส้นทางร้อนตอดรัดรัญจวนเขาจนแทบคลั่ง
“ฮื้อ!
มาร์ค”เสียงแหบพร่าดังเรียกชื่อเขา สะโพกมนขยับขึ้นลงจัดการคุมจังหวะทั้งหมดด้วยความต้องการอันรุนแรง
มือแกร่งเพียงแค่วางคลึงขยำก้อนเนื้อนูนแน่นเต็มมือแน่น
ริมฝีปากร้อนแตะชิมข้างลำคอขาว ดูดดึงจนเกิดรอยแดงเด่นบนเนินอกนุ่ม
เสียงสะโพกตบกับหน้าขายังไม่น่าอายเท่าเสียงครางและเสียงน้ำเฉอะแฉะในส่วนเชื่อมต่อ
แต่กระนั้นทั้งสองก็ไม่สนอะไรแล้วนอกจากจะโถมความต้องการทั้งหมดที่มีเข้าหากันราวกับสัตว์ในฤดูผสมพันธุ์
จังหวะเร่งเร้าหนักขึ้นเพราะมาร์คก็เริ่มทนไม่ไหวจับเชิงกรานซุกซนควบคุมจังหวะบังคับขึ้นลงรุนแนง
“อ๊า!
ไม่ อะ มาร์ค อื้อ ผมจะ...เสร็จ ไม่ ฮื้อ!!!!”
ชายหนุ่มกระตุกร่างเสร็จในช่องทางร้อนที่ยังตอดรัดเขาไม่หยุดเพราะเจ้าตัวยังไม่ได้ปลดปล่อย
แจ็คสันครางประท้วง เล็บสั้นตัดสะอาดจิกมือตัวเองจนเลือกซิบ
...แจ็คสันต้องการปลดปล่อย...
“มาร์ค
เอามันออก อ่ะ...ให้ผม...อื้อ!!!”
ร้องเสียงหลงเพราะโดนมาร์คที่ออกไปแล้วกระทุ้งเข้ามาใหม่
เริ่มรอบสองของตัวเองได้อย่างใจร้ายใจดำ
ไม่สนใจแจ็คสันที่กำลังจะตายเพราะต้องการจะปลดปล่อย ถึงจุดสุดยอดหลายต่อหลายรอบแต่ไม่ได้รับการอนุญาตให้ปลดปล่อย
น้ำตาไหลลงมาหางตาชุ่ม ใช้ฟันกัดบ่าแข็งผอมกลั้นความวาบหวิวและแก้แค้นชายหนุ่มไปในตัว
เจ็บใจที่ตนเองตอกกลับมาร์คไม่ได้สักอย่าง ครางสะอื้นหมดท่า ร้องขออย่างหมดอาย
“มาร์ค...ได้โปรด”
“เรียกใหม่
แล้วฉันจะปลดให้”
ตากลมปิดแน่นเพราะโดนบดเบียดร่างเข้ามาเต็มแรงโดนจุดกระสันภายในกาย
แจ็คสันเตะจุดสุดยอดไปอีกรอบ กลั้นหายใจพูดออกมาอย่างอยากลำบาก
“เจ้านาย
เอ็นดู..ฮึก...เอ็นดูเจียเอ่อด้วย...อ๊า!!!!”ร้องเสียงหลงเพราะมือแกร่งที่จับวงโลหะบนส่วนอ่อนไหวเต็มตึงและอ่อนไหวเป็นพิเศษ
ทันทีที่มันถูกคลายออกน้ำขาวขุ่นก็พุ่งกระจายเปื้อนร่างทั้งสอง
มาร์คครางต่ำกระแทกปลดปล่อยครั้งที่สามเข้าไปในช่องทางร้อนระอุ
“ฮ๊า...อึก...”แจ็คสันหอบหนักพิงร่างลงกับอกแกร่งที่หอบหนักไม่แพ้กัน
ดวงตาโตปรือปิดแน่นปล่อยน้ำตาไหลลงมาช้าๆ นิ้วแกร่งแตะเข้าที่ขอบตาปาดมันออกให้เขาอย่างแผ่วเบา
แจ็คสันชะงักสะบัดหน้าหนีสัมผัสจากชายหนุ่มอย่างนึกโกรธเคือง ขมวดคิ้วมุ่นรู้สึกถึงความเหนียวเหนอะในกายและบางส่วนที่โคนขาขาว
ตากลมเบิกกว้างตกใจ
“พี่ไม่ได้ใส่ถุงยางนี่!!
ไอ้!...”
“ขอโทษที
พี่ลืมน่ะ”มาร์คยิ้มกดจูบหน้าผากมนอย่างนึกรักใคร่ เปลี่ยนสรรพนามบ่งบอกว่าชายหนุ่มเปลี่ยนโหมดกลับมาเป็นคนที่แจ็คสันรู้จักแล้ว
“ปล่อยผม!!! ผมจะกลับห้อง”
“นี่ก็ห้องนาย”
“นี่มันห้องพี่
ไม่ใช่ห้องผม ปล่อย ถอดกุญแจมือให้ด้วย”พลิกตัวลงไปจากตัวคนใจร้าย
หันหลังให้ชายหนุ่ม แจ็คสันกำลังโกรธ โกรธมากๆด้วย
“ห้องของเราต่างหาก
จะให้บอกอีกกี่ครั้งถึงจะจำได้ เราเป็นแฟนกันนะ”
“ผมไม่เคยมีแฟนโรคจิตแบบพี่!”กระชากเสียงหงุดหงิด
พลิกตัวลุกขึ้นจากเตียงสูดลมหายใจเข้าลึก นิ่วหน้าเจ็บ
มาร์คทำแรงจนสะโพกเขาช้ำอีกแล้ว... เดินเซไปเซมาใช้เท้าเขี่ยกางเกงบนพื้นพยายามจะสวมมัน
สบถอารมณ์เสียเพราะใส่ยังไงก็ไม่ได้สักที
ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะจากคนบกเตียงยิ่งทำให้แจ็คสันหงุดหงิดมากกว่าเดิม
“จะกลับในสภาพนั้นจริงเหรอ?”
ริมฝีปากแดงช้ำถูกขบกัด
บนตัวเขาเหลือแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียว คลุมสะโพกไม่มิดด้วยซ้ำ
แถมมือยังจับไพล่หลังแบบนี้อีก
มาร์คมองตามแจ็คสันที่เดินโขยกเขยกลงไปนั่งบนโซฟา
ทำท่าจะโกรธเขาจริงจัง
“เฮ้อ...”
ถอนหายใจเดินตามอีกคนไปกอดไว้จากด้านหลัง
ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆจากคนในอ้อมกอด สูดดมความหอมบนกลุ่มผมนุ่มนิ่ม
“ขอโทษนะ”
“...”
“ทำยังไงพี่ก็เลิกนิสัยแบบนี้ไม่ได้สักที”
“...”
แจ็คสันยังนิ่งเงียบไปอีกสักพัก
เหลือบดวงตากลมช้ำหันมามอง ไม่ตอบอะไรแต่ลุกขึ้นหันหลังให้ดันข้อมือที่ยังโดนพันธนาการให้มาร์คไขมันออกให้
ข้อมือขาวแดงเป็นปื้นทับรอยเก่าของเมื่อเช้า
“ตอนเช้าก็เป็นคนมัดผมไว้กับเตียงแท้ๆ
แล้วมาโมเมว่าผมสายเอง มันน่าฆ่าทิ้งก็ตรงนี้แหละ”เสียงแหบเอ่ยต่อว่า “กว่าจะผมแก้เชือกได้ก็เกือบสายแล้ว...ไม่เอาแล้วนะ...ผมไม่อยากไปทำงานสาย”
“ไม่อยากสายก็ไปกับพี่ซะสิ”
“ไม่เอาโว้ย!
ไม่อยากโดนแซว”ส่งสายดุมาให้แต่ก็ไม่มีเค้าความโกรธเคืองให้เห็นแล้ว “แล้วก็นะ
ผมส่งรายชื่อบุคลการไปตั้งนานแล้ว ทำไมพี่ยังไม่อนุมัติสักทีวะ
ทีงานอื่นล่ะทำเร็วจริง”
...เปลี่ยนเรื่องนี่ขอให้บอก...มาร์คอมยิ้ม
มองร่างคนรักที่กำลังเตรียมตัวเข้าห้องน้ำ
“ก็รอให้นายไปหาที่ห้องอยู่ไง”
มือขาวชะงักจับน้ำเสียงของชายหนุ่มผู้เป็นทั้งเจ้านายและคนรักได้
แยกเขี้ยวขวับหงุดหงิด กระแทกส้น ปิดประตูห้องน้ำดังปังใหญ่
...เข้าไปให้โดนเจ้าของห้องมันกินน่ะเรอะ ฝันไปซะเถอะ!!!...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น