[OUR] 17
OUR BABY!
บทที่ 17
หัวคิ้วเข้มได้รูปของคุณหมอนิชคุณชิดเข้าหากันตลอดเวลาที่อ่านเอกสารในมือ
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบยังไม่ครบหนึ่งนาที
แต่แจ็คสันกลับรู้สึกเหมือนมันยาวนานเกือบชั่วโมง มือป้อมกุมกำแน่น
เหงื่อเย็นไหลข้างขมับขาว ฟันขาวยื่นออกมาขบกัดริมฝีปากล่างรอคอยด้วยใจลุ้นระทึก
หลังจากใช้เครื่องตรวจปัสสาวะแล้วพบว่าค่าเป็นบวก
แต่มันก็ลางเลือนเสียจนแจ็คสันหาข้อโต้แย้งว่าเครื่องมันอาจผิดพลาด โวยวายเกือบทะเลาะกัน
จนมาร์คต้องหิ้วภรรยาตัวเล็กลงจากเขามาตรวจเลือดกับนิชคุณเสียเลยให้หมดเรื่อง
ในที่สุดนิชคุณก็ยิ้มแย้ม
เงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะ แจ็คสันเผลอกลั้นลมหายใจโดยไม่รู้ตัว
“ยินดีด้วยนะ...”
ใจแจ็คสันตกไปตาตุ่ม
“ผลการตรวจเลือดพบว่านายกำลังตั้งครรภ์”
ใจแจ็คสันทะลุพื้นไปอีกขั้วโลกเรียบร้อย
เหมือนมีสายฟ้าฟาดเปรี้ยงเป็นแบคกราวด์อยู่ด้านหลัง
สติหลุดลอย รู้สึกหายใจติดขัดคล้ายจะเป็นลม จมูกรั้นสูดหายใจเข้าลึกพยายามตั้งสติ
ถึงระหว่างมาโรงพยาบาลจะทำใจมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะช็อกขนาดนี้ เหงื่อกาฬซึมแม้อยู่ในห้องปรับอากาศ
มือกำแน่นจนแทบจะจิกเข้าไปในเนื้อตัวเอง
หลังจากรวบรวมสติได้ในระดับหนึ่งก็เอ่ยถามออกไปเสียงสั่น
“ผมควรทำยังไง...”
พี่ชายหน้าสวยยิ้มเมตตา
ยังไม่ตอบคำถามนั้นทันทีและให้พยาบาลไปเรียกว่าที่คุณพ่อมือใหม่เข้ามาในห้องเสียก่อน
มาร์คเดินยิ้มแย้มเข้ามาในห้อง
ใบหน้าสดชื่นแบบนั้น ทำให้คุณหมอหนุ่มรู้ทันทีว่ารุ่นน้องอัจฉริยะสติเฟื่องของแทคยอนคงคาดเดาทุกอย่างไว้แล้ว...แถมแม่นยำเสียด้วยสิ
“ว่าไงมาร์ค แต่งไม่ทันไรก็เสกลูกเข้าท้องเจ้าลูกหมาของพวกพี่ได้
น้ำยาดีเกินไปแล้วนะเราน่ะ”
ชายหนุ่มรูปหล่อหัวเราะเสียงต่ำอารมณ์ดี
เดินเข้าไปอุ้มเจ้าลูกหมาตัวเล็กที่ยังสั่นหงึกๆบนเก้าอี้มานั่งบนตักตัวเองโดยไม่สนสายตานิชคุณที่มองมาเป็นประกายล้อเลียน
ถ้าเป็นปกติแจ็คสันคงถีบมาร์คไปแล้ว เพียงแต่ตอนนี้แค่ตั้งสติได้ก็ว่ายาก ดังนั้นหัวกลมจึงซุกไหล่คนรักยึดไว้เป็นที่พึ่งพิงชั่วคราว
“จะฝากครรภ์เลยไหมล่ะ?
ที่จริงพี่ก็อยากตรวจสุขภาพของแจ็คสันอยู่เหมือนกันนะ
บอกตรงๆว่าพี่ค่อนข้างเป็นห่วงเพราะมันเป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่ใช่เกิดในเคสปกติ”
แจ็คสันเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของประโยคน่ากังวลนั่น
ปากอิ่มแบะออกก่อนวินาทีต่อมาจะปล่อยน้ำตาใสลงอาบแก้ม สะอื้นฮักๆไม่พูดอะไรสักคำ
คงช็อกจนพูดไม่ออกจริงๆ
“พี่คุณ
อย่าแกล้งเมียผมสิ”มาร์คหัวเราะยึดร่างอวบมากอดโยกเยกปลอบเหมือนปลอบเด็ก
คุณหมอหนึ่งหลุดยิ้มขี้เล่น
ลุกขึ้นมาลูบเส้นผมนิ่มของว่าที่คุณแม่บนตักสามีด้วยความเอ็นดู
“พี่ล้อเล่น
การฝากครรภ์มันต้องมีการตรวจสุขภาพอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล เชื่อใจพี่ได้
รับประกันด้วยเงิงของแทคยอนเลย”
ตากลมรื้นน้ำตามองรอยยิ้มงดงามของพี่ชายคนสวย
สลับกับมองหน้ามาร์คที่แย้มยิ้ม ลูบหัวลูบหลังเขาอย่างให้กำลังใจ
กลั้นน้ำตาจากความกังวลแล้วพยักหน้าตอบรับนิชคุณไป
มาร์คเดินออกมาจากห้องตรวจ
ปล่อยให้แจ็คสันอยู่ในการดูแลของนิชคุณ ก่อนออกมากดต่อสายถึงครอบครัวตัวเองและของแจ็คสันเพื่อแจ้งข่าวดี
คุณนายหวังตื่นเต้นมากขนาดบอกว่าจะมาเยี่ยมในวันพรุ่งนี้
ฝากเขาไปบอกแจ็คสันด้วยว่าอยากได้ลูกสาว มาร์คก็ได้แต่หัวเราะบอกไปตามตรงว่าต้องรออีกสามถึงสี่เดือนถึงจะรู้เพศทารก
พูดคุยอะไรอีกนิดหน่อยก็วางสายไป เปิดแอพทวิตเตอร์ส่งข้อความสั้นๆไปให้โจอี้แจ้งถึงข่าวด่วน
ไม่ถึงสามนาทีหลังจากนั้นป๊าต้วนก็โทรมาแสดงความยินดีแทรกไปด้วยเสียงแซวเซ็งแซ่มาจากพี่น้องเขาให้วุ่นวายไปหมด
ระหว่างนั่งรอด้านนอกคุยแชทกับครอบครัว
เวลาล่วงเลยมาถึงสามชั่วโมงแจ็คสันก็เดินออกมาโค้งขอบคุณนิชคุณ
ตากลมมองซ้ายมองขวาเหมือนพยายามจะมองหาเขา แค่เพราะมุมที่มาร์คนั่งมันอยู่มุมอับ
เลยทำให้ชายหนุ่มได้เห็นภาพลูกหมาตัวน้อยหูตกหางตกจะทำหน้าจะร้องไห้อยู่กลางโรงพยาบาลอีกรอบ
“พี่อยู่นี่”
ไม่รู้เพราะอะไร
พอคว้ามือเล็กได้ชายหนุ่มถึงได้พูดคำนั้นออกไป แจ็คสันเงยหน้ามามองเขาด้วยดวงตาที่เอ่อคลอน้ำ
ปลายจมูกรั้นแดงน่าเอ็นดูและน่าสงสารไปพร้อมกัน มาร์คเกลี่ยน้ำตาออกจากขอบตาช้ำ
ประสานมือจูงอีกคนพาเดินออกไป มือป้อมจับมือชายหนุ่มไว้แน่น ปิดปากเงียบตลอดทาง เดินตามต้อยๆไม่โวยวายเหมือนเคย
มาร์คปล่อยมือออกเพราะจะหากุญแจรถ
สะดุ้งเบาๆเมื่อแจ็คสันคว้ามือเขาไว้ใหม่ มือขาวจับมือเขาแน่นไม่ยอมปล่อยเหมือนกับกลัวว่าชายหนุ่มจะหนีตัวเองไปไกล
“พี่แค่จะหากุญแจครับคนดี”
มือป้อมยอมปล่อยมือเขาแต่ก็ไม่วายคว้าชายเสื้อมาร์คเอาไว้อยู่ดี
มาร์คได้แต่ยิ้มพลางถอนหายใจเบาๆ
...แจ็คสันจิตตกกว่าที่คิด...
เย็นนั้นทั้งคู่ได้ไปกินอาหารเย็นนอกบ้านเพราะแจ็คสันคงไม่มีกะจิตกะใจจะทำกับข้าวกินเอง
คนตัวเล็กของมาร์คเงียบกว่าทุกวัน ถามคำตอบคำ เข้าขั้นเงียบจนน่ากังวล
“ไม่อร่อยเหรอ?
ทำไมไม่กินล่ะ”
ถามด้วยความเป็นห่วง
เขามองเห็นช้อนในมือขาวเขี่ยข้าวในจานไปมาตั้งแต่สามคำแรกด้วยซ้ำ แจ็คสันส่ายหัว ปล่อยช้อนลงพลางถอนหายใจหนัก
“ผมไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกินรู้ไหม
ไม่อย่างนั้นท้องนายจะแย่เอานะ”
“...”แจ็คสันนิ่งเงียบไป
เงยหน้ามามองมาร์คด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ออกอยู่ชั่วขณะหนึ่งแล้วก้มหน้าลงกินข้าวในจานต่อ
ไม่เถียงไม่ดื้อเหมือนก่อนหน้านี้
ชายหนุ่มสั่งข้าวกลับบ้านหนึ่งกล่อง
เพราะดูจากข้าวเหลือในจานแจ็คสัน เชื่อได้ว่าไม่ถึงสองทุ่มกระเพาะอาหารอีกคนต้องส่งเสียงประท้วงขออะไรไปย่อยแน่ๆ
พอถึงบ้านแจ็คสันก็รีบเปิดประตูลงไปจากรถ
เข้าบ้านไม่พูดไม่จา ชายหนุ่มเดินตามเข้าไปก็เห็นว่าอีกคนเข้าห้องน้ำ เลยเดินไปนอนเอกเขนกดูข่าวรออีกคนบนโซฟา
“พี่มาร์ค”แจ็คสันเดินเข้ามาพร้อมนมอีกกล่อง
สั่งด้วยทางสายตาว่าให้เอาเท้าออก เจ้าตัวจะได้มีพื้นที่นั่ง
“นั่งบนตักพี่ก็ได้มา”
“ไม่เอาโว้ย! เอาเท้าลง ผมจะนั่ง”
มาร์คระบายยิ้มกับประโยคและน้ำเสียงติดเหวี่ยงนั่น
งอขาขึ้นให้ภรรยาตัวเล็กได้นั่ง ช่องข่าวถูกเปลี่ยนเป็นช่องรายการกีฬาอย่างที่อีกคนชอบ
มาร์คเลยอดแซวไม่ได้
“พี่ว่าลูกเราต้องติดทีมชาติแน่เลย
คุณแม่เปิดกีฬาให้ดูตั้งแต่สัปดาห์แรกเลยนะ”
“เพ้อบ้าอะไรของพี่”มือขาวทุบหน้าขาชายหนุ่มเบาๆ
วางกล่องนมที่ดูดหมดแล้วลงบนโต๊ะ
เปลี่ยนท่าทางใช้แขนวางเหนือเข่าเป็นฐานรองคางมองมาร์คจากมุมล่างบน
ท่าทางอ้อนอย่างที่มาร์คไม่ค่อยได้เห็นจากคนที่ยืนยันว่าตัวเองโคตรแมนมาตลอดอย่างแจ็คสันทำให้ชายหนุ่มค่อนข้างกระชุ่มกระชวยจิตใจ
ส่วนหนึ่งก็มาจากข่าวดีที่ว่าคนตรงหน้ากำลังอุ้มท้องสายเลือดครึ่งหนึ่งของเขาเอาไว้
“พี่มาร์คทำอะไรอยู่อ่ะ”
“มองหน้าแม่ของลูก”
รับประกันได้ว่าถ้าเอ่ยประโยคนี้ก่อนหน้านี้
มาร์คจะต้องได้โดนการประทุษร้ายสักทางจากแจ็คสันแน่ๆ แต่เพราะในตอนนี้ประโยคเมื่อครู่มันมีความจริงเป็นสัจนิรันดร
ปฏิกิริยาที่ได้ตอบรับเลยเป็นแก้มแดงฝาดน่าเอ็นดูแทน
แจ็คสันกลอกตาไปมา
ใช่ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม ท่าทางลังเลอะไรบางอย่าง
“พี่มาร์คดีใจรึเปล่า?”
“เรื่องอะไรล่ะครับ?”
“ก็...เรื่องที่ผมท้อง”
“พี่เป็นคนสร้างน้ำยาให้แจ็คสันท้องได้เองกับมือ
แล้วพี่ก็เป็นเจ้าของน้ำเชื้อที่ฉีดเข้าไปในมดลูกนะ ถ้าพี่ไม่อยากได้ลูก
พี่คงไม่ทำทั้งหมดนั่นหรอก”
“ช่วยเหนียมอายสักนิดไม่ได้เลยรึไง”ปากแดงยู่ยื่น
ให้นิ้วเรียวดีดลงไปเบาๆอย่างนึกหมั่นไส้
“พี่เป็นคนจริงทำจริง
ไม่ดีหรอกเหรอ?”
“มันก็ดี...ไม่ได้พูดสักหน่อยว่าไม่ชอบ”อีกคนบ่นงุบงิบ
เอาหน้ากลิ้งลงกับแขนตัวเอง นิ่งไปสักพักก็ถามขึ้นมาใหม่
“พี่...จะทิ้งผมหรือเปล่า”
“ไม่มีทาง”ชายหนุ่มตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด
พยายามมองใบหน้าของคนที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตากับเขา “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”
“ผมกลัว...กลัว”
บ่าและไหล่ที่สั่นเบาๆเป็นตัวบอกว่าภรรยาของเขาร้องไห้อีกแล้ว
มาร์คระบายยิ้มบาง
รู้ว่าตอนนี้จิตใจของแจ็คสันกำลังบอบบางและต้องการกำลังใจเป็นอันมาก
เพราะความไม่เคยและไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น
เลยทำให้แจ็คสันกลัวและกังวลเกี่ยวกับทุกสิ่งมากเกินจริง
ชายหนุ่มแยกขาออกรั้งร่างอีกคนมากอดแนบอก
กดศีรษะกลมซุกไหล่ ลูบหลังลูบเอวปลอบประโลม
“กลัวอะไรล่ะครับ?
หืม? บอกพี่ได้ไหม?”
“ไม่รู้...แม่ง! กลัวไปทุกอย่างอ่ะ กลัวว่าพี่จะทิ้ง กลัวว่าจะทนผมไม่ได้ กลัวว่าลูกจะเป็นยังไง
จะแข็งแรงไหม มีโรครึเปล่า แล้วผมจะเลี้ยงเขาได้จริงเหรอ แล้ว...”
“ไม่เอาๆ”มาร์ครีบขัดก่อนที่แจ็คสันจะเอ่ยความกังวลร้อยแปดมาย้ำตัวเองมากกว่านี้
ช้อนใบหน้ากลมเปื้อนน้ำตาขึ้นมามอง
“ไม่เชื่อใจพี่เหรอ?”
“หา?...”
“แจ็คสันไม่เชื่อว่าพี่จะดูแลแจ็คสันได้เหรอครับ?”
คนบนอกหน้าแดงก่ำรู้สึกเขินแม้จะเป็นถ้อยคำปกติธรรมดา
มาร์คเป็นพวกที่หากรักในสิ่งใดก็จะทุ่มเทมันลงไปทั้งกายและใจ
เรื่องนั้นเขารู้ดีกว่าใคร ดังนั้นเลยไม่เคยว่าที่อีกคนชอบทำการทดลองแล้วลืมเขาเป็นสัปดาห์
แจ็คสันถือว่ามันเป็นงาน แถมหลังจากมาร์คทำงานเสร็จ มาร์คก็ไม่เคยลังเลที่จะแสดงออกถึงความรักและความห่วงใยต่อเขา
เพียงแต่...
“พี่มาร์คจะเบื่อผมรึเปล่า...”
ชายหนุ่มใต้ร่างชะงัก
ขมวดคิ้วเหมือนลังเลใจอะไรบางอย่าง นั่นทำให้คนมองใจเสีย บ่อน้ำตาที่ตื้นกว่าทุกวันเริ่มคลอน้ำ
ดิ้นจะหลุดจากอ้อมกอดอุ่น
“เดี๋ยวๆ
งอนอะไรพี่อีกล่ะตัวเล็ก”
“ไม่ได้งอน...ฮึก”
“ไม่ได้งอนแล้วร้องไห้ทำไม”ถามพลางเช็ดน้ำตาออกให้
“วันนี้ขี้แยจังเลยน้า นี่พี่จะได้ลูกสาวหรอกเหรอ”
“จริงจังหน่อยเถอะ”ชกไหล่อีกคนไปแรงๆจนมาร์คร้องโอดโอย
หลุดหัวเราะเมื่อโดนลูกหมาตัวน้อยถลึงตาขู่เข้าให้
“ถามว่าจะเบื่อไหม?
มันต้องมีอยู่แล้วแหละ”
...แจ็คสันเตรียมแบะอีกรอบ...
“กว่าจะลงโลงก็ตั้งหลายปีนี่นะ
ตื่นมามองหน้ากันทุกวัน ถ้าไม่เบื่อก็ไม่ใช่คนแล้ว”
“...”
“แต่ถ้าเบื่อแล้ว
เราก็จะหาอะไรทำแก้เบื่อกันจนกว่าจะตายโน่นแหละ...ดีไหม?”
“ดีที่ไหนกัน...”คนตัวเล็กบ่นงุบงิบ
ก้มหน้าหลบทั้งที่แก้มแดงปลั่ง “แล้วจะพูดอ้อมทำไม ดูฉลาดมากนักรึไงล่ะ”
“ตรงๆก็ไม่เท่น่ะสิ”สูดดมกลิ่นแชมพูบนเส้นผมนิ่มหลับตากอดรัดร่างอวบเอาไว้ด้วยความรัก
“อีกอย่าง... ตราบใดที่พี่ยังไม่หมดแรงโยกและแจ็คสันยังไม่หมดแรงคราง
พี่ว่าอีกนานกว่าพี่จะเบื่อน่ะนะ”
“หื่นกามเอ๊ยยย!!!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น