[OUR] 13
OUR BABY!
บทที่ 13
จินยองและแจ็คสันกำลังประสบกับความเครียดตลอดทั้งสัปดาห์
ฤดูกาลสอบจบมาแล้ว
การสอบครั้งนี้จะเป็นตัวชี้ว่าพวกเขาจะจบและได้ใบปริญญามาครอบครองหรือจะต้องเรียนซ้ำไปอีกเทอม
ทั้งสองจับมือกันติวหนังสือทั้งวันทั้งคืน เครียดแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน
มาร์คเข้ามาติวช่วยในเวลาว่างๆ
ถือโอกาสได้ดูแลคนตัวเล็กตลอดทั้งสัปดาห์
ส่วนแจบอมที่มีเตรียมตัวจบเหมือนกันก็แทบฝังตัวลงในคอนโด
แต่รายนั้นต้องทำโปรเจคจบไม่ได้สอบจบเพราะเป็นคนละคณะ
ทันทีที่งานส่งสอบเสร็จ
ทั้งสามก็มีชีวิตเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ จินยองกับแจบอมก็ลั๊นล๊ากันตามเรื่อง
ผิดกับแจ็คสันที่ต้องเตรียมตัวเพื่อเข้าพิธีสำคัญในชีวิต
...การแต่งงาน...
ถึงจะรู้อยู่แล้ว
แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้เมื่อใกล้ถึงวันจริงเข้าไปทุกที
ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้วห้ามไม่ให้บ่าวสาวเจอกันก่อนวันงานหนึ่งสัปดาห์
หนึ่งสัปดาห์นั้นแจ็คสันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะกลายเป็นผู้หญิงจริงๆ
ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย แต่เป็นเพราะม๊าเขาที่คงจะอยากได้ลูกสาวจริงจัง
พอได้โอกาสก็จัดเต็มซะไม่ให้เกียรติความแมนของลูกชายเลยสักนิด ทั้งแว๊กส์ขน
แต่งหน้า บำรุงผิว บำรุงความงามสารพัดรูปแบบอย่างที่แจ็คสันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องทำ
...เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์ที่ยากลำบากไม่แพ้ช่วงสอบเลย...
จินยองมาช่วยเขาเตรียมงานในช่วงสามวันสุดท้าย
แล้วมันก็มาตอนม๊าจับเขาอบไอน้ำแปะมาร์สโคลนสาหร่ายเขียวอื๋อน่าขยะแขยงพอดี ระเบิดหัวเราะจนเขาแทบจะเหาะไปถีบหน้ามันอยู่มะรอมมะร่อ
-*-
คืนก่อนแต่งงาน
แจ็คสันถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ตีสองขึ้นมาแต่งหน้าทำผม
ซึ่งเขาล่ะไม่เข้าใจเลยว่าจะทำอะไรหนักหนา
สุดท้ายก็ทนง่วงไม่ไหวหลับคาเก้าอี้แต่งหน้านั่นแหละ
ตื่นมายังไม่ทันได้ดูหน้าตัวเองดีๆก็โดนพี่มินจุนลากไปลองชุดในห้องแต่งตัว
โดนบ่นเรื่องขนาดสะโพกเข้าไปหนึ่งดอก สุดท้ายกางเกงก็ต้องได้เปลี่ยนไซต์ใหม่ ณ
ตอนนั้นเอง
สวนหลังบ้านธรรมดาๆถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่แต่งงานน่ารักๆได้อย่างน่าอัศจรรย์
เก้าอี้สำหรับแขกสีขาวจัดเรียงไว้สองข้างเว้นช่องทางเดินตรงไปยังซุ้มประตูโค้งบนเวทียกระดับเล็กๆตรงแท่นพิธี
ตรงส่วนของอาหารจัดไว้เป็นโต๊ะบุฟเฟ่ มีอาหาร ขนมและเครื่องดื่มเตรียมไว้พร้อมสรรพ
แขกในงานเริ่มทยอยเข้ามาจากหน้าบ้านซึ่งมีป๊าม๊าของทั้งมาร์คและแจ็คสันพูดคุยอยู่ด้านหน้า
รายชื่อแขกในงานได้รับการเลือกสรรอย่างดี
เลือกเฉพาะเพื่อนสนิท คนที่รู้เรื่องและเพื่อนร่วมงานของฝ่ายมาร์คสองสามคน
เป็นความตั้งใจว่าไม่ต้องการให้เอิกเกริกมากมายนัก
เพราะด้านตระกูลต้วนก็ค่อนข้างมีชื่อเสียง ถึงแม้ป๊าม๊าต้วนจะบอกว่าไม่ให้คิดมาก
แต่แจ็คสันก็ยังยืนยันว่าจะแต่งแบบเงียบๆอยู่ดี
มาร์คมาถึงก่อนงานเริ่มเพียงหนึ่งชั่วโมง
ชายหนุ่มใจร้อนอยากเจอคู่แต่งงานตัวเองที่โดนกักตัวเอาไว้กว่าหนึ่งสัปดาห์
แต่ก็โดนเพื่อนๆรุมแกล้งไม่ยอมให้เขาไปในบ้านได้เอะอะมะเทิ่งกันใหญ่
เจบอมที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวก็พลอยโดนแกล้งไปด้วย
สนุกสนานกันใหญ่จนแจ็คสันอดไม่ได้ที่จะเงี่ยหน้าออกไปมองทางช่องหน้าต่างจนโดนจินยองลากกลับไปขังต่อ
...ก็บอกแล้วว่ามันเป็นธรรมเนียม...
ประเพณีไทยมีตั้งขันหมากและตั้งประตูเงินประตูทอ
สำหรับงานแต่งลูกผสมยุโรปฮ่องกงงานนี้ ถึงไม่มีขันหมากแต่ก็ยังกั้นประตูเงินประตูทองอยู่ดี
ด่านแรกเป็นแบมแบมกับยูคยอมที่ยิ้มแป้นใช้ริบบิ้นกั้นหน้าบ้าน แบมือขอแบบหน้าด้านๆ
มาร์คมองหน้าสองคนนั้นชูมือวีเป็นเลขสอง
ยูคยอมกำลังจะพยักหน้าแต่ก็โดนแบมแบมส่ายหน้าตัดก่อน
เด็กหนุ่มอายุน้อยกว่ายกมือโชว์ห้านิ้วด้วยรอยยิ้มกว้างน่าหมั่นไส้สำหรับคนมอง
มาร์คส่ายหน้ายิ้มๆนับซองแดงห้าซองให้เด็กหนุ่มทั้งสองที่รีบตะครุบไว้ทันที
ผ่านด่านสอง
ด่านสามมาเรื่อยจนมาเจอด่านสุดท้ายที่หน้าประตูห้องนอน
จินยองยกยิ้มกว้างเห็นแม้กระทั่งรอยยับเล็กๆถือริบบิ้นสีขาวร่วมกับยองแจ เพื่อนร่วมคณะอีกคน
“นายก็เอาด้วยเหรอ?”ถามทั้งที่ไม่ควรจะถาม
อย่างจินยองมีหรือว่าจะพลาดเงินฟรี “เท่าไหร่?”
“พี่ให้ผมมากสุดเท่าไหร่ล่ะ?”
มาร์คเหล่มองเพื่อนเจ้าบ่าวอย่างอิมแจบอมที่มองคนตัวบางหน้าประตูอย่างไม่คลาดสายตาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
ถอยหลังก้าวหนึ่งผลักหลังเพื่อนเข้าหาจินยองอย่างแรง
“เฮ้ย!”แจบอมร้องลั่นมือฉวยเอาร่างเล็กเข้าไปกอดไว้โดยสัญชาติญาณ
จินยองตัวแข็งหน้าแดงแจ๋ไม่แพ้อิมแจบอมที่รนจนทำอะไรไม่ถูก
“เอาเพื่อนพี่ไปทั้งคนเลยแล้วกัน
ยกให้”มาร์คพูดตามหลังยิ้มๆ รวบซองแดงทั้งหมดที่เหลือให้ยองแจที่มองตาวาว
มือบางตะครุบยิ้มร่าไม่เห็นตา เปิดประตูห้องนอนให้เขาเสร็จสรรพโดยไม่ต้องร้องขอ
แจ็คสันในชุดแต่งงานออกแบบพิเศษโดนมินจุนนั่งจุมปุ๊กอยู่บนเตียงนอนสีขาวสะอาด
เสื้อเชิ้ตแขนยาวตัวในยาวปิดหลังมือเล็กทับด้วยเสื้อกั๊กสีเทาแขนกุดปล่อยชายหลังยาวปิดสะโพกคล้ายทักซิโด้
โบว์สีเดียวกันประดับเสริมความน่ารัก
ใบหน้าที่เห็นจนชินตาวันนี้งดงามมากกว่าทุกวันเพราะเครื่องประทินโฉมบางเบา
เส้นผมสีดำนุ่มลื่นประดับด้วยมงกุฎดอกหญ้าเล็กๆน่ารัก
“พี่มาร์คมาช้าอ่ะ”ทันทีที่เห็นแจ็คสันก็บ่นอุบ
ยื่นมือมาจับมือแกร่งที่ยื่นมาให้จับลุกขึ้นตามแรงดึงของคนตัวสูงกว่า
หลับตารับจุมพิตบางเบาบนผมหน้าม้านุ่มของตน
“พร้อมนะครับ”
ชายหนุ่มถามเสียงอ่อนหวาน
เกลี่ยแก้มนุ่มของคนที่ลืมตามามอง
“ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้วล่ะ...”
พิธีถูกจัดอย่างเรียบง่าย
ทุกสายตาจับจ้องไปยังมาร์คและแจ็คสันที่กำลังเดินเคียงคู่กันขึ้นไปบนเวทียกระดับ
วันนี้เจ้าบ่าวแต่งตัวหล่อเหลามากกว่าใครด้วยชุดสูทสีเทาสมัยนิยม
เพียงแค่แต่งเติมเล็กน้อยชายหนุ่มก็ดูหล่อเหลาจนมิอาจละสายตาได้
ส่วนคู่แต่งงานอย่างแจ็คสันนั้น ถึงมิอาจพูดว่าสวยงามได้อย่างหญิงสาวแต่ก็น่ารักละมุนละไมน่าทะนุถนอมมากกว่าทุกวัน
คนที่รอบนแท่นพิธีมิใช่บาทหลวง
งานมิได้จัดในโบสถ์ เพราะการแต่งงานของพวกเขามิได้ยอมรับกันในหลักศาสนา
เป็นเพียงผู้ประกอบพิธีกรรมแถวบ้านที่มาร์คกับแจ็คสันรู้จักและให้ความเคารพเป็นประธานแทน
“มาร์คต้วน
แจ็คสันหวัง ท่านทั้งสองมาที่นี่โดยไม่ได้ถูกบังคับ
แต่มาด้วยความ สมัครใจอย่างแท้จริง เพื่อเข้าพิธีสมรสหรือ?”
“ครับ/ครับ”
“เมื่อเข้าสู่พิธีสมรสเช่นนี้แล้วท่านทั้งสองพร้อมที่จะรักและยกย่องให้เกียรติแก่กันและกันจน
ตลอดชีวิตหรือ?”
“ครับ/ครับ”
“จับมือคู่ของท่านและกล่าวแสดงความสมัครใจ”
ทั้งสองกุมมือขวาของกันและกัน
แจ็คสันมีสีหน้าประหม่าจนมาร์คต้องใช้นิ้วโป้งเกลี่ยฝ่ามือเล็กให้หายกังวล
จับจ้องดวงตากลมพร้อมเอ่ยถ้อยคำตามพิธีกรรม
“ผม มาร์คต้วน ขอรับแจ็คสันหวังเป็นคู่ชีวิต
และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุขและยามทุกข์
ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
“ผม แจ็คสันหวัง ขอรับมาร์คต้วนเป็นคู่ชีวิต
และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย
เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
“ให้คู่แต่งงานแลกแหวนเพื่อเป็นเครื่องหมายถึงความรักและความซื่อสัตย์”
แจ็คสันดูลุกลี้ลุกลนมองแหวนที่จูเนียร์และเจบอมเอามาให้
ตื่นเต้นเสียจนมือสั่น มาร์คหัวเราะเบาๆ หยิบแหวนทองคำขาวเกลี้ยงขึ้นมา
ประคองมือสั่นๆของคนรัก สวมวงแหวนเข้าไปช้าทับกับแหวนหมั้นวงเดิม
ตื้นตันจนลืมจะใส่แหวนคืนให้ชายหนุ่ม
“อย่าลืมใส่แหวนให้พี่สิคนดี”เสียงเตือนเบาๆพร้อมยิ้มนุ่มๆของมาร์คทำให้เขารู้สึกตัว
หันไปหยิบแหวนจากมือจินยองมาสวมให้ชายหนุ่ม ท่าทางเงอะงะน่าเอ็นดู
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องยินดีของแขกผู้ร่วมงานและเสียงโห่ล้อเลียนให้ความหวานเลี่ยนจากเพื่อนฝูงมาร์คก็คว้าหลังคอขาว
รั้งใบหน้าเล็กเข้ามาใกล้และกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มแดงแนบแน่นเป็นการจบพิธี
ทั้งสองประสานมือด้านซ้ายกันแนบแน่นราวกับย้ำถึงความมั่นคงในคำหมั้นสัญญา
มาร์คผละจูบออกมองใบหน้าแดงก่ำเขินอายด้วยความพอใจ
หันไปโค้งให้ผู้คนในงานแสดงความขอบคุณ
ก่อนชายหนุ่มจะกระโดดลงจากเวทียึดมือที่ประสานกันแน่น
พาแจ็คสันวิ่งออกไปจากบริเวณงาน
“เดี๋ยวๆ
พี่จะพาผมไปไหนน่ะ”รีบท้วงถามด้วยความไม่เข้าใจ ขาก็พยายามวิ่งไล่ตามชายหนุ่มให้ทัน
“ฮันนีมูนไง”
“หา! ไปเลยเหรอ?”เบิกตาโตกว้าง เขาไม่เคยตามมาร์คทันเลยจริงๆให้ตายสิ
“ใช่...อ้อ
อย่าลืมโยนดอกไม้ล่ะ”
พอถูกเตือนแจ็คสันก็เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองถือช่อดอกไม้มาด้วย
กระตุกแขนคนเป็นพี่ให้หยุดวิ่งหันหลังกลับไปเล็งแล้วโยนดอกไม้เหมือนโยนบาสลงกลางวงแขกของงาน
นิชคุณที่จู่ๆก็มีช่อดอกไม้มาวางแปะบนหน้าขาถึงกับทำอึ้งไปพักใหญ่เลยทีเดียว...
พอหัวเราะคิดคักสมใจอยากแล้ว
ก็โดนวงแขนแข็งแรงของเจ้าบ่าวช้อนสะโพกเหวี่ยงเข้าไปนั่งในรถ Audi
R8 Spyder เปิดประทุนสีขาวคันเดิม มาร์คกระโดดลงไปนั่งฝั่งคนขับ พาแจ็คสันที่โบกมือบ๊ายบายเพื่อนแล่นออกไปตามถนนสายหลักมุ่งหน้าไปทางสนามบิน
“มันจะรีบไปไหนนั่น”เจบอมมองตามรถเพื่อนไปก็อดพูดขึ้นไม่ได้
แทคยอนที่เดินผ่านมาเลยเป็นคนตอบให้...
“รีบไปปั๊มลูกไง”
“พี่จะพาผมไปที่ไหนอ่ะ?”แจ็คสันถามขณะขยับโบว์คอเสื้อด้วยความอึดอัด
ตากลมมองเส้นทางที่มาร์คพามาด้วยความไม่คุ้นชินเท่าไหร่นัก
“ไปปล่อยเกาะ”
“ฮ่ะ!”สะบัดหน้ามาหาคนเป็นพี่กระชากเสียงหลงตกใจ คนขี้แกล้งหัวเราะในลำคอ
ยื่นเอาใบโบชัวร์ข้างรถมาให้ภรรยาหมาดของตนเองได้อ่าน
ขณะประคองรถไปตามถนนอย่างนุ่มนวล รอฟังปฏิกิริยาจากคนข้างกายที่ร้องเหวอหัวเราะร่าดังลั่นได้ตามคาด
“ปารีสสสสสสสส”แจ็คสันร้องลั่นดีใจ
เกือบลืมตัวกระโดดโลดเต้นบนรถ มาร์คต้องจับท่อนแขนขาวไว้ไม่ให้คนตัวเล็กเกิดอันตราย
ลูกหมาตัวน้อยหัวเราะแหะๆ ตากลมโตเปล่งประกายวิบวับด้วยความตื่นเต้นดีใจ
น้ำตาคลอเล็กๆเพราะไม่นึกไม่ฝันว่าชาตินี้ตัวเองจะได้ไปจริงๆ
“พี่จะพาไปปารีสเหรอ! พาไปจริงเหรอ!”
“แล้วแจ็คสันอยากไปไหมครับ?
หืม?”มาร์คถามพลางปล่อยมือด้านหนึ่งมายีเส้นผมนิ่มด้วยความหมั่นเขี้ยว
แจ็คสันไม่ร้องโวยวายเหมือนเคยเพราะยังตื่นเต้นอยู่ หัวกลมรีบพยักหน้าหงึกหงัก
“ไปๆ
แจ็คสันอยากไป”
ปฏิกิริยาตอบรับอย่างเด็กๆของแจ็คสันทำให้มาร์คตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าข้างทาง
คว้าใบหน้าคนที่ยังมึนงงอยู่เข้ามากดจูบแนบแน่น
ซับจูบบนริมฝีปากอิ่มสวยแล้วจึงสอดเรียวลิ้นเข้าดูดกลืนความหอมหวานในโพรงปากนุ่มอย่างตะกระตะกรามให้สมกับความอดทนรอถึงหนึ่งสัปดาห์
แจ็คสันสะดุ้งตกใจในตอนแรก
หลับตารับรสจูบจากคนที่รัก จูบตอบบ้างปล่อยอารมณ์ไปตามที่ใจต้องการ
ร้องครางผ่อนคลายในลำคอเพราะมือแกร่งที่นวดเฟ้นไปตามร่างกายส่วนเมื่อยล้าต่างๆราวกับเป็นตัวเขาเอง
แจ็คสันปรือตามองใบหน้าหล่อเหลาในระยะประชิดยิ้มๆ
ใช้มือซ้ายดันไหล่กว้างออกสร้างช่องว่างเล็กน้อยระหว่างริมฝีปาก มาร์คยื้อตัวไม่ยอมถอยออกไปง่ายๆ
แต่แจ็คสันก็ส่ายหน้าดันอีกคนออกไปได้สำเร็จ
“อดทนหน่อยนะครับ
ตอนนี้อยู่ด้านนอก ผมให้พี่ทำมากกว่านี้คงไม่ได้”กระซิบบอกเสียงแผ่ว กม้นหน้าแก้มแดงก่ำ
สะดุ้งวาบเมื่อมือแกร่งรั้งตัวเขาเข้าไปกอดทั้งตัว
กระซิบถ้อยคำที่ทำให้คนในอ้อมกอดสะเทิ้นอายยิ่งกว่าเดิม
“ถ้าไม่ติดว่าไฟล์ทบินจะออกภายในสองชั่วโมง
พี่คงปิดหลังคารถทำลูกแล้วรู้ไหม”
“ลามกเอ๊ย!”กระฟัดกระเฟียดดิ้นหลุดจากอ้อมแขนแกร่ง ปีนไปนั่งเบาะหลังหนีมือปลาหมึกของชายหนุ่มผู้เป็นสามี
ป้องกันการโดนลวนลามนอกสถานที่ ตากลมทำตาดุวาบเมื่อเห็นนิ้วเรียวกดปิดหลังคารถ
มาร์คยิ้มกว้างเมื่อเห็นท่าทางอย่างกับแมวขู่แบบนั้น รีบเอ่ยชี้แจงก่อนจะมีหมัดขาวๆมาทำร้ายร่างกายเขาให้ช้ำก่อนได้ลงสนามจริง
“หลับก่อนก็ได้ครับ
ถ้าถึงแล้วพี่จะปลุก”
แจ็คสันมองตาคนตัวสูงอย่างจับผิด
แล้วเอนตัวลงไปนอนบนเบาะหลัง หลับตาลง ไม่วายทวงสัญญา
“ต้องพาผมไปปารีสนะ
ต้องพาไปนะ สัญญานะ”
“ครับๆ
สัญญาเลย หลับนะคนดี”
มาร์คขับรถไปเงียบๆ
ในหัวก็คำนวณเวลา วางแผนการฮันนีมูนในครั้งนี้ ชายหนุ่มมองแจ็คสันผ่านกระจกมองหลังยิ้มกริ่มอย่างมีความหมาย…
เที่ยวฝรั่งเศสสองวัน
พาบินไปนอนที่มัลดีฟอีกหนึ่งคืน
บินไปจดทะเบียนสมรสและไปเยี่ยมครอบครัวมาร์คที่อเมริกาอีกสามวัน
แล้วค่อยกลับประเทศเข้าเรือนหอกกตัวอีกสักคืน
ภายในหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้านี้
ถ้าแจ็คสันไม่ท้อง ก็ไม่ต้องไปทำอะไรกินแล้วนะ มาร์คต้วน...
อัยยะชอบช๊อบ
ตอบลบ