[OUR] 11
OUR BABY!
บทที่ 11
หลักจากรวบรวมสติได้แจ็คสันก็รีบโค้งขอโทษผู้ใหญ่ทุกฝ่าย ลากร่างสูงออกจากวงสนทนาไปทางหลังบ้าน เมื่อแน่ใจแล้วว่าจะไม่มีใครได้ยิน ก็จัดการทั้งหยิกทั้งชกมาร์คแรงๆจนเจ้าแผนการได้แต่ร้องโอดโอยพยายามจับมือขาวไม่ให้ทำร้ายตนเป็นพัลวัน
“ทำไมเป็นคนอย่างนี้วะ! ทำอะไรเคยบอกผมก่อนไหมฮะ!!!”
“ก็อยากเซอร์ไพร์ส โอ๊ยๆ หยุดตีพี่สักที”ย่อตัวรวบเอวอวบเข้ามาใกล้ ล็อกแขนไว้ข้างตัวไม่ให้ยกมาตีเขาได้อีก แจ็คสันกระฟัดกระเฟียดอยู่ในอ้อมกอดคนเป็นพี่ ทำตาขุ่นขวาง ทำท่าจะโกรธจริงจัง มาร์ครีบหอมแก้มเนียนพลางกระพริบตาปริบๆยิ้มออดอ้อนให้เลิกโกรธ
“ไม่เซอร์ไพร์สเลย ผมกำลังโกรธอยู่นะ!!!”
“ไม่อยากแต่งงานกับพี่เหรอ?”ทำเสียงหงอยให้คนตัวเล็กชะงักกึก ตาโตหลุบลง ปากแดงบึนยู่บ่นงุบงิบเสียงเบา
“ก็ไม่ใช่งั้นหรอก...แต่นี่มันเร็วไปเว้ย! ผมยังไม่พร้อมเลยนะ เรียนก็ยังไม่จบด้วย”
“เตรียมงานแล้วนะ จะยกเลิกเหรอ?”
แจ็คสันขบริมฝีปากอย่างใช้ความคิด มาร์คคล้องสะโพกอวบหลวมๆมองใบหน้าขาวทำหน้ายุ่งยากเพลินๆ นานกว่าที่คนตัวเล็กจะเสนอความคิดออกมา
“แค่หมั้นได้ไหมล่ะ ยังไม่ต้องแต่งน่ะ...”
“แล้วจะแต่งตอนไหน?”เลิกคิ้วถาม มือเรียวแตะสะโพกอวบลูบไล้เนียนๆ
“ผมเรียนจบก่อนค่อยคิดได้ไหมล่ะ?”
“ตอนนั้นจะไม่ป่องก่อนเร้อ~”ทำเสียงสูงยิ้มกริ่ม เลื่อนมือเข้าไปใต้สาปเสื้อตัวบางลูบไล้หน้าท้องราบมีกล้ามเนื้อน้อยๆเป็นการหยอกล้อ แก้มกลมแดงวาบ
“น้ำพี่มันไม่ดีขนาดนั้นหรอกน่า”หยีจมูกใส่คนเป็นพี่ มาร์คถึงกับคิ้วกระตุก ยิ้มเย็น มือจับสะโพกอวบเข้ามาติดแทบสัมผัสส่วนอ่อนไหวใต้กางเกงผืนบางของกันและกันอย่างยั่วเย้า
“พูดหยามกันขนาดนี้ อยากท้องก่อนแต่งไหมครับตัวเล็ก”
“ไม่เฟ้ย!”ตวาดเสียงแหลม หยิกหลังมือเรียวแรงๆให้หยุดลูบไปมาเสียที “จนกว่าจะถึงวันแต่งงาน ห้ามทำอะไรผมอีก”
“ถ้าพี่ขืนทำล่ะ?”
“ก็ไม่แต่งไง! จบป่ะ?”
หลังจากเจรจาสองต่อสองเรียบร้อย มาร์คในฐานะอายุมากกว่าก็ต้องเข้าไปบอกพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายถึงการเปลี่ยนแปลงกำหนดการ แม้ในตอนแรกจะตกลงกันไม่ได้เพราะทั้งกำหนดการ ทั้งชุด ทั้งแขกก็เตรียมพร้อมหมดแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องตามใจเจ้าสาว (?) ที่ยังไม่พร้อมแต่งจริงๆ
“สรุปพรุ่งนี้มึงก็แค่หมั้น”เสียงจูเนียร์ดังมาจากอีกฟากของสัญญาณโทรศัพท์ แจ็คสันส่งเสียงตอบในลำคอขณะนอนกลิ้งทำความเข้าใจกำหนดการณ์งานหมั้นในมือ
“กูอุตส่าห์เตรียมตัวทำหล่อหาชุดไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวคู่กับพี่แจบอม มึงทำแผนกูพังหมด”
“แรดให้น้อยลงหน่อยเถอะ ปาร์ค จินยอง”
“เออ อย่างน้อยกูก็ไม่ได้ท้องก่อนแต่งอย่างมึงอ่ะครับ น้องกากา”
“กูยังไม่ท้อง!”
“เหอะ...”
เสียงหัวเราะเยาะของเพื่อนนี่มันบาดจิตจริงๆครับ...
“มีอะไรก็พูดมาครับปาร์ค จินยอง”
“โดนเอากี่ครั้งแล้ววะถึงมั่นใจว่าจะไม่ท้อง”
“แค่สอง...”รีบหุบปากฉับเมื่อระลึกได้ว่าเผลอแพร่งพลายความลับให้เจ้าเพื่อนตัวดีรู้ แทบเอาหัวเขกหมอนให้กับความปากไวของตัวเอง ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะสะใจของปลายสายยิ่งอยากมุดลงดินให้รู้แล้วรู้รอด
“เออ พรุ่งนี้มึงก็มาด้วยแล้วกัน”
“ไม่ต้องชวน กูรู้ก่อนมึงอีก”
“เออ ใครๆก็รู้ก่อนกูทั้งนั้นแหละ”เสียงเหวี่ยงจนปลายสายรีบแก้ตัว
“เฮ้ยๆ อย่าเพิ่งน้อยใจนะเว้ย กูก็รู้ก่อนมึงแต่วันเดียวเอง พี่แจบอมมาบอกอ่ะ”
“หืม? ทำไมพี่แจบอมถึงรู้เรื่องได้วะ?”ขมวดคิ้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง โยนกระดาษกำหนดการณ์ท่ไม่รู้จะจำทำไมกองอยู่บนเตียง
“ก็พี่แจบอมเป็นเพื่อนพี่มาร์คอ่ะดิ นี่กูก็เพิ่งรู้เนี่ย เหมือนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนเมืองนอกอ่ะ”
“โลกกลมชิบ...”อดอุทานออกมาไม่ได้ อะไรมันจะใกล้ตัวกันขนาดนี้
เสียงเคาะประตูห้องขัดจังหวะการสนทนา แจ็คสันรีบบอกลากดตัดสายเพื่อน เดินไปเปิดประตูให้ม๊าที่เดินเข้ามาพร้อมด้วย...กล่องแว๊กซ์ขน...
“ไม่อ๊าวววววววววว~~~~~~~”
แล้วเสียงกรีดร้องโหยหวนก็ดังอย่างนั้นเกือบครึ่งค่อนคืน...
งานหมั้นหมายของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เพราะไม่มีงานแต่งงานแล้วเลยเหลือแค่งานช่วงเช้า สถานที่จัดงานก็เป็นบ้านของแจ็คสันเอง ถึงจะไม่ได้ใหญ่โตแต่ก็มีพื้นที่อย่างเพียงพอ รอบบ้านตกแต่งด้วยอักษรและของมงคลตามธรรมเนียมของฝ่ายเจ้าสาวซึ่งก็เป็นเชื้อจีนฮ่องกง ถึงจะไม่ได้เคร่งครัดมากนักก็ตาม
งานเป็นไปอย่างเรียบง่าย เชิญแค่เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวและญาติผู้ใหญ่เพียงไม่กี่คน เพราะยังไงเสียการแต่งงานของผู้ชายนั้นก็ไม่ได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างขวางขนาดนั้น รวมๆแล้วแขกก็เชิญไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำไป
“ม๊า”
หญิงผู้เป็นแม่เอ่ยตอบรับในลำคอขณะหวีเส้นผมดำขลับของลูกชายที่กำลังจะได้รับการหมั้นหมายจากลูกชายคนอื่นในไม่กี่ชั่วโมงต่อไปนี้เบาๆ
“กากาต้องทำยังไงอ่ะ? ต้องพูดยังไง ต้องระวังอะไรรึเปล่า”น้ำเสียงสั่นพร่านั้นแสดงออกถึงอาการขาดความมั่นใจอย่างรุนแรง ผู้เป็นแม่ยิ้มเอ็นดูผ่านกระจกให้กับผู้เป็นลูก หมุนตัวหนุ่มน้อยในชุดสูทสีขาวพอดีตัวให้กลับมาหาตัวเอง
ใบหน้าขาวประดับเครื่องประทินโฉมเล็กน้อย ริมฝีปากแดงอิ่มเอิบ ดวงตาโตดูคมสวยยิ่งขึ้นเมื่อถูกเขียนด้วยอายไลเนอร์เนื้อดี หน้าม้ายาวปรกคิ้วเข้มที่เจ้าตัวไม่ค่อยชอบใจนักถูกปัดลงมาจัดแต่งเหมาะกับทรงใบหน้า สูทสีเทาเข้ารูปและกางเกงเนื้อดีที่เจ้าตัวเลือกเองถูกสวมใส่ตั้งแต่เช้ามืด
“หนูแค่หมั้นเองนะลูก มั่นใจในตัวเองหน่อย วันนี้ลูกแม่..อืมจะชมว่ายังไงดีนะ...สวย หรือน่ารักดีนะ”
“หล่อได้ไหมล่ะม๊า”แจ็คสันทำหน้ายู่อย่างน่าเอ็นดูจนผู้เป็นแม่อดไม่ได้ที่จะหยิกแก้มนิ่มเบาๆ
“ไม่เอาล่ะจ๊ะ ม๊ายังอยากให้กากาใส่ชุดนั้นอยู่นะ ไม่ใส่ให้ม๊าจริงเหรอ?”
“ม๊า~”แจ็คสันทอดถอนหายใจส่ายหน้าไม่เอาท่าเดียว ก็ชุดนั่นของม๊ามันคือชุดกระโปรงนะ ชุดกระโปรงของผู้หญิงอ่ะ! ฟูฟ่องแบบชุดเจ้าสาวเลยนะ!
“ถ้ากากาใส่ต้องน่ารักแน่ๆเลยน๊า...โอ๋ๆ ไม่ใส่ก็ได้จ๊ะ อ้อ นั่นหนูอี๋เอินมาแล้วนี่นา”หลังปลอบลูกชายที่หน้าคว่ำไปแล้วเสร็จก็สังเกตว่าครอบครัวเจ้าบ่าวมาถึงแล้ว เธอลูบศีรษะทุยแล้วเดินออกไปปล่อยให้แจ็คสันได้มีเวลาส่วนตัว
แจ็คสันลุกจากเก้าอี้มาส่องทางช่องหน้าต่าง จู่ๆหัวใจก็เต้นแรงเมื่อเห็นมาร์คในชุดสูทสีดำเรียบหรูอยู่ไกลๆ ยกมือกุมแก้มร้อนผ่าวส่ายหน้าไปมาเรียกสติ
...นี่แค่งานหมั้นนะแจ็คสัน ทำไมนายต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วย!...
“แจ็คสัน มาเตรียมตัวได้แล้ว”จูเนียร์โผล่หน้ามาทางประตูเรียกหาว่าที่เจ้าสาวที่เอาแต่ยืนเขินก้มหน้างุดๆอยู่ตรงซอกกำแพง เรียกซ้ำให้อีกคนหันมาเสียที “หวังแจ็คสัน กากา”
“เออ รู้แล้ว”ตอบกลับไปเสียงเบา สูดลมหายใจเดินออกไปจากห้อง หวังว่าเขาคงไม่ทำอะไรเปิ่นๆออกไปหรอกนะ ถึงจะมีแค่เพื่อนและพี่ที่รู้จักก็เถอะ
ถึงแม้จะเตรียมใจขนาดไหน คนตัวเล็กก็อดสั่นไม่ได้เมื่อเห็นหน้าคนรักของตัวเองยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น ชุดเสื้อสูทสีดำเรียบหรูดูดีเข้ากับรูปร่างสูงโปร่ง มาร์คเองก็แต่งหล่อมาเหมือนกัน และแจ็คสันก็รู้ดีว่าเวลาที่ชายหนุ่มแต่งตัวนั้นมันน่าใจสั่นขนาดไหน
เพียงแค่มาร์คมองมาก็รีบก้มหน้างุด เขินจะแย่แล้ว!
จูเนียร์ดันตัวเพื่อนให้เข้าไปยืนอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มที่ยิ้มมาให้ มาร์คหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นอีกคนเอาแต่ก้มหน้างุดๆไม่ยอมสบตาด้วย
“ตื่นเต้นเหรอ?”
“อืม...”ตอบเสียงเบา ฝ่ามือเรียวยื่นมาตรงหน้าให้เข้าจับ ทันทีที่ยื่นมือเข้าไปมาร์คก็สอดนิ้วโอบกระชับไว้แน่นสร้างความมั่นใจว่าชายหนุ่มจะยืนอยู่เคียงข้างเขา มือมาร์คทั้งร้อนทั้งแฉะ ไม่ต้องมองก็รู้ว่าชายหนุ่มก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน
พิธีหมั้นหมายถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและไม่มีพิธีรีตองมากมาย ฝ่ายพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเข้ามาพูดคุยถึงเรื่องสินสอดทองหมั้นที่ตกลงกันไว้
แจ็คสันถึงกับทำตาโตเมื่อเห็นทองคำแท่งและเงินหลายฟ่อนที่ถูกประเคนมาให้พ่อแม่เขา ทำหน้าเหวอจนโดนม๊าตีแขนให้รักษามรรยาทบ้าง
“เงินทองหมั้นหมายนี่เป็นส่วนหนึ่งของสินสอดที่ทางเราจะมอบให้ อาจจะมากเกินกว่าที่ทางคุณเรียกร้องมา แต่นั่นก็เป็นความประสงค์ของลูกชายเราเอง ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เดือดร้อนนะครับ”
“อะไรมันเกิดไปแล้วก็คงแก้ไม่ได้ ก็ได้แต่ยอมรับผลกันไป ที่จริงแค่สองล้านก็รู้สึกว่าเราเรียกเยอะไปด้วยซ้ำ เพราะลูกชายเราก็เหมือนสมยอมอยู่นิดๆล่ะนะ”
แจ็คสันหันไปหาป๊าตัวเองขวับ แทบจะโอดครวญแก้ความเข้าใจว่าเขาไม่ได้สมยอมสักหน่อย แต่ก็ทำไม่ได้เพราะตอนนี้อยู่ในพิธี ส่วนจูเนียร์และคนอื่นๆที่ได้ยินก็กลั้นขำกลั้นยิ้มกันไป...
“อี๋เอินกับเจียเอ่อ ต่อไปนี้ก็ขอให้ดูแลกันดีๆ อย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตอนนี้แค่หมั้น ยังไม่แต่ง แต่ก็ถือว่าเราสองคนเป็นคู่กันแล้ว ก็ประคองความรักกันไปดีๆ เส้นทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ อย่าลืมว่าคนด้านนอกบางคนเขาก็ไม่เข้าใจเรา ต้องเข้มแข็งและเข้าใจกันให้มาก...พูดเยอะแล้ว แลกแหวนกันเลยดีกว่า”
แหวนหมั้นของทั้งคู่เป็นแหวนทองคำขาวประดับเพชรเม็ดใหญ่เป็นหลัก เรียงแถวด้วยเพชรเม็ดเล็กขนาดโดยรวมไม่ใหญ่มากนัก แจ็คสันที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมองตามมันจนกระทั่งมาร์คประคองมือเขาขึ้นไปกุมไว้
“หมั้นแล้วนะครับ”เสียงทุ้มเอ่ยบอก สวมแหวนบนนิ้วนางด้านซ้ายของคนตัวขาวที่เงียบไปพักหนึ่ง เมื่อเงยหน้ามองก็ต้องหลุดหัวเราะเอ็นดู
...คนตัวเล็กของเขาร้องไห้ซะอย่างนั้น...
“อ้าวเฮ้ย ว่าที่เจ้าสาวร้องไห้ซะงั้น มาร์คปลอบเลยนะ”เสียงที่แทคยอนเชียร์มาแต่ไกล กลายเป็นเสียงโห่ร้องแซวดังเซ็งแซ่ มาร์คหัวเราะร่าในขณะที่แจ็คสันยังร้องไห้ซิกๆไม่ยอมหยุด
“ไม่ร้องสิคนดี”
“พี่แม่ง...”หลุดคำพูดอู้อี้ใช้มือด้านขวาปาดน้ำตาออกจนเปลือกตาแดงก่ำ มาร์คยิ้มบางยึดมือขวาไว้ก่อนจะทำในสิ่งที่ทำให้ทุกคนในงานหวีดร้องมากขึ้นกว่าเดิม
แจ็คสันหยุดร้องทันควันเมื่อมาร์คโน้มตัวเข้ามาจูบซับน้ำตาตนเบาๆ ริมฝีปากสวยเม้มจูบปลอบยิ่งทำให้แก้มกลมแดงก่ำราวกับเลือดในตัวมากองอยู่บนหน้า
“ฮิ้วววววววว!!! กล้าดีว่ะ!”
“โอ๊ยยย หวานน้ำตาลขึ้นแล้วเฮ้ย!”
“เข้าห้องหอเลยไป๊! แค่งานหมั้นนะเว้ย ยังไม่แต่ง!”
เสียงแซวเซ็งแซ่ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มออกห่างจากคู่หมั้นตัวเองเลยสักนิด ตรงข้ามกลับยื่นหน้าเข้าไปชิด แบบไม่สนใจประชาชาติประชาชีทั้งญาติพี่น้องเพื่อนพ้องใดๆ และเอ่ยถ้อยคำที่ได้ยินเพียงสองคน
“ต่อไปนี้...แจ็คสันเป็นของพี่แล้วนะครับ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น