[SF] Pet Human I [MARKSON]

Pet Human I
Mark X Jackson





ในยุคที่คนเกิดการวิวัฒนาการล้ำสมัย บ้านเมืองเต็มไปด้วยภาพโฮโลแกรม อาหารแคปซูลและรถยนต์ลอยได้ วิทยาศาสตร์ก้าวล้ำเลยขอบเขตของคำว่าสิทธิ์ความเป็นมนุษย์ การตัดต่อพันธุกรรมระหว่างสัตว์กับมนุษย์เป็นที่นิยมจนกลายเป็นธุรกิจส่งออกสำคัญ จึงจะไม่แปลกอะไรที่จะเห็นคนที่มีรูปร่างอย่างมนุษย์แต่มีอวัยวะบางอย่างเป็นสัตว์เดินว่อนไปมาทั่วเมือง แต่ผู้คนเหล่านี้ไม่ได้มีสิทธิ์เท่ากับคนที่เป็นมนุษย์เต็มร่าง เรียกง่ายๆว่าพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์สัตว์เลี้ยงหนึ่งของมนุษย์เท่านั้นเอง

มาร์คต้วนเป็นชายหนุ่มอายุน้อยผู้ไต่เต้าหาเงินเลี้ยงชีพด้วยการเพาะพันธ์ ‘Pet Human’ ให้กับบริษัทผลิตรายใหญ่ของโลก เขาจะทำหน้าที่เป็นคนคอยตรวจดูสภาพสินค้าก่อนลงฐานข้อมูลประกาศขายให้คนทั่วไป วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย สวมเสื้อกราวเดินอาดๆไปหามนุษย์ผู้ช่วยในแผนกนามว่า คิม ยูคยอมไอ้เด็กนี่อายุน้อยกว่าเขาตั้ง 5 ปี แต่ก็ไต่เต้ามาถึงระดับนี้ได้

“สวัสดี”

“หวัดดีครับพี่ อ้อ วันนี้มีสินค้าแปดรายการนะ อยู่ด้านในนั่นแหละ นี่รายการครับ”ยังไม่ทันจะได้พูดถามสารทุกข์สุขดิบอะไรกัน หมอนั่นตวัดนิ้วโยนข้อมูลส่งมาเครื่องเขา มาร์คเงยหน้ามองหน้าจอโฮโลแกรมตรงหน้า ไล่มองดูรายละเอียดของสินค้าแต่งละคนอย่างรอบคอบ จนสะดุดอยู่ตรงลิสเกือบสุดท้ายที่กรอบข้อมูลเคลือบทอง ด้านหลังก็ยังมีดาวประดับไว้อีก 5 ดาว

“เกรดพรีเมียม 5 ดาว หืม~ นี่ฝั่งตัดต่อทำได้เกรดระดับนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กันนะ”

“อืม คงเป็น เจบี เมื่อสามปีก่อนละมั้ง”ยูคยอมเอ่ยทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นจากจอ “ตอนนี้ก็คงอยู่เป็นสัตว์เลี้ยงของคุณจินยองที่คฤหาสน์หรูที่ไหนสักที่ในโลกนั่นแหละ อย่างว่า เกรดระดับนี้หายาก แถมแพงหูฉีก พี่ก็อย่าทะเล่อทะล่าไปปลุกแล้วกัน ไม่อย่างนั้นได้เสียทรัพย์ก้อนใหญ่แน่ๆ”

“ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามแบบนั้นสักหน่อย”

“เตือนไว้เฉยๆ เดี๋ยวเป็นแบบผม”ยูคยอมเอ่ยใบหน้าเซ็งเป็ด มาร์คอดหัวเราะเยาะไม่ได้ ก็เมื่อสามเดือนก่อนยูคยอมมันตรวจสินค้าพรีเมียมเกรดสี่ดาว ราคาหลักสิบล้านแล้วดัน ปลุกขึ้นมา เลยต้องรับเลี้ยงอย่างช่วยไม่ได้

Pet Human เป็นมนุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์ พวกที่มีเกรดสูงๆหมายถึงพวกที่มีชิ้นส่วนที่เป็นสัตว์ในระดับพอดิบพอดีสวย เอาง่ายๆก็ถ้าตัดต่อกับสุนัข ก็มีแค่หูกับหางที่เป็นสุนัข นอกจากนั้นก็เป็นคนธรรมดานี่เอง ส่วนพวกระดับต่ำลงมาก็มีจุดบกพร่องเล็กๆน้อยๆลงไป แต่เพราะพวกเกรดห้าดาวมันควบคุมยาก นานๆทีจะโผล่มาสักหนึ่งที ล่าสุดก็คือเจบี เจ้าหมาป่าสีเงินที่โดนจินยอง มหาเศรษฐีอัฐมณีซื้อตัวไปเมื่อสามปีก่อน จากนั้นก็เป็นแบมแบม เจ้าเด็กกระต่ายระดับ 4 ดาวทองที่คิมยูคยอมพลาดต้องรับซื้อไป ล่าสุดของวันนี้เลยก็คือ...อืม...

...หมีน้ำตาล สินะ...

มาร์คพึมพำขณะเดินเข้าไปในห้องเก็บสินค้าด้านหลังห้องทำงาน ภายในนั้นแบ่งโซนเป็นห้องเล็กๆขนาดหนึ่งเมตรครึ่งแบ่งกั้นด้วยผนังโลหะสีขาวเรียงรายกันไปตามทางเดิน ฝั่งติดผนังติดกระจกนิรภัยอย่างดีเพื่อจะให้คนทำงานอย่างเขาได้สังเกตตรวจดูสภาพสินค้าด้านในได้ง่ายๆ ภายในห้องนั้นมีร่างของ Pet Human แต่ละตนนอนอยู่บนเตียงผ่าตัดด้วยสภาพไร้สติ หรือที่พวกเขาเรียกว่าสภาพวะ ‘SLEEP’ และสินค้าต้องอยู่ในสภาพนี้ไปจนกว่าจะถึงมือผู้ซื้อ และผู้ซื้อจะเป็นผู้ ‘WAKE UP’ สินค้าขึ้นมาเอง เพราะพวก Pet Human จำจะว่าคนแรกที่มันเจอเป็นเจ้านายตามคำสั่งที่ถูกติดตั้งไว้อยู่แล้วคล้ายเป็นสัญชาติญาณของลูกนกเวลาฟักออกจากไข่และเห็นแม่นั่นเอง

มาร์คเดินตรวจแต่ละห้องๆไปด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย มันก็เหมือนๆกันไปหมด บางคนก็มีหัวเป็นสิงโต ครึ่งล่างเป็นม้า อะไรจำพวกนี้แบบเดิมทุกวัน ติ๊กตรวจว่าเรียบร้อยดีทุกห้องจนมาถึงห้องสุดท้ายของทางเดิน

ทันทีที่เห็นมาร์คก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ สินค้าธรรมดา

ร่างขาวสล้างนวลเนียนนอนนิ่งสนิทอยู่บนเตียงลอยจากพื้นด้วยแรงต้านของแม่เหล็ก มีผ้าขาวบางๆทาบทับบนส่วนสะโพกและกล้ามเนื้อหน้าอกแบนราบบอกให้รู้ว่าร่างตรงหน้าเป็นชาย เส้นผมสีทองซีดขาวแทบจะกลืนไปกับใบหน้ากลม หูหมีประดับอยู่ส่วนเหนือใบหูปกติของมนุษย์ขึ้นไปในองศาที่พอดีและเหมาะเจาะ จมูกโด่งรั้นน่ากัด ริมฝีปากอวบอิ่ม ถ้าไม่ติดว่าเขาเห็นหน้าอกราบนั่นมาร์คก็คิดว่าร่างขาวตรงหน้าเป็นผู้หญิงไปแล้ว

...ก็น่ารักซะขนาดนั้น...

มาร์คกดรหัสเดินเข้าไปในห้อง สินค้าแบบพรีเมียมต้องมีการตรวจโดยผิวสัมผัสของมนุษย์ ไม่ได้ดูด้วยตาอย่าง Pet Hammer แบบปกติ เพราะฉะนั้นจึงมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเผลอไป WAKE UP ได้ ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ ถอดถุงมือทั้งสองข้างออกแขวนไว้ข้างผนัง มองร่างตรงหน้าพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งได้กลิ่นหอมหวน ไม่เหมือนกลิ่นสาปของสัตว์เลยสักนิด แถมยิ่งมองใกล้ๆยิ่งดูน่ารัก แต่นิสัยคงดุและดื้อน่าดู ก็เป็นหมีป่าสีน้ำตาลนี่นะ...

มือเรียวจับไปที่ไหล่มนลูบไปตาลำแขนขาว พยายามตั้งสติไม่เตลิดไปกับผิวนุ่มๆเนียนๆของร่างตรงหน้า จับมือเล็กขึ้นมาบีบคลึงดูความนุ่มของมือ นุ่มจนเขาเผลอเคลิ้มนานไปหน่อย สะบัดศีรษะกระแอมเรียกสติตัวเอง ตรวจเช็คร่างกายส่วนอื่นอย่างเบามือจนมาถึงสะโพกกลม เขาจำเป็นต้องตรวจหางด้านหลัง ขยับตัวออกมา สั่งเตียงให้พลิกร่างของหมีน้ำตาลขึ้นมานอนคว่ำ

เอื๊อก...

ชายหนุ่มกลืนน้ำลายดังอึกใหญ่ มองก้นนูนกลมแน่นเป็นทรงโค้งพอดีราวกับมีใครจงใจวาดขึ้นด้วยไม้โปรเจคเตอร์รับกับหางสั้นกลมดิ๊กสีเดียวกับหูอยู่ตรงส่วนกึ่งกลางเหนือร่องขึ้นไปเล็กน้อย มันเป็นส่วนที่ต่อจากกระดูกสันหลังพอดี ไล่สายตาลงมามองต้นขากลมกลึง มองขึ้นไปก็เห็นเอวเล็กคอดพอดีกับร่าง

...ห้าดาวนี่ห้าดาวจริงๆ...

สูดลมหายใจเข้าลึกตั้งสติที่เริ่มกระเจิดกระเจิงให้กลับเข้าที่ วางบนส่วนสะโพก

...ไอ้ชิบหาย นุ่มจนอยากบีบ...

แต่เหมือนว่ามือจะไวกว่าสมอง เพราะไม่ต้องรอให้มาร์คคิดจบประโยค นิ้วทั้งห้าก็ขยำก้อนกลมทั้งสองนั่นแบบเต็มไม้เต็มมือ เจ้าตัวร้องเฮ้ย รีบยึดมือคืน มองร่างมนุษย์หมีสีน้ำตาลตื่นๆกลัวว่าจะ WAKE UP ขึ้นมา และก็ต้องถอนหายใจโล่งเมื่อร่างนั้นไม่ไหวติง สั่งเตียงให้พลิกร่างนั้นกลับมานอนหงายดังเดิม ก้มหน้ามองส่วนเท้าที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปเป็นอย่างสุดท้าย จดลงตารางเป็นที่เรียบร้อย

มาร์คเงยหน้าขึ้นมองตรวจเช็ครอบสุดท้าย พลันสายตาสบกับดวงตากลมโตที่กำลังจ้องเขาตาแป๊ว ทั้งที่เมื่อกี้ยังอยู่ในสภาวะหลับใหล

“เจ้านาย”

“...”

...ชิบหายของแท้...







ชายหนุ่มนอนแผ่หลาหมดแรงอยู่บนโซฟากลางห้องที่เขาซื้อขาดไว้ใกล้กับที่ทำงาน ภายในห้องไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะมาร์คไม่ชอบซื้อของมาตุนไว้โดยไร้ประโยชน์ ไฟก็ไม่ได้เปิด ปล่อยให้แสงไฟจากด้านนอกสาดผ่านกระจกใสเต็มบานเข้ามาพอให้เห็นอะไรๆในห้องบ้าง

“เจ้านาย”

“บอกให้เรียกมาร์ค”

“มาร์ค...เค้าหนาว”

ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมามอง Pet Human ที่ตอนนี้อยู่ในความครอบครองของเขาเซ็งๆ ร่างขาวยืนอยู่ข้างโซฟาด้วยสภาพทั้งร่างคลุมด้วยผ้าขาวบางผืนเดียวเพราะตอนนั้นมาร์คไม่มีเสื้อผ้าอะไรให้ใส่ แค่ต้องเซ็นยอมรับการจ่ายเงินเกือบห้าล้านแลกกับสินค้าที่ถูกเปิดการใช้งานโดยมียูคยอมหัวเราะสะใจอยู่ข้างๆก็เสียประสาทจะตายอยู่แล้ว

ใบหน้ากลมมนติดงอแง จมูกรั้นแดงก่ำ เช่นเดียวกับปลายนิ้วมือนิ้วเท้าที่เริ่มแดง แม้แต่ศอกก็แดง เข่าก็แดง ผิวคนหรือตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ทำไมผิวดูบอบบางขนาดนั้นวะ!

มาร์คถอนหายใจ ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนไม่พูดไม่จาโดยมีเจ้าลูกหมีเดินตามมาต้อยๆ ตามติดแบบนี้ตลอดเวลาตั้งแต่ตอนเริ่มตื่นมาจนกระทั่งตอนนี้ ถึงจะไม่ได้พูดงอแงอะไรแต่ใบหน้าขาวนั่นก็ติดงอแงเหมือนเด็กตัวเล็กๆตลอดเวลา

“ใส่”

เจ้าเด็กหูหมีก้มมองเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำในมือเจ้านายและส่ายหน้าไปมา

“เค้าใส่ไม่เป็น”

มาร์คถอนหายใจรอบที่ร้อย ปกติ Pet Human จะต้องติดโปรแกรมการดำเนินชีวิตประจำวันก่อนส่งให้ลูกค้า แต่เจ้าลูกหมีนี่โดนปลุกก่อนจะเริ่มประบวนการฝังชิป ตอนนี้เลยเป็นเขาที่ต้องชิบหาย เพราะต้องสอนเด็กนี่ตั้งแต่การกินข้าว ไปจนถึงการอาบน้ำแต่งตัว แค่คิดก็รำคาญจะแย่แล้ว

“ยกมือขึ้น”

เด็กนั่นยกมือตามที่บอกอย่างว่าง่าย มาร์คสะบัดเสื้อกล้ามสวมให้ดึงจัดให้เรียบร้อย ก้มลงตีขาเพรียวด้านหนึ่งให้ยกขึ้น สวมขากางเกงด้านหนึ่งให้ ตามด้วยอีกด้าน

“ดึงขึ้นเอง”สั่งอีกรอบ มองดูลูกหมีที่กำลังหันซ้ายหันขวาไม่รู้จะทำยังไง ตากลมแป๊วมองเขาสลับกับกางเกงอย่างไม่แน่ใจ นานกว่าสามนาทีกว่าที่เด็กน้อยจะดึงกางเกงขึ้นมาใส่ได้

“ดีมาก”มาร์คลูบเส้นผมนิ่มเบาๆ เดินสวนออกไปว่าจะไปหาอะไรกินในครัว ปล่อยให้ Pet Human ตัวน้อยยืนกุมศีรษะจุดที่โดนลูบผมนิ่งๆ ก่อนริมฝีปากอิ่มจะแย้มยิ้มกว้าง ใจดวงน้อยเต้นแรงรู้สึกดี เดินตามเจ้านายของตัวเองไปในครัว และเอ่ยร้องขอ

“มาร์ค ลูบผมเค้าหน่อย”

“หา?”มาร์คหันมามองเข้าเด็กหมีที่กำลังจ้องเขาตาแป๊วอย่างมีความหวัง โดนจ้องนานๆเข้าก็ยอมแพ้ ยกมือขึ้นขยี้ผมนิ่มนั่นไปมา แต่เด็กหมีก็ส่ายหน้าทำหน้าแบะยกปากแหลมอีกรอบ

“ไม่ใช่แบบนี้ แบบเมื่อกี้”

“แบบเมื่อกี้?”มาร์คทวนงงๆ ยกมือลูบแบบที่เขาทำก่อนจะเดินออกมา มองใบหน้ากลมที่หลับตาพริ้มแย้มยิ้มพอใจ

...น่ารัก...

ลูบไปลูบมาก็ชักรู้สึกแปลกๆ พอยกมือลงมือนิ่มก็จับมือเขาหมับ ตากลมช้อนมองเขาออดอ้อน

“ลูบอีก”

“ไม่ พอแล้ว นายต้องทำตัวดีๆ ฉันถึงจะลูบผมให้”

“ถ้าเค้าเป็นเด็กดีมาร์คจะลูบผมเค้าใช่ไหม?”เด็กตัวขาวรีบถาม ตาเป็นประกายวิบวับ

“อืม”

“เย้! แล้วทำยังไงเค้าถึงจะเป็นเด็กดีล่ะ”

“ไปนั่งบนโซฟารอฉันไป”

“ได้เลย”ลูกหมีตัวเล็กตอบรับ วิ่งดุ้กดิ้กไปนั่งแหมะอยู่บนโซฟาตัวเดียวในห้อง จ้องมาทางเขาจนรู้สึกอึดอัด

ชายหนุ่มโยนแคปซูลสองเม็ดเข้าไปในเครื่องสลายสภาพ ตั้งเวลาไว้สามนาที ยืนกอดอกสั่นเท้ารอ ตดไม่ทันกลิ่นหายก็ได้มื้อเย็นสำหรับสองที่เรียบร้อย เดินไปทางเจ้าลูกหมีตัวเล็กที่นั่งรออยู่ ส่งจานสเต็กหมูไปให้ถือ ทรุดตัวนั่งข้างๆ สั่งให้โทรทัศน์เปิดข่าวประจำวัน โซ้ยกินไม่สนใจมองสัตว์เลี้ยงข้างตัว กินจนจะหมดจาน ชายหนุ่มถึงได้หันมามองเพื่อพบว่าจานสเต็กยังไม่ได้ถูกแตะแม้แต่คำเดียว

“ทำไมไม่กิน”

“ก็นึกว่ามาร์คฝาก”เด็กนั่นหันมามองตาแป๊ว

มาร์คถอนหายใจรอบที่ล้าน

“ฉันส่งให้นาย นายก็กินสิ ของฉันก็มีอยู่แล้วนี่ไง”

เด็กนั่นพยักหน้าและก้มหน้าลงกัดเนื้อในจานอย่างกับสัตว์ จนมาร์คต้องได้รีบดึงตัวเอาไว้และถอนหายใจรอบที่หนึ่งล้านหนึ่ง “ฉันสอนนายดีกว่า”

แล้วชายหนุ่มก็ต้องนั่งสอนวิธีการใช่ช้อน ซ่อมและมีดให้กับเจ้าเด็กหูหมีนี่เกือบครึ่งค่อนชั่วโมง สอนจนเหนื่อย วันนี้วันดียวเขาทำลายสถิติพูดมากที่สุดในรอบสิบปีแบบราบคาบ สอนเสร็จก็ปล่อยให้เด็กนั่นกินไปส่วนเขาก็ไปอาบน้ำรอ


ก๊อกๆ

กำลังถูสบู่อยู่ดีๆก็มีคนเคาะประตูห้องน้ำเฉย แอบสะดุ้งไปนิดหน่อยเพราะไม่ชินกับการมีเพื่อนร่วมอาศัยแบบนี้ แถมยังเป็Pet Hammer ที่ทำอะไรไม่เป็นราวกับเด็กสามขวบอีกต่างหาก

“มีอะไร?”

“มาร์คทำอะไรอยู่อ่ะ”

“อาบน้ำ”ตอบแบบส่งๆ ก่อนจะสำลักอากาศในประโยคต่อมา

“มาร์คอาบให้เค้าหน่อย”

“อะไรนะ!

“อึก...ดุเค้าทำไม”

...อ้าวเวร...

ชายหนุ่มกลอกตาหนึ่งรอบถ้วนได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จากหน้าห้องน้ำ สุดท้ายก็ใจอ่อนๆหาผ้ามามัดเอว เดินไปเปิดบานประตู ดึงเจ้าเด็กขาวกลมเข้ามาด้านใน เห็นน้ำตาใสๆคลอขอบตาก็รู้สึกผิด เขาก็ผิดที่เป็นคนซุ่มซ่ามทำเด็กนี่ตื่น เขาก็ควรดูแล ไม่ใช่ทิ้งขว้างแบบนี้สินะ

“รอบนี้ฉันจะสอนให้ แต่รอบหน้านายต้องอาบเองนะ”

“อืม”

.

.

.

...ชักจะรู้สึกคิดผิด...

ชายหนุ่มยืนกุมขมับตัวเองอยู่หน้ากล่องอาบน้ำที่มีเด็กหมีเปลือยอยู่ด้านใน

ย้ำอีกรอบ...เปลือย

นี่มาร์คลืมไปแล้วรึไงว่าตอนตรวจเช็คสภาพที่มันเกิดความผิดพลาดก็เพราะคุมตัวเองไม่ได้ตอนเห็นเด็กนี่เปลือยน่ะ!!

“มาร์ค นานจัง เค้าหนาว”

“เออๆ มาแล้ว หมีอะไรขี้หนาวกัน”

ขยี้ผมตัวเองเครียดๆก้าวเข้าไปในตู้อาบน้ำแคบๆ พยายามไม่มองร่างขาวนวลตรงหน้า มือก็ชี้ไปที่อุปกรณ์การอาบน้ำคร่าวๆ

“นั่นสบู่ ไว้อาบน้ำ ก่อนอาบก็ผสมกับน้ำแล้วก็ถูๆไปตามตัวให้ทั่ว จากนั้นก็กดปุ่มสีฟ้านั่นเปิดน้ำล้างตัว พอไม่รู้สึกลื่นแล้วก็ปิด เสร็จ”

“มาร์คทำไมไม่มองเค้าเลย โกรธเค้าเหรอ?”

...ไม่อยากสติเตลิดล่วงเกินสัตว์เลี้ยง โปรดเข้าใจมาร์ต้วนด้วย...

“มาร์คโกรธเค้าเหรอ”เด็กนั่นยังคงสงสัย ร่างเล็กกว่าเบียดร่างเข้ามาใกล้ มือนิ่มจับเอวเขาไว้และยื่นตัวเข้ามาจนผิวอกขาวนิ่มเสียดสีกับสีข้างเขา

...อย่างเบียดมาสิวะ! ใจจะแตก...

“มาร์ค”

เสียงแหบหวานถามขึ้นใกล้ใบหู ลมหายใจอุ่นๆรดเข้าที่ซอกคอ หน้าอกนุ่มเบียดเข้ามาจนจุดสีสวยที่ยังติดตรึงอยู่ในความทรงจำถูไถกับกล้ามแขนจนชักจะแข็งตึงขึ้นมาทิ่มเนื้อเขา ขนาดอ้าแขนไปไกลๆไม่ให้เด็กตัวขาวเข้ามาชิด มือก็ดันวาดไปลูบผิวสะโพกนุ่มนิ่มเข้าพอดิบพอดี (จนเกินไป)

“มาร์ค...เจ้านาย เค้าทำอะไรผิดเหรอ”

...จะผิดก็ตอนนี้ล่ะ ชิบ!!! ขึ้นจนได้!...

“เอ๊ะ มาร์ค ไอ้นั่นมัน...”

ไม่ต้องรอให้เด็กขี้สงสัยถามถึงบางสิ่งที่กำลังดันผ้าขนหนูขึ้นมา ชายหนุ่มก็รีบกดน้ำเปิดสาดใส่เจ้าเด็กตัวเล็กที่รีบหลับตาสะดุ้งผละตัวออกไปเพราะตั้งตัวไม่ทัน อาศัยจังหวะฉุกละหุกผละตัวออกมา ตะโกนบอกเจ้าเด็กหมีตัวขาวในห้องน้ำด้วยความหวังดี

“อาบน้ำให้สะอาดๆล่ะ”

...รอดหวุดหวิดนะน้องหมี...

กว่าเด็กนั่นจะอาบน้ำเสร็จ ชายหนุ่มก็ไปจัดการสาวเชือกจนเส้นอารมณ์กลับมาสู่สภาพปกติได้อย่างไม่มีใครเสียเอกราช รีบกลับมาเตรียมชุดนอน แง้มประตูห้องน้ำสอดมือเข้าไปวางเสื้อผ้าไว้ตรงข้างซิงก์ล้างหน้า

“เสื้อผ้าอยู่นี่นะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”

“ไม่มีฮะ”

มาร์คพยักหน้ารับรู้คนเดียว ปิดประตู ทรุดตัวลงนอนบนเตียง รอให้เด็กหมีเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพเปียกโชกแต่เสื้อผ้าก็ยังครบชิ้น จะว่าไปก็ลืมบอกให้เช็ดตัวก่อนใส่เสื้อนี่นะ... แต่วันนี้เขาเหนื่อยมากแล้ว อยากนอนจะแย่ พรุ่งนี้ค่อยสอนแล้วกัน

“มานอนนี่มา”

เด็กนั่นเดินเข้ามาปีนขึ้นเตียงมานอนข้างเขาอย่างว่าง่าย แถมยังเบียดกายเข้ามากใกล้จนแทบจะเกยอกคนเป็นเจ้านาย

...หมีสีน้ำตาลอะไรล่ะ ลูกหมาชัดๆเลยเถอะ...

มาร์คคิดในใจ จับศีรษะกลมมานอนพาดไว้บนแขน ยกมือลูบเรือนผมสีทองซีดนุ่มนิ่มด้วยความเพลินมือ เจ้าตัวเล็กก็เหมือนจะชอบหลับตาพริ้มส่งเสียงเครือในลำคออย่างพออกพอใจ มืออีกด้านสะบัดผ้าห่มคลุมกายพวกเขาไว้ โบกมือสั่งให้ระบบตอบรับอัตโนมัติให้หรี่ไฟลงเตรียมตัวเข้านอน แต่จู่ๆเด็กที่คิดว่าหลับไปแล้วก็เอ่ยเรียกชื่อเขาเบาๆ

“มาร์ค”

“หืม?”

“มาร์คชื่อมาร์ค แล้วเค้าชื่ออะไรอ่ะ?”

ถ้าเด็กลูกหมีนี่ไม่ทักขึ้นมา เขาก็จำไม่ได้หรอกว่ายังไม่ตั้งชื่อให้...มาร์คกลอกตาไปมา พยายามนักชื่อดีๆในสมอง พอดีก็หันไปเห็นหนังสือชีวประวัติเล่นหนึ่งบนโต๊ะข้างเตียง เขามองและอ่านออกเสียงคำแรกที่เห็น ณ ตอนนั้น

แจ็คสัน...นายชื่อแจ็คสัน”

“แจ็คสัน เค้าชอบชื่อนี้ ขอบคุณนะมาร์ค”แจ็คสันยิ้มทั้งที่เปลือกตาสีอ่อนกำลังโน้มลงและปิดกับขอบตาล่างทันทีที่จบประโยค ไม่ถึงนาทีให้หลังชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงลูกหมีสีน้ำตาลส่งเสียงฟี้เบาๆเป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว มาร์คหัวเราะในลำคอ เป็นเด็กที่น่าเอ็นดูจริงๆ

ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอด รั้งเอวคอดเข้ามาชิด กดจูบบนหน้าผากนวลเนียน กระซิบเบาๆส่งท้ายและหลับตาตามแจ็คสันไป

“ฝันดีนะ ลูกหมีของมาร์ค”










TBC?

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

GOT7 INDEX

RED ZONE #ฟิคหน้ามืด

[SF] TUAN Twins (MARKSONYIEN) *3P*