[SF] Pirate (MARKSON, BSON, JINSON, YUGSON)
Pirate
MARKSON,
BSON, JINSON, YUGSON
ในยุคที่ความรุ่งเรืองทางอารยธรรมเจริญมาถึงจุดที่มนุษย์เกิดความละโมบโลภมากอยากได้ซึ่งทรัพย์สินและอำนาจโดยไม่สนวิธีการ
ประเทศต่างๆส่งเรือของตนแล่นไปหาทรัพยากรอันมีค่าจากต่างแดน
ของมีค่ามากมายแล่นไปมาในทะเลกว้างและยุคของโจรสลัดก็ได้เกิดขึ้น ณ ตอนนั้นเอง
ตุ๊บ!
พลั่ก!!!
‘เศษสวะ! กูบอกให้เดินไปไงวะ!!! หูหนวกรึไง!’
.
.
เคร้ง!
‘เอ้า! กระดูกไก่ พวกกูกินหมดแล้วพอดี แทะไปแล้วกัน’
.
.
ปัง!!
‘ใครคิดจะหนีอีก!!! มึงอยากเป็นหนูท่อโดนยิงแบบอีคนนั้นก็เชิญ
กูจะสนองให้!!!”
เฮือก!!!
เปลือกตาบางกระพริบปรือตื่นขึ้นมาจากความฝันแสนเวียนหัว แต่พอตั้งสติก็รู้ว่ามันไม่ใช่ฝัน เพราะตอนนี้หัวเขาหมุนไปมาจริงๆ นอนนิ่งๆมองฝ้ากระดานอีกสองสามนาทีถึงจะระลึกได้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในเรือลำใหญ่ ไม่ได้อยู่ในห้องขังสกปรกแสนคับแคบนั้นอีกแล้ว
แจ็คสันกระพริบตาถี่ๆอีกสองสามที ลุกขึ้นจากเตียงเล็กขยี้เส้นผมสีทองบลอนด์ของตัวเองให้เข้าที่เข้าทางเดินโซเซไปล้างหน้าในอ่างรองน้ำในห้องเงยหน้ามองใบหน้าชุ่มน้ำของตัวเองในกระจกบานเก่าขึ้นฝ้า
ตากลมปรือลงครึ่งเดียวเพราะความง่วง จมูกรั้น ปากแดงอิ่มเอิบสีธรรมชาติ แก้มกลมดูนุ่มนิ่ม คนในกระจกดูน่ารักจนเขาไม่ชอบใจ หยิบเอาผ้าโพกหัวมารวบเส้นผมตัวเองขึ้นเผยใบหน้าคมหวาน ยิ้มเท่ห์ๆทำหน้านิ่งๆให้ดูโหดๆ พอใจแล้วก็พยักหน้าให้ตัวเอง เดินไปเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อกล้ามสีดำตัวหลวมและกางเกงขากว้างยาวถึงเข่า ยูนิฟอร์มประจำตัวเขาในเรือโจรสลัดลำนี้
แจ็คสันไม่ได้เป็นลูกเรือเพราะความเต็มใจ แต่เพราะถูกกัปตันเรือลำนี้ซื้อมาจากท่าเรือก่อนที่เขาจะถูกส่งตัวไปเป็นทาสให้กับพวกผู้รากมากดีในอังกฤษ เขาก็ดีใจหรอกนะที่ไม่ได้ถูกขายไปเป็นทาส แต่ไอ้หน้าที่ของเขาในเรือลำนี้นี่สิที่เป็นปัญหา…
ก๊อกๆ
“แจ็คสัน นายตื่นรึยัง? กัปตันเรียกนายไปพบน่ะ”
มือเล็กที่กำลังจัดที่นอนถึงกับชะงัก
และเผลอพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตอบกลับแบมแบมเด็กสื่อสารในเรือส่งๆ
ใส่รองเท้าเน่าๆเดินออกมาจากห้องพักของตัวเอง
อย่าถามนะว่าทำไมเขาถึงได้มีสิทธิพิเศษได้นอนห้องตัวคนเดียวทั้งที่เป็นแค่ลูกเรือ
ตามผมมาสิ แล้วจะรู้ว่าทำไม...
“โอ๊ะ แจ็คสัน~ นอนหลับฝันดีไหมคร๊าบบบ เมื่อคืนเห็นบอกว่าโดนหนักเหมือนกันนี่”คำแซวกวนประสาทของคนบนชั้นลอยของเรือทำให้ร่างเล็กต้องรีบคว้าผ้าเปียกแถวนั้นโยนใส่อย่างหงุดหงิดโมโหร้าย มือใหญ่คว้ามันไว้ได้ทันแถมยังหัวเราะพอใจที่ทำให้เขาโกรธได้อีกต่างหาก
“โถ่ แซวนิดหน่อยเอง วันนี้ก็แวะมาห้องเครื่องหน่อยนะคร๊าบบ”
“ฉันจะไม่ลงไปด้านล่างเด็ดขาดเลย”แจ็คสันตอบกลับทำหน้าอ๊บใส่ยูคยอม เด็กช่างเครื่องที่มักจะทำงานที่ห้องใต้เรือเพื่อตรวจดูระบบกลไกในเรือลำใหญ่ให้ทำงานได้อย่างปกติ เด็กนั่นอายุน้อยกว่าเขา แต่กลับตัวโตอย่างที่แจ็คสันไม่อยากยืนใกล้ แถมยัง…
“พี่ไม่ไป เดี๋ยวผมก็เข้าไปหาเองก็ได้”
“ไอ้!...”แจ็คสันกระทืบเท้าปึงปังเดินหนีเสียงหัวเราะของยุคยอมไปทางห้องที่ใหญ่ที่สุดของเรือ ตรงหน้าประตูไม้มียองแจเด็กดูแลเรื่องอาหารของเรือกำลังลำเลียงอาหารของกัปตันลงถาดพอดี
“โอ้ พี่มาพอดี ฝากเอาเข้าไปให้กัปตันด้วยนะพี่ ผมต้องไปทำอาหารให้พวกลูกเรือ...อ้อ...โชคดีนะพี่”เด็กตาตี่แก้มยุ้ยนั่นหันมาอวยพรอย่างไม่จำเป็นและเดินออกไป แจ็คสันมองถาดอาหารในมือตัวเองก็เห็นลางว่าจะต้องได้กินข้าวในห้องกัปตัน
...นับว่าเป็นเกลียด…
แบะปากเบาๆ เคาะประตูรอฟังเสียงอนุญาติแล้วเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องที่มืดสลัวเพราะม่านปิดหน้าต่างรับแสงจนหมด
ร่างสูงกำยำนั่งหันหลังให้เขาในห้อง แม้จะมองจากด้านหลังก็ยังเห็นมัดกล้ามเนื้อแข็งแรงเรียงกันอย่างสวยงามร่างนั้นใส่แค่กางเกงขายาวตัวเดียว ใบหน้าคมเข้มเหลียวกลับมามองเขาด้วยความแปลกใจเล็กน้อย ดวงตาเรียวคมกริบ ใฝสองจุดบนเปลือกตาซ้ายนั่นดูมีเสน่ห์น่าจับจ้อง ใบหูแทบจะถูกกลืนไปด้วยตุ้มหูและห่วงเงินเล็กๆน้อยๆ
...กัปตันเจบี...
“ฉันนึกว่าจะช้ากว่านี้ซะอีก”
“ก็กัปตันเรียกผมนี่ ช้าได้เหรอ?”แจ็คสันบ่นอุบอิบในลำคอ วางถาดอาหารลงบนโต๊ะกลมกลางห้อง ถอยออกมายืนเกือบติดประตู มองดูชายหนุ่มผู้เป็นใหญ่ที่สุดในเรือลุกจากเตียงมานั่งบนโต๊ะ นิ้วแกร่งจุ่มมันขึ้นมาชิมและแย้มยิ้มเหยียดพอใจ
“อืม รสชาติดี”
แจ็คสันยืนอยู่ที่เดิมมองดูเจบีเริ่มทานอาหารของตัวเอง มือเล็กกำกางเกงไว้แน่น ไม่แน่ใจว่าตัวเองควรทำอะไรระหว่างนี้ ตากลมเลิกลั่กขึ้นเรื่อยๆเมื่อเห็นว่าเจบียัดข้าวคำสุดท้ายเข้าไปในปาก
...นี่กินหรือยัดวะ!...
“นายนี่มันโง่จริงๆ...มานี่แล้วถอดกางเกงออก ถึงเวลาทำหน้าที่ของนายแล้ว”
แจ็คสันยังยืนสั่นอยู่ที่เดิมจนเจบีชักสีหน้าหงุดหงิด คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกรีบทำตามคำสั่งของอีกคน ปลดเกงเกงขาสั้นออกเหลือแค่เสื้อกล้ามตัวเดียว เดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มกัปตันเรือที่มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าและหยุดอยู่บนส่วนสะโพกขาววับแวมใต้เสื้อกล้ามตัวโคร่ง
ชายหนุ่มดึงตัวอีกคนเข้ามานั่งแยกขาบนตัก ใบหน้ากลมซุกอยู่บนไหล่ ในท่านี้ทำให้ส่วนร่องก้นแนบกับส่วนนั้นของเจบีอย่างพอดิบพอดี เจบีได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัว ไม่แน่ใจว่าแจ็คสันกำลังกลัวหรือกำลังอายกันแน่ มือแกร่งเอื้อมลูบไล้เรียวขาขาวและใต้เสื้อกล้ามตัวบางปลุกปั่นอารมณ์ร่างเล็กให้ลุกโชน นวดเฟ้นแต่ละส่วนอย่างมันมือจนผิวเนื้อขาวๆขึ้นรอยแดง แจ็คสันกัดฟันไม่ส่งเสียงครางรู้สึกดีแม้ส่วนนั้นของตัวเองจะชูชันดันกล้ามท้องแข็งของคนที่เขานั่งอยู่บนตักแล้วก็เถอะ
“หึ รู้สึกไวเหมือนเดิม”เจบีก้มมองดูทำเอาแจ็คสันหน้าแดงวาบ ยิ่งนี้วแกร่งแตะมันเพื่อหยอกล้อก็ยิ่งทำให้ฟันกระต่ายขาวขบปากตัวเองแน่นขึ้น “ตรงนี้ของนายน่ารักชะมัด ซื่อตรงยิ่งกว่าปากสวยๆนี่ซะอีก”
ริมฝีปากเรียวกร้านกดลงบนกลีบปากสีแดงจัดนุ่มนิ่มหนักๆ ส่งเรียวลิ้นเข้าไปทักทายโพรงปากเล็กดูดดึงจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบน่าอาย ในขณะที่นิ้วแกร่งก็ล้วงเข้าไปแยกกลีบเนื้อขาวนิ่มตรงด้านหลัง ปลดกางเกงตัวเองลงปล่อยลูกชายออกมา จับทาบกับร่องผ่านปากทางที่ยังไม่โดนเตรียมพร้อม ผละริมฝีปากออกมาเอ่ยกับคนบนตักดุๆ
“อุตส่าห์ให้เวลาเตรียมตัวเอง อยากเจ็บตัวมากนักรึไงนายน่ะ”
“ก ก็ผมไม่รู้ อึก กัปตัน อย่าเพิ่ง อื้อ! อย่าดันมันเข้ามา”
แจ็คสันร้องห้ามเชิดหน้าขึ้นพยายามเขย่งตัวหนีท่อนเอ็นแข็งที่กำลังดุนดันตรงปากทางเข้าอย่างพยายามจะฝ่ากลีบเนื้อสีสวยเข้าไปรุกล้ำด้านใน แต่จะยังไงสุดท้ายเจบีก็จับเชิงกรานเขาและดันมันเข้ามาในร่างอยู่ดี แต่เพราะไม่ได้เตรียมพร้อม ผนังเนื้อด้านในเลยปริแตก โลหิตสดๆไหลออกมากลายเป็นน้ำหล่อลื่นในช่องทางรัดแน่นจนมันเข้าไปลึกจนสุดโคน
“ฮะ....อ๊า…”
เสียงแหบพร่าร้องเบาๆในลำคอ มือเล็กกำเสื้อตัวเองแน่นขณะที่ร่างกายโดนเจบีจับให้โยกขึ้นลงบนส่วนกลางลำตัวของชายหนุ่ม ใบหน้ากลมแดงระเรื่อและบิดเร่าเพราะความทรมาน ความแสบสันในช่องทางด้านหลังตีตื้นขึ้นมาพอๆกับความเสียวกระสันที่โดนกัปตันเรือมอบให้ เข่าเขากระแทกและถูไปกับพื้นม้านั่งจนมันแดงก่ำไปหมด
“อ้อ นายยังไม่ได้กินข้าวเลยนี่นา”เจบีเอ่ยขึ้น ยกยิ้มเหยียดไม่น่าไว้วางใจ มือแกร่งด้านหนึ่งละจากก้อนก้นแน่นหยิบขนมปังยาวขึ้นมากัดไว้ แจ็คสันส่ายหน้าไม่เอา ร้องครางขณะขยับสะโพกขึ้นลงเอง ตาโตปรือมองปลายขนมปังที่โดนยื่นมาจนชนปาก อ้าปากงับเสียให้หมดเรื่องหมดราวและก็ต้องรู้ว่าคิดผิด เมื่อมือแกร่งโอบสะโพกเขากอดและยกตัวเขาขึ้นลงรัวแรง ท่อนแข็งในร่างกระแทกผนังเนื้อด้านในจนรู้สึกเจ็บแสบแต่ก็วาบหวามเพราะกามอารมณ์ แจ็คสันกัดขนมปังบดไว้ในโพรงปากค้างไว้ หลับตาปี๋หูก็ได้ยินเสียง
“กินสิ นี่คืออาหารของนายตลอดทั้งวันนี้ ถ้าฉันเสร็จนายก็ห้ามกินอีก”
ตาโตปรือมองกัปตันเรือสลับกับขนมปังในมือของอีกฝ่าย เจบียิ้มและกัดมันไว้อีกครั้ง ส่วนมือก็เข้าไปจัดการควบคุมจังหวะอีกครั้ง บีบขย้ำแก้มก้น แจ็คสันร้องอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ พยายามจะกัดขนมปังในปากของอีกฝ่ายแต่เจบีก็หลบหลีกไปมากลั่นแกล้ง ร่างเล็กส่ายหน้านำ้ตาคลอเบ้าน่าสงสาร
“กัปตัน ผมกินไม่...อือ ไม่ได้”
เจบีเลิกคิ้วกัดขนมปังในปากเคี้ยวกินเอง เหลือเพียงส่วนเล็กๆประกบปากให้เรียวลิ้นเล็กได้คืบคลานเข้ามาตวัดกลืนลงคอราวกับแม่นกกำลังกินป้อนอาหารลูกน้อยอย่างไรอย่างนั้น
“อ๊า!”ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเกร็งร่างจับบ่าแกร่งรับแรงฉีดจนภายในช่องทางเติมเต็มไปด้วยน้ำนมสีขาวข้นที่ปะปนกับเลือดสีสด แจ็คสันหอบหายใจแรงยันมือตัวเองบนอกแข็งเพื่อพยุงกาย หรี่ตามองกัปตันคนโหดที่กำลังยิ้มแสยะนึกสนุกอะไรบางอย่าง มือแกร่งควานหาอะไรบนโต๊ะกุกกัก คว้าสิ่งนั้นได้ก็ยกตัวร่างเล็กขึ้นยัดสิ่งนั้นเข้าช่องทางศวาส กระซิบข้างใบหูแดงก่ำ
“วันนี้ก็ไปหานมกินเล่นเองแล้วกันนะ”
ร่างเล็กหอบสังขารเหนื่อยล้าของตัวเองออกมาจากห้องกัปตัน สภาพดูเยินกว่าเมื่อเช้านิดหน่อย...
นี่แค่ตอนเช้านะ...
แจ็คสันถอนหายใจเดินช้าๆไปบนเรือลำไม่ใหญ่ไม่เล็กนี้ ดวงตากลมมองซ้ายมองขวาระแวดระวัง ถึงหน้าที่เขาจะเป็นคนคอยรองรับเรื่องอย่างว่าให้กับคนในเรือ แต่ทางที่ดีคือพยายามหลบเลี่ยงจะดีที่สุด เพราะหากพวกนั้นร้องขอ เขาก็ไม่มีสิทธิปฏิเสธ เจบีถึงได้มีห้องไว้ให้เขาได้คอยหลบซ่อนและพักตัวนั่นไง
...เป็นความใจดีเล็กๆน้อยๆจากกัปตันที่คอยรังแกเขาในทุกๆเช้าคนนั้นนั่นแหละ...
คิ้วขมวดแน่นด้วยความอึดอัด อยากเอาสิ่งคั่งค้างออกจะบ้า กำลังจะเดินกลับห้อง อย่างน้อยถ้าไม่ได้กินอะไรก็ขอนอนพักหน่อยแล้วกัน
โครกกกก
มือเล็กลูบท้องไปมา ความคิดที่จะกลับห้องไปนอนถูกแทนที่ด้วยการไปโรงครัวเพื่อแอบจิ๋กอะไรเล็กๆน้อยๆกินประทังชีวิตตัวเองจะดีกว่า เท้าเปล่าเดินเลียบกาบเรือมองทะเลใสรอบด้านด้วยความรู้สึกหวาดกลัวลึกๆ ไม่ว่ากี่ครั้งที่มองเขาก็ยังไม่ไว้ใจทะเล ยังไงก็ไม่อยากไว้ใจ แม้มันจะสวยงามเพียงใด แต่ก็ไม่มีทางรู้ว่าใต้นั้นมันมีอะไรบ้าง
ส่ายหน้าผลักความคิดน่ากลัวออกจากหัว เดินไปชั้นใต้เรือที่เป็นแหล่งรวมทุกอย่างตั้งแต่ห้องครัว ห้องพักและห้องพยาบาล ตากลมมองซ้ายขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจก็วิ่งลิ่วไปหยุดอยู่หน้าประตูครัวกำลังจะผลักเข้าไปก็ชะงักเพราะได้ยินเสียงเจบีอยู่ด้านใน มือเล็กหุบเข้าหาตัว รู้แล้วว่าเข้าไปก็คงไม่ได้อะไรออกมากิน เผลอๆจะโดนทำโทษจนลุกไม่ขึ้นเอา พลันสายตาก็เห็นประตูบานเล็กๆเปิดค้างไว้ ยิ้มกระหยิ่มย่องเข้าไปในห้องนั้นที่จำได้แม่นว่าเป็นห้องเก็บวัตถุดิบของห้องครัว หรี่ตาปรับสภาพกับความมืด คว้าเอาแอปเปิลลูกหนึ่งในถังขึ้นมาลูบๆเช็ดกับเสื้อกล้าม อ้าปากกำลังจะกัดลงไปอยู่แล้วเสียงหนึ่งก็ดึงขึ้นมาจากด้านหลังเสียก่อน
“ขโมยกินของครัวรึไง”
“ไอ้ยูค!! มาเงียบๆตกใจหมด นึกว่ากัปตันมา”
“อ้าว ก็ผมไง แล้วพี่กำลังจะทำอะไร แอบกินเดี๋ยวก็โดนยองแจเอามีดฉะ.......”
โครกกกกกกกกกกกก
“...”
“....อุ๊บ! 555555555555 นี่หิวเหรอ? เข้าห้องกัปตันไปเมื่อกี้ไม่ได้ไปกินข้าวกันเหรอ”ไอ้เด็กยักษ์ส่งสายตาล้อเลียนมาให้ทำเอาคนตัวเล็กเขินมากกว่าเดิม
“เรื่อง!”แจ็คสันด่าเข้าให้ ปากอิ่มแดงยู่เข้าหากัน มือน้อยลูบท้องตัวเองป้อยๆ ทำหน้าเหมือนเด็กโดนลงโทษไม่ให้กินขนมอย่างน่าเอ็นดู แต่ไอ้คนมองมันกลับอยากดูเอ็นเสียมากกว่า มือหยาบจับข้อมือฉุดแจ็คสันออกมาจากห้องเก็บ อาหารเดินเข้าห้องเก็บอุปกรณ์ทั่วไปใต้ท้องเรืองของพวกห้องเครื่องที่ไม่ค่อยมีคนอยากเข้ามา เพราะมันทั้งอับและมืดกล่องเก็บอุปกรณ์ขนาดสูงเท่าเอววางเรียงรายซ้อนกันอยู่ด้านใน ยูคยอมผลักอีกคนเข้าไปในนั้น
“เห้ย! ทำอะไรวะ”แจ็คสันร้องพลางถอยหลังไปติดกล่องลังไม้ขนาดใหญ่ด้านหลัง มองเจ้าน้องเล็กตัวโตที่ย่างสามขุมเดินเข้ามาใกล้เกรงๆ
...คือตัวมันใหญ่อ่ะ แล้วแบบสู้แรงมันไม่ได้อ่ะ...
“ผมว่าพี่ไม่ควรถามคำถามนี้นะ คนบนเรือนี้มีใครที่ไม่เคยผ่านพี่บ้างรึไงยกเว้นพวกเด็กๆน่ะ”
“อึก...”สะอึกจุกใหญ่เพราะคำพูดแสนจะตรงของยูคยอม
“ผมจะให้อาหารส่วนของผม แต่พี่ต้องช่วยผมนะ รู้สึกจนปวดไปหมดแล้ว”
แจ็คสันก้มหน้าไปมองอะไรบางอย่างที่กำลังดุนดันกางเกงผ้าจนเห็นขนาดได้อย่างชัดเจน
“แกไปมีอารมณ์กับเครื่องจักรเดินเรือหรือยังไงวะ!
ทำไมมันขึ้นซะขนาดนั้น”
“เพราะพี่นั่นแหละ”ยูคยอมโบ้ยความผิดให้ทันที “เดินไปเดินมายั่วชาวบ้านเขาไปทั่วจะไม่ให้อยากกดได้ยังไง
เสื้อกล้ามนั่นแทบจะไม่ปิดอะไรเลยด้วยซ้ำแถมกางเกงขาสั้นนั่นอีก ไม่รู้รึไงว่ามันน่ากิน”
“กูไม่ได้ยั่ว!”
“เออ ไม่ได้ยั่ว แต่ผมมองพี่แล้วอารมณ์ผมขึ้น รับผิดชอบด้วยแล้วกัน”เด็กหนุ่มร่างสูงพูดง่ายๆเชิงรำคาญ ก้าวเข้ามาพรวดเดียวเกี่ยวเอวผอมเข้าไปชิดร่าง มือเล็กดันหน้าท้องแข็งเป็นลอนไว้ไม่ยอมให้อะไรบางอย่างใต้กางเกงนั่นได้ถูไถสะโพกเขา แต่ก็นั่นแหละ ต้านได้ไม่นาน สุดท้ายก็โดนเด็กบ้าดึงกางเกงจนเกือบขาด ได้ยินเสียงแคว้กใหญ่จากเสื้อกล้ามตัวโคร่งเล่นเอาน้ำตาปริ่มขอบตา
“เสื้อกู!!!”
“เอาน่า เสร็จแล้วเดี๋ยวเอาเสื้อผมไปใส่แทนแล้วกัน”
แจ็คสันร้องเหวอ รู้สึกตัวลอยได้กะทันหัน โถมตัวกอดหัวคนอุ้มไว้แน่นเพราะความกลัว นิ้วสั้นจิกเข้าเส้นผมสีเข้มของยูคยอมแน่น ขาสั้นดิ้นปัดๆอย่างดื้อรั้น
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย! อย่าตี”
“ก็พี่ดื้อผมก็ต้องตีสิ”มือใหญ่ตีแก้มก้นนุ่มเด้งเป็นคลื่นนั่นอีกรอบด้วยความหมั่นเขี้ยว คนอะไรนุ่มนิ่มน่ากัดไปหมดทั้งตัว วางคนตัวเล็กลงบนกล่องไม้ใหญ่กล่องหนึ่ง ดันร่างนั้นลงนอนกับพื้นไม้ ตรึงมือเล็กติดกับขอบกล่อง โน้มร่างขึ้นคร่อม กดจูบไล้เลียข้างลำคอขาวผ่องกลิ่นหอมอ่อนๆ เลื่อนลงมาจูบเบาๆบนหน้าอกนุ่ม เลียปากมองจุดสีสวยตัดกับผิวขาว ก้มหน้าครอบปากลงดูดลากปล่อยจนส่งเสียงป๊อปให้ร่างเล็กสะดุ้งไหวเบาๆ ตุ่มไตอีกด้านก็สะกิดหยอกล้อบดขยี้เรียกเสียงครางหวาน มือแกร่งยกขาขาวด้านหนึ่งขึ้นมองเศษผ้าที่ถูกยัดเข้าปิดช่องทางนั้น เงยหน้ามองแจ็คสันที่เอียงใบหน้าหลบด้วยความอับอาย
“งั้นของกัปตันก็ยังอยู่ในนี้น่ะสิ? อ่า ดีเลย ตอนนี้รูพี่คงนุ่มพร้อมให้ผมเข้าไปแล้วสินะ”
“หุบ...ปาก...”แจ็คสันกลั่นเสียง อายก็อาย โกรธก็โกรธ หลับตาแน่นไม่กล้ามองตอนยูคยอมดึงเศษผ้าออกไป ของเหลวสีขาวของเมื่อเช้าถูกขับออกมาเปรอะร่องลึก และบางสิ่งที่เขากลัวก็ถูกดันเข้ามาแทบจะในทันที
“เอื้อก! ยูคเดี๋ยว! มันฉีก เจ็บ เจ็บ!”
“เอ้า! ก็ไม่รีบบอกผม”ยูคยอมสบถเสียงเบาก้มมองเลือดอุ่นๆที่กำลังไหลจากปากทางเข้า “ขอโทษนะพี่” เด็กหนุ่มจับเชิงกรานแจ็คสัน ขยับตัวไถลร่างลงลึกในช่องทางแสนรัญจวน ผนังเนื้อนุ่มแฉะบีบรัดจนแทบอยากจะเสร็จเข้าไปเติมเต็มจะแย่ โยกสะโพกบดเบียดช้าๆและกระแทกแรงๆจนร่างเล็กหลังลอยจากกล่อง ส่วนเชื่อมต่อส่งเสียงตับๆดังก้องห้อง
“อ๊า...เจ็บ เบาหน่อยดิวะ!”
แจ็คสันร้องโวย กัดปากตัวเองแน่นข่มความเจ็บที่แล่นริ้วขึ้นมาจากสะโพก ไหล่และหลังที่แนบกับกล่องเสียดสีกับพื้นไม้หยาบซ้ำๆ เจ็บจนมั่นใจว่ายังไงหลังเขาก็ต้องได้แผล โดนเอาบนกล่องไม้นี่บัดซบที่สุดแล้ว…
ไอ้เด็กบ้านี่ก็สนุกเอากูจนไม่ได้สนกูเลย ก้นกูถูไม้จนแสบแล้วเนี่ย!!!
“พี่แม่งน่าเอาเหมือนเดิม อื้ม รัดแน่นดีชะมัด”เด็กหนุ่มส่งเสียงพึงอกพึงใจกับช่องทางรัดแน่น ดึงออกและสวนเข้าสนุกสนานไม่ได้สนใจคนรับที่เจ็บจนแทบจะถีบมันกระเด็นได้อยู่แล้ว
“ห่า! เอากูลงไปนะ! อ๋า! ยูค กูเจ็บหลัง”
“พูดเพราะๆก่อนสิ”
ตากลมเหวี่ยงมองอีกคนอย่างโคตรไม่พอใจ เห็นกูทำอะไรไม่ได้นี่ก็แกล้งกูจังโว้ยยย กัดปากฝืนใจส่งเสียงแหบๆออกไปอย่างโคตรจะเสแสร้ง
“ยูค แจ็คเจ็บ หลังแจ็คถลอกหมดแล้ว อย่าแกล้งแจ็คเลยน้า~”
“อ่า ฟังแล้วดูยั่วชะมัด ได้เลยที่รัก กอดผมแน่นๆนะ”แจ็คสันร้องเหวอตอนโดนไอ้เด็กยักษ์อุ้มขึ้นกอดไว้ ผ้าคาดผมหลุมร่วงลงไปปล่อยเส้นผมนุ่มพริ้วคลายเกลียวลงมา มือหยาบรองอยู่ใต้สะโพก บดเบียดขยับตัวเองเข้าหาช่องทางแฉะไม่หยุดหย่อนจนร่างเล็กสั่นคลอนส่งเสียงครางหวีดดังๆ ขาขาวรวบสะโพกแกร่งยึดไว้เป็นหลัก ใบหน้าซบลงบนไหล่กว้างขบกัดระบายความหวามในช่วงสัมพันธ์สุดท้าย ส่วนหน้าถูกับหน้าท้องแกร่งปลดปล่อยเปื้อนตัวคนอายุน้อยกว่า
ยูคยอมเดินไปพิงหลังร่างเล็กกับผนังเรือสอดแทรกเข้าไปหนักๆ ครางเสียงต่ำในลำคอ ปลดปล่อยหยาดความใคร่เติมเต็มช่องทางสีหวานไหลทะลักออกมาหยดย้อยลงมาตามซอกขาขาวและหยดลงบนพื้นไม้
ยูคยอมกอดร่างเล็กอุ้มมาวางไว้บนกล่องใบเดิม ถอนตัวออกดึงอดีตเสื้อกล้ามของแจ็คสันขึ้นมาเช็ดคราบไคลบนต้นขาอวบให้ แต่ไม่ได้ล้างส่วนข้างในออก ถอดเสื้อยืดสีขาวมอๆของตัวเองใส่ให้ร่างเล็กที่นั่งหอบอยู่ มองแล้วก็แอบหัวเราะไม่ได้ ก็เสื้อมันตัวใหญ่โคร่งจนกลายเป็นชุดกระโปรงซะอย่างนั้น แต่ก็พอดีปิดหน้าขาขาวล่ะนะ
“อ่ะ ตามที่สัญญาครับ เอาอีกไหมล่ะ? ผมจะไปขโมยมาให้ อ้อ แต่หนึ่งก้อนหนึ่งรอบนะ”
แจ็คสันเงยหน้ามองฉับ ฉวยเอาขนมปังในมือเด็กหนุ่มมาไว้อย่างกลัวอีกคนจะเปลี่ยนใจ
“ฝันไปเถอะไอ้หมีบ้ากาม!!!”แจ็คสันร้องลั่น กัดขนมปังที่ได้มาไว้ในปาก รูดกางเกงขึ้นมาสวมไม่สนว่ามันจะเปียกชุ่มหรือขาดวิ่นเพียงใด พยุงตัวลงจากกล่องเดินกะเพลกๆออกไปให้เร็วที่สุด
...เพื่อขนมฟังชิ้นเดียวกูต้องทำขนาดนี้เลยรึไงวะ! โอ๊ยยย เจ็บแผลถลอกชะมัดเลย จะทำแผลเองก็ไม่เห็นหลังตัวเองอีก นี่ต้องไปหาหมอจูเนียร์จริงๆนะเหรอ?...คิดถึงเรื่องนี้แล้วก็เซ็ง ไม่ไปได้ไหววะ แต่ก็แสบอ่ะ...
ฮรือออออ T^T เหนื่อยแล้วนะ ตัดฉากไปตอนเย็นเลยไม่ได้เหรอ
“เด็กดื้อไปโดนใครแกล้งแรงๆมาละครับเนี่ยหืม?”ประโยคชวนอบอุ่นใจมาจากชายหนุ่มในชุดสบายๆ ใบหน้าหล่อเหลาบางมุมก็คล้ายแมว ดวงตาเรียวรีจ้องมองมาที่เขา ก่อนที่ริมฝีปากบางนั่นจะแย้มยิ้มกว้าง
ห้องพยาบาลเป็นห้องเล็กๆแต่มีเตียงพยาบาลไว้สำหรับการตรวจคนบาดเจ็บ จูเนียร์เป็นหมอประจำเรือ ชอบขลุกอ่านหนังสืออยู่ในห้องนี้เป็นประจำ ถ้าไม่ป่วยก็แทบจะไม่ได้เห็นใบหน้าคุณหมอคนนี้เลย แต่สาบานว่าแจ็คสันเห็นบ่อยจนเอียน...
“ไอ้ยูคมันยกผมขึ้นลังไม้...จูเนียร์ดูหลังให้หน่อย”
“มาสิ นอนคว่ำบนเตียงนะ”
แจ็คสันเดินขึ้นเตียงอย่างว่าง่าย ถอดเสื้อตัวใหญ่ของยูคยอมออกนอนคว่ำหน้าลงให้จูเนียร์ดูแผลให้ นิ้วเย็นๆแตะบนหลังเนียนขาวลูบปลายนิ้วไปตามที่ต่างๆ ไม่รู้ว่าแจ็คสันคิดไปเองรึเปล่า แต่เขารู้สึกเย็นหลังแปลกๆนะ...
“อืม ไม่มากเท่าไหร่ แต่มีเสี้ยนเข้าไปในแผลด้วย เดี๋ยวเอาออกให้นะ”
แจ็คสันอ้าปากค้างสบถสาปแช่งไอ้เด็กยักษ์ในใจ ทำกูเจ็บตูดแล้วยังสร้างบาดแผลบนตัวกูอี๊ก!!! ไอ้เด็กนรก!!!
ขณะที่มือกำลังทำแผลถลอกให้เด็กดื้อ ดวงตาเรียวเหมือนแมวก็มองผิวขาวเนียน เอวเล็กคอดและสะโพกอวบอั๋นของคนบนเตียง เขาชอบตอนแจ็คสันนอนแบบนี้เพราะมันจะทำให้สัดส่วนในร่างชัดเจนโดนเฉพาะก้นนูนแน่นนั่น
เบนมามองแผลที่กำลังทำก็คิดคาดหัวยูคยอมไว้ในใจ แผ่นหลังขาวๆของแจ็คสันเป็นส่วนที่เขารักมันมากรองจากสะโพกอวบ มาบังอาจให้มีรอย ประเดี๋ยววอนจะโดนนำ้ยาล้างแผลราดหัวเข้าให้แล้วไหมล่ะ ยูคยอม
จริงๆแผลมันไม่ได้ลึกขนาดนั้น เอาเศษไม้ออกทำแผลและติดผ้าก็อตแป๊ปเดียวก็เสร็จแล้ว แต่ที่ไม่ยอมให้แจ็คสันลุกขึ้นสักทีเพราะเขากำลังจะเก็บค่ารักษาต่างหากล่ะ แจ็คสันก็รู้ดีเด็กนั่นถึงได้นอนนิ่งเอาหน้าซุกหมอนอยู่ในตอนนี้นั่นไง มือหยาบกดเอวเล็กลงลองดูปฏิกิริยา แจ็คสันสะดุ้งและร้องครางออกมาเสียงเบา
“เจ็บมากเหรอ?”
“ไม่อ่ะ...แต่...อืม ก็นิดหน่อยฮะ”แจ็คสันอ้อมแอ้มตอบ จูเนียร์อาศัยจังหวะเผลอดึงกางเกงขากว้างลงไปกองไว้บนข้อพับขา แหวกก้อนกลมนิ่มมองมองดูช่องทางสีหวานเปรอะคราบขาวขุ่น
“แล้วในนี้ต้องให้พี่รักษาให้รึเปล่านะ...อืม วันนี้ดูยังไม่ช้ำนะ ทำแรงหน่อยได้ไหม? วันนี้แจ็คสันดูน่ารักมากเลย”
“สงสารผมเถอะ...มันมีเลือดออกด้วยนะจูเนียร์ ขอร้องละฮะ”
น้ำเสียงขอร้องน่าสงสารเรียกรอยยิ้มเอ็นดูแก่คนได้ยิน
...เป็นเด็กที่เข้มแข็งมากเลยนะครับ แจ็คสัน...
“ขอเก็บค่ารักษาล่ะนะครับ”
หมอประจำเรือขึ้นมาคร่อมร่างจากด้านหลัง ได้ยินเสียงเข็มขัดและเสียงรูดซิป ตามมาด้วยนิ้วเรียวที่ส่งเข้าไปตรวจดูช่องทางก่อนมีสัมพันธ์ เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ทำให้แจ็คสันบาดเจ็บมากกว่าที่เป็นอยู่ ก่อนส่งตัวเองเข้ามาในร่างเล็กทีละนิดๆพอให้แจ็คสันได้ปรับตัว น้ำในช่องทางหล่อลื่นให้เข้ามาง่ายขึ้น สะโพกอวบเผลอกระดกรับเพราะความกลัวเจ็บ นิ่วหน้าอัดอัดไปทั้งช่องท้อง จิกหมอนระบายความเจ็บแสบที่แล่นขึ้นมาตอนที่ชายหนุ่มถอนตัวออกและสอดประสานเข้ามาในจังหวะเนิบนาบ เซ็กซ์กับจูเนียร์เหมือนกำลังนอนอยู่บนเรือที่กำลังแล่นอยู่บนก้อนเมฆปุยนนุ่น เบาหวิวแต่ก็เสียวกระสัน เผลอส่งเสียงครางรู้สึกดีออกไป
“อ๊ะ อ๊า จูเนียร์ อืม”
พอเห็นว่าร่างเล็กเคลิ้มแล้ว ชายหนุ่มก็ยิ้มกระหยิ่มรวบเอวเล็กขึ้นมาบังคับกอดคอไว้ รัดเอวอวบส่งสะโพกเสยเข้าช่องทางแน่นหนัดเปียกแฉะกระทบผนังนุ่มลึก แจ็คสันส่งเสียงจุกซบบนไหล่กว้าง มือก็กำเสื้ออีกคนไว้แน่นปล่อยร่างให้อีกคนเป็นคนควบคุม
เนื้อสะโพกตบเข้าหากันคลอไปกับเสียงเปียกแฉะน่าอับอาย แจ็คสันครางหอบเหนื่อยอ่อน เรี่ยวแรงที่มีเริ่มหายไปเพราะความหิวและโดนรังแกซ้ำๆมาตั้งแต่เช้า ตาโตปรือปรอยแทบจะหลับลงให้ได้ จูเนียร์มองและยิ้มอย่างเอ็นดู ประคองร่างเล็กลงนอนบนเตียง จับเรียวขาขาววางพาดไหล่ โยกส่งร่างเข้าไปหนักๆปลดปล่อยหยาดไอปราถนาจนหมดสิ้น
“ฟี้…”
ดวงตาเรียวมองแจ็คสันที่ส่งเสียงกรนเบาๆ ใบหน้าน่ารักดูเหนื่อยล้า ถอนกายออกกดจูบบนหน้าผากมน เริ่มลงมือทำความสะอาดร่างกายให้อีกคนอย่างแผ่วเบา และปล่อยให้พักผ่อนอยู่ในห้องตัวเอง
.
.
.
“เด็กคนนี้ราคาเท่าไหร่?”
“ห้าสิบดอล”
“เอาไปร้อยดอล”
.
.
.
“พวกลูกเรือเวลาอยู่ในทะเลนานๆจะกระหายอยากในกำหนัดมาก นายจะต้องคอยดูแลพวกนั้น ห้ามปฏิเสธถ้ามีใครร้องขอ แต่ถ้าจะหลบเลี่ยงก็ทำได้”
“ทำหน้าที่ของนายให้ดีล่ะ โชคดี เด็กน้อย”
.
.
.
ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินแล้ว จูเนียร์ไม่อยู่ในห้อง แจ็คสันหิวจนไส้กิ่ว ลุกขึ้นเบ้ปากเจ็บร้าวไปทั้งสะโพก หยิบกางเกงสภาพไม่ต่างจากผ้าเช็ดเรือขึ้นมามองเซ็งๆ โยนมันลงถังขยะ เหลียวหาเอาเสื้อตัวโคร่งของยูคยอมมาสวมใส่ ดึงๆปิดๆต้นขา หอบเอาของกินบนโต๊ะทำงานของจินยองขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน เดินกะเพลกๆออกไปจากห้อง ระหว่างทางน้ำตาก็ไหลออกมาเงียบๆ ไม่รู้ว่าร้องไห้ทำไมเหมือนกัน ทั้งที่ผ่านจุดที่ควรเสียใจหรือน้อยใจในโชคชะตามานานแล้ว เขามาไกลเกินไป ไกลจนไม่อาจหวนกลับได้แล้ว
“อ้าว แจ็คสัน”
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก สองขาออกวิ่งทันทีโดยสัญชาติญาณ เขาเหนื่อยมากและไม่ต้องการจะรับฟังคำขอร้องของใครอีก ได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาจากด้านหลังไกลๆแต่มันไม่ทำให้แจ็คสันหยุดวิ่ง ไปหยุดหอบแฮ่กอยู่บนดาดฟ้าเรือ ท้องฟ้ายามเย็นส่องกระทบผิวน้ำประกายส้มวาววับงดงาม ใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว ทุกคนควรจะไปอยู่ที่ห้องทานอาหาร ยังไม่อยากกลับห้องกลัวจะมีใครไปยืนดักอยู่อีก ในที่สุดก็มองไปที่เสากระโดงเรือที่มีชานพักเล็กๆที่กั้นสูงจนบังเขาได้มิด ตัดสินใจปีนมันขึ้นไปแม้ว่าจะยังเจ็บอยู่ก็ตาม
ปีนไปก็เสียววาบไป คือกางเกงก็ไม่ได้ใส่ไง ลมพัดมาทีก็ชายเสื้อก็ปลิวที เรียกว่าใครเดินขึ้นมาบนเรอตอนนี้ก็คงเป็นตากุ้งยิงกับเป็นแถบ ลำบากแทบตายกว่าจะปีนขึ้นไปถึง แต่พอปีนไปได้จนสุดก็แทบอยากจะร้องไห้
...ลืมไปว่ามีไอ้บ้าคนหนึ่งมันชอบมานั่งส่องแผนที่อยู่ตรงนี้นี่หว่า...
ใบหน้าหล่อเหลาสวยในบางมุมหันมองเขานิ่งๆอย่างไม่ชอบใจนักที่พื้นที่แสนสงบของตัวเองจะมีใครคนอื่นร่วมเข้ามาแบ่งปันด้วย
“ขึ้นมาทำไม”
“ขอหลบมากินข้าวหน่อยน้าาา~ งือ ผมหิวมากๆเลย”
“ไม่...ลงไปเดี๋ยวนี้”มาร์คปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ต้นโหนเรือคนเก่งผู้รักโลกส่วนตัวของตัวเองเป็นที่หนึ่งหันไปส่องกล้องมองดูอะไรบางอย่างข้ามฟากทะเลนั้น
“ผมขอร้องเถอะน้าา ผมไม่มีที่ให้หลบแล้ว”
มาร์คมองใบหน้ากลมมนที่ตอนนี้ซีดเซียวดูน่าสงสาร ถอนหายใจลุกขึ้นสอดเข้าใต้แขนเด็กตัวเตี้ยอุ้มผ่านที่กั้นสูงเข้าไปด้านใน ได้ยินเสียงแจ็คสันร้องในลำคอตอนเขาประคองสะโพกกลมลงมายืนบนพื้น ท่ายืนก็ดูไม่มั่นคงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเพราะอะไร
...ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเกินไปนะ…
ชายหนุ่มมองเสื้อตัวโคร่งยุ่ยๆจนไหล่ตกลงมาด้านหนึ่งก็พอจะรู้ว่าไม่ใช่ของแจ็คสัน ปลายเสื้อก็ปิดได้แค่ครึ่งแข้งแต่ก็ยังอาจหาญเดินไปมาในเรือโดยไม่ใส่กางเกง จะโดนหนักก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด เด็กตัวเตี้ยทรุดตัวลงบนพื้นกระดานมุดตัวเข้ากับเสากระโดงเรือจับขนมที่ตัวเองไปรวบรวมมายัดเข้าปากด้วยความหิวโหย สังเกตุดูดีๆก็เห็นว่าจมูกรั้นและดวงตากลมแดงเรื่อบวมเหมือนคนเพิ่งร้องไห้มา
“ร้องไห้ทำไม?”
แจ็คสันชะงักเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความงงงวย รู้ได้ยังไงว่าเขาร้องน่ะ?
“ไม่ได้ร้องสักหน่อย”
“ไม่ตอบก็ลงไป”
“อย่าใจร้ายนักสิ! เย็นชากับผมตลอดเลยอ่ะ...เกลียดผมมากเลยรึไงเล่า...ฮึก ก็ผมไม่มีทางเลือกนี่ ฮือ ก็ไม่อยากอยู่ในสภาพนี้สักหน่อย ฮึก”จู่ๆนำ้ตาก็ไหลพราก กำลังคิดเรื่องแย่ๆอยู่ก็มาพูดให้คิดให้หวั่นไหว มาร์คบ้า!!
“เฮ้ย ร้องทำไม”
มาร์คเกิดทำตัวไม่ถูกเพราะจู่ๆก็ทำเด็กร้องไห้โดยไม่รู้สาเหตุ วางกล้องส่องทางไกลลง ขยับไปใกล้ร่างเล็กที่ก้มหน้าร้องไห้ปล่อยนำ้ตาผสมขนมปังเผาะๆ ฟันกระต่ายกัดริมฝีปากสะอื้นฮักๆ มือแกร่งวางบนแปะลงบนกลุ่มผมนุ่มนิ่มยีไปมาเพราะไม่รู้จะปลอบคนยังไง แจ็คสันไม่หยุดร้องทั้งร้องไห้หนักขึ้น มาร์คเลยตัดสินใจรวบร่างขึ้นมานั่งบนตักกอดปลอบประโลมเหมือนเด็กทารกตัวเล็กๆ จับหัวกลมซุกบนไหล่
“ร้องก็ร้องไป ร้องเสร็จก็บอกแล้วกัน”
มือเล็กกำเสื้อของอีกคนไว้แน่น ซุกหน้าพิงอกแข็งร้องไห้อย่างไม่อาย กระซิบขอบคุณจากใจจริง
“ฮึก...ขอบคุณนะ มาร์ค…”
“อืม…”
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปแจ็คสันก็เริ่มสงบขึ้น มาร์คเอนตัวพิงเสากระโดงเรือมองทะเลรอบๆ มือหนึ่งโอบเอวเล็กไว้ส่วนอีกมือก็ลูบเส้นผมนุ่มสีบลอนด์ไปเรื่อยๆ ก้มมองเจ้าตัวเล็กบนตักที่จู่ๆก็เข้ามากอดเอวเข้าแน่น ใช้ศีรษะเอียงซบหลับตาพริ้มยิ้มบางๆไร้เดียงสา
ใบหน้าน่ารักเปรอะน้ำตาใสไล้กับแสงสีทองของยามเย็นจับประกายงดงาม เส้นผมสีอ่อนปลิวล้อกับสายลมแรงจนยุ่งเหยิง เจ้าตัวขมวดคิ้วยู่ปากขึ้นเอียงหน้าหลบท่าทางน่ารักน่าชังเหมือนลูกหมาตัวเล็ก แถมยังขยับยุกยิกหามุมสบายไม่กลัวว่าเจ้าของตักจะทำอะไรตัวเองเลยสักนิด
...นี่ลืมไปแล้วรึไงว่ามาร์คก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งนะ…
ชายหนุ่มกลอกตาไปมากับตัวเอง เกิดอารมณ์ขึ้นมาจนได้สิน่า วันนี้ว่าจะไม่รังแกเจ้าเด็กนี่แล้วเชียวนะ…
มือเรียวจับใบหน้ากลมเชิดขึ้นมาบังคับให้มองหน้า ลูกปัดกลมโตมองกลับมาอย่างนึกสงสัย
“นี่...บนนี้จะไหวไหม?”
“หะ...หา? อะไรไหวล่ะ”
“เซ็กซ์น่ะ”
แจ็คสันตาโต ตกใจกับการรุกของพี่ใหญ่ของเรือที่พุ่งมากดไหล่เขาเข้าเสากระโดงเรืออยู่ในท่าชันเข่า เสื้อตัวใหญ่ร่นขึ้นมากองแหมะอยู่ติดซอกช่วงวีไลน์ ท่าทางน่าอายที่เปิดเผยสัดส่วนของคนตัวเล็กปลุกเสือร้ายให้ตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ มือเล็กยกขึ้นมาต้านไหล่แข็งที่พุ่งเข้ามาใกล้ ริมฝีปากสวยแนบปากอิ่มแดงบดคลึงหยอกล้อ สอดเรียวลิ้นเข้ามาเล่นกับโพรงปากนุ่มนิ่มที่ตอบรับเขาได้ทันที
...เก่ง...แต่ก็ไม่แปลก...ก็เขาเป็นคนสอนเองนี่นะ…
มาร์คยิ้มกระหยิ่มในใจเอียงใบหน้าปรับองศาเพิ่มรสจูบให้เร่าร้อนรุนแรง มือก็บีบคลึงสะโพกกลมเล่นไปมาปลุกอารมณ์ร่วมของร่างเล็กตามเข้ามาช้าๆ แจ็คสันยกขาด้านหนึ่งขึ้นวางบนตักของชายหนุ่ม ขยับตัวตามรสจูบไปอย่างเผลอไผล
มาร์คผละจูบออก เลื่อนขึ้นมาจ้องมองใบหน้ากลมนิ่งๆและคลี่ยิ้มบาง
“มาทำกันสักสองสามรอบแล้วกัน…”
มือเรียวสวยลูบเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวโคร่งจับผิวขาขาวชุ่มชื้น ขยุ้มเนินเนื้อกลมแน่นนุ่มต้านมือ สอดนิ้วเข้าช่องทางเปียกชุ่ม ชายหนุ่มขมวดคิ้วถามคนในอ้อมกอด
“วันนี้นายมีเซ็กซ์ไปกี่ครั้งแล้ว”
“สะ สาม…”
“ใครบ้าง”
“ก็กัปตันเจบี จูเนียร์กับไอ้เด็กยูค”
“นายนี่อึดดีนะ…”มาร์คยิ้มบางๆ ยกตัวอีกคนขึ้นมาวางไว้บนตัก เอนหลังพิงเสามองคนตัวเล็กบนตักตัวเองนิ่งๆเพื่อรอดูว่าแจ็คสันจะทำอะไรต่อ
“มาร์ค...ให้ผมทำเองเหรอ?”
“แล้วแต่นายสิ”
แจ็คสันเผลอกัดปากตัวเอง มือเล็กๆลูบไปตามลำตัวผอมแข็งแรงของชายหนุ่ม ดันตัวกระเถิบไปวางสะโพกเปลือยไว้บนตัก จับกางเกงของมาร์คร่นลงกลืนน้ำลายมองสิ่งมโหฬารตรงหน้า มองกี่ทีก็ไม่ชินอ่ะ เอาจริงๆ… สบตากับคนตัวสูงสลักกับมองส่วนกลางลำตัวที่มันชี้โด่เด่ชี้หน้าเขาอย่างหยาบคาย
...ไม่ต้องโลมแล้วมั้งนั่น…
แจ็คสันยันตัวเองขึ้นจ่อสะโพกนุ่มกับส่วนแข็งขืน ค่อยๆย่อตัวลงรับมันเข้ามาจนสุดอย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก
ส่งเสียงในลำคออึดอัดกับความคับแน่นในร่าง แช่ตัวทำใจเอนหลังยันตัวกับหน้าขามาร์คค่อยๆขยับร่างขึ้นลง มาร์คประคองสะโพกขาว สวนขึ้นประสานเข้าหาในบางจังหวะ ร่างเล็กร้องครางอย่างสุขสม ร่อนเอวเริงจังหวะรักตามแล้วแต่ตนปราถนา
มาร์คประสานร่างดันท่อนเอ็นแข็งเต้นตุบตับในช่องทางแน่นหนัดขมิบตอดเร่งเร้า และช่องทางนี่เองที่ช่วยบรรเทากามอารมณ์ให้เหล่าชายหนุ่มในเรือ แต่ยังไงเขาก็ไม่รังเกียจหรอกนะ ก็คนตรงหน้าทั้งน่ารักและเย้ายวนมากขนาดนี้นี่นา
“นี่...”
“ฮะ อ๊า อืม ทำไมเหรอ”ถามเสียงกระเส่าหวามโยกเอวไม่หยุด จู่ๆมาร์คก็จับเอวจับตัวเขาออก ตากลมปรือไปด้วยอารมณ์มองมาร์คอย่างไม่เข้าใจ
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ”
ชายหนุ่มหอมแก้มกลม ดึงอีกคนยืนขึ้นดันตัวติดกับเสากระโดงเรือ จับแจ็คสันถอดเสื้อก้มลงดูดดึงผิวขาวสว่างให้เกิดรอยแดงเรื่อกระจายไปตามจุดต่างๆ ลูบขยำหน้าอกเต็มตึงใช้นิ้วโป้งบดขยี้ตุ่มไตแข็งขืน ลิ้นร้อนไล้เลียวนรอบๆยอดอกอีกด้านดูดดึงจนมันแดงก่ำ
“อ๊ะ มาร์ค พอแล้ว อื้อ”
แจ็คสันร้องครางกระเส่าทนความต้องการในร่างไม่ได้ สอดนิ้วจิกเส้นผมสั้นสีบลอนด์เทาของมาร์ค เบียดสะโพกเข้าหาชายหนุ่มอย่างจงใจ
ถ้าบอกว่าเจบีขี้แกล้ง ยูคยอมซาดิส จินยองนุ่มนวล มาร์คก็รวมนิสัยเสียของสามคนนั้นไว้ในคนคนเดียวและแจ็คสันก็แพ้ทางมาร์คที่สุดด้วย...
“อ่า ใจเย็น”มาร์คหัวเราะในลำคอ สอดแขนเข้าใต้ข้อพันขาสวยด้านหนึ่งยกขึ้นมาจับข้อมือเล็กติดตรึงเสา
หน้าขาติดลำตัวเพิ่มพื้นที่ให้มาร์คได้เห็นส่วนน่าอายชัดขึ้น ชายหนุ่มป้อนจูบร้อนและประสานร่างเข้าหาแจ็คสันอีกครั้ง ตอนนี้คลื่นลมในทะเลกำลังสงบ แต่พวกเขากำลังจะทำให้โลกสั่นสะเทือนวาบไหว
“อ๊ะ อ๊า ลึก อ๊า ดี อื้มมม”เสียงแหบหวานร้อนกระเส่าข้างใบหูเร่งให้ชายหนุ่มกดสะโพกเข้าไปเติมเต็มลึกขึ้น
เร่งจังหวะรัวแรงจนร่างเล็กไหวร่างสั่นคลอน แขนโอบรอบคอแกร่งพยุงกายไม่ให้ล้มลงไป ขมิบตอนโยกกลับสวนในจังหวะที่มาร์คกระแทกเข้ามา เสียงเนื้อเสียดสีกระทบกันดังน่าอาย
“อื้ม พร้อมกันนะ”
“อ๊ะ ฮ้า!”
มาร์คกอดเอวขาวดันแจ็คสันติดเสาประโดงเรือโถมร่างรัวสะโพกเข้าหาฉีดน้ำอุ่นร้อนเข้าชโลมช่องทางบอบช้ำสีหวาน เช่นเดียวกับแจ็คสันที่ปลดปล่อยหยาดน้ำเปรอะเปื้อนหน้าท้องแกร่ง ลมหายใจร้อนหอบประสานกัน มาร์คถอนตัวออกไม่ลืมกอดร่างขาวอ่อนเปลี้ยไว้แนบกาย หยิบเสื้อนอกของตัวเองคลุมกายเล็กป้องกันลมหนาวยาวย่ำค่ำ หัวกลมเอนซบไหล่หลับตาเหนื่อยอ่อน
“พี่มาร์คโว้ย! ลงมากินข้าว หรือกินพี่แจ็คจนอิ่มแล้ววะ!”เสียงหัวเราะร่วนดังมาจากด้านล่าง แจ็คสันลืมตาหน้าแดงวาบ พลิกตัวจะหนีจากมาร์คแต่ชายหนุ่มรั้งเอวเขาเอาไว้ กดศีรษะลงกับอก ขยับตัวตะโกนตอบพวกด้านล่าง
“เก็บไว้ให้หน่อยแล้วกัน!”
“โหย อะไร กักตัวเหรอ!”
“เด็กนี่เหนื่อยมากพอแล้ว พวกนายนั่นแหละหยุด ค่ำมากแล้วด้วย”
“โห่~~~”เสียงโห่แซวจากด้านล่างทำเอามาร์คคิ้วกระตุกรำคาญ โยนข้าวของลงไปด้านล่างจนพวกนั้นวงแตกหนีกันไปพร้อมเสียงหัวเราะ เขารู้อยู่แล้วว่าพวกนั้นมันแซว แต่แจ็คสันนี่สิ เขินม้วนตัวไปนั่งพิงเสากระโดงเรือหยิบขนมปังขึ้นมากัดเคี้ยวอยู่เงียบๆอยู่โน่น พอเขาเดินเข้าไปนั่งข้าง เจ้าตัวเล็กก็เงยหน้าขึ้นมามองงงๆ
“มาร์คไม่ไปกินข้าวล่ะ”
“อยากนั่งเป็นเพื่อนเด็กบางคน”
แจ็คสันหัวเราะและยิ้มกว้างอย่างที่มาร์คชอบ บอกขอบคุณเสียงเบา เอนศีรษะพิงไหล่แข็งมองพระอาทิตย์ตกยามเย็นอย่างรู้สึกผ่อนคลาย
วันๆหนึ่งของแจ็คสันในเรือก็เป็นอย่างนี้
จนวันนี้ วันที่พวกเขาขึ้นฝั่งบ้านเกิด
เรือแล่นถึงฝั่งแล้ว ลูกเรือแต่ละคนก็แยกกลับบ้านของตัวเอง แจ็คสันยืนพิงขอบเรือมองลูกเรือเดินลงจากเรือไปทีละคนๆ แยกย้ายกันไป ก่อนกลับมาเจอกันในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
“มานั่งอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียว”
“กัปตัน?”เงยหน้ามองชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำกางเกงสบายๆ เสื้อกัปตันสีเดำวางอยู่บนไหล่ดูน่าเกรงขามอย่างทุกวัน ใบหน้าหล่อเหล่าเรียบดุก้มหน้ามาถามเขา
“แล้วนายจะไปไหนล่ะ?”
“ไม่รู้สิฮะ...ผมคงเฝ้าเรืออยู่ที่นี่แหละ”ยิ้มตอบกลับไป “กัปตันไม่กลับบ้านละฮะ”
“ก็อีกสักพัก กัปตันที่ดีต้องคอยส่งลูกเรือให้กลับบ้านอย่างปลอดภัยสิ”
“เป็นคนดีจังเลยนะฮะ”แจ็คสันหัวเราะ มองไปพื้นดินข้างหน้าเศร้าๆ ถ้าเขามีบ้านให้กลับก็คงดีจะดีใจมากกว่านี้
เจบีกลอกจาไปมาดูลังเล กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง ยูคยอมก็พุ่งมาจากด้านหลังพุ่งมารัดตัวคนตัวเล็กขึ้นอุ้มวิ่งหนียองแจและแบมแบมไปรอบเรือ
“หยุดเลยนะไอ้ยูค! วางแจ็คสันลงนะโว้ยย!”
“ไม่! ฉันจะเอาพี่แจ็คสันกลับด้วย”
“ด เดี๋ยวดิ!!”แจ็คสันร้องตกใจก่อนจะร้องเหวอลั่น มุมมองเขาวูบโหวง เหมือนมีอะไรมวนตัวในท้อง รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในอ้อมกอดของจูเนียร์แล้ว
“อย่าอุ้มคนอื่นวิ่งไปมาสิ เดี๋ยวก็ทำเขาบาดเจ็บเข้าหรอก”
“ขอบคุณนะจูเนียร์”
“อืม ไม่เป็นไร อยู่เรือเหงามากนะ กลับบ้านกับฉันไหมล่ะ?”
“พี่จูเนียร์! อย่าชิงตัดหน้าสิ! พวกเราก็อยากให้พี่แจ็คสันกลับไปด้วยเหมือนกันน้า”แบมแบมโวยวายมาจากกลุ่มน้องเล็ก
“พวกวุ่นวายเอ๋ย…”มาร์คถอนหายใจ หงุดหงิดกับเสียงโหวกเหวกวุ่นวายด้านล่าง หอบกระเป๋าเสื้อผ้าสองใบปีนลงมาจากเสากระโดงเรือ เดินตัดผ่านหน้าทุกคน กระชับมือเล็กของแจ็คสันพาเดินลงจากเรือไป
“มาร์ค จะพาผมไปไหนอ่ะ”
“กลับบ้านฉันไง”
“เอ๊ะ…”
.
.
.
.
.
.
“ไอ้พี่มาร์คโว้ยยยยยยยย!!! โกงง โกงงงงงงงงงงงง”
“เห็นนิ่งๆเงียบๆฉกแก้มปลาไปซะงั้น!! เจ็บใจ”
“ชิ! โดนตัดหน้าจนได้”
“...(ตูยังไม่ได้แม้แต่จะอ้าปากถามเลยโว้ยยยย!!!)”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น