[SF] Pet Human II (MARKSON)
Pet Human II
Mark
X Jackson
“แจ็คสันเสร็จรึยัง”
“แป๊ปนึง”
มาร์คกลอกตาถอนหายใจยืนพิงกำแพงรอเบื่อๆ
“นายบอกแป๊ปนึงมาสามรอบแล้วนะ”
“ก็...มาร์ค”
ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งและอีกครั้ง
เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนมองเจ้าหมีสีน้ำตาลตัวขาวกำลังยุ่งกับการยัดหัวตัวเองเข้าไปในเสื้อยืดแขนยาวของเขา
ดีที่แจ็คสันใส่กางเกงแล้วเลยไม่ดูหวิวเท่าไรนักและกำลังทำหน้างอแงคิ้วขมวดดิ้นไปมาจนกลัวว่าเสื้อจะขาดก่อนได้ใส่
“อยู่เฉยๆ”
เจ้าหมีตัวเล็กหยุดดิ้นทันทีที่ได้ยินคำสั่ง
มาร์คเดินเข้าไปใกล้ดึงคอเสื้อออกจากหูกลมๆด้านหนึ่ง พินิจมองชั่วครู่ว่าจะใส่เสื้อให้ยังไง
จับคนตัวเล็กกว่าขึ้นมายืน สอดมือเข้าไปใต้ผืนผ้าเลี่ยงไม่ได้ที่จะลูบผ่านผิวเนื้อเนียน
เผลอกลืนน้ำลายดังอึกใหญ่ รีบเข้าไปจับแขนขาวพยายามจะยัดเข้าไปในแขนเสื้อ
แต่เพราะรีบมากก็ดันไปปัดโดนตุ่มไตเล็กบนอกนุ่มเข้า
“อื้อ”
...แล้วจะครางทำไมเล่า!...
มาร์คแทบอยากร้องโว้ยเมื่ออะไรในตัวเผลอมีปฏิกิริยากับเสียงจากเด็กตัวขาวเมื่อครู่
รีบจับแขนนุ่มดึงออกมาพอให้เสร็จๆ
“งื้อ
เค้าเจ็บ”
ผละตัวออกรีบเข้าไปสงบอารมณ์ในห้องน้ำหูก็ได้ยินเสียงบ่นงุ้งงิ้งจากเจ้าลูกหมี
แต่เขาไม่สนใจหรอก เพราะถ้าอยู่ต่อมีหวังได้พรากอะไรจากเจ้าเด็กนั่นแน่ๆ
จะขึ้นทั้งทีไม่ขึ้นกับสาวๆอึ๋มๆวะ!
ทำไมต้องขึ้นกับเจ้าเด็กนั่นด้วย จะว่าไปก็ไม่ได้เที่ยวนานแล้วนี่นะ...
เย็นนี้ไปปลุกสัญชาติญาณเสือดีกว่า...
.
.
.
.
มาร์คเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากจัดการตัวเองเสร็จ
ก็เห็นลูกหมีของตัวเองนั่งตีขาไปมาอยู่บนเตียง ปากแดงๆยู่ทำปากเป็ดแต่พอเงยหน้าขึ้นมามองก็ฉีกยิ้มกว้าง
วิ่งดุ๊กดิ๊กมาทางเขา หูหมีบนศีรษะนั่นขยับไปมา
“มาร์ค...”
มือเรียวส่งไปยีผมนุ่มนิ่มสีซีดของแจ็คสันด้วยความหมั่นเขี้ยวและเปลี่ยนเป็นลูบหัวกลมอย่างที่เจ้าเด็กนี่ชอบหนักหนา
แจ็คสันหลับตาพริ้มยิ้มมีความสุข ก้มหน้านิดๆให้ชายหนุ่มได้ลูบง่ายขึ้น
“ฉันไปทำงานล่ะนะ”
ทันทีที่พูดคำนั้นแจ็คสันก็เงยหน้ามามองเขางงๆ
พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มาร์คก็ผละตัวออกไปหยิบกล่องอะไรบางอย่างออกมาจากตู้เสื้อผ้าก่อน
มันเป็นสิ่งที่เขารับมาพร้อมกับแจ็คสัน มาร์คเปิดกล่องออกยกมันขึ้นมาดู
กลับมาหาเจ้าลูกหมี เอาสิ่งนั้นทาบไปที่ลำคอขาว
เสียงลงล็อกอะไรของสิ่งนั้นดังขึ้นมาเบาๆ
แจ็คสันพยายามก้มมองดู
มือเล็กยกขึ้นมาจับมันอย่างไม่เคยชิน เริ่มทำหน้าแบะและดึงมันจนผิวคอขาวขึ้นรอยแดง
มาร์คจับมือเล็กนั่นอย่างห้ามปราม
จับมือพาเดินไปหน้ากระจกให้แจ็คสันได้เห็นว่าสิ่งที่อยู่บนคอคือปลอกคอโลหะสีเงินปรากฏชื่อของมาร์คสลักอยู่บนนั้น
“ฉันจะได้รู้ว่านายอยู่ไหน...”มาร์คบอกกับคนตัวเล็กที่ยังทำหน้าเอ๋ออยู่
ก้มมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าใกล้สายเต็มทน ลูบผมแจ็คสันอีกครั้งและเดินออกไปจากห้องนอน
“มาร์คไม่อยู่กับเค้าเหรอ”
ชายหนุ่มที่กำลังจะเปิดประตูห้องออกไปชะงัก
หันกลับมามอง pet human ของตัวเองที่กำลังยืนทำหน้าตาน่าสงสารส่งมาอ้อน
เกือบใจอ่อนอยู่แล้วถ้าไม่ระลึกได้ก่อนว่าตัวเขาเองก็มีงาน จะมามัวอยู่เป็นเพื่อนสัตว์เลี้ยงขี้เหงาไม่ได้
“ไม่ได้หรอก
ฉันต้องไปทำงาน เฝ้าบ้านดีๆล่ะ”
“ไม่ได้จริงๆเหรอ”แจ็คสันถามรบเร้า
เดินจะเข้ามาใกล้เจ้านายของตัวเอง ก่อนชะงักก้าวถอยหลังหลับตาปี๋ตกใจกับเสียงดังๆคนเป็นเจ้านาย
“แจ็คสัน!”
“งือ...เค้าขอโทษ
ไม่ดื้อแล้ว”เจ้าหมีตัวเล็กบอกหงอยๆเกรงๆ มือเล็กบิดกำเสื้อยืดตัวโคร่งของตัวเอง
ก้มหน้าชิดอกให้เห็นหูกลมบนกลุ่มผมสีทองนุ่มฟู ท่าทางหงอยเหงาจนคนดุรู้สึกผิดนิดๆ
แต่จะตามใจไม่ได้ เดี๋ยวเสียนิสัยหมด
“ดี
เฝ้าบ้านดีๆ ห้ามถอดปลอกคอออกด้วย เข้าใจไหม”
“อืม
เค้าเข้าใจแล้ว”แจ็คสันพยักหน้าจนผมสีอ่อนกระเพื่อมปลิว
ริมฝีปากแดงฉีกยิ้มส่งเขาก่อนที่มาร์คจะปิดประตูออกไปจากห้องไป
มาร์คกลับบ้านอีกทีก็ค่ำมากแล้ว
เพราะวันนี้เขาออกไปเที่ยวอีกครั้งหลังจากหยุดเที่ยวไปนาน
แล้วดันมีอารมณ์กับน้องหมีน่ารักแต่ดันเป็นผู้ชายจนเริ่มไม่มั่นใจตัวเอง
สนุกกับสาวๆไปหน่อยเลยกลับค่ำไปนิด
เขาผลักประตูห้องเข้าไปแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อในห้องไม่ได้เปิดไฟไว้
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืด มีแต่แสงจากด้านนอกที่ส่องเข้ามาพอให้เห็น
“แจ็คสัน”เรียกผู้อยู่อาศัยอีกคนในห้องแต่ก็ไม่ได้รับเสียงตอบรับกลับมา
“แจ็คสัน!”
เกร๊ง!
ชายหนุ่มหันไปตามเสียง
สั่งระบบให้เปิดไฟ เดินเข้าไปในส่วนของห้องครัว ยืนมองร่างเล็กที่นั่งกอดขาชิดอกอยู่ข้างตู้แช่น้ำ
มีขวดน้ำเปล่าวางระเกะระกะอยู่รอบๆตัว
ใบหน้ากลมเปื้อนน้ำตาเงยขึ้นมามองด้วยดวงตาบวมแดง
เจ้าหมีตัวเล็กของเขาดูอิดโรยมากเหลือเกิน มาร์คเดินเข้าไปนั่งยองๆ
ปาดน้ำตาบนแก้มนั้นออกให้
“ร้องไห้ทำไม”
“หิว...เค้าหิว”
“ทำไมไม่หาอะไรกิน”
“เค้าทำไม่เป็น”
มาร์คกลอกตาไปมา
ลืมคิดไปเลยว่าไม่ได้สอนวิธีการใช้เครื่องสลายสภาพให้ รู้สึกผิดที่ปล่อยปละละเลยคนตัวเล็กขนาดนี้
เขายังไม่ชินกับการมีใครร่วมบ้านด้วย แล้วยิ่งเป็น Pet Human แบบแจ็คสันที่ช่วยตัวเองไม่ได้อีก ชายหนุ่มมองเจ้าตัวเล็กที่ทั้งตัวสวมเสื้อยืดตัวโคร่งของเขากับกางเกงบอกเซอร์สีเทาตัวเดิมแล้วก็คิดอะไรออก
“กินข้าวแล้วออกไปซื้อของกัน”
จึกๆ
“มาร์คนั่นอะไรอ่ะ”
“ร้านขายหุ่นยนต์”
จึกๆ
“มาร์คแล้วเมื่อกี้ล่ะ”
“ร้านขายเครื่องสำอาง”
จึกๆ
“มาร์ค...”
“แจ็คสัน ถ้านายไม่หยุดดึงเสื้อและถามฉันทุกสามวินาที
ฉันจะพานายกลับบ้าน”
มือเล็กที่แทบจะเกาะชายเสื้อของเจ้านายเอาไว้ตลอดรีบชักกลับไปอยู่กับตัวเจ้าของเอง
ใบหน้ากลมหงอยลงมาถนัดตาผิดจากเมื่อครู่ที่ตื่นเต้นมองนู่นนี่ถามเขาราวกับเด็กสามขวบ
ปากแดงอิ่มเม้มแน่นช้อนตาขึ้นมามองเขากลัวๆ
“ไม่ถามก็ได้...แต่...”คนตัวเล็กยื่นมือตัวเองมาด้านหน้า “จับมือเค้าหน่อยได้ไหม”
“ทำไม”
“ก็...อยากจับมือมาร์ค...เค้ากลัวหลง...ไม่ได้เหรอ?”น้ำเสียงแหบหวานอ้อมแอ้มบอก
“เฮ้อ
งั้นเงียบๆล่ะ”
เจ้าหมีตัวเล็กยิ้มแฉ่งอารมณ์ดีขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมือแกร่งวางทาบลงมาประสานกอบกุมมือนิ่มอุ่นจูงลากเดินไปด้านหน้า
ทั้งสองเดินเข้าไปในแผนกขายแคปซูลอาหาร
เพราะความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีและความขาดแคลนอาหาร
นักวิยาศาสตร์เลยสังเคราะห์สารอาหารเข้ามาในรูปของแคปซูล
ส่งขายให้ประชาชนเอาเข้าเครื่องสลายสภาพให้กลับมาเป็นอาหารรับประทานกันต่อไป
มาร์คเลือกแคปซูลสเต๊ก
ผัดหมู อาหารจำพวกเนื้อให้แจ็คสันได้กิน แม้มันจะมีแคปซูลสำหรับพวก pet
human แบบปกติ แต่สำหรับรุ่นพิเศษห้าดาวแบบแจ็คสันก็เหมาะกับการกินแบบคนธรรมดาเสียมากกว่า
หลังซื้ออาหารเสร็จก็ต้องพาไปซื้อเสื้อผ้า เพราะไม่อยากให้แจ็คสันใส่เสื้อของเขาไปตลอด
เจ้าลูกหมีนี่ควรมีชุดเป็นของตัวเอง
“ชอบแบบไหน”มาร์คถาม
พยักพเยิดหน้าไปที่โฮโลแกรมแสดงลักษณะเสื้อผ้าในห้างซึ่งมีลักษณะเป็นฐานวงกลมมีแสงสีฟ้าขึ้นจำลองเครื่องนุ่งห่มดีไซน์ต่างๆ
มือเรียวปาดผ่านเป็นตัวอย่างให้เจ้าลูกหมีได้ทำตาม
ดีที่แจ็คสันเรียนรู้ได้ไวเลยไม่ลำบากสำหรับคนขี้หงุดหงิดแบบเขามากนัก ตากลมแป๊วๆมองและลองทำตาม
“เค้าชอบตัวนี้...มาร์คใส่เมื่อวาน”
ชายหนุ่มมองเสื้อยืดสีดำสกรีนลายแบบเดียวกับที่บ้านเขาเป๊ะก็ส่ายหน้า
“จะเอาไปซ้ำทำไม
เลือกใหม่สิ”
แจ็คสันก็เลือกใหม่อีก
แต่ทุกครั้งที่เลือกก็จะเลือกแบบเดียวกับที่มาร์คมี ชายหนุ่มเลยต้องเลือกให้เอง
พอได้สองสามชุดที่คิดว่าเหมาะก็กดส่งไปหักยอดเงินจากบัญชี รอให้ของไปส่งหน้าบ้าน ไม่ต้องเสียเวลาหอบหิ้วถุงให้เสียเวลา
“ไปเถอะ”หันไปบอกเจ้าเด็กหมีที่มองไปรอบๆด้วยแววตาตื่นเต้น
ยื่นมือไปให้แจ็คสันจับ มือเล็กรีบับมือเขา
เดินตามมาร์คออกจากโซนเสื้อผ้าต้อยๆอย่างว่าง่าย
จู่ๆแจ็คสันก็หยุดเดิน
มือที่เกี่ยวกันอยู่ดึงมาร์คให้หยุดด้วย
“อะไร”
แจ็คสันหันมายิ้มกว้าง
หันกลับไปชี้ตุ๊กตาหมีสีชมพูหวานหน้าตาตลกๆอยู่ในตู้โชว์สินค้า
“เจ้าตัวนี้มีหูเหมือนเค้าเลย
เป็นเพื่อนของเค้ารึเปล่า?”
“ไร้สาระน่า
กลับบ้านได้แล้ว ดึกมากแล้ว”
“งือ”แจ็คสันส่งเสียงต่อต้านในลำคอ
ใบหน้าน่ารักงอง้ำงอแง ถึงจะยอมเดินจามแรงฉุดของมาร์ค แต่ตากลมก็ยังเหลียวกลับไปมองตุ๊กตาในชั้นวางนั่นเป็นระยะๆ
ขนาดเดินห่างมาไกลแล้วก็ยังหันไปมอง
และถึงจะเดินไปหน้าร้านก็ยังหยุดยืนอาลัยอาวรณ์
โบกมือลาเจ้าตุ๊กตาหน้าประหลาดตัวนั้นหน้าหงอย
“ไว้เค้าจะมาเยี่ยมนะเจ้าหมี”
มาร์คถอนหายใจเฮือกใหญ่
รู้สึกแพ้เจ้าลูกหมีสีน้ำตาลตัวนี้หมดท่า ต้องกลับเข้าไปในร้านใหม่อีกรอบ
กดเลือกซื้อตุ๊กตาหมีตัวนั้นรอให้มันตกลงมา โยนให้เจ้าลูกหมีสีน้ำตาลรับไว้ส่งๆ
“เลิกงอแงแล้วกลับบ้านซะที”
แจ็คสันก้มมองตุ๊กตาในอ้อมกอดตัวเองอึ้งๆ
เงยหน้ามองเจ้านายตัวเองและฉีกยิ้มกว้าง ยิ้มทั้งหน้าทั้งตา
แก้มกลมนูนเป็นก้อนน่ารัก ดวงตาวิบวับเปล่งประกายไม่ต่างจากเด็กสามขวบ
“มาร์คให้เค้าเหรอ”
“รึไม่เอา
จะเอาคืน”
“ไม่ๆ
ขอบคุณนะมาร์ค ขอบคุณมากๆเลย เค้าจะได้มีเพื่อนแล้ว สวัสดีนะคุณ...อืม มาร์ค
เจ้าตัวนี้ชื่ออะไรดีอ่ะ”
“ตามใจนายสิ
ของนายนี่”มาร์คเบื่อจะคุย กระชับมือเล็กลากให้เดินออกจากตรงนั้นก่อนที่เขาจะได้เสียเงินไปมากกว่านี้
พลางฟังเสียงดัดแหบเล็กๆเวลาคุยกับตุ๊กตาของเจ้าลูกหมีในอาณัติ
“มาร์ตี้...ยินดีที่ได้รู้จักนะมาร์ตี้!”
...มาร์ตี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาจากชื่อมาร์ค...
เฮ้อ!
ถึงกลับมาถึงบ้านแล้ว
แจ็คสันก็วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปในห้องนอนเอาผ้าเช็ดผมผืนเล็กออกมาห่อเจ้าตุ๊กตาสีชมพูในอ้อมกอดตัวเอง
บอกว่ามาร์ตี้มันหนาว มาร์คก็ต้องมาได้อธิบายอยู่นานว่าข้างในมาร์ตี้มีแต่นุ่น
มันไม่หนาวหรอก แจ็คสันถึงได้ยอมเอาผ้าเช็ดผมกลับไปเก็บที่เดิม
“มาร์ตี้ๆ
มาร์ตี้ชอบสีอะไรอ่ะ เค้าชอบสีดำนะ”
มาร์คกำลังจะเป็นโรคประสาทเสีย
นี่เขากำลังเลี้ยง Pet human หรือเลี้ยงเด็กสามขวบกันแน่นะ
“แจ็คสัน
ไปอาบน้ำ”
“ขอคุยกับมาร์ตี้แป๊ปนึงนะมาร์ค”
“ฉันเกลียดคำว่าแป๊ปนึง
ไป เดี๋ยว นี้”
“งือ...”เจ้าหมีตัวเล็กทำท่าจะงอแง
แต่พอเห็นใบหน้าหล่อเหลาดุเคร่ง เจ้าตัวก็ทำหน้าหงอยวางเจ้าตุ๊กตาหน้าตลกสีชมพูลงบนเตียงนอน
หาผ้ามาห่มทำท่าทะนุถนอมราวกับเด็กอ่อน แล้ววิ่งลิ่วเข้าห้องน้ำ
ไม่ลืมหยิบเอาผ้าเช็กตัวกับชุดนอนเข้าไปเปลี่ยนด้วยอย่างที่มาร์คเคยสอน
พอเจ้าตัวเล็กเข้าไปอาบน้ำ
ชายหนุ่มก็หันกลับมามองตุ๊กตาบนเตียงนิ่งๆ
แบะหน้าใส่แล้วกันกลับมามองงานในมือเหมือนเดิม
“มาร์ตี้...หึ
น่ารักตรงไหนวะ”
ถึงเวลานอนแล้ว
เจ้าลูกหมีตัวเล็กนั่งกอดมาร์ตี้หาวหวอดๆอยู่บนเตียง
ตากลมปรือใกล้ปิดมองมาร์คที่กำลังทาครีมอยู่หน้ากระจก ก้มมองตุ๊กตาในมือ
“มาร์ตี้
เค้าง่วงจังเลย”
“ง่วงก็นอนสิ”เจ้าของเจ้าลูกหมีบอกทั้งที่ยังตรวจดูผมตัวเอง
ถึงเป็นผู้ชายก็ปล่อยตัวไม่ได้นะครับจะบอกให้
“ก็เค้ารอมาร์ค”
มาร์คคงไม่รู้ตัวว่าตัวเองเผลอยิ้มกว้างขนาดไหน
ชายหนุ่มกระแอมในลำคอ
ลุกขึ้นบิดขี้เกียจหน้ากระจก เดินเอื่อยมาลูบหัวเจ้าลูกหมีน่าเอ็นดูของตัวเอง
“นอนเถอะ”
มือเล็กจับมือเรียวดึง
พลางช้อนตาอ้อน
“มาร์คนอนนะ
เค้าอยากกอด”
“ไม่กอดมาร์ตี้ล่ะ”เลิกคิ้วถาม
แอบหงุดหงิดนิดหน่อยที่แจ็คสันทำท่าลังเลใจมองเขาและตุ๊กตาในอ้อมแขน แต่ก็ต้องยิ้มอย่างนึกพอใจเมื่อเด็กลูกหมีสีน้ำตาลของเขาวางตุ๊กตาลงข้างๆหมอน
และหันกลับมากอดแขนชายหนุ่มแน่น
“ตัวมาร์คอุ่น...”
“เด็กดี”
...หึ
มาร์ตี้ก็มาร์ตี้เถอะ จะสู้มาร์คได้ยังไงล่ะ...
มาร์คสั่งระบบให้ปิดไฟในห้องและเปิดหน้าต่างบนหัวเตียงรับแสงสลัวจากด้านนอกเข้ามาพอไม่ให้มืดมากนัก
นั่งลงบนเตียงดึงรั้งเจ้าลูกหมีขี้อ้อนมากอด สอดมือเข้าใต้ฐานรองศีรษะกลม
สางเส้นผมนิ่มสีสว่างลูบไล้ช้าๆ
มองดูใบหน้าหวานหลับตาพริ้มซุกไหล่เขาแล้วก็เผลอยิ้มออกมา นิ้วโป้งลูบหูกลมเบาๆ
และก็พบปฏิกิริยาที่น่าแปลกใจเมื่อแจ็คสันสะดุ้ง มือเล็กโอบเขาแน่น ตัวสั่นระริกเล็กๆ
“แจ็คสัน?”
เจ้าตัวไม่ตอบ
เอาแต่ก้มหน้าซุกตัวเขาแน่น
มาร์คเลยลูบเข้าไปใต้แผ่นหลังบางสัมผัสหางกลมๆบนสะโพกอิ่ม
“อ๊ะ
อื้อ มาร์ค”
เสียงครางแหบพร่าดึงขึ้นทันที
ทำเอามาร์ครีบผละมือออก จับไหล่เจ้าตัวเล็กออกมาดูชัดๆ
และแม้จะในความมืดแก้มกลมนั่นก็ยังแดงระเรื่อ ริมฝีปากแดงอิ่มขบรั้งนิดๆ
แต่คงเพราะความง่วงที่สะสมมากกว่าสิ่งใดไม่กี่นาทีหลังจากนั้นแจ็คสันก็หลับไป
ปล่อยให้คนเป็นเจ้านายยังอึ้งค้างอยู่
...นี่มันอะไรวะเนี่ย!...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น