[EREBUS] 17
~
17 ~
เปลือกตาสีน้ำนมปรือลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า
คิ้วเรียวขมวดแน่นหลับตาลงไปอีกครั้งเพราะความง่วงงัน
มือขาวปัดป่ายไปตามฟูกนอนแต่ก็ไร้เงาผู้ที่กกกอดเขาไว้ทั้งคืน
ฝืนลืมตาขึ้นเหลียวซ้ายขวาก็ไม่เห็นผู้เป็นที่รัก
...มาร์คหายไปไหน?...
ยันตัวลุกขึ้นเชื่องช้า
คว้าเอาผ้าห่มผืนบางมาคลุมกายเปลือยเปล่าของตนไว้
ความตึงหน่วงแถวสะโพกสร้างภาระให้ร่างกายเขามากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะตอนจะก้าวลงจากเตียงที่แจ็คสันถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจ
ขาสั่นเล็กน้อยตอนเริ่มเดิน แต่สักพักร่างกายก็ชินและเดินต่อได้โดยติดขัดอะไรมากนัก
ถึงจะต้องเดินไปเกาะผนังไปก็เถอะ
“มาร์ค”เสียงแหบห้าวเรียกหาเทพปีศาจลูซิเฟอร์ที่หายตัวไปแต่เช้า
ภายในห้องนอนไม่มีวี่แววของร่างสูงสง่า ห้องน้ำก็ว่างเปล่า ขมวดคิ้ว เม้มปากแน่น
กำลังจะแบะปากงอน ประตูใหญ่ห้องนอนก็ถูกเปิดขึ้น ตากลมตวัดตามองแต่ก็ไม่พบผู้ใด
ยกเว้นไอสีดำที่ลอยตุ๊บป่องไปมาช้าๆเหมือนรอให้เขาเดินไปหา
แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้
มันก็ยิ่งลอยห่างออกไปเรื่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ก้าวหนึ่ง ไอสีดำก็ถอยลอยออกไป
เดินยังไงก็ไม่ถึงสักที แจ็คสันขมวดคิ้วฉับหยุดเดินมองไอสีดำงอนๆ
ไม่อยากเดินตามแล้ว เจ็บก็เจ็บ ไม่มีอารมณ์เล่นด้วยหรอกนะ
ทำไมเจ้าของมันไม่มารับเขาเองล่ะ? ยืนคิดหงุดหงิดในใจ
มองไอสีดำที่สลายหายไปพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆของคนที่ปรากฏตัวขึ้นด้านหลัง ร่างทั้งร่างถูกดึงเข้าไปกอด
คางแหลมวางเกยบนไหล่มนเปลือยเปล่า
“เล่นบ้าอะไรของคุณ”เหวี่ยงใส่โดยไม่ต้องหันไปมอง
มาร์คหัวเราะในลำคอ ฝ่ามืออุ่นประคองหลังและสอดแขนเข้าใต้ข้อพับขาช้อนร่างเขาขึ้นจากพื้น
แจ็คสันผวากอดคออีกคนแน่นเพราะกลัวตก มาร์คอุ้มเขาเข้าไปในห้องๆหนึ่ง
ประตูเปิดต้อนรับทันทีที่เดินเข้าไปใกล้
ภายในเป็นห้องนอนขนาดกลาง
ผนังปูนสีขาวปูพื้นพรมสีเทาอ่อน
หน้าต่างทรงโค้งสูงติดม่านสีอ่อนรับแสงรวมกับโคมระย้าบนเพดานยกสูง
ทำให้ห้องดูอบอุ่นและสว่างมากขึ้น เตียงสี่เสาหลังใหญ่กลางห้องดูนุ่มฟูน่านอน
มุมห้องอีกด้านจัดวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ติดกับกระจกเต็มตัวเอาไว้ แบ่งแยกส่วนชัดเจนด้วยม่านกั้น
ประตูวงโค้งหลังม่านด้านซ้ายต่อกับส่วนที่เป็นห้องน้ำซึ่งแจ็คสันมองไม่เห็น
นี่คือห้องในฝัน
ห้องที่ผมเคยจินตนาการเอาไว้ว่าอยากจะมี
เขาต้องทิ้งภาพฝันนี้ไปเพราะตอนอยู่บนโลกมนุษย์แค่จะมีข้าวกินไปวันๆยังยาก
แต่วันนี้...มันอยู่ตรงหน้าเขา ด้วยฝีมือผู้ชายที่กำลังโอบอุ้มเขาอยู่ในตอนนี้...
“ชอบไหม?”
“คุณ...ทำให้ผมเหรอ?...คุณทำได้ยังไงน่ะ”
“ข้าทำได้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ”
มาร์คอมยิ้มแตะเขาแพะบนศีรษะตัวเองเบาๆ
แจ็คสันแทบลืมไปแล้วว่ามาร์คคือลูซิเฟอร์ เทพตกสวรรค์คนนั้น
ก็ไม่แปลกที่จะรู้ว่าเขาต้องการอะไรหรืออยากได้อะไร แต่ไม่ว่าจะมองยังไง ผู้ชายอบอุ่นตรงหน้านี้ก็ไม่เห็นเหมือนเทพชั่วร้ายในนิทานปรัมปราเลยสักนิด
“ขอบคุณนะครับ”ยิ้มกว้างอย่างน่ารักไปให้
กดจูบบนแก้มสากที่เหมือนจะแดงระเรื่อนิดๆ มาร์คหัวเราะเขินหน่อยๆ
...มีความสุขที่สุดเลย...
แจ็คสันเดินออกมาจากห้องในชุดเสื้อแขนยาวกางเกงยาวถึงเข่า
เลือกชุดนานไปหน่อยเพราะเสื้อผ้าในตู้มันเยอะซะเหลือเกิน ไม่ได้จ้าวสำอางหรอก
เลือกไม่ถูกต่างหาก...
เปิดออกมาหันซ้ายขวาก็เห็นร่างสูงกำลังยืนพิงกรอบหน้าต่างหลับตานิ่ง
ยิ้มกระหยิ่มนึกสนุกย่องเดินเบาๆเข้าไปใกล้หวังแกล้งอีกคนตอนเผลอ แต่พอเข้าประชิดตัว
กลับโดนมาร์คดึงเอวเข้าไปใกล้ ฉวยโอกาสหอมแก้มเนียนและอุ้มตัวลอยขึ้นไปวางไว้บนขอบหน้าต่างใหญ่อย่ารวดเร็ว
แขนขาวกระชับลำคอเทพปีศาจแน่นเหลือบตาไปมองดูภาพข้างล่างอย่างนึกหวาดเสียว ตากลมถลึงตามองคนขี้แกล้งที่หัวเราะร่า
ตาสวยพราวระยับจับความสุขจ้องมองกลับมาทำให้เขาโกรธไม่ลง
“หลับตาลงก่อน”เสียงทุ้มบอก
เปลือกตาบางหลับลงอย่างว่าง่าย
นิ้วเรียวแตะเข้าที่หน้าผากเขาแผ่วเขาก่อนที่ร่างกายจะร้องวูบวาบอยู่ชั่วครู่แล้วก็หายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แจ็คสันลืมตาขึ้นมองมาร์คตาปริบๆ ไม่เข้าใจว่าอีกคนทำอะไรกับตัวเอง
“ร่างนี้ที่จริงก็น่ารักดีนะ”
เพราะจู่ๆก็โดนชมหน้าเลยแดงเถือกไม่เก็บอาการ
มือขาวกุมใบหน้าร้อนก้มหน้าต่ำหลบสายตาวาววับของคนตรงหน้า พอดีตาเหลือบไปเห็นพุ่มหางใหญ่อยู่ตรงบั้นท้าย
เลยเลื่อนมือขึ้นไปคลำบนศีรษะก็พบใบหูแหลมใหญ่
แจ็คสันเข้าใจทันทีว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในร่างคูสิทเหมือนเดิมแล้ว มองตาอีกคนอย่างไม่เข้าใจ
“ร่างนี้สะดวกกว่าเวลาอยู่ข้างนอกนั่น”
“จะพาผมไปไหน?”
“เดี๋ยวก็รู้”เทพหนุ่มยิ้มมีเล่ห์นัย
กระโดดตามมาโดยทีไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอวอวบแถมยังกระชับร่างเล็กเข้ามาชิดจนศีรษะทุยแทบจะจมลงไปในอก
โดยไม่ให้คนในอ้อมกอดตั้งตัวหรือมีสัญญาณใดก่อน มาร์คก็พาเขาหันหลังดิ่งตัวลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว!!!
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”กรีดร้องลั่นหลับตาปี๋กอดมาร์คแน่นอย่างกลัวตาย เพียงเสี้ยววินาทีที่เข้าใจคำว่าใกล้ตายอยู่ตรงหน้าแล้วก็เหมือนเกิดใหม่เมื่อเสียงพรึบดังตามมา
ลมแรงปัดผ่านผิวกายกระชากตัวเขาขึ้นกะทันหัน สัมผัสที่กอดอยู่แข็งกระด้างขึ้นมาทันตา
ร่างเขาไม่ดิ่งลงแล้วแต่กำลังพุ่งขึ้นเหมือนนกกำลังโผบิน
“ลืมตาสิ”เสียงทุ้มต่ำกังวานก้องดังฝ่าเสียงหวูดหวี่ของสายลมข้างหู
แจ็คสันส่ายหน้าหวืดตัวสั่นกอดมาร์คแน่นเพราะความหวาดกลัว
ความรู้สึกวูบโหวงในท้องยังไม่หายไปไหนแถมกำลังตีลมกลับออกมาส่งผลให้เกิดอาการอยากขย้อนของเก่าออกมาเสียดื้อๆ
“ลืมตาเถอะ
ข้าอยู่นี่”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นอีกครั้งยืนยันว่าไม่เป็นอะไร
ความรู้สึกอบอุ่นซึมซาบไปทั่วหัวใจและเรือนกายเหมือนมาร์คกำลังกกกอดเขาไว้ กลั้นหายใจปรือตาขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ
ก่อนจะต้องเบิกตากว้างตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
ภาพมุมสูงปรากฏให้เห็นภาพป่าไม้ด้านล่างไล่ระดับสีตั้งแต่สีดำอ่อนลงไปเป็นสีม่วงเข้มม่วงอ่อนกลายเป็นม่วงจางๆ
ณ สุดปลายป่าส่วนที่ติดกับกำแพงนรกทาทารัส
สูงจนเห็นภาพด้านล่างได้คลอบคลุมแม้แต่ทะเลของยองแจก็ยังเห็นไกลลิบๆตรงขอบฟ้าสีมัวนั่น
ก้มมองสิ่งที่ตนกำลังนั่งทับอยู่ก็พบว่าเป็นเกล็ดแข็งสีดำเหลือบม่วง
เขากำลังนั่งอยู่บนตัวมาร์ค...ลูซิเฟอร์ในร่างมังกรต้องสาป
พอมาเห็นใกล้ๆแบบนี้ก็ตัวใหญ่ยักษ์เอามากๆเหมือนกัน
ใหญ่ยักษ์แต่ก็สง่างามหัวมังกรยาวเชิดขึ้นหยิ่งผยองในศักดิ์ศรีของตน ดวงตาสีม่วงกลมใหญ่มองไปข้างหน้าตรงนิ่ง
ปีกใหญ่ยักษ์ที่งอกออกมาจากส่วนกระดูกสันหลังซึ่งควรเป็นปีกมังกรกลับกลายเป็นปีกนกนุ่มสีดำสนิทราวกับสีของรัตติกาล
มือขาวเอื้อมมือไปลูบปีกสวยเบาๆ
นั่นทำให้มาร์คคำรามพรืดทันที
“ขอโทษ
ผมไม่รู้ว่าจับไม่ได้”น้ำเสียงหงอยเหงาแบบนั้นทำให้เทพในร่างมังกรใจอ่อนยวบยาบอยากแปลงร่างเป็นร่างปกติแล้วพุ่งเข้าไปกอดปลอบ
“ไม่ใช่จับไม่ได้
แต่อย่าจับจะดีกว่า ถ้าไม่อยากให้ข้าบินกลับปราสาทแล้วกดเจ้าลงเตียงตอนนี้”
“บ้า!”ร้องทั้งที่หน้าแดงก่ำ
กัดปากชกลงบนผิวที่นั่งอยู่แรงๆอย่างต้องการจะแก้ความเขิน
เก็บมือไม้ให้อยู่กับที่กับทางไม่ไปแตะโน่นนี่ให้เสี่ยงกับตัวเองอีก
“แบมแบม!
ยูคยอม!”ร่างเล็กร้องเรียกสองหน่อบนบ้านต้นไม้หลังเดิมเสียงดังโดยมีมาร์คยืนประกบอยู่ด้านหลัง
หัวเขียวๆของแบมแบมโผล่มาก่อนตามด้วยยูคยอมที่กระโดดออกมาดูเขาหน้าตาตื่น
“พี่แจ็คสันนน”สองหน่อนั่นตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้นตกใจ
ซิสแปลงร่างเป็นพญานกโผบินลงมาไม่ลืมจะคว้าเพื่อนลงมาด้วย
ทันทีที่แตะพื้นทั้งสองก็พุ่งเข้ากอดแจ็คสันกันใหญ่
“พี่มาได้ยังไงน่ะ”แบมแบมถามก่อนร้องอ้อใหญ่เมื่อมองไปเห็นร่างสูงสง่ายืนอยู่เบื้องหลังพี่ชายตัวเล็ก
“กลิ่นพี่ดูแปลกๆแฮะ”ยูคยอมขยับจมูกฟุตฟิตแถวต้นคอขาว
เสียงทุ้มกระแอมในลำคอขึ้นมาเตือนจ้าวแห่งพิภพที่สะดุ้งโหยงถอยออกมาแทบจะทันที แจ็คสันหัวเราะให้กับคนขี้หึงบางคนที่เบือนหน้าไปทางอื่น
ยูคยอมและแบมแบมรู้สึกได้ทันทีว่ามีอะไรแปลกๆระหว่างพี่ชายตัวเล็กกับเทพปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ลูซิเฟอร์
“เสร็จแล้วก็กลับ”
“มาร์คคคค”คนตัวเล็กลากเสียงงอแงผละออกจากน้องชายต่างโลกทั้งสองเดินไปเขย่าแขนคนตัวสูงส่งสายตาออดอ้อน
“จะรีบกลับไปทำไมล่ะ คุณพาผมมาที่นี่เองนะ อยู่ต่อเถอะ...นะครับ”
มาร์คมองคนอ้อนถอนหายใจกับตัวเอง
ยกมือขึ้นลูบใบหูใหญ่บนศีรษะกลมเบาๆแล้วเดินแยกออกไป
ปล่อยให้คนตัวเล็กได้อยู่กับซิสและเบเฮมอธ แจ็คสันมองตามแผ่นหลังสง่านั่นไปแบบหงอยๆ
แต่พอแบมแบมชวนไปอวดของด้านบนก็รีบกระโดดขึ้นหลังซิซน้อยโผขึ้นไปบนบ้านต้นไม้
ปล่อยให้ยูคยอมบานงึมงึมปีกตามขึ้นไปอย่างจำยอมเพราะไม่มีปีก สักพักก็ลงมาเล่นด้านล่างอีกเพราะข้างบนมันแคบเกินไป
ทั้งสามคนวิ่งไล่จับอย่างกับเด็กไปบนพื้นที่ลานกว้าง
พอเหนื่อยก็นั่งหอบล้อมวงกันใต้เงาร่มไม้ใหญ่
“แต่กลิ่นพี่แปลกไปจริงๆนะ
มาร์คทำอะไรพี่รึเปล่า”เบเฮมอธตัวโตอย่างยูคยอมยังสงสัยไม่เลิก
ปกติกลิ่นของแจ็คสันจะหอมหวานเพราะเลือดมนุษย์อยู่แล้วแต่กลับมารอบนี้กลับหอมหวานยิ่งกว่า
หอมเย็นสดชื่นเหมือนกลิ่นดอกสวรรค์ที่เขาว่าหอมนักหอมหนา
ขนาดมีกลิ่นสาปของคูสิททับก็ยังได้กลิ่นชัดเจนอยู่ดี
“มันแปลกยังไง”เพราะโดนทักถึงสองครั้ง
คนตัวเล็กเลยยกมือขึ้นมาดม ขมวดคิ้วเพราะยังไงก็ยังได้กลิ่นเดิมของตัวเอง จะบอกว่าเหม็นก็เพิ่งอาบน้ำก่อนออกมาเมื่อกี้เอง
“มันหวานๆเย็นๆ
อืมมม เหมือนกลิ่นพวกชาวสวรรค์อ่ะ”
“อ่อ”แจ็คสันเข้าใจทันที
ความทรงจำของอนาตาเซียทำให้เขารู้ว่ากลิ่นที่ยูคยอมกล่าวหมายถึงอะไร “คงเป็นกลิ่นจากชาติก่อนฉันมั้ง”
เด็กน้อยทั้งสองตาโตร้องหืมท่าทางอยากให้เขาเล่าเต็มที่
แจ็คสันหัวเราะเอ็นดู บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองคนฟัง
ระหว่างเล่าก็มีเสียงเอฟเฟคโหหูจากทั้งแบมแบมและยูคยอมไม่ขาด
หัวเราะพูดคุยกันไปจนมีตะกร้าใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยผลไม้หลากหลายพันธ์หล่นลงมากลางวง
สองหน่อร้องว๊ากแทบวงแตกถ้าไม่มีเสียงทุ้มเย็นๆพูดขึ้นมาก่อน
“สนุกกันจริงนะ”
มาร์คเดินออกไปทันที
ไม่รอให้ใครถามไถ่ถึงที่มาของผลไม้ในตะกร้า
แจ็คสันมองตามมาร์คไปในขณะที่แบมแบมและยูยอมมองของในตะกร้าตาโต
“โหหห
มีแต่ของดีๆทั้งนั้น
นี่ลูซิเฟอร์บินไปจนสุดเขตนรกเอริบัสเลยรึเปล่าเนี่ยถึงได้ของพวกนี้มา”แบมแบมอุทาน
มือเล็กจับเอาผลไม้กลมใสสีฟ้าอ่อนคล้ายหยดน้ำใหญ่ๆขึ้นมาแล้วอธิบายให้แจ็คสันซึ่งยังไม่เข้าใจฟัง
“เนี่ย ผลนี่ชื่ออควานอฮะ อร่อยนะ แต่มันไกลอ่ะ มันจะเกิดอยู่เขตป่าสีเทาใกล้เขตกำแพงนรกทาทารัสโน่น”
“ส่วนผลนี้ชื่อนายัน”ยูคยอมยกผลไม้เถาว์คล้ายองุ่นแต่สีส้มขึ้นมาให้ดู
“มันอยู่ทางป่าซีกซ้าย ตรงกันข้ามกับถิ่นผลอควานเลย
นี่แสดงว่าลูซิเฟอร์บินจากเหนือไปใต้เพื่อเอาพวกนี้มาให้เลยนะ”
“เก็บตุนไว้รึเปล่า?
ฉันได้กินอย่างนี้ทุกวันเลยนะ”
“หา! ทุกวันเลยเหรอ นี่พี่รู้ไหมว่าผลไม้เอริบัสมันเก็บได้ไม่ถึงวันก็เน่าแล้ว
พวกผมถึงต้องไปเก็บกินใหม่ทุกวันไง”แบมแบมดูตกใจกับสิ่งที่เพิ่งได้รู้
“...”แจ็คสันนิ่งไปพักหนึ่ง
กลอกตาไปมาหยิบเอาลูกอควานสองลูกลุกขึ้น “พวกนายกินกันไปก่อนเลยนะ
ฉันไปหามาร์คก่อน”บอกสองหน่อแล้ววิ่งออกไปตามทางที่เห็นมาร์คเดินมา
เหลียวซ้ายแลขวามองไปก็เห็นร่างสูงสง่านั่งพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ไม่ไกลมากนัก
“อ่า...สูงจัง”บ่นงึมงำในลำคอมองต้นไม้สูงชะลูดตรงหน้าดีที่รูปทรงของมันคดเคี้ยวมีที่ให้จับให้เหยียบได้บ้าง
เก็บผลไม้ลงในกระเป๋ากางเกง กระโดดขึ้นรากบนพื้นปีนป่ายขึ้นไปหาพ่อคุณทูนหัวที่ไม่สนใจมาช่วยเขาขึ้นไปเลยสักนิด
“หวา!”ก้าวเท้าเหยียบลงบนตะไคร่น้ำพลาดลื่นจะตกลงไป
ตามองร่างสูงที่โผลงมาเกี่ยวเอวเขาขึ้นมาวางบนกิ่งไม้ใหญ่ที่ตนนั่งอยู่เมื่อครู่ได้อย่างฉิวเฉียด
ร่างเล็กถอนหายใจโล่งอก แย้มยิ้มกว้างให้มาร์คที่เก็บปีกเข้าไปแล้ว
“ขอบคุณนะครับ”
มาร์คเบือนหน้าหนีนั่งลงข้างๆแต่ไม่พูดอะไร
แจ็คสันมองท่าทางนั้นหงอยๆ หูลู่ลงคลานไปหาคนตัวสูงที่ยังคงท่าทางเรียบเฉยเอาไว้
กอดแขนคนตัวสูงช้อนตามองอ้อนๆ
“โกรธอะไรผมเหรอ?”
“ข้าไม่ได้โกรธ”
“ไม่ได้โกรธแต่ทำหน้าอย่างนี้น่ะเหรอ”พูดพลางกดหัวคิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากัน
มาร์คคลายคิ้วถอนหายใจหันมาสบตาคนข้างกายที่ยิ้มกว้างน่ารักให้
“ไม่ได้โกรธ
แต่แค่หงุดหงิด”
“หงุดหงิดอะไร?
ที่ผมคุยกับแบมกับยูน่ะเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า พ่อคนขี้งอน นั่นแค่น้องแค่เพื่อนนะครับ”
“ข้ารู้”มาร์คพูดในลำคอดึงคนตัวเล็กเข้าไปกอดไว้
กดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มลื่น “จะพยายามนะ”
แจ็คสันหัวเราะคิกคัก
มุดอ้อมแขนแกร่งออกมานั่งข้างๆเหมือนเดิม ล้วงเอาผลอวานขึ้นมากัด
ส่งอีกลูกให้มาร์คที่หัวเราะหึจับข้อมือขาวไว้ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“จำไม่ได้รึไงว่าข้ากินอะไรเป็นอาหาร”
ริมฝีปากบางทาบทับริมฝีปากอิ่มแดงที่เผยอเปิดรับเรียวลิ้นอุ่นทันทีเหมือนรู้งาน
จูบที่ไม่ได้เร่งเร้าแต่ความอ่อนหวาน เนิบนาบและทำให้ใจไหวสั่นถูกป้อนให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ความโหยหาของมาร์คทำให้เขารับรู้ได้ด้วยอ้อมแขนที่โอบรัดกายเขาไว้แน่น
ไม่รู้นานเท่าไหร่กว่าที่มาร์คจะยอมถอนจูบออก
ดวงตาสองคู่สบกันก่อนที่แจ็คสันจะหลุดหัวเราะออกมาก่อน
“ขอบคุณนะครับ”เอียงหน้าซบไหล่คนข้างกาย
หลับตาลงซึมซับสัมผัสอบอุ่นบนศีรษะจากมือแกร่ง อมยิ้มมุมปากเมื่อรู้สึกถึงความอ่อนนุ่มของปีกใหญ่ที่กางขึ้นมาบังแดดให้
...อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้...
...ตลอดไป...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น