[EREBUS] 21





~ 21 ~











“ระหว่างความมืดมิดอันเหน็บหนาวในเอริบัส หรือ แสงอาทิตย์อันอบอุ่นบนโลกมนุษย์ เจ้าจะเลือกอะไรดีล่ะ แจ็คสันหวัง...”

แจ็คสันนั่งนิ่งยังไม่เข้าใจในสิ่งที่อดีตเทพีแอสทารอสถาม เขารู้เพียงว่าเขาต้องเลือก แต่ไม่รู้ว่าทางทั้งสองนั้นจะทำให้เกิดอะไรตามมา นั่งเงียบรอให้จูเนียร์อธิบายเพิ่ม แต่ก็ไม่มีอะไรออกมาจากปากของอดีตเทพีอีก

หันกลับไปมองลูซิเฟอร์เพราะอยากได้คำอธิบายเพิ่มเติม ดวงตาสีม่วงอ้อนวอนในเรื่องที่แจ็คสันไม่เข้าใจ มันเต็มไปด้วยความโหยหา ความหวาดกลัวและความหวั่นไหวอย่างรุนแรง เพียงสบตาก็ทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวโยกคลอน แต่ไม่ทันจะเอ่ยถาม มาร์คกลับเม้มปากก้มหน้าหลบตา สีหน้ายังคงเคร่งเครียด กำมือเกร็งแน่น สะบัดหน้าหันหลังให้ราวกับไม่อยากรับรู้เรื่องต่อไปนี้อีก

สัญชาติญาณรวมถึงความทรงจำของอนาตาเซียบอกเขาว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครจะเข้ามายุ่งได้

แจ็คสันต้องเลือกชีวิตตัวเองเอง...

“ผมจำเป็นต้องเลือกเหรอ?”

“ชีวิตเจ้าต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับคำตอบที่เจ้ากำลังจะตอบข้า”จูเนียร์ย้ำเดินไปนั่งบนซากปราสาท จดจ้องรอคำตอบท่าทางเรียบนิ่งและใจเย็นมากกว่าลูซิเฟอร์ที่สบถเสียงดัง เตะก้อนหินโดนผนังที่ทรุดโทรมอยู่แล้วให้พังครืนลงมาแถบหนึ่งเพื่อระบายอารมณ์

แจ็คสันสะดุ้ง หันไปมองคนรักที่ดูไม่อยู่สุขเอาเสียเลยอย่างนึกเป็นห่วง เพราะเอาแต่มองมาร์ค จูเนียร์เลยหงุดหงิด กระโดดลงมาดึงจับใบหน้าเล็กให้กลับไปมองตนเอง ดวงตาเรียวรีเหมือนแมวจ้องตรงมา เอ่ยคำถามอีกครั้ง

“ระหว่างเอริบัสกับโลก...เลือกมาแค่อย่างเดียว”

“ขอเวลาคิดหน่อยสิ”ต่อรองเสียงอ้อน แต่คำตอบคือการส่ายหน้า

“ตอนนี้เท่านั้น... เร็วๆ เจ้าเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ”

แจ็คสันถอนหายใจเฮือก หลุบตากลมปิดลงตัดการรับรู้อะไรทั้งสิ้น จูเนียร์ผละออกไปแล้วเหมือนรู้ว่าเขาต้องการจะคิดอะไรเงียบๆคนเดียว

แจ็คสันมีชีวิตที่ยากลำบากบนโลกมนุษย์ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเกลียดมัน...

เขาชอบแสงอาทิตย์อันอบอุ่นในหน้าร้อน ชอบฝนเย็นๆตอนหน้าฝน ชอบหิมะสีสวยๆในหน้าหนาว ชอบที่จะเงยหน้ามองท้องฟ้างดงามในทุกช่วงเวลาของวัน ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ตั้งแต่ต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสีเขียวงดงาม ภาพวิวทิวทัศน์หลากหลายที่เคยพบเห็นผ่านจอโทรทัศน์หรือภาพถ่าย แม้แต่ใบหญ้าเล็กๆบนพื้นใต้เท้าก็ยังดูงดงามเมื่อรวมเป็นทุ่งหญ้ากว้าง โลกใบเล็กที่แสนจะงดงามนั้นสร้างความประทับใจให้เขาเสมอ

เมื่อมีเวลาว่าง เขามักจะเดินไปนั่งในที่สักที่ มองผู้คนที่เดินสวนไปมา หลับตาเงี่ยหูฟังเสียงพูดคุยและเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจรอบข้าง ซึมซับความกระแสชีวิตที่หมุนเวียนแต่ไม่เคยซ้ำซากในแต่ละวัน คงไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะเดินย่ำรอยเท้าเดิมของตนเองในทุกวัน แม้จะพยายามก็ทำแค่ คล้ายแต่ไม่ใช่ เป็น เพราะเวลาไม่เคยย้อนคืน มนุษย์ทุกคนถึงได้วิ่งเสาะแสวงหาสิ่งที่ตนต้องการก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำมันอีก ถ้าให้เปรียบโลกใบนั้นก็คงละครนับๆล้านคูณสิบยกกำลังไม่สิ้นสุดที่กำลังเล่นดำเนินสอดคล้องกับไปบนเวทีใหญ่ที่เรียกว่า โลก

และเวทีใหญ่นั้น...ก็ยังมีความฝันที่เขาอยากจะสานต่ออีกมากมาย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลาบนโลกมนุษย์นั้นช่างสวยงามและมีสีสันจนยากที่จะลืมเลือนมันได้

แต่...

“ผมเลือกเอริบัส...”

คำตอบที่เขาให้ดูเหมือนไม่ได้สร้างความตกใจให้จูเนียร์มากนัก นอกจากคิ้วที่เลิกสูงแล้วก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีก รอยยิ้มกว้างอย่างพอใจของเขาถูกเผยขึ้นพร้อมสัมผัสอุ่นที่มือด้านขวา แจ็คสันเงยหน้ามองมาร์คที่ไม่รู้เดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่

ฝ่ามือสวยเย็นเฉียบและเปียกชื้นเพราะเหงื่อ มันสั่นน้อยๆจนแจ็คสันยังรู้สึกได้ ดวงตาสีม่วงสวยทอประกายความสุขเอ่อล้นระริก ชื่นฉ่ำ ยินดีปรีดาราวกับความสุขทั้งโลกกำลังรวมมาอยู่ในดวงตาคู่นี้ หยาดน้ำใสๆคลอดดวงตาสวย

แจ็คสันหัวเราะพลางเอื้อมมือขึ้นไปเช็ดน้ำตาออกให้

“ทำไมต้องร้องไห้ล่ะ? คำตอบผมมันชัดเจนอยู่แล้วนี่”

มาร์คกุมมือขาวประกบข้างแก้มหลับตาลงส่ายหน้าไปมา

“ข้าแค่กลัว”

“ลูซิเฟอร์กลัวเป็นด้วยเหรอ? ไม่เอาน่า คุณคือลูซิเฟอร์เลยนะ อย่างอแงสิ”

“ข้ากลัวทุกสิ่งที่จะพรากเจ้าไปจากข้า”

ใจดวงน้อยเต้นระรัวบีบสั่น เม้มปากเขินอาย ยิ่งมีจูเนียร์ที่ทำหน้าเอียนอยู่ใกล้ๆแล้วรู้สึกมันไม่ใช่เวลามาหวานกันเอาเสียเลย ยึดมือน้อยกลับมาหันหน้ามามองจูเนียร์ที่เตรียมจะพูดอะไรตั้งนานแล้ว

“ถ้าเจ้าเลือกเอริบัส ก็งานยากหน่อยล่ะ... งั้นมาร์ค...ฆ่าแจ็คสันซะ

ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดดันร่างเล็กไปไว้ด้านหลังไม่ไว้ใจแอสทารอสที่ยังย้ำคำเดิมด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“ฆ่าแจ็คสันซะ”

“ทำไมข้าต้องทำ”

“นั่นคือวิธีเดียวที่แจ็คสันจะอยู่ที่นี่ได้ ทำไอมนุษย์ของแจ็คสันให้ต่ำที่สุด แล้วให้เขาเกิดใหม่ด้วยไอเทพของอนาตาเซียที่ยังเหลืออยู่ในนี้...”

แจ็คสันมองมือขาวที่ยกชูลูกแก้วหน้าตาคุ้นเคยด้วยความแปลกใจ เขานึกว่ามันหายไปตั้งนานแล้ว ไม่นึกว่าจะมาอยู่ที่จูเนียร์แบบนี้ เพียงจ้องมองก็รู้สึกร้อนวูบวาบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ทั้งที่แต่ก่อนเขาไม่เคยมีปฏิกิริยาอะไรต่อมันเลยแท้ๆ

“เจ้าหมายถึง...”

“ข้าว่าเจ้ารู้ดีนะว่าควรทำอย่างไร...ใช่ ของถนัดเจ้านั่นแหละ...”ดวงตาพราวระยับของจูเนียร์ที่มองมายังเขาแทนที่จะเป็นคนที่กำลังคุยด้วยอย่างมาร์ค ทำให้แจ็คสันรู้สึกตะขิดตะขวงใจแปลกๆ

“กลืนกินเขาซะ





“มาร์ค เดี๋ยว อื้อ!”ร้องในลำคอประท้วงริมฝีปากอุ่นที่แนบเข้ามาตะวัดเกี่ยวเรียวลิ้นดูดกลืนไอวิญญาณในร่างเขาอย่างตะกละตะกราม มือขาวคว้าคอแกร่งเอาไว้พยุงกายตัวเองไม่ให้ทรุดลงไปกับพื้น มาร์คดันแผ่นหลังบางติดแนบกำแพงทั้งยังไม่หยุดกอบโกยจากริมฝีปากอิ่มแดงแสนเย้ายวน แจ็คสันจิกกำเสื้อเชิ้ตสีดำแน่นทุบลงไปแรงให้ร่าเขาแทบจะหมดลมอยู่แล้ว มาร์คปละจูบออกกเป็นโอกาสให้ได้โกยอากาศเข้าปอด

“เดี๋ยว!”ร้องห้ามเสียงดังผลักอกอีกคนเอาไว้ ดวงตากลมเสหลบความรู้สึกอันรุนแรงที่ส่งผ่านมาทางดวงตาสวย ใบหน้าเห่อร้อนแดงใกล้สุก แค่ได้ยินวิธีก็อายจะบ้า ยิ่งมาลงภาคปฏิบัติก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก

“ต้องเยอะขนาดไหน?”

“จนกว่าข้าจะหมดแรง จนกว่าเจ้าจะขาดใจ”เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นข้างใบหูนิ่ม ฟันขาวขบกัดพร้อมนิ้วเรียวลูบไล้ไปตามเส้นไวสัมผัสข้างลำคอขาวเรียกเสียงครางเบาๆจากคนในอ้อมแขนที่กำเสื้อเขาแน่นเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้หลงกับสิ่งที่กำลังโดนชักนำเร็วเกินไปนัก

“แค่กินธรรมดาไม่ได้รึไง ทำไมต้องทำด้วย”

“มันเร็วกว่า”เทพปีศาจให้เหตุผลเลื่อนมือลงไปจับชายเสื้อร่างเล็กสอดลอดขึ้นมาสัมผัสผิวเนื้อเนียนแผ่วเบา ปลายนิ้วหยอกล้อจุดสีสวยบนหน้าอกนุ่มที่ตึงแข็งขึ้นมาทันทีที่ได้รับการกระตุ้น ก้มบนขยี้ริมฝีปากแดง ทำการดูดกลืนไอวิญญาณอีกครั้ง ทำตามสิ่งที่จูเนียร์บอกไว้ทุกประการ แถมดูมีความสุขในการกลืนกินคนตัวเล็กมากกว่าทุกครั้ง

แจ็คสันโดนทั้งดูดไอวิญาณ ทั้งโดนกระตุ้นจนร่างกายอ่อนยวบยินยอมให้มาร์คอุ้มขึ้นไปวางไว้บนเตียง ร่างงดงามตามมาทาบทับบดจูบลงมา มือก็เลื่อนไปดึงกางเกงขาสั้นลงไปกองไว้ที่ข้อเท้า คนใต้ร่างจับชายเสื้อปิดส่วนอ่อนไหวไว้อย่างเขินอาย เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนกระทำ จูบลงข้างแก้มเนียนกระซิบกระซาบคำหยอกล้อให้แก้มนิ่มร้อนผ่าว

“เห็นมาทุกส่วนแล้ว จะต้องปิดอะไรอีก”

“ให้ผมได้อายบ้างเถอะ”แจ็คสันพองแก้มขมวดคิ้วทั้งที่หน้ายังแดงก่ำ ยุดยื้อชายเสื้อกันสักพัก ไม่ยอมปล่อยมือออกจากเสื้อตัวเอง ลูซิเฟอร์เลิกคิ้วยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วจับพลิกตัวคนใต้ร่างลงโดยไม่ให้ตั้งตัว แจ็คสันร้องเหวอเสื้อด้านหลังถูกเลิกขึ้นเหนือสะโพกมน ช่องทางคับแน่นถูกนิ้วเรียวรุกรานถึงสองนิ้วในคราวเดียว

“มาร์ค! ผมเจ็บ!”ร้องประท้วงดึงหมอนมากอดแน่นระบายความเจ็บเสียดจากด้านหลัง น้ำตาเล็ดร้องครางหวานทันทีที่ปลายนิ้วเรียวสะกิดจุดอ่อนไหวภายใน ความร้อนพุ่งวาบขึ้นมาตามร่างกายตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงจากการโดนเล้าโลม ช่องทางกระตุกเกร็งตอดรัดนิ้วเรียว มาร์คร้องครางดึงนิ้วออกแทนที่ด้วยบางสิ่งที่ใหญ่กว่า

ความแข็งร้อนตรงปากช่องทางร่วมรักกระตุ้นให้ร่างเล็กกระเถิบตัวหนีตามสัญชาติญาณติดแต่มือแกร่งที่จับเอวคอดไว้แน่นไม่ยอมให้หนีไปไหน ฟันขาวขบกัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดซิบเกร็งร่างรับตัวตนของเทพปีศาจเข้ามาในร่างเชื่องช้า ก่อนที่ความเจ็บร้าวจะกลายเป็นความวาบหวามเมื่อสะโพกแกร่งเริ่มขยับเข้าออกเบาๆ แผ่นหลังขาวหยัดขึ้นเบียดกล้ามหน้าท้องสวยของคนบนร่างเสียดสีจนส่วนนั้นอุณหภูมิสูงขึ้นทุกครั้งที่ขยับตัว มือแกร่งกุมหลังมือเล็กสอดประสานนิ้วควบคุมจังหวะรักหวานเนิบนาบ เสียงครางแหบห้าวสั่นพร่าดังลอดออกมาตลอดการกระทำ

“อื้อ!

จู่ๆร่างก็ถูกพลิกหงาย ร้องครางลั่นเมื่อส่วนเชื่อมโยงที่เกือบหลุดออกไปกระแทกเข้ามาใหม่เร็วจนส่วนปลายดันส่วนอ่อนไหวเข้าเต็มเปา ร่างขาวกระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นเปื้อนหน้าท้อง หอบหายใจร้องครางเสียงสูงรับแรงกระแทกจากด้านล่างสองสามครั้งช่องท้องก็อุ่นวาบเปียกแฉะเพราะน้ำรักของอีกคน

“เสร็จก่อนข้าได้ยังไงกัน”แม้รูปประโยคจะเป็นการต่อว่าแต่ดวงตาสวยกลับพราวระยับเต็มไปด้วยอารมณ์ เตือนให้คนโดนจ้องรู้ว่าค่ำคืนนี้คงอีกยาวไกล เหมือนอย่างที่มาร์คว่า จะหยุดเมื่อเขาขาดใจ...

ตากลมหลับพริ้มรับริมฝีปากอุ่นที่ทาบทับลงมาดูแตะดูดกลืนไอในกายอีกครั้งแต่ไม่นานก็ผละออกไป ร่างเล็กดิ้นตัวประท้วงส่วนที่พองขึ้นคับช่องทางตนเองอีกครั้ง ลืมตามองคนบนร่างดุๆ เริ่มจับได้แล้วว่าอีกคนวางแผนอะไรกับร่างกายตนเอง

“ทำไมชอบแกล้งกันนัก”

“ข้าแกล้งอะไรเจ้ากัน”ยกยิ้มเอ็นดูก้มลงสูดดมความหอมบนผิวแก้มเนียน มือจงใจใช้นิ้วหัวแม่โป้งบดคลึงบนยอดอกแข็งขืนสร้างอารมณ์หวามอีกครั้ง มาร์คก็แค่ยืดเวลาการกลืนกินออกไปให้นานขึ้น ตักตวงความสุขจากร่างเล็กนี้ให้มากเท่าที่ตนต้องการก็เท่านั้นเอง

...ลูซิเฟอร์ยังไงก็ยังเป็นลูซิเฟอร์อยู่ดี...

“เทพลามกเอ๋ย! อ๊า! อย่าแรงอย่างนั้น มาร์ค!

.
.
.
.
.

แจ็คสันครางรับการเคลื่อนไหวในกายตน มือขาวรัดลำคอแกร่งเอาไว้พยุงร่างที่อ่อนแรงของตัวเอง ดูท่าทางที่มาร์คบอกว่าการร่วมรักก็ถือเป็นการกินไอวิญญาณจะเป็นเรื่องจริงเพราะตอนนี้เขาเหนื่อยจนแทบลืมตาไม่ขึ้น ดวงตากลมปรือปรอยจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่วางคางไว้บนไหล่แกร่งของคนที่ยังตักตวงเอาความสุขจากร่างเขาไม่หยุด

ช่องทางคับแคบเฉอะแฉะไปด้วยน้ำรักที่ถูกฉีดเข้ามานับครั้งไม่ถ้วนกลายเป็นสิ่งหล่อลื่นให้กระทำกิจกามได้คล่องขึ้นกว่าเดิม เสื้อตัวบางถูกถอดออกไปตั้งแต่การร่วมรักยกที่สาม เหลือเพียงผิวกายเปล่าเปลือยเบียดเสียดสร้างความรุ่นร้อนในเกมรักให้แก่กันและกัน

“ไม่ไหวแล้วเหรอ?”มาร์คถามขณะยกสะโพกแน่นขึ้นลง ได้ยินเสียงครางหอบหวานเบาลงเรื่อยๆ ลมหายใจร้อนก็แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด

“อืม”ครางตอบซุกใบหน้าข้างลำคอแกร่งไซร้เหมือนลูกแมวง่วงนอนทั้งน่ารักและเร้าอารมณ์ไปพร้อมกัน มาร์คเร่งจังหวะปลดปล่อยเสร็จไปอีกครั้ง ลูบใบหน้าเนียนที่ทำตาปรือปรอยอ่อนแรงลงทุกที ถามคำถามสำคัญอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมั่นใจ

“เจ้าแน่ใจกับสิ่งที่เลือกแล้วเหรอ? เจ้าจะกลับไปโลกมนุษย์ไม่ได้อีกแล้วนะ”

แจ็คสันยิ้มบางวางมือบนแก้มเรียวลูบคลึงเบาๆ จ้องมองเทพปีศาจด้วยความรักใคร่

“เพราะคุณอยู่ที่นี่ ผมเลยเลือกจะอยู่ที่นี่...ได้โปรด มาร์ค...ทำให้ผมได้อยู่ข้างคุณตลอดไป?”

“ข้ารักเจ้าเหลือเกินแจ็คสัน”

“ผมก็รักคุณ...มาร์ค”ฝืนยิ้มแย้มทั้งที่เหนื่อยเต็มทน สร้างความเอ็นดูรักใคร่ให้กับคนมอง ริมฝีปากหยักบดคลึงกดจูบลงไป สูบไอวิญญาณกลุ่มสุดท้ายจากร่างเล็ก แจ็คสันปรือตาปิดลงรับสัมผัสหอมหวานอบอวลไปด้วยความรัก เต็มใจรับสภาวะเหมือนคนตายจากคนที่ตนรักจนสุดหัวใจ มือแกร่งประคองศีรษะกลมลงไปบนพื้นที่นอนตามดูดไอวิญญาณไม่หยุดหย่อนแม้สติของแจ็คสันจะดับวูบไปแล้ว เพื่อทำงานของเขาให้เสร็จ

ร่างสูงผละจูบออกเมื่อเขาดูดไอวิญญาณของแจ็คสันจนหมดสิ้น มองร่างขาวที่บัดนี้อยู่ในสภาวะกึ่งตาย ไม่มีลมหายใจอีกต่อไป เสียงหัวใจเต้นแผ่วเบาช้าจนใกล้จะหยุดเต็มที เล็บมือม่วงซีดเซียว นิ้วเรียวปัดปอยผมนุ่มออกจากดวงหน้าหวาน จุมพิตบนเปลือกตากลมไร้การตอบสนอง

มือเรียวดึงเอาลูกแก้วซึ่งบรรจุไอเทพสุดท้ายของอนาตตาเซียออกมาจ้องมอง

“ลาก่อนอนาตตาเซีย ลาก่อนรักแรกของข้า...”

มือแกร่งบีบลูกแก้วดวงเล็กแตกออกเป็นเสี่ยง ควันสีขาวโพยพุ่งออกมาคลอบคลุมร่างขาวไร้ชีวิตบนเตียงทันทีเพราะความผูกพันของแก่นวิญาณ แต่แค่นั้นมันยังไม่เพียงพอต่อการคืนชีพ...

มาร์คกดลงบนอกหลับตาลงเรียกบางสิ่งออกมา สิ่งสำคัญที่ถูกเก็บไว้ตลอดมา สิ่งที่เขาพยายามปกปิด ปฏิเสธมันมาโดยตลอด

พรึบ!

ปีกสีขาวสองคู่งอกออกมาจากหลังของร่างที่ได้ชื่อว่าเทพปีศาจ ปีกที่ตำนานบอกว่าโดนเด็ดก่อนจะถูกส่งมาบนโลกมนุษย์ แท้ที่จริงมันไม่ได้ถูกเด็ดไปไหน มันอยู่ที่ลูซิเฟอร์ตลอดเวลา เป็นลูซิเฟอร์เองที่เกลียดปีกสีขาวบริสุทธิ์นี้จึงปิดซ่อนมันมาตลอด ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องเด็ดปีนี้จริงๆแล้ว...

ดาบสีดำทมิฬปรากฏขึ้นต่อหน้า มือเรียวคว้าด้ามดาบตวัดอ้อมหลังตัดสะบั้นปีกสีขาวคู่ด้วยตนเอง ร่างสูงร้องลั่นเพราะความเจ็บปวด เลือดสีดำไหลเปราะเตียงนอนสีขาวตัดกันชัดเจนแต่มาร์คไม่สนใจกลั้นความเจ็บปวดไว้ ดึงปีกที่ถูกสละใช้อำนาจที่ตนมีบีบมันจนกลายเป็นลูกพลังสีขาวลูกใหญ่ ปล่อยมันลงไปผสมรวมกับควันสีขาวที่คลอบคลุมร่างแจ็คสันอยู่ก่อน

พลันทันใดก็ก่อเกิดเหตุอัศจรรย์ไอเทพทั้งสองถูกมัดรวมเป็นหนึ่งเดียวลอยเข้าไปในร่างไร้ชีวิต พลันแจ็คสันก็กระตุกรุนแรงและนิ่งเงียบสงบไปราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ลูซิเฟอร์รู้ดีว่าเขาได้ดวงใจตนเองกลับมาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

ลูซิเฟอร์หลับตาลงบันดาลให้ปรากฏผ้าม่านขาวปกคลุมบังแสงจากภายนอกผนังรอบด้านปิดทึบ เตียงสี่เสากลางห้องปรากฏม่านสีขาวบดบังร่างที่ยังสงบนิ่งบนเตียงนุ่ม มือเรียวดึงเอาผ้าห่มคลุมร่างคนรักไว้ ก้มลงจุมพิตหน้าปากมน เปลือกตานวลและริมฝีปากอิ่ม ลุกขึ้นเดินออกมา หันหลังโบกมือบันดาลให้ประตูห้องหายไปกลายเป็นห้องปิดตายซึ่งมีเพียงลูซิเฟอร์เท่านั้นที่รู้ว่าแจ็คสันหลับใหลอยู่ในนั้น



“ข้าจะรอวันที่เจ้าฟื้นกลับมา...”




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

GOT7 INDEX

RED ZONE #ฟิคหน้ามืด

[SF] TUAN Twins (MARKSONYIEN) *3P*