[EREBUS] 19





~ 19 ~











          “แจ็คสัน!!!

เปลี่ยนร่างพุ่งทะยานขึ้นไปบนจุดเสียหายนั่นด้วยใจที่ร้อนยิ่งกว่าไฟ ประเมินจากสายตาคร่าวๆกำแพงด้านนอกพังเข้าไปด้านในเป็นแนวยาวกว่าสิบห้องใหญ่ รอยบาดขนาดไม่เล็กนี้กินพื้นที่ส่วนห้องนอนไปเสียหมด แน่นอนว่ารวมไปถึงห้องของแจ็คสันด้วย

“แจ็คสัน!”เรียกร้องชื่อคนรัก ไอสีดำพุ่งแทรกช่องว่างดันเศษซากออกไปทีละชิ้นก่อนที่ร่างเจ้าของพลังจะร่อนลงมา ดวงตาสีม่วงสอดส่องไปทุกที่หวังให้เจอร่างขาวอย่างนึกร้อนรน

“แจ็คสัน!”ร้องเรียกซ้ำจนคล้ายการตะคอก มือผลักเศษซากกำแพงชิ้นแล้วชิ้นเล่าออกไปจากทาง ไม่สนว่ามือด้านในจะบาดจากการโดนมุมแหลมทิ่มแทงสักเท่าไหร่ ลืมแม้กระทั่งความเจ็บปวดจากการต่อสู้กับเจบี ลืมไปหมดทุกอย่างชาไปหมดทั้งร่างตั้งแต่รู้ว่าแจ็คสันอาจเป็นอันตรายเพราะการทำอะไรขาดสติของตัวเอง

ไอสีดำสอดแทรกไปเกือบทุกที่ในบริเวณข้างเคียงแต่ก็ไม่เจอตัวคนที่เขากำลังตามหา แจ็คสันไม่ยอมร้องตอบ ยิ่งทำให้เขาร้อนใจอยากจะเผาทุกสิ่งให้วอดเพื่อหาคนตัวขาวให้เจอ แต่ถ้าทำอย่างนั้นนอกจากปราสาทจะถูกเผาวอดแล้วแม้แต่ตัวแจ็คสันก็อาจเป็นอันตรายได้

ชกเศษซากกำแพงตรงหน้าแตกซ้ำๆจนมันแตกละเอียดเป็นผุยผง กัดฟันกรอดขอบตาร้อนผ่าวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วย ทั้งที่เขากำลังสร้างความทรงจำใหม่ๆกับคนรักที่กลับมาหาอีกครั้งราวปาฏิหาริย์ ขนาดจะหลับตาก็ยังยากที่จะฝันถึง แต่เขาได้โอกาสนั้น โอกาสที่จะได้โอบอุ้มและดูแลความรักนี้อีกครั้งหลังจากโดนพรากจากไปเมื่อหลายล้านปีที่แล้ว

พระเจ้าคิดจะเล่นตลกอะไรกับเขาอีก!!!

“โว้ยยย!!!”คำรามก้องเดือดฟาดพลังสีดำทำลายซากปรักหักพังจนฝุ่นตลบ ดวงตาสีม่วงเรืองวาวส่วนที่เป็นตาขาวกลับกลายเป็นสีดำทมิฬ แสงเส้นสายสีดำผุดขึ้นไต่กลายเป็นลวดลายต่างๆบนผิวขาวซีด ทุกก้าวที่เขาก้าวเดินทุกสิ่งจะสลายหายไปราวกับมีหลุมดำขนาดย่อมๆปรากฏขึ้นกลางปราสาท เสียงลมหวีดหวิวดังขึ้นกลายเป็นพายุที่พัดพาฝุ่นจากการทำลายขึ้นไปบนฟ้ากลายเป็นม่านหมอกฝุ่นปกคลุมทั่วทั้งบริเวณปราสาท

กริ๊ง

เสียงกระดิ่งดังขึ้นแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบเล็กๆจากคนที่หายไป มาร์คหยุดชะงักดวงตากลับมาเป็นสีเดิม สบถนึกโกรธตนเองที่ตื่นตระหนกจนลืมเรื่องสำคัญไปได้ หลับตาลงเพ่งกระแสจิตตามหาไอพลังของตนเอง มโนภาพปรากฏขึ้นในจิต ลูกศรพลังสีม่วงไล่พุ่งผ่านเศษซากระบุตำแหน่งตัวคนตัวขาวได้ในชั่ววินาที มาร์คกระโจนขึ้นไปตามซากกำแพงที่กองพะเนินสูง กระโดดวิ่งลัดเลาะไปตามซากกำแพง ยิ่งเข้าใกล้ตัวแจ็คสันมากเท่าไหร่เขายิ่งไม่กล้าใช้พลังมากขึ้นเท่านั้น เพราะในสภาพที่ไม่รู้ว่าพื้นที่ที่คนตัวขาวอยู่มีเศษซากเปราะบางขวางกั้นหรือไม่ โอกาสที่จะพลาดโดนมีสูงมาก

“แจ็คสัน!

ครึก! จู่ๆเสาก็หักโค่นลงมาทับทางข้างหน้า ทั้งที่อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงตัวอยู่แล้ว สบถเสียงดังเผามันเป็นจุล กระโจนผ่านมันเหลียวดูซ้ายขวา ขมวดคิ้วเมื่อรู้ว่าห้องนี้คือห้องสมุด

“แจ็คสัน อยู่ไหน?”

ร้องเรียกหาแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับดังกลับมา เพ่งจิตหาอีกครั้งก็พบว่าอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง จับเศษเพดานที่พังลงมางัดขึ้นผลิวออกไปก็พบกับโต๊ะทำงานอย่างดีทีตอนนี้บิดเบี้ยวไปบ้างเพราะโดนทับซ้อนหลายชั้น แต่ก็ยังคงสภาพไม่หักลงมาเหมือนชิ้นอื่น และตรงซอกใต้โต๊ะเล็กๆนั่นก็ปรากฏร่างคนที่เขาตามหา...

“แจ็คสัน”เรียกอีกคนเสียงอ่อนถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่เป็นอะไร ตาโตเหมือนลูกหมาปรือลืมขึ้นมามองเขา ริมฝีปากสีแดงอิ่มช้ำแย้มยิ้มกว้างดีใจ

“คุณมาแล้ว...”

“ขอโทษ”ทรุดตัวนั่งลงข้างโต๊ะ ดึงอีกคนมาสวมกอดไว้อย่างหวงแหน ซุกไหล่บางกลั้นน้ำตาที่รินไหลลงมาช้าๆด้วยความโล่งใจ “เพราะข้า...เพราะข้า เลยทำให้เจ้าเป็นอันตราย ข้าขอโทษ”

“ผมไม่เห็นเป็นไรสักหน่อย”คนโดนกอดหัวเราะคิกคักก่อนไอออกมาเสียงดังจนมาร์คยังตกใจ รีบยันไหล่เชิดใบหน้าขาวขึ้นมาดูใกล้ๆ คำเตือนของจูเนียร์เรื่องแจ็คสันจะอ่อนแอลงเรื่อยๆยังดังก้องอยู่ในหัว ตาโตกระพริบตาปริบๆไม่เข้าใจว่าทำไมมาร์คต้องดูตกใจขนาดนั้นด้วย เขาก็แค่สำลักฝุ่นเท่านั้นเอง

“เจ็บตรงไหนไหม?”ถามพลางลูบชั้นฝุ่นบางๆบนเส้นผมสีน้ำตาลนุ่มหนาออก แจ็คสันส่ายหน้ายิ้มๆ

“ผมไม่เจ็บสักหน่อย ไม่ต้องขอโทษนะ...เอ๊ะ...มาร์ค!”แจ็คสันเรียกเขาดังลั่น มือขาวแตะแผ่นหลังผงะหงายออกมาดูด้วยความตื่นตกใจ ของเหลวสีดำเปราะมือขาวสีตัดกันเห็นได้ชัด ร่างสูงนิ่วหน้าเริ่มรู้สึกเจ็บแสบ

“คุณบาดเจ็บนี่! ทำไมไม่บอกผมล่ะ”

...ข้าก็ไม่รู้...คงเพราะความเป็นห่วงคนที่ลุกขึ้นประคองเขาอยู่ตอนนี้มันอยู่เหนือความเจ็บปวดของตนเองกระมัง ความรู้สึกในตอนนั้นรุนแรงจนลืมเจ็บ บาดแผลทางร่างกายใดก็คงไม่เทียบกับบาดแผลทางจิตใจที่แค่คิดว่าจะไม่มีแจ็คสันอยู่เคียงข้างก็รู้สึกชาไปทั่วทั้งร่างแล้ว

“แล้วพังขนาดนี้จะมีที่ไหนให้อยู่อีกเนี่ย”มนุษย์หนึ่งเดียวในเอริบัสบ่นงึมงำขณะเหลียวมองหาพื้นที่โล่งไปรอบๆ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ซากปรักหักพักกลัวนั่งๆอยู่จะพังครืนมาให้หวาดเสียวเล่น หันขวับตาขุ่นใส่เจ้าของปราสาทที่หัวเราะในลำคอดูไม่อนาทรร้อนใจเลยสักนิด

“เจ้าคิดว่าปราสาทข้ามีแค่ชั้นเดียวสองชั้นรึไง”มาร์คหัวเราะกับความป้ำๆเป๋อๆของร่างเล็กที่อ้าปากหวอน่ารัก กลายเป็นมาร์คเองที่เดินนำลิ่วพาแจ็คสันเดินลงมาจนถึงชั้นที่ปลอดภัย มือกระชับจับกันแน่นไม่ยอมให้หลุดห่างไปไหน เสียงหอบอย่างหายใจไม่ทันของร่างเล็กด้านหลังทำให้เทพปีศาจผ่อนฝีเท้าช้าลง เปิดประตูบานที่ใกล้ที่สุด ดึงอีกคนเข้ามาในห้อง

แจ็คสันมองห้องนอนเรียบๆที่มาร์คพาเขามา สรุปว่าในปราสาทของลูซิเฟอร์มีห้องนอนกี่ห้องกันแน่?

“ข้าสามารถบันดาลห้องทุกห้องในปราสาทนี้ขึ้นมาได้”มาร์คเอ่ยตอบราวกับล่วงรู้สิ่งที่แจ็คสันคิดอยู่ ทรุดนั่งลงบนปลายเตียง มือฉีกกระชากเสื้อเปื้อนเลือดสีดำออกจากตัว ยิ่งเผยให้เห็นร่องรอยบาดแผลมากมายกระจายอยู่ตามร่างงดงาม

แจ็คสันวิ่งเข้าไปรองน้ำในห้องน้ำ ฉวยเอาผ้าเช็ดตัวแถวนั้นออกมามองคนบนเตียง หันซ้ายหันขวาไม่รู้จะทำยังไงต่อ จะต้องหายาจากไหน แล้วรักษาเทพมันเหมือนรักษาคนไหม? วุ่นวายใจจนคนที่นั่งมองอยู่หัวเราะ

“คิดอะไรอยู่? วิธีรักษาข้าเหรอ? ปล่อยไว้เดี๋ยวก็หาย ล้างกับพันแผลให้ก็พอ”บอกวิธีเสร็จสรพพให้ร่างเล็กที่พยักหน้าหงึก ค่อยๆก้าวขึ้นเตียงกลัวจะกระเทือนแผลคนที่นั่งอยู่ก่อน นั่งคุกเข่าลงจ้องมองแผ่นหลังกว้างแล้วหยีตาใส่ แผลบาดลึกจากเหนือสะโพกขึ้นมาเหนือไหล่เป็นแนวตั้งน่ากลัวจนไม่น่าเชื่อว่ามาร์คจะทนมานานได้ถึงขนาดนี้ แม้กระทั่งตอนที่เขาลงมือเช็ดเลือดสีดำก็ยังซึมออกมาอยู่เลย

มาร์คส่งเสียงร้องกัดฟันข่มความเจ็บเมื่อแผลด้านหลังสัมผัสกับความเย็นชื้นของผ้าขนหนูผืนนิ่ม แจ็คสันชะงักมือเอี้ยวตัวไปมองหน้าซีด ลนลานกลัวว่าตัวเองจะเช็ดแรงจนทำให้มาร์คเจ็บ ความกังวลแสดงออกทางดวงตากลมจนคนบาดเจ็บต้องยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยเบาๆ

“ทำไปเลย ข้าทนได้”

“แต่...คุณดูเจ็บมากเลยนะ ให้ผมเรียกเจบีให้ไหม?”

“แล้วจะเรียกยังไง? เจ้านั่นก็สะบักสะบอมไม่แพ้ข้าหรอก เรียกมาก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้”

ปากแดงยู่เข้าหากัน ก็เขาไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นด้านนอกนั่นนี่ รู้แค่ปราสาทมันถล่มเลยไปหลบอยู่ใต้โต๊ะก็แค่นั้นเอง

ถอยกลับไปนั่งที่เดิม มือขาวบิดผ้าบรรจงซับเลือดที่แผ่นหลังแผ่วเบา อันที่จริงมาร์คบาดเจ็บหลายจุดแต่ที่ใหญ่ที่สุดก็คงเป็นที่หลังนี่แหละ

“แล้วทำไมถึงไปอยู่ในห้องนั้นได้?”

มาร์คถามเพราะทั้งที่ก่อนออกไปยังจำได้ว่าคนตัวเล็กนอนอยู่ในห้องนอน แต่กลับไปเจอตัวที่ห้องสมุดที่ไกลจากห้องเดิมตั้งสิบห้องได้ แจ็คสันชะงักมือไปนิดหน่อย ใบหน้าแดงก่ำก้มลงแสร้งบิดผ้าอย่างที่คนตัวสูงด้านหน้าไม่มีทางเห็น

“ผมไปเอาของที่ลืมไว้น่ะ”

“ของ?”

“เอาน่า~ ยกแขนขึ้นหน่อยผมจะพันผ้าให้”

“แจ็คสัน”มาร์คไม่ยอมทำตามคำสั่งนั้นหันหลังกลับมาทันเห็นแก้มแดงระเรื่อนั้นพอดี

ใบหน้าคมก้มโน้มเข้าใกล้ คนตัวเล็กผงะถอยแต่คงลืมว่ากำลังนั่งอยู่บนเตียงเลยหงายไปทั้งร่าง หลับตาปี๋หลบปลายจมูกโด่งที่เข้ามาคลอเคลียแถวแก้มนุ่ม ยิ่งลมหายใจร้อนเป่ารดใบหน้าก็ยิ่งเร่งให้แก้มแดงปลั่งมากยิ่งขึ้น มาร์คกำลังเค้นความจากเขาโดยไม่ใช้คำพูด เขาว่าเขาเข้าใจคำเตือนของลูซิเฟอร์ ว่าถ้าไม่พูดก็ไม่ต้องพูด แต่คงโดนอีกคนกลืนกินตลอดทั้งตัวอีกแน่ๆ

“พูดแล้วๆ!”ละล่ำละลักบอก มองคนที่ถอยออกไปแล้วตาค้อนงอน มือขาวชี้ลงไปด้านข้าง มาร์คยิ้มพอใจเลื่อนมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบแผ่นกระดาษพับครึ่งยับๆออกมากางดู พลันใบหน้างดงามก็นิ่งเงียบและเปลี่ยนเป็นแดงก่ำในชั่ววินาทีสั้นๆ ไม่แพ้คนตัวขาวที่ลุกขึ้นมากอดเข่าซุกหน้าลงอย่างนึกอาย ยิ่งเห็นปฏิกิริยามาร์คยิ่งทำให้เข้าใจว่าฝีมือเขามันคงไม่ได้เรื่องจริงๆ

กระดาษยับยู่แต่ก็พอมองเห็นเป็นโครงร่างรูปคนคร่าวๆ เส้นสีดำวาดลากยาวๆเหมือนไม้จิ้มฟันกลายเป็นขาสองข้าง ไม่ต่างจากแขนที่ยาวโยกโย้ไม่เท่ากัน ส่วนที่น่าจะเป็นใบหน้ากลมเหมือนเอาเหรียญทาบลากตามขอบเส้นสีดำบางๆระบายเป็นผม เขาที่ควรเป็นเขาแพะกลายเป็นเขาแหลมๆอย่างกับนอแรด ดีที่มาร์คในรูปมีหู ตา จมูก ปากครบถ้วนไม่ได้พิการแต่อย่างใด

“นี่เจ้าวาดเองเหรอ?”

“ไม่ต้องหัวเราะเลยนะ! ผมวาดมันเสร็จก่อนคุณจะเข้ามา...ข่มขืน”คำสุดท้ายแผ่วเบาและสั่นระริก ไม่ว่าจะทำใจยังไงความทรงจำตอนนั้นก็ยังตามหลอกหลอนเขาให้หวาดกลัวอยู่เสมอ แม้ว่าคนที่ทำร้ายเขาตอนนั้นจะเป็นคนเดียวกันกับที่รั้งร่างเขาไปกอดไว้ด้วยความอ่อนโยนอย่างตอนนี้ก็เถอะ

“ข้าขอโทษที่ความใจร้อนของข้าทำร้ายเจ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

“มาร์คขอโทษบ่อยเกินไปแล้วนะ”คนในอ้อมกอดดิ้นตัวหลุดขึ้นมาสบตากับคนตัวสูงกว่าในระยะประชิด ดวงตากลมโตฉายแววไม่พอใจก่อนอ่อนลงเมื่อเห็นหยาดน้ำตาบางๆของมาร์ค อัญมณีสีสวยกำลังเศร้าโศกเพราะสิ่งผิดพลาดที่ทำลงไป

มือขาวเอื้อมลูบใบหน้างดงาม นิ้วโป้งปาดลงขอบตาสวยๆเบาๆ ในขณะที่ริมฝีปากอิ่มแดงยิ้มยิ้มกว้างน่ารักไปให้

“ผมยกโทษให้หมดแล้ว ไม่ต้องขอโทษแล้วนะ ผมเบื่อฟังจะแย่ เปลี่ยนมาบอกรักผมซ้ำๆแทนได้ไหมล่ะ?”

“จะรุกรึไง?”เสียงทุ้มแซวพลางหัวเราะเมื่อคนตัวเล็กยู่หน้าใส่ มาร์คหยุดครุ่นคิดอะไรชั่วครู่ นิ่งไปจนแจ็คสันแปลกใจ คลานเข่าเข้ามาใกล้ แต่ไม่ทันจะถึงตัวมาร์คก็ฉุดร่างเขาลงไปนั่งบนตักแกร่งเสียก่อน กำลังจะโวยวายติดที่มือแกร่งเอื้อมแตะใบหน้าด้านข้างให้หันไปสบตากันเสียก่อน

...ดวงตาของมาร์คกำลังฉายแววสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความห่วงหา ความโศกเศร้าหมุนสลับไปมาจนแยกไม่ออกว่าคนตัวสูงต้องการจะบอกอะไรกับเขากันแน่

“เจ้าจะอยู่กับข้าตลอดไปใช่ไหมแจ็คสัน?”

“ทำไมถึงถามผมอย่างนั้น”

“ตอบข้า”มาร์คเร่ง จับมือขาวขึ้นมากดจูบช้อนสายตาขึ้นมามองหน้าคนรักที่นิ่งเงียบจนนึกกลัว

“ถ้าคุณอยากให้ผมอยู่...”

ร่างเล็กบนตักขยับตัวกอดคอคนตัวสูงเอาไว้ จ้องสบตาสวยแสดงความรู้สึกทั้งหมดที่มีออกไปให้มาร์คได้มั่นใจ...



“ผมก็จะอยู่กับคุณตลอดไป”




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

GOT7 INDEX

RED ZONE #ฟิคหน้ามืด

[SF] TUAN Twins (MARKSONYIEN) *3P*