[EREBUS] 18
~
18 ~
ร่างเล็กลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นใบหน้าหล่อเหลากำลังหลับตาพริ้มในระยะประชิด
จมูกโด่งพ่นลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ริมฝีปากบางหยักเผยอเล็กน้อย ภาพตรงหน้างดงามจนละสายตาไม่ได้
แม้จะเป็นยามหลับใหลลูซิเฟอร์ก็ยังคงสง่าและงดงาม กระทั่งตอนนี้แจ็คสันก็ยังแทบจะไม่เชื่อว่าคนตรงหน้าคือคนรักของเขา
ถึงแม้แก่นวิญญาณของแจ็คสันจะเป็นแก่นเดียวกับอนาตตาเซีย อดีตคนรักของมาร์ค
แต่ร่างกายและจิตใจก็ยังเป็นแจ็คสันหวัง มนุษย์ธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น
มันถึงน่ามหัศจรรย์มากที่เขาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของลูซิเฟอร์ทุกเช้าแบบนี้
ขยับตัวนอนคว่ำท้าวคางมองใบหน้าอีกคนยามหลับ
ยิ้มมุมปากมีความสุขพลางเลื่อนมือไปเขี่ยปลายจมูกโด่งเล่น
นอนตีขาคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
“เล่นอะไรแต่เช้า”เสียงทุ้มเอ่ยแทรกความคิด
ตัวถูกดึงจมลงไปในอ้อมกอดอุ่นอีกครั้ง
จมูกโด่งที่เขาเขี่ยเล่นเมื่อครู่กำลังซุกไซ้ผิวอ่อนข้างลำคอ
จั๊กจี้จนหลุดหัวเราะออกมา จับไหล่มาร์คไว้เป็นเชิงบอกให้หยุด
“ไม่เอาน่า
มันจั๊กจี้นะ”ร้องห้ามทั้งที่หัวเราะดิ้นหนีปลายจมูกโด่งและมือเรียวที่เริ่มรุกร่างกายเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ
“มาร์คคค”
“ปลุกข้าเพราะอยากทำไม่ใช่เหรอ”เสียงทุ้มเอ่ยกระเซ้าร่างเล็กที่เริ่มหน้าแดงก่ำเม้มปากระดมตีแขนอีกคนแรงๆจนเทพปีศาจยอมถอยทัพออกไปในที่สุด
“ใครจะอยากทำบ่อยๆ
เจ็บจะตาย”บ่นงุบงิบ ร้องหวาเมื่อมาร์คกระชากตัวเองขึ้นไปนอนบนตัว
ค้ำมือบนที่นอนไม่ให้ใบหน้าชิดกับคนที่เอาแต่ยิ้มกว้างเกินไป จะขยับตัวหนีก็ติดอ้อมแขนแกร่งที่โอบรัดเอวเขาไว้แน่น
“ข้าทำเจ็บเหรอ?”
แจ็คสันเม้มปากแน่นมองตาพราวระยับสีม่วงนั้นแล้วเขินอายขึ้นดื้อๆ
รู้ว่ามาร์คหมายถึงเรื่องไหน
แต่เขาไม่ได้หน้าด้านพอจะพูดอะไรแบบนั้นออกไปตรงๆหรอกนะ
เลยได้แต่ถลึงตาใส่ตีไหล่อีกคนแรงๆ
“ไม่ตอบเหรอ?
ถ้าอย่างนั้นขอพิสูจน์นะ”
“ตอบแล้ว!”ลำล่ำละลักตะโกนขัดมือเรียวที่ปลดกระดุมเสื้อนอนเขาลงไปสามเม็ด
บึนปากไม่พอใจใส่คนมือเร็วที่หัวเราะขำละมือไปจากเสื้อนอนตัวบางโดยดี
“ก
ก็ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้ว แต่ไม่อยากให้ทำบ่อยนี่นา”ก้มหน้าเขินซุกอกงุดๆน่าเอ็นดู
“แค่กอดกันก็มีความสุขมากแล้ว
หรือว่าคุณไม่รู้สึกเหมือนผมกันล่ะ?”แจ็คสันเปลี่ยนมากอดคนตัวสูงไว้แน่น
มาร์คหัวเราะกระชับอ้อมแขนให้ร่างกายพวกเขาใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
สูดดมกลิ่นหอมจากกลุ่มผมนิ่ม
“แค่เจ้าอยู่ข้างๆ
แม้ไม่ได้แตะต้องกันเลยข้าก็มีความสุข”
“ไม่อยากเชื่อเลยแฮะ
ลวนลามผมตลอดเลย นั่นไงล่ะ พูดยังไม่ทันขาดคำ!”หยิกหลังมือแกร่งที่ล้วงเข้ามาในเสื้อ
ทำตาดุใส่เทพปีศาจที่ลอยหน้าลอยตา พลิกตัวเขาลงบนเตียง
“ข้าหิวแล้ว”แจ็คสันรู้ทันทีว่ามาร์คต้องการอะไร
ชี้นิ้วคาดโทษไว้ก่อนกันอีกคนเตลิดก่อนโอบหลังคอคนด้านบนลงมาประกบจูบล้ำลึก
ริมฝีปากแนบชิดถูกันไปมา เรียวลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาดูดกลืนไอวิญญาณคนใต้ร่างยาวนานจนแจ็คสันอ่อนแรง
กระตุกเสื้อมาร์คหนักๆให้ถอนจูบออกไป ตาโตปรือปรอยและหลับลงไปอีกครั้ง
มาร์คจูบหน้าผากมนเบาๆ จัดท่าทางให้คนรักนอนสบายๆแล้วเดินออกมาจากห้อง
...ไอสีดำบอกเขาว่ามีแขกมาเยี่ยม...
“ว่างายยยย”น้ำเสียงกวนประสาทของเบลเซบับเจบอมยังน่าหมั่นไส้สำหรับลูซิเฟอร์มาร์คเสมอ
ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยอยู่บนสวรรค์คงได้ปิดประตูใส่ตั้งแต่อีกฝ่ายเริ่มทักทาย
“อย่าทำหน้าตาเป็นประโยคว่า
มาทำอะไร จะได้ไหม รู้น่าว่ากำลังมีความสุขกับยอดยาหยีน่ะ”
“ถ้าเจ้ายังไม่เข้าเรื่องข้าจะปิดประตู”
“เดี๋ยวๆ
เฮ้ออออ โอเค พูดก็ได้”
ท่าทางที่เปลี่ยนไปของแจบอมทำให้มาร์คเริ่มหันมาสนใจอย่างจริงจัง
ดวงตาสีอำพันที่ซ่อนใต้ตาตี่ๆนั่นดูจริงจังและนิ่งขรึมกว่าทุกครั้ง อีกฝ่ายปรบมือเรียกบางสิ่งให้ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางอากาศว่างเปล่าด้านหลังตนเอง
มาร์คมองสิ่งนั้นอย่างตกตะลึง
ประตูสีทองสลักลวดลายนรกและสวรรค์อย่างละครึ่ง
ความงดงามน่าเกรงขามและน่าขยะแขยงในขณะเดียวกันแบบนี้
แม้เห็นไม่กี่ครั้งก็ย่อมจำได้ว่ามันคืออะไรและใช้ทำอะไร หันมามองเทพแห่งการรักษาที่เดินเข้ามาใกล้
เอ่ยถ้อยคำที่ทำให้สติของมาร์คขาดผึ่งในทันที
“ข้ามารับแจ็คสันกลับโลก”
“ข้าไม่ให้!!!”
“แจ็คสันเป็นมนุษย์
เจ้าก็รู้ว่าเขาอยู่นานกว่านี้ไม่ได้”แจบอมพยายามเอ่ยเรียบๆสู้ลูซิเฟอร์ที่หน้าแดงก่ำเพราะความโมโห
ปีกมังกรสีดำผุดขึ้นจากหลังและเกล็ดสีดำที่ลามไล่ไปตามแขนขา
นัยน์ตาสีม่วงเรียวรีกลายเป็นนัยน์ตามังกร
“เจ้าเอาเขาไปไม่ได้!”
“ข้าเอาเขามา
ข้าก็เอาเขากลับไปได้”
เบลเซบับแจบอมที่แท้คือคนที่พาแจ็คสันมาที่โลกนี้
เขารู้ดีตั้งแต่ต้นว่าแจ็คสันคืออนาตตาเซีย พามาโลกนี้เพื่อให้ลูซิเฟอร์ได้เจอกับคนรักของตนอีกครั้ง
น่าเศร้าที่แจ็คสันเป็นมนุษย์ซึ่งยังไม่ผ่านความตาย
การจะให้มาอยู่นรกนานๆย่อมส่งผลถึงเส้นโชคชะตาที่ต้องแปรปรวนยุ่งเหยิงอย่างที่สุด
การจะแก้ปัญหาก็คือการเอาแจ็คสันกลับไปสถานเดียว ก่อนที่เส้นโชคชะตาจะหมุนพันกันมากไปกว่านี้
“เขาเป็นของข้า!”
แจบอมเริ่มหงุดหงิดกับพลังของมาร์คที่หลุดออกมาเพราะเจ้าตัวกำลังโกรธจนลืมจะเก็บพลังของตนเองไว้
ลมกรรโชกแรงหวีดหวิวเริ่มก่อแรงขึ้นกลายเป็นพายุใหญ่
ท้องฟ้าขมุกขมัวมืดครึ้มด้วยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของอดีตเทพชั้นเซราฟิม
“ใจเย็นหน่อยได้ม...”พูดไม่ทันจบประโยค
ลูกพลังสีดำลูกหนึ่งก็วิ่งผ่านข้างหูไป
เกิดเสียงระเบิดกัมปนาทดังกระเทือนเลือนลั่นทั่วเอริบัส
พื้นด้านใต้สั่นสะเทือนจนรู้สึกได้
“ได้...”ยิ้มเหี้ยมหัวเราะสติแตก
เงยหน้าขึ้นปล่อยปีกบางใสสีรุ้งออกจากหลัง เบลเซบับกำลังจะเผยร่างต้องสาป
“ในเมื่อเจ้าอยากสู้ข้าก็จะจัดให้!!!”
มาร์คกลายร่างเป็นมังกรยักษ์เต็มตัวพุ่งกัดเบลเซบับที่ยังแปลงร่างไม่สมบูรณ์ลงไปครูดกับพื้น เสียงร้องตะโกนก้องจากชายผู้โดนทำร้ายก่อน
แสงสีทองสาดเป็นกระกายไปทั่วป่า มังกรยักษ์กระเด็นออกมาด้วยพลังนั้น หมุนตลบขึ้นไปบนฟ้า
ปีกมังกรทั้งสามคู่ถูกเรียกมาใช้เต็มอัตรา แสดงให้เห็นว่าลูซิเฟอร์กำลังเอาจริง
ดวงตาสีม่วงจ้องร่างต้องสาปของเบลเซบับบนพื้นด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด
เบลเซบับในร่างต้องสาปคือมหาราชาแห่งแมลง
ลำตัวยาวเพรียวหุ้มด้วยเปลือกแข็งสีทองปานเหล็กกล้า ดูไกลๆก็คล้ายว่ากำลังสวมชุดนักรบโบราณอยู่
ส่วนตาแมลงมองได้รอบทิศ ปีกใสเห็นใยแข็งแรงสองคู่ปรากฏอยู่บนหลัง
แม้ไม่ได้สง่างามแต่ก็ให้ความรู้สึกน่าครั่นครามไม่แพ้มังกรดำบนฟ้า
ครืนนนน
เสียงฟ้าคำรามดั่งเป็นคำเตือนบอกสัตว์น้อยใหญ่ในเอริบัสรู้ว่ากำลังจะเกิดการต่อสู้ของเทพปีศาจหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ของนรก
เสียงความโกลาหลอลหม่านดังเจี๊ยวจ๊าวน่าหนวกหู
เปรี๊ยะ! ตูม!
ลูกพลังสีทองและสีดำพุ่งเข้าหากันก่อนแตกระเบิดไปทั่วทิศ
ลูซิเฟอร์บินฉวัดเฉวียนกัดปีกบางใสของเบลเซบับโยนขึ้นฟ้า
ราชาแมลงตั้งตัวทันอ้าปากกราดลำแสงสีทองใส่มังกรบนพื้น
เกราะบางใสสีม่วงถูกเรียกขึ้นมาป้องกันกายไว้
แต่เพียงชั่วขณะมันก็แตกสลายเพราะต้านพลังอำนาจลำแสงเอาไว้ไม่ได้
ลูซิเฟอร์คำรามส่งลูกพลังสองลูกโจมตีเบลเซบับที่คราวนี้ไม่ทันตั้งตัว
หล่นลงมาจากฟ้า
เสียงหวีดหวิวที่เข้ามาใกล้ทำให้จ้าวแห่งแมลงหดตัวลงหลบหนีลูกพลังสีดำที่พุ่งเข้ามาหวังจะโจมตีให้ดับดิ้น
กร๊าซซซ
มังกรดำคำรามเมื่อปีกข้างหนึ่งถูกหนวดเล็กๆคล้ายเถาวัลย์รัดจับไว้ได้เสียหลักหล่นลงไปบนพื้น
คราดไปกับพื้นทิ้งรอยครูดไว้เป็นรอยยาว กางปีกที่ยังเป็นอิสระขึ้นกำบังลูกพลังเล็กๆคล้ายห่ากระสุนที่พุ่งลงมาจากฟ้า
ตวัดกรงเล็บสร้างรูปแบบพลังบีบลมอัดแน่นบางกริบราวมีดส่งไปให้คู่ต่อสู้ที่รีบบินหลบแต่ก็ไม่พ้นโดนถากเข้าที่ลำตัวด้านซ้ายตกลงมากระแทกพื้น
แต่เพราะพวกเขาไม่มีวันตายจึงสามารถจะฝืนลุกขึ้นมาแล้วเข้าห้ำหั่นกันได้อีกครั้ง
เบลเซบับจับตัวมังกรผสานกับพลังโยนมังกรปีกเจ็บขึ้นไปหวังจะให้ตกลงมากระแทกพื้นบาดเจ็บ
แต่ลูซิเฟอร์ไหวตัวทันพลิกตัวกลับมา
ปึง!
หางมังกรยักษ์ปัดไปโดนส่วนปราสาทสีดำพังลงมาเป็นทางยาวแต่คนทำกลับไม่รู้สึกตัวไม่
กระโจนไปตวัดกรงเล็บใส่จ้าวแมลงที่ก่อม่านพลังขึ้นมาป้องกัน
ยื้อยุดกันสักพักลูซิเฟอร์ก็ตวัดหางขึ้นฟาดข้างลำตัวเบลเซบับให้กระแทกป่าแถวนั้นให้ล้มลงไปเป็นทางยาว
เหล่าสัตว์น้อยใหญ่กระโจนบินวิ่งหนีกันวุ่นวาย
“หยุดนะ!”เสียงแหลมกรีดร้องกลางวงการต่อสู้ เบลเซบับและลูซิเฟอร์ชะงักค้างชั่วครู่
เป็นโอกาสให้ร่างสี่ร่างที่รออยู่แล้วเข้ากระโจนกักตัวทั้งสองไว้ได้
“ท่านลูซิเฟอร์กรุณาใจเย็นลงก่อนนะครับ”แบมแบมในร่างของจ้าวแห่งเวหาซิสจับหางใหญ่ตรึงไว้กับพื้นในขณะที่ส่วนลำตัวโดนงูใหญ่ลิเวียธานรัดจนขยับไม่ได้
“นี่มันอะไรกัน!”เจบีร้องโวยวายเพราะโดนเบเฮมอธร่างยักษ์นั่งทับแถมตัวยังแข็งเหมือนมีใครสาปมนต์ลงไว้
“มนต์ตรึงร่างให้พวกเจ้าหายบ้าไง!”เสียงแหลมเสียงเดิมดังขึ้นมาอีกครั้ง
คราวนี้มาพร้อมร่างของแอสทารอสจูเนียร์ในร่างต้องสาปที่ปรากฏขึ้นบนฟ้าด้วยท่าทีโกรธจัด
ร่างชายหนุ่มในชุดสีขาวยาวระเท้านั่งอยู่บนมังกรสีแดงที่มีหางเป็นงูพิษสีเขียวร่อนลงมาบนพื้นดินระหว่างกลางเทพยิ่งใหญ่ทั้งสอง
โบกมือคราวหนึ่งมังกรพาหนะก็กลายร่างเป็นงูสีเขียวเหลือบแดงขึ้นมาพันรอบคอกลายเป็นเพียงเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง
ปีกปีศาจสีดำด้านหลังกางออกเปล่งไอสีเขียวอ่อนออกมาเบาบางแสดงให้เห็นว่ากำลังใช้พลังอยู่
“ประสาทอะไรถึงมาตีกันจนเอริบัสวุ่นวายขนาดนี้กัน
เจบี!”
“ข้ามาพาแจ็คสันกลับโลก
แต่เจ้านั่นไม่ยอม”เบลเซบับรีบฟ้องในขณะที่ลูซิเฟอร์ถลึงตากลับมาใส่
“อ้อ
เรื่องนั้น... ใครบอกให้เจ้ามาบอกเขาโดยพลการกัน ข้ากำลังหาวิธีอยู่นะ!”แอสทารอสเดินดุ่มๆเข้ามาเตะข้างตัวเบลเซบับดังตุบใหญ่
“นอกจากพากลับโลกมันจะวิธีอื่นได้ยังไงล่ะ!”แม้จะเจ็บเพราะโดนทำร้ายแต่ก็ต่อปากต่อคำแบบไม่ยอมแพ้
“บอกว่ามีก็มี
ข้าจำได้ว่ามันมีแต่ตอนนี้ข้าหาไม่เจอ เคยฟังข้าบ้างไหมฮะ!”คราวนี้จูเนียร์ถึงกับโมโหเสกผ้าขึ้นมาปิดปากเรื่องมากของคนรักตัวเอง
แล้วเดินมาหามาร์คที่อารมณ์เย็นลงแล้ว โบกมือบอกให้แบมแบมและยองแจปล่อยเขาออก
คลายมนต์ตรึงร่างปล่อยให้มาร์คกลับคืนร่างมนุษย์
“พวกผมขอโทษนะครับ
แต่พี่จูเนียร์เขาสั่งมา”ยองแจรีบละล่ำลักลักบอกเทพปีศาจที่เพียงเปรยตานิ่งๆมามอง
“มาร์ค”จูเนียร์เรียกชายหนุ่มให้หันไปสนใจเขาพลางเดินเข้ามาใกล้
“ยกโทษให้หมอนั่นเถอะ ถึงเขาจะงี่เง่าไปหน่อยแต่ก็ทำไปเพราะเป็นห่วงนายนั่นแหละ”
“...”มาร์คไม่ตอบแต่หัวเราะหึเงยเบือนหน้าหนี
จูเนียร์ถอนหายใจกับความดื้อรั้นของลูซิเฟอร์ จำพูดต่อไปเพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
“แจ็คสันในร่างมนุษย์อยู่ที่นี่ไม่ได้
สามวันหลังจากนี้ไอวิญญาณเขาจะเบาบาง
ร่างกายจะอ่อนแอลงเรื่อยๆและแก่นวิญญาณจะแตกสลายไปในที่สุด”ความจริงที่เพิ่งได้รู้ทำให้จิตใจของมาร์คแทบแหลกสลาย
ความสุขมักอยู่กับเราเพียงไม่นาน แต่กับเขาความสุขนั้นมาราวกับพายุ
ทำให้สุขจนลอยแล้วก็ตกลงมาบาดเจ็บเจียนตาย
“แต่ข้ากำลังหาทางอยู่...
มันมีทางที่ทำให้เขาอยู่กับเราได้”
“ข้าจะเชื่อเจ้าได้ยังไง”
“เพราะข้าคือแอสทารอส”จูเนียร์พูดเสียงดังบอกถึงนามเทพของตนเอง
อดีตเทพีผู้ล่วงรู้ทุกสิ่ง “ข้ามองเห็นว่าเขาจะอยู่กับเรา
เพราะฉะนั้นได้โปรดใจเย็นและรอ”
.
.
.
.
.
แขกทั้งหมดกลับไปแล้ว
เหลือทิ้งไว้เพียงซากความวินาสสันตะโรรอบปราสาท
เทพปีศาจเพิ่งได้เหลียวกลับไปมองตัวปราสาทก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ
รอยบาดรอยใหญ่บนนั้น ซากที่ถล่มลงมาตรงนั้น...
“แจ็คสัน!”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น