[OUR] 09
OUR BABY!
บทที่
09
“พี่มาร์ค!”
ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสุภาพกางเกงยีนสีซีดก้าวออกมาจาก
Audi
R8 Spyder ที่จอดขวางทางเบื้องหน้า แว่นกันแดดสีเข้มบดบังดวงตาสวย
สีหน้าเรียบนิ่งคาดเดาอารมณ์ไม่ออก มาร์คเดินมาเปิดประตูข้างคนขับ
ฉุดมือแจ็คสันให้เดินตามตนไปที่รถ พี่มินจุนอ้าปากหวอรีบตะโกนตามหลังทั้งสองมา
“เฮ้ย!
นายจะพาแจ็คสันไปไหนน่ะ!”
มาร์คไม่แม้แต่จะหันหลังไปมอง
ดันคนตัวเล็กขึ้นฝั่งข้างคนขับปิดประตูเสียงดังจนแจ็คสันสะดุ้ง ส่วนตัวเองเดินกลับมาสตาร์ทรถดริ๊ฟรถกลับไปเส้นทางเดิม
สวน BMW
Z4 สีเหลืองของมินจุนที่ได้แต่มองตามออดี้สีขาวคันหรูพุ่งออกไปเหวอๆ
ยังตามเหตุการณ์ไม่ทันนัก
นี่เขาเพิ่งโดนฉุดตุ๊กตาหน้ารถแสนน่ารักไปใช่ไหม?
“แล้วจะกลับไปบอกคนอื่นว่ายังไงวะเนี่ย…”
บรรยากาศในรถออดี้สีขาวเงียบน่าอึดอัดสำหรับแจ็คสัน
ตากลมเหลือบมองคนขับที่เอาแต่ตั้งสมาธิไปที่ทางด้านหน้า
ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ
เขาอยากกระชากแว่นตาดำนั่นออกจริงๆจะได้รู้ว่ามาร์คอยู่ในอารมณ์เช่นใด
แต่เพราะในความเป็นจริงทำไม่ได้เลยได้แต่เบี่ยงตากลมมามองมือตัวเองบนตัก เม้มปากขณะเอ่ยคำถามที่ติดค้างในใจมานานนับเดือน....
“พี่มาร์ค...พี่ไปไหนมา?”
“...”
“พี่จะไม่พูดกับผมจริงๆเหรอ?”
“...”
“หลังจากทำอะไรบ้าๆแบบนั้นพี่ก็หายไป
ติดต่อก็ไม่ได้...พี่คิดว่าผมจะรู้สึกยังไง?”เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมพูดอะไร
ความน้อยใจก็พุ่งพรวดขึ้นมาทันทีทันใด
มองหน้าอีกฝ่ายพยายามจะอ่านท่าทางแต่ก็ไร้ความหมาย
...มาร์คยังคงนิ่งเงียบอย่างไร้ความรู้สึก...
“เออ
ก็ไม่อยากบ่นเป็นผู้หญิงหรอก แต่ผมน้อยใจเป็นนะที่พี่หายไปเลยแบบนั้น ติดต่อก็ไม่ได้
โทรศัพท์ก็ไม่ยอมรับสายผม มันไม่ใช่แค่วันสองวันนะ พี่หายเป็นเดือน!
ผมเป็นแฟนพี่ป่ะวะ ทำไมถึงไม่ยอมบอกอะไรเลย
มีเรื่องอะไรให้ต้องหายไปนานขนาดนั้นเลยรึไง! ไม่คิดบ้างเหรอว่าผมเป็นห่วงน่ะ!”
ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งหรูออกมาหมดราวกับก็อกน้ำที่ถูกหมุนเปิด
ทั้งอารมณ์ที่ถูกกักเก็บไว้ ทั้งน้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจ ทั้งถ้อยคำที่อยากต่อว่าอีกฝ่ายตลอดมา
ยกมือปาดน้ำตาข้างแก้มลวกๆ ร้องไห้จนหมดก๊อกแต่อีกฝ่ายก็ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
“พี่รู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผม...
ผมเป็นตัวบ้าอะไรก็ไม่รู้เพราะยาของพี่!!! ทำแบบนี้กับผมแล้วหายไปมันหมายความว่ายังไงวะ!!!”
ผลักไหล่ผอมแข็งไปแรงๆเพราะโมโหที่อีกคนทำท่าทีเฉยเมยใส่ทั้งที่ตัวเองกำลังเรียกร้องให้อีกฝ่ายหันมาสนใจและตอบคำถามของเขาบ้าง
เวลาที่มาร์คหายไปโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ สร้างคำถามมากมายขึ้นมาในจิตใจทับถมกลายเป็นภูเขาก้อนใหญ่ที่คอยติดตามเขาไปทุกที่
ถูกซ้ำเติมด้วยความรู้สึกน้อยใจ เสียใจและความเหงา มากพอที่จะทำให้แจ็คสันคิดว่ามาร์คไม่รักตนแล้ว...
มือขาวปาดน้ำตาทิ้ง
กลับมานั่งร้องไห้เงียบๆในฝั่งของตน ริมฝีปากแดงเม้มแน่น
พูดออกมาด้วยความน้อยใจล้วนๆ
“เออ... ผมแม่งโง่เองที่เชื่อว่าพี่รักผม
ขอบคุณนะที่ทำให้ผมรู้ว่าตลอดมาพี่ไม่เคยรักผมเลย”
“เอาอะไรมาพูด...”
ในที่สุดมาร์คก็ยอมเปิดปาก
ออดี้คันหรูถูกเบี่ยงไปจอดในที่นารกร้างว่างเปล่า
พื้นที่รอบด้านเงียบสงัดและไร้ผู้คน บริเวณนี้เป็นพื้นที่ทำการเกษตรดังนั้นจึงไม่มีบ้านเรือนปลูกสร้างอยู่
ในรถจึงมีแต่แสงไฟหน้าและไฟจากเสาไฟข้างถนนเท่านั้นที่ทำให้เห็นโครงหน้าหล่อเหลาที่ยื่นเข้ามาใกล้
“แจ็คสันก็รู้ว่าพี่รักแจ็คสันขนาดไหน”
ดวงตาใต้กรอบแว่นตอบทุกคำถามที่แจ็คสันคาใจ
นิ้วเรียวยกขึ้นปาดหยาดน้ำตาใสๆตรงข้างแก้มนุ่ม ริมฝีปากหยักจูบซับน้ำบนหางตาตกให้คนตัวเล็กที่ร้องไห้โฮออกมามากกว่าเดิมจนร่างสั่นสะท้าน
มือขาวกำปกเสื้อมาร์คไว้แน่น ร้องไห้เหมือนเด็กๆอย่างไม่มีอาย รู้สึกโล่งใจเพียงเพราะคำสั้นๆเพียงคำเดียวเท่านั้น
“พี่กลับมาแล้วนะ...ไม่ต้องไปแอบร้องไห้คนเดียวแล้วนะครับ”
ดวงตาโตหลุบหลับลงรับจุมพิตอ่อนโยนแฝงไปด้วยความรู้สึกจากร่างสูง
กลิ่นกายอันคุ้นเคยและอ้อมกอดอันอบอุ่นที่เขาคะนึงหากลับมาหาเขาแล้ว
มาร์คกลับมาแล้วจริงๆ...
มาร์คปรับเอนที่นั่งกอดรัดคนรักที่ซุกอยู่บนอกอย่างแสนคิดถึง
เปิดประทุนมองไปบนท้องฟ้ายามรัตติกาล พราวระยับไปด้วยแสงดาวในคืนเดือนมืด
ชี้ชวนให้แจ็คสันมองนู่นมองนี่แต่คนตัวเล็กก็เอาแต่ก้มหน้าซุกอกเขาอย่างกับเด็กทารก
“ไม่มองหน้าพี่เลย
ยังโกรธพี่อยู่เหรอ?”
กำปั้นหนักๆบนสีข้างเป็นคำตอบได้ดีกว่าอะไรทั้งหมด
แต่ถึงจะโกรธ แจ็คสันก็ยังคิดถึงมาร์คจนอยากอยู่ในอ้อมกอดนี้อีกสักพัก
สูดลมหายใจเข้าลึกหลับตาลงรู้สึกง่วงขึ้นมาเสียอย่างนั้น แต่เขาจะหลับตอนนี้ไม่ได้
ถ้าไม่ได้คั้นความจริงจากคนตัวสูงให้หายสงสัยเสียก่อน
“พี่หายไปไหนมา?
ทำไมผมติดต่อพี่ไม่ได้เลย”
มาร์คหัวเราะให้แทนคำตอบเรียกสายตาดุกร้าวจากลูกหมาตัวน้อยที่พร้อมจะกลายเป็นพญาหมาป่าแสนดุทันทีถ้าไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ
“อย่าดุนักเลยน่า
พี่จะตอบแน่ๆ...ระหว่างที่พี่กอดนายน่ะนะ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าหล่อเหลาไม่เคยทำให้แจ็คสันขนลุกเท่าวันนี้
คนตัวกลมดิ้นพราดๆรู้ทันทีว่ามาร์คหมายความว่าอย่างไร รีบหยิกหลังมือที่เริ่มป้วนเปี้ยนตรงสะโพกอวบของตน
ถลึงตาใส่คนพี่ที่กดปิดหลังคารถ
เตรียมสถานที่ให้พร้อมสำหรับทำเรื่องบัดสีอย่างที่เขาไม่สมยอม
“ไอ้บ้าลามก!!! หยุดเลยนะ!”ร้องโวยวายลั่น
มองเข็มขัดหนังลอยไปนอนนิ่งบนเบาะหลัง รีบคว้าขอบกางเกงนักศึกษาที่กำลังจะไถลลงไปจากสะโพก
...มือจะไวไปไหนวะ!!!...
“ก็พี่คิดถึงแจ็คสันนี่นา
เกือบเดือนเลยนะที่ไม่ได้เจอหน้ากันเลยน่ะ”ช้อนสายตาอ้อนคนรักที่แก้มแดงปลั่งส่ายหน้าปฏิเสธหัวแทบหลุด
“นี่มันข้างนอกนะพี่มาร์ค
ในรถนะเว้ย!”
“รถพี่ปรับเบาะได้”
“ไม่ใช่ปัญหาเรื่องนั้นเฟ้ย!!!”ด่าไอ้อัจฉริยะสติเฟื่องที่ตอนนี้ทำการดึงกางเกงเขาลงไปสำเร็จแล้ว
มือแกร่งล้วงเข้าไปใต้เสื้อนักศึกษาตัวบางเค้นคลึงหน้าอกราบเรียบจนเจ้าของครางฮือในลำคอ
มือขาวผลักไหล่แข็งยันตัวจะหนีจากการสัมผัสจาบจ้วงจนหลังติดคอนโทรลหน้ารถ
“เฮ้ย!”
ร่างทั้งร่างถูกจับเหวี่ยงลงเบาะที่นั่งข้างคนขับที่ปรับเอนจนสุด
มาร์คเหวี่ยงตัวลงมาคร่อมสะโพกเขาไม่ให้ขยับหนีได้อีก มือทั้งสองข้างถูกรวบยกเหนือหัวด้วยมือซ้าย
ส่วนมือด้านถนัดของมาร์คก็ถูกเลื่อนต่ำลงไปปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาตัวบางให้หลุดออกจากกัน
“พี่มะ...ฮื้อ!”แจ็คสันที่กำลงจะร้องท้วงถูกปิดปากด้วยริมฝีปากสวย
ลิ้นเรียวรุกล้ำเข้ามาภายในโพล่งปากนิ่มรัดลิ้นเล็กพันพัวอย่างดูดดื่มจนคนที่ขัดขืนเมื่อครู่ตัวอ่อนยวบเพราะโดนอารมณ์จูบร้อนชักนำ
นิ้วเรียวยาวลูบบดยอดอกผ่านเสื้อกล้ามตัวบางจนมันตึงนูนดันเนื้อผ้าขึ้นมา
มาร์คจูบด้านข้างลำคอขาวเบาๆ ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกร้องครางปะปนห้ามปรามทันทีที่ส่วนอ่อนไหวบนหน้าอกถูกปลายลิ้นเรียวหยอกล้อผ่านเนื้อผ้าหอมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม
ฟันขาวขบกัดเบาๆสลับกับการเลียและการดูดอย่างจงใจกระตุ้นให้แจ็คสันบิดเร่าเพราะความต้องการของตัวเอง
“ฮือ อะ อ๊ะ”ร้องครางเสียงเบาหยีตาเบือนหน้าอายแทบแทรกแผ่นดินหนี
ก็ตรงนี้มันไม่ได้ไกลเขตตัวเมืองเท่าไหร่ ถึงแม้จะไม่ใช่ถนนสายหลักแต่ก็ไม่ว่าจะไม่มีรถสัญจรไปมา
แถมมาร์คยังมาจอดเอาซะริมถนนให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะโดนข่มขืนข้างถนนยังไงก็ไม่ปาน
มาร์คเงยหน้าขึ้นมามองคนใต้ร่างด้วยสายตาพึงพอใจ
ใบหน้าหวานหลับตาปี๋คิ้วขมวดแก้มแดงเถือกเบี่ยงหน้าซุกลงกับเบาะอย่างเขินอาย เสื้อนักศึกษายังค้างอยู่บนตัว
เสื้อกล้ามสีขาวเปียกแฉะเป็นรอยวงเห็นยอดอกสีสวย กางกางรวมถึงชั้นในถูกถอดค้างไว้บนข้อขาขาวไม่ต่างกับเชือกพันธนาการ
มือเรียวลูบเข้าไปใต้เสื้อกล้ามรั้งมันขึ้นกองไว้เหนือไหประร้า
ก้มลงจัดการอกนุ่มสีสวยโดยตรงเรียกเสียงครางหวานจากคนโดนกระทำ
เลื่อนมือลงไปจัดการกับสิ่งอ่อนไหวด้านหน้าที่ยังไม่ได้รับการกระตุ้น
“อ่า! อย่าจับตรงนั้นนะ!”
แจ็คสันร้องห้ามผวาตัวหลังลอยกระตุกข้อมือที่โดนกดไว้เป็นเชิงขัดขืน
กัดฟันกลั้นเสียงครางที่จะหลุดรอดออกมาขณะที่มือแกร่งรูดรั้งส่วนนั้นให้ ก้มหน้าชิดอกปล่อยให้อีกคนจัดการกับร่างตัวเองไปจนส่วนปลายเริ่มปริ่มน้ำ
“ไอ้! หยุดทำไม!”ร้องด่าว่าเสียงพร่า อารมณ์ค้างคากำลังทำร้ายเขา
ร่างขาวสั่นระริกเพราะความต้องการที่ไม่โดนสานต่อ
มาร์คยิ้มระรื่นไม่ทุกข์ไม่ร้อน
สอดมือเข้ากลางหว่างขาของคนใต้ร่างดันให้ถ่างออก ส่งนิ้วเรียวแตะปลายทางปิดสนิท
ต้นขาขาวสั่นระริกอย่างรู้ว่ามีสิ่งใดตามมาหลังจากนี้
ร่างขาวผวาเฮือกใหญ่หนีบขาเข้ามาตามสัญชาติญาณ
“เจ็บ”
ร้องโอดโอยน้ำตาเล็ดกระตุกร่างทุกครั้งที่โดนนิ้วชำแรกเข้ามาในร่าง
ร้องไห้เข้าหนักๆมาร์คก็ก้มลงมากดจูบปลอบประโลมเบี่ยงเบนความสนใจให้ผ่อนคลายลง
แจ็คสันกรีดร้องหนักขยับสะโพกหนีความแข็งร้อนที่พยายามสอดแทรกเข้ามาในช่องทางคับแคบ
มาร์คปล่อยมือคนร่างเล็กมาบดคลึงก้อนเนื้อนุ่ม นวดเฟ้นให้ร่างเล็กผ่อนคลายขณะพยายามโยกขยับดันร่างเข้าไปช้าๆไม่ให้แจ็คสันช้ำไปมากกว่านี้
แต่กระนั้นร่างเล็กก็ยังร้องเจ็บๆจนมาร์คดันเข้าไปจนสุดความยาว
“อื่อ
อย่าเพิ่งขยับนะ”ขอร้องเสียงสั่น ยกตัวกอดต้นคอแกร่งยึดไว้ไม่ให้มาร์คขยับได้
มาร์คลูบเส้นผมนิ่มกดจูบบนหน้าผากชื้นเหงื่อคนคนใต้ร่างอย่างต้องการปลอบประโลม
“ใจเย็น
พี่จะไม่ทำเจ็บ ผ่อนคลายนะ”
“เจ็บโว้ย! ไม่มาเป็นผมไม่รู้หรอก อะ อื้อ!”จู่ๆมาร์คก็เริ่มขยับสะโพกโดยไม่ให้ตั้งตัว
มือขาวทุบลงบนหลังแข็งแรงๆอย่างต้องการตอบโต้คืน เปิดปากร้องคราง ร่างโยกสั่นไหวไปตามแรงกระทุ้งจากใต้ร่าง
เสียงสวบสาบของเนื้อผ้าที่เสียดสีกันไม่ได้ทำให้ทั้งสองสนใจเท่าเสียงและสัมผัสเฉอะแฉะจากส่วนหลอมรวม
พลันดวงตากลมก็เห็นแสงไฟจากหางตา
ตกใจจนเผลอบีบรัดร่างสูงที่อยู่ในร่าง
มาร์คร้องครางเงยหน้ามองคนรักที่มีสีหน้าตื่นตระหนก หันไปมองข้างนอกก็เห็นรถกระบะคันหนึ่งกำลังแล่นมาช้าๆและกำลังลดความเร็วลงเหมือนกำลังจะจอด
“พี่มาร์ค”แจ็คสันเรียกชื่อเขาเครียดๆ
ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสน มาร์คกดจูบบนหน้าผากมน
“ใจเย็น...เงียบไว้นะ”
คุณลุงแก่ๆลงมาจากรถกระบะ
เดินเข้ามาใกล้ๆพยายามจะส่องอย่างสงสัยว่ารถคันหรูมาจอดตรงนี้ทำไม
“มีคนอยู่ข้างในไหม?
เป็นอะไรรึเปล่า?”
“ครับ
ผมจอดพักตาครับลุง ไม่ได้เป็นอะไรครับ”มาร์คตะโกนตอบกลับไป
ดันแจ็คสันขึ้นมานอนตะแคงข้างติดประตูด้านหนึ่งเอาตัวตนเองบังไว้
ดึงผ้าบางๆหลังรถมาปิดตัวคนรักไว้ ดันศีรษะกลมกดลงหลบ ขณะพูดกับคุณลุงเนียนๆ
“อ้าวเหรอ
ลุงก็นึกว่ารถเสีย เอาๆ งั้นลุงไปแล้ว”คุณลุงหยุดยืนแล้วเดินจากไปโดยดี
มาร์คถอนหายใจเฮือกทันทีที่รถกระบะแล่นห่างออกไปช้าๆ
คลี่ผ้าห่มออกมองร่างเล็กที่กำลังสั่นระริก ลมหายใจร้อนเป่ารดหน้าอกแกร่ง
ใบหน้าหวานเปี่ยมล้นไปด้วยความต้องการ มือขาวกำแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ ดวงตาปรือปรอยเอ่อน้ำช้อนขึ้นมามองเขา
“พี่มาร์ค
ไม่ไหวแล้ว”
มาร์คยิ้มมุมปากดันร่างเล็กลงเบาะจัดการสานต่อกามกิจที่โดนขัดจังหวะด้วยความเต็มใจ
ความเจ็บปวดเปลี่ยนเป็นความวาบหวาม ความร้อนระอุไต่ระดับขึ้นช้าๆตามอารมณ์ที่โดนพัดพา
ร่างสูงกว่าโถมร่างลงมาหนักร้องครางฮึมเมื่อโดนสะโพกมนจับจังหวะได้และสวนคืน บรรยากาศภายในรถร้อนระอุขึ้นมาในทันทีไม่ต่างจากเตาอบ
มาร์คปัดเส้นผมชุ่มเหงื่อออกจากใบหน้าคนรักที่มองเขาตาปรือปรอยเต็มไปด้วยความต้องการที่ฉายชัด
ปากแดงฉ่ำครางเครือเร่งอารมณ์ให้พุ่งสูงขยับสะโพกเร็วขึ้นจนร่างเล็กสั่นคลอน
มือขาวจิกบนไหล่ระบายความเสียวกระสัน ร้องหวีดสูงรับน้ำอุ่นร้อนที่ถูกฉีดเข้ามาในร่าง
มาร์คดันตัวแจ็คสันขึ้นไปนอนด้านบน
ตระกองกอดคนรักที่ยังหอบหายใจหนักไว้ด้วยความหวงแหน หัวกลมซุกไซ้หน้าอกแกร่งฟังหัวใจเต้นแรงของมาร์คยิ้มด้วยความสุขใจ
...แจ็คสันเหมือนจะลืมอะไรไป...
“เฮ้ยยยยย!!!”
มาร์คสะดุ้งตกใจเมื่อคนในอ้อมกอดร้องเสียงดัง
หน้าตาเหวอตกใจซีดเผือก ปากหุบๆอ้าเหมือนพยายามเรียบเรียงความคิด
“แย่แล้ว! เมื่อกี้พี่ปล่อยในใช่ไหม! แว๊กกกกก!!!”กรีดร้องตื่นตระหนก ร้อนถึงมาร์คต้องดึงคนตัวเล็กมากอดไว้
“แจ็คสันใจเย็นนะ
มีอะไร?”
“ใจไม่เย็นแล้วโว้ย! เอาออกเดี๋ยวนี้เลยนะ! ผมท้องจะทำยังไงวะ!!!”
มาร์คหลุดหัวเราะพรืด
แจ็คสันเบิกตาโตโมโหที่คนรักไม่จริงจังเท่าที่ควร บิดเนื้อต้นขาแกร่งไปแรงๆ
ใจจริงอยากให้หลุดตามเล็บมาด้วยซ้ำ
“โอ๊ยๆ! ยอมแล้วครับๆ ฮ่าฮ่า”มาร์คยังหัวเราะร่า จูบปากแดงด้วยความหมั่นเขี้ยว
โอบรัดร่างเล็กแน่น
“ถึงแจ็คสันจะท้อง
พี่รับผิดชอบแจ็คสันแน่นนอน ไม่ต้องห่วง”
“ไม่เชื่อโว้ยยย!!! มีแค่คำพูดใครจะเชื่อวะ!”โวยวายน้ำตาใกล้ไหล
แจ็คสันกลัวมากจริงๆนะ
“ถ้าไม่ใช่แค่คำพูดล่ะ...”
แจ็คสันชะงักกึก
มองดวงตาสวยที่จ้องมาทางเขานิ่ง จริงจังแต่อบอุ่น มือเรียวประคองมือซ้ายแจ็คสันขึ้นยิ้มๆ
ตากลมกระพริบตาปริบๆมองอะไรบางอย่างที่ถูกสวมเข้ามาบนนิ้วด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
รู้แต่ว่ามันทำให้น้ำตาเขาไหลลงมาด้วยความตื้นตัน...
...แหวนทองคำขาวเรียบหรูบนนิ้วนางข้างซ้าย...
“แจ็คสัน...แต่งงานกับพี่นะครับ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น