[OUR] 19
OUR BABY!
บทที่ 19
ไข่เจียวในกระทะเหลืองนวลได้ที่
ในขณะที่น้ำซุปกระดูกหมูในหม้อเดือดพล่านส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งบ้าน
มือขาวหั่นแครอทเป็นชิ้นเล็กๆพักไว้ เดินไปหยิบจานมาเตรียมตักไข่ใส่จาน
แจ็คสันในชุดเสื้อตัวโคร่งและกางเกงขอบยางยืดสบายๆที่เป็นภาพประจำในช่วงสามเดือนมานี้กำลังเดินวนไปวนมาในครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ผู้ร่วมอาศัยอีกคน
ผ้ากันเปื้อนสีขาวทำให้คนตัวเล็กดูเป็นแม่ศรีเรือนอย่างที่มาร์คเคยพูดไว้ไม่ผิด
หน้าท้องเรียบเนียนเริ่มนูนขึ้นมานิดๆแต่ก็ยังเห็นไม่ชัดนัก ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
สุขภาพของเขาก็แข็งแรงดี อาการแพ้ท้องก็เริ่มหายไป
แต่...
“อ่อก อ้วก!”
เสียงโก่งคออาเจียนของคนที่น่าจะตื่นนอนในห้องน้ำชั้นหนึ่งเป็นเหมือสัญญาณเรียกให้แจ็คสันหยุดกิจกรรมในครัว
ปิดแก๊สกันเพลิงไหม้ เดินไปหยิบน้ำเปล่าขวดใหญ่ออกมาจากตู้เย็น
เดินเอื่อยไปเปิดประตูห้องน้ำที่เปิดทิ้งไว้
“พี่มาร์ค...น้ำไหม?”ถามยิ้มๆให้กับคุณพ่อที่นั่งขัดสมาธิกับพื้นห้องน้ำกอดคอห่านไว้ไม่ปล่อย
ใบหน้าหล่อเหลาซีดเซียว หันมาทางเขาเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็หยีหน้าผะอืดผะอมหันไปโก่งคออ้วกลงชักโครกอีกครั้ง
“อ่อก!”
แจ็คสันเดินไปนั่งยองๆลูบหลังคนตัวสูงเบาๆอย่างนึกเป็นห่วง
ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนอาการแพ้ท้องของเขาก็เริ่มหายไป
กลายเป็นมาร์คแทนที่ต้องแพ้ท้องแทนเขา ทั้งๆที่ตามหลักแล้วมันก็ไม่เกี่ยวกันหรอก
ฮอร์โมนใครก็ฮอร์โมนมัน มาร์คคงห่วงเขามากไปจนกลายเป็นแพ้แทน
ส่วนเขาก็แค่ถึงช่วงที่ฮอร์โมนลดลงก็แค่นั้นเอง
ถึงอย่างนั้นแจ็คสันก็อดอมยิ้มกับความน่ารักนี้ไม่ได้
“น้ำฮะ”ยื่นน้ำให้มือเปลี้ยเพลียแรง
ดูท่าคงยกไม่ไหว เขาเลยยึดมาเปิดฝาขวดเอาไปยื่นใส่ปากกรอกลงคอให้อีกคนแทน
มาร์คกลืนน้ำลงไปก็มีสีหน้าดีขึ้น
หลับตาถอนหายใจนั่งพิงชักโครกอยู่แบบนั้นทำท่าจะไม่ลุกไปไหน
แจ็คสันเลยดึงอีกคนให้ลุกขึ้นพยุงไหล่เอาไว้
“นี่ตัวเล็กต้องทรมานแบบนี้ตั้งสามเดือนเลยเหรอ”ถามเสียงเปลี้ยเข้าใจหัวอกคนเป็นเมียขึ้นมาทันทีทันใด
“เข้าใจผมแล้วใช่ไหมล่ะ”ยักคิ้วใส่คนเป็นพี่ขณะพยุงร่างมาร์คไปโยนไว้ที่เก้าอี้โต๊ะกินข้าว
เดินกลับไปตักอาหารเช้าออกมาให้มาร์คชุดหนึ่ง เดินกลับเข้าครัวอีกครั้ง
เพื่อหยิบเอาหม้อซุปและหม้อข้าวออกมาวางบนโต๊ะหน้าตัวเอง
ไม่ลืมของสำคัญอย่างมายองเนสและพริกไทยเตรียมไว้ข้างๆจาน
“กินแล้วนะคร๊าบบบ”ยิ้มกว้างอารมณ์ดี
ตักข้าวผสมซุปใช้ช้อนบดเป็นอาหารเหลวเละๆ หยิบมายองเนสมาเทราดหมุนเป็นวงพูนขึ้นอย่างสวยงาม
ปิดท้ายด้วยเขย่าผงพริกไทยตกแต่งจนแดงฉานไปทั้งจาน
มาร์คมองภาพอาหารตรงหน้าด้วยความผะอืดผะอมทำท่าจะอ้วกขึ้นมาอีกรอบ
...แพ้ท้องได้พิสดารมากครับเมีย...
อาหารเช้าจบลงที่แจ็คสันฟาดน้ำซุปกับข้าวหมดไปอย่างละหนึ่งหม้อถ้วน
นมอีกสามกล่องและส้มอีกห้าผล ส่วนมาร์คนั้นถอยทัพตั้งแต่สองจานแรกแล้ว
กิจวัตรประจำวันของพวกเขาก็ยังเหมือนเดิมอย่างที่ผ่านมา
แจ็คสันนั่งดูทีวีเล่นเกมอยู่ห้องนั่งเล่น
ส่วนมาร์คก็ปลีกตัวไปทำงานวิจัยอยู่ในห้องแล็ป เพียงแต่ไม่เก็บตัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ยังออกมาถามทุกข์สุกดิบของคนท้องในบ้านทุกชั่วโมง
ตาแจ็คสันยังอยู่ที่จอในขณะที่ละมือข้างหนึ่งรับสายจากเพื่อนสนิทอย่างจูเนียร์
“ว่าไง?...เอ๊ย!
หลบดิวะหลบ! ไอ้เชี่ย!
ตายเลย”
“เหอ?
หลบอะไรของมึง”
“กูหมายถึงในเกม
ช่างเหอะ มีอะไร ถ้าโทรมาถามเรื่องสุขภาพ กูไม่แพ้แล้ว แต่พี่มาร์คแพ้แทน”โยนจอยลงพื้นเอนหลังนอนแผ่ไปกับโซฟาตัวนุ่ม
“พี่มาร์คคงห่วงมึงน่าดูเลยว่ะ
เออ เนี่ยกูจะโทรมาบอกว่ากูได้งานแล้วนะ บริษัท JJP”
“เฮ้ย! ดีใจด้วย เอาใจจบไปยื่นใช่ไหม? กูก็อยากทำงานบ้างว่ะ
แต่พี่มาร์คไม่ให้ทำ”พูดถึงเรื่องนี้แจ็คสันก็ถอนหายใจเฮือก
“อย่าทำเลย
มึงท้องอยู่นะเว้ย”
“กูก็เห็นคนท้องทำงานเยอะแยะไป”
“มึงเป็นผู้ชายท้องได้นะไอ้แจ็ค
มึงจะไปทำงานโดยที่ท้องมึงป่องแล้วจะให้เหตุผลคนอื่นว่าไง? อ้วนงี้เหรอ?
คิดครับคิด ถ้ามึงอยากทำจริงๆก็หลังคลอดเถอะมึง”
“กูเบื่อ...”
“...”
แจ็คสันเบื่อที่จะต้องอยู่บ้านเป็นแม่บ้าน
ตื่นมาทำกับข้าว ซักผ้า กวาดบ้านเต็มที อยากจะออกไปเล่นบาสกับเพื่อน ตกปลา เล่นเสก็ตบอร์ด
เต้นในคลับ อะไรก็ได้ที่เคยทำสมัยก่อนแต่งงาน
“แต่ก่อนกูได้ออกไปเล่นบาส
เล่นกีฬา วิ่งเป็นบ้าเป็นหลังกับพวกมึง
แต่ตอนนี้แค่กูวิ่งก็โดนพี่มาร์คดุแล้ว...มันเบื่อจริงๆนะเว้ยจูเนียร์”
“เออ
มึงก็ทนๆหน่อยแล้วกัน อีกแค่หกเดือนเอง”
“อีกตั้งหกเดือนเถอะมึง”บ่นงุ้งงิ้งขยับขาขึ้นนั่งขัดสมาธิเอาหมอนหนุนมารองทำตัวอ่อนเลื้อยไปกับหมอนอย่างเบื่อหน่าย
“ถ้ามึงไม่ท้องลูกมึงจะออกมาทางไหน
ลอยออกมาจากปากนางสวาหุเหมือนหนุมานงี้เหรอ?”
“กูว่าเขียนใส่กระดานปลุกเสกขึ้นเหมือนพระลบแฝดพระมงกุฎดีกว่าว่ะ”
“ไกลแล้วมึง...
เออ นั่งแหละ โทรมาบอกแค่นี้ เดี๋ยวกูไปเดตกับพี่เจบีแป๊ป”
แจ็คสันหยีหน้าใส่น้ำเสียงกระดี๊กระด๊ามีความสุขของคู่สนทนา
กดวางสายไปแล้วถอนหายใจออกช้าๆ
มองหารีโมทจะเปลี่ยนทีวีกลับมาช่องปกติก็ไปปะกับร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังโซฟา
ในสภาพ...เอ่อ...ไม่ปกติ
“ทำบ้าอะไรของพี่อีกวะนั่น”
ทำหน้าประหลาดใส่ชายหนุ่มที่สวมเครื่องลักษณะครึ่งวงกลมครอบหัวมีสายไฟระโยงระยางเจาะนู่นเลี้ยวแผงวงจรนับร้อยแปะอยู่บนผิววัสดุน่ากลัวว่าจะโดดไฟดูดที่เดินเซซ้ายเซขวาทำตัวเป็นงูอยู่ด้านหลังเขา
มันทั้งพิลึกทั้งน่ากลัว แจ็คสันหยิบหมอนก้าวถอยหลังไปนั่งบนโซฟาอีกด้าน
มองมาร์คด้วยสายตาหวาดระแวง
“ทดลองเครื่องปรับสมดุลการทรงตัวน่ะ”
พูดทั้งๆที่เดินเลี้ยวชนโซฟาได้อย่างหน้าตาเฉย...
แจ็คสันหรี่ตาหน่ายๆ มันปรับให้ทรงตัวดีขึ้นหรือแย่ลงกันแน่ ตรงผลการทดลองควรเขียนคำว่าผิดพลาดลงตัวใหญ่ๆขีดเส้นใต้ด้วยปากกาแดงทับสามชั้นเลยยิ่งดี
“ให้มันดีขึ้นหรือแย่ลง?”
“ต้องดีขึ้นสิตัวเล็ก
อูย!”
พูดไม่ทันขาดคำ
มาร์คก็พาตัวเองไปชนเสาได้แบบ...อืม...จะไม่พูดแล้วกัน สงสาร
“อ่า
ต้องเอาไปแก้แล้วล่ะ”มือเรียวถอดไอ้เครื่องนั่นมองด้วยความผิดหวัง เดินเอาไปเก็บในห้องทำงาน
เดินกลับมาก็ยังทำหน้าจ๋อย แจ็คสันสงสารเลยกวักมือเรียกชายหนุ่มให้เข้ามาใกล้ เอื้อมแขนไปโอบหลังคอดึงให้โน้มลงมากอดหลวมๆ
ตบหลังแปะๆให้กำลังใจอย่างที่ชอบทำเวลาที่มาร์คนอยด์อะไรมากๆ
“ไม่เป็นไรน่า
พี่เก่งอยู่แล้ว”คำปลอบสั้นห้วนไม่มีอะไร แต่กลัวทำให้มาร์คยิ้มกว้าง
กอดตอบแจ็คสันกลับ กดจมูกหอมกลุ่มผมนุ่ม ขอบคุณแบบไม่ใช้คำพูด ดึงตัวอีกคนให้ลุกขึ้นจากโซฟา
เดินไปเอาเสื้อโค้ทและหมวกกลับมาใส่ให้
“จะพาผมไปไหน?”
“อืม...ร้านกาแฟสักร้านเป็นยังไง
เบื่อใช่ไหมล่ะ”
แจ็คสันเลิกคิ้วขณะจัดทรงหมวกให้เข้ารูป
“แอบฟังคนอื่นพูดโทรศัพท์มันใช้ได้ที่ไหนกัน...
ผมไม่กินกาแฟนะ มันไม่ดีต่อเด็ก”ตบกระเป๋าเสื้อโค้ทเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว
ยิ้มกว้างเดินไปใส่รองเท้ารอหน้าบ้าน “เร็วดิ อย่าช้าๆ”
มาร์คยกฮูทขึ้นคลุมศีรษะเดินตามคนท้องออกมา
ไม่ลืมสั่งโปรแกรมอัจฉริยะในบ้านให้ปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย
ยกมือถือเครื่องบางขึ้นมากดต่อสัญญาณกล้องวงจรปิดกับสมาร์ทโฟน
มือหนึ่งก็ควงกุญแจผิวปากอารมณ์ดีเดินเอื่อยๆไปหาภรรยาที่ทำหน้ามุ่ยอยู่ข้างรถ
“เร็วดิ!”
The Street ร้านกาแฟขนาดสองคูหาตกแต่งเรียบง่ายสไตล์สตรีทเท่ๆใส่ความเป็นผู้ใหญ่ด้วยโทนสีขาว
ดำและน้ำตาลเข้มเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนสะดุดตาและอยากเข้ามาลิ้มรสชาติของทั้งกาแฟ
ขนมและอาหารซึ่งมีเตรียมไว้อย่างครบครัน
แจ็คสันเปิดประตูเข้าไปคนแรก
ตากลมเหลียวซ้ายขวามองหาโต๊ะว่าง เวลาเที่ยงๆแบบนี้ พวกพนักงานบริษัทจะเข้ามาทานอาหารในร้านเยอะเป็นพิเศษ
โต๊ะเอาท์ดอร์ข้างนอกถูกว่างเว้นไว้เพราะไอความร้อนยามเที่ยง
คงไม่มีใครอยากนั่งชมบรรยากาศทั้งมีแดดโลมร่างเหงื่อซกหรอกใช่ไหม?
มาร์คตามมาฉวยมือป้อมจูงไปหาโต๊ะว่างตรงมุมร้าน
ทั้งสองถอดหมวกวางไว้ข้างตัวเอง มาร์คสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนเพิ่มช็อต
ส่วนแจ็คสันสั่งโกโก้เย็นกับเค้กช็อกโกแลตมาอีกหนึ่งชิ้น
“สั่งเยอะขนาดนี้กินหมดเหรอ?”
คนท้องเหวี่ยงตาใส่เจ้าของประโยคกวนประสาทนั้น
ตักเนื้อเค้กจ้วงใส่ปากตัวเองเคี้ยวหงุบหงับ ตักอีกช้อนลุกพรวดจับคางเพรียวได้รูปบังคับยัดเข้าปาก
มาร์คกลืนทำหน้าผะอืดผะอมก้อนเค้กคำโตลงคอ ไอค่อกแค่กรีบยกกาแฟขึ้นมาซดให้คล่องคอ
ส่ายหน้าให้คนตรงข้ามที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากสะใจ
มาร์คปล่อยให้แจ็คสันกินเค้กกินขนมไป
ส่วนตัวเองก็หยิบเอาเอกสารขึ้นมาทำงานเงียบๆ
“พี่มาร์ค”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาอ้าปากรับเค้กก้อนพอดีคำเคี้ยว
เอื้อมมือไปขยี้เส้นผมแจ็คสันที่ส่งยิ้มน่ารักมาให้ด้วยความเอ็นดู
“ขอบคุณครับ
แต่แจ็คสันกินเถอะ พี่อยากให้แจ็คสันกับลูกกินนะ”
“อิ่มอ่ะ
กินให้หน่อย”
มาร์คเลิกคิ้ว
ค่อนข้างแปลกใจเพราะได้ยินมาว่าคนท้องจะกินเยอะ
แต่แจ็คสันกลับกินน้อยกว่าปกติเสียอีก
“กินน้อยจังตัวเล็ก
ไม่ถูกปากเหรอครับ?”
“อืม...มันขมปากแปลกๆอ่ะ”ตอบพลางใช้ช้อนเขี่ยครีมสีน้ำตาลเล่นกับขอบจาน
ไล้ลิ้นเก็บรสชาติขมปร่าในปาก เบ้หน้าไม่ชอบใจ มองเค้กอีกครึ่งชิ้นอย่างนึกเสียดาย
ทั้งที่แต่ก่อนชอบช็อกโกแลตมากแท้ๆเชียวนะ
“ผมไปเข้าห้องน้ำนะ”
แจ็คสันมองตัวเองในกระจกห้องน้ำชาย
ห้องน้ำที่นี่สะอาดกลิ่นก็โอเค แถมไม่มีคนเข้า เขาเลยมีอารมณ์ยืนมองสำรวจตัวเอง
หมุนหน้าไปมาสำรวจใบหน้าตัวเอง
ใช้นิ้วลูบตรงจุดที่เป็นรอยผดผื่นตรงข้างแก้มแต่ตอนนี้มันจางลงเสียแทบไม่เห็น
ใช้มือรองน้ำอมบ้วนเอารสชาติขมช็อกโกแล็ตในปากออก หยิบปลายเสื้อมาเช็ดปากลวกๆ
เปิดประตูออกไป แต่ไม่ทันจะได้ดันไปสุด มือก็ชะงักหยุดยืนมองภาพตรงหน้า
มาร์คยืดกอดสาวสวยคนหนึ่งแน่น
ใบหน้าทั้งสองระบายยิ้มกว้าง ตรงมุมนี้เขาเห็นแค่เป็นหญิงสาวผมยาวตรงสวย ผิวขาวซีดอย่างคนเอเชียอยู่ในชุดเปิดหน้าท้อง
มองแค่ด้านหลังก็รู้ว่าสวยระดับนางแบบ ยืนคุยกันสักพักเธอก็เดินออกไปจากร้าน
แจ็คสันเดินกลับโต๊ะ
คว้าแก้วโกโก้ที่เหลือมาดูดอย่าลืมตัว แบะปากกับความขมปร่าในช่องปาก
ถลึงตาใส่ชายหนุ่มที่หัวเราะเพราะสีหน้าของเขา
“สั่งน้ำอย่างอื่นไหม?”
“ไม่เอาอ่ะ
เสียดายของ”ก้มมองแก้วโกโก้ ส่งให้ชายหนุ่มที่เลิกคิ้วสงสัย “กินให้หน่อยสิ”
“พี่อิ่มแล้วนะ
วางไว้นั่นแหละ”
แจ็คสันไถลแก้วไปวางไว้ข้างโต๊ะ
มองทั้งเค้กทั้งแก้วเหลือกินแล้วเกิดรู้สึกผิดขึ้นมาดื้อๆ
“ขอโทษนะ”
“หืม? ทำไมล่ะ”
“ก็...เงินพี่อ่ะ...”
มาร์คยิ้มให้กับร่างเล็กที่ทำหน้ากระอักกระอวน
ปล่อยปากกายื่นมือไปลูบเส้นผมนุ่มจับโยกไปมาเบาๆปลอบคนคิดมาก
“เงินพี่เอาไว้เลี้ยงลูกเมียก็ถูกแล้วนี่”
แจ็คสันหรี่ตามองบนแรง
“ไม่กระดากปากตัวเองก็สงสารหน้าผมบ้างเถอะ”
มาร์คหัวเราะขำ
ละจากเส้นผมนุ่มหยิบเอาเอกสารลงกระเป๋า ลุกเดินอ้อมไปผายมือให้ แจ็คสันจับมือมาร์คดึงตัวลุกขึ้น
นิ้วมือเรียวกระชับนิ้วป้อมพากันออกเดินออกไปจากร้าน ตากลมมองแผ่นหลังกว้างด้านหน้าตัวเองแล้วยิ้มบางๆ
...ผมไว้ใจพี่มาร์คนะ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น