[OUR] 22
OUR BABY!
บทที่ 22
“พี่มาร์ค ทำงานอยู่เหรอ”
แจ็คสันโผล่หน้าเข้ามาในห้องทำงานของมาร์คครึ่งหน้า
เหล่มองให้แน่ในว่าชายหนุ่มไม่ได้กำลังทำอะไรอันตรายแล้วเดินเข้ามาในห้องพร้อมถาดกาแฟและของว่างยามบ่าย
“ขอบคุณนะตัวเล็ก วางไว้บนโต๊ะเลยครับ”
ชายหนุ่มที่กำลังติดพันกับหน้าเอกสารในจอประมวลผลขนาดใหญ่ไม่แม้กระทั่งจะหันกลับมามองคนท้องแก่
งานมาร์คยุ่งจนแทบละสายตาออกจากจอคอมไม่ได้เลย นั่นทำให้แจ็คสันเป็นห่วง
นี่ขนาดเป็นวันหยุดแท้ๆแต่มาร์คก็ยังต้องหอบเอกสารกลับมาทำงานที่บ้านอีก
“...จะเป็นไรไหมถ้าผมจะนั่งเล่นในนี้”
“หืม? ไม่เป็นไรหรอก แต่จะไม่เบื่อเหรอ?”
มาร์คละความสนใจจากงานมามองคนท้องแก่ที่ยิ้มบางๆมาให้
มือป้อมชูกระดาษและเครื่องเล่นเพลงแบบพกมาให้ชายหนุ่มดูว่าเขามีอะไรทำแก้เบื่อแน่นอน
มาร์คหัวเราะกวักมือเรียกภรรยาเข้ามาใกล้ หมุนเก้าอี้ทำงานอ้าแขนรับคนตัวกลมที่พอยิ่งท้องก็ยิ่งเป็นก้อนมากกว่าเดิมรัดไว้ในอ้อมแขน
กดจมูกลงบนหน้าท้องนูนใหญ่
“สวัสดีครับลูก วันนี้ทักทายป๊ารึยัง?”
ไม่ทันสิ้นเสียงแจ็คสันก็นิ่วหน้าเล็กๆเมื่อเจ้าตัวเล็กในกายถีบจมูกคุณพ่อเต็มแรง
ทั้งสองหัวเราะออกมาพร้อมกัน มาร์คสัมผัสและพูดคุยกับลูกอีกสามสามประโยค
กดจูบลงบนหน้าท้องแข็ง แล้วรั้งลำคอของคุณแม่ลงมากดจูบเบาๆที่มุมปากอิ่ม
ยีจมูกรั้นด้วยความหมั่นเขี้ยว
มือเรียวลูบเส้นผมหนานุ่มที่ยาวจนเจ้าตัวต้องม้วนหนีบไว้บนศีรษะ
“ผมยาวแล้วน่ารักมากเลย”
“น่ารำคาญจะตาย”ปากอิ่มแดงแบะออกไม่ชอบใจ
หลับตาลงรับสัมผัสอุ่นบนเปลือกตาบาง มาร์คจูบเปลือกตาเขาทั้งสองข้างอ่อนโยน
เกี่ยวเส้นผมที่ปรกลงมากลับไปเกี่ยวใบหูเล็ก
“เดี๋ยวพี่ตัดให้เอาไหม?”
“ขืนรอพี่ผมคงยาวลากพื้น...ทำงานไปเถอะน่า
ผมไม่กวนแล้ว”แจ็คสันดันตัวเองออกมา จับท้องเดินอุ้ยอ้ายไปนั่งแหมะอยู่บนโซฟาให้ทำงาน
มาร์คมองคนรักจนแน่ใจว่าไม่เป็นอะไรแล้วก็หมุนเก้าอี้ลงมือทำงานต่อ
ตากลมที่แสร้งเขียนยุกยิกลงในกระดาษเหลือบกลับมามองชายหนุ่มจากทางด้านหลัง
จมูกรั้นถอนลมหายใจพรั่งพรู ท้าวคางมองมาร์คเหม่อๆ
...คิดถึง... อยากกอด อยากเข้าไปอ้อนให้ดูแลเหมือนก่อนแต่ก็รู้ดีว่าไม่ควร
มาร์คมีงานเยอะมาก และเขาไม่ควรทำตัววุ่นวาย...
ขีดเขียววันเวลาลงบนกระดาษคำนวณดูระยะเวลาที่มาร์คอยู่กับเขาแล้วแอบน้อยใจเล็กๆ
นี่เป็นวันแรกในรอบสัปดาห์ที่มาร์คได้มีเวลาอยู่ที่บ้าน
จันทร์ถึงศุกร์ชายหนุ่มแทบจะนอนอยู่ในห้องแลปปล่อยให้เขานอนเหงาอยู่บ้านคนเดียว
ถึงมาร์คจะเฟสทามอยู่คุยเป็นเพื่อนจนแจ็คสันหลับไปทุกคืน
แต่มันก็เทียบกับการนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆไม่ได้เลย
มือป้อมลูบหน้าท้องตัวเอง
ยิ้มเล็กๆเมื่อเจ้าตัวเล็กในท้องกระทุ้งมือบนหน้าท้องเบาๆ
แตกต่างกับตอนทักทายมาร์คราวกับรู้ว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร
อีกแต่สองสัปดาห์...ไม่สิ อีกแค่สิบวันก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว
เจ้าตัวเล็กในท้องจะได้ลืมตาดูโลกเสียที
คุณตาคุณยายทั้งหลายตื่นเต้นดีใจเตรียมหอบข้าวหอบของมาให้หลานกันใหญ่
แต่แจ็คสันขอไว้ว่ารอให้คลอดก่อนแล้วกัน ขืนเอามาตอนนี้ก็ไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ไหน
รกบ้านเปล่าๆ
นั่งเฝ้านานๆก็เบื่ออย่างที่มาร์คว่าไว้จริงๆ
สำรวจไปรอบห้องอย่างไม่รูจะทำอะไร เขาไม่ได้เข้ามาในห้องนี้บ่อยนักหรอกยกเว้นตอนเข้ามาทำความสะอาด
ไม่ได้อยากเป็นแม่บ้านแม่เรือนนะ แต่ให้ตาย ถ้าไม่มีเขารับรองว่าบ้านสวยๆหลังนี้ได้กลายเป็นถังขยะแบบบ้านเก่ามาร์คแหงๆ
ห้องทึบๆบุผนังเก็บเสียง
โซนด้านหลังทั้งแถบเป็นพวกโต๊ะทดลองและอุปกรณ์ต่างๆนานารวมไปทั้งเศษเหล็กเศษหญ้าที่ไม่รู้จะเอามาเก็บไว้ทำไมเต็มไปหมด
โซนด้านหน้าก็เหมือนห้องทำงานปกติ มีพวกชั้นวางของ ชั้นวางหนังสือ โต๊ะทำงานที่มีเอกสารกองสุมดูจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่
และคอมพิวเตอร์ประมวลผลระดับสูงขนาดยักษ์ติดอยู่มุมด้านหนึ่ง...
...นึกถึงหนังแนววิทยาศาสตร์เลย...
มุ่ยหน้าเมื่อมาร์คแทบไม่จับกาแฟที่อุตส่าห์ชงมาให้
กำลังจะอ้าปากท้วงก็ต้องปิดฉับเมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นจากหน้าจอ
ทำหน้าตาสะโหลสะเหลคล้ายคนไม่มีสติเดินเซๆผ่านหน้าเขาไป คนตัวเล็กสะดุ้งๆช้อนมองมือหยาบที่ขยี้ผมนุ่มเบาๆ
“พี่ไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนะ”
“ก็ไปดิ บอกทำไมเล่า”
“ก็เห็นทำหน้าหงอยๆ”
รู้แล้วก็สนใจกันหน่อยสิวะ....อยากจะตะโกนออกไปดังๆแต่ก็ทำได้แต่โบกมือชายหนุ่มไปไกลๆ
มาร์คเอามือลูบหน้าตัวเองเรียกสติ ดูอ่อนเพลียจากการโถมงานหนักมาหลายวันติดต่อกัน
แจ็คสันรอให้ชายหนุ่มเดินออกไปก่อน ถึงค่อยลุกไปเก็บแก้วกาแฟเย็นชืด
คิดว่าจะเอาไปเททิ้ง แต่พอเดินไปถึงประตู มาร์คก็แว๊บกลับเข้ามาพอดี
“เร็วจัง
นี่ไปเข้าห้องน้ำหรือไปวิ่งรอบห้องนั่งเล่นมากันแน่เนี่ย”
“ปล่อยกระต่ายเฉยๆ... จะเอาไปไหนน่ะ”มาร์คชี้ถาดกาแฟที่แจ็คสันถืออยู่
“ไปเททิ้ง มันเย็นหมดแล้ว”
“ไม่เป็นไรๆ พี่กินได้”ชายหนุ่มฉวยเอาแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ
มืออีกด้านก็ขยี้เส้นผมนุ่มของคนเตี้ยกว่าเล่นอย่างเพลินมือ
แจ็คสันพ่นลมหายใจฟึดฟัดปัดมือเรียวแต่หยาบออก
“ทำไมชอบลูบหัวผมจัง วันนี้สามครั้งแล้วนะ”
“ก็ผมตัวเล็กนุ่มลื่นดีนี่นา ไม่ชอบเหรอ? พี่จะได้ไม่ทำ”มาร์คพูดจริงจังเสียจนแจ็คสันส่ายหน้าขวับ
ก็ไม่ได้ไม่ชอบหรอกนะ...
“ก็ไม่ได้ไม่ชอบหรอก...กินเสร็จก็เอามานี่ จะเอาไปล้าง”
“ไม่ต้องๆ คนท้องแก่ใครให้เดินมากๆกัน มานั่งนี่ดีกว่า”มาร์คส่ายหน้าดุๆ
ยึดเอาถาดกับแก้วไปวางไว้บนโต๊ะ ลากเจ้าของมือป้อมไปนั่งบนโซฟาตัวเดิม
หอมแก้มดังฟอดใหญ่เรียกกำลังใจ แล้วเดินกลับไปลุยงานต่อ
แจ๊คสันกุมแก้มตัวเองทำหน้ามุ่ยเขินๆ
แล้วทั้งสองก็กลับมาทำกิจกรรมเดิมอีกครั้ง
ไม่มีเสียงพูดคุยหรือการสบสายตากันอีก แจ็คสันเบื่อจะแย่ ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดยิกๆ
ตกใจกับเสียงไลน์ที่ดังเตือนเข้ามา
มาร์คเหลือบสายตากลับมามองทำให้คนท้องส่งยิ้มแห้งไปให้ ก็มาร์คไม่ชอบให้มีเสียงรบกวนเวลาทำงานนี่นา
นิ้วป้อมกดปิดเสียงพลางเปิดเข้าไปดูในแอพลิเคชั่นสีเขียว จูเนียร์มันส่งรูปชุดแต่งงานมันมาให้ดู
แหม ชมพูหวานเชียวนะครับ
“หัวเราะอะไรเหรอ?”
แจ๊คสันเงยหน้ามองมาร์คงง นึกว่าหันกลับไปทำงานแล้วเสียอีก
“อ้อ จูเนียร์มันส่งชุดแต่งงานมาให้ดูอ่ะ ชมพูเชียวล่ะ”หัวเราะเสียงสูง
ไม่ได้นึกย้อนไปเลยว่าชุดตัวเองก็หวานแหววไม่แพ้เพื่อน กดส่งข้อความแซวยิ้มๆ
“อ้อ วันพรุ่งนี้สินะ...
ตัวเล็กไม่ได้เป็นเพื่อนเจ้าสาวหรอกเหรอ?”
“ใครให้คนท้องไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวบ้าง?
ถึงชวนก็ไม่เอาอ่ะ...พรุ่งนี้พี่มาร์คว่างไหม?”แจ็คสันดูลังเลใจที่จะถาม
เขาก็ไม่อยากรบกวนหรอก แต่ท้องใหญ่แบบนี้ขับรถไปก็ไม่สะดวก จะไม่ไปก็ไม่ได้อีก
“พี่ว่างไปส่งนะ แต่คงอยู่ด้วยไม่ได้
งานมันต้องส่งวันจันทร์น่ะ”
“ไม่เป็นไร ไปส่งผมก็พอครับ”
แล้วทั้งคู่ก็เงียบกันอีกรอบ มาร์คหลับตาพักผ่อน
เขารู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะโหมทำงานต่อไปแล้ว สมองล้าจนคิดอะไรไม่ออก
ถอนหายใจปิดไฟล์งานไป ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน หันกลับไปมองภรรยาตัวเล็กที่หลับไปแล้วด้วยความเอ็นดู
คนท้องนอนตะแคงข้างเข้าฝาผนัง มือด้านหนึ่งหนุนหัวแทนหมอน
ส่วนอีกด้านก็วางแปะบนหน้าท้องตน หูเสียบเครื่องเล่นเพลง มาร์คยกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงเพลงคลาสสิคดังคลอมาเบาๆ
เข้าใจว่าอยากให้เจ้าตัวเล็กในท้องฟังเสริมสร้างพัฒนาการ
หน้าสมุดที่เปิดค้างไว้ใกล้ๆดึงดูดให้เปิดมันออกดู รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป...
รอยกดดินสอหนักๆเป็นประโยคเดิมๆวนไปวนมาบนหน้ากระดาษคล้ายเจ้าของลายมือกำลังเขียนเพื่อนย้ำเตือนกับตัวเองซ้ำๆ
Loneliness, It's just the winds and gone.
มาร์คมองมันอยู่ครู่หนึ่งแล้วปิดมันวางไว้บนโต๊ะเล็กข้างๆโซฟา
ปิดเครื่องเล่นเพลง แจ็คสันรู้สึกตัวกระพริบตาปรือง่วงๆ ป้าปากหาวๆอย่างน่ารัก
“พี่พาไปนอนที่ฟูกนะ”บอกพลางช่วยพยุงคนท้องที่สติยังไม่มาครบร้อยขึ้นจากโซฟา
พาเดินไปนอนบนที่นอนในห้องนั่งเล่นใกล้ๆกัน แขนป้อมรัดเอวเขาขณะกำลังจะลุกขึ้น
ใบหน้าน่ารักซุกตรงข้างเอวทั้งที่ยังไม่ลืมตา ส่งเสียงงึมงำในลำคอจับใจความคร่าวๆได้เพียงอยากให้เขานอนเป็นเพื่อน
มาร์คจูบแก้มนิ่มเบาๆ เอ่ยขอไปปิดบ้านปิดไฟก่อนจะกลับมานอนด้วย
ซึ่งแจ็คสันก็ยอมปล่อยแขนออก
มาร์คสั่งคำสั่งกับระบบบ้านอัจฉริยะให้ปิดบ้านปิดหน้าต่าง
รวมถึงปิดไฟดวงหลักทุกดวงเหลือไว้แค่ไฟสีส้มนวลๆตามห้องต่างๆพอให้เห็นตอนกลางคืน
ลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศในห้อง เดินกลับมาอีกครั้งคนท้องก็หลับไปแล้ว
ชายหนุ่มเดินไปนอนข้างๆ พิจมองใบหน้ากลมอิ่มเอิมยิ้มๆอย่างมีความสุข
“พี่มาร์ค...”ตากลมปรือขึ้นมองเขาพลางขยับตัวซุกซบอกเขา
มือขาวกำเสื้อยืดเขาแน่นเหมือนกลัวว่าเขาจะหายไป มาร์คยิ้มบางๆ
ก้มลงจุมพิตริมฝีปากอิ่มสีสวย กอดภรรยาตัวเตี้ยไว้ในอ้อมกอด
พวกเขาไม่ได้แนบชิดเหมือนเคยเพราะติดก้อนเนื้อใหญ่โตระหว่างกัน
ชายหนุ่มลูบท้องโตเบาๆ
แจ็คสันท้องโตมากแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะคลอด
เขาก็กำลังเร่งทำงานส่งก่อนล่วงหน้าเพราะจะได้มีเวลามาดูแลคนตัวเล็กและลูกหลังคลอด
บอกพี่แทคไปแล้วด้วยว่าจะยอมเสียเงินค่าล่วงเวลาเพื่อมาดูแลครอบครัว มาร์คไม่เสียดายหรอก
เพราะเงินค่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาก็สามารถใช้กินอยู่ได้เป็นชาติอยู่แล้ว
รู้ว่าตัวเองไม่มีเวลาให้แจ็คสันเท่านัก แต่เขาก็พยายามที่สุดแล้ว
รู้สึกขอบคุณที่คนตัวเล็กไม่โวยวายแต่กลับเข้าใจเขา อย่างที่มาร์คไม่คิดว่าจะได้รับจากใครได้เท่านี้
“ขอโทษนะครับ”
งานแต่งของจูเนียร์และเจบีถูกจัดอยู่ในห้องโรงแรมหรูเป็นการส่วนตัว
จำนวนแขกที่เชิญมาก็มีไม่กี่คน มีเพื่อน คนรู้จักและญาติพี่น้องบางส่วน
งานทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบง่าย งานนี้ก็ได้พี่มินจุนและพี่อูยองมาช่วยจัดงานแต่งอีกแล้ว
พี่มินจุนถึงกับออกปากว่าจะเริ่มธุรกิจจัดงานแต่งงานจริงจังแล้ว
ถ้าคนรอบตัวจะแต่งกกันถี่ขนาดนี้ล่ะก็...
แจ็คสันในชุดคลุมท้องสีขาวสุภาพเดินอุ้ยอ้ายเข้ามาในงานเพียงคนเดียว
พี่นิชคุณพุ่งเข้ามาทันทีที่เห็น เพื่อถามไถ่อาการรวมถึงถามว่าคุณพ่อของลูกในท้องไปอยู่ไหนกัน
แจ็คสันได้แต่หัวเราะตอบว่ามาร์คติดงานเลยมาส่งแต่ไม่ได้อยู่ร่วมงานด้วย
พลางฝากซองให้เจ้าของงานอย่างเจบีด้วย
“มาร์คนี่นะ...ลูกจะคลอดแล้วแท้ๆเลย”พี่คุณบ่นพลางประคองคนท้องไปนั่งบนโต๊ะใกล้เวที
“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่คุณ งานพี่มาร์คยุ่งจริงๆนี่นา”
“พี่ก็เข้าใจหรอกนะ แทคก็หายไปเลยเหมือนกัน
สองคนนั้นคงสุมหัวกันอยู่ในห้องแลปนั่นแหละ นายก็ต้องดูแลลูกกับตัวเองให้ดี
อย่าให้พี่จับได้ว่าไม่ยอมกินข้าวเหมือนสองเดือนก่อนอีกเชียว”
“ไม่ให้จับได้หรอก”แจ็คสันแลบลิ้นอย่างแสบสัน
หัวเราะร่าแม้จะโดนนิ้วเรียวของพี่ชายคนสวยรวมถึงหมอประจำตัวบีบแก้มด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ไม่ทำแล้วๆ ผมแค่ไม่อยากอาหารช่วงเดียวแค่นั้นแหละ หลังจากนั้นก็กินเยอะเอาๆ”
“ดีแล้ว เลือกอาหารด้วยแล้วกัน เกิดหลังคลอดพุงพลุ้ยขึ้นมา
ลำบากลดน้ำหนักกันอีกแน่”
“โหย ผู้ชายหรอกน่า มีพุงเรื่องปกติออกพี่คุณ”แจ็คสันส่ายหัวไม่คิดมาก
“นายคิดอย่างนั้น แล้วมาร์คคิดแบบนั้นด้วยรึเปล่า?
ดูแลตัวเองเถอะแจ็คสัน”คุณหมอเตือนเจ้าลูกหมาที่ทำหน้ามู่ทู่ตรงหน้า
พอดีกับที่พิธีกรเดินขึ้นไปบนเวที แสงในงานสลัวลง ไฟสปอร์ตไลท์สาดไปยังบ่าวสาวของงานที่เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงด้วยรอยยิ้มมีความสุข
พี่แจบอมวันนี้ปาดผมหน้าม้าขึ้นเสยเป็นทรงเท่บาดจิต
สวมเสื้อสูทสีดำภูมิฐาน ส่วนจินยองสวมสูทสีขาวเสื้อข้างในเป็นสีชมพูติดระบายพอน่ารัก
ดูเหมาะกันอย่างที่ทำให้แจ็คสันยิ้มกว้าง
“ขอเชิญบ่าวสาวพูดอะไรหน่อยไหมครับ?”พิธีกรส่งไมโครโฟนให้เจ้าบ่าวที่รับมาเกร็งๆ
จินยองบีบมือแกร่งเป็นเชิงให้กำลังใจ
“ครับ ก็...ผมอิมแจบอมนะครับ
ผมสัญญาว่าต่อไปผมจะเป็นสามีที่ขยันทำงานและดูแลคนรักของผมให้ดีที่สุดครับ”พี่แจบอมพูดน้ำเสียงเคร่งขรึมจริงจังอย่างกับจะไปพูดสุนทรพจน์ที่ไหน
แต่ถ้อยคำเหล่านั้นมันก็ดูมั่นคงซะจนอดชื่นชมชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้ “ผมกับจินยองคบกันได้ไม่นานก็จริง
แต่ผมเชื่อว่าพวกเราคือคู่ของกันและกัน ถึงจะมีอุปสรรค์หรือปัญหาข้างหน้า
ผมจะจับมือจินยองไว้แน่นและฝ่าฟันมันไปด้วยกันครับ”
แจบอมยิ้มบางๆขณะส่งไมโครโฟนให้จินยอง
ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่ง “ผมอิมจินยองครับ...อย่าแซวดิ”รีบท้วงหน้าแดงปลั่งเมื่อเสียงโห่ฮาของเพื่อนและคนร่วมงานดังขึ้นมาหลังจากตนแนะนำตัวเสร็จ
แจบอมยิ้มมุมปากกระชับแขนคนตัวเล็กเข้ามาชิดยิ่งเพิ่มเสียงโห่ฮาให้ดังขึ้นเป็นทวีคูณ
จนเจ้าสาวของงานพูดอีกครั้งถึงค่อยเงียบเสียงลง “ถึงพวกเราจะคบกันไม่นาน
แต่ผมแอบชอบพี่เจบีตั้งแต่มอปลายเลยนะ ผมมั่นใจว่าผมเลือกชอบคนไม่ผิด พี่เจบีเป็นคนจริงจังกับทุกสิ่ง
ไม่ท้อถอยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นั่นทำให้ผมประทับใจพี่เขามาก
ช่วงเวลาเกือบหนึ่งปีที่คบกัน ก็ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่านี่แหละ... พ่อของลูก”
“ฮิ้วววว”คนในงานร้องกันใหญ่
แต่คราวนี้จินยองไม่หน้าแดงแต่กลับยิ้มกว้าง
“ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะมีลูกสักคนกับพี่เขา...เหมือนเพื่อนรักของผมที่มีล่วงหน้าไปแล้ว...อ๊ะๆ
เป็นใครคงรู้ดี จะไม่เอ่ยชื่อหรอกนะ”
คนที่โดนกล่าวถึงแยกเขี้ยวใส่เพื่อน
ก้มหน้างุดหลบสายตาจากคนรอบข้างที่มองเขาอย่างสนอกสนใจ
...ไอ้เหมียว!!!...
ไม่ทันที่จินยองจะพูดอะไรต่อ เจบีก็แย่งไมโครโฟนมาพูด
“เอาแค่คนเดียวเหรอ? พี่ทำได้มากกว่านั้นนะ
ตั้งทีมฟุตบอลสักทีมไหม?”
...นั่นแหละ เจ้าเหมียวที่ออกตัวแรงถึงกับเงิบหน้าแดงก่ำไปไม่เป็นกันเลย...
แจ็คสันหัวเราะก๊ากสะใจ ยังไงเจบีก็เป็นเพื่อนมามาร์ค
ก็ต้องได้รับนิสัยแปลกๆจากเพื่อนมาแน่ๆล่ะ เพราะฉะนั้นงานนี้ไอ้เหมียวเพื่อนยากของเขางานหนักแล้วสิ
(หัวเราะยาว) เจ้าตัวเล็กในท้องตีท้องแม่เบาๆพร้อมๆกับเสียงปรบมือจากคนรอบข้าง
“เบบี๊ชอบใจใหญ่เลย”แจ็คสันหัวเราะลูบเจ้าตัวเล็กในท้องด้วยความรัก
ขณะมองดูเพื่อนตัวเองหน้าแดงหูแดงบนเวที
ยิ้มกว้างยิ่งขึ้นเมื่อคนที่ได้ช่อดอกไม้คือคุณหมอประจำตัวเขา...พี่คุณนั่นเอง...
“มือแม่นว่ะจินยอง!
5555555555”พี่มินจุนหัวเราะเสียงดังมาจากท้ายงาน
พี่คุณที่หน้าแดงหูแดงถึงกับส่งสายตาไปปรามแพนด้าตัวโตที่คราวนี้ไม่กลัว
เพราะคนอยู่เยอะ ยังไงก็มั่นใจว่าคุณทำอะไรตนไม่ได้อยู่แล้ว
บรรยากาศของความสุขลอยละล่องไปทั่วทั้งงาน
นั่นทำให้ใจของแจ็คสันอิ่มเอิบมีความสุข
…ขอให้มีความสุขนะ ทั้งคู่เลย...
“ไม่ให้พี่อยู่ด้วยจริงเหรอ?”นิชคุณหมุนกระจกถามคนท้องแกที่ส่ายหน้าขวับ
มาร์คไม่ว่างมารับแจ็คสันเพราะติดแลปออกมาไม่ได้
นิชคุณเลยอาสาพามาส่งถึงที่บ้าน
แต่ก็ไม่วายห่วงว่าแจ็คสันต้องอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่แบบนี้จะไม่เป็นอะไรจริงเหรอ?
“ผมอยู่จนชินแล้วน่าพี่คุณ ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“เอางั้นเหรอ...”พี่ชายหน้าสวยขบปากลังเลใจ “มีอะไรรีบโทรหาพี่นะ”
“ได้ครับ”รับปากยิ้มกว้าง หันหลังเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่
ล็อกประตูมองรถคันงามที่ลับหายไปจากคลองสายตา
บ้านหลังใหญ่เงียบสกัดวังเวง เงียบเหงาและเดียวดาย
แจ็คสันเดินไปเปิดโทรทัศน์ เลือกช่องเพลงแล้วเพิ่มเสียงดังลั่น
หวังว่ามันจะช่วยลบความหว้าเหว่นี้ไปได้บ้าง ไม่มากก็น้อย...
พลิกกายนอนบนฟูกข่มตากลั้นสายน้ำที่ใกล้จะคลอขึ้นมาบนหางตา
...รีบกลับมาเร็วๆนะ พี่มาร์ค...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น