[OUR] 23


OUR BABY!
บทที่ 23





อีกสองวันจะถึงกำหนดคลอดตามที่นิชคุณได้เขียนไว้ในใบนัด ยิ่งเข้าใกล้เวลาความตื่นเต้นของทุกคนรอบตัวแจ็คสันก็ดูเพิ่มขึ้น ม๊ะม๊าหวังมาเยี่ยมตั้งแต่เช้าพร้อมด้วยของสำหรับเด็กอ่อนรวมถึงของบำรุงคุณแม่หลังคลอด ได้เจอมาร์คอยู่ไม่ถึงห้านาที คุณสามีผู้วุ่นวายกับงานวิจัยก็ต้องขอตัวออกไปทำงานอย่างรีบเร่ง

“ตัวเล็ก”

“หืม?”แจ็คสันหันไปตามเสียงเรียก มาร์ครีบวิ่งกลับมาทั้งที่ออกไปเมื่อกี้ มือขาวลดแอปเปิ้ลในมือลงเม้มปากเล็กน้อยตอนริมฝีปากเรียวฉกจูบลงมาเร็วๆ

“พี่ไปทำงานก่อนนะ ขอตัวนะครับม๊า”ชายหนุ่มบอกกับภรรยาแล้วหันหน้าไปทางแม่ยายที่รับไหว้ยิ้มๆ ส่วนแจ็คสันก็ยิ้มกว้างโบกมือหยอยๆให้ร่างผอมสูงที่รีบวิ่งออกไปเพราะใกล้จะเข้างาน กัดแอปเปิ้ลในมือต่อพลางถอนหายใจเนือยๆ

...รีบกลับมานะครับ...พูดในใจ คิดแต่ไม่พูดออกไป เดินหันหลังกลับไปหาอะไรกินในครัวต่อ มีม๊าหวังนั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวมองตามลูกชายไป

“กากา ลูกเตรียมของพร้อมรึยัง?”คุณแม่ถามลูกชายท้องแก่ที่เดินอุ้ยอ้ายไปมาในครัวเพื่อหาอะไรกิน แจ็คสันนิ่งไปแล้วส่ายหน้า

“ผมไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรบ้างอ่ะ”

“ม๊าก็มาเพราะรู้ว่ากากาไม่รู้นี่แหละ”คุณแม่ยังสาวหัวเราะ เดินเข้ามาจูงมือลูกชายที่ใกล้จะเป็นแม่คนเข้าทุกทีมานั่งบนโซฟา พินิจใบหน้าอวบอิ่มพลางยิ้มบางๆ มองจนแจ็คสันงงว่ามีอะไรติดอยู่บนใบหน้าเขารึเปล่า

“โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลยนะ กากา”

ตากลมกระพริบปริบๆ ก้มหัวให้ผู้เป็นแม่ลูบเส้นผมนิ่มยาวประบ่าได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ถึงจะยังไม่เข้าใจแต่แจ็คสันก็รู้สึกใจอุ่นวาบ กอดเอวมารดาออดอ้อนเป็นลูกหมาอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ

“ขี้อ้อนจริงนะเราน่ะ กับอี๋เอินก็อ้อนแบบนี้น่ะเหรอ?”

หัวกลมส่ายไปมา กอดเอวมารดาแน่นขึ้น “มาร์คไม่อยู่ให้อ้อนหรอก ไม่อยากอ้อนด้วยคนบ้าคนนั้นน่ะ”

“อ้าว ทะเลาะอะไรกันอีกล่ะ หืม?”ถามด้วยความห่วงใย รู้ดีว่านิสัยลูกชายตนเป็นอย่างไร แจ็คสันจะไม่โกรธหรืองอนอะไรง่ายๆ ถ้าไม่รุนแรงจริงๆหรืออยู่ในช่วงอ่อนไหวมากๆ แต่จะว่าไปช่วงการตั้งครรภ์ก็ถือเป็นช่วงที่อ่อนไหวที่สุดเลยล่ะมั้ง...

“ไม่ได้ทะเลาะนะม๊า ไม่ต้องห่วงหรอก”

“กากา”เรียกชื่อดุๆ เธอรู้ว่าลูกชายกำลังมีเรื่องปิดบัง ดึงใบหน้าอิ่มขึ้นมามองสบตา ปากแดงแบะออก รื้นน้ำตาน้อยๆ ทั้งน่าเอ็นดูและน่าสงสาร ม๊าหวังยิ้มลูบหัวลูบแก้มปลอบประโลมว่าที่คุณแม่มือใหม่ซึ่งร้องไห้กระซิกๆอยู่บนตัก

“พี่มาร์คทำงานหนักทุกวันเลย...”

“งอนพี่เขาเหรอ? พี่เขาทำงานนะ”

“ไม่อ่ะ”แจ็คสันส่ายหน้า “ผมรู้ว่ามันเป็นงาน พี่มาร์คก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วด้วย ไม่ได้งอนแต่แค่อยากให้กลับมาดูแล แต่...งือออ กากาไม่รู้ กาการู้ว่ามันเป็นงาน แต่กากาก็อยากให้พี่มาร์คมาอยู่ด้วย แต่ แต่...”

“เอ้าๆ สับสนหมดแล้วลูก”หัวเราะเบาๆให้คนตัวกลมบนตักนิ่งเงียบไป เธอเข้าใจว่าตอนนี้ลูกชายรู้สึกยังไง ความขัดแย้งระหว่างเหตุผลและอารมณ์จริงๆมีอยู่ในทุกคนนั่นแหละ แจ็คสันก็แค่อยากให้มาร์คอยู่ใกล้ๆ คอยดูแล ในขณะเดียวกันก็เข้าใจว่ามาร์คต้องทำงานด้วย

“กากาอยากให้พี่มาร์คอยู่ด้วยตอนนี้จัง...กากาเหงาอ่ะม๊า พี่มาร์คก็ไม่อยู่ ไอ้จูเนียร์ก็ไปฮันนีมูน พี่เฟยก็ไม่ว่างมาหา วันนี้กากามีความสุขจังที่ม๊ามาอยู่ด้วย”ว่าแล้วก็ซุกตกอ้อนต่อ เหมือนลูกหมาตัวโตๆไม่มีผิด ผิดแต่ว่าลูกหมาตัวที่น่าจะกลายเป็นคุณแม่ในไม่กี่วันนี้ก็แค่นั้นเอง

“เด็ยวก็ไม่เหงาแล้ว ใช่ไหมหลานยาย”มือนุ่มลูบท้องใหญ่ทักทายเด็กในท้อง เจ้าตัวเล็กแตะมือคุณยายเบาๆ แจ็คสันยิ้มกว้างส่วนม๊าหวังก็หัวเราะเอ็นดู ให้ทายว่าหน้าตาต้องเหมือนพ่อแต่นิสัยเหมือนกากาแน่ๆ

“ทำไมล่ะม๊า”

“แหม่ สัญชาติญาติความเป็นแม่ดูถูกไม่ได้หรอกนะกากา เอาล่ะ ลุกขึ้นได้แล้ว ไปเตรียมของกัน ถึงวันนัดจะได้ไม่วุ่นวาย”

ดันตัวคนท้องขึ้นจากตัก เดินไปหยิบพวกผ้าอ้อม เสื้อผ้าสำหรับคุณแม่ พวกของใช้ที่จำเป็นทั้งหลายแยกเป็นสองกระเป๋า กระเป๋าหนึ่งสำหรับก่อนคลอดและอีกใบสำหรับช่วงพักฟื้นที่โรงพยาบาล สองแม่ลูกเก็บของเตรียมของพลางพูดคุยกัน แจ็คสันที่กังวลหลายๆอย่างก็คลายความเครียดลงเพราะได้คำปรึกษาจากคนมีประสบการณ์

ทั้งวันนั้นแจ็คสันก็คลุกอยู่กับคุณแม่ พุดคุยกันหลายเรื่องทั้งเรื่องชีวิตคู่ เรื่องเก่าๆหรือเรื่องการเลี้ยงลูก คนตัวเล็กเขินอายตอนได้ฟังวีรกรรมแสบๆของตนจากปากคำของคุณแม่ ซนขนาดว่าถ้าย้อมเวลากลับไปได้คงไปเขกหัวตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด

“อย่าเอาอย่างแม่หนูเชียวนะลูก”

ม๊าหวังพูดอย่างนั้นกับเจ้าตัวเล็กในท้อง แถมยังได้การตอบรับเป็นกำปั้นเล็กๆกลับมาด้วย

บ่ายสาม อากาศร้อนก็ก็เริ่มคลายลงจากตอนบ่ายสอง ป๊าหวังขับรถมารับม๊าหวังกลับบ้าน ทั้งสองต้องรีบกลับเพราะต้องไปงานต่างจังหวัด ป๊าฝากฝังให้เขาดูแลตัวเอง เหมือนอยากจะอยู่คุยกับหลานในท้องอยู่เหมือนกันแต่ต้องรีบไป ทำตาละห้อยจนแจ็คสันต้องปลอบว่ารอให้เจ้าตัวเล็กคลอดออกมาก่อนก็ได้นั่นแหละถึงได้มีสีหน้าสดชื่อขึ้น ให้ทายเลยว่าป๊าม๊าต้องเห่อหลานมากแน่ๆ...

พอม๊ากลับแจ็คสันก็ไม่มีคนอยู่ด้วย คนตัวเล็กหอบเอาครรภ์น้ำหนักหลายกิโลเดินโย้เย้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ เปิดเพลงฟัง พยายามทำใจให้มีความสุขเข้าไว้ มือป้อมลูบหน้าท้องนูนไปมาโยกหัวตามจังหวะเพลงเบาๆ ร้องเพลงคลอบ้าง

“โอ๊ย!

จู่ๆก็รู้สึกเจ็บท้องขึ้นมากะทันหัน บีบรัดหน่วงจนนั่งไม่ได้ ใจเต้นรัวแรงกลัวว่าจะคลอดก่อนกำหนดอย่างที่คุณเคยเตือนเอาไว้ มือขาวประคองลูบไล้ท้องแข็งเบาๆ สูดลมหายใจเข้าออกทำให้ตนเองผ่อนคลายให้มากที่สุด

“อย่าเพิ่งนะเบบี๊”บอกเจ้าตัวเล็กในท้อง “อย่าเพิ่งนะครับ”

สักพักอาการปวดทั้งหมดก็หายไป เหลือแต่ความหน่วงเป็นระยะๆ แจ็คสันรู้สึกร้อนใจและตื่นกลัว รีบกดโทรไปหานิชคุณเพื่อถามว่าเป็นอะไร แต่พอปลดล็อคหน้าจอขึ้นมา กำลังจะจิ้มกดโทรออกก็เหลือบไปเห็นอีกเบอร์คุ้นตาอยู่ด้านล่างติดกันพอดิบพอดี แจ็คสันลังเลใจนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าโทรไปหาคุณหมอประจำตัว

“พี่คุณ ผมเจ็บท้อง”

“ฮะ! เจ็บยังไง เจ็บมากไหม”คุณหมอคนสวยรีบถามไถ่อาการทันที

“เจ็บบีบๆอ่ะพี่ ก็ไม่มากเท่าไหร่แต่ก็หน่วงมากเลย ตอนนี้หายแล้ว”

“เฮ้อ ค่อยยังชั่ว พี่ล่ะกลัวนายคลอดก่อนกำหนด มาร์คไปทำงานใช่ไหม? ให้พี่ส่งพยาบาลไปอยู่เป็นเพื่อนดีรึเปล่า?”

“ไม่ต้องหรอกพี่คุณ ถ้าไม่เป็นอันตรายก็ไม่เป็นไรครับ”รีบปฏิเสธไม่อยากสร้างความยุ่งยากให้คุณหมอคนสวยที่ก็มีงานเยอะล้นตัวอยู่แล้วในแต่ละวัน

“ก็ไม่อันตรายแต่มันเป็นสัญญาณเตือน ปวดท้องเตือนแบบนี้แสดงว่าเด็กใกล้คลอดแล้ว รังตัวเองดีๆ มันจะปวดแบบนี้อีกหลายครั้งเลย ไม่ต้องกังวล แต่ถ้าปวดมากๆปวดแบบจะตาย หรือน้ำเดินนั่นแหละ ให้รีบมาโรงบาลทันทีเข้าใจไหม”

“ครับๆ เข้าใจคร๊าบบบ ของคุณฮะพี่คุณ”

“เฮ้อ พี่ล่ะไม่สบายใจจริงๆนะที่นายไม่มีคนดูแลในช่วงแบบนี้น่ะ”พี่คุณบ่นมาตามสาย ส่วนคนท้องก็หัวเราะเบาๆ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ...ผมอยู่ได้...จริงๆนะ”

...จริงๆ...




ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน รู้สึกตัวอีกทีก็นอนแผ่อยู่บนฟูกนอนในห้องนั่งเล่น พระอาทิตย์ตกไปแล้ว ตัวบ้านมืดแทบมองอะไรไม่เห็นเพราะไม่ได้เปิดไฟ มีแค่แสงลอดผ้าม่านจากด้านนอกเข้ามาพอให้แจ็คสันมองรอบข้างได้บ้าง

คนตัวเล็กกัดปากแน่นสั่นนิดๆปัดป่ายมือหาโทรศัพท์มือถือ แจ็คสันกลัวความมืด ไม่ได้กลัวขนาดอยู่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ชอบจนถึงขั้นขยาด กลัวตั้งแต่ตอนเด็กๆแล้ว มาร์คก็รู้ถึงได้ทำไฟสำรองในบ้านให้ ถึงแม้จะปิดไฟหลักก็ยังมีไฟรองพอให้บ้านไม่มืดจนเกินไปนัก

“จำได้ว่าอยู่แถวนี้นี่นา”บ่นเพราะหายังไงก็หาไม่เจอสักที ลุกขึ้นเพ่งสายตาไปรอบๆก็เจอว่ามันตกอยู่ข้างฟูกนอน หยิบมันขึ้นมากดให้แสงสว่าง เอะใจกับสีแดงแว๊บๆตรงหางตา ยกมืออีกด้านขึ้นมา งงงวยกับริบบิ้นเส้นเล็กสีแดงที่ผูกบนนิ้วก้อยหลวมๆ

“อะไรเนี่ย”ส่องแสงมือถือไปตามสายริบบิ้นด้วยความสงสัย มันยาวลากออกไปตามมุมต่างๆของตัวบ้าน ให้ทายก็คงมีใครสักคนทำให้ล่ะมั้ง และแน่นอนว่าคนที่เข้าบ้านได้แบบที่เขาไม่รู้สึกตัวก็มีอยู่คนเดียว

“พี่มาร์ค! เล่นอะไรเนี่ย ออกมานะ”

ไม่มีใครตอบกลับมา คนตัวเล็กพ่นลมหายใจฟึดฟัด กลอกตาไปมา...

“เออ เล่นตามด้วยก็ได้”

ลุกขึ้นหอบสังขารไม่เอื้อจะสะดวกนักเดินตามเส้นริบบิ้นไปโดยใช้แสงหน้าจอโทรศัพท์นำทางไป ใช้ดินสอที่เก็บได้แถวนั้นหมุนแทนแกนเก็บริบบิ้นไว้

ห้องแรกที่ริบบิ้นนำทางเขาไปคือส่วนของห้องครัว บนเคาน์เตอร์ครัวมีตะกร้าใบหนึ่งตั้งวางอยู่ แจ็คสันเดินไปเปิดมันออก ขมวดคิ้วสงสัยดึงของในนั้นมองมาเพ่งมอง เสื้อคลุมสีน้ำเงินตัวใหญ่ แถมมีกระดาษโน้ตแปะไว้บนนั้นด้วย

...ใส่เสื้อคลุมนะ อากาศมันเย็น...

แจ็คสันดึงกระดาษโน๊ตออก สวมเสื้อคลุมทั้งที่ก็ไม่รู้สึกว่าในบ้านมันจะหนาวอะไรเลย เดินตามสายริบบิ้นต่อ ซึ่งแต่ละที่ก็พอเขาไปในที่ต่างๆกันในบริเวณบ้าน ที่ต่อมาคือในห้องน้ำ

“ใครให้เอาจานมาไว้ในห้องน้ำฟะ! ไอ้พี่บ้า!

นั่นแหละ เจอจานในซิงก์ล้างหน้า เจริญเถอะพ่อคุณ แถมมีกระดาษโน๊ตติดอีกแล้ว

...ฝากถือมาให้ด้วยนะ...

ถอนหายใจยัดจานใส่ตะกร้า ออกเดินอีกครั้ง ริบบิ้นลากเข้าไปในห้องทำงานของมาร์ค แจ็คสันชะงักไม่มั่นใจว่าควรเข้าไปหรือไม่ ก็ห้องนี้มาร์คหวงจะตายไป... แอพสีเขียวในมือถือเด้งขึ้นมาราวกับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร

...เดินเข้าไปเลย...

เปิดประตูเข้าไปในห้อง มองหน้าจอประมวลผลใหญ่ยักษ์บนผนังปรากฏตัวอักษรเรียงเป็นประโยค

...แก้วน้ำกับช้อนส้อมอยู่บนโต๊ะทำงาน...

“เพื่อ!!!

อย่าให้เจอหน้านะ แจ็คสันด่าแหลกแน่ๆ ทำไร้สาระอะไรอยู่วะ! ยัดแก้วน้ำกับช้อนส้อมลงตะกร้า รีบเดินออกไปตามสายริบบิ้นที่ลากออกไปนอกตัวบ้านตรงส่วนสระน้ำ เห็นแสงสีสลัวจางๆอยู่ด้านนอก เปิดประตูไม่ทันจะได้เดินออกไป สายลมเย็นๆที่พัดมาก็ทำให้แจ็คสันรู้ว่าทำไมมาร์คถึงต้องให้ใส่เสื้อคลุม ทั้งเย็นทั้งชื้น แทบลืมไปแล้วว่าบ้านหลังนี้ล้อมรอบด้วยป่า ชื้นเย็นเป็นปกติอยู่แล้ว...

“พี่มาร์ค”เรียกชายหนุ่มที่น่าจะอยู่แถวนี้ ขมวดคิ้วมุ่นเดินไปหาโต๊ะข้างสระน้ำที่มีเค้กช็อกโกแลตเรียบๆอยู่บนโต๊ะ แต่ดันไม่มีคนที่ควรจะอยู่ตรงนี้ สะดุ้งวาบตกใจเพราะไออุ่นที่จู่ๆก็โอบมาจากด้านหลัง

“พี่เอง...”เสียงทุ้มดังขึ้นข้างริมใบหู แจ็คสันถองศอกใส่เอวมาร์คที่หัวเราะร่า กอดสะโพกเขาจากด้านหลังแน่น

“ทำบ้าอะไรของพี่วะ”

“เซอร์ไพร์สไง”

“ในโอกาสอะไรล่ะคร๊าบบบ หืม?”พลิกตัวกลับมามองใบหน้าหล่อที่ยิ้มเบาๆ ดวงตาสวนยังเปี่ยมไปด้วยความเอ็นดูและความอบอุ่นส่งมาให้เขาเสมอ

“เจอกันครั้งแรก...เจ็ดปีก่อนสินะ...”

“...อืม...”คนตัวกลมซุกเข้าที่ไหล่แข็ง จู่ๆก็เขินอายขึ้นมา ก็ครั้งแรกที่เจอกันไปทำเรื่องเปิ่นๆซะได้อุตส่าห์ทำเป็นลืมไปแล้วแท้ๆเลยนะ

“ใครน้า~ บุกมาหน้าบ้านพี่ แล้วพูดอะไรนะ”มาร์คถามเสียงล้อเลียน หัวเราะเสียงดังเพราะแจ็คสันชกไหล่เต็มแรง

“เงียบไปเลยนะ!

“น่ารักออก ผมจะจีบพี่พูดอย่างนี้สินะ”

โอ๊ยยย อายยยยยย -//////- ตอนนั้นก็ยังเป็นเด็กม.ปลายอารมณ์ร้อน แล้วตอนเห็นเพื่อนบ้านใหม่เป็นผู้ชายหน้าสวยก็เกิดถูกใจ บุกไปว่าจะเอาให้ตะลึงตึงตังสักหน่อย ใครจะคิดว่าจะโดนผู้ชายหน้าสวยคนนั้นหอมแก้มเอาคืน

แก้มนายหอมจัง ขอฟีโรโมนไปทำวิจัยหน่อยสิ

จากนั้นแจ็คสันก็ขยาดไม่กล้าเข้าใกล้มาร์คอีก กลายเป็นมาร์คที่เข้ามาวุ่นวายกับเขาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กว่าจะจีบกันติดก็นานเป็นปีโน่นนนน

“คิดถึงจัง”มาร์คกอดคนตัวเล็กแนบแน่นระวังไม่ให้กดทับครรภ์จนเกินไป ดูเหนื่อยล้าโรยแรง โหมงานหนักจนน้ำหนักลดไปหลายโลอยู่เหมือนกัน แจ็คสันลูบหลังชายหนุ่มแผ่วเบา

“คิดถึงเหมือนกัน... ผมว่าพี่ควรพักหน่อยนะ ไปนอนไหม?”

“นอนนี่แหละ...”

“เฮ้!”คนท้องร้องเพราะโดนชายหนุ่มลากไปนอนบนเตียงผ้าใบผืนใหญ่ข้างสระน้ำ มาร์คเอนกายลงไป สีหน้าผ่อนคลาย เลิกคิ้วมองคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งหลุบตาลงมองพื้น ตากลมสบตาเขา มือป้อมสั่นนิดๆจนมาร์ครู้สึกถึงความผิดปกติ

“พี่มาร์ค...”

“ครับ”

“น้ำเดินว่ะ...”

“...”





ไม่ต้องให้เล่าต่อใช่ไหมว่าวินาทีต่อมามันจะวุ่นวายขนาดไหน...

มาร์ครีบพาภรรยาตัวเล็กยัดขึ้นรถ ไม่ลืมลากกระเป๋าทั้งสองใบติดมือมาด้วย ขับด้วยความเร็วเท่าที่จะทำได้ไปโรงพยาบาล มือก็กดโทรหาพี่คุณแจ้งเรื่อง ดีที่นิชคุณพอจะรู้อยู่แล้วเลยเตรียมตัวได้เร็ว

มาร์คมองกระจกมองใบหน้าขาวซีดเผือกของแจ็คสันบนเบาะด้านหลังด้วยความเป็นห่วง คนตัวเล็กนิ่วหน้าดูทรมาน ร้องโอดโอยตลอดทั้งทาง กว่าจะถึงโรงพยาบาลแจ็คสันก็แทบสลบไปก่อนแล้ว

“พี่รออยู่ด้านนอกนอกนะ”

แจ็คสันพยักหน้า ยอมคลายมือที่กุมกันแน่นตั้งแต่ลงจากรถออก ดวงตากลมพร่าน้ำตามองมาร์คจนกระทั่งประตูปิดลง นิชคุณที่เดินตามเข้าไปตบไหล่ชายหนุ่มรุ่นน้องหนักๆ

“เชื่อใจพี่ได้”

“ฝากด้วยนะครับพี่คุณ”

คุณหมอหน้าสวยพยักหน้า เดินเข้าไปในห้องทำคลอดที่มีแจ็คสันรออยู่ด้านใน

พอคุณแม่เข้าห้องทำคลอด ไอ้คนจะเป็นคุณพ่อก็เดินว่อนไปมาด้วยความตื่นเต้น ป๊าม๊าหวังที่ตามมาทันทีที่รู้ข่าวก็ดูตื่นเต้นไม่แพ้กัน กลายเป็นจูเนียร์กับแจบอมที่เพิ่งกลับมาจากฮันนีมูนเป็นคนลากทั้งสามคนมานั่ง พลางปลอบใจให้สงบลงแทน

มาร์คแทบพุ่งเข้าไปในห้องผ่าตัดตอนได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของคนรัก เจบีถึงกับต้องล็อคเอวล็อคขาไอ้เพื่อนสติแตกเอาไว้ กลัวเหลือเกินว่ามันจะบุกเข้าห้องคลอดจริงๆ

นานเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงกว่าที่ไฟบนประตูห้องคลอดจะเปลี่ยนเป็นสีแดง นางพยาบาลคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องประกาศเสียงดัง

“คุณพ่อของเด็กอยู่....”

“ผมครับ!

นางพยาบาลสะดุ้งตกใจกับความกระตือรือร้นของคุณพ่อมือใหม่หน้าหล่อคนนี้ เธอตั้งสติบอกประโยคสากลที่ได้ยินตามละครน้ำเน่าทั่วไป...

.

.

.

“ยินดีด้วยนะคะ คุณได้ลูกชายค่ะ”




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

GOT7 INDEX

RED ZONE #ฟิคหน้ามืด

[SF] TUAN Twins (MARKSONYIEN) *3P*