[SF] LURE


LURE
[MARKSON]



 [FA BY : ]





LURE
[MARKSON]








“กรี๊ดดดดด พี่มาร์คคค โอ๊ยยย หล่อวววว”

“ฮือ พ่อเจ้าชายหิมะของน้องงง”

“ฮืออ ผู้ชายสุขุมนุ่มลึกนี่ดีจริงๆเลยน้า”


แจ็คสันก้มหน้าลงกับหนังสือการ์ตูนที่กำลังอ่านอยู่ ซ่อนปากแบะหมั่นไส้ทั้งคนในหัวข้อสนทนา ทั้งสาวๆกลุ่มข้างๆที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างไม่มีมารยาท

มาร์คต้วนก็แค่เดือนมหาวิทยาลัย เดือนวิศวะท่าทางสุขุมนุ่มลึกคนหนึ่งที่ฐานะทางบ้านร่ำรวย ก็แค่หน้าหล่อหน่อยก็สามารถหลอกลวงคนทั้งมหาวิทยาลัยได้แล้ว แจ็คสันยังไม่เห็นว่านอกจากเรื่องที่พูดมาแล้วคนที่ชื่อมาร์คนั่นจะมีดีตรงไหน...

...มาร์คน่ะไม่มีดีสักอย่าง...

ไอโฟนรุ่นล่าสุดสั่นครืดไปกับโต๊ะหิน แจ็คสันสะดุ้งหยิบมามาดู มองข้อความที่ส่งมาใหม่แล้วได้แต่ถอนหายใจเฮือก ยัดหนังสือการ์ตูนใส่กระเป๋าเดินออกมาจากคณะไปรอที่ป้ายรถประจำทาง

เพราะว่ามันเย็นมากแล้วคนก็เลยน้อยเป็นพิเศษ ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่เขารู้จักปะปนอยู่ในนั้น

“อ้าว พี่แจ็คสัน”

“หวัดดี ยูคยอม เพิ่งเลิกเรียนเหรอเรา?”ถามอย่างมีจิตไมตรี ยูคยอมเป็นน้องคณะเดียวกันจากโรงเรียนเก่า พวกเขาค่อนข้างสนิทกันพอสมควร แล้วเด็กนี่ก็นิสัยซื่อๆดีด้วย แจ็คสันสารภาพตรงๆว่าชอบคุยเพราะจะได้แกล้งเด็กนี่นี่แหละ

“โอ๊ะ ยูค! บนหัวนายๆ หัวนายอ่ะ!

...เหมือนอย่างตอนนี้...

แจ็คสันแสร้างทำตาโตชี้นิ้วบนหัวอีกคน เจ้าเด็กตัวโย่งจับหัวตัวเองปัดเร่าๆให้วุ่น ส่วนคนแกล้งก็วิ่งลิ่วขึ้นรถโดยสารหนีเจ้าเด็กยักษ์ที่พอรู้ตัวว่าโดนแกล้งก็วิ่งตามคนอายุมากกว่าขึ้นรถเพื่อไปจั๊กจี๋แก้แค้น

แจ็คสันหัวเราะดิ้นหนีนิ้วที่ตามมาสะกิดเอว สุดท้ายคนส่วนสูงน้อยกว่าเลยต้องใช้ไม้เด็ดโถมตัวไปกอดล็อคแขนอีกคนไว้แน่น ยูคยอมหน้าแดงตัวเกร็งเพราะความใกล้ชิด ส่วนแจ็คสันก็หัวเราะเยาะสะใจเพราะวิธีของตนได้ผลดี

แจ็คสันโบกมือลารุ่นน้องเมื่อถึงป้ายที่ตัวเองต้องลง เดินเข้าไปในซอยอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงหอพักของเขา แต่เสียงริงโทนที่ตั้งไว้สำหรับใครคนหนึ่งก็เตือนขึ้นมาก่อน

“ว่า...”

“.......”

“พูดบ้าอะไรของพี่”คิ้วเรียวขมวดแน่นไม่เข้าใจในสิ่งที่ปลายสายบอก

“.......”

“แต่ผมถึงหอแล้วนะ!

“.......”

“ก็ได้...ผมจะรีบไป”เอ่ยบอกอีกฝ่ายเสียงอ่อน ใบหน้าไม่สบายใจซีดกว่าเคย หันหลังกลับเรียกวินมอไซต์หน้าหอเพื่อไปอีกที่









ก๊อกๆ

มือขาวลงน้ำหนักบนประตูบานสวย กำลังยกมือลงก็ต้องสะดุ้งเมื่อประตูเปิดออกกว้าง มือในความมืดพุ่งออกมาดึงร่างเขาเข้าไปในห้อง

ไม่ทันจะได้เอ่ยปากร้องตกใจ ปากก็โดนมือแกร่งค้วาหมับจนแสบไปทั้งหน้า

“ถ้านายร้อง...ฉันจะเพิ่มโทษนายแน่...ที่รัก”












แจ็คสันไม่เข้าใจ...

.
.
.

เขามองอะไรไม่เห็น ตาของเขาถูกอะไรบางอย่างมัดติดแน่น ปากก็โดนผ้ามัดปิดไว้ ข้อมือขยับไปไหนไม่ได้เพราะถูกมัดติดตรึงไว้กับขาโต๊ะกินข้าว พยายามจะขยับมือแต่ไอ้ขาโต๊ะที่ว่ามันดันติดอยู่กับพื้นไม่ต่างจากเสา ดีที่ขาไม่ได้ถูกพันธนาการ แต่มันก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อเขาลุกไม่ได้...

หันหน้าไปตามเสียงประตูถูกเปิดและปิดอย่างนึกหวาดกลัวอยู่ลึกๆ มีคนเดินเข้ามาในห้องครัว หูได้ยินสวบสาบของถุงพลาสติกดังอยู่บนหัวเขาอยู่สักพัก สะดุ้งตัวโยนเพราะสัมผัสเย็นยะเยียบตรงข้างแก้ม

“หึ”เสียงหัวเราะทุ้มต่ำของใครคนนั้นยืนยันที่อยู่ว่าเจ้าของห้องนั่งอยู่หน้าเขา

แจ็คสันส่งเสียงอืออาผ่านผ้ามัดปาก ในที่สุดมันก็ถูกปลดออก...แต่ก็แค่ที่ปากเท่านั้นแหละ

“แค่กๆ”

“เอาเบียร์ไหม?”

แจ็คสันเงยหน้าพยายามจะหันไปตามเสียง แต่คงหันไปไม่ถูกด้านเลยโดนมือแกร่งจับคางมองมาตรงๆ ขอบกระป๋องแนบลงบนฝีปากอิ่ม เขาอ้าปากออกให้ของเหลวดีกรีแรงไหลลงมาในคอ แจ็คสันพยายามเบี่ยงหน้าหนีเมื่อคนป้อนจงใจกรอกไม่ใช้ป้อน เขาเม้มปากแน่นปล่อยให้ของเหลวไหลจากคางเลอะเปื้อนชุดนักศึกษาที่ใส่อยู่

“สกปรกน่า”

“เพราะใครกันล่ะ!”ตอบโต้ไม่ยอมแพ้ แม้สภาพการณ์จะสู้ไม่ได้ แต่ขอให้ปากทำงาน แจ็คสันก็สามารถพ่นสารพัดคำด่าได้

“ปล่อยผมเสียที ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”

“หึ กล้าพูดนะ”

“ก็บอกสิว่าโกรธผมเรื่องอะไร”

“หลังจากทำโทษนายล่ะก็นะ”คราวนี้เสียงทุ้มเอ่ยอยู่ข้างใบหู ข้อมือเขาโดนปล่อยจากขาโต๊ะ โดนลากดึงบังคับให้แจ็คสันลุกตามไปไม่ต่างจากสุนัขเดินตามสายจูงเจ้าของ

“โอ๊ย!

ร่างโดนผลักลงไปกลั้นใจเตรียมรับความเจ็บแต่สุดท้ายพื้นด้านหลังก็กลายเป็นสัมผัสนุ่มของเตียงนอน ใจหายวาบเดาเรื่องราวได้ในทันทีว่าจะเกิดอะไรต่อ

“จะทำบ้าอะไรวะ!

“รู้แล้วนี่...นอนนิ่งๆนะ”

มีหรือที่แจ็คสันจะทำตาม กลิ้งตัวจะลุกขึ้นจากเตียง หูได้ยินเสียงถอนหายใจหนัก ก่อนที่หัวจะหมุนติ้วโลกจะกลับด้าน ร่างโดนเหวี่ยงขึ้นมาขังในอ้อมแขนแข็งแรง

แจ็คสันสะดุ้งเฮือกใหญ่ เสื้อนักศึกษาถูกกระชากอย่างแรงจนได้ยินเสียงฉีกขาดน่าหวาดเสียว

“หึ ใส่เสื้อนักศึกษา แต่ใส่เสื้อกล้ามสีดำ...คิดว่าเท่นักรึไง”

“มันเรื่องของผม!

“ก็ไม่ว่าหรอกนะ ถ้าไอ้พวกตัวผู้มันจะไม่มองแล้วเผลอคิดอะไรต่อ”

“มันมีแต่พี่คนเดียวแหละโว้ยที่คิด เฮ้ย! เสื้อ! เสื้อผม!”ร้องโวยวายเสียงดังลั่น ได้ยินเสียงแคว๊กใหญ่ เสื้อนักศึกษาที่ตอนนี้คงกลายสภาพเป็นผ้าขี้ริ้วหลุดออกไปจากตัว ร่างโดนดันลงไปนอนกับเตียง ไม่กี่นาทีต่อมากางเกงก็ถูกดึงหลุดออกไปจากเรียวขาขาว

“ม ไม่เอานะพี่! พรุ่งนี้ผมมีเรียนนะเว้ย!

“พรุ่งนี้คณะปิดงานสมนา”เจ้าของเสียงทุ้มตอบทันทีทันใด แจ็คสันเบือนหน้าหนีปลายจมูกโด่งที่คลอเคลียแถวใบหน้า สัมผัสของมือแกร่งบีบเค้นสะโพกเปล่าเปลือยบ่งบอกถึงจุดประสงค์ได้ชัดเจนกว่าสิ่งไหน

ริมฝีปากอิ่มแดงถูกฟันกัดดึงปล่อยสองสามครั้ง หยอกล้อจนพอใจเรียวลิ้นแข็งแรงก็กดปากเขาบังคับให้เผยอออกให้เจ้าของเสียงทุ้มได้เข้าไปทักทายโพรงปากนุ่มนิ่มเจือกลิ่นเบียร์ด้วยสัมผัสจาบจ้วงร้อนแรง ริมฝีปากหนาบดหยี้กลีบปากหยุ่นสีสดระบายอารมณ์ลงไปจนเจ้าของกลีบงามส่งเสียงประท้วงในลำคอ มือที่ถูกมัดไม่อยู่เฉยยกขึ้นมาทุบคนด้านบนซ้ำๆ

“พยศจริงๆเลย”คนด้านบนบ่น โลกของแจ็คสันหมุนอีกครั้ง คราวนี้เขากำลังอยู่ในท่านั่ง นั่งอยู่บนบางสิ่งที่ทำให้แก้มแดงวาบ มือยันหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อเล็กน้อยพอสวยงาเขย่งสะโพกขึ้นไม่ให้เนื้อนูนแน่นแนบเบียดไปกับสะโพกแข็งแรงมากจนเกินไป สิ่งที่มีรูปร่างยาวประกบอยู่ตรงร่องก้นพอดิบพอดีราวกับถูกจัดวาง

“พยศสิ ดิ้นอีกสิ”

“โรคจิต!

“หึ ก็ได้...งั้นทนให้ได้นะที่รัก”

“อะไร...อ๊ะ!”ร้องเสียงดังทั้งตกใจทั้งวาบหวาม ตัวเกร็งแน่น ส่วนกลางลำตัวถูกมือร้อนกอบกำบีบอย่างจงใจให้ร่างเขาสะท้านสั่น สะโพกมนเผลอบิดเร่า ร่องถูกกับสิ่งนั้นเข้าเต็มเปา

“ฮื้อ!”ตัวแข็งเกร็งหน้าร้อนวาบเมื่อส่วนนั้นของคนด้านใต้เริ่มแข็งขืนขึ้นมาดุนดันเขาอย่างหยาบคาย

“อย่า...”ร้องเสียงสั่นเครือห้ามปรามเจ้าของมือซุกซนที่ปั่นป่วนร่างเขาให้อ่อนยวบยาบ นิ้วเรียวคีบประคองรูดท่อนเอ็นขึ้นลงเต็มไม้เต็มมือ ส่วนมืออีกด้านก็เค้นคลึงสะโพกมนบีบนวดอย่างเอาอกเอาใจ ตีลงไปเบาๆจนเนื้อแน่นกระเพื่อม ใช้เทคนิคที่เชี่ยวชาญกว่าบังคับให้คนบนร่างจำยอมเพราะความต้องการของตนแจ็คสันร้องครางแต่ก็ยังดื้อรั้นไม่ยอมขยับตัว

จนถึงจุดหนึ่งที่นิ้วเรียวเริ่มยุ่งย่ามแถวร่องด้านหลัง เจ้าของร่างสะดุ้งเฮือก ส่ายหน้าเป็นพัลวัน ยกมือทั้งสองข้างไปจับแขนด้านนั้นไว้อย่างทุลักทุเล

“ไม่นะ! เดี๋ยว!

คนใจร้ายไม่ฟังคำขอร้องนั้น ไล้นิ้วไปกับร่องศวาสแตะขอบหูรูดที่ยังคงปิดสนิทกดแทรกนิ้วเข้าไปพรวดเดียวจนแจ็คสันสะดุ้งเฮือกใหญ่ล้มตัวลงทับกับชายหนุ่มด้านล่างเต็มๆ แผ่นหลังใต้เสื้อกล้ามสีดำโก่งโค้ง เพราะโดนกระตุ้นทั้งหน้าทั้งหลัง ไหล่กว้างสั่นกระตุกทุกครั้งที่ปลายนิ้วดุนดันเข้าไปในกายลึกขึ้น ลมหายใจร้อนและเสียงครางหวานพ่นรดข้างหูของชายหนุ่มที่ยังนิ่งเงียบได้อย่างน่าชื่นชม

“ฮือ หยุดนะ ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้”

ความต้องการของแจ็คสันทะลุถึงปรอท แต่โดนนิ้วเรียวบับส่วนปลายไว้ไม่ยอมให้ปลดปล่อยได้ดังหวัง

“อึก จะเสร็จ...เสร็จแล้ว ปล่อย”เอ่ยบอกเสียงพร่าสั่น เหงื่อไคลไหลรินเปียกชุ่มผิวกายขาวแดงระเรื่อเพราะแรงอารมณ์ เสื้อกล้ามตัวบางเปียกแนบเห็นแม้กระทั่งปลายยอดอกที่นูนเต่งดันเนื้อผ้าออกมาให้เห็นชัด

“ทำให้หน่อยสิ แล้วจะปล่อย”

“ฮือ...”กลีบปากแดงขบกัดจนแดงช้ำ สะโพกมนร่อนเบาๆตามห้วงอารมณ์ความต้องการที่กลืนกินสติความยั้งคิดทีละนิด

นิ้วเรียวถอนออกมาจากช่องทางด้านหลัง เนื้อเอ็นท่อนใหญ่เคลียไปกับโคนขานวลของคนที่เหย่งสะโพกขึ้น ใช้มือจับท่อนเอ็นเข็งนิ่งๆค่อยๆกดตัวเองลงไปครอบครองความแข็งขืนนั้นช้าๆ ปากอิ่มแดงกัดแน่นเพราะทั้งอายทั้งเจ็บจากการสอดใส่ ช่องทางด้านหลังตอดรัดความคับแน่นที่เข้าไปเติมเต็มช่องทางทีละนิดๆจนในที่สุดมันก็เข้าไปจนหมด แจ็คสันเชิดหน้าคราง น้ำตาหยดใสหลั่นลงมาช้าๆ

“เด็กดี”เสียงทุ้มเอ่ยชมเสียงพร่า

“ไอ้...พี่ บ้า อื้อ!

ดันเข่ายันตัวเองขึ้นย่อตัวลงช้าๆอย่างกลัวเจ็บ หน้าเน่อแดงก่ำ ร้อนรุ่มไปทั้งร่าง เกร็งแน่นเพราะไม่เคยทำอะไรน่าอายแบบนี้มาก่อน ชายหนุ่มเห็นดังนั้นเลยค่อยๆลูบไล้ต้นขาด้านนอกบีบนวดให้ผ่อนคลาย ไล้มือเลื่อนเข้าไปใต้เสื้อกล้ามตัวบางเค้นเนื้อแน่นๆอย่างนึกหมั่นเขี้ยว

พอปรับจังหวะได้คนด้านบนก็เริ่มควบคุมจังหวะอย่างที่ตนเองปรารถนา จากช้าเนิบนาบในตอนแรกก็กลายเป็นแทบจะลุกขย่มเพราะความต้องการอันแรงกล้า คางรั้นเชิดขึ้นหอบครางเสียงหวานรัญจวนใจประกอบกับเสียงหอบทุ้มชายหนุ่ม เอ็นเนื้อด้านในถูไถลผนังนุ่มของช่องที่แสนจะตอดรัดทั้งยังแน่นหนัดพาขึ้นสวรรค์เอาง่ายๆ เนื้อเนินนุ่มด้านหลังกระทบกับหน้าขาชายหนุ่มเสียงดังสะท้อนก้องในห้องอย่างที่ใครมาได้ยินก็คงเดาได้ว่าคนในห้องทำเรื่องอะไรกัน แต่ทั้งสองก็หาสนใจไม่

“ฮือ สุดยอด อ๊า!

ความร้อนแรงรุมเร้าไปทั่วร่าง แจ็คสันเอนตัวลงแนบกับตัวของชายหนุ่ม หูได้ยินจังหวะหัวใจที่เต้นรัวแรงไม่แพ้ตัวเอง สะโพกอิ่มยังร่อนไปมาไม่หยุด เด้งครางหวานเมื่อคนด้านใต้กระทุ้งร่างเข้าจังหวะแล้วเผลอโดนตรงจุดอ่อนไหวพอดิบพอดี

“ตรงนั้น อ๊ะ ตรงนั้น”

“อื้อ ตรงนี้สิ นะ”มือแกร่งประคองสะโพกกลมจับกระชากลงมาให้โดนตรงจุดนั้นซ้ำ

“อ๊า! เอาอีก อื้อ! เอาอีก”

“มักมากชะมัดเลยที่รัก”กระเซ้าแซวเร่งจังหวะดันตัวตนในกายนุ่มเบียดเสียงกระทุ้งจุดนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อารมณ์ใกล้มาถึงจุดสูงสุดคงไม่ต่างจากคนด้านบนที่ขยับซอยเข้ามาหนักหน่วง

“พร้อมกันนะ”

“อ๊า!!!”แจ็คสันเชิดครางร้องลั่นกระตุกสะโพกรับน้ำอุ่นร้อนที่ทะลักพุ่งเข้ามาในร่าง ในขณะที่ตัวเองก็กระตุกปล่อยอารมณ์ไปจนหมดสิ้น

เมื่อสิ้นกิจกรรมกาม แจ็คสันก็หมดแรงลงไปนอนทับร่างที่ยังหอบหนักอยู่ด้านใต้ นิ้วเรียวปลดที่คาดตาให้ตากลมได้ลืมตากระพริบปริบๆปรับสภาพกับแสงไฟในห้อง ไม่ลืมแก้เชือกมัดข้อมือให้แจ็คสันได้ขยับมือแก้เมื่อยด้วย

“รู้รึยังว่าโดนลงโทษเรื่องอะไร”

“ไม่รู้แล้วโว้ย จะเรื่องอะไรก็โดนไปแล้ว รู้แม่งก็เหมือนเดิม”กระฟัดกระเฟียดเงยใบหน้าหล่อเหลาในระยะประชิด ริมฝีปากสวยยิ้มกว้างเห็นเขี้ยวแหลมอย่างที่สาวๆกรี๊ดกร๊าดกันนักหนา

...ก็บอกแล้วว่ามาร์คต้วนไม่มีดีอะไรสักอย่างหรอก...

“พี่ไม่ชอบให้เราไปใกล้กับคนอื่น เคยพูดแล้วใช่ไหม”

แจ็คสันแบะปากให้กับคนขี้หวง...

ก็เพราะรู้ รอบตัวเขาเลยไม่ค่อยมีคนอื่นนอกจากเพื่อนสนิท เพราะถ้าเผลอไปอ้อร้อหรือไปใกล้กับคนอื่นมากๆ ก็จะโดนคนขี้หวงเอามาเป็นข้ออ้างทำโทษพิสดารอย่างวันนี้ไง

“พี่มาร์คแม่งโรคจิต ผมทนคบมาได้ไงเป็นปีวะ”

“ถามตัวเองสิครับแจ็คสัน”

แจ็คสันนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ยึดใบหน้าคมมาใกล้ๆตัวเอง

“คนนั้นชื่อยูคยอม...เป็นน้องโรงเรียน”

“ไม่อนุมัติ”มาร์คส่ายหน้าทำหน้าจริงจังให้คนรักในอ้อมกอด “สายตาเด็กนั้นไม่ธรรมดา”

“ขี้หวงไปไหนฟะ! ไว้ใจผมหน่อยดิ ผมคบกับไอ้โรคจิตแบบพี่คนเดียวก็เหนื่อยจะตายแล้ว จะเอาแรงที่ไหนไปหาคนอื่นวะ”

“พี่ไว้ใจแจ็คสัน แต่พี่ไม่ไว้ใจคนอื่นไง”

แจ็คสันถอนหายใจแรง ล้มตัวลงนอนข้างๆ ปรือตาจะหลับอยู่มะรอมมะร่อ

มาร์คหัวเราะเอ็นดู หอมกระหม่อมคนตัวขาวที่หลับตาพริ้ม

“ง่วงก็นอนครับ”

.
.
.

“แล้วก็...”

.
.
.

“คราวนี้ยอมให้หรอกนะ...เด็กขี้อ่อย”

.
.
.

“เหอะ...ไม่อ่อยพี่ก็ไม่รักดิวะ”








...มาร์คน่ะไม่มีดีสักอย่างจริงๆนะ...




...แต่แจ็คสันก็รักพอจะหาเรื่องอ่อยให้ตกหลุมทุกวันนั่นแหละน่า...





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

GOT7 INDEX

RED ZONE #ฟิคหน้ามืด

[SF] TUAN Twins (MARKSONYIEN) *3P*