[SF] BABY-BROTHER
BABY-BROTHER
HAPPY
ESTER DAY
[MARKSON]
“ไม่เป็นไรครับ”ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ
โค้งหัวให้เล็กๆแล้วเดินออกมาด้วยสีหน้าผิดหวัง ใช้ปากกาในมือขีดฆ่าชื่อบริษัทในกระดาษยุ่ยๆ
ไล่ตามองลายขีดฆ่าเกือบแปดแห่งแล้วได้แต่ถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ยัดทั้งกระดาษและปากกาลงในเสื้อโค้ทสีตุ่นส่งๆ
มองปลายเท้าในรองเท้าแบรนด์ดังสีมัวฝุ่นก้าวเดินไปตามเส้นทางในถนนสายธุรกิจช้าๆอย่างไร้จุดหมาย
มาร์คเป็นชายหนุ่มอายุ
27 ที่กำลังหางานทำหลังจากตัดสินใจไม่ขอทำงานในบริษัทของครอบครัวต่อเพราะต้องการประสบการณ์เพิ่มเติม
เดินออกมาหางานทำตามบริษัทต่างๆโดยใช้แค่วุฒิปริญญาตรี
ทั้งที่มาร์คเองก็จบเอกบริหารธุรกิจมาแล้วแท้ๆ ตอนแรกก็คิดว่าจะง่าย แต่พอเอาเข้าจริงๆทุกอย่างก็ยากลำบากไปเสียหมด
ไฟในใจที่ลุกเหิมในตอนนั้นกำลังค่อยๆแผ่วลงเรื่อยๆ
เดินย่ำต๊อกๆมาหยุดอยู่บนสะพานเชื่อมต่อระหว่างฝั่งเมือง
มองทิวทัศน์สูงต่ำของตึกรามบ้านช่องยามเที่ยงในวันที่ฟ้าสลัวๆคล้ายฝนจะตก
ยกมือนับวันเวลาด้วยใจเหี่ยวเฉา
...สามเดือนแล้วที่ยังไม่ได้งาน...ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเขาคงไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าไฟเดือนนี้แน่ๆ
มาร์คดึงสติตัวเองกลับมารีบรับมือถือในประเป๋านึกลิงโลดในใจ
คิดว่าบริษัทที่ไปสัมภาษณ์ไว้จะโทรกลับมาคอนเฟิร์มงาน
แต่พอได้ยินเสียงอ่อนหวานในประโยคแรก ชายหนุ่มก็ถอนหายใจแบบปลงโลก
“มาถอนหายใจใส่ตั้งแต่ประโยคแรกคืออะไรยะ!”
“ว่าไงครับพี่มาเรีย
มีอะไรรึเปล่า”ถามเนือยๆ ออกเดินไปจากที่เดิมแบบไม่เร่งรีบนัก หูก็คอยฟังเสียงหวานของพี่สาวในสาย
“มีเรื่องให้ช่วยนิดหน่อย...ไม่สิ
ฉันจะจ้างนาย”
“หืม?
จะใจดีกับผมรึไง?”แค่นหัวเราะหยอกล้อกับคนปลายสาย
“ไม่ย่ะ
เอาเป็นว่ารีบกลับมาที่ห้องนายภายในสามสิบนาทีแล้วกัน โอ๊ะ!
ต้องวางสายแล้วล่ะ”
มาร์คมองหน้าจอแสดงเวลาในการโทรงงๆ
ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเรียกแท็กซี่แถวนั้นไปส่งที่คอนโดกลางกรุงของตัวเอง
.
.
.
.
.
“นี่มันหมายความว่ายังไงครับ
พี่มาเรีย...”ชายหนุ่มทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
มองของเล่นรวมถึงเสื้อผ้าและของใช้เด็กเล็กหน้าห้องตัวเอง หันไปมองพี่สาวตัวเองที่กำลังอุ้มสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เขาไม่ค่อยถูกโรคด้วยอย่าง
‘เด็ก’ ในอ้อมกอดโอ๋เอ๋ไปมา
“ฉันต้องรีบไปทำโครงการที่ซานฟรานซิสโกสามเดือน
มันเป็นงานเร่งด่วน แล้วทีนี้ที่บ้านก็ไม่มีใครจะดูแลแจ็คสันได้ ฉันก็เลยจะมาฝากให้นายเลี้ยงแจ็คสันหนึ่งเดือน”
“แต่พี่ก็รู้ว่าผม...”
“นายไม่ถูกกับเด็ก...นายก็แค่คิดไปเอง
นายเคยเลี้ยงหรือเจอเด็กจริงๆจังๆรึไงล่ะ”
มาร์คเถียงไม่ออก
เขาไม่เคยเจอ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะชอบได้ แค่ได้ยินเสียงร้องไห้งอแงของเด็กเล็กๆก็ทำเอาเขาประสาทเสียแล้ว
“นั่นแหละ
แค่เดือนเดียว ฝากดูแลแจ็คสันด้วย ลูกพี่เลี้ยงไม่ยากหรอก
แค่กินอิ่มนอนหลับแจ็คสันก็อยู่ได้แล้ว”
...ให้มันจริงเถอะครับ...มาร์คบ่นในใจขณะเอื้อมมือไปรับเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมกอด
เขาเจอเด็กคนนี้ก็ตอนที่เพิ่งคลอดใหม่ๆ มาเจออีกทีก็ตอนสามขวบเข้าไปแล้ว
แก้มยุ้ยแดงฝาด ปากแดงจัดจิ้มลิ้มตัดกับผิวสีขาวราวกับหิมะ ตัวกลมป้อมในชุดเอี๊ยม
ดวงตากลมโตแววใสราวกับลูกหมาตัวเล็กๆมองเขาอย่างสนอกสนใจ
ก่อนที่ปากอิ่มเล็กจะยิ้มกว้างเห็นเหงือกสีชมพูแดงที่มีฟันซี่เล็กเรียงยังไม่ครบดี
...น่ารัก...
มาร์คยิ้มตอบเด็กน้อยในอ้อมแขนที่ร้องอ้อแอ้ปัดป่ายมือเล็กจับใบหน้าเขาอย่างต้องการจะเล่นด้วย
“ชือ ชือ
ไอแอมแจ็คจั๋น แจ็คจั๋น”
“ฉันชื่อมาร์ค
มาร์คน่ะ”
พอเห็นปากเล็กพยายามจะพูดตาม
ชายหนุ่มก็ทวนชื่อตัวเองอีกรอบด้วยความเอ็นดู
“มาร์ค!!!”
มาเรียมองภาพตรงหน้าแล้วยิ้มพอใจ
ก็บอกแล้วว่ามาร์คไม่ได้ไม่ชอบเด็กหรอก แต่แค่ไม่เคยสัมผัสเองเฉยๆ
เธอเดินไปอุ้มแจ็คสันกลับคืนมา
หอมแก้มยุ้ยใสของเด็กชายที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากไม่รู้ความ
“ม๊าคงคิดถึงแจ็คสันแย่เลย
อย่าดื้อกับพี่เขามากนะรู้ไหม เดี๋ยวม๊าจะรีบกลับมาหา เข้าใจไหมครับ”
“ม๊า ม๊า”เด็กน้อยจับเสื้อมารดาไม่ยอมปล่อยเหมือนรู้ความหมายของประโยคนั้น
ดวงตากลมโตคลอน้ำน่าสงสาร ปากแดงเรียกชื่อม๊าตัวเองไม่หยุด จนคนเป็นแม่ร้องไห้ตาม
ปลอบประโลมเด็กน้อยจนผล็อยหลับไป
ยื่นกลับมาให้มาร์คที่ขนของเข้าห้องจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จูบลาบนแก้มนิ่มก่อนเดินออกไปด้วยความอาวรณ์
“เปิดสไกท์ไว้ด้วย
พี่จะพยายามติดต่อมาทุกเย็น ถ้าแจ็คสันเป็นรอยนิดเดียว...”นิ้วเรียวสวยปาดคอตัวเองทำหน้าดุให้เจ้าน้องชายได้รู้ว่าเธอหวงลูกชายสุดที่รักในอ้อมแขนชายหนุ่มขนาดไหน
“ไปเถอะน่า
ตกเครื่องผมไม่รู้นะ”มาร์คถอนหายใจมองพี่สาวตัวเองที่อาลัยอาวรณ์ไม่เลิก
กว่าจะไปได้ก็ลีล่าไม่รู้กี่ท่า
ชายหนุ่มล็อคห้องอุ้มเด็กน้อยตัวเล็กไปนอนบนเบาะที่เขาปูไว้หน้าทีวี
แจ็คสันหลับปุ๋ย คิ้วขมวดแน่น จมูกรั้นเล็กและเปลือกตาบางแดงก่ำเพราะร้องไห้
มองไปมองมาก็อดใช้นิ้วเขี่ยปมคิ้วให้คลายออกเบาๆ
“เอาล่ะ...งานยากแล้วล่ะมาร์ค”เอ่ยปากบอกกับตัวเอง
ถอนหายใจลุกขึ้นเตรียมข้าวของในห้อง เขาเคยเลี้ยงเด็กก็จริง
แต่ก็พอรู้ว่าควรทำอะไรเพราะตอนมาเรียท้องใหม่ๆก็เป็นเขาเองนี่แหละที่หาข้อมูลให้พี่สาวขาโหดคนนั้นว่าควรดูแลเด็กแบบไหน
เผลอๆมาร์คจะรู้ดีมากกว่ามาเรียเสียอีก...
จัดของทำอะไรเพลินๆ
รู้ตัวอีกทีก็บ่ายกว่าๆแล้ว
มาร์คเดินกลับมาปลุกเจ้าตัวเล็กที่ยังนอนหลับอุตุให้ตื่นมากินข้าวเที่ยง
เปลือกตาบางกระพริบปรือ อ้าปากหาวกว้าง พลิกตัวนอนคว่ำไม่อยากตื่นอย่างน่าเอ็นดู
“ไม่ได้นะแจ็คสัน
ลุกมากินข้าวก่อนเร็ว”
“ม๊า ม๊า”
...ตื่นมาก็ถามหาแม่เลยไหมล่ะ...
มาร์คอุ้มเด็กน้อยที่หันหน้าซ้ายขวามองหาคนคุ้นเคย
พอไม่เห็นก็แบะปากจะร้องไห้อีกรอบ มือป้อมกำลังจะยกเช็ดน้ำตาก็มีผ้าขนหนูผืนนิ่มปาดน้ำตาออกให้เบาๆ
“ม๊ามาเรียไปทำงาน
ตอนนี้”
“ฮึก...เจียเอ่อคิดถึงม๊า”
...บางคำก็พูดชัดแฮะ
นึกว่าจะอ้อแอ้ทุกคำซะอีก แล้วก็เจียเอ่อ? ชื่อจีน...
เพราะพวกเขาเป็นตระกูลที่มาจากโซนเอเชีย
ก็เลยไม่แปลกที่จะมีชื่อจีน แต่เขาก็เพิ่งรู้ว่าแจ็คสันมีอีกชื่อว่าเจียเอ่อด้วย
“เป็นผู้ชายต้องอดทน
ไม่ร้องไห้ง่ายๆนะครับ”
“อื้อ
เจียเอ่อเป็นเดะดี เจียเอ่อจะไม่ย้องไห้!”เด็กน้อยตอบรับทำท่าทางจริงจัง
แต่มันกลับดูน่าเอ็นดูเสียมากกว่าในเมื่อเจ้าตัวสูงไม่ถึงฟุต
แถมตัวยังป้อมอ้วนกลมอย่างกับลูกฟุตบอล มาร์คลองแกล้งดันตัวหลานตัวเล็กเบาๆ
กลายเป็นว่าแจ็คสันม้วนตัวเป็นก้อนกลมล้มหวืดกลิ้งหลุนสองรอบไปนอนแหมะอยู่บนขอบฟูก
มาร์คหลุดหัวเราะพรืดกลั้นขำไม่ไหวในขณะที่เด็กตัวเล็กร้องไห้จ้าเพราะโดนแกล้ง
“แง้!!!”
กิจวัตรประจำวันของมาร์คแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อได้รับดูแลแจ็คสัน
ผ่านมาแค่สองสัปดาห์มาร์คก็กลายเป็นอาที่หลงหลานเข้าขั้นโคม่า
...ใครบอกว่าไม่ชอบเด็กครับ...ไม่จริ๊ง!!!
มาร์คโคตรรักเด็กเลย...
พอทำอาหารง่ายๆเตรียมไว้ให้เสร็จก็เดินเข้าไปในห้องนอนที่ตอนนี้ถูกเนรมิตกลายเป็นสวรรค์สำหรับเทวดาตัวน้อยบนเตียงนอน
มาร์คยิ้มกว้างนั่งมองดูเด็กน้อยในชุดนอนลายอียอร์เต็มตัวที่กำลังนอนหลับปุ๋ย
แก้มแดงยุ้ยนูนเพราะเจ้าตัวนอนตะแคงข้างกอดหมอนข้างใบเล็ก
มาร์คใช้นิ้วเขี่ยแก้มยุ้ยด้านนั้นเบาๆ คิ้วบางขมวด
ปากจิ้มลิ้มยู่มุบมิบซุกหน้าลงกับหมอน
“ขี้เซาๆจริงๆเลยเจ้าตัวเล็ก
ตื่นได้แล้วครับ”
“อุ้ม มัคอุ้ม”ส่งเสียงงุ้งงิ้งอ้อนคุณอาตั้งแต่เช้า
มาร์คยิ้มโอบหลานตัวเล็กขึ้นมาพาดบ่าพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ วางเด็กน้อยที่ยังขยี้จมูกขยี้ตางัวเงียลงบนซิงก์ล้างหน้า
มาร์คจับมือเล็กไม่ให้ขยี้จมูกตัวเองแดงไปมากกว่านี้
ใช้ผ้าอ้อมชุบน้ำบิดหมาดๆเช็ดล้างหน้าให้
หยิบแปรงสีฟันลายการ์ตูนชื่อดังบีบยาสีฟันส่งให้แจ็คสันไปแปรงเอง
ยืนดูจนแน่ใจว่าเด็กน้อยแปรงสะอาดแล้วก็ส่งแก้วน้ำให้แจ็คสันได้บ้วนปาก
ใช้ผ้าสะอาดเช็ดหน้าให้อีกรอบ อุ้มเด็กน้อยออกไปที่ห้องครัว
มาร์คกินข้าวเสร็จก็ท้าวคางมองเด็กน้อยข้างๆที่กินเลอะเทอะเหมือนเคย
รอบปากอิ่มเปื้อนซอสสปาเก็ตตี้ แก้มยุ้ยเคี้ยวหนุบหนับพองกระเพื่อมขึ้นลงเหมือนพวกกะรอกเก็บอาหารข้างกระพุ้งแก้ม
มือเรียวหยิบทิชชู่บรรจงเช็ดให้ ยิ้มตอบดวงตากลมที่เหลือบกลับมามอง
พอเห็นมาร์คยิ้ม
แจ็คสันก็ยิ้มตามอย่างไร้เดียงสา ชายหนุ่มเลยฉวยโอกาสก้มหอมแก้มยุ้ยแดง
ลุกขึ้นเก็บจานเสร็จก็กลับมายกกล่องของเล่นให้แจ็คสันที่เดินเตาะแตะวิ่งนั่งแบะเล่น
แจ็คสันเป็นเด็กค่อนข้างไฮเปอร์ หยิบนั่นนี่วิ่งวุ่นไปทั่วบ้าน
แต่ก็เก่งพอจะไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ ไม่เหมือนเด็กบางคนที่วิ่งลิ่วจนชนประตูบ้างโต๊ะบ้างอย่างที่มาร์คกังวลในตอนแรก
แจ็คสันเดินเตาะแตะมาหามาร์คที่กำลังนอนคว่ำเล่นโน้ตบุ๊กอยู่บนพื้น
เจ้าตัวเล็กทำเป็นชะเง้อมอง กระโดดลงบนหลังชายหนุ่มที่ร้องจุกด้วยน้ำหนักที่เพิ่มมากะทันหัน
แจ็คสันที่ยังไม่รู้เรื่องก็ปีนมาเกาะหัวอาตัวเองมองหน้าจอที่มีแต่ตัวอักษรอะไรไม่รู้เต็มไปหมด
“มัคๆ
คิดถึงม่ามี๋ เปิดๆ”มือป้อมๆหยิกผมมาร์คไป ก็ชี้ๆหน้าจอไป
“โอ๊ยๆ
มาร์คเจ็บนะครับ ได้ๆ เดี๋ยวมาร์คเปิดให้”ยอมหลานตัวเล็ก เปิดหน้าจอสไกด์ขึ้นมาติดต่อพี่สาวแท้ๆตัวเอง
รอไม่ถึงนาที ภาพหญิงสาวในชุดทำงานก็ทำให้แจ็คสันดิ้นใหญ่
มาร์ครีบอุ้มเด็กตัวเล็กไว้มานั่งบนตักกอดตัวนุ่มนิ่มไม่ให้พุ่งเข้าหาจอคอม
“ม๊า ม๊า~~~~~”
“แจ็คสัน~~~~”
...พอกันทั้งแม่ทั้งลูก...
ภาพที่เห็นคือปากแดงเปื้อนลิปสติกของมาเรียที่ลืมตัวจูบกล้องเข้าเต็มเปา
หญิงสาวสะดุ้งรีบหาผ้ามาเช็ดๆมองหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยดวงตาที่เอ่อคลอ
“ม่ามี๊คิดถึงแจ็คสันจังเลยลูกก
มาร์คแกล้งอะไรลูกชายแม่รึเปล่า กินดีอยู่ดีนะ”
“โทษนะครับคุณพี่สาว
เพิ่งติดต่อไปเมื่อคืนก็คำถามเดิมนะ”
“ฉันจะคุยกับลูก
นายน่ะเงียบไปเลย”
มาร์คกลอกตาแรงใส่พี่สาวผู้ติดลูกนั่งเงียบมองแม่ลูกสื่อสารกันผ่านหน้าจอเกือบชั่วโมงด้วยภาษาที่เขาก็ไม่เข้าใจ
ก่อนจะปิดไปมาเรียหยิบหูกระต่ายน่ารักน่าชังมาให้ลูกชายดู หน้าจอดับพรึบ
แจ็คสันหันมามองเขาใช้ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองนิ่งๆจนมาร์คต้องเอ่ยปากถามว่ามีอะไร?
“มัคๆ
อีสเตอร์ล่ะ อีสเตอร์”
มาร์คร้องอ๋อในใจ
จริงสิอีกสองสัปดาห์ก็เป็นวันอีสเตอร์นี่นะ ลืมไปโบสถ์ตอนเช้าเสียสนิท
เอาจริงๆเขาก็ไม่ได้เข้านานแล้ว ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ห้องนี้นี่แหละ
โบสถ์ที่ใกล้ที่สุดก็ต้องขึ้นบัสไปอีกสามสาย นานๆเข้าเขาเลยไม่ไปเสียเลย
“อืม อีสเตอร์
แจ็คสันอยากได้อะไรเหรอ?”
“ไข่ๆ
กระต่ายๆ แจ็คสันอยากเล่นๆ”
“หา?”เป็นอีกหนึ่งประโยคที่มาร์คไม่เข้าใจ
แจ็คสันยังคงรบเร้ามาร์คด้วยประโยคเดิมๆ
ต้องยกสายเสียเงินค่าโทรข้ามประเทศไปหาพี่สาวอีกรอบ
จนในที่สุดก็รู้ว่าเป็นเกมที่พี่สาวพาแจ็คสันเล่นเมื่ออีสเตอร์ปีก่อน
เดือดร้อนคุณอาคนดี
ต้องหอบหิ้วเจ้าหนูจ้ำม่ำใส่ตะกร้าอุ้มแบกขึ้นหลังไปซุปเปอร์มาเก็ต
ซุปเปอร์มาเก็ตประดับตกแต่งด้วยริบบิ้น
ไข่และกระต่าย เจ้าตัวน้อยตะกายอยากดูนั่นดูนี่จนมาร์คต้องดุให้ไม่ทำเสียงดัง
ก้อนโมจิเดินได้เลยเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะออกอาการดิ้นอีกเมื่อผ่านซุ้มทำกิจกรรมในซุปเปอร์ที่มีพนักงานในชุดบันนี้กระโปรงสีขาวมุ้งมิ้งใส่หูกระต่ายอันใหญ่พูดโปรโมทอยู่ด้านหน้า
“อุ๊ย
คุณพ่อคะ ลูกสาวน่ารักจังเลยค่ะ”
มาร์คเดินต่อ
เพราะไม่คิดว่าเป็นคำเรียกตัวเอง
แต่แจ็คสันก็ดิ้นหัวเราะอ้อแอ้จนชายหนุ่มต้องหันกลับไปมอง
ชี้มาที่ตัวเองเพื่อต้องการย้ำว่าใช่ตนหรือ?
“ค่ะ
คุณพ่อนั่นแหละค่ะ เชิญคุณพ่อกับลูกสาวมาเล่นกิจกรรมเล็กๆน้อยๆกับเราด้วยนะคะ”
“เอ่อ...”ชายหนุ่มถึงกับอึ้งไป
“ผมไม่ใช่พ่อนะครับ ผมเป็นอา ส่วนนี่แจ็คสันเป็นผู้ชายครับ ไม่ใช่ผู้หญิง”
“อ้าว
ต้องขอโทษด้วยนะคะ ยังไงขอเชิญร่วมสนุกกับเราด้วยนะคะ”
กำลังจะเอ่ยปฏิเสธไปเพราะอยากรีบไปรีบกลับ
แต่เห็นแจ็คสันดูท่าทางสนอกสนใจเลยพยักหน้าตอบรับเดินเข้าไปในซุ้ม
“กติกาง่ายๆเลยค่ะ
ให้คุณอากัดไข่แป้งไว้นะคะ แล้วล่อให้เจ้าตัวเล็กกินค่ะ ถ้าทุบสถิติของคนก่อนหรือกินจนหมดก็รับของขวัญพิเศษเป็นเงิน
xxxx
ไปเลยค่า”
พอมาร์คได้ยินจำนวนเงินก็ตาลุกวาว
ไม่นึกว่าซุ้มเล็กๆแบบนี้จะมีรางวัลใหญ่ได้
ต้องขอบคุณเจ้าตัวเล็กจริงๆที่ทำให้เขาไม่เดินผ่านไป
มาร์คกัดแป้งอบที่ทำเป็นรูปไข่รสชาติก็เป็นหมั่นโถทั่วไปไว้
มือเรียวจับแจ็คสันนั่งตัก
เจ้าตัวเล็กมองเขาตาแป๋วไม่เข้าใจว่าคุณอาคนดีต้องการให้ตนทำอะไร
นั่งนิ่งอยู่นานจนมาร์คต้องยื่นหน้าเข้าไป
ดันปลายขนมกับปากอิ่มแดงดุนดันพร้อมส่งสายตาอ้อมวานให้เด็กตัวเล็กให้กินมันเสียที
ในที่สุดก็เหมือนว่าคำอ้อนวอนของมาร์คจะได้ผล
กลีบสีแดงจัดอ้าขึ้นใช้ปากที่มีฟันยังไม่ครบซี่กัดขนมปังไปคำหนึ่ง
พอกินไปหนึ่งคำแจ็คสันก็ดูจะชอบใจกับรสชาติ อ้าปากงับคำแล้วคำเล่า
จนขนมเหลือแค่ที่มาร์คกัดไว้ในปากเท่านั้น ชายหนุ่มกำลังจะลุกขึ้นก็โดนมือป้อมแปะแก้มดังเพี๊ยะ
สะดุ้งหลับตาเพราะความแสบบนแก้มก่อนวินาทีถัดมาจะเบิกตากว้างมองเจ้าของสัมผัสหยุ่นนิ่มที่แตะเข้าที่ปากเขา
แจ็คสันปีนตักเขย่าเท้าตามมากินขนมในปากเขา
ดวงตากลมเหมือนลูกหมามองแค่ขนมใน ขณะที่คุณอาคนดีมองปากสีแดงฉ่ำใต้จมูกนิ่ง กลืนน้ำลายลงคอ
เผลอคิดว่าน่าจูบขึ้นมาในชั่ววินาที
จุ๊บ
ต้องโทษปฏิกิริยาร่างกายของชายหนุ่มที่ประสานกับความคิดได้ดีเกินไป
รู้ตัวอีกทีปากสวยของคุณอาก็แตะปากแดงฉ่ำจิ้มลิ้มของเด็กในอ้อมกอด ตาโตสบตาเขาอย่างไม่เข้าใจ
ยิ่งทำให้คุณอาคนดีย่ามใจลงน้ำหนักบดกลีบปากแดงน่าลิ้มลองต่อ
ถ้าไม่มีเสียงหวีดยินดีของคุณบันนี่สาวสวยในซุ้มล่ะก็นะ...
“กรี๊ดดดด
แจ็คพ็อตแตกค่า เป็นคู่อาหลานที่น่ารักจริงค่ะ บลาๆๆๆ”
“มัคๆ
เมื่อกี้มัคทำอะไรอ่ะ”เจ้าเด็กตัวอ้วนป้อมในอ้อมแขนเขย่าคอเสื้อคุณอาคนดีอย่างนึกสงสัย
มาร์คยิ้มอารี ลูบเส้นผมนุ่มนิ่มแผ่วเบา
“ก็...จุ๊บๆเป็นรางวัลให้แจ็คสันไงครับ”
“เย้!
แจ็คสันได้รางวัลล่ะ ถ้าแจ็คสันเป็นคนดี แจ็คสันจะได้รางวัลอีกใช่ไหม?”
มาร์คได้แต่ยิ้มให้กับเด็กที่กระโดดโลดเต้นไปรอบๆ
...อืม
รางวัลของเด็กดี...
ทั้งสองกลับมาถึงบ้านอีกทีก็ค่ำแล้ว
มาร์คให้แจ็คสันไปอาบน้ำในขณะที่เขาเอาไข่พลาสติกลวดลายสีสันสวยงามไปซ่อนไว้ตามที่ต่างๆในห้อง
...เกมหาไข่...เกมที่ครอบครัวของแจ็คสันจะเล่นกันในวันอีสเตอร์
ซึ่งเจ้าตัวเล็กก็ดูชื่นชอบที่จะสวมบทบาทเป็นนักสำรวจตามล่าหาไข่เสียเหลือเกิน
“มัคๆ
เสร็จแย้วๆ”
แจ็คสันในชุดกระต่ายสีฟ้าอ่อนมีหางกลมปุกปุยอยู่ด้านหลังกระโดดดึ๋งๆออกมาอย่างรื่นเริง
ยิ้มกว้างขวางเห็นฟันไม่กี่ซี่น่ารักน่าชัง มาร์คกวักมือเรียกหลานรัก
นั่งลงสวมหูกระต่ายสีเดียวกันกับชุดบนกลุ่มผมนุ่มนิ่มไม่แพ้หางปุกปุย มองชอบใจ
ก้มลงฟัดแก้มฟัดคอผิวเนื้อนิ่มหอมกลิ่นสบู่ให้แจ็คสันหัวเราะดิ้นเร่าๆเพราะจั๊กจี๋
ฟัดจนพอใจแล้วก็ส่งตะกร้าให้แจ็คสันที่วิ่งวุ่นไปรอบห้อง
ค้นจนข้างของเขากระจุยกระจาย แปลกที่มาร์คเอาแต่ยิ้มตาเยิ้มมองการเคลื่อนไหวของหลานตัวป้อมว่าน่ารักน่าเอ็นดูโกรธไม่ลงไปเสียหมด
แจ็คสันหาไข่ใบสุดท้ายใต้เบาะนอนเล่นของตัวเองเจอ
วิ่งลิ่วๆหอบตะกร้ามาหาชายหนุ่ม ยิ้มกว้างจนตาเหลือแค่ขีดเล็กแต่ก็พราวระยับสดใส
“แจ็คสันหาครบแล้ว!!!
เย้ๆ มัค ของขวัญล่ะ รางวัล”
“หืม...มาร์คไม่ได้เตรียมให้นี่สิ”
...ลืมจริงๆนะ...
เจ้าตัวเล็กทำหน้าหงอยไปนิดหน่อย
ก่อนจะร้องอ๋อปีนขึ้นมาบนตักคุณอา นิ้วป้อมจับๆปากคุณอาที่ยิ้มกริ่มอารมณ์ดี
“จุ๊บๆ
จุ๊บรางวัลเด็กดี”
“อ่าฮะ”ส่งเสียงแสร้งว่าเพิ่งนึกออก
มือเรียวประคองแก้มกลมยุ้ยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แจ็คสันหลับตารอรับรางวัลจากคุณอาพี่เลี้ยงที่แนบริมฝีปากลงกับกลีบดอกไม้สีแดงสด
บดเบาๆเพราะกลัวว่ากลีบจะช้ำ บดคลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
...กระต่ายน้อยช่างไม่รู้ว่าโดนหมาป่าเจ้าเล่ห์หลอก...
“แจ็คสันเป็นเด็กดีใช่ไหม?”เอ่ยถามหลังคุณอาให้รางวัล
(?) จนพอใจแล้ว
“ครับ
แจ็คสันเป็นเด็กดี เป็นคนเก่งที่สุดของมาร์คเลย”
“เย้! ม๊ากลับมาจะอวดม๊า”
“อย่าบอกเรื่องรางวัลกับม๊าล่ะ
ไม่งั้นเดี๋ยวม๊าอยากได้รางวัลขึ้นมา แจ็คสันจะไม่ได้รางวัลจากมาร์คอีกเลยนะ”แกล้งขู่
ซึ่งเอาจริงๆมาร์คก็แค่กลัวว่าพี่มาเรียจะเอามีดมาเฉาะหัวข้อหาทำให้ลูกชายสุดรักสุดหวงของเจ้าตัวใจแตก
“ง่ะ
งั้นแจ็คสันจะปิดปากไว้”มือป้อมปิดปากตัวเอง ตากลมเหลือบซ้ายขวาระแวดระวัง
น่ารักจนโดนมาร์คหอมแก้มซ้ำ แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะมีความสุขกันตลอดทั้งมือค่ำ
มาร์ควางแผนไว้ในใจว่าซัมเมอร์นี้เขาต้องแย่งชิงตัวแจ็คสันจากมาเรียให้ได้...
เอาชื่อมาร์คต้วนคนหลงหลานเป็นประกัน!!!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น