[EREBUS] 02
~
2 ~
ฉับพลันนั้นความปวดร้าวก็แล่นไปทั่วร่าง
ความรู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตลามไปตามแขนขา
ร่างกายสั่นระริกแต่กลับไม่สามารถจะขยับกายได้ราวกับกำลังโดนเชือกล่องหนรัดร่าง
กล้ามเนื้อทุกส่วนถูกบีบคั้นแน่น อยากกรีดร้องแต่ปากกลับแข็งนิ่ง ทุกอย่างแข็งตึงราวกับร่างกายของเขากำลังกลายเป็นหิน! ทรมานจนร่างกายรับไม่ไหว
แล้วในที่สุดสติก็ดับวูบไปอีกรอบ...
“……”
หืม?
เสียงใครน่ะ
“...”
กำลังเรียกใครกัน?
ผมเหรอ?
“...”
เฮือก!!! สะดุ้งตื่นขึ้น ดวงตาเบิกกว้าง ร่างกายสั่นระริก หอบหายใจรัว
สูดลมหายใจลึกเพื่อปรับลมหายใจ ยังจำภาพในฝันนั้นได้ดี
ภาพมือสีดำพุ่งออกมาจากความเงามืดกำลังพุ่งมาทางเขานั้นช่างน่าหวาดหวั่น
กลิ่นอายความชั่วร้ายแผ่ซ่านจนแทบไม่นึกว่ามันจะเป็นเพียงความฝัน
“อ้า! พี่แจ็คสันตื่นแล้ว”เสียงร้องตื่นเต้นดีใจของแบมแบมดังขึ้นข้างตัว
เขาหันไปมองก็ต้องตกใจสะดุ้งอีกรอบกับไอ้ตัวจิ้กจกบินได้ที่เขาเห็นตอนครั้งแรก
พอเพ่งมองดูดีๆถึงได้รู้ว่าไม่ใช่จิ้งจก
แต่เป็นนกสีดำเหลือบเขียวผอมกระร่องต่างหาก
“แบมแบม?”
“ใช่แล้วฮะ!”เสียงคุ้นเคยตอบรับก่อนจะแปลงกายกลับมาเป็นสภาพมนุษย์ดังเดิม ดวงตากลมใสแจ๋วสีฟ้าอมเทามองมาที่เขานิ่ง
“จะว่าไปพี่ในร่างนี้ก็เหมาะดีเหมือนกันเนอะ...”
“ร่าง?
นายพูดอะไรน่ะ”
“พี่จะความรู้สึกช้าไปไหนครับเนี่ย”แบมแบมบ่น
ทำหน้ายุ่งปากยู่ห้อย “พี่มีอะไรเปลี่ยนไปไหมล่ะ?”
พอคนตรงหน้าพูดอย่างนั้นเลยได้ก้มมองดูตัวเอง
ยกมือยกแขนดูก็เห็นว่าปกติดี ก็ไม่เห็นว่าตรงไหนที่มันจะแปลกไปเลยสักนิด
จะแปลกก็ตรงที่อยู่ที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นฟูกนอนในกระท่อมเล็กๆแล้วก็แค่นั้นเอง
แจ็คสันหันไปส่ายศีรษะกับแบมแบมที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ลุกไปลากกระจกบานเต็มตัวที่อิงอยู่เดินมาให้ดูสภาพชัดๆ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง
ตกตะลึงพรึงเพริดเมื่อเห็นตนเองในกระจกบานใหญ่ นิ่งค้างจนพูดไม่ออก...
...หูกับหางนี่มาจากไหน!...
ร่างกายเขาปกติดี
ไม่มีอะไรหายไป ยกเว้นแต่...
ใบหูเรียวขนปุกปุยสีดำตรงเด่ตั้งอยู่บนศีรษะของเขาและหางสุนัขสีดำยาวที่โผล่ออกมาจากสะโพกมนที่เสริมเติมเข้ามา
แถมทั้งหูทั้งหางยังขยับได้ตามความต้องการของเขาไม่ต่างจากอวัยวะร่างกายส่วนอื่นอีก
“ตอนนี้พี่อยู่ในร่างคูสิท
(Cu
sith) ที่ผมร่ายเวทย์แปลงกายให้
เพื่อกลบกลิ่นมนุษย์น่ะ”แบมแบมอธิบายเมื่อเห็นว่าคนที่ตนเรียกว่าพี่นิ่งอึ้งไปเหมือนยังดึงสติกลับมาไม่ได้
“แต่มันก็แค่ช่วยให้กลิ่นพี่มันไม่ฟุ้งเกินไป
แล้วก็ถ้าเป็นคูสิทก็กลมกลืนไปกับที่นี่ได้ดีกว่าร่างมนุษย์...
พี่ไม่โกรธผมใช่ไหมอ่ะ”ถามเสียงหงอยท้ายประโยค
แจ็คสันรีบเรียกสติคืนโบกมือส่ายหน้า
“ไม่ๆ
ฉันไม่โกรธนาย ฉันรู้ว่านายทำเพื่อช่วยฉัน ฉันแค่...ตกใจ”
...อันที่จริงก็ไม่ใช่แค่ตกใจหรอก
เกินกว่าคำนั้นไปมากโขเลยล่ะ...
“ดีจังฮะ!
ผมน่ะกลัวว่าพี่จะโกรธมากเลย อ้อ ยูกำลังไปเก็บผลไม้ให้พี่น่ะ
เดี๋ยวก็กลับมาแล้วล่ะ”ยิ้มกว้างบอก ลุกขึ้นฉุดแจ็คสันขึ้นจากฟูกนอน
ชี้ชวนดูโน่นนี่ตื่นเต้นดีใจเหมือนเด็กกำลังอวดของเล่น
“ที่นี่คือที่พักชั่วคราวของผมล่ะ
ส่วนข้างล่างเป็นถ้ำของยู ถ้ำของยูใหญ่มากกกกกกกกกกกกเลยล่ะ ตอนที่พี่สลบไปน่ะ
ยูจะอุ้มพี่ไปให้ในถ้ำอ่ะ แต่ผมเถียงใหญ่ไม่ยอม
ผมกลัวว่าพี่จะโดนความชื้นของถ้ำแล้วจะเป็นหวัดอ่ะ ก็เลยตกลงให้พี่มาพักที่นี่แทน
บลา บลา บลา”ซิซในร่างคนพูดเล่าเรื่องเป็นต่อยหอย ฟังแล้วก็ตลกดี
เหมือนเด็กจริงๆนั่นแหละ ถึงอายุจริงจะตั้งพันหกร้อยปีก็เถอะ หึหึ
“กลับมาแล้ววว”ยูคยอมร้องมาแต่ไกล
เปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมผลไม้รูปร่างแปลกประหลาดเต็มล้นอ้อมแขน
รอยยิ้มกว้างไร้เดียงสายังปรากฏบนใบหน้าไม่คลาย “นี่ๆ ผมเก็บมาได้เยอะเลยล่ะ
มากินกันเถอะ!”
แจ็คสันยกสิ่งที่ยูคยอมบอกว่าเป็นสิ่งที่เขากินได้ขึ้นมามอง
ผลไม้รูปร่างแปลกเหมือนผลน้ำเต้าสีม่วงแต่เปลือกตะปุ่มตะป่ำกว่าแบบนี้มันกินเปล่าๆได้จริงเหรอ
เหลือบมองสองหน่อเขมือบกำลังไอ้ผลที่ว่านั่นหน้าตามีความสุข บวกกับเสียงท้องร้องที่ประท้วงตั้งแต่ตอนฟื้นขึ้นมาเร่งให้เขากัดผลที่ว่านั่นไปหนึ่งคำกล้าๆกลัวๆ...
“อร่อยอ่ะ!!”ร้องขึ้นเมื่อได้ลิ้มรสผลไม้ของนรกเอริบัส รสหวานละมุนลิ้นกลมกล่อมพอดี
กลิ่นหอมหวานอย่างที่ชอบ เขาไม่เคยทานผลไม้อะไรที่อร่อยอย่างนี้มาก่อนเลย! กัดจนหมดลูก อีกลูกและอีกลูก จนเต็มกระเพาะ
นอนคว่ำหน้าท้าวคางนอนอืดอยู่บนพื้นมองสองหน่อที่ยังยัดเข้าไปไม่หยุดตั้งแต่เริ่ม
กินเยอะจนกลัวเชียวแหละ โดยเฉพาะยูคยอมที่จะกินจนหมดป่าเลยรึไง?
“พวกนายกินเยอะจัง”
“หืม?
พี่แจ็คสันกินน้อยต่างหาก ไม่สิ!
พวกผมตัวใหญ่ก็ต้องกินเยอะ ปกติแล้วล่ะครับ”
...อืม
ก็ใหญ่จริงๆนั่นแหละ...นึกถึงภาพร่างจริงของสองหน่อนี่
ถ้ากินให้อิ่มจริงๆทั้งภูเขาก็คงไม่พอ
นั่งว่างไม่มีอะไรทำ
ลุกขึ้นมองดูด้านนอกหน้าต่าง อึ้งค้างเมื่อเห็นความสูงของบ้านกระท่อมหลังนี้
นี่มันสร้างเหนือยอดไม้ทั้งป่าเลยนี่หว่า!!!!
เขารู้ว่าแบมแบมเป็นเจ้าแห่งนกนะ แต่ไม่นึกว่าจะมีนิสัยทำรังบนที่สูง (มากๆ)
แบบนี้ด้วย ทำใจกล้าชะเง้อมองด้านล่างก็เห็นแต่เงาพุ่มสุมไม้ต้นอื่น
แทบมองไม่เห็นแผ่นดินด้านล่าง ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงกลางคืนของที่นี่ยิ่งแล้วใหญ่
แต่ข้อดีของการอยู่สูงๆคือมองเห็นภาพของโลกนี้มุมกว้างนี่แหละ
มองจากตรงนี้แจ็คสันสามารถเห็นกำแพงสูงไกลลิบๆ หลังกำแพงนั่นคงเป็นนรกทาทารอส
นรกที่ไว้สำหรับพิพากษาและลงโทษคนชั่วร้ายสินะ
เขาเห็นแม่น้ำสายยาวไหลเข้าไปสิ้นสุดที่หน้าประตูทางเข้าทาทารัส
ตรงนั้นคงเป็นแม่น้ำแห่งความตาย นอกจากนั้นพื้นที่ทั้งหมดเป็นป่าและปราสาท...ปราสาทงั้นเหรอ?
“นี่...ปราสาทพวกนั้นมันของใครเหรอ?”
ทั้งสองคนไอโขลกๆเหมือนคนตกใจ
มองหน้าผมแบบตะลึกพรึงเพริด ยูคยอมก็เหมือนกัน
“พี่เห็นปราสาทของพวกนั้นหรอ?”
“เห?
พวกนั้นคือพวกไหน? แล้วปกติไม่เห็นรีไง?”เขาถามอย่างไม่เข้าใจ หันกลับไปมองดูปราสาทที่เขาเห็นมันอยู่ไกลลิบๆ
มองไม่ชัดนักแต่เห็นเป็นตึกยอดสูง ก็น่าจะเป็นปราสาทไม่ใช่หรือ?
“ปราสาทของพวกมหาเทพที่ถูกขับลงมาจากสวรรค์ครั้งตอนทำการกบฏครับ
เพราะยังไงก็เป็นเทพมาก่อน พลังก็เลยมาก
แม้จะตกนรกก็ยังมีอิทธิฤทธิ์สร้างปราสาทของตนเองขึ้น
แต่เทพพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมาสุงสิงกับใครเท่าไหร่หรอก
ปราสาทก็ไม่ค่อยปรากฏให้เห็น ผมเลยแปลกใจพี่เห็นได้ยังไงน่ะ”
“ปราสาทมันไม่อยู่กับที่รึไง
ทำไมไม่ค่อยเห็นกัน”
“ครับ
ปราสาทของพวกเทพตกสวรรค์เคลื่อนย้ายได้ตลอดตามแต่ใจเจ้านายต้องการน่ะ
ที่พี่เห็นอาจจะเป็นเทพชั้นสูงอย่างเบลเซบับหรือลูซิเฟอร์ก็ได้นา
คิคิคิ”เบเฮมอธยูคยอมหัวเราะแบบไม่คิดอะไร แจ็คสันเลยปล่อยเลยตามเลย
สองแสบนี่พูดอะไรมาเขาก็เชื่อหมดแหละ ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนรกเอรีบัสนี่จริงๆ
คืนนั้นแจ็คสันนอนบนกระท่อมกลางฟ้าด้วยความรู้สึกแปลกๆ
ภาพปราสาทมืดนั้นยังเด่นชัดในความคิดเขาแม้ยามหลับตา
กระสับกระส่ายไปมาไม่ชินกับการที่ต้องมีหางปุกปุยติดอยู่สะโพก นอนทีก็ทับหากที
แม้แต่ใบหูยักษ์ที่อยู่บนหัวยังทำให้เขารำคาญใจได้ แบมแบมหลับไปนานมากแล้ว
กรนคร่อกๆอยู่บนฟูกอีกด้าน ในขณะที่ยูคยอมปีนลงไปนอนที่ถ้ำของตนเอง
เมื่อนอนไม่หลับเลยลุกขึ้นนั่งมองบรรยากาศข้างนอก
ปราสาทดำทมิฬนั้นหายไปแล้วเหลือเพียงภาพผืนป่าสีแปลกไกลสุดลูกหูลูกตา
ได้บินเสียงบรรดาเสียงสัตว์วิเศษและสัตว์นรกร้องอยู่ไกลๆ
แม้รู้สึกกลัวแต่ก็อุ่นใจที่อย่างน้อยก็มีแบมแบมและยูคยอมอยู่ข้างๆ
ถ้าเขาตื่นมาไม่เจอสองคนนี้ไม่รู้ว่าป่านนี้จะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนส่วนไหนของเอรีบัสก็ไม่รู้
นั่งอยู่อย่างนั้นจนความมืดหายไป
แสงส่องลงมาจากฟ้าครึ้มทึม ที่นี่ไม่มีพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ เพราะอพอลโล่และอาเทมิสอาศัยอยู่บนสวรรค์
สองเทพนั้นคงไม่มาเหยียบกล้ำกรายนรกนี้แน่ๆ นอกจากแสงแล้วเลยไม่มีสิ่งใดบอกได้ว่านี่กลางวันหรือกลางคืน...
“ฮ้าวววว~~~ อ้าวพี่แจ๊คสัน ตื่นเร็วจางงง”ซิซในร่างมนุษย์งัวเงียคลานมากอดคอเขา
แก้มนิ้มซบลงบนไหล่ขณะหาวปากกว้าง
“พี่ยังไม่ได้นอนต่างหาก
แล้วมากอดพี่ทำไม ถ้าง่วงก็ไปนอนสิ”
“ก็ง่วงอยู่แต่ต้องตื่นมาทำงาน”แบมแบมหาวอีกรอบ
ลุกขึ้นแบกร่างงัวเงียของตัวเองปีนออกไปนอกหน้าต่าง
แจ็คสันตกใจจะลุกไปห้ามแต่ก็ชะงักเมื่อระลึกได้ว่าแบมแบมไม่ใช่มนุษย์
ร่างผอมบางเดินไปบนกิ่งไม้เปราะบางน่าหวาดเสียวว่าจะหักตกลงไปข้างล่าง
พลันก็กลายร่างเป็นจ้าวแห่งนภาและเจ้าแห่งปักษาตัวใหญ่ยักษ์
ปีกสีดำเมื่อมกระพือปีกกว้างบดบังแสงที่ทอลงผืนป่าด้านล่างบางส่วน
สะบัดปีกสร้างลมแรงราวพายุยักษ์ครึ่งหนึ่ง
พร้อมกับเสียงกรีดแหลมของนกยักษ์ดังไปทั่วก้องผืนป่าแห่งนรก
พลันบรรดานกหลากชาติพันธุ์ก็ส่งเสียงตอบรับกระพือปีกพุ่งขึ้นไปบนฟ้า
เสียงปีกตีกันพรึบพรับ
สีสันเล็กบ้างใหญ่บ้างพุ่งทะยานขึ้นไปโผล่องบนฟ้ากว้างอย่างตื่นตาตื่นใจ
แจ๊คสันสะดุ้งเฮือกอีกรอบเมื่อคราวนี้แผ่นดินกำลังสะเทือนเลื่อนลั่นเหมือนแผ่นดินไหวจากใต้กระท่อมแห่งนี้
เสียงคำรามก้องป่าดังกังวานไปทั้งป่า ฟังแล้วทั้งน่าเกรงขาดและเต็มไปด้วยพลัง
คราวนี้เสียงสัตว์น้อยใหญ่ในป่าเริ่มดังสลับกันก้องทั่วทั้งป่า
สีสันแห่งชีวิตเล็กใหญ่บนผืนนรกเอรีบัสได้เริ่มขึ้นแล้ว
“นั่นยูคยอมเหรอ?”ถามแบมแบมที่ปีนกลับคืนมาแล้วด้วยความตื่นเต้น
ซิซที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่พยักหน้าตอบรับ แล้วกลับไปหลับบนฟูกอีกรอบ
ปล่อยให้แจ็คสันนั่งเคว้งคว้างไม่รู้จะทำอะไรอยู่กลางกระท่อม
“อ้าว
แบมหลับไปอีกแล้วเหรอครับ?”ยูคยอมที่ปีนขึ้นมาเอ่ยทักเมื่อเห็นเพื่อนหลับปุ๋ยอยู่แบบนั้น
เขาพยักหน้าให้ นั่งกระดิกหูหากดุ๊กดิ๊กแบบคนไม่รู้จะทำอะไรดี ยูคยอมเห็นท่าทางหงอยๆแบบนั้นเลยชวนเขาออกไป
‘ปลุกเพื่อน’ ที่ปลายป่า
ยูคยอมอุ้มเขาขึ้นหลังขณะปีนลงไปด้านล่าง
แจ็คสันเกาะหลังคนเบเฮมอธไว้แน่นอย่างคนกลัวตก
แม้ไม่กลัวความสูงแต่กับการที่อยู่เหลือพื้นดินราวๆ 3,000
ฟุตแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เมื่อถึงพื้นยูคยอมก็กลายร่างเป็นเบเฮมอธตัวยักษ์
ก้มหัวให้แจ๊คสันได้ปีนขึ้นไปเกาะหลังจ้าวแห่งแผ่นดินเอาไว้แน่น
เหตุผลคือที่อยู่ของ ‘เพื่อน’ ที่ว่าอยู่ไกล
ถ้าเดินไปแบบร่างมนุษย์สามวันคงจะถึงแน่ๆ
เกาะเจ้าตัวยักษ์ผ่านป่ากว้าง
มองเห็นสัตว์ประหลาดมากมาย ทั้งที่เขารู้จักและไม่รู้จัก บางตัวยูคยอมก็อธิบายให้เขาฟังว่ามันคืออะไร
ส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกตัวอันตราย ให้รู้ไว้ไม่ให้เดินไปให้พวกมันกินสุ่มสี่สุ่มห้า
กว่าจะพ้นเขตป่าก็ไกลพอสมควร แจ็คสันมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง
มหาสมุทรสุดลูกหูลูกตสีดำมืดแบบนี้เขาไม่เคยเห็น กว้างยิ่งกว่าทะเลที่ไหนๆบนโลกเสียอีก
กว้างจนน่ากลัว...
ยูคยอมคำรามลงไปในท้องน้ำ
รออยู่ไม่นาน ‘เพื่อน’ ของยูคยอมก็ค่อยๆเลื้อยขึ้นมาบนผืนน้ำปรากฏตัวให้พวกเขาได้เห็น
...งูยักษ์!!!...
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงร้องกรี๊ดตุ๊ดแตกแน่ๆ
ก็งูยักษ์ที่ว่ามันใหญ่กว่าอคอนด้ายักษ์ตามหนังโรงเกือบสามเท่า
เกล็ดแต่ละเกล็ดบนร่างกายมันพอๆกับหัวเขาหนึ่งหัวเลย หัวงูใหญ่ยักษ์แนบพื้นทราย
ดวงตาใหญ่โตมองมาทางเบเฮมอธเขม็ง
เขาไม่มั่นใจแต่เขารู้สึกว่าตอนนี้มันกำลังซึมง่วง
อาการเหมือนซิซที่กระท่อมไม่มีผิด...
“ยองแจ
ตื่นได้แล้ว นายปลุกสัตว์ทะเลรึยังทำไมมันเงียบสงบจัง”เบเฮมอธหนุ่มถามเจ้างูยักษ์ที่ยังนอนเกยหัวพับพาบอยู่บนพื้นทราย
“...ลืม...”เสียงแหลมเล็กตอบกลับมา
ก่อนที่เจ้างูยักษ์จะเลื้อยลงทะเลกลับไปอีกครั้ง
ยูคยอมคืนร่างเป็นมนุษย์ในขณะที่ยังแบกแจ็คสันอยู่บนหลังไม่ยอมปล่อยมนุษย์ในร่างคูสิทลงสักที
“ยูค
ปล่อยฉันลงได้แล้ว ไม่หนักรึไง”
“พี่ไม่เห็นหนักเลย
อยู่บนนี้แหละ ผมไม่วางใจทะเลตอนโดนลิเวียธานปลุกใหม่ๆ”
“ลิเวียธาน?
ยองแจคือลิเวียธาน ลิเวียธานคือไอ้งูยักษ์ตะเกี๊ยะ?”
“ใช่ครับ
พี่เก่งจัง”หันมายิ้มกว้างใส่เขา ดวงตาพราวระยับ แจ็คสันขยี้เส้นผมนุ่มสีดำนั้นด้วยความรู้สึกนึกเอ็นดู
หันกลับมาสนใจทะเลกว้างที่บัดนี้กระเทือนเลื่อนลั่นด้วยคลื่นเสียงแหลมสูง
ทันทีที่คลื่นสงบ
ทะเลที่เงียบสงัดเมื่อครู่ก็วุ่นวายด้วยสัตว์ยักษ์ที่ค่อยๆปรากฏตัวขึ้นมาบนผืนน้ำ
มองจากตรงนี้เหมือนสมุดภาพนิทานที่มีภาพลอยออกมาไม่มีผิด
ผิดที่ว่าตรงหน้านี่คือของจริง ฆ่าจริง โหดจริง
งูยักษ์ลิเวียธานเลื้อยคลานขึ้นมาอีกรอบ
มองยูคยอมและแจ็คสันด้วยความสงสัย
ร่างยักษ์ค่อยๆย่อกายลงจนเหลือเด็กหนุ่มรูปร่างผอมบางอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ดวงหน้าเรียวมีแก้มนิดๆแต่ไม่อูมเท่าแบมแบม ริมฝีปากบางเล็กยิ้มเห็นเงี้ยวภายใน
ดวงตาสีฟ้าอควา
เส้นผมสีน้ำทะเลมืดหม่นที่ๆควรเป็นหูก็กลายเป็นครีบบางใสคล้ายครีบปลาสีสวย
ผิวบางส่วนของเขายังมีเกล็ดงูเหลืออยู่บ้าง
“แนะนำตัวอีกครั้งนะ
นี่ลิเวียธานยองแจครับ ยองแจ นี่พี่แจ็คสัน เขาเป็น...”
“ทำไมมนุษย์ที่ยังไม่ตายมาอยู่ในนรกได้?”ยองแจยิงคำถามมาก่อนที่ยูคยอมจะอธิบายเสร็จเสียอีก
ดวงตางูเรียวนั้นมองมาทางเขาอย่างจับผิด
“นายเป็นใครน่ะ?”
“ฉันชื่อแจ็คสัน
หวัง แจ็คสัน ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่เหมือนกัน
คงบอกอะไรนายไม่ได้หรอก”
“มนุษย์ท่าทางอ่อนแอชะมัด”
“ยองแจ! นิสัยเสียนายกำเริบอีกแล้วนะ”
“ช่วยไม่ได้อ่ะ
ทีนายไม่ยอมให้ฉันขี่หลังเลย ทำไมหมอนี่ขี่ได้อ่า!”โวยวายเหมือนเด็กๆจนยูคยอมต้องส่ายหน้าเพลีย
“ก็นายชอบตัวเปียกตลอดเวลา
นายขี่ฉันก็เปียกดิ ไม่เอา”เบเฮมอธคนเก่งก็เด็กไม่แพ้กัน
“ไม่เกี่ยวอ่า
ทำไมล่ะๆๆๆ”
“ไม่ให้ขี่ๆๆๆ”
แจ็คสันมองราชาแห่งแผ่นดินและราชาแห่งท้องสมุทรเถียงกันอย่างกับเด็กประถมแล้วละเหี่ยใจ
เดินเข้ามาใกล่เกลี่ยให้ในฐานะที่ตัวเองก็ไปกระตุ้นต่อมขี้อิจฉาของลิเวียธานเข้า
“ยูคยอม
นายก็ให้ยองแจเขาขี่หลังหน่อยเถอะ แป๊ปเดียวคงเปียกทั้งตัวขนาดนั้นหรอกน่า
ถ้ามันเปียกมากนักเดี๋ยวพี่จะช่วยเช็ดให้”
“พี่แจ็คสันอ่า! / เย้!!”ยูคยอมค้อนหน้าหงิก
ในขณะที่ยองแจกระโดดดีใจเป็นเด็กๆ กระโดดขี่หลังยูคยอมแน่นไม่ยอมลง
เบฮามอธตัวสูงเลยต้องเดินย่ำต๊อกๆพาลิเวียธานบนหลังเดินเล่นให้สมใจอยากตามคำสั่งมนุษย์ในร่างคูสิท
กว่ายองแจจะยอมลงจากหลังยูคยอมก็กว่าหลังกว้างของเบฮามอธหนุ่มเปียกปอนไปหมด
ร้อนให้แจ็คสันต้องทำตามสัญญาโดยการถอดเสื้อยูคยอมออกมาซับน้ำบนหลังออกให้จนกว่ามันจะแห้ง
ยิ่งซับก็ยิ่งอิจฉาในรูปร่าง
ทั้งที่ร่างมนุษย์ของยูคยอมน้อยกว่าเขาตั้งสามปีแต่แผ่นหลังกว้างกลับเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแบบที่เขาไม่มี
เช็ดไปก็อิจฉาไปไม่ได้สนใจสายตายองแจที่มองมาตั้งแต่เมื่อครู่
“พี่แจ็คสันนี่ตัวเล็กน่ารักดีเนอะ”จู่ๆงูยักษ์ลิเวียธานในร่างมนุษย์ก็โผล่งขึ้น
แจ็คสันสะบัดหน้าขวับไม่ชอบใจกับคำว่าน่ารักที่อยู่ในประโยคเมื่อครู่
ทำหน้ามุ่ยใส่จนยองแจหัวเราะลั่นหาด
...เขาชักหมั่นไส้งูยักษ์นี่จริงๆซะแล้วล่ะ
ชิ!...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น