[SF] Cold [MarkSon]
TITLE:
Cold
COUPLE:
MARK x JACKSON [MarkSon]
RATE:
PG-13
WORD:
2,169
BY:
Silverfeather29 /@silverfeather29/
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Cold
“ก็เท่านี้แหละ
ไปเตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน...”ผู้จัดการวงเอ่ยกับสมาชิกคนตัวสั้นแต่งานแน่นที่สุดอย่างแจ็คสัน
หวังที่พยักหน้าหงึกหงักเข้าใจ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะออกมาจากห้องเพื่อกลับหอเพียงลำพัง
วันนี้เขาโดนเรียกมาคุยเรื่องได้เข้าร่วมรายการรูมเมท
ซีซั่น 2 หลังจากซีซันแรกฮิตติดกระแสเป็นข่าวคราวช่วงใหญ่ๆ
แจ็คสันมีทัษะทางวาไรตี้สูง จึงได้รับเชิญไปออกรายการนั่นนี่มากมาย
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเขาทำงานเป็นเกลียว เวลานอนก็แทบจะไม่มี
ซูบลงจนเมมเบอร์คนอื่นบอกให้เพลาเรื่องงานซะบ้าง แต่เขาก็อยากจะทำต่อไป
เพื่อวง เหนื่อยขนาดไหนเขาก็ต้องสู้
แจ๊คสันเดินผ่านห้องซ้อมของพี่ๆ
2PM
เสียงดนตรีตี๊ดๆแนวผับนั่นทำเอาอดโยกหัวตามไม่ได้
ถ้าจำไม่ผิดพี่ๆเขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อคืนเอง
แถมเห็นว่าหลังคัมแบครอบนี้ยังต้องกลับไปถ่ายหนัง ถ่ายละคร ทำอัลบั้มที่ต่างประเทศ
บลาๆๆๆ ขึ้นเครื่องบินบินกันเป็นนกเลยทีเดียว พอเห็นอย่างนี้ก็เลยรู้สึกว่าตัวเองยังทำงานน้อยอยู่
พี่ๆยังทำได้
แล้วทำไมเขาจะทำไม่ได้ล่ะ?
“อ้าว แจ็คสัน
มาซ้อมเหรอ?”เสียงทุ้มหวานพร้อมใบหน้าเล็กขาวของพี่คุณโผล่ออกมาจากประตูห้องซ้อม
ทักทายแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจนคนตัวเล็กสะดุ้งโค้งทักทายพร้อมรอยยิ้มเก้อ
ส่ายศีรษะจนผมปลิว
“ไม่ครับ
ผมมาคุยเรื่องรายการใหม่น่ะ แต่กำลังจะกลับแล้วล่ะครับ”
“อ้อ...งั้น
สู้ๆนะ”พี่คุณยิ้มกว้างให้เป็นกำลังใจ โบกมือแล้วกลับเข้าไปในห้องซ้อมต่อ
สงสัยพี่แกเห็นคนมายืนด้อมๆมองๆตรงหน้าห้องเลยออกมาดูมั้ง
รีบก้าวเท้าต่อไปเร็วๆเมื่อนึกได้ว่านัดคนขับรถเอาไว้
เผลอใจลอยไปซะได้ แย่จริงๆ...
ทันทีที่เปิดประตูออกไปสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือไอเย็นระดับมหากาฬ
เพียงลมสะกิดแผ่วเบาก็ทำให้ขนทั้งร่างลุกชูชัน
แขนขาวภายใต้สเวตเตอร์ตัวบางห่อเข้ากับลำตัวโดยอัตโนมัติ ปากแดงร้องซีดเพราะความหนาวเย็น
นี่ขนาดเพิ่งจะเข้าหน้าหนาวแท้ๆอากาศยังโหดร้ายขนาดนี้เลย
แจ็คสันเป็นคนขี้หนาวแต่เพราะตอนเช้าอากาศยังอุ่นๆอยู่เลยไม่ได้ใส่เสื้อมาหนามากนัก
ไม่นึกว่ากว่าจะคุยเสร็จก็ยาวจนถึงตอนเย็น อากาศหนาวเริ่มคลอบคลุมทั้งเมือง
ตากลมรีบสอดส่ายสายตาหารถที่นัดเอาไว้
ก้าวเร็วไปหาเป้าหมายแต่ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติ
คุณลุงคนขับรถก้มๆเงยๆตรงส่วนกระโปรงหน้ารถ
ส่ายหน้าเป็นเชิงหมดหนทาง พอเหลือบมาเห็นเขาก็รีบทักทายเป็นเชิงสำนึกผิด
“ขอโทษนะแจ็คสัน
คงไปส่งไม่ได้แล้ว เครื่องมันเย็นจนสตาร์ทไม่ติดน่ะ”
“ห่ะ!”ร้องตะโกนเสียงดังจนตัวเองยังตกใจ
ก่อนจะรีบก้มหัวขอโทษปลกๆเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเพิ่งทำตัวเสียมรรยาทไป
“สตาร์ทไม่ติดเลยเหรอครับ?”
“ไม่เลย
ทำยังไงก็ไม่ได้ สงสัยต้องเรียกช่างมาดู รถคันอื่นก็ติดงานกันหมด
ต้องขอโทษจริงๆนะ”
“อ่า...ไม่เป็นไรครับ”ถึงปากจะพูดอย่างนั้นด้วยความเกรงใจ
แต่เอาจริงๆแล้วแจ็คสันกำลังหงุดหงิดเพราะอากาศหนาว
จะให้ขึ้นรถแท็กซี่ก็ดันไม่ได้เอาเงินติดตัวมาด้วย
แค่คิดว่าจะต้องเดินกลับเองก็ขยาดจนอยากเดินกลับไปนอนในบริษัทแล้ว -*-
“อ่ะ!”ตบมือดังแป๊ะเมื่อนึกขึ้นได้ว่าโทรให้พวกที่หอมารับก็ได้นี่หว่า
ดีนะที่อย่างน้อยก็พกมือถือมาเล่นฆ่าเวลาเผื่อง่วง
นิ้วเล็กจิ้มกดเบอร์ที่โทรออกบ่อยที่สุดเอามือถือแนบหูยิ้มอารมณ์ดี แต่พอฟังเสียง
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ติดต่อกันมากกว่าครั้งที่ร้อยก็เริ่มจะหงุดหงิด
กดโทรออกเป็นครั้งที่หก เจ็ดหรือแปดก็ยังไม่ได้รับการตอบรับอย่างที่ควรจะเป็น
“ทำไมไม่รับวะ!!!”โวยวายคิ้มขมวดมุ่งอยู่คนเดียว
เงยหน้ามองฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินแล้วถอนหายใจเฮือก
...สงสัยต้องเดินกลับเองจริงๆซะล่ะมั้ง...
ขาภายใต้กางเกงยีนสีดำเนื้อบางก้าวย่ำเร็วๆไปบนทางเท้าที่เรียงรายไปด้วยตึกสูงและร้านรวงมากมาย
ถ้าเป็นปกติเขาจะชอบเดินช้าๆดูนั่นดูนี่ถ่วงเวลาเดินกลับหอ
แต่เพราะอากาศหนาวเย็นและละอองหิมะเบาบางที่เริ่มจะโปรยลงมาช้าๆนั่นทำเอาแจ๊คสันสบถลั่นแล้วเริ่มออกวิ่งแบบไม่กลัวลื่น
มือขาวที่เริ่มซีดจากความเย็นกระชับหมวกดึงลงมา
ก้มหน้าลงเล็กน้อยบังลมที่ปะทะใบหน้า
มือทั้งสองข้างยัดลงไปในถุงเสื้อสเวตเตอร์ตัวไม่หนามากนักพยายามถูมือกับเนื้อผ้าไปมาเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
เขาเกลียดอากาศหนาว!!!
สองขาวิ่งไปตามทางที่ผู้คนเริ่มเบาบางเพราะผ่านช่วงร้านอาหารมาแล้ว
ยิ่งทำให้ลมหนาวโกรกมาโดนตัวเขามากยิ่งขึ้น
ก้าวเท้าแต่ละทีเหมือนตัวเองเป็นหมีขาวเดินอยู่ขั้วโลกเหนือ
สั่นหงึกๆเหมือนลูกเจี๊ยบโดนแช่แข็ง ฟันขาวกระทบกันสั่นกึกๆจนเจ็บร้าวไปทั้งปาก ทั้งจมูกทั้งปากชาจนเริ่มไม่รู้สึกอะไร
ไม่ต้องพูดถึงใบหูที่แทบไม่รู้สึกถึงตัวตน ถ้าหูหลุดไปเขาก็คงไม่รู้สึกตัว -*-
หิมะเริ่มตกลงมาหนัก
วิสัยทัศน์ข้างหน้าก็เริ่มมัวเพราะหมอกจากไอเย็น
แจ๊คสันเริ่มเดินอย่างระมัดระวังขึ้นเพราะพื้นเริ่มลื่นเพราะหิมะที่เคลือบบนผิวถนนบางๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่พ้น…
หวืด~
ผลัก!
เท้าซ้ายที่กำลังก้าวออกไปลื่นพื้นหิมะพอๆกับเท้าขวาที่ลื่นจนยั้งเอาไว้ไม่อยู่
ร่างทั้งร่างเสียการทรงตัวล้มลงไปโครมใหญ่
แต่ดีที่แจ๊คสันมีวิชามาร์ตทริคอาร์ตและพื้นฐานเก่าของความเป็นนักกีฬาเลยพลิกตัวเอาก้นลง
แทนที่จะเป็นศีรษะหรืออะไรที่อันตรายกว่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็เจ็บจี๊ด
“ซี๊ดดดดด~~~~”
ทั้งเจ็บทั้งหนาว
ฝืนพยุงตัวเองขึ้นเดินกะเพลกๆไปอีกไม่ถึงสามเมตรก็ถึงหอพักของพวกเขา ร้องเรียกเมมเบอร์คนอื่นให้ออกมารับแต่ก็เงียบ
ตอนนั้นแหละถึงนึกขึ้นได้ว่าพวกนั้นบอกว่าจะออกไปหาอะไรกินกันตอนเย็น
ซวยซับซวยซ้อนซวยซ่อนเงื่อน
ได้แต่สบถด่าในใจ
เดินกะเพลกๆช้าๆขึ้นบันได
ดีที่พออยู่ในตัวอาคารลมก็เลยไม่โกรกมากนักแต่ก็ยังหนาวอยู่ดี
เห็นประตูห้องก็แทบจะร้องกรี๊ดดีใจ
ไขประตูเข้าไปเจอกับห้องนั่งเล่นที่ไร้คนแต่กลับเปิดไฟสว่างโร่เอาไว้
ก่อนออกไปไม่ปิดไฟหรือไร????
แต่คิดดูอีกที
อย่างออมม่าเนียร์น่ะนะจะลืมเรื่องแบบนี้
ยกเว้นแต่ว่าจะมีใครอยู่ห้อง
ไม่ออกไปด้วย
.
.
.
.
.
.
มือขาวเปิดประตูห้องตัวเองออก
เพื่อพบกับภาพที่ทำสติเกือบขาดผึ่ง
.
.
.
.
.
.
มาร์คต้วนกำลังนอนฟังเพลงเล่นเกมออนไลน์ห่มผ้าสบายอารมณ์อยู่บนฟูกตัวเอง
ข้างๆนั้นคือมือถือเครื่องสวยกำลังนอนแน่นิ่งหน้าจอสว่างโชว์เตือนว่ามีสายไม่ได้รับหราแต่เจ้าของกลับไม่รับรู้เพราะดันเปิดเพลงเต็มสตรีมเอาหูฟังอุดหูอยู่!!!
เขาต้องเดินตากหิมะด้วยเสื้อผ้าบางๆแถมซวยล้มตรงหน้าหอเพราะเรื่องงี่เง่าแบบนี้เนี่ยนะ!!!!!!!
“มาร์คต้วน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
กระโดดทับร่างที่นอนหันหลังให้อย่างแรงจนมาร์คสะดุ้งทำหูฟังตก
มือขาวคว้าเอาหมอนมาฟาดๆคนใต้ร่างด้วยความแค้นเคือง ปากก็โวยวายไม่หยุด
“มาร์คต้วน!! ไอ้พี่ด้วน!!! ทำไมไม่รับสายผมวะ
โทรเป็นร้อยสายทำไมไม่รับ! ผมเกือบเป็นหวังแช่แข็งเพราะพี่เลยนะ
แล้วมานอนเล่นเกมฟังเพลงสบายใจแบบนี้คืออะไรวะ!!!!!!!!! ถ้าพี่รับสายผม
ผมก็ไม่ต้องเดินตากหิมะบ้าบอข้างนอกนั่น ไม่ต้องมาลื่นล้มเจ็บตัวหน้าหอ ไม่ต้อง...เฮ้ย!!!”ร้องลั่นเมื่อร่างที่อยู่ด้านใต้ลุกกะทันหันจนร่างเขาเอนล้มไปทางกำแพงแข็ง
แจ็คสันหลับตาปี๋รอรับความเจ็บ
สะดุ้งเฮือกเพราะวินาทีต่อมาก็มีมือมาประคองด้านหลังศีรษะไม่ให้ไปกระแทกผนังไว้เฉียดฉิว
ท่าทางของพวกเขาตอนนี้อันตรายสุดๆ
แจ็คสันอยู่ในท่ากึ่งนอนเอนตัวหลังพิงกำแพงโดยมีร่างสูงของมาร์คต้วนคร่อมร่าง
มือแกร่งประคองศีรษะกลม ส่วนอีกข้างยึดมือขาวให้คล้องคอตัวเองไว้
มันจะโรแมนติกกว่านี้ถ้ามาร์คไม่ได้ส่งสายตาอำมหิตมาให้เขาแบบนี้อ่ะนะ
“เป็นบ้าอะไรของนาย!”เสียงทุ้มต่ำถามเสียงกระชากเพราะยังเจ็บจี๊ดๆจากการโดนตัวอีกคนโถมมาทับแรงๆเมื่อครู่
ดวงตาเรียวจ้องคนใต้ร่างเขม็ง
มือกำรอบแขนเด็กดื้อไว้แน่นจนแจ๊คสันมุ่ยหน้าเพราะความเจ็บ
“พี่ไม่รับสายผม!”แจ็คสันก็ไม่ยอมแพ้ ก็เขาไม่ผิดอ่ะ!
“นายโทรมาตอนไหน?”มาร์คคิ้วขมวด
หันไปมองมือถือตัวเองก็ถึงบางอ้อเมื่อบนหน้าจอนั้นโชว์ MISS
CALL จาก GAGAWANG ตั้ง 27 สาย
หันมามองเด็กใต้ร่างที่เริ่มแบะปากเหมือนจะร้องไห้
“เฮ้ยๆ
แจ๊คสันอย่าร้องนะ”
รีบห้ามแต่ดูเหมือนจะไม่ทัน
“รถมันเสีย
ผมโทรหาพี่แต่พี่ก็ไม่รับสายผม ผมต้องเดินกลับหอคนเดียว หิมะก็ตก หนาวก็หนาว
เสื้อก็ใส่ไปแค่นี้ หนาวจนจะแข็งตายอยู่แล้ว แถมยังมาสะดุดล้มหน้าหออีก...ฮึก”ตากลมเริ่มรื้นด้วยน้ำตา
ทั้งน้อยใจทั้งเสียใจที่โดนตะวาด หนาวก็หนาว
เจ็บก็เจ็บกลับมาแล้วยังโดนคนที่ได้ชื่อว่าแฟนใจร้ายใส่อีก
เกิดเป็นแจ๊คสันนี่มันซวยแบบนอนลิมิตจริงๆ
มาร์คเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าแจ็คสันเริ่มร้องไห้
ดึงตัวคนตัวเตี้ยมากไว้ในอ้อมกอด
เสียงสะอื้นฮักๆแบบพยายามสะกดกลั้นทำเอาเขารู้สึกผิด
“ขอโทษ”
พอกอดแบบนี้ยิ่งรับรู้ถึงอุณหภูมิของคนตัวเล็กที่เย็นจนน่าตกใจ
ดวงหน้าน่ารักขาวซีดเป็นกระดาษ
ริมฝีปากที่มักจะเป็นสีแดงสดสุขภาพดีตอนนี้ซีดไปเป็นสีเดียวกับสีหน้า
มือเล็กสั่นระริกเพราะความหนาวกำเสื้อเขาไว้แบบไม่เต็มแรงนัก
นี่ตากหิมะจากบริษัทกลับมาหอจริงๆน่ะเหรอ? ให้ตาย
ผมควรเอาใจใส่แจ็คสันมากกว่านี้นะ
“หนาวมากใช่ไหม
พี่ขอโทษ”
“ผมหนาว
ผมแค่อยากให้พี่มาอยู่ข้างๆ...”
ยิ่งอีกคนตัดพ้อมาร์คก็ยิ่งเหมือนโดนมีดเสียบ
มือแกร่งลูบลมนิ่มแผ่วเบา
“เปลี่ยนเสื้อก่อนเถอะ
เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ
แล้วค่อยมาโกรธพี่ต่อก็ได้”กำลังจะถอยตัวออกแต่ก็นิ่งเมื่อเด็กในอ้อมกอดรัดแขนขาวยึดร่างเขาไว้แน่นไม่ยอมให้ไปไหน
ซุกใบหน้าลงบนอกถูไถเล็กๆออดอ้อน
“ไม่เอา”
“แจ็คสัน”เริ่มดุเมื่อคนตัวเล็กดื้อ
แจ็คสันเงยหน้าขึ้นมาใช้ดวงตากลมโตมองอ้อนวอน
“อยากกอดมาร์ค
มาร์คตัวอุ่น”
...เหตุผลช่างน่ารักจนปฏิเสธไม่ลง...แต่จะให้แจ็คสันอยู่สภาพนี้ต่อสงสัยงานพรุ่งนี้คงต้องยกเลิกเพราะเจ้าตัวป่วนป่วยแน่ๆ
มาร์คเลยถอดเสื้อตัวนอกที่เริ่มชื้นเพราะหิมะละลายออกเหลือเพียงเสื้อยืดสีดำตัวใน
ดึงคนที่ยังเกาะเขาเป็นปลิงให้เอนตัวลงมานอนบนฟูก
สะบัดผ้านวมคลุมร่างพวกเขาเอาไว้ก่อนจะกระชับอ้อมกอดรัดคนตัวเตี้ยมาแนบตัวเองมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
“ถ้าอย่างนั้นก็จะกอดจนหายหนาวเลย
ดีไหม?”
แจ็คสันหลับตาพริ้มยิ้มกว้างซบอกอีกคนเป็นคำตอบ
...แค่มีมาร์คอยู่ข้างๆ
แจ็คสันก็ไม่หนาวแล้ว...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น