[SF] TUAN TWINS AND THEIR LOVER “I’m back” [MarkSonYien] *3p*
TITLE:
TUAN TWINS AND THEIR LOVER “I’m back”
COUPLE:
MARK x JACKSON x YI EN [MarkSonYien]
RATE:
PG-12
WORD:
3,676
BY:
Silverfeather29 /@silverfeather29/
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
TUAN TWINS AND THEIR LOVER “I’m back”
วันนี้ก็ปกติเหมือนทุกวัน...
ผมตื่นก่อนเวลานาฬิกาปลุกเพราะเสียงปึงปังตรงหน้าต่างเหมือนมีอะไรมากระทบ
จำต้องเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก
มองนาฬิกาบอกเวลาตีห้าครึ่งอดสบถเพราะความหงุดหงิดไม่ได้
...ใครมากวนเวลานี้วะ!!!...
เดินไปเปิดหน้าต่างห้องนอน
ยื่นหน้ายุ่งๆหัวยุ่งๆ มองหาต้นเหตุความวุ่นวายตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้
...นั่นไงล่ะ
ไม่ไกลเลย ไอ้แฟนตัวดี!!!...
“ลงมาข้างล่างเร็วเตี้ย! ทำหน้ายุ่งอยู่ได้”
“พวกพี่รออยู่นี่นะ
รีบๆลงมาเร็ว”
สองคนนั้นโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าผม
นี่ไม่กลัวชาวบ้านชาวช่องเขาเอาร้องเท้าปาใส่เลยรึไงวะ แล้วนี่อะไร
ผมอุตส่าห์ได้กลับมานอนบ้านตัวเองทั้งที
(หลังจากโดนเอาไปหมกไว้ห้องสองแฝดจนป๊าม๊าผมเกือบจะเรียกร้องค่าสินสอดจากป๊าม๊าต้วนอยู่มะรอมมะร่อ)
นี่ก็ยังตามมากวนตั้งแต่เช้ามืด โว้ยยยยยย!!!
แต่ถ้าไม่ลงไปก็กลัวเพื่อนบ้านมาเฉ่งเอาได้
จำใจคว้าเสื้อแขนยาวคลุมเสื้อกล้ามสีดำกับบอกเซอร์ขอบยางย้วยเดินต๊อกๆลงไปหาอย่างเสียไม่ได้
แล้วอะไร นี่แค่เห็นหน้าเขาก็หัวเราะกันกั๊กๆ
ถ้าไม่ติดรั้วบ้านนี่กระโดดขาถีบคู่ไปแล้ว!
“หัวเราะอะไร! มีอะไรมาปลุกผมตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเนี่ย!
ง่วงงงง”
“พวกพี่จะไปต่างประเทศสามวันไง
นี่ลืมแล้วเหรอ?”
“มาให้หาหน่อยเร็ว
ไปสามวันคิดถึงแย่”มาร์คกวักมือเรียกหยอยๆนอกรั้ว แต่ผมส่ายหน้ารัว
กลัวโดนทำอะไรแปลกๆหน้าบ้านตัวเอง
“งั้นมานี่หน่อยครับ
ไม่ต้องออกมาก็ได้ มานี่เร็ว”อี้เอินหลอกล่อด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
ผมมองแบบไม่ค่อยไว้วางใจนักแต่ก็ยอมเดินไปใกล้ๆ
“เฮ้ย!”ร้องเหวอลั่นเมื่อโดนแฝดกระชากตัวไปประกบหอมแก้มซ้ายขวาดังฟอดใหญ่
จมูกโด่งฝังลงมาบนแก้มจนรู้สึกเจ็บ
มือขาวยกขึ้นจับแก้มตัวเองทำหน้ามุ่ยใส่สองแฝดที่ยิ้มกว้างถูกใจ
“รักษาตัวดีๆนะครับ
ช่วงนี้หนาวแล้ว แต่งตัวแบบนี้นอนไม่ได้แล้วนะ”อี้เอินเตือน แจ็คสันพยักหน้ารับเนือยๆ
“ไปโรงเรียนก็อย่าซนให้มากนัก
ล้มเจ็บตัวแล้วเดี๋ยวร้องห่มร้องไห้สามวันนี้ไม่มีคนทำแผลให้นะ”
“ผมไม่ได้ซุ่มซ่ามขนาดนั้นนะเว้ย!”ตอบโต้พี่มาร์คที่ส่ายหน้าเหมือนไม่เชื่อ
“ข้าวเช้าก็กินด้วยนะครับ
อย่าขี้เกียจ เดี๋ยวปวดท้องเป็นกระเพาะเหมือนตอนนั้นอีก”
“อย่าเล่นเกมจนดึกรู้ไหมเตี้ย
กลางคืนเขาเอาไว้นอนไม่ได้เอาไว้เล่นเกมแล้วไปนอนในห้องเรียน”
สารพัดประโยคสั่งให้ทำจากทั้งสองคนทำเอาแจ็คสันมึน
ปวดหัวหนึบๆเพราะทั้งง่วงทั้งหนาว
ทนฟังแฝดต้วนฝากฝังต่ออีกสี่ประโยคก็เริ่มทนไม่ไหว
“โว้ยยยย!
รู้แล้ว~
ผมจะทำทุกอย่างที่พี่พูดมานั่นแหละ ไปได้แล่ววว”ร้องโวยวายจนแฝดต้วนหัวเราะร่า
หอมแก้มผมซ้ายขวาอีกรอบแล้ววิ่งหนีคนตัวเล็กที่เตรียมจะเปิดประตูรั้วมาถีบแล้ว
...ไปดีๆไม่เอา
ชอบให้เขาอาละวาดตลอด เป็นบ้าอะไรของแฝดวะ!!!....
วันที่
1
วันนี้ก็เหมือนเดิม...
กลับไปนอนอีกรอบ
สบายได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ต้องกระเด้งตัวตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก
อยากเอามือปิดหูนอนหลับต่อไปก็ทำไม่ได้เพราะยังระลึกได้อยู่ว่าวันนี้มีสอบย่อย
เดินลากขาสั้นๆเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันเสร็จ มองฝักบัวด้วยสายตาหวาดกลัว
ตอนนี้มันก็เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว
ไม่อยากจะคิดว่าน้ำที่ไหลออกมาในเช้านี้มันจะเย็นบรรลัยขนาดไหน
แถมเครื่องทำน้ำอุ่นยังมาพังตอนช่วงนี้อีก
...ไม่อาบได้ไหม...ความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นในใจ
พยักหน้าหงึกหงักหาเหตุผลร้อยแปดให้ตัวเอง กำลังจะก้าวออกจากห้องน้ำก็ชะงักกึกเพราะคำพูดของแฝดต้วนเมื่อตอนเช้า...
“อย่าขี้เกียจอาบน้ำล่ะ
ถึงจะหนาวขนาดไหนก็ห้ามเด็ดขาด”
“...”
.
.
.
ซู่!
“หนาววววววววววววววววววววววววว!!!!”
แจ็คสันย่ำตึกตังลงมาจากบนบ้านอย่างรีบเร่ง
ผ่านห้องครัวก็เห็นม๊ากับคุณป้าคนครัวกำลังทำอาหารเช้ากันอยู่ ร่างเล็กที่วิ่งผ่านไปแล้ว
วิ่งกลับมาเลี้ยวเข้าห้องครัว หอมแก้มม๊าตัวเองแล้ววิ่งลิ่วไปเปิดตู้เย็นคว้าเอานมกล่องกับขนมปังสองแผ่นก่อนออกจากบ้านไปด้วยความรีบเร่ง
“ไปโรงเรียนก่อนนะม๊า”
ม๊าหวังมองตามร่างเล็กไปอย่างแปลกใจ
“แปลกจัง ปกติขนาดจะกรอกปากยังไม่กินเลยนะ?”
“คงเป็นเพราะคำสั่งคุณหนูต้วนมั้งคะ”คุณป้าคนคนครัวหัวเราะคิกๆเอ็นดู
“เอ๊ะ?
มาร์คกับอี้เอินน่ะเหรอ?”ม๊าต้วนวางมือจากน้ำซุปในหม้อ
“ก็เมื่อเช้าอิฉันเห็นคุณหนูสองคนมาหาคุณหนูเราตั้งแต่เช้ามืดแหนะค่ะ
ฝากฝังสารพัดจนคุณหนูโวยวายใหญ่เลยค่ะ คิกคิก”
“อ๋อออ~ แหม่ สงสัยต้องไปทวงค่าสินสอดจากบ้านตรงข้ามเราจริงๆแล้วล่ะมั้งเนี่ย
คิกคิก”
แจ็คสันวิ่งขึ้นรถโดยสารทันแบบเฉียดฉิว
เกือบโดนคนขับรถงับหัวเข้าให้
แอบเบ้ปากกับจำนวนประชากรบนรถที่เบียดเสียดจนอดคิดถึงปลากระป๋องที่อยู่ที่บ้านไม่ได้
เลี้ยวทีก็เอนจะล้มที ดีที่เป็นตอนเช้ากลิ่นเหงื่อเลยไม่ค่อยมี
มีแต่กลิ่นน้ำหอมที่ปะปนตลบอบอวลทั่วคันรถจนเวียนหัวเนี่ยแหละ -*-
กว่าจะถึงโรงเรียนก็เกือบสายแล้ว
วิ่งผ่านพวกกรรมการนักเรียนไปอย่างฉิวเฉียด ปกติเขาจะมองหาใครบางคนในกลุ่มพวกนั้น
แต่วันนี้ไม่ต้องชะเง้อหาให้เสียเวลาเพราะรู้แต่เช้าแล้วว่าไม่อยู่
เข้าไปในโรงเรียนแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร...
ปกติแล้ว
ทุกเช้าแฝดต้วนจะพาแจ็คสันมาโรงเรียนตอนเวลาใกล้เข้าเรียนเสมอ
ทำให้แจ็คสันไม่ต้องนั่งหรือทำอะไรรอก่อนขึ้นเรียน แต่วันนี้ไม่ใช่
ร่างเล็กยืนนิ่งมองซ้ายมองขวา จะไปเล่นบาสตั้งแต่เช้าก็กลัวกลัวจะเหนียวตัวไปทั้งวัน
พวกเพื่อนเขาก็ไม่รู้หายหัวไปไหน ทางเลือกสุดท้ายคือเดินขึ้นห้องไปก่อนเวลาเรียน สายตาเพื่อนในห้องที่มองอย่างแปลกใจทำให้เขาเกร็งแปลกๆ
...ไม่ชิน
แต่ก็ไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน…
นั่งลงบนโต๊ะประจำ
มองกระเป๋าตัวเองบนโต๊ะเรียนนิ่งเงียบ เหงาปากแปลกๆ
ไม่รู้ว่าไอ้เพื่อนสองคนนั้นมันหายไปไหน
พยายามคิดหากิจกรรมที่จะทำเช้านี้ก่อนเข้าเรียน
การบ้าน...ก็ทำแล้ว
ให้อี้เอินทำช่วย
โครงงาน...ก็เสร็จแล้ว
มาร์ครวมเล่นให้แล้ว กองอยู่ในกระเป๋ารวมกับสมุดการบ้าน
กินขนม...อิ่มจะบ้า
ระหว่างทางก็กินมาแล้วด้วย
นอน...เพิ่งตื่นไหม
ฟ้ายังสว่าง แดดยามเช้ายังส่องสว่าง จะมานอนตอนนี้เนี่ยนะ
คิดยังไงก็คิดไม่ออก
สุดท้ายก็คว่ำหน้าลงกับกระเป๋าตัวเอง...(?) เงยหน้าขึ้น
มองดูกระเป๋าสีดำลายพาดสีน้ำเงินประจำโรงเรียน ตรงมุมกระเป๋ามีชื่อปักเอาไว้
มาร์ค
ต้วน
ไอ้พี่มาร์คมาเปลี่ยนกระเป๋าเขาตอนไหนฟระ!!!
ขมวดคิ้วมุ่น พองลมเข้าไปในปาก ลิ้นดันกระพุ้งแก้มไปมา
มือขาวค้นเข้าไปในกระเป๋า เผื่อในกระเป๋ามาร์คจะมีอะไรให้เขาเล่นบ้าง
ค้นไปมาก็เจอของดีเข้าซะงั้น...
...อื้มมมม
กลับมาได้โดนบิดหูแน่...
มือขาวพลิกหนังสือปกขาวไปมา
ภายในมีภาพหญิงสาวนมล้นเหลือโพสท่าวาบหวิวเต็มไปหมด
กูไม่สงสัยเลยว่าทำไมมึงหื่นจัง -*- อ่านไปมากๆก็รู้สึกร้อนหน้า
รีบพับมันยัดลงโต๊ะไอ้พีเนียล
...ถือเป็นของขวัญวันจันทร์แล้วกันนะมึง...
เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าเตือนว่ามีข้อความเข้า
เปิดดูอย่างไม่ค่อยจะแปลกใจเท่าไหร่นักเมื่อมาจากสองแฝดนั่น
กินข้าวเช้ารึยังครับ?
// อย่าเอาหนังสือในกระเป๋าพี่ทิ้งนะ
ประโยคสองประโยคในข้อความเดียว
รู้ได้เลยว่าใครเขียนอะไร หัวเราะหึในลำคอ
นิ้วป้อมกดตอบยุกยิกแล้วกดส่งไปด้วยรอยยิ้มกว้าง
กินแล้วววว //
ให้ไอ้พีเนียลไปและ
ไม่ต้องเดาว่าไอ้พี่มาร์คคงร้องอ๊ากไปแล้วแน่ๆ
...สมน้ำหน้า...หึ
เย็นวันนั้นเขารีบตรงกลับบ้าน
ทานมือเย็นกับครอบครัว ดูทีวี เล่นเกม ทำการบ้าน
คุยกับมาร์คและอี้เอินที่โทรมาตอนสองทุ่ม จากนั้นก็เข้านอน ถึงจะหลับยากไปหน่อย
แต่สุดท้ายก็หลับได้ในที่สุด
วันที่
2
วันนี้แปลกไปนิดหน่อย...
คาบเช้าดำเนินไปด้วยความเอื่อยเฉื่อย
สูตรคณิตศาสตร์บนกระดาษทำเอาแจ็คสันปวดหัว ค่อยไปจำแล้วกันนะ
จดตัวยุกยิกพวกนั้นลงบนสมุดไม่ได้ใคร่จะอยากจำสักเท่าไหร่ เลิกเรียนปั๊ป
ไอ้สองหน่อเพื่อนซี้ก็ลากเขาลงไปโรงอาหาร ต่อแถวซื้อราจังยอนเข้าเดิม
กว่าจะได้กินก็เลยเวลาพักเที่ยงไปตั้งครึ่งหนึ่ง ทำเอาผมแทบอยากกินหัวไอ้พีเนียล
เพราะไอ้เนี่ยคนเดียวเลย!
“โอ๋ๆ
น้องหวัง อย่างงอนพีเนียลน้า เค้าอยากกินมากจริงๆ”
“ถ้าต่อแถวข้าวก็ได้กินตั้งนานแล้วมะ?
รีบกินไป กูอยากเล่นบาส”แจ็คสันบ่นทั้งที่เอาข้าวเที่ยงเข้าปาก
กินไปสองคำก็เหม่อไป กระพริบตาเหมือนคืนสติแล้วก็เริ่มกินต่อ
กินไปได้แค่ครึ่งถ้วยก็วางช้อน เอามือท้าวคางเหม่อ ถอนหายใจดังเฮือก...
พีเนียลหันไปสบตากับนิคโคลัส
...อาการหนักว่ะ...
แจ็คสันควักเอาโทรศัพท์เครื่องบางที่วันนี้สงบเงียบในกระเป๋าทั้งวันขึ้นมาเช็คอย่างมีความหวัง
ดวงตากลมหงอยลงนิดหน่อยเมื่อหน้าจอโทรศัพท์ว่างเปล่า ไม่มีข้อความใหม่หรือสายไม่ได้รับใดๆ
...ไม่ได้อยากให้โทรมาสักหน่อย...
พองแก้มอูม
นิ้วป้อมปัดหน้าจอทัชสกรีนไปมาอารมณ์เสีย
“แจ็คสัน
ถึงตามึงแล้ว รีบลงมาเร็ว”เสียงเพื่อนในสนามเรียกเขา
แจ็คสันสะดุ้งรีบเก็บโทรศัพท์และวิ่งลงสนาม
“เออๆ”
แล้ววันนั้นเขาก็เล่นไม่ดีเอาเสียเลย
รับลูกก็พลาด ชูตก็ไม่แม่น อะไรก็เฉื่อยไปหมดจนเขารู้สึกหงุดหงิดตัวเอง
จนต้องขอออกนอกสนามเอง
...เขาจะโทษว่าเป็นความผิดพวกนั้นที่ไม่ยอมโทรมาหาเขาเอง
ถึงอารมณ์เสียแบบนี้ -*- ...
ตารางเรียนคาบสุดท้ายของวันสิ้นสุดลง
แจ็คสันเริ่มทั้งหงุดหงิดขึ้นทุกที
ควักโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็ยังไม่เห็นอะไรปรากฏเช่นเดิม
ฟันขาวขบกัดลงบนริมฝีปากอิ่มแดงสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นมา
เก็บเจ้าเครื่องมือสื่อสารไว้ที่เดิม
...ไม่โทรมาก็ไม่เป็นไร
เขาก็จะไม่ทำตามคำสั่งสองคนนั้นเหมือนกัน!...
เก็บของลงกระเป๋าโยนเข้าๆจนสองเพื่อนซี้มองตามหวาดๆ
พอรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เจ้าเพื่อนตัวเตี้ยของพวกเขาอารมณ์เสีย หงุดหงิดเป็นผู้หญิงมีประจำเดือนแบบนี้
“ไอ้พีเนียล
ไอ้นิค”
“เหอ?”
“ไปร้องเกะกัน”
“หืมมมมม!!”สองหน่อประสานเสียงตกใจกับคำขอนั้น
ไม่ใช่ว่าแจ็คสันไม่เคยไปเที่ยวเตร่กับพวกเขาหลังเลิกเรียน
แต่ว่าตั้งแต่เพื่อนเขาไปคบกับแฝดประธานแจ็คสันก็ไม่เคยได้รับอนุญาตให้อยู่นอกบ้านหลังหนึ่งสองทุ่มอีกเลย
เหตุผลคือไม่โดนแฝดต้วนลักกลับบ้าน ก็เป็นสองแฝดนั้นเองที่พาเพื่อนเขาไปเที่ยว
เที่ยวแบบไม่ธรรมดาอ่ะนะ -*- (จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยโทรไปถามการบ้านที่จะส่งวันพุธ
แต่แจ็คสันตอบว่าตอนนี้อยู่ทะเล ไม่ได้เอาการบ้านมาด้วย สรุปคือแฝดต้วนพาเพื่อนเขาไปเที่ยวทะเลทั้งที่พรุ่งนี้มีเรียนนั่นแหละครับ)
“ตกใจอะไร?
กูบอกว่าวันนี้กูอยากไปเกะ ไม่อยากไปกูไปคนเดียวนะ”
“เห้ยๆ
พวกกูอยากไป กูแค่ตกใจเฉยๆ พวกพี่ต้วนยอมให้มึงไปเหรอ? โทรไปบอกรึยัง?”
“ทำไมกูต้องโทรไปขอวะ?
พ่อกูก็ไม่ใช่ ถ้าเซ้าซี้มากกูจะไปคิดเดียวแล้วนะ”แจ็คสันพูดเสียงสะบัด
คว้ากระเป๋าขึ้นหลัง ทำท่าจะเดินออกไปคนเดียวจริงๆ
ร้อนนิคโคลัสที่ต้องรีบกระโดดเกาะเอวคนที่วันนี้เหวี่ยงผิดปกติ
…พี่มาร์ค
พี่ต้วนรีบกลับมาหาแฟนพี่เถอะครับ ก่อนที่พวกผมจะโดนมันเหวี่ยงตาย ฮรืออออออ...
วันนั้นกว่าจะกลับถึงบ้านก็สามทุ่มเข้าไปแล้ว
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วโยนมันลงกับเตียงไม่สนใจมันอีกต่อไป
...ไม่โทรมาก็จะไม่สนแล้ว!...
แจ๊คสันพลิกกายไปมาบนเตียง
เข็มนาฬิกาเดินเรื่อยๆไป แต่ดวงตากลมก็ยังคงลืมตาในความมืด
พลิกกายเหลือบตามองไปที่โทรศัพท์มือถือท่าทางลังเล
แต่สุดท้ายก็หยิบมันขึ้นมาปลดล็อก แสงสว่างจ้าขึ้นมาในห้องนอนสนเงียบเหงา
มือป้อมกดเข้าไปในแอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊กค์ ตั้งสเตตัสสั้นๆ กดส่ง
แล้ววางมันลงที่เดิม หวังว่าใครบางคนนั้นจะมองเห็นสถานะของเขาตอนนี้เสียที
JACKSONWANG 20 second ago
feel
lonely…
………………………………………..
like Comment
วันที่ 3
วันนี้มันไม่เหมือนเดิม...
แจ๊คสันลุกขึ้นมาบนเตียงด้วยสภาพไม่โอเคนัก
เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอน ถึงจะหลับตาแต่สมองไม่ยอมหลับด้วย
เดินสะโหลสะเหลเข้าไปอาบน้ำแต่งชุดนักเรียนเอื่อยเฉื่อย
เขารู้สึกพะอืดพะอมนิดหน่อย
เลยบอกปัดเรื่องชุดอาหารเช้าสไตล์อเมริกันสุดหรูไปด้วยความเสียดาย
“เฮ้ย
นี่เมื่อคืนมึงได้นอนรึเปล่าเนี่ย ทำไมขอบตาคล้ำแบบนั้นวะ”นั่นเป็นประโยคแรกที่นิโคลัสทักเขา
แต่แจ็คสันไม่ตอบ เขานั่งลงฟุบหน้าลงบนโต๊ะไม่อยากพูดไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น
พีเนียลและนิโคลัสมองหน้ากันอย่างลำบากใจ
ไม่รู้จะทำอย่างไรดี อาการแย่กว่าที่คิดเอาไว้จริงๆ
วันนั้นแจ็คสันเหมือนคนสติไม่เต็มเต็ง
ทำอะไรขาดๆเกินๆไปหมด พออาจารย์ห้องพยาบาลดูอาการถึงได้รู้ว่ามีไข้นิดๆ
ให้มานอนที่ห้องพยาบาลจนกว่าอาการจะดีขึ้น
จินยองเข้ามาเยี่ยมเขาตอนเที่ยงพร้อมข้าวเที่ยงชุดใหญ่ส่งตรงเข้ามาในห้องพยาบาล
เขานั่งมองดูอาหารเหล่านั้นอึ้งๆ เงยหน้ามองดูจินยองที่แย้มยิ้มกว้างส่งมาให้
“ฉันซื้อมาให้น่ะ”
...ไม่ใช่จากสองคนนั้นสินะ...
ยอมรับว่าผิดหวัง
แต่ก็ยิ้มบางๆไปให้เจ้ามือเลี้ยงข้าวเที่ยงวันนี้ ไม่อยากให้จินยองเสียกำลังใจ
ตักทานไปได้เพียงสองสามคำก็วาง ทำหน้าพะอืดพะอมกินต่อไม่ไหว
ร่างบางข้างเตียงรีบเอาอาหารออกไป ลูบเส้นผมนิ่มเบาๆอย่างนึกสงสาร
เด็กสดใสร่าเริงคนนั้นหายไปไหนกันนะ?
เพื่อนเขาก็ช่างใจร้ายไม่ติดต่อมาหาบ้างเลย นี่รู้รึเปล่าว่าคนรักตัวเองเป็นถึงขนาดนี้น่ะ?...
จินยองนั่งเป็นเพื่อนแจ็คสัน
จนพวกพีเนียลเข้ามาดูอาการเพื่อนแทนถึงได้เดินออกไปจากห้อง
ทันทีที่สองหน่อมาถึงก็พยายามสร้างสีสันสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อน
จนอาจารย์ห้องพยาบาลได้เข้ามาปรามให้เงียบเสียงลง สองหน่อนั่นเลยนั่งหงอย
เอาหนังสือการ์ตูนเอาโทรศัพท์มาเล่นฆ่าเวลา
แอบมองคนบนเตียงที่มีสีหน้าเหงาหงอยอย่างนึกสงสาร
แจ็คสันทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพีเนียลก็ยึดเอาไว้ก่อน
“อะไรของมึง?
เอามา”
“ไม่ต้องดู
ถ้ามึงจะเป็นทุกข์เพราะมันก็ไม่ต้องดู”
“...”
ร่างบนเตียงเม้มปากแน่น
ก็จริงอย่างที่พีเนียลมันว่า เขารอจนทุกข์มากเกินไปแล้ว
มาร์คกับอี้เอินไปเมืองนอกแค่สามวัน เขายังเป็นบ้าเป็นบอได้ถึงขนาดนี้
รู้สึกชีวิตเขาจะขาดแฝดไม่ได้จริงๆแล้วล่ะมั้ง?...
“กูก็แค่เหงานิดหน่อยเอง”
“เหงา?
จริงเหรอวะ ไม่หรอก กูว่ามึงคิดถึงเขามากกว่า”
“คิดถึงกับเหงามันแตกต่างกันตรงไหน”
“ถ้ามึงเหงา
แค่มีพวกกู ป๊าม๊าที่บ้าน คนรอบกายมึง มึงก็หายเหงาแล้ว แต่ความคิดถึงก็คือการที่มึงต้องการแต่คนที่มึงคิดถึงมาอยู่ข้างๆเท่านั้น
ใครก็มาแทนไม่ได้ มึงเป็นแบบนั้นไหมล่ะ?”
“...”
“แจ็คสัน
มึงหลับในเหรอ”
“สัด!”ด่าไอ้นิคโคลัสไปหนึ่งคำข้อหาทำเสียบรรยากาศ นีเนียลตบหัวเพื่อนไปที
ในขณะที่แจ็คสันนั่งนึกสรุปในใจ
...เขากำลังคิดถึงพี่แฝดต้วนสินะ...
คืนนั้นแจ็คสันนั่งอยู่บนปลายเตียง
ไฟบนเพดานยังสว่างโร่แม้เวลาล่วงเลยมาถึงสามทุ่ม เขายังเปิดโทรศัพท์ไว้
แต่ไม่ได้ยกมันขึ้นมาดูเหมือนวันก่อน
ร่างเล็กนั่งอยู่บนปลายเตียงเหม่อคิดอะไรได้สักพักก็กระโดดลงมาจากเตียง
หอบเอาหมอนพิซซ่าใบโปรด สวมเสื้อคลุมเดินลงไปด้านล่างที่ยังมีป๊าม๊านั่งดูทีวีอยู่
“จะไปไหนล่ะแจ๊คสัน?”ป๊าหันหน้ามาถามเจ้าลูกชายที่เดินท่าทางเซื่องซึมลงมาจากห้อง
“...ผมจะไปนอนบ้านพี่ต้วน”
ป๊าม๊ามองหน้ากัน
ใจจริงก็ไม่อยากให้ไปรบกวนบ้านนู้นมากนักหรอก แต่อาการลูกชายตัวเองก็แสนจะเข้าใจ ผู้เป็นแม่กวักมือเรียกบุตรชายตัวเองเข้าไปใกล้
ลูบศีรษะกลมด้วยความเอ็นดู
“นี่มาร์คกับอี้เอินเสกมนตร์อะไรใส่ลูกม๊ากันน้า
ลูกม๊าถึงได้รักเขาขนาดนี้น่ะ”
ริมฝีปากแดงเม้มแน่น
ผิวแก้มแดงระเรื่อเขินอาย ตาโตหลุบต่ำ โถมตัวเข้าไปกอดเอวม๊าตัวเองแน่น
“เจียเอ่อรักม๊านะ
รักป๊ามากด้วย”
“เด็กน้อยเอ๊ย
ม๊าไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น ม๊ารู้ว่าเจียเอ่อรักป๊าม๊ามาก
แต่ความรักของเจียเอ่อที่ให้กับพวกพี่เขาน่ะ มันไม่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ?”
“...อืม”ส่งเสียงตอบในลำคอแบบไม่มั่นใจนัก
มือใหญ่อบอุ่นขยี้ศีรษะแจ็คสันไปมา
“ป๊าไม่ว่าหรอก
ความรักของเจียเอ่ย ถ้ามันเป็นสิ่งเจียเอ่อต้องการก็ทำไปเถอะ
แต่แฝดนั่นก็ไม่ได้เรื่องเลย เอาใจลูกป๊าจนเสียคน ดูสิ
กลายเป็นว่าขาดสองคนนั้นไม่ได้ไปแล้ว”
“ป๊าอ่า”กระเง้ากระงอดใส่ป๊าตัวเองที่หัวเราะร่า
กอดลูกชายตัวเองแน่น
.
.
.
.
.
“ฝากไปบอกแฝดต้วนด้วยล่ะ
ป๊ากับม๊าหวงลูกชายคนนี้มาก ถ้าเอาไปแล้วรักษาไม่ดี
เตรียมโดนลูกตะกั่วมาเฟียเก่าได้เลย”
...และเหมือนว่าเรื่องนี้ป๊าจะเอาจริงซะด้วยสิ...
แจ็คสันเดินเข้าไปในห้องนอนของแฝดต้วนช้าๆ
ม๊าต้วนยังไม่หลับ เธอยินดีพาแจ็คสันเข้ามาในบ้าน บ่นสองแฝดใหญ่ว่าไม่ยอมติดต่อมาหาเขา
แถมสัญญาเอาไว้ด้วยว่าถ้าสองคนนั้นกลับมาเมื่อไหร่จะหักค่าขนมข้อหาละเลยว่าที่ลูกสะใภ้
(?) คนโปรดด้วย
ภายในห้องยังเหมือนเดิม
ร่างเล็กกระโดดขึ้นไปบนเตียงนุ่ม กลิ่นของมาร์คและอี้เอินยังงติดอยู่บนที่นอน
เหมือนคนโรคจิตที่เอาหน้าแนบหมอนสูดดมกลิ่นแฟนตัวเอง
วางหมอนพิซซ่าลงระหว่างหมอนสองใบ ก้มตัวลงนอนสะบัดผ้าห้มเข้ามาคลุมตัว
แจ็คสันหนาวทั้งที่ไม่ได้เปิดแอร์
แม้จะเอาผ้าห่มคลุมกายแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความหนาวนั้นทุเลาลง
เพิ่งตระหนักได้ว่าความหนาวที่ว่าไม่ใช่ความหนาวกาย แต่เป็นหนาวใจต่างหาก
ความผิดแฝดต้วนทั้งนั้นที่ทำให้เขาเสพติดสัมผัสอุ่นๆที่มักจะโอบกอดเขาซ้ายขวาไว้เกือบทั้งคืน
จนตอนนี้นอนไม่ได้เลยแบบนี้
นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
รู้ตัวอีกทีดวงตาเขาก็พราวไปด้วยหยาดน้ำตา
หยดแล้วหยดเล่าที่ไหลเปื้อนผ้าปูสีขาวให้กระจายเป็นด่างดวง แจ็คสันไม่ได้ปาดมันออก
ปล่อยให้มันไหลออกมาช้าๆ หน่วยตากลมปิดแน่นพยายามให้ตัวเองหลับๆไปเสียที
ตอนไหนจะกลับมา...
คิดถึงจะตายแล้ว...รู้รึเปล่า?
อ้อมกอดอุ่นจากทั้งสองด้านโอบกอดเขาแน่นราวกับปีกใหญ่ที่โอบอุ้มเขาไว้อย่างทะนุถนอม
แรงกดจูบลงบนขมับทั้งสองข้างเรียกรอยยิ้มของคนที่ยังตกอยู่ในห้วงของความฝัน
กลิ่นกายที่แสนคุ้นเคยกลับมาหาเขาอีกครั้งแล้ว
มาร์คกับอี้เอินกลับมาแล้ว
เมื่อพระอาทิตย์ของเช้าวันใหม่มาเยือน
เขาจะตื่นขึ้นมารับจูบอรุณสวัสดิ์ยาวนานสองจูบ และคำทักทายพร้อมรอยยิ้มกว้างของคนสองคน
“กลับมาแล้วครับ
ที่รัก”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น